'◉◉'ความลับของไอ้เพื่อน(รัก)B.F.secret❤️อัปเดตEP12 แลกเปลี่ยน P.2(26/5/63 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: '◉◉'ความลับของไอ้เพื่อน(รัก)B.F.secret❤️อัปเดตEP12 แลกเปลี่ยน P.2(26/5/63 )  (อ่าน 9569 ครั้ง)

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
"....​เห็นท่าก้มๆ เงยๆ แล้วก็เกิดคันไม่คันมือ ผมย่องเข้าไปบีบตูดมันได้สำเร็จ"

 :laugh: ไอ้บ้านิว เอ็งนี่มันจ้องแต่จะเล่นก้นไอ่แว่นเลยนะ ชอบเขามากๆ แล้วอะดิ หึงเขากับไอ่หมากอีกตางหาก คนที่เห็นความหึงจากไอ่นิวชัดเจนก็ไอ่กัสนี่แหละ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันมานาน :m20:
ยังไงก็ฝากไอ่กัสช่วยแซวบ่อยๆ จนไอ่นิวมันยอมรับตัวเองซะทีนะว่าหึงว่าหวงไอ่แว่นแล้วจริงๆ  :hao6:

รอตอนต่อไปน๊าาาาา

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
หึงเข้าแล้วววว เอาไงดี รุกเลยมั้ยนิววว

ออฟไลน์ Toxicgirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องม.4คนไหนนะ ที่จะมาเป็นสายรหัสกับเจมส์จัง ขอให้หล่อทีเถอะ เอามาฟาดกับนิวคงสนุก ส่วนเจมส์จังคงได้ปวดหัวเพิ่ม รออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
"....​เห็นท่าก้มๆ เงยๆ แล้วก็เกิดคันไม่คันมือ ผมย่องเข้าไปบีบตูดมันได้สำเร็จ"

 :laugh: ไอ้บ้านิว เอ็งนี่มันจ้องแต่จะเล่นก้นไอ่แว่นเลยนะ ชอบเขามากๆ แล้วอะดิ หึงเขากับไอ่หมากอีกตางหาก คนที่เห็นความหึงจากไอ่นิวชัดเจนก็ไอ่กัสนี่แหละ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันมานาน :m20:
ยังไงก็ฝากไอ่กัสช่วยแซวบ่อยๆ จนไอ่นิวมันยอมรับตัวเองซะทีนะว่าหึงว่าหวงไอ่แว่นแล้วจริงๆ  :hao6:

รอตอนต่อไปน๊าาาาา

อีนิวมันทะลึ่ง 555 ขอบคุณน้า

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หึงเข้าแล้วววว เอาไงดี รุกเลยมั้ยนิววว

สงสารเจมส์บ้างนะแค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว 555 ขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น้องม.4คนไหนนะ ที่จะมาเป็นสายรหัสกับเจมส์จัง ขอให้หล่อทีเถอะ เอามาฟาดกับนิวคงสนุก ส่วนเจมส์จังคงได้ปวดหัวเพิ่ม รออ่านต่อนะคะ

เตรียมตัวได้เลยจ้า น้องสายรหัสคนนี้น่ารักมาก จะมาสร้างเซอร์ไพร์สให้นิวกับเจมส์ด้วย อิอิ :katai2-1: ขอบคุณน้าา

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตอนต่อไปกำลังปั่นจ้า :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
EP.8 น้องรหัสร่วม




              กรี๊ดดดด นั่น พี่นิว พี่หมาก พี่โฟกัส

                กรี๊ดดด กูอยากได้แก็งสามผัว

                เห็นแล้วน้ำเดินเลยค้า

            …….

               

                บรรดานักเรียนชายสายนางฟ้าต่างส่งเสียงแจ้วจ้าวอยู่รอบตัวผม เมื่อพวกสามผัวแห่งโรงเรียนจิณณพัฒน์เดินเรียงหน้ากันมาอย่างกับบอยแบรนด์ ก็ไม่น่าแปลกใจ เล่นแต่งตัวมาเรียกเรตติ้งขนาดนั้น ไอ้มายด์อยู่ในชุดบาสผิวขาวสูงขาวเปลือยกล้ามหัวไหล่ ไอ้โฟกัสมาในชุดนักเรียนแต่เท่ด้วยเสื้อหนังกับกระเป๋ากีตาร์ ส่วนไอ้นิวตัวดีใส่กางเกงขาสั้น ปลดซิปเสื้อคลุมจนเห็นเสื้อกล้าม

                แหม เห็นแล้วผมไม่รู้จะชื่มชมหรือหมั่นไส้มันดี

                แต่ช่างเถอะ ที่น่าปวดหัวกว่าคือผมดันทำอุปกรณ์เก็บข้อมูลหล่นหาย คาดว่าน่าจะเป็นตอนที่โดนไอ้นิวลากมาจากห้องไอ้หมาก วันนั้นผมพยายามลุยฝนหาอยู่ทั้งคืนแต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องลงเอยสวมบทเป็นนักเรียนต่อไปโดยที่ยังไม่รู้จะมีโอกาสได้ข้อมูลอีกครั้งเมื่อไหร่ 

                “เฮ้ย…เจมส์”

                ผมที่กำลังเดินเลี่ยงกลุ่มนักเรียนรีบหันไปหาต้นเสียง

                “ไงหมาก”

                ตั้งแต่คืนนั้นผมแทบไม่ได้คุยกับมันเลย

                “ป้ายกลับด้านแล้ว” ไอ้หมากพลิกป้ายชื่อคล้องคอให้ผม  “น้องจะได้เรียกถูก P’เจมส์ 6/5”

                ไอ้หมากหันไปมองคนรอบข้างก่อนจะพูดกับผมเบาๆ

                “เป็นอะไรหรือเปล่า กูเห็นหน้ามึงเครียดๆ นะ เป็นเพราะเรื่องคืนนั้นหรือเปล่า”

                “เอ๊ย ไม่ใช่หรอก แค่เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย เออ กูกำลังจะไปลงเบียนที่ชมรมบาสพอดี” 

                “ขอบใจที่มึงไม่เทกู ไปดิ กูกำลังจะไปที่บูธพอดี” มันเข้ามากอดคอผม “ป่ะ ไปด้วยกัน”



ใครวะ พี่เจมส์เด็กใหม่หรือเปล่าไม่เคยเห็นหน้า

ว๊าย…คู่นี้ยังไง กูจิ้นว่ะ

                พี่ที่ใส่แว่น หล่อน่ารัก ใสๆ โอ๊ย เดินคู่กันแล้วเหมือนแฟนกันเลย

            กูอยากให้เขาได้กันเมิง

            เคมีเข้ากันมากๆ

           

           

            วันนี้ไอ้หมากโดยจับจ้องเป็นพิเศษเพราะอุตส่าห์เซตผมแต่งหล่อ พอมาทำสนิทสนมกับผม ก็ไม่พ้นได้ยินคำนินทา หลายคนเริ่มยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย ผมเริ่มเริ่มอึดอัด ส่วนไอ้หมากนั้นฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ไปทั่ว

                แต่ก่อนอะไรจะดูเลยเถิด ผมก็รู้สึกถึงเงามืดแวบมาอยู่ข้างตัว จินตนาการของแก็งนางฟ้าประจำโรงเรียนชายล้วนถูกทำลายทันที 

                มีผมกับไอ้หมากที่ไหน เหมือนต้องมีไอ้นิวอยู่ที่นั่น

                “มองอะไรไอ้แว่น กูแค่จะไปบูธกู” มันพูดห้วนๆ

                ผมได้แต่ทำหน้าหน่าย ไม่อยากคุยกับมัน

พอมาถึงสนามฟุตบอลผมก็เห็นบูธของแต่ละชมรมตั้งเรียงราย ไอ้นิวแยกกับผมและไอ้หมากบริเวณทางเข้าซอยโซนกีฬา
ผมยืนดูแถวคนสมัครชมรมบาสยาวเป็นหางว่าวแล้วแทบถอดใจ โชคดีที่ไอ้หมากให้ผมไปกรอกใบสมัครด้านหลังบูธเป็นกรณีพิเศษ

ขณะที่ผมกำลังลงปากกาเขียน ไอ้หมากก็นั่งลงข้างผม

                “เอ่อ ไอ้เจมส์ คือเรื่องเมื่อคืนก่อน กูไม่อยากให้มึงเข้าใจกูผิดนะ”

                “….”

                “คือกูไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรไม่ดีเลยนะเว้ย กูขอโทษนะ กูไม่อยากให้มึงมองกูผิดไปนะ” 

                เรื่องนี้ขี้ประติ๋วมากสำหรับคนวัยอย่างผม ถึงคืนนั้นไม่มีไอ้นิวโผล่มา ไอ้หมากก็ไม่มีทางได้งาบผมแน่นอน ถึงยังไงตอนนี้ผมก็ยังต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับไอ้หมากไว้ก่อนจนกว่าจะได้หลักฐานอีกครั้ง

                “เฮ้ย…คิดมากน่า กูรู้ว่ามึงไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก วันนั้นสิกูต้องขอโทษมึงที่จู่ๆ ก็กลับไปกระทันหัน”

                “ถ้ามึงไม่โกรธ งั้นกูก็สบายใจ” มันเคียงคอมองหน้าผม “กูมีเรื่องจะถามมึงหน่อย สรุปว่ามึงกับนิว พวกมึง…”

                “ไอ้เชี่ยหมาก” จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งโพล่งจากด้านหลัง ทำเอาทั้งผมกับไอ้หมากสะดุ้ง

                “เหี้ย!” ไอ้หมากรีบหันขวับไป “ตกใจหมดไอ้ฟาย มีอะไรวะไอ้นิว”

                “ไปส่งกูเข้าห้องน้ำหน่อย” มันยืนกอดอก ปากมันบอกไอ้หมาก แต่ตามันมองมาที่ผม หมายความว่าไง

                “อะไรของมึงวะ จู่ๆ ก็มาให้กูไปส่ง กูกำลังช่วยชมรมอยู่เนี่ย”

                “เออ น้องม.5 อยู่เยอะแยะ มาไปส่งกูหน่อย ไปๆ ” ไอ้นิวล็อกคอไอ้หมากเป็นเชิงบังคับ

                “เอ่อ ไอ้เจมส์เดี๋ยวกูมาละกัน”

               

ถ้าจะหวงเพื่อนขนาดนี้ก็มัดติดกันไว้เลยไป

                ผมล่ะเบื่อจริงๆ กับความงี่เง่าของไอ้นิว โตแต่ตัวเสียเปล่า

                ผมก็ไม่อยากนั่งแกร่วรอไอ้หมากเหมือนกัน สู้ไปเดินดูบูธเล่นยังดีกว่า

จากที่ผมเห็นแต่ละชมรมจะมีกิจกรรมหรือเกมเรียกแขกกันสนุกสนาน  บางบูธมีคนต่อแถวกันยาวเหยียด พอชมรมไหนโควตาเต็มก็แจ้งประกาศปิดรับสมัคร

                อีกหนึ่งที่น่าสนใจคือของชมรมมวยสากล พวกแก็งสาวเจนนุ่นโบว์ ตุ๊ดประจำห้องผมก็ชะเง้อชะแง้กันอยู่หน้าบูธ ไอ้ผมก็นึกว่าสนใจเข้าชมรม ที่ไหนได้ พวกนางแค่มาดูนักมวยถอดเสื้อแตะเป้าโชว์

                “ไอ้เจมส์ อยู่นี่เอง ไปหาไรกินกับกูเถอะ หิวแล้ว” ไอ้ปอนด์ทักผมจากด้านหลัง

                “แล้วนี่ไม่ช่วยงานชมรมเหรอ”

                “ไม่หรอก ชมรมคอม.แม่งก็ไม่รู้จะเรียกแขกยังไง คนไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว มึงดูชมรมเกาหลี ถ่ายภาพ ชมรมการแสดงนู้น แถวยาวเป็นกิโล”

                “แล้วนี่มายด์ไปไหน”

                “มันไปช่วยอาจารย์ที่งานปฐมนิเทศตั้งแต่เช้าแล้ว เดี๋ยวมันคงตามมา ไปเถอะกูหิวแล้ว”

                ไอ้ปอนด์ลากผมไปโซนขายอาหารของชมรมคหกรรม มันกวาดเรียบทั้งลูกชิ้นปิ้ง ขนมปังสังขยา ข้าวโพดอบเลย ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แค่มองเพื่อนเอนเจอยอีตติ้งก็อิ่มแล้ว

                ก่อนเข้ามหาลัยไอ้ปอนด์ที่อวบระยะสุดท้ายคงได้น้ำหนักเพิ่มอีกหลายโล

                “อ่ะ กูซื้อมาฝาก” มันยื่นของฝากให้ผม

                “กูเห็นมึงชอบกินไอติม”

                เอ้าหรอ!? ผมไปบอกมันตอนไหน สงสัยเป็นเพราะช่วงนี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงหาแต่ของหวานๆ เย็นๆ กินบ่อย แต่ว่าไอติมหลอด จำได้ว่าแม่เคยซื้อกินเมื่อยังเป็นเด็กประถม

                รู้ตัวอีกทีริมฝีปากผมก็จรดกับแท่งไอศกรีมแล้ว

                รสชาติหวานทำให้ผมนึกถึงวัยเยาว์อีกครั้ง

                “มึงเจอน้องรหัสยังวะ”

                “ยังเลย สงสัยคำใบ้จะยากไปหรือเปล่านะ” ผมไม่ได้พูดเล่น Mystery card ของผมต้องอาศัยการวิเคราะห์มากกว่าปกติ อยากรู้เหมือนกันว่าน้องรหัสผมจะเก่งแค่นไหน

                “รีบกินแล้วรีบหนีกันเถอะ กูไม่อยากให้น้องรหัสมาเจอ”

               

งั่ม…

                จู่ๆ ปากปริศนาก็เข้ามากัดไอศกรีมหลอดในมือผม

                ไอ้เด็กเปรต ไอ้นิว!

