ตอนพิเศษมาอีกตอนแล้ววววววว
เห็นแก่ที่มีคนมาตามมารออ่านเยอะนะเนี่ยยยยย 555555 ตอนพิเศษ 3
ผิดสัญญา
กว่าสองหล่อจะเข้ามาในคฤหาสน์ของคุณฟรานได้ ก็ใช่ว่าจะง่าย แต่ก็ไม่ยากครับ และผมก็เพิ่งรู้ว่าไอ้โทนี่ดีนนั้นพวกมันเป็นถึงรองหัวหน้าการ์ดเลย พวกมันเป็นคนอนุญาตให้สองหล่อแพทภูมิเข้ามาเองครับ เพราะเคยเห็นหน้าและได้รู้จักกันมาก่อนบ้างแล้ว ส่วนคนอื่นๆที่ไม่เคยเห็นหน้านั้น รวมทั้งสองสามคนที่ทำหน้าที่รักษาประตูทางเข้าคฤหาสน์ด้วย ตั้งการ์ดไม่ให้สองหล่อเข้ามาในคฤหาสน์ทันทีเลยครับ
เอาเป็นว่าพอพวกมันเข้ามาแล้ว...........
“เชี่ย!! โครตหรูอ่ะมึง” เสียงไอ้แพทมาก่อนเลยครับ
“เออว่ะ กูล่ะเชื่อเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคฤหาสน์แบบนี้ในเมืองไทยด้วย โครตสวยว่ะ”
“ห่ากรีนมึงหมกเม็ดนะ ไม่เคยจะบอกเพื่อนฝูง”
“..........” เงียบ ทำไงได้ มิใช่บ้านกู ผมเลยได้แต่ยักไหล่ครับ
“กูขอเดินชมไปรอบๆได้ป่ะวะ??” เสียงไอ้แพทและแววตามันบ่งบอกว่าสนใจเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด
“...............” ผมไม่ตอบแต่หันไปมองหน้าโทนี่ดีน พร้อมเลิกคิ้วข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม สองบอดี้การ์ดพยักหน้า ก่อนจะเรียกคนที่อยู่แถวนั้นมา เพื่อจะพาสองหล่อเดินทัวร์
“มึงจะไปด้วยป่ะเนี่ย” ผมจึงหันมาถามไอ้ภูมิอีกคน
“ที่จริงกูอยากคุยก่อน แต่....ของที่เห็นอยู่มันล่อตาล่อใจว่ะ” ห่าทำเป็นเก็กนะมึง
“อืมๆ กูไม่ได้รีบ” ไม่ได้รีบให้พวกมึงเสือก 5555 กูอำไปเยอะ ขอขยายเวลาอีกสักเดี๋ยวละกัน
อีกอย่างพวกเราเรียนสถาปัตย์นี่นะ ธรรมดาของแบบนี้ งานแบบบ้านสวยๆแบบนี้ ก็ต้องอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว ผมเข้าใจ
“เฮ้ออออ”
พอลับหลังสองหล่อเขาแล้วผมก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เลย
“พวกนายพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันพักอยู่ในห้องนี้แหละ” ห้องที่ว่าก็คือ ‘ลองแกลลอรี่’ ครับ
ผมเข้าไปได้สักพัก สาวใช้ก็ยกน้ำชากับขนมเข้ามาให้ทั้งหมดสามที่ คนที่นี่รู้งานมากครับ ผมชอบจริงๆ ไม่ต้องให้สั่งให้บอก ผมคิดว่าพวกเขาคงจะถูกฝึกมาอย่างดีมากๆเลย
