SIDE STORY :: ชู้ #2
เคส talk
“พี่แวนครับ~ พรุ่งนี้จะให้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดพี่ครอสดีครับ?”ผมซึ่งย้ายก้นตัวเองมานอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงห้องคนอื่นเอ่ยถามเจ้าของห้องเสียงเจื้อยแจ้ว
ร่างสูงวางมือจากชีทเรียน เสตามองหน้าผมครู่หนึ่งก่อนหันไปสนใจตำราของตนต่อ
“ทำไมกูต้องให้มันด้วย”เย็นชาจริ๊งงง ทั้งน้ำเสียงทั้งการกระทำเลยนะพ่อคุณ
“เค๊ารู้อยู่แล้วหรอกว่าหน้าอย่างตัวเองน่ะไม่มีทางซื้อของให้เพื่อนวันเกิดหรอก ที่เค๊าถามก็เพราะชวนคุยหรอก ดูซิ๊ดู๊ กว่าจะสับรางเขียยัยซันนี่ออกจากชวิตได้แต่ละทีแต่ละที พอผมมาหาก็ทำเมินไม่สนใจ จิ๊”
“ก็พรุ่งนี้มีสอบย่อยนี่หว่า ที่สำคัญมึงพึ่งมาค้างห้องกูไปเมื่อสองวันก่อนเองไม่ใช่เหรอวะ”เสียงทุ้มตอบโดยไม่มองหน้าผมสักแอะ
ผมเลิกสนใจร่างสูงซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะเรียนซึ่งหันหลังให้ผมแบบไม่แยแส
“เช้อออออ”
ไม่สนใจละก็ด๊ะ คุยกะหนุ่มมันต่อหน้านี่แหละ -3-
“ทำไม? เพิ่งกลางวันแสกๆเองนะ อยากแล้วหรือไง?”
กึก!
ผมกระตุกกึกเมื่อได้ยินคำดูถูกจากผู้ชายคนนี้”นิสัยไม่ดี! หน้าตาก็ดีหรอกแต่กลับพูดจาต่ำๆ!”ชักโมโหแล้วเหมือนกันนะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาแวนโคตรไร้เยื่อใยกับผมเลย! ก็เข้าใจหรอกนะว่าเสนอตัวไปเป็นชู้กับเขาแต่ผมเสียใจเป็นนะ! ผมชอบแวน! แต่เขาปฏิบัติกับผมแบบที่ระบายอารมณ์!
“พูดจาไม่ดูตัวเอง!”ผมกระชากชีทของมือหนา แวนตวัดสายตามองผมอย่างไม่พอใจแต่ผมไม่สน
“ยังไง?”
“ยังมีหน้ามาถามกลับอีก!? ไม่รู้ตัวรึไง? พอเบื่อเมียเมื่อไหร่ก็โทรเรียกผม ไอ้เงี่ยนเอ๊ย!”
“มายืนลอยหน้าลอยตาเถียงแบบนี้คาดหวังอะไรไว้รึป่าว? อยากให้จูบปิดปากเหรอ หืม”
“เหี้ย!”
พรึ่บ
ผมด่าก่อนปาชีทใส่หน้าตายด้านของอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้! โว้ยยยยย หงุดหงิดๆๆๆ ไม่น่าพลาดรักคนแบบนี้เลยจริงๆ เห็นว่าเป็นเพื่อนพี่ครอสก็นึกว่านิสัยเหมือนกัน ที่ไหนได้ต่างกันราวฟ้ากับเหว! ผมดึงผ้าห่มคลุมโปง โชคดีที่เปิดแอร์ไว้เลยไม่ต้องงอนแบบร้อนๆ
“อย่างอนสิ...มาง้อแล้วนะ”รู้สึกได้ว่าผ้าห่มถูกเลิกขึ้น มันไม่ได้ถูกกระชากออกไปแต่เป็นร่างสูงเองที่สอดตัวแทรกเข้ามาด้านใน แวนกอดผมจากข้างหลัง ฝังใบหน้าคมซุกไซร้แถวต้นคอชวนสยิว
“ฮื๊ออออ ไปไกลๆเลย”พอผมเล่นตัวทีไรเขาก็มักทำแบบนี้เสมอ เพราะทำแล้วมันได้ผลไง แค่เล้าโลมนิดหน่อยผมก็ยอมแล้ว ง่ายชิบหาย
แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกครั้งผมยันอกแวนให้ถอยห่างสะบัดผ้านวมทิ้งและถลึงตามองใบหน้าหล่อๆของอีกฝ่าย
“ไม่อ่านหนังสือต่อเถอะไม่มีอารมณ์”ผมใช้น้ำเสียงหมางเมินไล่อีกฝ่ายออกไปทว่าแวนกลับนอนมองหน้าผมอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าว่าจะขยับ
“บอกให้ไปไงเล่า”วันนี้ผมเซ็งๆ ตาขวากระตุกยิกเหมือนกำลังจะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้น
“อะไรวะ ทำไมวันนี้มาแปลก”แวนยันตัวนั่งซ้อนหลังผม ใช้แขนแกร่งโอบรอบเอวบังคับให้ผมเอนตัวซบอก”เคสเบื่อพี่แล้วเหรอครับ”
แวนมักกระแนะกระแหนทุกครั้งที่ผมแทนตัวเขาว่าพี่แต่คราวนี้กลับแทนตัวเองซะเองแถมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขนาดนี้อีก
“วันนี้รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลยเซ็งๆน่ะ”
“สังหรณ์?”