                “เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย”

                “น่าจะอร่อยกว่านี้ ถ้าไม่เปื้อนน้ำลายมึงนะไอ้แว่น” มันใช้มือเช็ดปาก

                “ไปเถอะปอนด์ กูไม่อยากอยู่ใกล้ไอ้นิว”

                “พี่เจมส์ กับพี่ปอนด์ 6/5 อยู่นี่โว๊ย” จู่ๆ ไอ้นิวก็ตะโกนทิ้งบอมบ์ไว้ให้พวกผมก่อนจะชิ่งหนีไป

                “ซวยแล้ว” ไอ้ปอนด์กรีดร้อง

                ไม่ทันแล้ว! รุ่นน้อง ม.4/5 สามคนรีบตรงเข้ามาหาผมกับไอ้ปอนด์ โชคดีที่สองคนแรกไม่ใช่น้องรหัสผม แต่ไอ้คนสุดท้ายนี่สิ

“พี่รู้จัก คนนามแฝงนี้หรือเปล่า” 

                “คนไหนน้อง”

                ผมรับ Mystery card มาดู

               

นามแฝง ตี๋ใหญ่ ใจตีป้อม

                คำใบ้ กินอิ่มนอนอุ่น หุ่นไม่เกี่ยว



                เหมือนรหัสนี้จะทำให้ผมนึกภาพใครบางคนได้ทันที ก็ไอ้เพื่อนๆ ข้างๆ ผมนี่แหละ

                ไอ้ปอนด์ส่ายหัวดิกๆ เหมือนส่งสัญญานให้ผมปฏิเสธรุ่นน้อง

                ผมเหมือนน้ำท่วมปาก มองหน้าเด็กตาแป๋วก็น่าสงสาร อีกคนก็เพื่อน

                “ผมว่าพี่นี่แหละ พี่ปอนด์ 6/5 พี่คือ ตี๋ใหญ่ ใจตีป้อมใช่มั้ย”

                แต่เด็กทักขึ้นเสียก่อน ตามกฎของเกมถ้ารุ่นพี่ถูกถาม พี่รหัสต้องยอมรับ

                “ม่ายยย” แต่ไม่ใช่ไอ้ปอนด์ แม่งแหกกฎวิ่งหนี ส่วนไอ้น้องรหัสมันรีบยกปากกาเมจิคตามฉิวไปติดๆ เพราะถ้ากาป้ายชื่อพี่รหัสได้เมื่อไหร่ จะได้เป็นฝ่ายชนะ

                เด็กพวกนี้เล่นอะไรกันปัญญาอ่อน เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง

               

                โครม…

                นั่นไง ไม่ทันขาดคำ

                ไอ้ปอนด์สะดุดเชือกรองเท้าชนเขากับคนที่บูธชมรมดนตรี ผมรีบตามไปดูก็เจอรุ่นร้องคนหนึ่งล้มทับตัวไอ้โฟกัสอยู่ ส่วนตัวต้นเรื่องอย่างไอ้ปอนด์ทำให้โต๊ะลงทะเบียนเทกระจาดของกระจาย ซึ่งตามมาด้วยเสียงสาปส่งของเด็กม.5 ชมรมดนตรีกับบรรดาแฟนคลับไอ้โฟกัสทันที

                “เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมรีบเข้าไปดึงรุ่นน้องออกจากตัวโฟกัส แต่ก็ยังเป็นห่วงเพื่อน “ปอนด์โอเคนะ”

                ไอ้ปอนด์ทำมือโอเคตอบกลับ แต่หน้าเริ่มซีดเผือกเหมือนกลัวความผิด

                “ไอ้ปอนด์ พวกมึงเล่นเหี้ยไรกันเนี่ย” นักเรียนชมรมดนตรีบ่น “พวงกุญแจน้องนี่เกี่ยวสายกีตาร์ไอ้กัสขาดเลย”

                “ผมขอโทษครับพี่ ผมขอโทษ” เด็กที่โดนลูกหลงรีบยกมือขึ้นขอโทษ

                “เฮ้ย ไม่เป็นไรน้อง ไม่มีใครเป็นไรก็ดีแล้ว พวกมึงรีบช่วยกันเก็บของก่อน” โฟกัสหยุดยั้งสถานการณ์วิกฤตได้ทันเวลา “เดี๋ยวกูขอไปเปลี่ยนสายกีตาร์แปปนึง มีสำรองอีกเยอะ ไม่ต้องห่วง มินิคอนเสิร์ตไม่จบแค่นี้หรอก”

หลังจากไอ้ปอนด์ช่วยพวกชมรมดนตรีจัดของใหม่ มันก็เดินหน้าหงอยออกมากับผม ถึงมันจะหนียังไงสุดท้ายมันก็เป็นฝ่ายแพ้ในเกมพี่รหัสลับ

                “พี่ๆ”

                เสียงเรียกทำให้ผมกับไอ้ปอนด์ต้องหยุด ไอ้น้องคนที่ไอ้ปอนด์เผลอวิ่งชนนั่นเอง

                “มีอะไร จะมาต่อยพี่หรอ” ไอ้ปอนด์แซวเล่น

                “ไอ้ปอนด์” ผมหันไปดุ “ว่าไงน้อง”

                “ไม่เป็นไรหรอกพี่ปอนด์ ผมไม่ได้เจ็บอะไร” รุ่นน้องฉีกยิ้มกว้างโชว์เหล็กดัดฟัน หน้าตาน่ารักและผิวขาวกว่าผมมาก “พี่อยู่ 6/5 ใช่มั้ย พี่พอรู้หรือเปล่าว่าคนนี้น่าจะเป็นใคร”

“เอาแล้วไอ้ เจมส์ มึงเกมแน่รอบนี้” ไอ้ปอนด์รอลุ้นอยู่ข้างๆ

                อย่าบอกนะว่า เด็กคนนี้จะเป็นน้องรหัสผม!

                “พี่ใช่ ไอ้หมัดหนักกระโดดจีบไอ้แว่นหน้างอหรือเปล่า”

                “หะ อะไรนะ”

                “อ้าว เห็นพี่ใส่แว่น นึกว่าใช่”

                แหม…ผมไม่ทางเขียนนามแฝงปัญญาอ่อนอย่างนั้นแน่นอน

                “ไหนพี่ขอดูหน่อย”

                เด็กยื่นการ์ดให้ผมดู

               

ชื่อแฝง ไอ้หมัดหนักกระโดดถีบไอ้แว่นหน้างอ

            คำใบ้ หล่อสุดหยุดที่กู

               

                ชัดเลย ผมเห็นหน้าของไอ้นักมวยขี้เก็กขึ้นมาทันที นี่ขนาดในนามแฝงมันก็ยังไม่ปล่อยวางจากผม

                “สรุปพี่รู้หรือเปล่าว่าเป็นใคร ผมเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวแล้วนะ”

                รู้สิ รู้ดีเลยล่ะ ผมเลยจับไหล่ไอ้เด็กตรงหน้า

                “น้องลองไปที่ชมรมมวยนะ ลองไปถามคนที่ชื่อนิวดู พี่ว่าไม่ผิดแน่ รีบไปเถอะ แต่อย่าบอกว่าพี่บอกนะ”

                “ได้พี่ ขอบคุณครับพี่ ผมไปก่อนนะพี่” 

                “ไอ้เด็กนี่ดูจริงจังจะเลยวะ” ปอนด์พูดขึ้นหลังจากเด็กนั่นวิ่งหายไปในกลุ่มเด็กนักเรียน

                “…………” แหม ไอ้ปอนด์ มึงไม่จริงจังเลย พอน้องจับได้วิ่งหนีเป็นลิงเชียว

“เอ่อ ไอ้เจมส์ ว่าแต่ไอ้หมัดหนักกระโดดจีบไอ้แว่นหน้างอนี่หมายความว่าไงว่า ทำไมต้องจีบไอ้แว่นหน้างอ”

                “จีบอะไรล่ะ มันเขียนว่า ถีบ”

“ใครจะไปรู้ล่ะ ตัวหนังสืออยางกับหมาเขียน” ไอ้ปอนด์หัวเราะ “แต่มึงรู้ได้ไงว่าเป็นไอ้นิว”

                “คนปกติที่ไหนเขาอยากจะถีบไอ้แว่นอย่างกูล่ะ” ผมตอบไปอย่างนั้น จริงๆ แล้วเพราะตอนทำงานคัดภาษาอังกฤษแก้สอบตกให้มัน เลยจำลายมือมันได้   

                “จริงๆ ไอ้นิวอาจจะเขียนจีบก็ได้น้า” ไอ้ปอนด์หันมาแซวผม “ระวังนะมึง โบราณว่าเกลียดอะไรเจออย่างนั้น”

                “ไร้สาระน่า ไปดูบูธอื่นเถอะ”

                “ถ้าไอ้เด็กนั่นเผลอหลุดปากกับไอ้นิวว่ามึงเป็นคนบอกล่ะ มึงมีปัญหาแน่”

                “ก็คงโดนถีบแน่นอน” ผมตอบเชิงขำขันไป แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่สงสัย “ว่าแต่ทำไมพวกมึงถึงกลัวน้องรหัสจับได้ขนาดนั้นวะ”

                “มันเป็นเรื่องน่าอายโว๊ย กูมีอะไรจะให้มึงดู” ไอ้ปอนด์รีบกดมือถือเอารูปให้ผมดู “นี่ ตอนมอสี่กูโดนรุ่นพี่จัดให้ชุดใหญ่”

                ผมเห็นแล้วถึงกับผงะ ไม่น่าละ ทำไมเด็กๆ ถึงกลัวแพ้กันจัง หน้าไอ้ปอนด์ตอนนั้นโดนทั้งแป้งทั้งสี เละเทะเหมือนอย่างกับแปะยิ้มตากแดด

                “นี่แค่กูยังขนาดนี้  คนดังระดับโรงเรียนอย่างไอ้นิวแพ้เกมนี้ คงถูกเอารูปไปโพสต์แซวในเฟซเป็นเดือนแน่”

                “อ๋อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจละ”

                “ฮือ ตอนมอสี่ก็ไม่รอด มอหกก็ไม่รอด กูขอให้มึงโชคดีรักษาหน้าหล่อๆ จนกว่าจะถึงสี่โมงเย็นแล้วกันนะไอ้เจมส์” ไอ้ปอนด์อวดครวญ

                ตอนนี้ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง ผมอดใจรอเห็นไอ้นิวในสภาพเละเทะไม่ไหวแล้ว นานๆ ทีเอาคืนไอ้ชัคกี้แบบเด็กๆ บ้าง ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน

               

                ประมาณ  1 ทุ่ม ฟ้าเริ่มสลัวแล้ว ภายในห้องประชุมจึงมีการประดับประดาด้วยไฟลวดสีเหลืองสวยงามเหมือนได้อยู่ท่ามกลางแสงดาว พวกรุ่นพี่ม.6 ต้องตั้งแถวเป็นวงกลมสามชั้นโดยเรียงตามห้องและเลขที่ 1-50 ไปเรื่อยๆ ขณะที่ผมกำลังง่วนหาจุดยืนของตัวเองอยู่ ไอ้มายด์ก็วิ่งมาหาผม

                “เจมส์ พอดีเกิดปัญหานิดหน่อย”

                “ทำไมหรอ”

                “พอดีน้องเพิ่งแจ้งมาว่าห้อง 4/5 มีรุ่นน้องอยู่ 49 คน ตอนนี้เลยต้องมีน้องคนหนึ่งได้พี่รหัสสองคน”

                “ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แล้วเราต้องไปอยู่ตรงไหนหรอ”

                “ไปอยู่กับเลขที่ 1 ห้องเรา”

                “ได้สิ ตะแต่เดี๋ยว เลขที่ 1 ไอ้นิวนี่”

                “ใช่ รีบไป เดี๋ยวน้องจะเข้ามาแล้ว”

                โอ๊ย กรรมอะไรของผมเนี่ย

ชาตินี้ผมจะหนีไอ้นิวพ้นไหม พอมายด์อธิบายให้ไอ้นิวฟังมันก็เหมือนตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ผมจึงต้องไปยืนอยู่กับมันอย่างเลี่ยงไม่ได้

                “กูกับมึงนี่ดวงสมพงศ์กันดีเนอะ อยากอยู่ใกล้กูก็ไม่บอก”

                “ถ้าไม่มีอะไรทำก็เอาเทียนรนปากตัวเองเถอะ” ผมตวัดสายตาไปมองเทียนในมือมัน

                “งั้นถ้ากูรนเสร็จแล้ว กูขอรนปากมึงด้วยได้มั้ย แต่กูขอไม่ใช้เทียนอันนี้นะ กูจะใช้เทียนประจำตัวกูนี่แหละ”

                Go to Hell! ผมกรีดร้องในใจ

                ไม่นานน้องม.4 ก็ถูกปล่อยตัวเดินเรียงแถวกันเข้ามาหยุดตามจุดที่พี่รหัสตัวเองอยู่

                และแน่นอนน้องรหัสร่วมของผมกับไอ้นิวก็มาถึง

                “หวัดดีครับพี่นิว”

                “เออ นี่อุตส่าห์เขียนคำใบ้ยากๆ แล้วนะ สงสัยความหล่อของกูมันโดดเด่นเดินไปสินะ ไอ้โคนัน”

                แหวะ จะอ้วก กับความมั่นหน้าของมัน

                เดี๋ยวนะ เด็กอะไรชื่อ โคนัน ตอนแรกคิดว่าไอ้นิวเปรียบเปรยเฉยๆ แต่พอดูป้ายชื่อน้องมันแล้วเขียนตัวใหญ่เป้งชัดเจนเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพ่อหรือแม่คลั่งไคล้การ์ตนูยอดนักสืบขนาดไหน

                “หวัดดีพี่เจมส์ด้วย”

                ไอ้นิวหันขวับมาทางผมทันที

                “นี่พวกมึงรู้จักกันหรอ”

                ไอ้เด็กรีบเอามือปิดปาก แต่ก็สายไปแล้ว

                “อย่าบอกนะไอ้แว่น มึงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”

                “ปะปะเปล่านะ ไม่ใช่ๆ พี่เจมส์ไม่ได้พูดอะไร” น้องรหัสรีบแก้ตัว

           

“หลังจากทุกคนทำความรู้จักพี่น้องรหัสกันแล้ว ใครที่เป็นฝ่ายแพ้เตรียมตัวโดนแปลงโฉมทันที”

               

เสียงประกาศจากลำโพงทำให้ผมกับไอ้นิวต้องสงบศึกกันก่อน

“มาเลย พี่นิว” ไอ้โคนันล้วงเอาแป้งฝุ่นกับสีสำหรับทางหน้าออกมาจากในกระเป๋ากางเกง

                ไม่นานไอ้เด็กโข่งก็โดนมัดจุกสองข้าง ทาหน้าขาววอก ปาดแก้มแดงเหมือนตูดลิง แต่เพราะสีหน้าไม่เต็มใจของมันนี่แหละ ที่ทำให้ผมพยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์

                “ไอ้แว่น ถ้ากูโดน มึงก็ต้องโดนด้วย อย่าลืมมึงก็เป็นพี่รหัสไอ้โคนัน”

                “เฮ้ย เดี๋ยวไม่เกี่ยวนะ”

ไอ้นิวจู่โจมมาอย่างกะทันหันจนทำให้แว่นผมร่วง แต่คนบ้าพลังอย่างมันถือคติโนสนโนแคร์ ไอ้ผมจะหนีก็หนีไม่ได้ เพราะมันใช้แขนข้างหนึ่งล็อกเอวผมไว้แน่น จึงได้แต่หันหน้าหลบหลับตาปี๋จากสีในมือมัน ผ่านไปหลายช่วงลมหายใจผมกลับไม่ได้สัมผัสถึงความแปดเปื้อนบนใบหน้า จนผมต้องลืมตาหันขึ้นดู ก็เจอเข้ากับใบหน้าเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง

แต่ที่รู้สึกแปลกไปกว่าทุกครั้งคือสายตาของไอ้นิว ผมไม่แน่ใจว่าประกายในนั้นเกิดจากแสงไฟหรือจากตัวมันเอง   

ผมที่กำลังวิเคราะห์ความผิดปกติจากไอ้คนตรงหน้า ก็ถูกมันกลางหน้าผากกลายเป็นคนจากชนเผ่าเรียบร้อย หลังจากนั้นมันก็หันไปแกล้งเพื่อนข้างๆ 