“ขอบใจนะ” ผมยิ้มบอก
สาวใช้เพียงแต่ยิ้มแล้วถอนสายบัวเขินๆให้ผมเท่านั้น จากนั้นถึงได้เดินออกจากห้องไป
เป็นเวลาเกือบชั่วโมงได้สองหล่อเขาถึงได้เดินกลับมา พร้อมๆกับทำหน้าเคลิบเคลิ้มมาด้วย
“หึหึ ไงพวกมึง” ผมถาม (ขอหัวเราะแบบผู้ร้ายบ้าง)
“กูอยากด้ายยยย....นี่คุณชายเขาจะให้ถ่ายรูปมั้ยเนี่ย?” ไอ้แพทพูดขึ้นมาอย่างอยากได้จริงจัง
“เกินไปละๆ” ไอ้ภูมิปรามาส
“หึ มึงลองขอเค้าดูดิ” ผมแหย่ และคิดว่าแม้แต่ตัวผมเองยังไม่กล้าเลย
“กูมิบังอาจครับ แค่ให้ดู กูก็รู้สึกเป็นบุญตาแล้ว” ฮ่าๆๆๆ ก็นะ
“หึหึ แล้วไปเจอไรมาบ้างล่ะ” ผมถามอีก
“เยอะแยะว่ะกรีนน้อย กูเชื่อเลยว่าท่านชอบของสะสมจริงๆ” ไอ้ภูมิ
“เออ แล้วอย่างนี้มันจะดีหรอวะ มึงจะหาไรได้ดีกว่านี้” ห่าแพทปากเสีย
‘ป๊าดดดดดด’ ดีเลยเพื่อนภูมิ
“เชี่ย!! ของกรีนน้อย เขาให้ด้วยใจเว้ยห่า” ใช่ๆของกูให้ด้วยใจเว้ย!!
“ชิส์ แล้วมึงคิดว่าไงวะ จะหาหรือทำไรให้” ไอ้แพทลูบหัวเล็กน้อยก่อนถามผม
“เอ่อ.....” เอาไรดีวะ บอกแล้วไงว่าให้ทำเองคงไม่ไหว เอาอะไรดีวะ??
“กูว่าถ้าทำคงจะไม่ทันว่ะ หาซื้อเร็วกว่า” ระหว่างที่ผมกำลังใช้ความคิด ไอ้ภูมิก็ขัดขึ้นมา
“เออกูก็ว่า.......อืมมม ถ้าจำไม่ผิด บ้านพี่โก้ส่งออกเครื่องประดับนี่หว่า มึงไม่ลองไปดูวะ” ไอ้แพทเสนอความเห็น แต่ตามันนี่ระยิบระยับเลยครับ
ใช่ครับ บ้านพี่โก้ส่งออกพวกเครื่องประดับที่มาจากธรรมชาติ เอามาประดิษฐ์ใหม่กับพวกอัญมณีขายทั้งในและต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะชอบมากกว่า
“เออว่ะ มึงลองไปดูดิ” ไอ้ภูมิเห็นด้วย จะว่าไปของที่คฤหาสน์คุณฟรานผมยังไม่เห็นเลยว่าจะมีของประดับแบบที่บ้านพี่โก้ผลิตเลย น่าลองๆ
“เออ....น่าสนว่ะ ลองไปดูก็ดี” ผมจึงตัดสินใจว่าลองไปดูก็ดีเหมือนกัน
“ว่าแต่พวกกูจะได้ถือโอกาสเปิดหูเปิดตาด้วย หึหึหึ” อ้อ คงเหมือนที่พวกมึงมาที่นี่ด้วยใช่มั้ยได้เสือกสองต่อเลย
“เชี่ย แผนพวกมึงล่ะสิ” สองหล่อยิ้มหวานเลยครับ
“โด่วววว มึงล่ะก็ กูกับพี่เค้าเป็นอะไรกันนนน” ห่าแพท มึงจะพูดไรอีกวะ
“แล้วกูอ่ะ” เออ...จะเล่นด้วยละกัน
“มึงมันเป็นน้องรหัสที่ร้ากกกกกกกเว้ย ฮ่าๆๆๆๆ” นั่นไง หึ แต่...แค่น้องรหัสพอ ‘ที่รัก’ ไม่ให้เว้ย!!
