ตอนที่ 65
“อ่ะ แลกกัน”ผมยื่นซองให้มัน ๆ ก็ยื่นมาให้ผม ก่อนเราจะเหล่มองและเปิดดู จนเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย
“ของกูกรุ๊ปเดิม”พูดเกือบจะพร้อมกัน ก่อนจะหัวเราะจิตๆ ทำปากหงุบหงิบ
“กวนตีน/กวนตีน” ก่อนมันจะเอาซองฟาดหัวผม พวกผมไปตรวจเลือดกันมา ตั้งแต่คบกันจนตอนนี้เราทำตลอด ก็อย่างที่บอกเลือดกรุ๊ปเดิม ไม่มีปะปนเปลี่ยนแปลงถึงเราจะถ่ายทอดพันธุกรรมบ่อยๆ ก็ตาม คริคริ ไม่ใช่ว่าเราไม่ไว้ใจกันอย่าเอาข้อนี้มาเป็นข้ออ้าง ถ้ามันผิดพลาดเราจะได้ตั้งรับว่าจะทำยังไง ถามว่ากลัวไหมมันก็มีบ้าง แต่เราก็มั่นใจมาตลอดเพราะนอกจากเราดูแลตัวเอง เรื่องนอกกายนอกใจกันก็ไม่มี ถ้ามีก็ตายก่อนเป็นโรคตาย หึหึ
“ถ้าเกิดเป็นล่ะ”ผมถามมันหลังจากเก็บเรียบร้อยแล้ว
“ก็ไม่หายไง”มันตอบหน้าตาเฉย
“ถุย พูดมาได้ นึกว่าจะพูด ถึงเป็นเราก็จะอยู่ดูแลด้วยกันจนวันตาย โธ่เอ้ย”ผมทำท่าก่อนจะทำหน้าพูดซึ้ง และสบถตบท้ายกับความหน้ามึนของผัว
“หึหึ ต่อไปกูจะจำกัดละคร หนัง ที่มึงดู และหนังสือนิยายที่มึงอ่าน จะได้ไม่เพ้อเจ้อ”มันหัวเราะสองหึ ก่อนจะปฏิวัติผมๆ เลยทำปากใส่มันไป เซ็ง ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น โปรโมรชั่นแม่งหายหมด เดี๋ยวต้องหาเรื่องมาแทรกใหม่มันจะได้จัด โปรอีกและพี่กระบือของผมก็ไม่ค่อยเข้าสำนักงานเท่าไร มันรับงานมาทำที่บ้านจำเป็นจริงๆถึงจะไป คุณพิมกับคุณวัฒน์ก็รักกันดี พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้รังเกียจอะไรอาจจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ ส่วนพี่แน็คกับพี่อาร์ทบางครั้งก็มาหาบ้าง ทำให้สนิทกันมากขึ้น ผมก็ไปอู่เหมือนเคย แต่พักหลังไอ้ไผ่บอกให้เพลาบ้าง เดี๋ยวรถเขาจะพังหมด ดูมัน เป็นห่วงกูก็ทำแถ แต่เวลาซั่มไม่มีห่วงไม่มีแหลเลย ตลอดดดด
“เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมา”มันบอกผมหลังไปตากผ้า และสูบบุหรี่ที่ระเบียง ส่วนผมก็เอาหนังสือเรียนมาอ่านทบทวนไม่ได้ขยันแต่โดนบังคับโดย ผบ.ผปจต. (ผู้บัญชาการผัวประจำตัว) อดนอนกลางวันอีก ง่วงฉิบ
“เออดีๆๆ ซื้อของกินมาด้วยนะ กูหิว”ผมตาลุกด้วยความดีใจ ที่จะได้หลุดพ้นภาวะนี้สักที
“ของกินเต็มตู้ ไม่แดกเข้าไป”มันบ่นผมก่อนจะเดินมาเหยียบก้นคลึงไปมา
“โอ้ย ของกูหักหมด แม่ง”ผมร้องก่อนจะคลำเจ้าหนอนน้อย