เมื่อกี้แวบหนึ่งเหมือนไม่ใช่ไอ้นิวที่ผมคุ้นเคย

                “ว่าแต่พี่เจมส์สายตาสั้นเท่าไหร่หรอ” โคนันถามขึ้นพร้อมกับกำลังพิจารณาแว่นผม

                ซวยแล้ว! ผมรีบคว้าแว่นคืนมาจากมัน

                “400 น่ะ”

                “เอ้าหรอ ผมสายตาปกตินะ แต่ลองใส่แว่นพี่ดูเมื่อกี้ทำไมไม่ชัดแจ๋วเลยล่ะ”

                “สงสัยมันไม่ค่อยสว่างมั้ง” ผมรีบตอบไปแบบถูไถ

ไอ้โคนันทำให้ผมชักเริ่มระแวง จะดีใจหรือเสียใจดีที่ได้ไอ้เด็กแบบนี้มาเป็นน้องรหัส

               

หลังจากการลงโทษจบลงด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน รุ่นพี่ม.6 ก็นั่งล้อมวงเอาเทียนขึ้นมาจุดแล้วเอาสายสิญจน์มามัดมือให้น้องรหัส

                ช่างเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจ จนผมเกือบลืมเรื่องหนักใจทั้งหมดไปชั่วคราว

                “กูขอให้มึงเรียนเก่งๆ เป็นน้องกูก็ให้ขอเข้มแข็งนะ ใครมาทำอะไรมึงก็ตีแสกหน้าแม่งไปเลย” ไอ้นิวให้พรได้ป่าเถื่อนจนผมต้องกุมขมับ

                “ต่อไปก็พี่เจมส์นะ”

                จังหวะนั้นเพราะแสงเทียนกับแสงไฟสลัว ไม่รู้ทำไมผมถึงเห็นหน้าไอ้โคนันเป็นไอ้ตูนไปได้ ช่วงเวลานี้จิตใจผมปล่อยวาง จึงให้พรออกมาจากความรู้สึกจริงๆ

                “ขอให้น้องตั้งใจเรียน จะทำอะไรก็คิดดีๆ ก่อน ให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ คิดถึงคนที่รักเราไว้ให้มาก เส้นทางของน้องยังอีกยาวไกล น้องต้องไปสู่ความสำเร็จที่ทำให้น้องภาคภูมิใจให้ได้นะ”

ทำเอาผมจุกอกน้ำตาคลอเลย ผมลูบหัวน้องรหัสเบาๆ ไอ้เด็กคนนี้มีความน่ารักสูงมาก มันสูงน้อยกว่าผมนิดหน่อยแต่รูปร่างก็พอๆ กับผม ดวงตากลมโตใสซื่อ ปากนิด จมูกหน่อย ความขาวทะลุแสงเทียน ผมจึงรู้เอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก

                “หูย อวยพรอย่างกับคนแก่” ไอ้นิวล่มซีนซึ้งของผมลงทันตา

                “เขาก็ต้องให้พรน้องดีๆ ไม่ใช่ป่าเถื่อนแบบมึง”

                “ขอบคุณพี่ทั้งสองมากนะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” มันยกมือไหว้พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง “ผมมีพี่รหัสสองคนแบบนี้ โคตรโชคดีเลย เหมือนได้พ่อกับแม่มาอีกสองคน”

                “พ่อกับแม่มึงอยู่บ้าน ไอ้เจมส์ยังไม่ได้เป็นเมียกู ไอ้โคนัน เดี๋ยวจะโดน”

                “ยังไงไม่รู้แหละ ดีใจที่ได้เป็นน้องพี่เจมส์” จู่ๆ มันก็โผเข้ากอดผม ผมไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืดตัวเกร็งก่อนลูบหลังน้องรหัสเบาๆ

                “ตกลงนี่กูนั่งเป็นส่วนเกินใช่มั้ย” ไอ้นิวนั่งเท้าคางมองผมกับไอ้โคนัน

                “โหย พี่นิวอย่าน้อยใจ มาๆ กอด”

                “กอดตีนกูนี่ไอ้โคนัน”



                หลังจากเสร็จพิธีรับน้องเสร็จ พอออกมาจากหอประชุมไอ้โคนันก็ติดผมแจเหมือนรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติก่อน ถึงขนาดเข้ามาคล้องแขนผมอย่างไม่เขอะเขิน   

                “พี่เจมส์จะกลับบ้านเลยหรือเปล่า กว่าแม่ผมจะถึงอีกสักพัก ไปซื้อติมหน้าโรงเรียนกินกัน”

                “ก็ได้ๆ” ผมรับปาก

                “พี่เจมส์รู้มั้ย หัวหน้ามันแกล้งให้ผมจับฉลาก mystery card 2 ใบ ผมได้ใบหนึ่งของพี่นิว อีกใบของพี่เจมส์ แต่จริงๆ ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วแหละว่า The Frist คือพี่”

                “อ้าว รู้ได้ไง” ผมเริ่มแปลกใจ

                “ก็ The Frist แปลว่าอันดับแรกใช่ไหม ผมลองเอาตัวอักษรหรือสระตัวแรกจากคำใบ้มาต่อกันแล้วมันได้คำว่า เจมส์ พอดี”

                ผมอึ้งกิมกี่ สงสัยชื่อโคนันจะไม่ได้มาง่ายๆ แล้ว น้องรหัสผมก็ดูเป็นเด็กร่าเริงสดใสเกินกว่าปกติ แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกรำคาญมันเลย เหมือนมันกับผมมีบางอย่างดึงดูดกัน

                “โอ้ แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ”

                “ผมไม่อยากให้พี่เจมส์เลอะแป้งไง” ว่าแล้วมันก็โน้มหัวลงบนไหล่ผม

               

ป๊าบ!

                ไอ้โคนันเจอฝ่ามือแลนดิ้งลงหัวทีหนึ่ง

                “โอ๊ย พี่นิวผมเจ็บ” น้องรหัสสูบปากร้อง ลูบหัวป้อยๆ

                “เหย…อะไรเนี่ย เด็กก็ไม่เว้นนะ” ผมผลักคนตัวใหญ่ให้มันไปไกลๆ แต่มันยังตามแกล้งน้องรหัสต่อ

                “ไอ้โคนัน ถ้ามึงจะลำเอียงขนาดนี้ มึงไม่ต้องนับกูเป็นพี่รหัสก็ได้มั้ง”

                “พี่นิวอ่ะ เนี่ยอ่ะ พี่นิวชอบแกล้งอ่ะ ใครจะไปอยากอยู่ใกล้”

                “เออ กูไม่แกล้งแล้วก็ได้” จู่ๆ ไอ้นิวก็คว้าแขนอีกข้างของผมไปกอด

                “เฮ้ย…จะทำไร” ผมจะสลัดแขนออกแต่ไอ้นิวรั้งไว้

                “เอ้า ถ้าน้องรหัสทำได้ เพื่อนรหัสอย่างกูก็ต้องทำได้สิ เพราะสายรหัสเราต้องเท่าเทียมกัน”

               จะมาเรียกร้องความเท่าเทียมห่าเหวอะไรตอนนี้วะไอ้นิว  

เฮ้อ…พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง…

...

เปิดตัวน้องรหัสแล้ว :mew3: :mew3: :กอด1: ฝากคอมเมนต์ติดชมกันได้จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2020 21:43:08 โดย Payumoon »

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
น้องรหัสโคนันโตขึ้นสงสัยได้เป็นสายลับแบบภพแหง๋ๆ ดูน้องฉลาดล้ำลึกทีเดียวเชียว งี้ต้องให้น้องช่วยสืบคดีไอ่หมากซะแล้ว  :hao6:

ส่วนคุณเพื่อนนิวนี่ก็ตามติดเจมส์ตลอดจริงๆ หวงมากอะดิ กลัวน้องรหัสจะเป็นที่สนใจของเจมส์ใช่มะ  :hao4:

คำใบ้ หล่อสุดหยุดที่กู....บางทีนิวก็มั่นหน้าเกินไป 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Toxicgirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบคิดว่าน้องรหัสจะมาสร้างความร้าวฉาน ไปๆมาๆคือมาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของนิวกับเจมส์มากกว่า น้องโคนันน่ารัก

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แอบคิดว่าน้องรหัสจะมาสร้างความร้าวฉาน ไปๆมาๆคือมาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของนิวกับเจมส์มากกว่า น้องโคนันน่ารัก
:L1: :pig4:

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
EP.9  อกหักมาพักกับผม

           




ผมแอบจับตาดูไอ้หมากอยู่สามสัปดาห์ พบว่ามันเข้าไปใช้บริการห้องคอมพิวเตอร์โรงเรียงบ่อยขึ้นและมักจะใช้อยู่เครื่องเดียว ผมค่อนข้างมั่นใจว่าในนั้นต้องมีหลักฐานบางอย่าง

                แต่จะให้ผมไล่ตรวจดูโฟลเดอร์ทั้งหมดมีหวังคงนิ้วหงิกก่อน จึงติดตั้งโปรแกรมสอดแนมข้อมูลแทน

                “ธีรภพ ทำอะไรอยู่”

                เสียงหนึ่งทำให้ผมต้องสะดุ้ง อาจารย์กิตติพงศ์หรืออาจารย์กาย ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์และเป็นผู้ดูแลห้องคอม ตรงเข้ามาหาผม

                ซวยแล้ว!

                “ผมกำลังหาข้อมูลอยู่ครับ” โชคดีที่ติดตั้งโปรแกรมเสร็จพอดี

                “บ่ายโมงแล้ว เหลือแค่เธอยังไม่ลงชื่อออกอีก”

                “ดะได้ครับอาจารย์”

                ผมยกมือไหว้อาจารย์ลูกครึ่งฝรั่งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนปิดประตูกระจก

                “เดี๋ยว ธีรภพ”

                “ครับ”

                อาจารย์กายตรงเข้ามาหาผม สายตานิ่งสงบเหมือนกับประเมินบางอย่างทำให้ผมเริ่มหวั่น

                “ทำไมไม่ปิดเครื่อง”

                “ครับ ขอโทษทีครับ เดี๋ยวผมรีบปิดให้เดี๋ยวนี้แหละครับ”    

                โล่งอกนึกว่าจะอาจารย์จะสงสัยอะไรเสียอีก

                “ไม่ต้องแล้วล่ะ เธอรีบไปเรียนเถอะ เดี๋ยวครูปิดเอง”

                “ขอบคุณครับ”

                ผมรีบยกมือไหว้อีกรอบ ครานี้วิ่งฉิวไม่ต้องให้เรียกซ้ำสองอีก เกือบไปแล้ว ถ้าอาจารย์กายรู้เรื่องขึ้นมามีหวังผมต้องตายแน่

               

อาจารย์กายยืนกอดอกส่ายหัวก่อนจะตรงเข้ามาปิดคอม แต่ทันใดนั้นดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลอ่อนต้องเผยความตกใจ ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มขึ้นมุมปาก

                “คิดว่าครูคอม.จะสอนแค่ทำพาวเวอร์พอยท์หรือไง”

               

                หลังจากซ้อมบาสกับทีมของไอ้หมากเสร็จ ตอนหัวค่ำผมจึงมีเวลามาเดินเที่ยวตลาดนัด โชคดีที่ทำลายพันธะสัญญาซ้อมมวยกับไอ้นิวได้ จึงไม่ต้องวิ่งเหนือวิ่งใต้ให้เหนื่อย แถมยังไม่ต้องรับมือรับตีนไอ้คนบ้าพลังให้เจ็บตัว

อีกอย่างพรุ่งนี้ผมมีนัดกับหมอบี

                ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้ผมต้องสารภาพความในใจกับเธอให้ได้

                “พี่เจมส์ๆ จะซื้อต้นกุหลาบไปให้ใคร แน่ะๆ อย่าบอกนะว่าซื้อไปให้สาว” ไอ้โคนันที่ขอตามมาด้วยถามจ้อไม่หยุดปาก

                ผมยิ้มตอบกลับไอ้น้องรหัสไป

                “ใช่จริงๆ ด้วย”

                “เออน่า ว่าแต่เอาสีอะไรดี”

                “แล้วผู้หญิงเขาชอบสีอะไรล่ะ”

                “อืม น่าจะชอบสีขาวนะ”

                “งั้นก็เอาสีแดงแล้วกัน เพราะสีแดงเป็นสีแห่งความรัก”

                “เอ้า แล้วจะถามทำไมเนี้ย”

                “ตกลงเอาสีไรดีคะน้อง” แม่ค้าถามขึ้น

                “สีแดงก็ได้ครับ”

เมื่อวานบีส่งรูปต้นกุหลาบเน่าตายมาให้ดู ผมเลยมาหาซื้อต้นใหม่ไปเซอร์ไพรส์สักหน่อย

                “เออ พี่เจมส์ว่าแฟนพี่อยู่โรงเรียนไหนหรอ”

                “ยังไม่ใช่แฟน” ผมพูดเขินๆ “เอ่อ โรงเรียน อ๋อ…โรงเรียนXXX”

ผมเอ่ยชื่อโรงเรียนหญิงล้วนที่หนึ่ง

                “โหว ผมอยากเห็นแล้วสิ ต้องสวยน่ารักแน่”

                “ทะลึ่งละ นี่ก็ดึกมากแล้ว กลับบ้านเถอะ”

                “ก็ได้ ขอบคุณนะพี่เจมส์ กระเพราะถาดโคตรอิ่มเลย”

                “เออ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

                หลังจากโคนันขึ้นแท็กซี่แล้ว ผมก็เตรียมตัวจะกลับเหมือนกัน แต่ดันไปเจอสิ่งที่ไม่อยากเห็นเข้า มันเดินตัวสูงมากับคนในชมรมมวย

                ไอ้นิว!!

                มันยอมประกาศกร้าวว่าจะไม่มีวันให้ผมสมหวังกับไอ้หมาก ถ้ามันเห็นต้นกุหลาบคงอุตริคิดเองว่าผมซื้อให้ไอ้มากแน่

                ต้องปกป้องต้นกุหลาบของหมวดบีไม่ให้โดนยึด!

                ว่าแล้วผมก็รีบซ่อนตัวในร้านเสื้อยืด รอจนไอ้นั่นผ่านไป

ค่อยโล่ง เกือบเป็นเรื่องได้

รีบใส่เกียร์หมาเลยดีกว่า

                “ขอดูเสื้อร้านนี้ก่อนได้ไหมพี่”

                จู่ๆ เสียงหนึ่งทำให้ผมต้องชะงัก เมื่อผมยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากร้าน ผมก็ต้องสบตากับผู้หญิงคนคุ้นเคยทันที

                “ภพ!!” เธอดูตกใจมาก

                บี!!!