“อืม...รู้สึกเหมือนช่วงเวลาแบบนี้กำลังจะหายไป”
“หมายถึงช่วงเวลาเล่นชู้น่ะเหรอ หึหึ”ร่างสูงหัวเราะชอบใจในลำคอราวกับว่าหากผมหายไปจากชีวิตจริงเขาก็ไม่สะทกสะท้านอย่างงั้นแหละ
เสียจรัย
เหมือนแวนจะสัมผัสความหม่นหมองของผมได้เขาเลยกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ผมพลิกตัวหันไปซบเขาก่อนเอาหน้าซุกๆไปมาอย่างอ้อนๆ
“งือออ ไม่อยากเลิกเลย”
“ไม่อยากเลิกก็ไม่ต้องเลิกสิใครเขาบอกว่าจะเลิกกับเรารึไง?”
ไม่มีใครบอกเลิกใครทั้งนั้นแหละ ผมจะตามติดเป็นชู้เป็นปลิงชีวิตพี่อยู่อย่างงั้นแหละแม้ว่าเมียพี่จะจับได้ก็ตาม
“สัญญานะ?”ผมถามเสียงอ้อน เรื่องอ่อยนี่ขอให้บอก
“อืม”
สัญญาของพวกเราไม่มีการเกี่ยวก้อยหรือชูมือสาบานอะไรหรอก ก็แค่จูบอย่างล฿กซึ้งหนึ่งครั้งแต่เนิ่นนานเท่านั้นเอง
แกร๊ก
เพราะได้ยินเสียงไขกุญแจพวกเราจึงผละจากกัน สายตามองไปยังประตูห้องตามสัญชาติญาณก่อนจะพบความความตกใจสุดขีดซึ่งยืนจ้องพวกเราด้วยความตกใจสุดขีดอยู่เช่นกัน
ซันนี่!!
ร่างบางเจ้าของใบหน้าสวยเฉี่ยวเบิกตาซึ่งแต่งแต้มด้วยมาสคาร่าและอายไลน์เนอร์หนาปึกด้วยความช็อค ผมได้แต่อ้าปากค้างเมื่อสิ่งที่กลัวที่สุดเกิดขึ้นตรงหน้า
โดนเมียหลวงจับได้! อาจฟังดูตลกแต่มันเป็นเหตุการณ์ที่เหี้ยที่สุดในฐานะชู้รัก
“แวนกับ...ใครน่ะ”เสียงหวานเอ่ยถาม ท่าทางเธอจะยังไม่หายตกใจ ผมสะดุ้งอย่างแรงก่อนลนลานผละตัวออกจากร่างสูงลงไปยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างเตียง
“คือ...คือ...”ผมพยามหาข้อแก้ตัวแม้จะเห็นกันอยู่ทนโท่ว่าผมกำลังนั่งกกอยู่กับแฟนของเธอบนเตียงของเขาก็ตามแต่ผมก็ยังพยามควานหาข้ออ้างดีๆที่จะทำให้เธอเชื่อ
ผมไม่อยากให้เธอจับได้แม้ว่าจะโดนจับได้แล้วก็ตาม
ผมไม่อยากโดนชิงแวนกลับไป
ผมมันโง่เง่า สิ่งที่หลุดออกมาแทนที่จะเป็นคำอ้างใดๆกลับเป็นน้ำตามากมาย
ระหว่างเราสามคนไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ไม่รู้ว่าผมยืนร้อนไห้คนเดียวอยู่นานแค่ไหนผมรู้แค่ว่าผมโคตรกลัวเลยแต่ถ้าช่วงเวลาโคตรกดดันนี้จะยืดเวลาสุดท้ายที่ได้อยู่กับแวนออกไปผมก็ยอม
“เด็กคนนี้เป็นใคร! ตอบมาตามความจริงนะ แวนก็รู้ว่าแวนโกหกซันไม่ได้หรอก!”