“กูว่าเละมากกว่า”มันแสยะยิ้มพูดดูได้ถูกแล้ว ผมเลยยกนิ้วกลางให้มันสองนิ้วเป็นการเพิ่มขนาด ”โง่สิ้นดี สูตรง่ายๆก็ทำผิด มึงทำใหม่เดี๋ยวนี้ และถ้ายังผิดอีกกูจะให้มึงคัดลอกสิบจบ เร็วๆ”เหยียบย่ำไม่พอ ย้ำสติปัญญากูอีก แต่มันโคตรเก่งคำนวณเลย มันไม่ค่อยใช้เครื่องคิดเลขด้วยนะ มือและสมองล้วนๆ มิน่ามึงได้กำไร ส่วนกูขาดทุนตลอด
“โหย น้องเมื่อยแล้วอ่ะ ปวดหัว ตาลาย คล้ายจะเป็นลม”ผมเริ่มหาทางเอาตัวรอดโดยการลุกไปกอดขามันคลอเคลียไปมา อยากจะถอนขนหน้าแข้งมันจริงๆ แต่คาดว่าอาจจะโดนถีบกระเด็นออกมาได้ เงยหน้าสบตาขึ้นมอง มันเอามือเฉดหัวผมเหมือนโดนผัวถีบส่งยังไงไม่รู้
“ฤาษีทรงม้าอยู่ในตู้ หรือจะเอายาดมตราปลาห้าหัว”มันบอกพร้อมยกตีนให้ผมด้วย เชี่ยะนิ หยิบมาดม เอ้ย กัดแม่งเลย มันเกือบล้มแต่ดึงหัวผมไว้อยู่หัวเราะชอบใจก่อนจะยัดเข้ามาอีก
“แหวะ สัด ปากกูแทบฉีก”ผมด่ามันก่อนจะลงไปนอนกลิ้งต่อ มันส่ายหน้า นั่งลงหยิบยางลบมาลบสูตรที่ผมทำผิด ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้อะไรเลย ส่วนใหญ่ผมจะจำตอนใกล้สอบมากกว่า ไม่ค่อยได้มานั่งทบทวนเท่าไร ผ่านแล้วก็ผ่านไป
“มึงผ่านมาถึงปีสองได้ไงวะ ไม่ใช่สิ มึงสอบติดคณะนี้ได้ไงวะ เส้นปะเนี่ยะ”มันเขียนให้ใหม่ปากก็ชมผมไปด้วยมั้ง
“กูเก่ง และเซ่นเจ้าที่โว้ย เจ๋งไหม”ผมก็เล่นตามมันไป เป็นการผ่อนคลายก่อนมันจะยัดดินสอให้ผมทำใหม่
“มึงเก่งกูไม่เชื่อ เซ่นเจ้าที่เป็นไปได้ที่ระดับสติปัญญามึงคงจะทำแน่ ไอ้หนอนขี้เลื่อย”มันกดหน้าผมแนบหนังสือบี้ไปมาเหมือนจะให้ตัวหนังสือสิงไปในสมองผมให้ได้
“ว่ากูจริง บทบาทความฉลาดที่ไม่ค่อยแสดงออก กูก็มี แต่ตอนนี้ขี้เกียจโว้ยยยยย”ผมหลุดมาได้แหกปากใส่มัน ที่เดินทำหน้ากวนตีนไปในครัวแล้ว ชิ๊ ทำใหม่ก็ได้ ง่ายๆ แต่จะว่าไปมันสอนรวบรัดดีว่ะ เข้าใจง่ายดี มึงจะเก่งเกินไปแล้วอยู่ ถา’ปัต บังอาจมาข่ม วิด’วะอย่างกูทั้งเรื่องเรียนลามไปถึงเรื่องบนเตียงด้วย กูไม่ค่อยได้ข่มมึงเลยนอกจากขย่มอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
“ไอ้หนอน มึงกินพุดดิ้งหมดเลยเหรอ”มันชะโงกหน้ามาถามผมหลังปิดตู้เย็น ผมยกนิ้วกลางทำปากบอกว่า หนึ่ง “มึงอย่ามาง่อย ซื้อมาห้าตอนนี้ไม่มีเหลือ จะหนึ่งได้ไง เพราะกูกับแม่ไม่กินอยู่แล้วนอกจากมึง”มันสวดภาณยักษ์ใส่ ผมหันไปยิ้มให้
“น้องหมายถึงห้าอันต่อชั่วโมงน่ะ”ผมแปลความหมายของนิ้วให้มันฟัง
“กูจะจำกัดมึงอีก แดกเปลือง”เอาอีกดอก
“อะไรวะ กินมากก็บ่น กินน้อยก็บ่น แล้วถามจริงในเมื่อมึงกับแม่ไม่กิน แล้วจะเก็บให้ใครแดก ไหนมึงบอกกูดิ๊”ผมชักเริ่มวิ้งเหมือนกัน ลุกมายืนเถียงกับมันแม่งเลย นอนเดี๋ยวโดนเหยียบอีก
“ให้หมาแดกไง”มันว่ายักคิ้วใส่
“กูไม่ให้ นอกจากแรด หมาหน้าไหนอย่ามาแดกเป็นเด็ดขาด”ผมเดินไปตะโกนใส่มัน กำลังจะหันกลับมันกอดเอวยกทั้งตัว จี๋เอวผม”ฮ่าๆๆๆๆ พี่ควายยยย กูจั๊กจี๋”หลอกด่าแม่งเลย
“นี่ ควายยย เหรอ เดี๋ยว แรดจะโดนควายขวิด ตีก้นไม่เข็ด”มันจี๋ด้วยปากก็ขู่
“คิก คิก เชี่ยะ เยี่ยวจะแตก ฮ่าๆๆ ตีก้นกูอีก ทีนี้กูฟ้อง ยันมูลนิธิปวีณาเลยมึง”ผมทั้งดิ้นทั้งว่าหัวเราะไปด้วย น้ำลายยืดไปหมดแล้ว มันก็เอามาป้ายปาก แหวะ เหม็น มันจับนั่งบนโต๊ะกินข้าว ก้มมาไซ้หน้าจูบปาก คอ ผมก็เบียดและทำตอบด้วยความชอบอยู่แล้ว
“ข้อหาอะไรวะ”มันถามมือก็บีบก้นไปด้วย
“ตีและกระทำชำเราตูดเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบ”ผมบอก มันก็หัวเราะบีบอีก
“สัด กูก็จะฟ้องชูวิทย์”มันบอกผมมั่ง
“เรื่องอะไร”ผมถามมัน
“ก้นมึงยักยอกกระบองกู”มันทำหน้าใส่ได้หื่นมาก แต่ผมขำมากกว่า
“มึงอยากเข้ามาเองนี่หว่า กูไม่ได้ขอสักหน่อย”ผมว่ามันแต่ก็อดเขินไม่ได้
“ทำเขิน อยากยักยอกแล้วดิ ไอ้หนอนเอ้ย”มันแหย่ผม หอมแก้มซ้ายขวาด้วย
“เชี่ยะนิ รู้ทัน มึงเสร็จกูแน่คืนนี้”ผมทำตาเล็กตาน้อยพูดใส่มัน ขาก็เกี่ยวให้มันเบียดเข้ามาอีก
“ปากดี ชอบหาหำใส่ตัว”มันหยิกแก้มว่ายิ้มๆ ผมจะหัวเราะแต่โดนมันปิดปากซะก่อน ผมหงายหลังนิดหน่อยเมื่อโดนมันดัน มือก็ลูบไล้ใส่กันไม่แพ้ลิ้นในปากที่เกี่ยวกันไปมา ก่อนจะหยุดเมื่อมีเสียงเคาะประตูขัดเสียก่อน มันจิ๊ปาก ผมเอามือคลำเป้ามันที่เหมือนจะนูนๆออกมา มันจับทันทีผมก็หัวเราะชอบใจที่ทำมันตื่นได้ แต่ของผมไม่ว่ะ
“มาทำเชี่ยะไรตอนนี้วะ”มันบ่นหน่อยๆ ก่อนจะระงับสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิง ก่อนจะเดินผมกระโดดขี่หลังไปลงตรงที่เดิมนั่งรอของกินที่กำลังจะเข้ามา
“มึงไม่มาเปิดพรุ่งนี้เลยล่ะ”เสียงพี่หวายโวยออกมา
“งั้นมึงมาใหม่พรุ่งนี้”มันก็ตอบไปมึนๆ
“จวย ติดนิสัยเมียมึงไง”เสียงแกลามปามมาถึงผม
“ไม่เกี่ยว น่าจะติดเพื่อนมันมากกว่า”ผมก็ย้อนแกไป เลยโดนเตะก้นเข้าให้ ผมช่วยพี่พายถือของก่อนจะกอดแกทั้งตัวเลย หอมว่ะ ขอกินมั่งดิ แต่อีพี่บลูปรายตามองผมอย่างหมั่นไส้แต่ไม่กล้าทำอะไร
