เพื่อนร่วมงานแบบที่ 8
เพื่อนร่วมงานบางคนก็โมโหร้ายและเขาอาจทำบางอย่างที่เราไม่คิดว่าเขาจะทำ
“ลูกกาฝากน่ะสิ”
“อ้าว เด็กนั่นลูกติดแม่มาเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
“ก็ใช่น่ะสิ ลูกคุณประวิทย์ก็ไม่ใช่ ยัยแม่น่ะมาตกถังข้าวสาร มีลูกติดมาคุณประวิทย์ก็รักเหมือนลูก เอ็นดู อุ้มชูเหมือนลูกตัวเอง”
“คงหวังมากอบโกยเต็มที่ อยู่ดีกินดีไปสิบชาติ ใครไม่รู้ก็นึกว่าลูกคุณประวิทย์แต่หารู้ไม่ หน้าตาไม่ได้เหมือนกันเลย ใครมองก็รู้หมดแหละ”
“ดูหน้าตามันสิ พอได้ดีหน่อย ทำเป็นหยิ่งจองหอง แม่มันก็พอกัน”
“ใครจะไปนับญาติกับมัน ไอ้ลูกกาฝากแบบนั้น”
ชยาไม่เข้าใจ ทำไมคุณลุงคุณป้า และคุณอาต้องพูดแบบนั้นด้วย ทั้งที่อยู่ต่อหน้าคุณพ่อ ทุกคนก็ดูจะรักใคร่แล้วก็ชื่นชมชยาดีทุกอย่าง
“คุณประวิทย์น่ะโชคดี ได้เมียแล้วยังแถมลูกชายให้ด้วย ไม่ต้องทำเอง”
คำพูดชื่นชมที่แฝงคำประชดประชันเหน็บแนมมาด้วย ทำให้แม่ของชยาได้แต่ฝืนยิ้มทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดหยอกล้อที่มีบางอย่างแอบแฝงของญาติ ๆ ของสามี
เธอจับมือของลูกชายตัวน้อยเอาไว้แน่น และพยายามฝืนยิ้มทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา แต่จดจำทุกคำพูดที่ญาติ ๆ ของสามีพูด
“แม่ครับ ลูกกาฝากแปลว่าอะไร”
ได้ยินสิ่งที่ลูกชายถาม เธอก็ทำได้แค่ฝืนยิ้มและได้แต่ปลอบใจให้ลูกชายไม่ต้องคิดมาก
“ลูกไปฟังใครเขาพูดมา”
“ก็คุณอากับคุณลุงคุณป้าพูดว่า น้องยาเป็นลูกกาฝาก”
คำพูดซื่อ ๆ ของเด็กชายตัวน้อย ทำให้เธอขบริมฝีปากแน่น และครุ่นคิดบางอย่างในใจ
“อีกไม่นานจะไม่มีใครกล้าเรียกชยาว่าลูกกาฝากอีกแล้วนะครับ”
เธอบอกกับลูกชายแบบนั้น และเธอสัญญาว่าเธอจะทำให้ได้
รอก่อนเถอะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกว่านี้ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะไม่มีทางมาพูดจาแบบนี้ใส่ชยาได้อีกเลย
+++
“คุณแม่คะ แต่น้องยาแกแย่งของจากมือเพื่อนไป คุณครูก็เห็นเองกับตา ครูต้องสอนเด็ก เรื่องที่ถูกที่ควรนะคะ น้องยาทำแบบนี้ไม่ได้นะคะคุณแม่”
“ทำไมจะทำไม่ได้ ฉันมีเงิน ลูกฉันจะทำอะไรก็ได้ คุณมันก็แค่ครูอนุบาลต๊อกต๋อย เงินเดือนทั้งปี ยังไม่พอจ่ายค่าเทอมลูกฉันเลย”
นอกจากไม่ยอมรับสิ่งที่ครูบอกเรื่องพฤติกรรมแย่ ๆ ของชยาแล้ว แม่ยังส่งเสริมและสนับสนุนให้ชยาเป็นแบบนั้นอีก
ไม่ว่าชยาจะทำอะไรก็ไม่เคยผิด
ไม่ว่าจะแกล้งเพื่อน หรือทำให้เพื่อน ๆ ที่อยู่ร่วมกันต้องมีปัญหาแต่ชยาก็ไม่เคยผิด
“ทำไมคุณครูต้องดุชยาด้วยครับแม่ ชยาแค่เอายางลบของเพื่อนมาเล่นแค่นี้เอง”