                ซวยแล้ว มาเจอบีตอนผู้อยู่ในสภาพชุดนักเรียน ผมหวังว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะจากอีกฝ่าย แต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น

                “บีว่า ไปดูร้านนู้นดีกว่าค่ะ” เหมือนบีหันบอกใครบางคนก่อนจะรีบออกจากร้าน

ผมรู้ เธอไม่ได้กลัวผมอายหรือเธอรับไม่ได้ที่เห็นผมในสภาพชุด นักเรียนหรอก บีเข้าใจผมดีว่ามันเป็นงาน ถ้าเป็นปกติก็จะแค่หัวเราะหรือแค่แซวผมเล่นเท่านั้น แต่ครั้งนี้ดูแปลกไป เหมือนไม่อยากเจอผม

พอผมรีบตามจะไปคุยกับเธอด้วยความสงสัย แต่จู่ตัวผมก็ต้องหมดแรง หมวดบีของผมกำลังเดินจับมือกับผู้ชาย

คนหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เห็นเพียงด้านหลังของทั้งคู่ เวลานี้ผมอยากตรงเข้าไปกระชากพวกเขาออกจากกัน แต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ผมไม่ต้องตามไปถามเธอก็ได้คำตอบแล้วว่า เธอไม่ต้องการให้ผู้ชายคนนั้นเห็นผม

                แต่นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมไม่เข้าใจ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ผมจุกอก ขาอ่อนจนแทบจะล้มทั้งยืน ขณะที่แผ่นหลังของทั้งสองคนเคลื่อนห่างไปช้าๆ มือที่ประสานกันแน่นของทั้งสองคนยิ่งเหมือนร่วมกันบีบหัวใจผมให้แหลกสลาย



                ตุ้บ!!

                “น้อง ของตก” เสียงกระถางหล่นทำให้ผมได้สติ หลังจากผมยืนนิ่งขวางทางคนเดินอยู่พักใหญ่

                ผมทิ้งก้นลงบนม้านั่งข้างตลาดนัดอย่างหมดแรง ครู่หนึ่งก็มีโทรศัพท์จากบี ไม่กี่นาทีต่อมาตัวเธอก็มาอยู่ข้างๆ ผม

                “ขอโทษนะที่เดินหนีเมื่อกี้ ชั้นรู้ว่าแกไม่ได้อยู่สถานะเป็นภพ แต่ตอนนี้ถ้าชั้นไม่ได้คุยกับแก ชั้นคงไม่สบายใจ”

                “อื้ม รู้น่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี แล้วนี่มากับใครหรอบี” ผมแม่งก็โง่ถามให้เจ็บกว่าเดิม

                หมวดบีเม้มปาก

                “แฟนบีเอง”

                ผมหลบสายตาเธอ ผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น

                “หืม…อะไรกันวะ แกไม่เคยเห็นแกเล่าให้ฟังเลย น่าน้อยใจนะเนี้ย คบกันมานานแล้วยัง” 

                บีจับมือผมแล้วบีบแน่น

                “ภพ” น้ำเสียงของเธอจริงจัง “จริงๆ แล้วชั้นรู้มาตลอดว่าแกรู้สึกยังไงกับชั้น ชั้นรู้ว่าการที่แกมาเป็นสายลับพิเศษก็เพราะแกรู้ว่าชั้นคลั่งเจมส์ บอนด์ ที่ชั้นเคยพูดว่าชั้นจะมีแฟนเป็นเหมือนเจมส์ บอนด์ คือตอนนั้นชั้นรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ชั้นเห็นมาตลอดว่าแกพยายามเพื่อชั้น…” เสียงของหมวดบีเริ่มแตกพล่า และเธอพยายามข่มน้ำตาพูดต่อ “ชั้นยอมรับว่าเคยรู้สึกดีกับแกตอนไปเรียนที่อเมริกา แต่เพราะด้วยอะไรหลายๆ อย่างในตอนนั้นเราจึงไม่ได้ไปต่อ แต่เวลามันก็ผ่านมานานมาก นานมากจนชั้นเข้าใจความรู้สึกตัวเอง”

                “เพราะชั้นบอกช้าไปใช่ไหม” ผมหันไปจ้องมองดวงตาของอีกฝ่าย

                “มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ชั้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ชั้นมันคงเห็นแก่ตัวเองแหละ กลัวถ้าพูดความจริงจากใจไปจะทำให้แกต้องเจ็บ ชั้นเลยเลือกที่จะแสดงให้แกเห็นอ้อมๆ ว่าชั้นกับแกเราคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน ฉันเห็นความพยายามของแกมาตลอด ฉะ…”

                บีเริ่มสะอื้น ผมจึงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะใช้มือเช็ดน้ำตาให้เธอ

                “ก็ดีแล้ว ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับแกแล้วบี ไม่ต้องคิดมากหรอก คนอย่างพิภพมีสาวมาจีบเยอะแยะ แกหักอกชั้นไม่ได้หรอก”

                “ภพ ยังไงแกก็จะเป็นเพื่อนรักของชั้นเสมอนะ ต่อไปนี้อยากให้แกเลิกทำเพื่อชั้นได้แล้ว เดินหน้าต่อไปกับเส้นทางของแกเถอะ ฉันอยากเห็นแกมีความสุข”

                “รู้แล้วน่า” ผมพยายามยิ้ม “จะมาร้องไห้ทำไม ฉันยังไม่เห็นร้องเลย แค่เห็นแกอินเลิฟกับใครสักคนฉันก็ดีใจด้วยอยู่แล้ว”

“แกโอเคจริงๆ ใช่ไหม” เธอย้ำถามสีหน้าผมรับรู้ถึงความเป็นห่วง

“โอเคสิ แล้วนี่ยังไม่บอกเลย คบกันมานานยัง”

“ก็สักพักแล้วล่ะ ปีหนึ่งได้”

“เอ้าหรอ ดีใจด้วย” ผมตอบเรียบๆ “งั้นเดี๋ยวขอตัวก่อนนะ ต้องไปทำงานต่อแล้ว กำลังจะโทรบอกแกพอดีว่าพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้ว่างไป พอดีต้องเคลียร์งานนิดหน่อย”

                “ได้ มีอะไรก็โทรหาชั้นนะ ถ้าว่างอีกเมื่อไหร่ก็ชวนชั้นได้เลย” หมวดบีพูดพร้อมปาดน้ำตา “ถ้าเห็นแกเข้มแข็งแบบนี้ชั้นก็สบายใจ”



เคร้ง เคร้ง

                ขวดเมียทั้งหมด 5 กระป๋องถูกกระแทกลงบนเคราเตอร์มินิมาร์ท

                “ขอโทษคะน้อง ขายแอลกอฮอล์ให้นักเรียนไม่ได้ค่า”

                ผมกระแทกบัตรประชาชนตอกหน้า

                “ผมไม่ได้เป็นนักเรียน ผมแค่ไปงานเลี้ยงรุ่นมา” 

                “เอ่อ ค่ะ โอเคค่ะ”

                ผมถือทั้งเบียร์กับกระถางพลาสติกแตกก่อนจะวางไว้บนม้านั่งสาธารณะหน้าตลาดนัด

                ชีวิตแม่งเหี้ย!

                ผมยกกระดกเบียร์ไปครึ่งกระป๋อง

                เจ็บที่สุดก็ตรงพยายมฝืนว่าไม่เจ็บ ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้หมวดบีภูมิใจที่ได้เป็นแฟนผม แต่สุดท้ายมันก็ พังครืนลงหมด อยากจะร้องไห้แค่ไหนแต่ผลจากการฝึกควบคุมอารมณ์ก็ทำให้ผมเหมือนคนตายด้าน

ผมโง่เอง โง่ที่คิดไปเองว่าบีก็รู้สึกดีกับผม ทั้งที่ผ่านมาบีพยายามปฏิเสธมาตลอด แต่ผมกลับมองไม่เห็นเอง

                ตอนนี้ไม่มีจุดหมายอะไรอีกแล้ว ไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหนต่อ

                แต่ขณะเดียวกันช่วงที่ผมกระดกเหล้าขึ้น สายตาก็เห็นเข้ากับใครบางคนที่กำลังเดินตรงเข้ามา

                ซวยแล้ว!

                อาจารย์สมศักดิ์ห้องปกครอง

                ผมรีบคว้าของลุกพรวดทันที แต่อาจารย์เหมือนจะเห็นผม ถูกจับได้ผมตายลูกเดียว

                “ทำอะไรน่ะนักเรียน หยุดเดี๋ยวนี้นะ”

                ขณะที่ผมหนีตายอาจารย์ห้องปกครองสุดชีวิต ทันใดนั้นก็เหมือนถูกมือหนึ่งดึงเข้าไปซอย ก่อนจะพาผมหลบหลีกอย่างชำนาญ พอแสงไฟสาดส่องลงบนหน้าอีกฝ่ายผมถึงรู้ว่าเป็นใคร

                ไอ้นิว!

                “มึงนี่กล้าใส่ชุดนักเรียนนั่งกระดกเบียร์กลางที่สาธารณะได้ยังไง โคตรปัญญาอ่อน”

                “อย่ามายุ่ง” ผมพยายามเดินหนีมัน

                “มึงอกหักเหรอ”

                คำถามของมันปักจี๊ดลงใจผม

                “อะไรของมึงไอ้นิว”

                “ก็เห็นมึงกับพี่ผู้หญิงที่ตลาดนัด พี่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนกูเคยเห็น…”

                “ต้องการจะพูดอะไร”

                “เออกูไม่พูดก็ได้”

                “เออ งั้นก็อย่ามายุ่ง”

                ถึงจะไล่ยังไงไอ้นิวก็ตามผมต้อยๆ ผมเลยเลิกสนใจมันและซัดเบียร์ไประหว่างกลับหอ ซึ่งผมก็ไม่คุ้นตรอกซอกซอยหรอก แต่มีไอ้นิวคอยบอกทาง

                หลังจากกลับถึงหอผมก็ทิ้งก้นลงบนเตียงอย่างหมดแรง ส่วนไอ้นิวจู่ๆ ก็มานั่งข้างๆ ผม ผมเลยยื่นคำเตือนกับมันไว้ก่อน

                “วันนี้กูเหนื่อย กูอย่าเพิ่งกวนนะ”

                “กูก็ยังไม่ได้ทำอะไรมึงซักหน่อย” ว่าแล้วมันก็โน้มหัวผมลงไปที่ไหล่มัน เรียกว่ากระแทกดีกว่าแต่ก็ช่างมันเถอะ ผมไม่มีอะไรจะเจ็บไปกว่าใจแล้ว

                “มึงจะรีบตายไม่ได้นะ มึงต้องเก็บแรงไว้ให้กูเอาคืนก่อน”

“ไหนบอกจะไม่หาเรื่องแล้วไง” 

                “เปล่า กูแค่ให้กำลังใจ เอ่อ กูสงสัยไหนบอกมึงชอบไอ้หมากไง แล้วทำไมมึงจู่ๆ ไปจีบพี่ผู้หญิงคนนั้นล่ะ”

                นอกจากจะชอบมาวุ่นวายกับผมแล้ว ยังเสือกสอดรู้สอดเห็นเรื่องผมอีก

                “กูไม่บอกมึงหรอก” ผมกวนประสาทมัน

                “หรือว่ามึงเป็นไอ้แว่นโรคจิตหลายใจ”

                “ถ้าหลายใจได้ก็ดี ก็ไม่ต้องเจ็บแบบนี้” ผมตอบไปแบบไม่คิดอะไร

                “เหอะๆ คิดจะรักรุ่นใหญ่ ไม่ใช่ง่ายๆ มึงก็รู้ มึงเป็นแค่เด็กมัธยม”

                “รู้ดีจังเลยน้า อย่างกับผ่านชีวิตมาเยอะงั้นแหละ” เสียงผมเริ่มยานเพราะฤทธิ์เบียร์ “แต่ทำไมต้องเป็นมึงตลอดวะไอ้เด็กเปรต”

                “เอ้า พูดงี้ก็สวยดิ มึงก็เด็กเปรตเหมือนกันแหละ”

                “มึงจะกระทืบกูก็ได้นะ ถ้าทำให้มึงหายแค้น ยังไงตอนนี้กูก็รู้สึกเหมือนไม่เจ็บอะไรอีกแล้ว”

                “ถ้ามึงจะร้องไห้ก็ได้นะ กูจะทำเป็นไม่เห็น ไม่บอกใครด้วย”

ผมแค่ก็รู้สึกแน่นจุกอก บางทีการเคยฝึกควบคุมอารมณ์ของสายสืบทำให้ร่างกายไม่สามารถขับน้ำตาออกมาได้ดังใจ

                “ร้องทำไม ร้องแล้วได้อะไร สุดท้ายมันก็แค่เสียน้ำตาเปล่าๆ ถ้าช่วยอะไรกูไม่ได้ก็กลับห้องไปเถอะ”

                มันเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะมองที่ผม

                “นั่นน่ะสิ บางทีกูอาจจะช่วยทำให้มึงดีขึ้นก็ได้นะ”

                “เพ้อเจ้อ กลับห้องไปได้แล้ว กูอยากอยู่คนเดียว” 

                “กูจะทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ถ้าไม่ดีขึ้น กูจะเลิกยุ่งกับมึงเลยก็ได้”

                “กูไม่เชื่อมึงหรอก”

                “เชื่อเถอะน่า กูสัญญาลูกผู้ชายเลย แต่มึงก็ต้องทำตามข้อแม้กู ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามลืมตา ห้ามดิ้น ห้ามหนี”

                “เฮ้อ…” ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง “กลับห้องไปได้แล้ว”

                จู่ๆ ไอ้นิวก็ถอดแว่นผมออก

                “ทำอะไร”

                “เออน่า มึงอยู่นิ่งๆ ไป กูจะทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นเอง เชื่อกู นี่วิธีแก้อาการอกหักฉบับนักกีฬาเลยนะ”

                ผมขี้เกียจเถียงกับมันแล้ว ตอนนี้สมองมีแต่ภาพของหมวดบีและความเจ็บปวดในใจ จะเกิดอะไรขึ้นผมก็ไม่รู้สาอีกต่อไป ต่อให้ไอ้นิวตีผมจนอ่วมผมก็ไม่สน

                จู่ๆ ไอ้นิวเอาผ้ามาปิดตาผม

                “จะทำอะไร”

                “ไอ้แว่น อยู่เฉยๆ เหอะน่า กูไม่แกล้งมึงหรอก”

                มันนวดฝ่ามือผมเบาๆ แรงกดพอดีจนผมกล้ามเนื้อผมเริ่มคลาย

ผมรู้สึกถึงการทิ้งน้ำหนักลงตัวเตียง

                สัมผัสลมหายใจของไอ้นิวรสรินต้นคอผมจนขนลุกเกรียวแต่ขณะเดียวกันก็อบอุ่น รู้สึกถึงแรงกดไล่ไปตามแขนและต้นขาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมหายเฮิร์ตเหมือนที่มันโม้ไว้ ก็แค่นวดคลายกล้ามเนื้อป่าววะ

แต่แล้วจู่ๆ ผมก็สึกมีมือมาสัมผัสบริเวณซิปกางเกง

ไม่ใช่ละ ไม่ใช่นวดแล้ว!