“มีของฝิ่นไหม”ผมถามแกอ้อนๆ แกยิ้ม
“หมดนี่เลย”แกบอกอย่างใจดี เอามือลูบหัวสงสัยจะนึกว่าแมว
“นอกจากน่ารักยังใจดีอีกนะเนื่ยะ ฟอด”ผมบอกหอมแก้มแกด้วย
“พักนี้กูเกลียดเมียมึงว่ะ”นั่นไง เสียงคนขี้หวงเอ่ยออกมาจนได้ ก่อนจะเดินมาดึงคอผมออก แต่ผมเหนียว
“กูด้วย”พี่หวายรวมหัวกัน ไอ้ไผ่ยกยิ้มเฉยๆ มือก็แกะไก่ย่างห้าดาว ไก่จ๋อ ขนมจีน แคบหมู ใส่จาน พี่พายเอาเครื่องส้มตำออกมาทำ
“เบื่อพวกขี้อิจฉา อายุมากแทนที่จะตาฝ้าฟางดันตาร้อน แหวะ”ผมหันไปจิกพวกแก ก่อนจะหลบไปหลังไอ้ไผ่ สองคนทำหน้าแบบเดี๋ยวมึงโดนแน่ เฮ้ย มันขาดนะเนื่ยะ
“สงบศึกก่อน พี่เจย์ล่ะ”ผมยกมือห้ามก่อนจะถาม ใครก็ได้ตอบกูที
“ไปบ้านมันไง สั้นอีกและมึง”แกบอกก่อนจะว่าผม ๆ ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งลงมือกินกัน ทั้งส้มตำ ตำหน่อไม้ ตำซั่วมั่วไปหมด แต่แซ่บสุโค่ยยย
“มันเป็นไงบ้าง”ไอ้ไผ่ถามขึ้นมา เห็นมันบอกว่าโทรไปพี่เจย์ไม่รับสาย ก็เลยฝากข้อความแทน
“นี่กูก็ด่ามันอยู่เนี่ยะ เป็นเชี่ยะไรไม่รู้โทรไปก็ไม่รับ”พี่หวายบ่นออกมาแต่หน้าตาเป็นห่วงมาก
“กูด้วย เบอร์บ้านก็ไม่มีใครรับ เป็นห่วงมันกับแด๊ดว่ะ”พี่บลูบ่นปนห่วงมั่ง
“กูฝากข้อความแต่ก็ไม่มีตอบกลับมา คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง มันอาจติดธุระ”ไอ้ไผ่ก็เอ่ยเรียบๆ แต่มันเป็นห่วงนะ เมื่อเช้าก็ส่งไปอีก ผมลองมั่งก็ไม่มีตอบกลับ
“ไอ้เจย์เห็นอย่างนั้น บางครั้งมีอะไรมันก็ไม่ค่อยบอกหรอก สัด ด่าแม่งเลย”พี่หวายพูดอย่างรู้นิสัย ก่อนจะด่าตบท้าย
“นั่นสิ กูไม่อยากจะคิดมากว่ะ”พี่พายที่เงียบไปเอ่ยออกมาบ้าง
“ถ้าติดต่อไม่ได้อีก พรุ่งนี้กูจะบินไปดูมันที่บ้านสักหน่อย ถ้าไม่มีอะไรกูจะถีบแม่งให้ติดผนังบ้านเลย”พี่หวายพูดเหมือนตัดสินใจ แกทำจริงแน่”แต่กูภาวนาไม่ให้มีอะไรว่ะ ไม่ใช่เพราะอยากถีบมัน กูเป็นห่วง”ก่อนจะพูดเบาตอนท้าย ปกติพวกเราต้องจิ้นแกแล้ว แต่คราวนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาล้อเล่นพวกเราเป็นห่วงแกจริง ๆ ยิ่งแด๊ดแกไม่สบายด้วย รู้ข่าวครั้งสุดท้ายก็เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ว่าอาการดีขึ้น หลังจากนั้นก็อย่างที่เห็นติดต่อไม่ได้เลย
“แล้วเบอร์แม่ หรือว่า น้องแกไม่มีเหรอ”ผมถามออกไป ปากก็ซู๊ดขนมจีนด้วย
