Chapter 1 : หนูเจอพี่ครั้งแรก
“คุณยายขา ~ สายบัวได้แล้วค่ะ” เสียงหวานใสดังมาก่อนตัวเรียกให้คุณยายประไพวัยเจ็ดสิบปีเงยหน้าขึ้นมอง ร่างบางในชุดกระโปรงสีขาวแขนกุดวิ่งเข้ามาพร้อมกับหอบสายบัวที่เพิ่งตัดมาจากสระบัวหลังบ้านไว้เต็มสองแขน ข้างหลังไกลๆมองเห็นมะลิที่รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเดินเร็วๆตามมา แต่ก้าวยังไงก็ไม่ทันคนที่วิ่งนำอยู่ดี
“ยายบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง ถ้าหกล้มขึ้นมาจะทำยังไง” คนแก่ดุไปตามเรื่องด้วยความหวังดี ใบหน้าหวานที่ชื้นไปด้วยเหงื่อเบะลงเมื่อโดนดุ รีบนั่งลงข้างๆกอดเอาใจคุณยาย
“หนูกลัวคุณยายจะรอนานเลยรีบวิ่งมาไงคะ ไม่ดุซี่ หนูกลัวไปหมดแล้ว” แก้มกลมถูไปมากับแขนคุณยายตามนิสัยเด็กช่างอ้อน คนแก่ส่ายหน้าพลางลูบผมยาวที่รวบเป็นหางม้าไว้หลวมๆอย่างเอ็นดูปนหมั่นเขี้ยว
“อย่างเราน่ะเหรอจะกลัวยาย เจ้าตัวแสบ”
“คุณนิ่มดื้อจะลงสระด้วยค่ะคุณยาย แต่มะลิห้ามไว้”
“พี่มะลิ!” นุ่มนิ่มหันขวับมองคนขี้ฟ้อง มะลิกำลังจะหาเรื่องให้คุณยายดุหลานสุดที่รักเพิ่มอีกกระทงแล้ว
“เป็นสาวเป็นนางจะทำตัวแก่นเซี้ยวเหมือนผู้ชายไม่ได้นะเจ้านิ่ม…”
“เพราะมันไม่งาม ใช่ไหมคะคุณยาย” เด็กแก่นเซี้ยวของคุณยายประไพยิ้มหวาน เลียนแบบคำพูดเดิมๆที่ได้ยินจนชินหูแล้ว มีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกที่คุณยายจะชอบบ่นเป็นประจำ
นุ่มนิ่มรู้ทันคุณยายหมดแล้ว นอกจากเป็นหลานรักแล้วยังอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี
“จริงๆเลยเชียว” คุณยายที่ถึงจะอายุมากแล้วแต่ยังแข็งแรงส่ายหน้าน้อยๆ ไม่ได้รำคาญแต่กลับเอ็นดูมากด้วยซ้ำ นุ่มนิ่มเป็นเด็กนิสัยเรียบร้อยแต่บทจะดื้อก็ทำเอาปวดหัวกันไปทั้งบ้านเหมือนกัน โดยเฉพาะบ้านที่มีแต่คนแก่อย่างคุณยายกับมะลิที่อายุใกล้จะย่างเข้าเลขสามแล้ว ยังไงก็ตามไม่ทันถ้าเจ้านิ่มเกิดซนกระโดดลงสระหลังบ้าน
นุ่มนิ่มตัวแสบหัวเราะคิกเพราะรู้ว่าคุณยายไม่กล้าดุจริงจังหรอก ดวงตากลมโตมองตามมือของคุณยายกับมะลิที่กำลังทำความสะอาดสายบัวที่เพิ่งเก็บมา อยากจะช่วยแต่คุณยายห้ามไว้บอกว่าจะคันมือเอาเพราะยางของมัน
“ทำไมวันนี้คุณยายให้เก็บสายบัวมาเยอะจังคะ หรือว่าจะแบ่งให้ป้าจันทร์ด้วย” นุ่มนิ่มถามอย่างแปลกใจ บ้านหลังนี้อยู่กันแค่สามคน แต่ปริมาณสายบัวที่เก็บมาเยอะกว่านั้นไปมาก หรือบางทีคุณยายอาจจะอยากทำแกงหม้อใหญ่แล้วตักแบ่งให้คุณป้าข้างบ้าน
บ้านของเราเป็นบ้านสวน ในบริเวณนี้มีบ้านอยู่แค่ไม่กี่หลังและยังห่างกันแค่รั้วไม้ไผ่กั้น ผู้คนในละแวกนี้เลยสนิทสนมกันแทบจะทุกบ้าน อย่างคุณยายประไพเป็นเศรษฐีเก่า สมัยก่อนมีตลาดที่เปิดให้เช่าแผงเป็นสิบยี่สิบแผง
คุณยายเล่าว่าเมื่อก่อนคุณยายห้าวน่าดู ใครตุกติกเบี้ยวไม่จ่ายค่าเช่าคุณยายด่ากระเจิงทุกราย
แต่พอแก่ตัวลงคุณยายก็เป็นแค่หญิงชราใจดี ใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอเลยเป็นที่รักของทุกคน คุณยายมีเงินเก็บเยอะแยะแต่ยังทำงานเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นทำขนมและร้อยมาลัยขาย นุ่มนิ่มเลยได้อานิสงส์การทำขนมมาจากคุณยายด้วย
นุ่มนิ่มทำขนมตาลอร่อยที่สุด คุณยายบอกว่าแบบนั้น
“มะลิยังไม่ได้บอกเจ้านิ่มใช่ไหมว่าวันนี้พ่อเชนจะมา”
“ตายแล้วคุณยายขา มะลิเผลอลืมไปสนิทเลย!” มะลิทำตาโตเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ คุณยายกำชับไว้ตั้งแต่เช้าแต่ดันลืมไปเสียสนิท จะโดนตีหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะคุณยายมองตาเขียวปั้ด
“พี่เชนจะกลับมาแล้วเหรอคะ” นุ่มนิ่มถามคุณยายด้วยใบหน้าที่เจือสีแดงเรื่อ
นุ่มนิ่มรู้จักพี่เชน แต่พี่เขาไม่รู้จักเรากลับหรอก พี่เชนเป็นหลานชายของคุณยาย เป็นคนในรูปที่อยู่ในห้องตรงหัวเตียงของคุณยายด้วย
พี่เชนเป็นผู้ชายตัวสูง หน้าตาหล่อเหมือนพระเอกหนัง พี่เชนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯตั้งแต่ที่นุ่มนิ่มยังไม่ได้มาอยู่กับคุณยาย ก็เลยยังไม่เคยเจอกันสักที
แค่เห็นผ่านรูปถ่ายนุ่มนิ่มยังคิดว่าพี่เชนหล่อมาก วันนี้จะได้เจอตัวจริงแล้ว จะเหมือนกับในรูปไหมนะ หรือว่าจะเป็นคนถ่ายรูปขึ้นกล้องจนตัวจริงดูดีไม่เท่า เอ…อยากจะเห็นแล้วสิ
“คงจะมาถึงที่บ้านเย็นนี้แหละ เราก็ไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆมารอต้อนรับพี่เขา แล้วจะได้ทำความรู้จักกัน” คุณยายว่า นุ่มนิ่มพยักหน้ายิ้มรับอย่างเต็มใจ ถ้าเป็นเรื่องพี่เชนก็ยินดีทำให้หมดทุกอย่างนั่นแหละ
เจอกันครั้งแรกจะทักพี่เขาว่ายังไงดีนะ ยกมือไหว้ก่อนแล้วค่อยแนะนำตนเอง หรือว่าจะเข้าไปกอดดี
แต่ว่านะ ถ้าอยู่ๆก็เข้าไปกอดพี่เชนจะคิดว่าน้องเป็นพวกผู้หญิงใจง่ายหรือเปล่า
แบบนั้นสงสัยจะไม่เข้าท่า ต้องเรียบร้อยอ่อนหวานไว้ก่อน
“ไปค่ะคุณนิ่ม ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่า ชุดนี้เปื้อนหมดแล้วไม่สวยเลย” มะลิชวน แต่นุ่มนิ่มอิดออดเพราะไม่ชอบการอาบน้ำเป็นที่สุด ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วด้วย ถ้าเป็นไปได้อยากจะอาบน้ำแค่สองวันครั้งแต่อาจจะโดนคุณยายเอาก้านมะยมฟาดจนน่องลาย
“ยังไม่อยากอาบ หนูจะช่วยคุณยายก่อน”
“ไม่ต้องช่วย ยายทำเองได้ เราน่ะไปอาบน้ำเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมา” คุณยายรู้ทันนุ่มนิ่มไปเสียทุกอย่าง เด็กน้อยมองค้อนแต่ก็ยอมลุกขึ้น มือเล็กปัดฝุ่นออกจากกระโปรงแล้วสะบัดก้นเดินเข้าบ้านไป
“คุณนิ่มโตเป็นสาวแล้วนะคะ แถมยังสวยด้วย” มะลิมองหน้าคุณยายพลางอมยิ้ม เธอเห็นนุ่มนิ่มตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุสิบสี่หน้าตาธรรมดาค่อนไปทางขี้เหร่ด้วยซ้ำ แต่ได้คุณยายนี่แหละจับขัดเนื้อขัดตัวจนลูกเป็ดขี้เหร่กลายเป็นหงส์ คุณนิ่มของเธอสวยยิ่งกว่าเด็กสาววัยเดียวกันในละแวกนี้เสียอีก แต่คุณยายบอกว่าเพราะแก่แดดน่ะสิถึงได้โตเป็นสาวไว
“แต่ยิ่งโตยิ่งดื้อ ฉันจะรับมือไม่ไหวเข้าไปทุกทีแล้ว” คุณยายบ่นอย่างไม่จริงจังนัก ตอนที่นุ่มนิ่มยังเด็กกว่านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่พอยิ่งโตคุณยายยิ่งตามไม่ทัน หลายๆเรื่องที่หลานสาวเล่าให้ฟังตามประสาวัยรุ่นทำให้คุณยายเริ่มจะไม่เข้าใจเสียแล้ว อย่างวันก่อนก็เอารูปลิปสติกมาถามว่าสีไหนสวยกว่ากัน
คุณยายจนปัญญาไม่รู้จะตอบยังไงเพราะมองยังไงลิปสติกทั้งสองสีมันก็สีเหมือนกันอย่างกับแกะ
…
คนตัวเล็กนั่งอยู่บนเตียงโดยที่ยังมีแค่ผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ เคาะนิ้วกับคางของตนเองอย่างใช้ความคิด มองเสื้อผ้าที่กองอยู่เต็มเตียงไปหมด ยังเลือกไม่ได้ว่าจะใส่ชุดไหนดีเพราะสวยไปหมดทุกชุดเลย
นุ่มนิ่มชอบสีชมพู แต่ชุดกระโปรงสีฟ้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ก็อยากใส่เหมือนกัน
“คุณนิ่มอย่าเพิ่งยุกยิกสิคะ นิ่งๆก่อน พี่เปียผมไม่ถนัด” มะลิดุ ถักเปียให้นุ่มนิ่มไม่เสร็จสักทีเพราะเด็กไฮเปอร์อยู่ไม่สุขเอาเสียเลย
“หนูว่าจะใส่ชุดสีฟ้า พี่มะลิว่าดีไหม” นุ่มนิ่มถามความเห็น เงยหน้ามองอีกฝ่ายจนมะลิต้องใช้มือดันหัวกลมให้อยู่นิ่งๆ
“หรือว่าสีชมพูดี แต่หนูใส่บ่อยแล้ว งั้นสีฟ้าดีกว่า”
“จะใส่ตัวไหนคุณนิ่มก็สวยค่ะ ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็ลงไปข้างล่างนะ พี่จะไปจัดการในครัวก่อน” มะลิผูกโบว์สีขาวกับเปียทั้งสองข้างเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะลุกขึ้น
“ค่า ~ เข้าใจแล้วค่ะ” เจ้าตัวเล็กรับคำ รอจนพี่เลี้ยงออกจากห้องไปถึงได้ลุกขึ้นมาแต่งตัว นุ่มนิ่มดึงผ้าเช็ดตัวออกพาดไว้บนเตียง ร่างเกือบเปลือยมีเพียงกางเกงชั้นในลูกไม้สีขาวปกปิดส่วนล่างไว้
เท้าเล็กเดินมาที่หน้ากระจกหมุนตัวซ้ายขวาเพื่อมองสำรวจร่างกายของตนเอง
นุ่มนิ่มสะบัดผมยาวๆไปข้างหลังเพื่อมองเงาสะท้อนในกระจกชัดๆ หน้าอกก็พอมีแต่เล็กจิ๋วนิดเดียว ตอนอายุสิบสองเคยแอบซื้อยาคุมมากินตามที่เพื่อนๆบอกกันว่ากินแล้วจะทำให้มีหน้าอก แต่มันก็ไม่ได้เห็นผลอะไรชัดเจน
อยากจะปรึกษาคุณหมออย่างจริงจังเรื่องเทคฮอร์โมนอยู่หรอก แต่บอกคุณยายไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี นุ่มนิ่มไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องรับสภาพอยู่กับนมแบนๆต่อไป โชคดีหน่อยที่เป็นคนตัวเล็กอยู่แล้ว ส่วนสูงแทบจะไม่แตะ160เซนติเมตรด้วยซ้ำ แถมเสียงยังไม่แหบห้าวเลยยิ่งทำให้ดูเหมือนผู้หญิงเข้าไปใหญ่
เด็กน้อยเปิดลิ้นชักตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อชั้นในสีเดียวกับแพนตี้ออกมาใส่ ถึงหน้าอกของนุ่มนิ่มจะไม่ได้ใหญ่มากแต่มันก็ไม่ได้เล็กเหมือนของผู้ชายสักหน่อย
ถ้าไม่ใส่เสื้อในก็จุกโผล่กันพอดี แค่เวลานอนเท่านั้นแหละที่นุ่มนิ่มจะโนบรา
ในที่สุดก็ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะใส่ชุดสีฟ้า มันไม่ใช่สีฟ้าเข้มๆแบบที่ไม่ชอบ แต่เป็นสีฟ้าโทนเบบี้บลูกำลังน่ารัก ความยาวของกระโปรงสั้นเหนือเข่ามานิดหน่อยส่วนด้านบนเป็นสายเดี่ยวเข้ากับระบายลูกไม้สีขาวตรงช่วงอก
ชอบจังกระโปรงฟูๆน่ารัก นุ่มนิ่มหมุนตัวไปมาหลายครั้งให้กระโปรงสะบัดเล่นๆจนพอใจก่อนจะขยับมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง หยิบจับเครื่องสำอางขึ้นมาแต่งหน้าอย่างที่ชอบ ทาแป้งบางๆ ปัดแก้มสีหวานละมุน เขียนคิ้วให้ได้รูปและปิดท้ายด้วยทิ้นและลิปกลอส
สวยจะตาย นุ่มนิ่มชอบแต่งหน้า ชอบทาลิปสวยๆ แต่คุณยายกลับบอกว่าแก่แดด ไม่เห็นจะแก่แดดตรงไหนเลย เดี๋ยวนี้ใครๆก็แต่งหน้ากันทั้งนั้น
หลังจากเพิ่มความมั่นใจครั้งสุดท้ายด้วยโคโลญจ์กลิ่นหอมอ่อนๆนุ่มนิ่มก็พาตนเองเดินกลับลงมาที่ชั้นล่าง คุณยายกับพี่มะลิน่าจะอยู่ในครัวเพราะบ้านเงียบมาก นุ่มนิ่มไม่อยากจะเข้าไปในครัวเพราะกลัวว่ากลิ่นควันจะติดผมเอา เลยนั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านรอ
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามา นุ่มนิ่มชะเง้อมองพลางขมวดคิ้วเพราะไม่คุ้นกับรถที่จอดอยู่ เป็นรถยุโรปสีขาวสองประตู รถราคาแพงหรูหราแบบนี้ไม่ค่อยมีคนขับมากนัก ที่กรุงเทพอาจจะมีให้เห็นเกลื่อนถนน แต่ที่เชียงใหม่แถมยังเป็นอำเภอที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองแทบจะไม่เคยเห็นใครขับ
นุ่มนิ่มลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อประตูรถฝั่งคนขับเปิดออก เจ้าของรถก้าวลงมาจากรถแล้ว เป็นผู้ชายตัวสูง ผิวขาวเหมือนลูกคนจีน ดวงตากลมโตมองไล่ตั้งแต่รองเท้าหนังสีดำไล่ขึ้นมาถึงกางเกงขายาวสีเดียวกัน และเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มแขนยาวที่พับแขนเสื้อขึ้นมาจนถึงข้อศอก
และเมื่อเงยหน้ามองใบหน้าของคนแปลกหน้าหัวใจของนุ่มนิ่มก็เต้นตึกตัก
ใจเต้นแรงเหมือนกับตอนที่ไปเดินเที่ยวงานวัดกับคุณยายแล้วปาลูกโป่งได้ตุ๊กตาหมีตัวที่ใหญ่ที่สุด
เป็นความรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ แต่นอกจากหัวใจเต้นแรงแล้วสองแก้มยังร้อนวูบวาบอีกด้วย
พี่เชนตัวจริงหล่อมากเลย อย่างกับพระเอกละครจริงๆด้วย
นุ่มนิ่มทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอะไรด้วยเลยหันหลังวิ่งปรู๊ดกลับเข้าบ้าน ส่วนเชนถึงกับงง เขาหัวเราะขำกับท่าทางของเด็กสาวแปลกหน้า
ไม่เห็นรู้ว่าบ้านคุณยายมีเด็กผู้หญิงด้วย คุณยายไม่เคยบอกเขา
เขาก้าวเข้ามาในบ้านเห็นบ้านเงียบ เลยวางของที่หอบหิ้วมาด้วยไว้บนโต๊ะแถวนั้นก่อนจะเดินหาคุณยายจนทั่วบ้าน ก่อนจะมาเจอท่านที่ห้องครัว
รวมถึงยัยเด็กผมเปียนั่นด้วย ยืนพันแข้งพันขาคุณยายอยู่ตรงนั้น
“คุณยาย สวัสดีครับ” เชนยกมือไหว้คุณนายแท้ๆของตนเอง คุณยายประไพที่กำลังยืนสั่งมะลิให้เบาไฟบนเตาลงหน่อยถึงกับตกใจ คนแก่ยกมือขึ้นทาบอก
แต่พอหันกลับมาและเห็นหน้าของหลานชาย รอยยิ้มยินดีก็ปรากฏบนใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัย
“พ่อเชน! ตายแล้ว มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” คุณยายเดินเข้ามาลูบหน้าลูบตัวหลานยกใหญ่ ไม่เจอกันแค่สองสามปีหลานชายคนเดียวโตเป็นหนุ่มขึ้นผิดหูผิดตา ดูท่าจะสูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
“เพิ่งมาถึงเดี๋ยวนี้เองครับ” เชนตอบคุณยาย แต่สายตาจับจ้องยัยตัวเล็กที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังของคุณยายเสียมากกว่า ผู้อาวุโสราวกับล่วงรู้ความคิด มือเหี่ยวย่นดึงแขนเล็กให้นุ่มนิ่มออกมายืนข้างๆ
“ไหว้พี่เชนเขาสิเจ้านิ่ม” พอคุณยายบอกนุ่มนิ่มเลยยกมือไหว้อีกฝ่าย แต่ไม่ค่อยกล้าสบตาเท่าไหร่เพราะเขิน
“สวัสดีค่ะ พี่เชน”