“.......ห่า....เออๆๆ เพราะจำเป็นหรอกนะ” ผมจำใจรับคำ
จากนั้นผมก็จัดการโทรไปหาพี่โก้ นัดแนะเวลากันเรียบร้อยว่าเป็นวันพรุ่งนี้บ่ายๆ ส่วนคืนนี้พี่โก้จะส่งแบบที่มีอยู่มาให้ผมดูก่อน ผมกล่าวขอบคุณพี่แกไป พี่โก้ดีใจใหญ่งานนี้พี่โก้จึงอาสาจะพาชมผลงานของที่บ้านให้ผมกับสองหล่อด้วยตัวเอง ดีจังเลย
“เออ.....ว่าแต่ นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกมึงมาหากูนี่” อดไม่ได้ครับ กูเปิดบทสนทนาเองก็ได้ ไม่รู้จะอะไรแล้ว มันไม่ถามกูถามเอง จะได้ปฎิเสธให้จบๆไปซะ ไอ้แพทยิ้มโกงๆใส่ผมก่อนพูดว่า....
“หึหึหึ กรีนน้อย...คิดว่าพวกกูจะเชื่อมึงหรอ” หา!! แล้วที่มาที่นี่ อย่าบอกนะว่า..............
........เชี่ย!! พวกมันหาเรื่องมาดูคฤหาสน์ของคุณฟรานจริงๆด้วย........
“หึหึหึ แต่.....ไว้กูจะบอกกับคุณชายเขานะ ว่ามึงอยากให้เขาสู่ขอมึงอ่ะ”
“.....!!!.......” เชี่ยภูมิ!! ดูๆมันครับ พูดแล้วยังยกมือไปแปะกับไอ้แพทอีก
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เออ!! เอากันเข้าไป เพื่อนกู แม่ง!!
หลังจากนั้นพวกเราก็ทำการนัดแนะเวลา แล้วตกลงว่าให้ไอ้ภูมิมารอรับผมที่คฤหาสน์ของคุณฟราน แต่ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า.......
.....คุณฟรานขอร้องไม่ให้ผมไปไหนมาไหนคนเดียวนี่นา แล้วผม......อ่า....กูไม่น่าไป ‘สัญญา’ กับเขาด้วยเลย แต่ว่า.....ไม่ไปก็ไม่มีของขวัญไรให้น่ะสิ แล้วอีกอย่าง....กูเป็น ‘แฟน’ กับเขาแล้วนะ จะไม่ให้ผมมีของขวัญอะไรให้แฟนตัวเองเลยหรอ ไม่ได้หรอก!! ไม่ได้เด็ดขาด!!
อืมมมม...ถ้าผมจะไปก็ต้องเอาบอดี้การ์ดไปด้วย แต่ถ้าผมเอาบอดี้การ์ดไปด้วย เขาก็จะต้องรายงานคุณฟราน ถ้างั้น....คุณฟรานก็ต้องรู้ว่าผมจะไปที่ไหน เขาไม่ต้องการอะไรเป็นของขวัญอยู่แล้ว หรือต่อให้ต้องการ ผมก็อยากเซอร์ไพรส์บ้างนี่นา เอาไงดีนะ
อ่ะ....หึหึหึ แต่ถ้าไปโดยเขาไม่รู้ ก็ไม่เป็นไรใช่มั้ย? คิดได้ดังนั้น ผมก็ต้องเตรียมตัวย่องเบาแล้วครับ พรุ่งนี้นัดกันตอนเที่ยง คุณฟรานกลับมาเที่ยวบินกลางคืนถึงประเทศไทยประมาณสี่ทุ่ม โทนี่บอกอย่างนั้น (ณ ตอนนั้นลืมความอารมณ์ความรู้สึกตอนสัญญาไปแล้วครับ - -)
เริ่มแผนการจาก.......... อ่า...ต้องโทรบอกไอ้ภูมิก่อน
“ว่าไง” ดูมันรับโทรศัพท์
“พรุ่งนี้เที่ยงมึงไม่ต้องเข้ามาในบ้านนะ มึงจอดรถรอกูอยู่ที่........”
“ทำไมวะ??”