                “ไอ้นิว!! อย่า” ตัวของผมหนักเหมือนโดนช้างทับเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

                “กูบอกแล้วไงให้อยู่เฉยๆ เชื่อกู ปล่อยใจให้สบาย เดี๋ยวมึงจะดีขึ้นเอง” มันกระชิบข้างหูผม







ไรท์เตอร์ฝากคอมเมนต์ติดชมให้ด้วยน้าาา เลิฟ :hao3: :pig4: :ling1:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ไอ่นิวววววว เอ็งทำอะไรไอ่เจมส์วะ
มีรูดซงรูดซิปกางเกงด้วย  :pighaun:

ออฟไลน์ piakunaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
นิวเริ่มชอบพี่เค้าแล้วใช่มั้ยลูก​ ใจอิแม่บางไปหมดแล้วว​ 555​ เป็นกำลังใจให้นะคะ​ สู้ๆค่ะนักเขียน

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ไอ่นิวววววว เอ็งทำอะไรไอ่เจมส์วะ
มีรูดซงรูดซิปกางเกงด้วย  :pighaun:
:L1: :pig4:

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L1: :3123: :pig4:
นิวเริ่มชอบพี่เค้าแล้วใช่มั้ยลูก​ ใจอิแม่บางไปหมดแล้วว​ 555​ เป็นกำลังใจให้นะคะ​ สู้ๆค่ะนักเขียน

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
EP.10 หมดสภาพ
:impress3:





            ไอ้นิว ปล่อยเถอะ อย่า….

            อยู่นิ่งๆ กูจะช่วยให้มึงได้ปลดปล่อยไง…

            ไอ้นิว ไม่อาวว     

            อย่าดิ้นสิวะ

            หยุด ไม่เอา อะอะไอ้นิว

            แค่เห็นตัวมึงเกร็ง กูก็หยุดมือไม่ได้แล้ว

                .

                .

                เรื่องเมื่อคืนเหมือนเป็นแค่ฝันร้าย แต่พอเรียบเรียงเหตุการณ์ได้มันกลับเป็นเรื่องจริงที่ไม่อยากจำ นึกภาพตัวเองในสภาพมึนเมา สติไม่ค่อยเต็มร้อย  หนักหัวหนักตัวถูกไอ้นิวปิดตาแล้ว…ทำให้โคตรเสียเซลฟ์ ใช่ มันอาจทำให้ผมลืมเรื่องหมวดบีไปช่วงขณะ แต่ก็ไม่ได้สบายใจขึ้นสักนิด ไม่รู้ว่าในตอนนั้นมันคิดอะไรอยู่ถึงช่วยให้ผมดีขึ้นด้วยวิธีนี้

                ไอ้โง่ ทำไมตอนนั้นไม่ถีบมันตกเถียง

            ทำไมถึงปล่อยให้มือมันรัวไม่หยุด

                ผมด่าตัวเองในใจซ้ำๆ ที่โดนไอ้เด็กเปรตหลอกจะนวดผ่อนคลายให้ แต่สุดท้ายกลับโดนนวดผิดจุด ถึงจะรู้ว่าเพื่อนผู้ชายที่อเมริกาจะแกล้งจับของกันเล่นเป็นปกติก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นใครหลุดโลกเหมือนมัน จนบางทีก็รู้สึกเหมือนถูกเด็กมัธยมล่อลวง ยิ่งกว่านั้นผมกลับเกิดคำถามติดค้างในใจ

            นี่คือการปลอบใจกันของเพื่อนผู้ชายสมัยนี้เหรอวะ

            ไม่น่าเป็นไปได้

ผมเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองต่อให้ผมต้องแก้ผ้าทำภารกิจในออนเซ็นก็ไม่อาย แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่การทำงานไง เลยรู้สึกแปลกๆ โชดดีไอ้นิวไม่โผล่มาให้เจอช่วงวันหยุด ไม่งั้นผมคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวถึงคุยกับมันได้

เช้าวันต่อมาผมรู้สึกเหมือนร่างกายกับจิตใจหมดสภาพ จึงจำเป็นต้องลาป่วยผ่านมายด์ไป

            “เป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างยัง เราลาอาจารย์ก้อยให้แล้วนะ”

                “อือ ได้พักก็ดีขึ้นนิดนึงแล้วล่ะ”

                “งั้นก็ดีแล้ว ส่วนการบ้านกับเนื้อหาที่เรียนในวันนี้เดี๋ยวช่วยอัดเสียงไว้ให้ แล้วก็อย่าลืมรายงานอาจารย์ก้อยที่ต้องส่งวันมะรืนล่ะ”

                “เฮ้ย เจมส์มึงเป็นไงบ้างวะ ROV สักตามั้ย” ไอ้ปอนด์พูดแทรกโทรศัพท์เข้ามา

                “อย่าไปกวนเพื่อนสิ ไอ้ปอนด์ ยังไงพักผ่อนเถอะนะ มีอะไรให้ช่วยก็โทรมาแล้วกัน”

                “ขอบใจมากมายด์”

                กว่าผมจะได้กินข้าวเช้าก็ปาไปเกือบเที่ยง พอออกจากห้องถึงเห็นว่ามีกล่องข้าวแขวนอยู่กับลูกปิดประตู

เออ!! ตรูคงหนีมันไม่พ้น ถึงคนไม่มา ข้าวก็ยังมาหลอกหลอนแทนอยู่ดี ผมว่าตังเองซับซ้อนแล้ว พอเจอไอ้นิวเข้าไปยิ่งกว่าถอดรหัสตู้เซฟอีก สรุปแล้วมันชอบหรือไม่ชอบขี้หน้าผมกันแน่

                ระหว่างผมกินข้าวก็เปิดข้อความของบีที่ส่งมาอ่านตั้งแต่เมื่อคืน

               

สู้ๆ นะเพื่อน Keep fighting naa

 

รู้แหละ เธอก็คงกลัวผมเฮิร์ตหนัก แต่ยังไง ผมก็ตัดสินใจแล้วว่จะรอ รอจนกว่าเธอจะมอบโอกาสให้ผมอีกครั้ง ผมเชื่อวันนั้นต้องมาถึง แต่ตอนนี้ผมต้องทุ่มเทให้กับภารกิจครั้งนี้ก่อน

                พอตอนเย็นอาการผมดีขึ้นมากเลยเบื่อที่นอนแห้งตายเป็นมัมมี่ จึงออกไปซ้อมบาสกับพวกไอ้หมากที่โรงยิม สุดท้ายเพื่อนในทีมก็หนีกลับกันก่อนด้วยเหตุผลร้อยแปด นัดไปติวหนังสือบ้าง พาสาวไปดูหนังบ้าง เลยเหลือผมกับไอ้หมากเล่นสลับโยนบาสเข้าห่วงกันอยู่สองคน

                “ไอ้เจมส์ มึงไม่สบายก็กลับไปพักเถอะ ยังอุตส่าห์มาอีก”

                “ดีขึ้นแล้ว อยากเอาเหงื่อออกสักหน่อย”

                “อื้ม ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนดิ ไม่มีใครช่วยกูแบกมึงไปโรงพยาบาลนะเว๊ย”

                “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้หนักขนาดนั้น”

                “มึงนี่ดื้อจริงเลย เอาเถอะตามใจมึงละกัน เออ…ว่าแต่มึงกับไอ้นิวดีกันแล้วใช่มั้ย”

                ผมชะงักก่อนโยนบาสไปให้ไอ้หมากอย่างหมดอารมณ์

                ไอ้เชี่ยหมาก ภาพเมื่อคืนแวบเข้ามาในหัว มาถามอะไรตอนนี้ กำลังจะทำใจลืมเรื่องนั้นได้แล้วเชียว

                “ไม่ตอบนี่หมายความว่าไงวะเจมส์”

                “ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดี” ผมตอบผ่านๆ

“อะไรของมึงวะ แต่เอาจริงๆ ไอ้นิวมันก็ไม่ได้นิสัยแย่ขนาดนั้น ถึงมันจะเถื่อนไปบ้างแต่ก็เป็นคนจริงใจ กูว่ามันก็เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกันนะ พูดถึงเรื่องที่มันไม่ชอบมึง กูก็นึกขึ้นได้พอดี ก็ที่ไอ้นิวมันโกรธมึงมากขนาดนี้เพราะมึงเคยไปทำกระเป๋าของมันขาดยังไงล่ะ”

                ใช่ ผมจำฉากฉุดกระชากลากถูกนั้นได้แม่น

                “กูขอโทษไปแล้ว แค่กระเป๋าใบเดียวต้องแค้นฝังหุ่นขนาดนั้นเลยเหรอ”

                “ของบางอย่างที่เรามองว่าเป็นแค่สิ่งเล็กๆ แต่อาจจะสำคัญมากสำหรับบางคนก็ได้นะ ถ้ากูจำไม่ผิดมันเคยเล่าว่าซื้อไปให้ใครสักคน”

                “ใครหรอ”

                “ไม่แน่ใจเหมือนกัน คงจะเอาไปให้ใครสักคนนี่แหละ”

                โกรธแค้นฝั่งหุ่นกูขนาดนี้ คงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแล้วล่ะ

                “น้องใบเตยมั้ง เทอมก่อนยังเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่ ตอนนี้ดูห่างๆ กัน แต่กูไม่รู้อะไรมากกว่านี้ละ ตอนนี้ต่างคนต่างยุ่งเรื่องสอบ เลยไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่”

                “หือ….ใครคบมันไม่น่ารอดหรอก ป่าเถื่อนอย่างมันอ่ะนะ” ผมเหน็บแนม

                “ก็ว่าไป เห็นมันอย่างนั้นก็มีสาวเข้ามาไม่ขาดสาย มันดูแลแฟนดียิ่งกว่าเพื่อนสนิทอย่างพวกกูอีก ว่าแต่มึงล่ะไอ้เจมส์ มีแฟนหรือยังวะ”

                ผมส่ายหัวตอบ

                “เอ หรือมึงรอใครอยู่หรือเปล่า อย่าบอกว่ารอกูนะ ฮ่าๆ กูหยอกเล่นน่า เอาเป็นว่าไม่มีก็ดีแล้ว ไว้เข้ามหาลัยได้มึงมีสาวมารอจีบเพียบ”

                วันนี้ไอ้หมากถามแต่เรื่องแทงใจผมทั้งน้าน เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า

                “เอ่อว่าแต่ เล็งคณะไหนไว้หรอ”

                “ถามมึงก่อนละกัน”

                “รัฐศาสตร์”

                “มึงจะว่ากูแปลกไหม ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาคณะไหน กูยังไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ” ไอ้หมากโยนบาสแต่ก็พลาดห่วง “เอาไว้ดูคะแนนก่อนละกัน”

                ถึงผมจะเป็นสายหน่วยข่าวกรอง แต่พอเห็นเด็กนักเรียนที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องค้าขายยาเสพติด ผมก็อดสะเทือนใจไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ภารกิจสำเร็จ คนข้างๆ ผมคงไม่มีทางก้าวต่อไปตามเส้นทางที่ควรจะเป็น ตอนนี้ผมก็ทำได้แค่เตือนสติมันเท่านั้น

                “คนเราถ้าไม่รู้จักตั้งเป้าหมายให้ดี ระวังเราอาจจะหลงทางจนไม่เจอจุดหมายก็ได้นะ” 

                ไอ้หมากหยุดโยนบาสแล้วหันมามองผม

                “งั้นมึงก็ช่วยตั้งเป้าหมายให้กูหน่อยสิไอ้เจมส์ มึงว่ากูควรไปเรียนที่ไหนดี”

                “ไม่รู้สิ กูตัดสินใจแทนใครไม่ได้หรอก”

                “ก็ถูกของมึง แต่ว่าบางทีชีวิตคนเราก็ไม่มีโอกาสให้เลือกนักหรอก”

                “ใช่ บางทีชีวิตเราเลือกทำไม่ได้ แต่ยังไงเราก็เลือกจะฝันและไปให้ถึงจุดหมายได้ ก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกอะไร”

                แต่สำหรับไอ้หมากถ้าจะถอนตัวตอนนี้

คงสายเกินไปแล้ว

               

                ก่อนกลับหอผมแวะไปที่มินิมาร์ทเพื่อซื้อข้าวกล่องกับน้ำขึ้นห้อง ออกจากร้านมาไม่กี่ก้าว ก็จ๊ะเอ๋กับอาจารย์หนุ่มหล่อหน้าฝรั่งประจำห้องคอมพิวเตอร์ที่ไล่ผมให้รีบเข้าเรียนช่วงบ่ายเมื่อวันก่อน   

                “เอ้า ธีรภพ”

                ผมยกมือไหว้ทักทาย โคตรเซอร์ไพร์สอาจารย์กายจำชื่อผมได้

                “บ้านเธออยู่แถวนี้เหรอ”

                “ครับ พอดีผมอยู่หอน่ะครับ”

                “บ้านครูก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน พอดีครูแวะมาซื้อของกินนิดหน่อย ทำงานแล้วปวดหัวมากตอนนี้” อาจารย์กายบอกพร้อมรอยยิ้ม ดูจากสภาพเสื้อเชิ้ตสีดำแล้วเขาน่าจะเพิ่งกลับจากโรงเรียน

                “อาจารย์ทำงานดึกนะครับเนี่ย”

                “นิดหน่อย ครูรับทั้งงานในและงานนอกน่ะ เลยไม่ค่อยได้พัก ว่าแต่ธีรภพออกมาซื้อของอะไรดึกๆ ดื่นๆ”

                “ผมแค่หิวตอนกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบครับ” ผมตอบพร้อมปั้นหน้ายิ้ม

                “นั่นสินะ ต้องเตรียมเข้ามหาลัยแล้วสิเนอะ อย่ากดดันมากล่ะ”

                “ต้องกดดันสิ ผมอยากจะสอบเข้าจุฬาให้ได้ และผมก็พยายามทำเต็มที่ครับ”

                “ตั้งใจขนาดนี้ ครูว่ายังไงก็ติดชัวร์” อาจารย์กายเข้ามาโอบไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ ผมรู้สึกขนลุกเกรียวทันที “แต่ถ้ามีอะไรให้ครูช่วย ก็มาเจอครูที่ห้องคอมได้ตลอดนะ ธีรภพ”

                “ผมไม่รบกวนอาจารย์หรอกครับ ว่าแต่อาจารย์กายจำชื่อคนเก่งจังนะครับ”

                “อืมมม ครูเลือกจำเฉพาะคนที่น่าสนใจมั้ง”

                สายตาของผู้ชายคนนั้นจับจ้องหน้าผมราวกับต้องการบางอย่าง รอยยิ้มของเขาดูเท่และเป็นมิตร ณเดชยังชิดซ้าย ซันนี่ยังชิดขวา ไม่แปลกถ้าแก็งนางฟ้าทั้งโรงเรียนต่างปลื้มปริ่มกับกับความหล่อของอาจาย์กาย

                แต่สำหรับผมตอนนี้ ต้องรีบยกมือไหว้ขอตัวก่อนดีกว่า

               

ถึงผมจะไม่ค่อยพร้อมเจอไอ้นิว ยังไงพออยู่หอเดียวกันก็คงเลี่ยงยาก แต่โชคชะตาก็ไม่เหลือเปอร์เซ็นต์ให้ผมรอดพ้นจากมันบ้างเลย ขนาดออกมาซื้อของดึกดื่นยังเจอมันยืนคุยกับผู้หญิงร่างอวบอายุประมาณ 40 กว่าอยู่หน้าหอ ถ้าเปลี่ยนดวงบ้าๆ แบบนี้ไปเป็นดวงเฮงได้คงถูกรางวัลที่หนึ่งไปแล้ว

ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นดัดผมสั้นปะคอ ใส่เสื้อเชิ๊ตกับกระโปรงทรงเอคล้ายพนักงานออฟฟิศ ถึงหน้าไม่ค่อยเหมือนไอ้นิว แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นแม่มัน

                จู่ๆ เธอก็คุยกับไอ้นิวเสร็จแล้วหันมาทางผมพอดี ผมจึงต้องยกมือไหว้ตามมารยาท แม่ไอ้นิวยิ้มให้ผมเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านผมไป

                “แอบดูอะไรไอ้แว่น” ไอ้นิวตรงเข้ามาหาผมทันที

                “ใครแอบ แค่เดินผ่านมาต่างหาก นั่นแม่เหรอ”

                “ถามทำไม”

                “เปล่า” ผมก็ถามไปตามสถานการณ์ไปงั้นแหละ ไม่รู้ตรูก็ไม่ตายหรอก ไอ้เด็กเปรต

                “อื้ม มึงดูสบายขึ้นแล้วนี่ สงสัยร่างกายมึงจะตอบรับมือกูได้ดี”

                “ไอ้…” ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามัน

แต่ตอนนี้ผมอยากให้มันช่วยลืมๆ เรื่องนี้ไปได้ไหมวะ

                “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นกูจะไปพักละ แต่ถ้าจะให้ช่วยแบบเมื่อคืนก็มาเคาะประตูบอกแล้วกัน”

                “งั้นก็ตามสบายเถอะ” เลิกคุยถ้ามันจะยังไม่จบเรื่องทะลึ่งอีก

                “มึงจะอายทำไมวะ กูก็แค่ช่วยให้มึงผ่อนคลายแค่นั้นเอง มึงต้อบขอบคุณกูด้วยซ้ำ ได้ปลดปล่อยจนเลอะเต็มเสื้อกูหมดเลย”

            โอ๊ย! ไอ้เวร ผมหันขวับไปพร้อมกับย้ำเสียงหนักแน่นยิ่งกว่าหินผา

                “เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว มันไม่มีวันเกิดขึ้นซ้ำสองอีก ยังไงก็ช่วยลืมๆ ไปก็แล้วกัน” ผมยัดขนมใส่มือมัน “ถ้าปากมันว่างก็เอาไปยัดไว้ซะ”

                “เหอะ ปากดีแบบนี้วันนี้ต้องเจออีกชุดใหญ่”

                “ทำไมถึงชอบทำอะไรแบบนี้กับกู มึงชอบกูหรอ” เพราะมีความสงสัยค้างคาในใจผมจึงเผลอหลุดปากถามมัน เอาจริงผมก็อยากรู้ด้วยแหละ

จู่ๆ สีหน้าสนุกสนานที่ได้แกล้งผมของมันกลับเรียบเฉย ดวงตาของมันฉายแววตกใจชัดเจน ก่อนมันจะยิ้มเหยาะกลับมา

                “หึ เพ้อเจ้อละ หลงตัวเองไปหรือเปล่า อย่างกูเนี่ยนะจะชอบมึง เรื่องวันก่อนก็แค่ช่วยเพื่อนร่วมห้องแค่นั้นแหละ” พูดเสร็จมันก็เดินหนีผมเข้าหอ

                ก็ดีแล้วที่มันไม่ชอบผม เพราะยังไงผมก็ไม่มีวันสนผู้ชาย ยิ่งถ้าเป็นไอ้เด็กเปรตต่อให้หล่อเหลาเอาการแค่ไหนก็ไม่สะท้านใจ

                อึ๋ย…คิดแล้วขนลุก

               

                กริ๊งงง!!

                น่าแปลก! ปกติน้องรหัสจะไม่โทรหาผมดึกๆ ดื่นๆ แต่พักหลังสนิทกันเร็วเหมือนพี่น้องคลานตามกันมาก็ไม่แน่ อาจจะอยากมีเรื่องไร้สาระมาเสวนากับผม ยังไงผมก็ต้องสมบวทเป็นพี่รหัสแสนดีรับสายอยู่ดี

                “ว่าไง โคนัน”

                “ผมตัดสินใจอยู่นานว่าจะบอกพี่หรือเปล่า ถ้าไม่บอกคืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่เลย” เสียงปลายสายดูตื่นตะหนก

                “มีอะไรหรือเปล่า”

                “ก็คือเมื่อตอนกลางวันผมไปส่งงานกับเพื่อน ผมแอบเห็นพี่นิวกับแม่แล้วก็มีครูประจำชั้นของพี่ ครูก้อยใช่มั้ยถ้าจำไม่ผิด ผมเห็นออกมาจากห้องปกครองด้วย”

                ต่อมความอยากเผือกของผมกระตุกทันที

                “เกิดอะไรขึ้น มันโดนเรื่องอะไรหรอ”

                “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าถึงขั้นเรียกผู้ปกครองก็คงหนักอยู่แหละ ผมจะลองสืบให้อีกทีนะ”

                ไอ้นิวถึงมันจะห่ามแต่ก็ไม่ได้ชกตีกับคนอื่นไปทั่ว ล่าสุดก็มีแต่เรื่องพี่แฟรงค์ที่ร้านเหล้า

แต่นั่นน่าจะผ่านมาเป็นเดือนแล้ว

                “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่จะลองคุยกับมันดู…แต่คงไม่ถึงขั้นไล่ออกหรอกมั้ง เมื่อกี้เจอมันก็ยังดูปกติดี ไม่ต้องห่วงหรอก โคนันนอนดึกจะไม่สูงเอานะ รีบนอนเถอะ ”

                “โอเคครับพี่ ฝันดีครับ”

                ฝ่ายปกครองของโรงเรียนนี้ใช่ย่อยสมชื่อ ถ้าคืนก่อนผมไม่ได้ไอ้นิวช่วยไว้มีหวังโดนอาจารย์สมศักดิ์ลากเข้าห้องปกครองอีกคน แต่ถ้าถึงขั้นนั้นจริงหน่วยงานผมคงจัดการช่วยเคลียร์ให้ แต่ก็คงถูกตำหนิเรื่องประพฤติตัวไม่เหมาะระหว่างปฏิบัติงาน ท่านรองคงไม่ปลื้มใจนัก

                สุดท้ายผมก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงต้องมายืนอยู่หน้าห้องมัน ทันทีที่กำลังจะเคาะประตูก็มีเสียงเปรตดังขึ้นในหัว

                …แต่ถ้าจะให้ช่วยแบบเมื่อคืนก็มาเคาะประตูบอกแล้วกัน

            ช่างมันเถอะ ผมยังไม่คุยกับมันดีกว่า


ฝากคอมเมนต์ติชมให้ไรท์เตอร์ด้วยนะ รัดทั้งหลายยย :3123: :-[ เลิฟ


ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
นั่นไงไอ่นิวมันเล่นนวดซะเลอะเสื้อไปหมดแบบนี้นี่เอง
เจมส์ถึงได้เครียดจนไม่อยากนึกถึงมันเลย พอโดนเจมส์ถามว่าชอบมันรึเปล่า นิวก็ปากแข็งเหลือเกิน ระวังครูกายและไอ่หมากคว้าไปกินก่อนนะ  :hao6:
... เรื่องที่นิวเข้าห้องปกครองใช่เรื่องที่ช่วยเจมส์หนีครูฝ่ายปกครองตอนดื่มเบียร์ในชุดนักเรียน
แล้วนิวไปช่วยรึเปล่านะ :mew2:

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
นั่นไงไอ่นิวมันเล่นนวดซะเลอะเสื้อไปหมดแบบนี้นี่เอง
เจมส์ถึงได้เครียดจนไม่อยากนึกถึงมันเลย พอโดนเจมส์ถามว่าชอบมันรึเปล่า นิวก็ปากแข็งเหลือเกิน ระวังครูกายและไอ่หมากคว้าไปกินก่อนนะ  :hao6:
... เรื่องที่นิวเข้าห้องปกครองใช่เรื่องที่ช่วยเจมส์หนีครูฝ่ายปกครองตอนดื่มเบียร์ในชุดนักเรียน
แล้วนิวไปช่วยรึเปล่านะ :mew2:

ต้องรอดูจ้า ขอบคุณนะรีดเดอร์ :3123: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ปลอบใจวิธีเฉพาะของนิวคนเดียวรึเปล่าาา ทำเป็นปากแข็งไปเถอะทั้งคู่ จะรอดู

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
           
   EP.11 ภารกิจชิงของคืนจากแก็งสามสาว
   :mew1:


                  หลังจากผมกลับมาเรียน ไอ้นิวยังดูแฮปปี้ดีไม่เหมือนกันเพิ่งเข้าห้องปกครอง อันที่จริงถึงมันจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมและผมก็ไม่ค่อยอยากผูกมิตรกับมัน แต่ก็แอบห่วงอนาคตมันอยู่บ้าง แต่พอมันยังมีกะจิตกะใจแกล้งบีบก้นผมก็ทำให้ไม่อยากยุ่งวุ่นวายเรื่องนี้ต่อ อีกอย่างผ่านมาจะเดือนแล้วผมยังไม่มีหลักฐานความคืบหน้าส่งให้หน่วยข่าวกรอง ยิ่งแฝงตัวเป็นนักเรียนนานยิ่งเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยเข้าสักวัน

                ผมล้างหน้าตัวเองให้รู้สึกสดชื่นก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำกับไอ้ปอนด์ แต่ก็เจอกับแก็งเจนนุ่นโบว์ นางฟ้าประจำห้องยืนโพสท่านางแบบดักรออยู่

                “มีอะไรกันหรอ” ปอนด์รับหน้าถาม

                “อีนุ่นมันมาแอบดูผู้ชายในห้องน้ำ”

                “อีบ้า กูไม่ใช่โรคจิตนะ เดี่ยวตบขนตาหลุดเลย”

                “พวกมึงหยุดเลย” ตุ๊ดคนชื่อโบว์พยายามห้ามศึก “จริงจังหน่อยมั้ย”

                “ตกลงพวกมึงมีอะไรกัน” ไอ้ปอนด์ย้ำถาม

                แก็งนางฟ้าเดินมาเหมือนล้อมผมไว้ 

                “คือ….อีกสองเดือนจะมีงานประกวดหนังสั้น เรากับอีนุ่น อีเจน อยากให้เจมส์ช่วยเป็นนักแสดงให้เราหน่อยได้ไหม”

                หา…ทำเอาผมพูดแทบไม่ออก แน่นอน ผมก็รีบตอบกลับแบบไม่ต้องคิด

                “เอ่อ โทษที คือเราไม่ถนัดอะไรแบบนั้น ไปชวนคนอื่นเถอะ”

                “ก็เราอยากชนะการประกวด ถ้าได้คนหล่อขาวอย่างเจมส์มาเล่นบทนี้คงเริศสุด นะๆ เจมส์ แสดงแค่ไม่ถึงสิบนาทีเอง ไม่ต้องห่วงหรอก รู้มั้ยกลุ่ม ‘ดอกไม้ จ.น.พ.’ ยกให้เจมส์เป็นนักเรียนใหม่สุดฮอตเลยนะ”

                ไปฮอตอะไรในกลุ่มของตุ๊ดกะเทยในโรงเรียนตอนไหน ผมยังไม่รู้ตัวเลย ยังไงผมก็ไม่รับรับงานไร้สาระเด็ดขาด

                “เอ่อ ลองไปชวนรุ่นน้องดูสิ หน้าดีก็มีเยอะแยะ”

                ผมพยายามเสนอทางออกให้แก็งสามสาว แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผล

                “เจมส์จ๋า ไม่มีใครเหมาะกับบทนี้เท่าเจมส์แล้วอ่ะ หล่อ สูง เป็นตี๋น่ารักที่ใครก็หมายปอง พวกเราเห็นแววตาที่ฉายความมั่นใจ ท่วงท่าขยับตัวที่หนักแน่น  ยังไงบทนี้ต้องเป็นของต้องเป็นเจมส์เท่านั้น นะนะนะ ถือว่าช่วยผู้หญิงตาดำๆ อย่างพวกเราให้มีผลงานเข้าคณะนิเทศเถอะนะ เจมส์น้า ขอร้องล่ะ”

                เจอลูกอ้อนกับโดนเข้าถึงเนื้อถึงตัว ผมก็ไม่ได้ใจอ่อนลงสักนิด อีกอย่างไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น

                “เราเข้าใจพวกเธอนะ แต่เราไม่สะดวกจริงๆ นี่ต้องซ้อมบาสแข่งกีฬาสีกับแข่งงานเบญจมิตรอีก หนังสือก็ต้องอ่านด้วย ขอโทษด้วยจริงๆ”

                “เจมส์ เราจะร้องแล้วนะ” นุ่นทำท่าเช็ดน้ำตา แต่ดูแล้วโคตรปลอม

                “งั้นกูไปเล่นให้ไหม” ไอ้ปอนด์ยืดอกเสนอตัว

                “อี๋อีปอนด์ ในเรื่องไม่มีบทหมูป่านะยะ” นุ่นพูด

                “อ้าวอีนุ่น ถ้างั้นก็เปลี่ยนบทสิ ยังไงกูก็หล่อใช้ได้อยู่”

                “อีปอนด์ มึงไปลดความอ้วนก่อนเถอะ”

                “เออ งั้นก็เรื่องของมึง” ไอ้ปอนด์ทำหน้าบูด

                “นะเจมส์นะ ขอล่ะ เราจะก้มกราบตรงนี้เลยก็ได้”

                “เฮ้ย! เลิกยุ่งกับเพื่อนกูสักที ทำไมพวกมึงไปชวนแก็งสามผัวนู่นล่ะ”

                “ชวนแล้ว ผัวโฟกัสมันติดซ้อมงานประกวดดนตรี ผัวหมากก็กำลังทาบทามอยู่ ส่วนผัวนิวไม่กล้าไปชวนกลัวโดนตีนค่ะ” เจนตอบ

                “งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราขอตัวนะ ต้องรีบไปธุระต่อ” ผมตัดบทอย่างไม่ใยดีพร้อมกับกอดคอเดินฝ่าเสียงร้องโอดครวญของแก็งนางฟ้าประจำห้อง



                หลังเลิกเรียนผม ปอนด์ และมายด์ ชวนกันไปร้านบิงชูหน้าโรงเรียน

                “กูรู้ละทำไมพวกนั้นถึงอยากได้ไอ้เจมส์ไปเล่นหนังสั้น” ปอนด์พูดขึ้นขณะเอาช้อนออกมาจากปาก ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้ผมดู

                “รูปมึงเด่นหราในกลุ่มเฟซโรงเรียนขนาดนี้”

                “กลุ่มโรงเรียนอะไร” ผมถามกลับ

                “ก็มึงได้โหวตติดอันดับ จ.น.พ. คิวท์บอยไงล่ะ ว่าแต่มึงยังไม่เข้ากลุ่มหรอวะ งั้นรีบเลย เดี๋ยวกูเชิญมึงเข้ากลุ่ม”

                ผมยังไม่ได้สร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา ผมจึงรีบสมัครแล้วให้ไอ้ปอนด์เชิญเข้าในกลุ่ม และก็ทำให้ผมได้เห็นความเคลื่อนไหวในนั้นกับตา

กระทู้แรงปักหมุดคือ!?



