ปีใหม่
“ขับรถกลับกันดีๆ นะ ตะวันไม่ได้เมาใช่ไหม?”
“ไม่ครับผมไม่เมา”
“จ๊ะ”
“พ่อเสร็จละ พร้อมออกเดินทาง”
“งั้นผมลานะครับ แม่ครับ สุขสันต์ปีใหม่ครับ”
“จ๊ะ สวัสดีปีใหม่มีความสุขมากๆ นะจ๊ะวิท”
“ครับ”
วิทยาเดินเข้าไปกอดแม่ของเขาก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน วันนี้ที่ทั้งสองครอบครัวมารวมกันก็เพราะมันคือวันปีใหม่ คิดย้อนไปสมัยก่อนในเทศกาลปีใหม่เขาแทบไม่ได้อยู่ที่บ้านเพื่อฉลองปีใหม่เลย ในทุกปีเขาต้องออกไปเค้าดาวน์กับเพื่อนๆ ช่วงที่ตื่นเต้นที่สุดของทั้งวันคือช่วงนับเข้าวันใหม่
แต่พอโตขึ้นเพื่อนทุกคนก็ต่างมีครอบครัวรวมถึงตัวของเขาเองจากเค้าท์ดาวน์ฉลองกันเป็นสิบก็เหลือแค่ หก ห้า ลดลงมาเรื่อยๆจนตอนนี้ทุกคนต่างไม่มีใครมาเจอกันในคืนปีใหม่อีกแล้ว
“งั้นผมลาเช่นกันนะครับแม่”
“ตะวันก็มีความสุขมากๆ นะจ๊ะ”
“ครับ”
“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ให้พวกผมช่วยเก็บของก่อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันเคลียร์เอง”
ย้อนกลับไปช่วงเช้า วันนี้วิทยากลับป้ายหน้าร้านจาก Open เป็น Closed ตั้งแต่ช่วงบ่ายเพราะเขาต้องการให้พนักงานที่ร้านได้มีเวลาเตรียมตัวฉลองปีใหม่เหมือนกัน แต่ก่อนที่เขาจะกลับบ้านวิทยาก็เดินล็อคหน้าร้านให้เรียบร้อยแล้วกลับเข้าไปในครัวไปเตรียมอาหารที่ฉลองปีใหม่ในค่ำคืนนี้ แขกคนพิเศษของคืนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน มีแม่ พ่อของต้นตะวัน และ ต้นตะวัน
กริ้ง เสียงกระดิ่งร้านดังขึ้นทำให้วิทยาต้องออกจากครัวมาดูที่หน้าร้านแล้วก็เห็นว่าต้นตะวันกำลังก้มลงไขกุญแจร้านเข้ามา
“เตรียมตัวเสร็จยังครับ?”
“รอขนมทาร์สไข่อีกอย่างก็ไปได้แล้ว”
ไม่ถึง 20 นาทีขนมทาร์สไข่ก็เสร็จต้นตะวันช่วยวิทยาค้นพวกขนมขึ้นรถแล้วก็ขับไปรับพ่อของเขาที่บ้านเพื่อที่จะมุ่งตรงไปที่สถานที่จัดงานและที่นั้นก็คือบ้านของวิทยา
“ตะวัน ซื้ออะไรมาเยอะแยะ?”
หลังจากที่ไปส่งพ่อของต้นตะวันที่บ้านทั้งสองคนก็ตรงกลับมาที่คอนโด ตอนที่วิทยากำลังช่วยค้นพวกกับข้าวที่แม่ของเขาแยกใส่ให้เอากลับมาบ้านและของต่างๆ ขึ้นห้องนั้นเองวิทยาก็เห็นเข้ากับถุงใหญ่ที่อยู่หลังรถ
“มันเป็นเซอร์ไพล์ครับ”
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จวิทยาก็เห็นต้นตะวันที่อาบน้ำเสร็จแล้วนอนเล่นอยู่บนเตียงตบเตียงที่ว่างอยู่ข้างๆ เรียกให้เขาเปิดทีวีเตรียมเค้าท์ดาวน์พร้อมทั้งพวกพร้อบที่เป็นสายไฟ? กับหลอดไฟ? วางไว้เต็มรอบห้อง เตียง
“มาๆ มาเตรียมเค้าท์ดาวน์กันดีกว่า”
“มันคืออะไรเหรอ ตะวัน?”
ตลอดเวลาที่วิทยาเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากเขาก็เอาแต่มองพวกหลอดไฟที่ถูกวางเอาไว้ตามที่ต่างๆ เพราะเขากลัวว่าเขาจะเหยียบมันเข้า
“เป็นส่วนนึงของการเอาเค้าท์ดาวน์ครับ”
วิทยาหรี่ตามองต้นตะวันเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม มันแปลกที่ว่าปีนี้ก็ไม่ใช่ปีแรกที่ได้มีโอกาสฉลองปีใหม่ด้วยกันสักหน่อยแต่ทำไมปีนี้ดูต้นตะวันตื่นเต้นกว่าทุกปีถึงขนาดยอมไปซื้อของพวกนี้มาประดับห้อง แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้นแค่เดินไปนั่งลงข้างๆ เตรียมตัวเค้าท์ดาวน์ไปพร้อมกับต้นตะวัน ต้นตะวันดึงวิทยาเข้าไปกอดจับท่าให้วิทยานั่งดูทีวีอยู่อ้อมกอดของเขา
“5 4 3 2 1 Happy New Year 2017”
“ฟอด อยู่ด้วยกันอีกปีแล้วขอบคุณมากนะครับที่วิทยังอยู่ตรงนี้ ผมมีความสุขในทุกปีที่เราได้เค้าท์ดาวน์พร้อมกัน”
“ขอบคุณตะวันด้วยที่พยายามปรับเปลี่ยนตัวเอง รักนะครับ เออ เรามีของขวัญให้ตะวันด้วยแป้ปนึงนะ”
วิทยาเดินออกไปนอกห้องเพื่อหยิบกล่องของขวัญที่เขาเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อต้นอาทิตย์เอาเข้ามาให้กับต้นตะวัน แต่ทันทีที่เขาก้าวขากลับเข้าไปในห้องนอนวิทยาเกือบจะทำกล่องของขวัญที่อยู่ในมือหล่นลง
“เซอร์ไพรส์ครับ”
ต้นตะวันยืนอยู่ตรงกลางห้องท่ามกลางแสงไฟสีนวลจากหลอดไฟเล็กๆ ที่วางอยู่ตามพื้นและตามเตียงนอน พอวิทยามองไปที่ประตูระเบียงก็เจอกับสติ๊กเกอร์ดาวสะท้อนแสงติดเต็มอยู่ที่ผ้าม่านพร้อมทั้งหลอดไฟเล็กๆ ที่เรียงรวมกันเป็นคำว่า HNY
“ตะวัน”
“ชอบไหมครับ?”
“ชอบๆ ชอบมากเลย”
เมื่อประมาณสองเดือนก่อนวิทยาเอ่ยปากบ่นกับต้นตะวันบ่อยๆ ว่าเดี๋ยวนี้กรุงเทพฯ ไม่ค่อยเห็นดาวเลยและก็ไม่มีโอกาสได้ออกต่างจังหวัดเพื่อไปดูดาวอย่างที่วิทยาชอบสักที เพราะฉะนั้นวันนี้ต้นตะวันเลยขอเนรมิตดาวปลอม (?) มาเอาใจวิทยาของเขาสักหน่อย และทันทีที่เขาสามารถเห็นสีหน้าในความแปลกใจและชอบใจจากวิทยาต้นตะวันก็รู้สึกว่ามันคุ้มเหลือเกินที่เขาลงทุน ลงแรงรีบวิ่งจัดตอนที่วิทยาเดินเข้าไปอาบน้ำ และขอบคุณหลอดไฟที่พื้นที่ทำให้วิทยาไม่ได้มองไปที่ผ้าม่านเลย
“มานั่งนี่ครับมา”
ต้นตะวันนั่งลงที่ข้างเตียงวิทยาเลยเดินลงไปนั่งตรงหน้าของต้นตะวันแล้วก็เอาตัวพิงไปกับหน้าอกของต้นตะวัน ทันทีที่แผ่นหลังของวิทยาแตะลงบนแผงอกของต้นตะวัน ต้นตะวันก็เอื้อมมือมากอดรอบเอวของวิทยาเอาไว้
“ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
วิทยานั่งดูแสงไฟสีนวลอยู่สักพักแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้ให้ของขวัญที่เขาเตรียมมากับต้นตะวันเลย
“อะ นี่ของขวัญปีใหม่จากเรา”
“แกะเลยได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”
ต้นตะวันปล่อยมืออกจากเอวของวิทยาแล้วก็ลงมือแกะของขวัญที่ตัวเองเพิ่งจะได้รับมา แล้วเขาก็ต้องยิ้มออกมาเสียกว้างเพราะมันคือนาฬิกาที่เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถหาอะไรมาแทนได้ถ้าเขาทำเรือนนี้พังหรือหายไป
“ขอบคุณมากครับ”
นาฬิกาที่เขาได้รับคือนาฬิกาตั้งโต๊ะที่หน้าปัดทำด้วยไม้ หน้าปัดนั้นมันถูกสลักชื่อของเขาพร้อมกับเลขปีนี้เอาไว้
“ตั้งแต่เรือนเก่าเสียไม่เห็นซื้อใหม่สักที เราเลยซื้อให้”
ต้นตะวันไม่เคยบอกกับวิทยาเลยว่านาฬิกาที่ตั้งโต๊ะที่ทำงานของเขาเสีย วิทยาคงสังเกตเอาตอนที่ไปหาเขาที่ทำงานและนั้นมันคือความดีใจมากกว่าของขวัญที่ได้รับ เพราะปีนี้เขาคิดว่าของขวัญที่เขาได้รับมันคือ ความใส่ใจและนั้นคือสิ่งที่ทำให้ยิ้มได้กว้างขนาดนี้
“อยู่กับผมไปอีกหลายๆ ปีเลยนะครับ”
“แน่นอน ตะวันสุขสันต์ปีใหม่อีกทีนะ”
เอาตอนปีใหม่มาฝากกันก่อนจะสิ้นปีนี้ค่ะ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมากๆ นะคะ สุขสันต์ปีใหม่ ปี 2017 ค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากเลยนะคะ กำลังใจชั้นเยี่ยมเลยค่ะที่เห็น เย้