ที่จริงคือหยิบเอาตามใจชอบ แต่ไม่ได้ขอเพื่อน และเพื่อนก็ร้องไห้ที่ถูกชยาแย่งของไป
“น้องยายังเด็ก แกต้องเรียนรู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้เมื่ออยู่กับเพื่อน ๆ นะคะ”
“คุณก็รู้ว่าแกยังเด็ก แล้วจะเอาอะไรกับเด็ก แค่เด็กเล่นกันแล้วทะเลาะกันเดี๋ยวก็ดีกัน คุณจะเอาอะไรนักหนา ก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเด็กก็คือเด็ก ยังจะให้พูดอะไรอีก”
แม่ของชยาไม่เคยรับฟังใครทั้งนั้น
และเธอเชื่อว่าลูกชายของเธอต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด
ชยาเติบโตมาแบบนั้น เติบโตมาจากความรักของแม่ที่มีมากเกินไปจนล้น อยากได้ต้องได้ อยากทำอะไรก็ทำได้เพราะมีแม่คอยปกป้องอยู่ตลอด
“ชยาจะฟ้องแม่”
ทุกครั้งที่ทะเลาะกับเพื่อน ชยาก็จะพูดแบบนั้น แม่จะมาอาละวาดที่โรงเรียน ต่อว่าผู้ปกครองคนอื่น ๆ และครูที่สอน สุดท้ายคำพูดเดิม ๆ ที่แม่ของชยามักจะพูดให้คนอื่น ๆ ฟังเสมอ
“ลูกฉันเป็นเด็กดี เด็กคนอื่น ๆ มันก็อิจฉากัน หาเรื่องสารพัดมาพูดมาว่า ใครจะว่ายังไงฉันไม่สนหรอกนะ ฉันมีเงิน มีอะไรเสียหายก็ว่ามา ฉันจะจ่ายให้จะได้จบ ๆ เรื่องไป”
ทุกคนต่างเมินหน้าหนี เพื่อนร่วมห้องไม่อยากเล่นด้วย เพื่อนอยากเล่นกับชยาตอนที่ชยามีของเล่นใหม่ ๆ แพง ๆ เท่านั้น หลังจากทุกคนเล่นจนพอใจแล้วก็จากไป
“แม่ครับ ทำไมเพื่อน ๆ ไม่อยากเล่นกับน้องยา”
ชยาก็แค่สงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกเพื่อน ๆ เมินเฉยใส่
“เพื่อนอิจฉาน้องยาไง เพื่อนที่ไม่มีแบบที่น้องยามีก็คอยอิจฉา อย่าไปสนใจเลยลูก คนพวกนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ”
ปลูกฝังชุดความคิดแบบผิด ๆ ให้ตั้งแต่เล็กจนโต และชยาก็ใช้ชีวิตแบบนั้นมาตลอด ไม่รู้จักคำว่าเห็นแก่ตัว ไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไง ไม่เคยเข้าใจการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
“ไอ้ลูกกาฝากเอาไปโรงเรียนไหนคนก็เมินหนี”
“ยัยแม่น่ะตัวดีเลย เลี้ยงลูกยังไงให้เป็นแบบนั้น ไปที่ไหนคนก็ส่ายหน้า”
ชยายังคงได้ยินคุณลุง คุณป้า และคุณอาพูดแบบนั้นอยู่บ่อย ๆ จนโตแต่ชยาไม่คิดจะสนใจอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งวันที่คุณพ่อเสีย
“คุณประวิทย์ไม่อยู่ ทรัพย์สมบัติพวกนี้จะไปไหนได้ สบายทั้งชาติทั้งแม่ทั้งลูก ลูกแท้ ๆ ก็ไม่ใช่ แต่พอพ่อเลี้ยงตายก็ได้ไป บุญหล่นทับจริง ๆ”
ชยาได้ยินสิ่งที่ญาติ ๆ พูดชัดเจน และชยาทำได้แค่เก็บไว้ในใจ