                คิดว่าใครเป็นจิณณพัฒน์ คิวท์บอย ผลโหวต

                โฟกัส…35%

            นิว…25%

            หมาก…30%

            เจมส์…10%



                อะไรเนี่ย!! จู่ๆ ผมไปติดอันดับกับพวกแก็งสามผัวได้ยังไงกัน

                “นี่มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ”

                “กูกำลังเช็คให้อยู่ แต่ก็เจ๋งว่ะมึง ติดอันดับด้วย ไม่น่าล่ะ อีสามคนนั่นถึงมาจีบให้มึงไปเล่นหนังสั้น”

แต่สิ่งที่ผมกังวลมากกว่านั้นคือ ถ้าผมอยู่ในกลุ่มของโรงเรียน หลานอย่างไอ้ตูนก็น่าจะอยู่ในนี้ด้วย  ผมจึงรีบค้นหาชื่อเฟซบุ๊กของไอ้ตูน โชคดีที่ไม่มี ถ้ามันเห็นผมเข้ามีหวังซวยชุดใหญ่

ครู่หนึ่งไอ้ปอนด์ก็เรียกให้ผมไปดูโพสต์ที่ผมไม่คิดว่าควรมีอยู่

พระเจ้าช่วย!!

               

รวมโมเมนต์ความหล่อน่ารักของพี่เจมส์ ม.6/5

               

รูปของผมกับไอ้หมาก รูปที่ผมไปช่วยโคนันตอนล้มหน้าบูธชมรมดนตรี รูปในงานพิธีเฉลยพี่รหัส ถูกบรรจุไว้เต็มอัลบัม แถมคนยังกดไลก์เป็นพันพร้อมคอมเมนต์กันระนาว

ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ชีวิตส่วนตัวเริ่มมีปัญหาแน่ ผมเริ่มเข้าใจท่านรองแล้วว่าทำไมถึงเลือกให้มือใหม่อย่างผมรับภารกิจนี้เพราะมันเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนได้ง่าย ถ้ามีใครสักคนรู้จักผมแล้วจำผมได้ มีหวังภารกิจต้องจบเห่

คงต้องระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม

                ผมเลื่อนดูโพสต์เพื่อดูว่ามีประเด็นอื่นเกี่ยวกับผมอีกหรือเปล่า

                และแล้วก็ต้องสะดุดเข้ากับรูปภาพหนึ่ง



                ใครทำหายไว้ มารับได้ที่เราได้เลยนะ เจน คนสวยจากแก็งนางฟ้าเจนนุ่นโบว์ 6/5

               

                เฮ้ย!

เป็นไปไม่ได้! ตัวผมเย็นวาบเหมือนกับบิงชู เมื่อรูปที่เห็นคืออุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ผมพลิกชีวิตหามาตลอดทั้งเดือน แต่เพิ่งมาเห็นมันในกลุ่มของนักเรียน ซวยกว่านั้นคือมันไปอยู่ในมือของหนึ่งในแก็งเจนนุ่นโบว์ ถ้าขอรับคืนตอนนี้ไม่พ้นผมคงต้อลงนามเป็นนักแสดงหนังสั้นแน่นอน

ผมควรจะทำยังไงดี คิดไปคิดมา ต้องใช้เพื่อนให้เป็นประโยชน์

                “ปอนด์ มีเรื่องให้ช่วยหน่อย” ผมเอารูปให้มันดู “พอดีเจนมันเก็บของของกูได้”

                “มันคืออะไรหรอ”

                “แฟลซไดร์ฟ”

                “กูเข้าใจแล้ว มึงไม่อยากไปขอคืนเองเพราะกลัวโดนบังคับให้เล่นหนังใช่มั้ย”

                ผมพยักหน้าทำตาอ้อนวอน

                “ได้ ไม่มีปัญหา กูจัดการเรื่องนี้เอง”

                ผมเลยสบายใจที่ไอ้ปอนด์ตบปากรับคำด้วยความมั่นใจ

                วันรุ่งขึ้นผลลัพธ์คงออกมาดี

                ดีกับผีน่ะสิ ไอ้ปอนด์โดนพวกแก็งนางฟ้าเฉดหัวกลับมาแถมยังเผลอหลุดปากว่าผมเป็นเจ้าของอุปกรณ์เก็บข้อมูล

                แผนสองจึงต้องตามมาโดยการพึ่งพาคนสำคัญของกลุ่มอย่างหัวหน้าห้อง

                ผมอุตส่าห์เตรียมดีใจ แต่ก็เหมือนแก็งนางฟ้าจะไม่ได้โง่ มายด์โดนพวกนางเมินใส่เพราะรู้ว่าจะมาขอของคืน

“มีข้อมูลสำคัญอะไรหรือเปล่า ผ่านมาเป็นเดือนแล้วไม่เห็นนายถามถึงเลย” พอภารกิจล้มเหลวมายด์ก็ถามผม

                “อันแน่ มีคลิปอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่า” ไอ้ปอนด์ใช้ศอกกระทุ้งแขนผม

                “จะบ้าหรอ มันเป็นพวกรูปถ่ายเก่าๆ ที่เคยเซฟเก็บไว้” 

                “รูปอะไรวะ ถ้าเป็นรูปลับของมึง ป่านนี้อีพวกนั้นคงเปิดดูจนฉ่ำหมดแล้ว”

                คงไม่มีใครเปิดได้อยู่แล้ว เพราะต้องใส่รหัส

                “ทะลึ่งนะไอ้ปอนด์” ไอ้มายด์ดุ ก่อนจะเลื่อนหนังสือไปให้มันลองทำโจทย์คณิตศาสตร์ “ข้อนี้ที่นายทำผิด ลองทำใหม่อีกรอบสิ”

                “เออ…เดี๋ยวค่อยทำ ขอลงแรงค์สักตาก่อน มาไอ้เจมส์มา”

                “ปีหน้าจะเข้ามหาลัยอยู่แล้ว สนใจเรียนบ้างเหอะไอ้ปอนด์”

                “ถ้าว่ากูแคร์ไหมไอ้มายด์ บอกเลยว่า ไม่”

                “เออ ตามใจ สอบไม่ติดขึ้นมาอย่ามาร้องไห้แล้วกัน”



                ถึงต้องสละชีวิตเพื่อภารกิจสายลับหน่วยข่าวกรองอย่างผมก็ต้องยอม สุดท้ายผมก็ต้องเข้าหาแก็งเจนนุ่นโบว์ด้วยตัวเอง

                พวกมันกำลังยืนโพสท่านางแบบอย่างชัยชนะ

                “ตกลง” ผมยืนคำหนักแน่น

“กรี๊ดดดด” ทั้งสามประสานเสียงร้องพร้อมกระโดดกอดกันดีใจยกใหญ่โดยไม่แคร์สีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ของผมเลยสักนิด

                “งั้นก็ส่งของมาให้เราก่อน”

                “ได้แน่นอน เอาไปเลยจ้า” ว่าแล้วเจนก็รีบล้วงเอาของจากกระเป๋า ขณะที่ผมกำลังตาลุกวาว มือของนุ่นก็รีบคว้าไปก่อน

                “อย่าเพิ่ง รอหนังสั้นถ่ายเสร็จเมื่อไหร่ จะคืนให้ก็แล้วกันนะจ๊ะ”

                “เราไม่โกงหรอกน่า” ผมนี่เซ็งเลย

                “เอาน่า คืนก็บอกว่าคืน” นุ่นบอก “แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ”

                “งั้นเดียวเราแอดนายเข้ามาในกลุ่มหนังสั้นเลยนะ เจมส์” โบว์จัดการให้เสร็จสรรพ ไม่ทงไม่ถามสักคำ “เออ เจมส์มีเพื่อนแล้วนะ หมากก็จะเล่นเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน” 

                ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเล้ย ผมแค่อยากได้ของของผมคืน

                “แล้วหนังสั้นเรื่องอะไร”

                “เป็นหนังสั้นแฟนตาซีน่ะ ชื่อ เจ้าชายมาสคอต”

                “เราต้องเป็นเจ้าชาย แล้วใครจะเป็นนางเอกล่ะ”

                ทั้งสามคนยิ้มกรุ้มกริ่มมองหน้ากันก่อนจะตอบพร้อมเพรียงกัน

                “ไม่มีจ้า”

                “อ๋อ เจ้าชายดำเนินเรื่องตัวเดียวใช่ไหม”

                “ไม่ใช่ แต่มีนายเอก”

                “อะไรคือนายเอก”

                “นี่เจมส์ไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้จักนายเอก นายเอกก็คือนางเอกที่เป็นผู้ชายไง เจมส์คือนายเอก ส่วนพระเอกก็คือไอ้หมากไง”

                “หา! หมายความว่าไง”

“ใช่แล้วจ้า หนังสั้นวาย”

                โอย…ผมจะเป็นลม แต่เพื่อหน้าที่ต่อให้ต้องกระโดดตึกขับเรือข้ามพายุผมก็ต้องทำ

               

                ติ๊ง!!

จู่ๆ ก็มีเสียงไลน์ดังขึ้นหลังจากตัวผมกดรับเข้ากลุ่ม



                Lookkeaw poppy : สวัสดีจ้า สมาชิกใหม่ พี่ชื่อลูกแก้วเป็นคนช่วยกำกับหนังสั้นเรื่องนี้จ้า



                สวรรค์มีอะไรอยากเซอร์ไพร์สผมมากกว่านี้อีกไหม ต้องมาเล่นหนังสั้นชายชายให้แก็งนางฟ้า แถมคนที่มาช่วยกำกับดันเป็นแฟนเก่าไอ้ตูนหรือสาวคู่กรณีของไอ้นิวที่เคยเจอกันตอนไปร้านเหล้า คราวนี้ผมเหมือนโดนไอ้พี่แฟรงค์ฮุกหมัดใส่หน้าอย่างจัง



.................................ฝากคอมเมนต์ติชมให้หน่อนนะจ้ะ  :กอด1: :กอด1:เลิฟ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
วันนี้ไม่มีไอ่นิวมาวอแวเลยนะเจมส์ o18

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
วันนี้ไม่มีไอ่นิวมาวอแวเลยนะเจมส์ o18
:pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Payumoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
EP.12 แลกเปลี่ยน
    :L2:



กว่าจะเรียนเรื่องพันธุศาสตร์วิชาชีวะจบ ก็เหมือนโดนสูบพลังจนร่างแห้งเพราะอาจารย์ให้ทำแบบฝีกหัดเป็นกลุ่ม หลังจากนั้นผมต้องรีบใส่เกียร์หมาไปห้องคอมพิวเตอร์เพื่อดึงข้อมูลการใช้จากโปรแกรมสอดแนมเพราะทิ้งเวลาไว้นานแล้ว อีกอย่างตอนกลางวันคนใช้ห้องเยอะจึงไม่มีจังหวะได้จัดการ

โชคดีที่ตอนนี้ยังเปิดบริการอยู่

ผมเซ็นชื่อเข้าใช้ขณะที่คนอื่นเริ่มกลับบ้านกันหมด 

                ผมกดโหลดโปรแกรมที่เคยติดตั้งไว้ ก่อนจะเสียบฮาร์ทดิสต์เข้าไปดาวน์โหลดข้อมูล แต่ปรากฏว่า…

                โปรแกรมหายไป!

                ใจผมเริ่มเต้นรัว เกิดอะไรขึ้น ผมจำได้ว่าซ่อนโปรแกรมไว้อย่างดี ไม่มีทางที่ใครจะเข้ามาวุ่นวายได้แน่

                เสียงประตูห้องคอม.ปิด ทำให้ผมสะดุ้ง เห็นคนตัวสูงเดินตรงเข้ามา

                “ผมกำลังจะไปแล้วครับอาจารย์ จะปิดแล้วใช่ไหมครับ”

                อาจารย์กายเดินเข้ามาหาผม ก่อนจะกระตุกยิ้มพร้อมกับกดไหล่ผมให้นั่งลง

                “ยังไงตอนนี้ก็เลิกเรียนแล้ว ไม่ต้องรีบก็ได้นะ” 

                “ผมไม่รบกวนอาจารย์ดีกว่าครับ”

                “เดี๋ยวสิ” เสียงของอาจารย์กายพูดช้าลง ขณะที่มือของเขายังบีบนวดหัวไหล่ผม

                “อาจารย์มีอะไรหรือเปล่าครับ”

                “เธอกำลังตามหาโปรแกรม Spylook อยู่ใช่มั้ย”

                ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ โดนจับได้งั้นเหรอ! ไม่น่าใช่ ผมพยายามทำให้ทุกอย่างมันแนบเนียนแล้ว แต่นี่อะไรกัน

                อาจารย์กระซิบข้างหูผม “ถ้าเธออยากได้ข้อมูล บอกฉันมาก่อนทำไมถึงลงโปรแกรมนี้ไว้ในคอม”

                เหมือนใจผมเต้นเป็นกลองรัว แต่ก็พยายามควบคุมสถานการณ์ไว้ให้อีกฝ่ายสงสัย แต่ไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ได้นานแค่ไหน ดูท่าอีกฝ่ายก็คงไม่ใช่ย่อย

                “อาจารย์หมายความว่ายังไงครับ ผมไม่เข้าใจ ผมแค่มาโหลดงานส่งครู พอดีผมไม่มีคอมน่ะครับ”

“อืม…” อาจารย์กายก้มต่ำลง “แล้วไหนล่ะ ครูขอเชคงานเธอได้ไหม

                ผมโชว์ฮาร์ทดิสให้อาจารย์กาย

                “อืม แค่มาโหลดงานต้องใช้ฮาร์ทดิสใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ เอาน่า มาพูดกันตรงๆ ดีกว่า”

                อาจารย์กายเอาฮาร์ทดิสตัวเองเข้ามาเสียบ ก่อนจะเปิดโปรแกรมบันทึกการใช้งาน สิ่งที่เห็นแทบทำให้ตาลุกวาวเพราะมันคือข้อมูลการสนทนาของไอ้หมากกับใครบางคน

ถ้าผมบอกไปว่าผมคือสายลับของหน่วยข่าวกรองแล้วผู้ชายคนนี้ดันเป็นศัตรูขึ้นมาภารกิจระดับชาติคงต้องชะงักลง ยังไงผมก็ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรอง ทางเดียวคือต้องลองเจรรากับอีกฝ่ายก่อน

                “ถ้าผมเป็นคนลงโปรแกรมนี้จริงๆ อาจารย์จะลงโทษผมเหรอครับ”

                “อืม มันก็ขึ้นอยู่กับว่านักเรียนทำตัวดีหรือเปล่า”

                มือของอาจารย์กายที่อ้อมจากด้านหลังเริ่มแกะกระดุมของผม ผมยังนิ่งดูท่าทีอีกฝ่ายก่อน

                “แล้วผมจะเชื่อใจอาจารย์ได้ยังไง”

                “เธอไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ ถ้าเธอเปิดฮาร์ทดิสดูเธอก็อาจจะรู้ว่ามีสิ่งที่เธอต้องการอยู่ เธอจะไม่ผิดหวัง”

                มือของอาจารย์กายล้วงเข้ามาในเสื้อผม เสียงของเขาแผ่วเบาอยู่ข้างหู

                คราวนี้ผมก็รู้จริงๆ แล้วว่าเขาต้องการอะไรจากตัวผม

                “อาจารย์ไม่กลัวกล้องวงจรปิดในห้องนี้เหรอครับ”

                “ครูคอมไม่ได้เก่งแค่สอนคอมอย่างเดียวนะ อีกอย่างถ้าเธอคิดหนีไปตอนนี้ เธอก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

                “ผมเข้าใจแล้วครับ”

                ผมตอบด้วยเสียงราบเรียบ พยายามข่มความรู้สึกทั้งหมดไว้ หากมันจะทำให้ผมได้มาทุกอย่าง ต้องเสียอะไรไปผมก็ต้องยอม มือของอาจารย์กายเลื่อนมาถอดแว่นผม ผมค่อยๆ หลับตาลง ภาวนาให้สิ่งที่จะเกิดผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ยังไงแล้วร่างกายของสายลับมีไว้เพื่อภารกิจเสมอ

               

ในที่สุดผมก็ได้ไอ้ฮาร์ทดิสข้อมูลมาเรียบร้อย เป็นสถานการณ์ที่โคตรบ้าโคตรบอจนผมไม่มีวันลืมในชีวิตนี้ ผมรีบติดกระดุมเสื้อก่อนจะเปิดประตูห้องคอมพิวเตอร์

แต่ไม่รู้ทำกรรมมาท่าดัน ดันเจอไอ้เด็กบ้าอยู่ตรงหน้าพอดี

                ไอ้นิว!