“เออน่า.....แค่นี้นะ” ตัดจบพอ วางสายเลย
ระหว่างนี้ก็ทำตัวตามปกติ อย่าแสดงพิรุธอะไรๆทั้งสิ้น ผมอ่านหนังสือ เดินชมสวน ทำอะไรเรื่อยเปื่อย แต่ที่ไม่เรื่อยเปื่อยก็คือ สังเกตเส้นทางและทางย่องเบาโดยหลบมุมกล้องด้วย
เมื่อได้เส้นทางแล้ว ผมก็กลับขึ้นห้องอ่านหนังสือ...อ่ะนะก็แค่ให้มันดูดีเท่านั้น แต่ที่จริงก็เข้าเวปอ่านการ์ตูนวายนี่แหละ เสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวย่องเบานี่แหละ
.................................................................
เป็นเวลา 11 โมงแล้ว ผมบอกโทนี่ว่าไม่รับมื้อเที่ยงแต่ขอเป็นขนม น้ำหวาน แล้วพวกผลไม้อะไรพวกนี้ ให้เอามาให้ผมที่สวน ผมออกมาเดินเล่นที่สวนสวย วันนี้ผมแต่งกายง่ายๆด้วยเสื้อยืดการเกงยีนส์ซึ่งเป็นปกติของทุกวันจึงไม่มีอะไรผิดสังเกต ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆ เดินมาที่สระน้ำ เห็นสระแล้วอยากว่ายน้ำขึ้นมาเลย แต่ไว้ก่อนๆ ผมเดินมานั่งที่ซุ้มเล็กๆ ต้องเรียกว่าซุ้มศาลาสไตล์โคโลเนียลสีขาวที่ออกแบบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าสามารถทำได้ด้วย จะว่าไปที่นี่ก็มีหนังสือให้อ่านเล่นเตรียมพร้อมเสร็จสรรอยู่แล้ว ผมจึงทำเป็นหยิบหนังสือมาอ่านเล่น
สักพักสาวใช้ก็นำขนม ผลไม้ที่เปาะเรียบร้อยและน้ำหวานมาเสริฟ เช่นเดิมผมกล่าวขอบคุณและหันกลับมาอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ประมาณสิบนาที ผมก็ใช้หางตามองไปโดยรอบอย่างรวดเร็ว คนคุ้มกันไม่ลดลงเลย แต่ดีหน่อยเพราะผมอยู่อย่างค่อนข้างสงบ ทุกคนเลยไม่ได้เอะใจเรื่องของผมมากมายอะไรนัก
เก้าอี้ที่ผมนั่งนั้นสามารถเอนนอนได้ด้วย ผมจึงทำเป็นเอนตัวนอน แต่ก่อนหน้านั้นผมเห็นตู้เก็บของข้างๆ มีหมอนอิงกับผ้าแพรที่ใช้เป็นผ้าคลุมผืนบางด้วย ผมไม่รอช้าเปิดตู้และหยิบมันออกมา ผ้าแพรผืนหนึ่งกับหมอนอิงหลายๆใบ มาวางๆไว้ ความคิดชั่วร้ายบางอย่างแล่นปรู๊ดเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็ว
.................ตัวตายตัวแทน..............
ผมเป็นคนค่อนข้างไวอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาต่อสู้ ผมจึงต้องใช้วิชาความรู้นั้นในแผนการครั้งนี้ พอแกล้งหลับไปได้สักพัก ดูเหมือนคนเฝ้ายามจะเริ่มชะล่าใจ ผมจึงรีบลงจากเก้าอี้แล้วเอาหมอนอิงเข้าไปสวมรอยแทนแล้วคลุมด้วยผ้าแพร รีบย่องหลบออกมาที่พุ่มไม้ บริเวณที่ผมอยู่มีบอดี้การ์ดที่อยู่ใกล้ทั้งหมดสามคน ต้องห้ามให้พวกเขารู้อย่างน้อยก็ต้องถ่วงเวลาบ้าง แผนการดำเนินมาได้ครึ่งทางแล้ว
“คุณกรีนครับ!!”