“อยากจะสบายเหมือนลูกกาฝากจริง ๆ มาถึงก็มาชุบมือเปิบเอาไปหมดทุกอย่าง”
ชยาไม่ได้อยากเป็นลูกกาฝาก ญาติ ๆ ทุกคนรังเกียจชยากับแม่และคอยพูดจาร้าย ๆ ใส่ชยามาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต
ชยาคงจะมีความสุขไปตลอดชีวิตและไม่ต้องลำบากถ้าแม่ไม่โดนหลอกและไม่โดนโกงจนทรัพย์สินที่เคยมีหายวับไปกับตาหลังจากที่คุณประวิทย์เสียไปได้ไม่นาน
“เราไม่เหลืออะไรแล้วชยาลูก เราไม่เหลืออะไรแล้ว”
แม่ร้องห่มร้องไห้ ในวันที่ทรัพย์สินถูกขายออกไปเรื่อย ๆ จนหมดทั้งบ้าน
“มันโกงแม่ มันโกงแล้วมันก็หอบเงินหนีไปหมดแล้ว ฮือ ฮือ แม่จะทำยังไงดีชยา แม่จะทำยังไงดี ไอ้คนสารเลว”
“สมน้ำหน้ามัน ยัยแม่น่ะตัวดี ทั้งแม่ทั้งลูกกาฝาก ไม่เหลืออะไรแล้ว”
ชยาไม่เข้าใจ ทุกอย่างดูสับสนไปหมด คำพูดที่ได้ยินจากญาติ ๆ ยังคงดังก้องไปก้องมาในหู เรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และบางช่วงเวลาที่ชยาไม่อยากจำก็เหมือนกำลังหมุนวนกลับมาอีกครั้ง
“คุณนี่มันกาฝากของแผนกรับสินค้าจริง ๆ”
“คุณนี่มันกาฝากของแผนกรับสินค้าจริง ๆ”
“คุณนี่มันกาฝากของแผนกรับสินค้าจริง ๆ”
เสียงของเบลดังก้องไปก้องมา และชยาก็กระพริบตามองหน้าเบลที่ยังคงส่ายหน้าและทำหน้าเย้ยหยันชยา เบลทำแบบที่คุณอาและคุณลุงคุณป้าเคยทำ
คำพูดของเบลเหมือนจะดังขึ้นเรื่อย ๆ และโดยไม่ทันคิดชยาก็ใช้กระดานเช็กเอกสารรับสินค้าที่อยู่ในมือฟาดไปที่หน้าของเบล
“เฮ้ย คุณชยากับพี่เบลตีกัน คุณชยาไม่เอา แยก ๆ พี่เบลปล่อย อย่าเอาเรื่อง พี่เบล หยุดพอพี่ หยุด”
หลังจากนั้น ชยาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง ทุกอย่างดูสับสนไปหมดทั้งคนที่มาแยกชยาออก ทั้งคนที่ลากเบลออกไป
รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก ตอนที่เซถลาล้มลงบนพื้น
พนักงานแผนกรับสินค้าหลายคนช่วยกันดึงเบลออกไปแล้ว แต่ไม่มีใครสนใจชยาเลยสักคน
“คุณนี่มันกาฝากของแผนกรับสินค้าจริง ๆ”
คำพูดของเบลยังดังก้องอยู่ในหัว และชยาก็กระพริบตามองเบลที่ถูกพนักงานจากแผนกรับสินค้าลากออกไปสงบสติอารมณ์
ชยาไม่ใช่กาฝาก ไม่ว่าใครก็มาว่าชยาเป็นกาฝากไม่ได้ เบลสมควรโดนเอากระดานเช็กสินค้าฟาดหน้าแล้ว
ชยาก็แค่ปกป้องตัวเองจากคำพูดร้าย ๆ ที่โดนกรอกหูใส่มาตั้งแต่เด็ก
ไอ้ลูกกาฝาก ไอ้กาฝาก กาฝาก กาฝาก...
“คุณมันเป็นกาฝากของแผนกรับสินค้า”
ชยารับรู้ได้ในวินาทีนั้น ชยาเกลียดเบล เกลียดจนอยากทำให้หายไปจากโลกนี้ และชยาไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด ที่เป็นฝ่ายเอากระดานเช็กสินค้าฟาดหน้าเบล
TBC