คนถูกถามถอนหายใจพรืดใจ ท่าทีไม่อนาทรณ์ร้อนใจราวกับว่าหลังผ่านพ้นเรื่องนี้ไปไม่ว่าซันนี่หรือผม หรือทั้งสองคนจะหายไปจากชีวิตของเขาเขาก็ไม่แคร์ ตัวของผมสั่นเทายามร่างสูงเดินตรงไปหาซันนี่
และหัวใจของผมแทบแตกสลายเมื่อได้ยินประโยคที่เขาเอื้อนเอ่ย
“ชู้กูเอง”เพี๊ยะ!
ขอบคุณซันนี่ที่ช่วยตบหน้าแวนแทนผม แต่ทางที่ดีช่วยมาตบหน้าผมด้วยก็ได้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าซันนี่มาคบกับแวนเพื่อเข้าใกล้พี่ชายผมก็เถอะ แต่พอเห็นผู้หญิงคนนึงมองมาด้วยสายตาเจ็บแค้นแล้วความรู้สึกกลัวและความรู้สึกผิดก็ตีกันมั่วไปหมด
“เลว”เธอกล่าวเสียงสั่น
“ขอโทษนะ ก็ว่าจะบอกตั้งนานแล้วแต่คิดว่าบอกไปเธอคงไม่ฟัง...”
“จะบ้าเหรอแวน! สมองยังปกติดีอยู่รึป่าว!? แวนจะบอกซันว่าอะไร! ว่าตัวเองแอบเล่นชู้กับผู้ชายที่ไหนไม่รู้งั้นเหรอ!!!?”เธอ
ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธแค้น
“เปล่า...”
“ทำได้เจ็บแสบมากนะแวน!! ปีกว่าที่คบกันมาแวนตอบแทนซันแบบนี้งั้นเหรอ แวนไม่เห็นค่าของสิ่งที่ซันทำไปเลยร...”
“...กูจะบอกเลิก”“!!!”
“วะ...ว่าไงนะ”
“เราเลิกกันเถอะซัน”
“คิดจะเลิกก็พูดกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ ที่ผ่านมาแวนเคยเห็นหัวซันบ้างไหม ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้ ซันเสียใจนะ”
“แวนก็เห็นหัวซันตลอดนั่นแหละ เรื่องไอ้ครอสหรือเหตุผลที่เราคบกันก็รู้ดี เพราะฉะนั้นพอเถอะ
ถ้าจะตอแหลว่าเสียใจก็ช่วยบีบน้ำตาสักหยดก็ยังดี”
เหี้ยยยยยยยยยยยยย เหี้ยกว่าผมก็แวนนี่แหละ แม่งกล้าสวนประโยคนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยตอนที่ผู้หญิงโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้นได้ยังไง!? ซันนี่ถึงกับอ้าปากพะงาบๆพูดอะไรไม่ออกเลย
“แวนรู้...เหรอ”เธอไม่ได้กล่าวต่อว่ารู้อะไรแต่ก็พอเดาได้ว่าพูดถึงเรื่องพี่ชายผม
“อืมกูรู้ ครอสก็รู้ ไอ้เคสมันยังรู้เลย”พูดเสร็จก็บุ้ยหน้ามาทางผมเล่นเอาสะดุ้งโหยง”เขารู้กันหมดแหละซัน เพลินยังรู้เลย”
“เลว”
ผมว่านาทีนี้ซันนี่พูดได้แค่คำเดียวแล้วล่ะ
“อืม กูเลว ส่วนคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกูแต่คอยเสนอตัวไปหาเพื่อนกูที่คอนโดบ่อยๆพอโดนมันปฏิเสธก็แจ้นไปตกผู้ชายในผับก็เลวไม่ต่างกันหรอกซัน”
“แวนรู้...”
“อืม...เคยเห็นซันในผับกับผู้ชายคนอื่นครั้งนึงแต่ไม่ได้ทักเพราะตอนนั้นกูก็อยู่กับผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน”
อีปิคมาก โหดสัสรัสเซีย ผัวเมียคู่นี้!!
ปัง!
ซันนี่สะบัดผมปิดประตูใส่หน้าโดยไม่เถียงอะไรออกมาอีกเพราะรู้ตัวว่ายิ่งเถียงออกไปเท่าไหร่ก็โดนขุดเรื่องตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ผมซึ่งควรจะโดนหล่อนตบหน้าสักป้าปสองป้าปเลยรอดตัวราวกับปาฏิหาริย์
“แม่งเอ๊ย กูเพิ่งสัญญาไปเมื่อกี้เองนะ”แวนซึ่งเป็นผู้ดีเพียงบุคลิคยกมือขึ้นขยี้หัวหน้าเซ็ง
ดูเหมือนประเด็นจะวกกลับมาหาผมอีกครั้งเมื่อร่างสูงหันมาสบตากับผมซึ่งยืนใบ้แดกอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าผมหยุดร้องไห้ตั้งแต่ตอนไหนแต่ไอ้คนตรงหน้าก็อุตส่าห์เดินมาเช็ดคราบตามแก้มให้
“โทษว่ะ กูคงทำตามที่มึงขอไม่ได้แล้ว”
“อ่า ไม่เป็นไรๆ ก็ไม่มีแฟนแล้วจะมีกิ๊กได้ยังไงล่ะเน๊อะ”
“อย่าร้องดิวะ เพิ่งหยุดเองนะ”
ก็คนมันเสียใจนี่หว่า! ผมก้มหน้างุดปล่อยให้มือหนาลูบศีรษะไปมา
“เราเลิกเป็นชู้กันเถอะ”
อา ในที่สุดก็พูดคำนี้ออกมาจนได้ ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างปลงใจ คิดซะว่าเดือนกว่าที่ผ่านมาคือช่วงเวลาดีที่พระเจ้ามอบให้ แม้มันจะสั้นจนน่าใจหาย...แต่ก็ดีกว่าไม่เคยได้สัมผัส ผมก้มหน้านิ่งๆอยู่พักใหญ่ รวมรวบกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
“อื้ม ได้สิ! เสียดายนิดๆนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรระดับเคสกระดิกนิ้วเดียวผู้ชายคนใหม่ก็มาแล้ว”
“เพ้อเจ้ออะไรของมึง?”
“หะ หา!? ก็เราเลิกกันไม่ใช่เหรอ กูก็ไปจีบคนใหม่ดิ! คิดว่าหน้าอย่างกูไม่มีใครเค้าเอารึไง รู้ไหมว่ามีคนรอต่างคิวจากมึงกี่คน อื๊ออออ”ไม่ต้องก่วง แวนไม่ได้จูบปิดปากมหรอกแค่เอามือมาอุดปากเท่านั้น ผมถลึงตาใส่ร่างสูงอย่างเอาเรื่อง แต่ที่จริงคือน้ำตาจะไหลอยู่แล้วขืนอยู่ต่อนานกว่านี้อีกนิด
“ก็ถึงได้ถามไงว่าเพ้อเจ้ออะไร ชอบกูไม่ใช่เหรอ กูโสดแล้วเนี่ย ทำไมไม่มาจีบกูวะ”
“หือ!?”
“ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้นะ”
“จีบ...”ผมชี้ตัวเองสลับกับแวนไปมาด้วยสีหน้างงเป็นไก่ตาแตก แวนพยักหน้าแทนคำยืนยัน
“ใช่! จีบกูสิ ถ้าจีบติดสัญญาว่าจะไม่มีชู้”เย้ยยยยย!
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ตอนนี้จัดเต็ม อัดแน่นด้วยคนเลวx3 5555555+
อยากจับมาตีสั่งสอนทีละคนจังค่ะ
สิ่งที่ทุกคนในตอนนี้ทำไม่ถูกต้องเลย แต่ใครจะผิดมากผิดน้อยอันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของคนอ่านล่ะ!!