“เชี่ยเอ้ย!!” ผมเผลอสบถออกมาเบาๆ ไอ้ดีนครับ ลืมมือดีสองคนนี้ไปได้ยังไงวะ
“...........” มันมองมาที่ผมนิ่งๆ เออๆ กูรู้แล้วๆ เอาไงดีวะ ชิส์
“ฉันอยากเดินเล่นคนเดียว” ยังไงๆ มันก็คงจะรู้แล้ว แต่ผมก็ยังจะแถครับ
“คงไม่ได้ครับ” ห่าเอ้ย แบบนี้ยิ่งโดนจับตามองเลย ช่วยไม่ได้แฮะ
คงต้องคิดแผนใหม่แล้ว เมื่อคืนแม้พี่โก้จะส่งภาพแบบมาให้ดูแต่ก็ยังไม่มีที่ถูกใจ แล้วพี่โก้ก็ยืนยันว่าของมีเยอะ และบางชิ้นก็เป็นของสั่งทำด้วย จึงมีเพียงชิ้นเดียวถ้าลูกค้าไม่เอาก็ขายออกได้ ถ้าจะให้ดีก็ต้องไปดูของจริง ยอมรับว่าที่ส่งมาให้ดูนั้นสวยงามมาก แต่ผมก็อยากไปดูของจริงด้วย โดยเฉพาะของพวกนั้นที่มีส่วนประกอบสำคัญที่มาจากธรรมชาติด้วย
“...........” ผมคิดแผนการใหม่ อาจจะไปเงียบๆไม่ได้แล้ว
อีก 30 นาที ทำไมต้องสามสิบนาทีตลอดเลยวะ เอาวะ ผมเดินไปทางที่ใกล้กับที่นัดหมาย ขมวดคิ้วแล้วเริ่มคิดใช้แผนการใหม่ ในเมื่อหนีอ้อมไม่ได้ ก็หนีแม่งตรงๆนี่แหละแผนใหม่ของผม ผมทำเป็นเดินชมสวนไปเรื่อยๆ โดยมีบอดี้การ์ดตัวโตอย่างดีนเดินตามไม่ห่าง อีกไม่นานแน่นอนโทนี่ก็คงจะเดินมาสมทบด้วยแน่ คนเดียวก็จะไม่ไหวแล้ว ยังจะสองคนอีก
ผ่านไปสิบนาทีไอ้ภูมิส่งข้อความมาว่าถึงแล้ว ผมคิดไว้แล้วว่ามันต้องมาก่อนเวลานัดชัวร์ ผมเดินมาหยุดอยู่ห่างจากกำแพงประมาณห้าเมตร กำแพงนี้อีกด้านเป็นจุดนัดพบ ดีนเดินตามไม่ห่างเลย ผมยืนนิ่งๆอยู่กับที่ กำลังคิดจะหาทางเบี่ยงเบนความสนใจและต่อรองอีกครั้ง แต่จังหวะนั้น...
.....ดีนหันหน้าไปคุยกับลูกน้องคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหา ผมรีบสาวเท้าไปที่กำแพงอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดสปริงตัวเองพุ่งขึ้นไปที่ข้างกำแพงก่อนใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบไปที่ข้างกำแพงนั้น เพื่อสปริงตัวเองให้สูงขึ้นและดันตัวเองขึ้นไปข้างบนของกำแพงได้อย่างสวยงาม กำแพงสูงสามเมตรจึงไม่ใช่ปัญหา ทั้งหมดเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น สำหรับคนที่มีความสามารถอย่างผม หึหึ
“เฮ้ย!!” เสียงลูกน้องที่ตามมาทีหลังร้องขึ้นมา ดีนรีบเงยหน้าขึ้นมามองและขมวดคิ้วยุ่งทันที
“ถ้าเป็นห่วงก็ตามมานะดีน หึ” ผมพูดก่อนจะโดดลงไปกำแพงอีกด้าน รถไอ้ภูมิสตาร์ทจอดรออยู่แล้ว ไม่ใช่เตรียมพร้อมรอผมหรอก แต่มันร้อนมันเปิดแอร์ ผมรีบเปิดประตูเข้าไปทันที
“ออกรถเร็วๆ!!” ผมรีบร้องบอกไอ้ภูมิ ไอ้ภูมิก็รีบออกรถโดยเร็ว มันไม่ตกใจแฮะ
ดีนโดดตามผมมาติดๆ แต่คงสู้ความเร็วของรถสปอร์ตคันหรูไม่ได้ ดีนะที่เป็นไอ้ภูมิ มันไม่ค่อยถามอะไรมากเท่าไอ้แพทและสติดีกว่าและไวกว่าไอ้แพทมาก
เราออกมาที่ถนนใหญ่ได้แล้ว ไอ้ภูมิก็ยิงคำถามมาทันที
“อธิบายมาได้ยัง??”
“ก็...เขาไม่ให้กูออกมา กูเลยหนีออกมาซะเองไง” ผมก็อธิบายง่ายๆงี้เลย
“หา!! คุณชายเนี่ยนะจะทำแบบนี้กับมึง” มันหันหน้ามาหาผมและทำหน้าอึ้งๆเลยครับ ผมต้องรีบเบรกความคิดของมันทันที
“เฮ้ย!! มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิด คือ...เขาจะให้บอดี้การ์ดตามมาด้วย แต่กูไม่ต้องการ เลยหนีบอดี้การ์ด”
“อ้อออออ แล้วจะหนีไมวะ มีบอดี้การ์ดไปด้วยเท่ห์ออก หึหึ”
“เชี่ย!! งั้นเขาก็รู้ดิว่ากูจะไปไหนน่ะ”
“อ้อ มึงจะเซอร์ไพรส์ว่างั้น” มันพูดพร้อมกับยิ้มกว้างเลยครับ ล้อเลียนกูว่ะ
“........” ผมเงียบไม่อยากตอบ และมันก็คงจะรู้อยู่แล้ว
“มึงรักเค้าแล้วใช่มั้ย??” ไรวะ ทำเป็นรู้ดีนะมึง ผมไม่ตอบแล้วครับแต่ขมวดคิ้วนิดๆ และหันหน้าไปอีกทาง รู้เลยว่าตัวเองเริ่มหน้าแดงขึ้นมาแล้ว
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อย่าลืมบอกคุณชายเขาด้วยล่ะ” ห่าต้อนกูได้ขนาดนี้ ยังจะมาขำกูอีกนะมึง
“ทำไม??” ผมหันกลับมาถามทันที
“หึ คุณชายแสดงออกชัดมากเลยนะ เวลาอยู่กับมึงน่ะ”
“.......อืม” ผมเงียบไปเล็กน้อยก่อนตอบ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ
ไอ้ภูมิยิ้มเล็กๆ และหันกลับไปสนใจขับรถต่อ
อย่างไรเสีย ผมคิดว่าบ้านพี่โก้น่าจะมีของที่ผมถูกใจแน่นอน และแม้มันจะไม่ใช่ของทำเองหรือมีค่าอะไรมากมาย แต่ผมคิดว่าถ้าเราให้ด้วยใจจริง คนรับเขาต้องสัมผัสได้อย่างแน่นอน
ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยและหันหน้ากลับไปทางกระจกข้าง ในกระจกที่ผมหันหน้าเข้าหานั้นสะท้อนใบหน้าไอ้ภูมิอยู่ มันหันมามองผมจากนั้นมันก็ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วหันกลับไปสนใจขับรถต่อ
แต่ใครจะสนมันต่อล่ะครับ.......
........เพราะตอนนี้ผมกำลังจะได้ของขวัญวันเกิดให้คุณฟรานแล้วครับ.........
.................................................................
แล้วก็จบแค่นี้นะ อิอิอิ
ทักทายทักทายยยยยยยย
ลุ้นอ่ะดิๆ 555555
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ อยากให้มีอีกก็เม้นต์อีกเยอะๆนะ 5555
(เพื่อเป็นกำลังใจให้มีแรงแต่งมาลงเรื่อยๆไง จริงๆนะ)
ตอนพิเศษคุณฟราน เราตั้งใจแต่งไว้ฉลองรวมเล่มนะ จึงไม่สามารถเอามาลงให้ได้
ถือว่าให้กำไรกับคนที่เขาเสียสตางค์ซื้อแล้วกันเนาะะะะะะะ
รับรองว่าเค้าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนนนนนนนนนนนน
Uri