“โทรแล้วไม่รับเหมือนกัน ไอ้เจนแม่งปิดเครื่อง”พี่หวายบอกอย่างหมดหนทางที่จะติดต่อ น้องพี่เจย์เป็นผู้ชายชื่อเจน รุ่นเดียวกันกับน้องพี่บลูมั้งถ้าจำไม่ผิดพี่เจย์เคยเล่าให้ฟังอยู่
“ก็ตามนั้น ไม่ติดต่อก็ไปหามัน แม่ง เป็นบ้าอะไรวะ”พี่พายสรุปเห็นด้วยกับพี่หวายก่อนจะบ่นปิดท้าย พวกเรากินกันต่อ สักพักผมเห็นไอโฟนสั่น
“ของมึงอ่ะ”ผมบอกไอ้ไผ่ที่นั่งกินแคบหมูเพลิน มันมอง
“รับดิ๊ มันโทรมาแล้ว”ไอ้ไผ่บอกผม ทำเอาพวกเราตื่นเต้นเลยที่พี่เจย์โทรมา
“ไอ้สัด เป็นเชี่ยะไรไม่รับสายพวกกู มึงไปมุดสันกำแพงอยู่ไง ห๊ะ”เสียงพี่หวายโวยก่อนเลยครับ”แม่ง บักจ๊าดหง่าว”เอาไปอีกดอก
“พวกกูจะบินไปพรุ่งนี้อยู่แล้ว ถ้าติดต่อมึงไม่ได้ เป็นจวยไรวะ”พี่พายเอามั่ง คำพูดขัดกับหน้าตามาก
“เออ มึงพูดเลย เงียบเป็นไส้อั่วอยู่ได้ ไอ้ฉิบหาย”พี่บลูใส่ไปอีก
“พวกมึงก็หุบปากสิ ควายยยย จะให้กูแทรกตอนไหนวะ บักสันดาน”พี่เจย์ตะโกนกลับมามั่ง แบบเห็นหน้าได้ยินเสียงเลยครับ หน้าแกดูอ่อนล้ามากแต่ยังยิ้มได้
“แล้วพี่หายไปไหนมาวะ เขาเป็นห่วงกันจะแย่แล้ว”ผมถามแกไปมั่ง เอาน่องไก่จิ้มๆล่อปากแกไปด้วย ไอ้ไผ่ตบหัวเข้าให้เลิกเลย เห็นไอไฟนดีกว่าหัวกู
“กูยุ่งมากกกก แด๊ดก็เพิ่งออกจากโรง’บาลเมื่อเช้า เฮ้อ”แกพูดทำปากด้วยก่อนจะถอนหายใจ
“ไหนมึงว่าดีขึ้นแล้วไง แล้วแด๊ดเป็นไรอีกล่ะ”พี่พายถามแกอย่างเป็นห่วง
“แด๊ดกูล้มน่ะสิเมื่อสองวันก่อน ทำให้เส้นพลิกตอนนี้ก็เลยต้องนั่งรถเข็น เดินไม่ได้ คงต้องกายภาพอีกนานว่ะ”แกบอกออกมาเสียงเศร้าๆทำเอาพวกเราเงียบเลยครับ
“แล้วหมอเขาว่าจะหายไหม มึงไม่พาแด๊ดมารักษาที่นี่วะ”พี่บลูถามก่อนจะพูดแนะนำ
“เออ ที่นี่น่าจะดีกว่านะ มึงพาแด๊ดมาเลยพรุ่งนี้”พี่หวายเห็นด้วย ผมว่าก็ดีนะ
“ไม่ขนาดนั้น หมอที่นี่เขาก็เก่งเพียงแต่ต้องใช้เวลา และกูไม่อยากให้แด๊ดเหนื่อยหรือกระทบกระเทือนกับการเดินทาง”พี่เจย์โบกมือก่อนจะพูดต่ออย่างเป็นห่วงสุขภาพแด๊ดแก
“กูลืมไปมัวแต่คิดอยากให้หายไวไว แล้วมึงไม่รับสายพวกกูเลยวะ”พี่หวายพูดยอมรับก่อนจะถามต่ออย่างสงสัย
“กูขอโทษพวกมึงจริงๆ กูยุ่งมาก ต้องไปกลับโรง’บาล ที่ทำงาน สวน โอ้ย เยอะ นี่ก็เพิ่งให้แม่ไปพัก พอกูเห็นก็รีบโทรมาเลย ขอบใจพวกมึงมาก แค่นี้กูก็มีกำลังใจแล้ว”พี่เจย์ยิ้มเนือยๆเมื่อพูดถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่บ้าน
“พี่เจย์ สู้ๆๆนะ พักผ่อนด้วย”ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่ให้กำลังใจ
“เออ ขอบใจ ไอ้เหี้ยะนั่งเงียบนะมึง พูดมั่งก็ได้ แค่สายตาสำหรับกูไม่พอหรอก”แกพูดยิ้มๆใส่ก่อนจะพูดใส่ไอ้ไผ่
“พรุ่งนี้เจอกัน”มันพูดแค่นั้น ทำเอาเงียบเลย
“จริงดิ”พี่เจย์ถามย้ำ
“กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ”มันก็ย้อนกวนๆ
“ห่าราก มาให้จริงเถอะ กูจะ จะ ร้องไห้ว่ะ”แกว่าก่อนจะร้องออกมาจริงๆแต่ไม่ได้ปล่อยโฮ พูดแบบเสียงเครือๆ
“เฮ้ย อย่าร้อง เดี๋ยวกูร้องตาม”พี่หวายห้ามก่อนจะทำท่าล้อแก
“ไอ้สัด กูกำลังซึ้งกวนตีนนะมึง รีบๆมาเลย”พี่เจย์ด่าเข้าให้
“อยู่แล้วไอ้ซึ้งบนหม้อดิน พรุ่งนี้เจอกัน”พี่หวายก็รับคำ พวกผมด้วยก่อนแกขอตัวไปดูแด๊ดก่อน พี่พายเช็คเที่ยวบินและจองตั๋ว เตรียมเดินทางพรุ่งนี้ ผมโทรหาไอ้พวกนั้น พวกมันไปไม่ได้แต่ฝากเยี่ยม
“ค่อยยังชั่วหน่อย”พี่หวายพูดอย่างโล่งใจ ที่รู้ว่าเพื่อนไม่ได้เป็นอะไรห่วงก็แต่แด๊ดพี่เจย์เท่านั้น
“สงสารมันว่ะ ดูมันคงจะเหนื่อยจริงๆ”พี่บลูบอกมั่งก่อนจะโอนเงินค่าตั๋วทางอินเตอร์เน็ต
“สรุปเจอกันพรุ่งนี้ สนามบินสิบโมงเช้า”พี่พายบอกเวลาที่แน่นอนอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันเข้าใจ
“การบ้านมึงเสร็จแล้วเหรอ”ไอ้ไผ่หันมาถามผมที่ตอนนี้นอนเหยียดยาวเลย
“มึงจะลืมบ้างก็ได้ เคยตัว ชอบจำ อี้อๆๆๆ”ผมหันไปว่า มันเลยหยิบหมอนมาปิดหน้าผมอย่างหมั่นเขี้ยว พี่พายเก็บของเสร็จเดินมานั่งข้าง”พี่พายเม้าท์ทูเม้าท์หน่อย”ผมแกล้งทำปากจู๋ให้พี่พายจุ๊บ พี่บลูเลยหยิบจากมือมันมาเขวี้ยงใส่ ผมก็ขำๆ
“มึงเอามือหรือเอาตีนเขียนวะ”พี่หวายพูดแซวมั่ง หยิบสมุดผมมาแกว่งไปมา
“คนมันเทพ ใช้ทั้งสองอย่างเลย”ผมก็บอกแกยักคิ้วให้ แกส่ายหน้า
“เทพกากๆสิมึง”แกว่าอีกก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาอีกตัว ไอ้ไผ่หยิบสมุดมาตรวจอีกที ก่อนจะเก็บ โล่งแล้วโว้ย
“ไอ้ฝิ่น มึงตัดสติ๊กเกอร์ให้หน่อยสิ”พี่หวายหันมาพูดกับผมหลังจากดูโฆษณา
“แพงนะ”ผมทำเสียงใส่แกแบบโก่งค่าตัว
“กูเพื่อนผัวมึง ครึ่งราคาหรือไม่ก็ฟรีไปเลย”แกก็ย้อนผม
“ยิ่งต้องเก็บเยอะ เพราะดูแล้วจะเรื่องมาก”ผมเลยใส่แกไปอีก ทำเอาพวกแกขำ ก่อนแกจะร่างแบบให้ ผมรับมาดูก็ไม่ยากเท่าไร คุยกันสักพักก็แยกย้ายกลับ พรุ่งนี้เจอกัน
V
V
V
V
ต่อข้างล่าง