เชนรับไหว้คนอายุน้อยกว่า เขาไล่สายตามองใบหน้าหวาดที่แทบจะมุดหายไปกับไหล่ของคุณยาย ไม่รู้ว่ายัยหนูเป็นใคร แต่หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา ขนาดเห็นหน้าไม่ชัดเพราะน้องเอาแต่หลบหน้ายังมองออกเลยว่าน่ารัก
“ตัวเล็กชื่ออะไรคะ ?” เขาถามด้วยรอยยิ้ม หวังจะผูกมิตรกับน้อง เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังคุณยายแบบนี้คงจะกลัวเขา
“ชื่อนุ่มนิ่ม” นุ่มนิ่มตอบเสียงเบา ไม่กล้ามองหน้าพี่เชนเลย ใจเต้นแรงตึกตักไปหมดแล้ว แถมหน้ายังร้อนมากด้วย
ได้ยินพี่เชนตอบกลับมาว่าชื่อน่ารักจัง อยากรู้ว่าพี่เขาทำหน้ายังไงตอนที่พูดแต่ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง จนกระทั่งเสียงทุ้มถามคุณยาย นุ่มนิ่มถึงได้เงยหน้าขึ้นอ้าปากค้างกระพริบตาปริบๆ
“แล้วน้องชายที่คุณยายพูดถึงล่ะครับอยู่ไหน ตั้งแต่มาถึงผมยังไม่เห็นเลย”
นุ่มนิ่มคิดว่าสองแก้มคงจะแดงกว่าเดิมอีกแน่ๆ พี่เชนบ้า ถามอะไรก็ไม่รู้ น้องชายอะไรกัน ไม่มีสักหน่อย!
คุณยายหัวเราะ ลูบผมนุ่มนิ่มเบาๆก่อนจะตอบ
“เจ้านิ่มนี่แหละ น้องชายของพ่อเชนน่ะ”
…
นุ่มนิ่มจะโกรธแล้ว จะโกรธแล้วจริงๆนะ ไม่ชอบเลยที่อีกฝ่ายมองเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง อยากรู้ก็ถามสิไม่ใช่เอาแต่จ้อง มองบนมองล่างอะไรก็ไม่รู้อยู่ได้
“พี่เชนมองอะไรคะ” นุ่มนิ่มถามคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกัน ทนไม่ไหวเลยต้องถามเพราะไม่อย่างนั้นต้องพรุนไปทั้งตัวเพราะสายตาของพี่เชนแน่ๆ
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” พอโดนน้องทักเขาถึงได้รู้ตัวว่าเผลอมองนานไปหน่อย ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแค่สงสัยเพราะเด็กน้อยตรงหน้าไม่เหมือนกับที่คุณยายเคยเล่าให้ฟัง
คุณยายบอกว่ามีหลานชายคนใหม่ที่เพิ่งรับมาอยู่ด้วยเมื่อสองปีก่อน อยากให้เขาเอ็นดูน้องชายคนใหม่ด้วย พอมาเห็นกับตาเขาก็เห็นแต่เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ชื่อนุ่มนิ่มคนนี้ ไม่เห็นจะมีน้องชายอย่างที่คุณยายว่าเลย
แต่เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เพราะคุณยายบอกว่านุ่มนิ่มคือน้องชายคนที่ว่า ก็คงจะเป็นไปตามนั้น
“พี่ซื้อของมาฝากหนูด้วยนะ” เชนส่งถุงขนาดใหญ่ที่เขาหอบหิ้วมาด้วยให้น้อง นุ่มนิ่มพูดของคุณเบาๆและรับไป คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเมื่อเปิดถุงออกและหยิบของข้างในออกมาทีละชิ้น
มีทั้งหุ่นยนต์อะไรก็ไม่รู้ที่นุ่มนิ่มไม่รู้จัก รวมถึงโมเดลรถที่ไม่เห็นว่ามันจะสวยตรงไหน
“หนูไม่เล่นหุ่นยนต์ แล้วก็ไม่ชอบรถด้วย” นุ่มนิ่มเบะปาก เก็บของลงใส่ถุงแล้ววางไว้บนโต๊ะ แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบ
“พี่คิดว่าหนูเป็นผู้ชาย พี่ก็เลย…”
“หนูเป็นผู้หญิง!” เสียงเล็กพูดขึ้น ไม่ชอบเลยเวลาที่ใครๆบอกว่านุ่มนิ่มเป็นผู้ชาย ถึงเพศสภาพภายนอกจะเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ก็พยายามจะทำทุกอย่างแล้วเพื่อให้ตนเองเป็นไม่ต่างจากผู้หญิงคนหนึ่ง
พอมาโดนพูดแทงใจดำแบบนี้เลยโกรธมาก พี่เชนไม่เข้าใจผู้หญิงเลย!
“ครับๆ พี่รู้แล้ว” คนอายุมากกว่าหลุดขำเมื่อเห็นหน้ายุ่งๆของอีกฝ่าย มือหนาเอื้อมมาลูบผมนุ่มเบาๆแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ถ้าไม่ชอบหุ่นยนต์แล้วหนูชอบอะไรคะ ?”
“ตุ๊กตา”
“งั้นเอาไว้พี่จะซื้อตุ๊กตาให้เป็นการไถ่โทษ ให้หนูเป็นคนเลือกเองเลยดีไหม” เชนไม่เคยมีน้อง ไม่รู้ว่าจะปลอบใจเด็กต้องทำยังไง เลยทำได้แค่พยายามเอาใจไว้ก่อน และเหมือนจะได้ผลเสียด้วยเพราะน้องเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่เป็นประกาย
“พี่เชนใจดีจัง” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าหวาน ดวงตากลมโตหยีลงจนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เชนกำลังห้ามใจตนเองไม่ให้เผลอบีบแก้มกลมๆของน้อง
การขับรถจากกรุงเทพขึ้นมาถึงเชียงใหม่เพื่อเยี่ยมคุณยายในรอบหลายปีไม่เสียเปล่าแล้ว เอาไว้ค่อยถามคุณยายอีกทีว่าไปหาน้องสาวน่ารักๆแบบนี้จากไหนมาให้เขา
“แล้วพี่เชนจะอยู่เชียงใหม่กี่วัน” นุ่มนิ่มชวนคุย เริ่มสนิทใจกับอีกฝ่ายมากขึ้น คนอายุมากกว่าเอนหลังพิงเก้าอี้ตอบด้วยท่าทางสบายๆ
“แค่สองสามวัน พี่ต้องกลับไปทำงานต่อ”
“พี่เชนทำงานอะไร” ตัวแสบเริ่มทำตัวเป็นเจ้าหนูจำไมถามไม่หยุด เชนไม่ได้เบื่อที่จะตอบคำถาม คุยๆไปก็เพลินดีเหมือนกัน
“ทำงานบริษัทครับ”
“หนูก็อยากทำงานไวๆแล้ว อยากหาเงินให้ได้เยอะๆเอามาซื้อลิปกับเสื้อผ้าสวยๆ” ถึงคุณยายจะบ่นว่าเสื้อผ้าเยอะเต็มตู้ไปหมดแล้วแต่นุ่มนิ่มก็ยังอยากจะซื้อชุดสวยๆอีกหลายชุดเลย ไม่นับเครื่องสำอางที่พอจะซื้อทีไรก็โดนคุณยายดุจนหงอยทุกที
“หนูอยากได้อะไรก็บอกพี่สิคะ พี่จะซื้อให้ทุกอย่างเลย” เชนพูดทีเล่นทีจริง นุ่มนิ่มย่นจมูกใส่
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พี่เชนจะมาซื้อของให้หนูทำไม”
“ใครว่าเราไมได้เป็นอะไรกัน เป็นพี่ชายกับน้องสาวนี่ไงคะ” พี่เชนพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่นุ่มนิ่มหายใจไม่ทั่วท้องเพราะสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองเขา มันวิบวับแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของสายตานั้นแต่นุ่มนิ่มก็เขินหน้าแดงไปก่อนแล้ว
…
“ถ้าหนูไม่สบายใจพี่ออกไปนอนข้างนอกก็ได้นะ” เชนพูดเมื่อเห็นน้องทำหน้าแปลกๆ นุ่มนิ่มคงจะไม่อยากนอนร่วมห้องกับเขาเท่าไหร่นัก ถึงจะเป็นผู้ชายแต่จิตใจของน้องเป็นผู้หญิง จะให้มานอนเตียงเดียวกันคงจะแปลกๆเพราะเขากับน้องเพิ่งจะรู้จักกันวันนี้เอง
บ้านหลังนี้มีห้องนอนแค่สองห้องคือห้องของคุณยายและห้องของนุ่มนิ่ม คุณยายเลยบอกให้เขานอนกับน้อง ตอนที่คุณยายบอกเจ้าตัวเล็กรับคำเป็นอย่างดีแต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น พออยู่ในห้องด้วยกันสองคนความเงียบก็โรยตัวเข้าปกคลุม
นุ่มนิ่มกอดตุ๊กตาอยู่บนเตียง มองเขาหลายครั้งแต่ไม่พูดอะไร เชนเลยเป็นฝ่ายสรุปเอาเองว่าน้องไม่อยากนอนกับเขา
“แต่ข้างนอกไม่มีโซฟานะ มีแต่เก้าอี้แข็งๆพี่เชนจะนอนได้เหรอ” นุ่มนิ่มยังเป็นห่วงกลัวว่าพี่จะนอนไม่ได้ แต่ก็ยังแอบลังเลถ้าจะให้นอนเตียงเดียวกัน
“พี่ปูผ้านอนพื้นก็ได้ครับ ไม่เป็นไร พี่ทนได้”
ปากแดงเบะออกเมื่อได้ยินแบบนั้น เหมือนพี่กำลังเรียกคะแนนสงสารอยู่เลย นุ่มนิ่มจะต้องกลายเป็นคนใจร้ายถ้าปล่อยให้พี่เขานอนบนพื้นจริงๆ
สุดท้ายนุ่มนิ่มเลยเรียกไว้ก่อนที่เชนจะทันได้เปิดประตูเดินออกจากห้องไป
“พี่เชน”
“คะ ?” เชนหันกลับมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าน้องเรียกเขาทำไม แต่มุมปากกลับยกยิ้มเหมือนคนเจ้าเล่ห์
เมื่อกี้ทำเป็นเศร้าเพราะอยากให้สงสารจริงๆด้วย ร้ายกาจที่สุดเลย
“นอนกับหนูก็ได้”
“อะไรนะ พี่ไม่ได้ยินเลย”
นุ่มนิ่มกัดปากฉับ รู้ตัวว่าโดนแกล้ง แต่ก็ยอมพูดใหม่ด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม
“พี่เชนนอนกับหนูก็ได้!”
“ได้ยินชัดเลย พี่นอนกับหนูได้เนอะ” จากที่จะเดินออกไปเชนเดินกลับมานั่งลงที่เตียง นุ่มนิ่มรีบลุกขึ้นขยับไปจนหลังชนกับตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
“หนูจะไปอาบน้ำ ถ้าพี่เชนง่วงก็นอนก่อนเลยนะ” พูดเร็วๆและเปิดตู้เสื้อผ้าหอบทั้งผ้าเช็ดตัวและชุดนอนเดินเข้าห้องน้ำไป เชนหัวเราะกับตนเองมองประตูห้องน้ำที่ปิดลง
เพิ่งจะสองทุ่มครึ่งใครเขาจะนอนกันตอนนี้ เขายังไม่ได้อาบน้ำเลย แต่ถ้าเข้าไปอาบพร้อมกับน้องตอนนี้อาจจะโดนไล่ตะเพิดออกมา
แล้วทำไมเขาต้องคิดอะไรเหมือนคนโรคจิตแบบนี้ด้วยวะ สงสัยจะเพี้ยนไปแล้ว
เชนพิงหัวเตียงกดโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ราวยี่สิบนาทีต่อมาเจ้าของห้องก็เดินออกมาจากห้องน้ำ กลิ่นหอมฟุ้งของครีมอาบน้ำหอมนำมาก่อน
ส่วนต้นเหตุของความหอมก็ยืนหันหลังให้เขาเพราะกำลังพาดผ้าเช็ดตัวไว้กับพนักเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะก้มๆเงยๆทาโลชั่นอยู่ตรงนั้น กางเกงขาสั้นที่น้องใส่มันไม่รักดีเกือบจะเห็นแก้มก้นอยู่แล้วเพราะสั้นมาก
ร่างสูงใหญ่กระแอมเพื่อเรียกสติตนเอง พยายามวางสายตาไว้ที่อื่นแต่จนแล้วจนรอดจุดโฟกัสของเขาก็ไม่พ้นบั้นท้ายกลมที่ปกปิดไว้ด้วยกางเกงขาสั้นตัวจิ๋วอยู่ดี
ขาวมาก แล้วคงจะนุ่มเด้งมากด้วย ให้ตายสิวะ“นุ่มนิ่มคะ”
“ขา” น้องหยุดมือจากการทาโลชั่นแล้วหันมามอง เนื้อครีมสีขาวยังเลอะเต็มมืออยู่เลย
เชนใกล้จะบ้าเข้าไปทุกทีแล้ว เขากำลังจินตนาการว่าครีมบนมือน้องเป็นอย่างอื่น เหงื่อเริ่มผุดซึมตามขมับจนต้องเปลี่ยนมานั่งตัวตรง
“กางเกงหนูสั้นไปไหม” เขาใช้สายตานำทางมองกางเกงของน้อง ดวงตากลมหลุบมองตามพร้อมขมวดคิ้ว
“ไม่สั้นค่ะ หนูใส่แบบนี้นอนทุกคืนแหละ ใส่ขายาวแล้วมันอึดอัด” นุ่มนิ่มตอบ เวลานอนก็ต้องใส่เสื้อผ้าสบายๆสิ มาบอกว่าสั้นอะไรกัน ใส่แบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว
“พี่เชนไปอาบน้ำสิ ถ้าดึกกว่านี้อากาศจะเย็นนะ” น้องไล่ ก่อนจะหันกลับไปทาโลชั่นต่อ คนโดนไล่ยอมลุกจากเตียงมาค้นของใช้ส่วนตัวในกระเป๋าและเดินเข้าห้องน้ำไปแต่โดยดี
นุ่มนิ่มกำลังทาครีม ลงเซรั่มแล้วตบๆยังไม่ทันจะซึมเลยพี่เชนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
พวกผู้ชายอาบน้ำเร็วจริงๆด้วย แค่สิบนาทีก็เสร็จแล้ว
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองผ่านเงาสะท้อนในกระจกว่าพี่เชนกำลังทำอะไรอยู่ เห็นอีกฝ่ายนั่งลงที่ปลายเตียงพลางเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก
พี่เชนผมเปียกๆที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงวอร์มขายาวสำหรับใส่นอน เซ็กซี่จนนุ่มนิ่มแทบละสายตาไม่ได้
“มองอะไรคะตัวเล็ก ?”
“เปล่าค่ะ หนูง่วงแล้ว” พอโดนจับได้ก็รีบทำเป็นมองไปทางอื่น นุ่มนิ่มทาครีมให้เสร็จและปีนขึ้นเตียงซุกตัวลงใต้ผ้าห่มทันที นอนหันหลังให้คนที่ยังเช็ดผมไม่เสร็จ
“ยังไม่สี่ทุ่มเลย”
“หนูเป็นคนนอนเร็ว”
เชนยิ้มขำ มองก้อนกลมๆที่ขดอยู่ในผ้าห่ม เขารีบเช็ดผมให้เสร็จเพราะไม่อยากรบกวนคนง่วง พอผมแห้งดีแล้วก็ลุกไปปิดไฟและกลับมานอน เตียงของนุ่มนิ่มไม่ได้กว้างมาก พอมีผู้ชายตัวโตๆมาร่วมเตียงด้วยอีกคนเลยแคบลงไปถนัดตา
“ขอโทษนะคะที่เบียด แต่ว่าเตียงมันเล็ก” เสียงทุ้มบอกชิดใบหูในระยะห่างที่น้อยมากแผ่นอกเขาชนกับหลังของน้อง นุ่มนิ่มสะดุ้งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่กล้าขยับตัวด้วยซ้ำเพราะคนด้านหลังขยับมาใกล้มากจนบั้นท้ายสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ดุนดันอยู่
นุ่มนิ่มเห็นตั้งแต่เมื่อกี้แล้วว่ากางเกงของพี่เชนค่อนข้างอันตราย ไม่ได้ตั้งใจมองแต่ดันเผลอเห็นเข้าว่าส่วนนั้นมันนูนออกมาเป็นลำอย่างชัดเจน
ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหลังใบหูและซอกคอทำให้นุ่มนิ่มขนลุกชันไปทั้งร่าง อาจจะเพราะขับรถมาเหนื่อยพี่เขาเลยหลับไปแล้ว แต่คนที่นอนไม่หลับได้แต่จิกมือลงกับขาตนเอง
ร่างกายมันกำลังเกิดความผิดปกติ นุ่มนิ่มพ่นลมหายใจเพื่อระงับอาการหวิวลึกในท้องน้อย ไม่รู้ว่าพี่เชนเป็นคนนอนดิ้นหรือเปล่าแต่แขนยาวๆพาดลงมาบนเอวและกอดไว้ นุ่มนิ่มอยากจะร้องกรี๊ดออกมาตรงนั้น ผิวเนื้อบริเวณที่โดนสัมผัสร้อนผ่าวไปหมด
จะลุกหนีตอนนี้ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น มันต้องน่าอายมากแน่ๆถ้าพี่เชนถามว่าเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำ
แต่จะไม่ไหวแล้วนะ ตรงนั้นปวดใหญ่แล้ว กลิ่นหอมแบบผู้ชายของพี่เชนกับแขนหนักๆที่กอดเอวอยู่ทำให้นุ่มนิ่มสติหลุดไปแล้ว มือเล็กสอดล้วงเข้ามาในกางเกงขาสั้นของตนเอง แตะต้องส่วนที่กำลังขยายตัวน่าอาย ฟันคมกัดริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ต้องเผลอหลุดเสียงออกมาแน่ๆ
ใบหน้าหวานซุกลงกับหมอนในขณะที่ขยับมือช้าๆ จินตนาการถึงร่างที่หนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของพี่เชนกำลังโอบกอดและสัมผัสอย่างหยาบคาย ลมหายใจของนุ่มนิ่มถี่กระชั้น ฝ่ามือเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวข้นหนืด
ต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่หลุดครางออกมาตอนที่สะโพกกระตุกเมื่อเดินทางมาจนถึงที่สุดของฝั่งฝัน นุ่มนิ่มหายใจหอบ เช็ดมือที่เลอะกับผ้าปูที่นอน พอคิดว่าทำอะไรลงไปก็หน้าร้อนลามไปจนถึงใบหู
พี่เชนแย่มาก แย่ที่สุดเลยที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้!
TBC.
สวัสดีค่ะ ~ เอายัยนิ่มเรื่องยาวมาเสิร์ฟตามคำเรียกร้องแล้ว อิอิ ตอนแรกมาลูกก็นอนล้วงเลย แม่เครียด
แต่ยังแสบไม่สุดเพราะตัวแสบยังไม่ได้หนีตามผู้ชายเข้าเมืองกรุง เลเวลของน้องจะอัพในทุกๆตอน5555
ฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ ส่งฟีดแบ็คและติ-ชมได้เสมอค่ะ รักรัก
#เรื่องของหนูนิ่ม