                “ไอ้แว่น มึงมาทำอะไรที่นี่” 

                “มาทำรายงาน พอดีที่บ้านไม่มีคอม ขอตัวก่อนนะ พอดีต้องรีบกลับไปทำงานต่อ”

                แต่โดนดึงแขนไว้

                “เดี๋ยว ไปทำรายงานมาถึงกับติดกระดุมผิดเชียวหรอมึง”

                ผมรีบก้มมองดู เออ จริงอย่างที่มันบอก สงสัยจะรีบ แต่ช่างเถอะ ผมไม่อยากมาเสวนากับไอ้นิว ทันใดนั้นอาจารย์กายก็ออกมาล็อกห้องคอม.แต่ก่อนลาไปก็ทิ้งรอยยิ้มกับขยิบตาให้ผมทีหนึ่ง

                คราวนี้ไอ้นิวทำตาเขียวปัดใส่ผม

                “อ๋อ ไม่น่าล่ะ ที่ติดกระดุมผิด”

                “เรื่องของกูป่ะวะ”

                “นี่มึงอกหักจากพี่ผู้หญิงคนนั้นมาไม่เท่าไหร่ ก็หันมาเล่นกับอาจารย์แล้วเหรอไอ้แว่น”

                โอ๊ย คุยกับไอ้นิวทีไรแล้วปวดหัว กลับบ้านดีกว่า

                “มึงจะหนีไปไหนไอ้แว่น”

                แขนยาวของมันรวบตัวผมไว้ ก่อนจะพยายามล้วงเข้ามาในกางเกงผม

                “เห๊ย ทำอะไร”

                “กูจะเช็คว่ามึงทำอะไรมากันแน่”

                ผมพยายามผลักมันออก แต่ก็แรงเยอะอย่างกับควาย ไอ้นี่ทำทะลึ่งกลางทางเดินไม่อายผีอายสาง แต่โชคดีที่มีใครบางคนมาช่วยระงับความบ้าของมันได้ทันเวลา

                “เอ๊ย ผมไม่เห็นนะ” โคนันร้องพร้อมกับปิดตา

                ไอ้นิวถึงยอมผละออกจากตัวผม

                “มีอะไรไอ้โคนัน” ไอ้นิวเรียก

                “ผมจะช่วนพี่เจมส์ไปกินไอติม แล้วพี่นิวไปด้วยกันเปล่า”

                “ไม่อ่ะ กูไม่ว่าง” พูดเสร็จไอ้นิวก็รีบเดินปรี่หายไปจากทางเดิน

                เป็นอะไรของมัน น่ารำคาญจริงๆ เมื่อไหร่อันนิวจะเลิกทำตัววุ่นวายเสียที ผมติดกระดุมใหม่อย่างหัวเสีย

                “ว่าแต่เรารู้ได้ไงว่าพี่อยู่ที่นี่”

                “พอดีผมเจอพี่ปอนด์ที่อาคาร 2 เห็น เห็นพี่ปอนด์บอกพี่มาห้องคอม. ผมเลยจะชวนไปกินติม”

                “โทษที พี่ไม่ว่า พี่ต้องรีบกลับห้อง”

                “นะๆ ไปกินติมกับผมหน่อย แล้วผมจะปิดปากเงียบเรื่องที่พี่กับพี่นิวล้วงกันกลางทางเดิน”

                “ไอ้โคนัน” ผมเริ่มดุ ไอ้นี่เริ่มได้ความแสบมาจากพี่รหัสอีกคนของมันหรือเปล่าวะ “เออๆ ไปกินก็ได้แต่แปปเดียวนะ”

                ไอ้โคนันหรี่ตามองผม

“ว่าแต่เมื่อกี้พี่สองคนล้วงกันจริงๆ ใช่มั้ย”

                “ไอ้นิวมันก็ชอบกวนตีนแบบนี้อยู่แล้ว ช่างมันเถอะ นี่จะไปกินติมไหมจะไปก็รีบไป”

                เด็กน้อยกระโดดดีใจก่อนจะเข้ามากอดผม

                เฮ้อ…นี่มันน้องรหัสหรือลูกชายวะเนี่ย

                ระหว่างทางจู่ๆ ผมก็ได้รู้ว่าโคนันไม่ได้ชวนผมไปกินไอศกรีมหน้าโรงเรียนอย่างเดียว มีเรื่องบางอย่างที่มันอยากเล่าให้ผมฟัง

                “นี่พี่เจมส์รู้เหรือเปล่า ผมแอบรู้มาว่าช่วงนี้พี่นิวต้องไปทำความสะอาดห้องพักครู ห้องโสต หลังเลิกเรียนแทบทุกวันเลยนะ”

                “อย่าบอกนะว่าโดนฝ่ายปกครองทำโทษ”

                “ผมคิดว่าใช่นะ แต่ก็ยังดีที่ไม่โดนโทษหนัก”

                ผมก็เห็นใจไอ้นิวอยู่หรอก แต่ก็ดีแล้ว มันจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับผมในช่วงที่ภารกิจกำลังไปได้ดี ผมเลยตบไหล่ไอ้โคนันแล้วตอบผ่านๆ

                “เรื่องชกตีคงไม่ถึงกับโดนไล่ออกหรอกน่า”

               

หลังจากกลับมาห้องผมก็รีบเสียบฮาร์ทดิสเข้ากับโน๊ตบุ๊คทันที ถ้าข้อมูลที่ได้มามีหลักฐานครบถ้วน ภารกิจโรงเรียนของเราน่าอยู่จะคอมพรีสทันที และผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นพิภพคนเดิม

พอเข้าโปรแกรมใส่รหัสเสร็จ หน้าจอบันทึกการใช้งานคอมพิวเตอร์โรงเรียนของไอ้หมากก็ปรากฏขึ้น และเป็นอย่างที่คาด ไอ้หมากแอบซ่อนโปรแกรมสนทนาลับเพื่เอาไว้กับใครสักคน



                Mr.M : ของล็อตที่แล้วจัดส่งจนครบหมดแล้วครับ

               

                Master.P : ดีมาก คราวนี้เราจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น 

               

                Mr.M : แล้วผมจะโดนจับมั้ยเนี่ย

               

               Master.P : ฉันถึงอยากให้มาคุยกันผ่านในนี้ ถ้าแกไม่ทำอะไรพลาด คงไม่ถูกจับหรอก ช่วงนี้ต้องระวังตัวไว้ก็ดี จนกว่าเราจะกระจายของได้ทั่วประเทศ อย่าทำให้บอสต้องผิดหวัง

               

               Mr.M : ครับผมจะทำให้ดีที่สุด

               

               Master.P : ยังไงฉันก็จับตาดูแกอยู่ทุกฝีก้าว ถ้าแกยังอยู่ในโรงเรียน ไม่มีใครยุ่งกับแกได้ แต่อย่างที่บอกระวังพวกครูไว้ให้ดี อาจมีพวกสายหน่วยข่าวกรองเข้ามาปะปน ยังไงพวกมันมาแน่ ไม่ช้าก็เร็ว

                ………



                โชคดีที่พวกมันคาดไม่ถึงเรื่องหน่วยให้ผมปลอมเป็นนักเรียน ไม่ใช่ครู ผมจึงไม่เป็นจุดสังเกต ส่วน Master.P ผมค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นคนในโรงเรียน เพราะคนที่ช่วยเหลือไอ้หมากได้ต้องเป็นคนที่ใช้อิทธิพลในโรงเรียนได้อิสระ ซึ่งในโรงเรียนก็มีแค่พวกครู พนักงาน หรือนักเรียน

ตอนนี้ผมต้องรู้ให้ได้ว่า Master P.เป็นใคร คงหวังแค่ข้อมูลจากมือถือของไอ้หมาก

                แต่น่าเสียดายการกิจของผมยังไม่จบ หลักฐานแค่นี้อาจยังไม่พอ หน่วยต้องการรายชื่อเครือข่ายของ Master.P ทั้งหมด งานนี้ผมอาจรับมือคนเดียวไม่ไหว อาจารย์กายจึงเป็นคนเดียวที่พอจะให้คำปรึกษาได้ ผมเชคไปทางพี่รสรินแล้วเขาเป็นคนพัฒนาโปรแกรมของหน่วยข่าวกรองจริงๆ !

                

                นึกเหตุการณ์ในห้องคอมก็น่าเจ็บใจ

                จังหวะที่มือของอาจารย์กายกำลังลูบไล้ทั่วอกผม ขณะที่ผมหลับตาฝืนกลั้นความรู้สึกทั้งหมด ภาวนาให้มันผ่านไปให้ไวที่สุด

                แต่แล้ว…

               

“ฮ่าๆๆ”

อาจารย์กายกลับยืนกุมท้องหัวเราะผม

            “สมกับเป็นหน่วยข่าวกรองจริงๆ”

            นี่มันเกิดอะไรขึ้น! มีคนรู้ว่าผมไม่ใช่นักเรียน!

            “คุณเป็นใคร”

            “ฉันก็เป็นอาจารย์คอมพิวเตอร์โรงเรียนนี้ไง มีอะไรหรือเปล่าธีรภพ”

            ผมรีบคว้าฮาร์ทดิส ยังไงก็ได้หลักฐานมาแล้ว ถ้าความแตกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าข้อมูลที่ได้มาไม่มากพอ ภารกิจผมคงมีปัญหาแน่ถ้ายังไม่รู้ว่าคนตรงหน้ามาดีหรือมาร้าย

            “ผมถามว่าคุณเป็นใครกันแน่”

            “ไม่ต้องห่วง ถ้าผมเป็นศัตรูคุณจริง คุณคงไม่อยู่มาถึงวันนี้หรอก”

            ก็จริงอย่างที่ครูคนนี้ว่า เขารู้จักโปรแกรม Spylook ของหน่วยข่าวกรองได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถแฮ็ครหัสของผมเข้าไปดึงข้อมูลได้ ซึ่งคนที่สามารถทำแบบนี้ได้ก็มีแต่…!

            “คุณเป็นคนของหน่วยข่าวกรอง”

            “ก็ไม่เชิงหรอก จริงๆ ผมเป็นแค่พนักงานพาร์ทไทม์ของหน่วยเท่านั่นแหละ หน้าที่ของผมคือพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ที่หน่วยใช้นั่นแหละ รวมถึง Spylook เวอร์ชั่น SL223 ตัวนี้ด้วย อ่อ ผมรู้จักกับฝ่ายไอทีอย่างพี่รสรินด้วยนะ”

            ไม่น่าล่ะ เขาถึงรู้ว่าผมเป็นสายเพราะเขาน่าจะเห็นผมติดตั้งโปรแกรมนี้ ซึ่งมีแค่หน่วยข่าวกรองเท่านั้นที่ใช้ ทำเอาหัวใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่ม แต่ยังไงก็ดีที่ไม่ต้องเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายผม

            “เมื่อกี้ทำไมคุณต้องมา เอ่อ…” ผมรู้สึกพะอืดพะอมเกินกว่าจะพูด

            “ต้องขอโทษด้วยละกัน เอาจริงคุณเป็นสายที่น่าสนใจมาก จนผมอดใจทดสอบไม่ไหว คนมีฝีมือยอมทุ่มสุดตัวให้ภารกิจแบบคุณหายากนะ ถ้าคุณมีอะไรให้ผมช่วยเหลือผมก็ยินดีช่วย”

            “แล้วผมจะไว้ใจคุณได้ยังไง”

            “คุณก็รู้ สายของหน่วยข่าวกรองไม่จำเป็นต้องไว้ใจใครทั้งนั้น แค่เชื่อใจตัวเองก็พอ”

           

อย่างน้อยก็รู้สึกว่าอาจารย์กายพอจะช่วยให้ภารกิจผ่านพ้นไปได้เร็วขึ้น จริงๆ อาชีพหลักของเขาเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์มาเป็นสิบปีแล้ว แต่อีกด้านเขาเป็นคนพัฒนาโปรแกรมให้กับหน่วยข่าวกรองมาตั้งแต่เรียนจบ นับว่าก็เป็นรุ่นพี่ผมหลายปี

จากรูปลักษณ์หล่อสมาร์ทของเขาแทบจะถอดแบบสายลับในภาพยนตร์ต่างประเทศ อันที่จริงเขาดูเหมือนสายลับมากกว่าผมด้วยซ้ำ

และที่สำคัญผมได้รับคำแนะนำบางอย่างจากเขา ตัวผมเองก็ยังมีจุดที่ต้องพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องที่ยังเข้าถึงตัวเป้าหมายไม่มากพอ ความสัมพันธ์ของผมกับไอ้หมากอาจห่างเหินเกินไป ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ก็คงได้แค่หลักฐานเล็กๆ น้อยแบบนี้ ยิ่งดึงเวลาภารกิจให้นานขึ้นอีก ผมย้ำกับตัวเองเสมอว่า ขณะที่ผมยังต้องปลอมเป็นนักเรียน เด็กๆ ก็ต้องสังเวยให้กับยาอันตรายมากขึ้นทุกวัน

ตอนนี้จุดอ่อนเดียวของไอ้หมากก็คือ ความรู้สึกที่มันมีกับผม

                ผมตัดสินใจแล้ว  ผมจะใช้แผน ก้าวข้ามความเป็นเพื่อน กับมัน!




ฝากคอมเมนต์ติชมด้วยนะจ๊ะ เลิฟจ้า :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด