25/02/59
ภาคเรียนที่สอง...บทที่สิบสอง
"นี่!! นายจะพาฉันไปไหน!!! ปล่อยฉันไปเลยนะ!! จอดรถ!!! จอดรถเดียวนี้!!!" เจ้านายตะโกน
โหวกเหวกโวยวายพลางพยายามที่จะเอื้อมมือมาดึงเบรคมือของรถเพื่อที่จะให้รถจอด และตัวเอง
จะได้หนีไปใหพ้นๆ จากภีม เพราะหลังจากที่เขาเสียจูบให้ภีมไปไม่นานนัก ภีมก็จับเขามายัดใส่
รถสีขาวคันเท่ของตัวเองและเหยียบมิดคันเร่งออกมาจากสนามแข่งอย่างที่ไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวเลย
"บอกให้จอดรถไงว่ะ!!! จอดๆ จอดๆ จอดสิโว้ย!!!" เจ้านายยังคงร้องตะโกนโวยวายต่อไป
เอี๊ยดดดดดดดดดด......
โป๊ก!!
"โอ้ยยยยย....ทำบ้าอะไรของนายหน่ะ!! นึกจะเบรคก็เบรค.....เจ็บนะโว้ย!!!" เจ้านายโอดโอย
พูดตะคอกใส่ภีม เมื่ออยู่ดีๆ ภีมก็เบรครถตัวโก่งจนทำให้เจ้านายทรงตัวไม่อยู่ตั้งตัวไม่ทัน เลยทำให้
หัวของเจ้านายไปชนกับคอนโซนรถที่อยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างแรง จนเกิดเสียงดัง
"ก็บอกให้จอดเองไม่ใช่หรือครับ?" ภีมถามหน้าตาย
"จอดแล้วก็ปลดล็อคประตูสิว๊ะ!! จะได้ไปสักที!! ส่วนของเดิมพันจะส่งรถคันใหม่เอียมมาให้"
เจ้านายพูดบอกพร้อมกับคลึงหัวโนๆของก็เองไปด้วย
"ครับ" ภีมตอบรับคำพร้อมรอยยิ้ม
"เออ!!!.....โป๊ก!!!.....แมร่งโอ้ยยยยย....เล่นบ้าอะไรว่ะเนี่ย!!!!!!" พอใจได้ไม่นานเจ้านายก็ต้อง
กลับมาร้องโอดโอยอีกครั้งเพราะหัวของเขาไปโขลกกลับคอนโซนหน้ารถที่เดิมมุมเดิมอีกครั้ง เพราะ
ในขณะที่เจ้านายกำลังได้ใจ คิดว่าภีมจะปล่อยตัวเองไปจริงๆ เพราะเห็นว่าภีมปลดล็อคประตูรถให้
แต่ก็เปล่าเลย เพราะทันทีที่ภีมปลดล็อครถภีมก็กดล็อครถกลับเหมือนเดิมในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที
ตอนนั้นเดี๋ยวนั้นเลย!!!!
***หมายเหตุ : รถของภีมถ้ากดล็อคแล้วก็ต้องปลดล็อคจากทางฝั่งของคนขับได้อย่างเดียว เจ้านายจึง
ไม่สามารถปลดล็อคและกระโดดลงรถหนีไปเองได้ ถ้าภีมยังไม่ปลดล็อคให้
"ก็ปลดล็อคให้ตามที่ต้องการแล้วไงครับ..ทำไมยังไม่ลงไปอีกล่ะ?" ภีมเลิกคิ้วถามหน้าตายอีกครั้ง
"แค่วิ(นาที)เดียวเนี่ยนะ!!!" เจ้านายถามเสียงสูง
"ก็นั่นแหละครับ" ภีมยักไหล่บอก ประมาณว่า...ก็กูเปิดให้แล้ว มึงเสือกไม่ไปเอง...ช่วยไม่ได้
"เหอะ!! ให้พ่อภาสมาทำให้ดูก่อนเถอะ! ขนาดซุปเปอร์แมนที่ว่าเร็วๆ ยังใช้เวลาแก้ผ้าเปลี่ยนชุด
ในตู้โทรศัพท์ตั้งสามนาทีนะเลยเว้ยยยยย.....แมร่ง!!!" เจ้านายพูดประชดออกมาอย่างหัวเสีย แต่ภีม
ก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรกลับไป ปล่อยให้อีกคนได้นั่งคลั่งตีอกชกหัวตัวเองไปอย่างนั้นแหละ...สนุกดี!
.
.
.
.
.
โรงแรมจินดากรณ์ (สาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ)
"มาที่นี่ทำไม?" เจ้านายถามอย่างหวาดระแวง
"มาเปิดกล่องของเดิมพัน" ภีมตอบพร้อมกับกระชับจับมือเจ้านายให้เดินตามตัวเองเข้าไปภาย
ในตัวตึกของโรงแรม
"เปิดบ้าเปิดบออะไร!! ปล่อย!! ปล่อยดิว่ะ!! จะกลับบ้าน!!!" เจ้านายพยายามที่จะสะบัดมือและ
ดิ้นหนีออกจากการจับกุมของภีม เมื่อภีมพาตัวเองเข้ามาหยุดอยู่ที่ลิฟท์ส่วนตัวที่จะไปยังสองชั้นบน
สุดของตัวโรงแรมที่เป็นเหมือนเพนท์เฮาส์ส่วนตัวของคนในครอบครัวอัครจินดากรณ์โดยเฉพาะ...ที่เขา
รู้ก็เป็นเพราะว่าตัวเขากับป๋าคุณ แม่ธารจ๋าและน้องๆ ก็เคยได้มีโอกาสไปเที่ยวพร้อมกันกับคนบ้านนี้
และได้ไปพักเพนท์เฮาส์ส่วนตัวที่มีอยู่สองชั้นบนสุดของโรงแรมในเครือจินดากรณ์ของจังหวัดนั้นนั่น
แหละ.....ไม่รู้ว่าพ่อภาสจะรวยไปถึงไหน!!!
ติ๊ง!!!
"หึๆ" ภีมหัวเราะหึๆ อยู่ในลำคอเพราะเห็นท่าทางสะดุ้งในแบบตลกๆ ของเจ้านาย ตอนที่เจ้านาย
ได้ยินเสียงลิฟท์เปิดเมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่จะแตะคีย์การ์ดไขประตูเข้าไปภายในห้องชั้นแรก และรีบเก็บทั้ง
คีย์การ์ดและกุญแจห้องเข้าในกระเป๋ากางเกงของตัวเองตามเดิม เพราะจากที่จะเข้าจะออกจากห้องนี้
ได้ก็ต้องใช้ทั้งสองสิ่งนี้ในการปลดล็อคพร้อมกัน ไม่สามารถที่ปลดล็อคจะเปิดประตูออกได้อย่าง
แน่นอนถ้าไม่ได้ใช้คีย์การ์ดกับจุญแจ.....เสร็จแน่ๆ พี่เจ้านายคนแมน...
"มาเปิดใจคุยกันอย่างลูกผู้ชายแมนๆ เลยดีกว่า....ว่าจริงๆแล้วนายต้องการอะไรกันแน่" เอาว๊ะ!
ในเมื่อหนีไม่ได้แล้วก็ต้องลองพูดเจรจาต่อลองกับไอ้หัวสายไหมนี่ดูสักตั้ง.....เอาให้เสียเปรียบมัน
น้อยที่สุดก็แล้วกัน!!
ไม่ต้องไปเรียกว่าน้องภงน้องภีมเหมือนเมื่อวันวานแล้ว ในเมื่อไอ้หัวสายไหมตรงหน้านี่มันไม่ได้
น่ารักเหมือรเมื่อก่อนนี้เลย แถมยังดูเจ้าเล่ห์ กวนประสาท และน่ากระทืบที่สุดเลย!!.....ฮึ่ย!!
"ก็ 'เซ็กส์' ไงครับ....อย่าทำเหมือนว่าไม่เคยสิ.....ทั้งที่เคยทำอยู่ประจำแท้ๆ" ภีมพูดบอกเสียงนิ่ง
เหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ความจริงแล้วหัวใจของเขากำลังเจ็บก็ตาม เพราะยิ่งพูดยิ่งนึกถึงพฤติกรรม
การกระทำของเจ้านายที่ผ่านมาระหว่างที่เขาใช้เวลาศึกษาหาความรู้อยู่ที่โน่น เจ้านายเองที่อยู่ทางนี้
กำลังระเริงร่าอยู่กับอะไรบ้างในสิ่งที่เขาเห็นจากภาพถ่ายที่คุณป๋าเจ้าคุณส่งให้ ถ้าไม่ใช่ แข่งรถ ดื่มเหล้า
มั่วผู้หญิง คั่วผู้ชาย และเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น แทบจะไม่ซ้ำหน้ากันเลย.....เหอะ!!!
"เซ็กส์?" เจ้านายถามเสียงสูงอย่างตกใจ
"ครับ...เซ็กส์" ภีมยืนยันคำตอบ
"เหอะ! แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ฉันจะได้ไม่ต้องดีดดิ้นให้เหนื่อย...เอาเถอะ!อย่างน้อยเมื่อก่อน
นายก็เคยเป็นว่าที่เจ้าสาวฉัน ฉันจะช่วยสนองความต้องการของนายให้ก็แล้วกัน" เจ้านายบอกอย่าง
ที่คิดว่าเป็นต่อ...ก็นะ! ถึงจะไม่ชอบและจะรู้สึกไม่พอใจที่อยู่ดีๆภีมก็มาขอมีเซ็กส์กับเขาง่ายๆอย่างนี้
ทั้งที่เมื่อก่อนภีมเป็นคนขี้อายและหวงตัวแท้ๆ ตอนที่ยังคงเป็นแฟนกันอยู่ อย่าว่าแต่จูบเลยแค่จะกอด
จะหอมน้องน้อยในวันนั้นยังเป็นเรื่องยากเลยเพราะน้องเป็นเด็กที่รักนวลสงวนตัวมากถึงมากที่สุด
แต่นี่อะไร! มาขอมีเซ็กส์กันง่ายๆหน้าตาเฉยอย่างนี้เลยหรอ? มันจะดูเจนจัดมากไปแล้วนะ!! หรือว่าไป
อยู่เมืองนอกเมืองนามานานความเป็นกุลบุรุษ(?) ถึงได้หายไปหมดอย่างนี้!!!.....
เจ้านายมัวแต่เข่นเขี้ยวเขี้ยวฟันคิดโน่นนี่นั่นอยู่คนเดียวจนลืมไปแล้วว่านอกจากตัวเองแล้วยังมี
คนที่ตนนินทาอยู่ในใจอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วก็เป็นเพราะว่าลึกๆในใจ
ของเขานั้น ยังมีภีมอยู่เต็มหัวใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถึงไม่ชอบที่ภีมจะมาพูดเรื่องเซ็กส์และทำ
เหมือนว่าการหลับนอนกับใครก็ได้นั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆ ทั่วไปไม่ต่างจากการกินข้าวหรือการดูหนัง
ที่จะทำที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่ฐานะของเขากับภีมตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว(แค่ในความคิด
เพ้อเจ้อขี้มโนของแกคนเดียวน่ะสิเจ้านายเอ้ย!!)
"ไปอาบน้ำสิครับ ผมไม่ชอบนอนกับคนสกปรก" ภีมยื่นผ้าขนหนูสีน้ำเงินเข้มผืนใหญ่ส่งให้กับ
เจ้านายที่ยังคงจมอยู่แต่ความคิดของตัวเอง
"เหอะ! บอกตัวเองเถอะ!!!" เจ้านายสะบัดเสียงพูดใส่ภีมอย่างหงุดหงิดเพราะยังคงโกรธเรื่องของ
ภีมที่อยู่ในความคิดของตนเมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่จะเดินหนีภีมไปทางที่คิดว่า(น่าจะ)เป็นห้องน้ำ
"เดี๋ยวครับ" แต่ภีมก็เรียกเอาไว้ก่อนที่เจ้านายจะได้เปิดประตูห้องนั้น
"ทำไม? มีปัญหาอะไรอีก?" เจ้านายเอี้ยวคอหันกลับมามองภีมด้วยหางตา ถามเสียงห้วน
"นั่นมันห้องครัวครับ ไม่ใช่ห้องน้ำ" ภีมตอบเสียงเรียบพยายามตีหน้านิ่งเก๊กหน้าขรึม ทั้งที่
จริงแล้วเขาอยากจะหัวเราะออกมามากแค่ไหนก็ตาม
"เอ่อ....ก็..ก็ฉันจะไปกินน้ำก่อนไงค่อยไปอาบน้ำ!!! หิวน้ำโว้ยยย!!!" เจ้านายพูดแก้ตัวตะกุก
ตะกักเพราะไม่อยากให้ภีมรู้ว่าความจริงแล้วตัวเองเปิดห้องผิดคิดว่าห้องครัวเป็นห้องน้ำ....คนแมน
อย่างพี่ห้ามหน้าแตกเด็ดขาดครับพี่น้อง!!! ฮู้!! อายชิบ!!!
ปัง!!!
"ฮึๆ ฮ่าาาาาาาาาา" ภีมถึงกลับต้องลงไปดีดดิ้น หัวเราะขำตัวขดตัวงออยู่ที่พื้นห้องทันทีที่
เจ้านายเดินปิดประตูเข้าไปในห้องครัว ที่ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวเข้าใจคิดผิดคิดว่าเป็นห้องน้ำ แต่คนรัก
ศักดิ์ศรี เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงอย่างเจ้านายแล้ว จะให้มายอมขายหน้าพูดรับออก
มาตรงๆ ว่าตนเข้าใจผิดนั้นคงจะไม่ได้หรอก แต่......แมร่งจี้จริงๆ ว๊ะ!! ฮ่าาาาาาาาา......
.
.
.
.
.
"น้องภีมครับ"
"หืม?" ภีมถึงกลับหลุดแสดงสีหน้าออกมาตรงๆ อย่างไม่เคยคิดที่จะทำมาก่อนเมื่อได้ยินเสียง
เจ้านายเรียกชื่อตัวเองด้วยเสียงนุ่มทุ้มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างนี้ แต่ก็หลุดมาดไม่ได้นานหรอกเมื่อ
หันกลับไปมองร่างโปร่งของเจ้านายที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ผ้าขนหนูสีน้ำเงินผืนใหญ่ที่เขาให้ไปก่อนหน้า
นี้ ผันรอบสะโพกปิดส่วนล่างไว้เท่านั้น สั่นด้านบนก็เต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะพราวอยู่บนหน้าอกบาง
ทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้นเยอะเลย แต่ติดอยู่อย่างเดียว...เจ้านายไม่เนียนพอ! เพราะเจ้าตัวเผลอแสดงสีหน้าและ
แววตาเจ้าเล่ห์อย่างนึกสนุกออกมาอย่างไม่รู้ตัว.....อ่อ! นีิ่คงอยากจะแกล้งเขานะสินะ!...จะแกล้งโง่
ลองเล่นด้วยดูหน่อยก็แล้วกันนะครับพี่เจ้านาย....หึๆ
"ว่ายังไงครับ...พี่นาย" ภีมแสร้งทำเป็นหลุดเรียกสรรพนามเดิมที่เคยใช้เรียกกันก่อนที่จะเกิดเรื่อง
ยุ่งๆ ขึ้นมา ทำเอาเจ้านายที่คิดวางแผนมาจากห้องน้ำอย่างดีแล้วถึงรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของตนกำลัง
กระตุกเต้นอย่างแรงอย่างที่ตนเองก็แปลกใจเหมือนกัน.....แมร่ง!! จะทะลุหลุดออกมาจากอกแล้วมั้ง
หัวใจของกู!!!
"เราจะเริ่มกันได้เลยรึยังครับ...พี่พร้อมแล้วนะ" พอตั้งสติได้แล้วเจ้านายก็รีบกลับเข้าแผนเดิมของ
ตัวเองโดยใช้เสียงนุ่มทุ้มอยู่เหมือนเดิม
"ยังครับ...ผมยังไม่พร้อม...และที่วางอยู่บนเตียงนั่นคือชุดของพี่ครับ" ภีมตอบเสียงเรียบพลางชี้นิ้ว
ไปที่ชุดที่ตนได้หามาวางเตรียมไว้ให้เจ้านายก่อนหน้านี้ หลังจากที่ตัวเขาเองกลับมาจากไปอาบน้ำที่
ห้องน้ำอีกห้องนึงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นข้างนอก ส่วนที่เจ้านายเข้าไปอาบนั้นคือห้องน้ำในตัวห้องนอน
"ทำไม!!" เจ้านายเผลอขึ้นเสียงพร้อมทั้งชักสีหน้าอย่างไม่ชอบใจ ในเมื่อเขาอุตส่าห์เข้าไป
เตรียมตัวเตรียมใจเพื่อที่จะออกมาทำหน้าที่สามี(?)ชั่วคราวให้เจ้าตัวได้โดยที่ไม่หงุดหงิดได้แล้ว
ทั้งที แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่พร้อมเนี่ยนะ!!! มันจะตลกเกินไปรึเปล่าห้ะ!!!
"ผมแค่อยากให้เราได้พูดคุยกันให้เข้าใจก่อน" ภีมทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียงนอนของตัวเอง
พลางพูดบอกเจ้านายที่ยืนหน้าง้ำงออยู่
"มีเรื่องอะไรที่เราต้องพูดต้องคุยกันอีกหรอ?" เจ้านายถาม เพราะเขายังไม่เข้าใจว่าภีมกำลัง
พูดถึงเรื่องอะไรอยู่
"มีสิครับ ทุกเรื่องเลย...ทุกเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเราสองคนตั้งแต่วันที่ผมตัดสินใจไปเรียยต่อ
ม.ปลาย ที่โน่น.....มานั่งนี่สิครับ" ภีมพูดบอกพร้อมกับตบที่ว่างข้างตนบนปลายเตียงเพื่อให้เจ้านาย
ที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆ ตน
"เรื่องอะไรอ่ะ? ฉันไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่" เจ้านายขมวดคิ้วถามเพราะถึงแม้
ว่าภีมจะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าภีมต้องการจะพูดถึงเรื่องอะไรในเมื่อเรื่องระหว่าง
เขากับภีมมันจบไปแล้ว จบไปตั้งแต่ภีมกลับมาพร้อมกับลูกเมียฝรั่งของตนแล้ว!!!.....แต่ก็ยอมที่จะ
ก้าวเดินเข้ามานั่งที่ปลายเตียงข้างๆ ภีมอยู่ดี
"เอาจริงๆ ภีมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเรื่องของเรามันเริ่มสะดุดตั้งแต่ตรงไหนเมื่อไหร่ยังไงในความเป็น
จริงและในความคิดของพี่นาย.....แต่ภีมจะเริ่มในสวนที่ภีมอยากจะให้พี่นายรับรู้ก็แล้วกันนะครับ"
ภีมเริ่มพูดเปิดประเด็นขึ้นอย่างที่ตนก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าความรักของพวกเขานั้นมันถึงจุดตกจุดสะดุด
ติดขัดตั้งแต่ตอนไหน จึงขอเริ่มจากสิ่งที่ตนอยากให้อีกคนรับรู้ก็แล้วกัน....เพราะมันคงจะเป็นทางเลือก
ของการเริ่มต้นที่ดีที่สุด
"อือ..." ไหนๆ อีกคนก็เริ่มเกริ่นขึ้นมาขนาดนี้แล้ว ก็ลองคุยกันหน่อยแล้วกัน เพราะถึงจะไม่ได้
ประโยชน์อะไรที่มันทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นกว่านี้ แต่อย่างน้อยก็อาจจะเคลียร์ความรู้สึกติดค้างที่
อยู่ในใจของตัวเองออกไปสักนิดก็ยังดี.....ก็แค่นั้น ไม่ได้หวังอะไรไปมากว่านั้นเลยจริงจริ๊ง!!!!
"ที่ผมต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็เพราะว่าผม...ผมทำสัญญาลูกผู้ชายกับป๋าคุณไว้ เพื่อที่
จะเป็นการพิสูจน์กับป๋าว่าผมรักพี่จริงๆ แบบที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนตาย ไม่ใช่ความรักในแบบเด็กๆ
ที่ไม่กี่เดือนกี่ปีก็ต้องเลิกกัน และหลังจากที่ผมเรียนจบกลับมาแล้วพี่จะเป็นของผมทันที โดยที่ป๋าจะ
ไม่ขัดขวางและกรีดกันในความรักของเราสองคนอีก...แต่..ความเป็นจริงแล้ว..ป๋ากลับไม่ทำตาม
สัญญาที่เคยพูดกันไว้ แถมยังใส่ร้ายว่าผมหอบลูกหอบเมียฝรั่งกลับมาบ้านอีกต่างหาก!!!" ภีมเผลอ
พูดใส่อารมณ์ในประโยคสุดท้ายเมื่อนึกไปถึงวันนั้น...วันที่ตนเป็นโดนน้ำท่วมปากที่อยากจะพูด
อยากจะบอกแก้ตัวอะไรออกมาบ้างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อเขายังเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ
ของคุณป๋าเจ้าคุณอยู่อย่างนั้น!!! อีกทั้งเจ้านายก็ไม่เคยคิดที่จะเปิดโอกาสรับฟังในสิ่งที่เขาพยายาม
ที่จะพูดจะอธิบายให้เจ้าตัวเข้าใจเลย สุดท้ายจะเป็นใครล่ะที่ต้องเจ็บซ้ำเจ็บซาก เจ็บมาตั้งแต่อยู่
อเมริกาคอยรอรับภาพถ่ายยืนยันความชอกช้ำของตัวเองอย่างนี้!!! ทั้งที่คุณพ่อคุณแม่ของเขาเอง
ก็ต่างบอกว่าเจ้านายเจ็บเพราะเขาเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่เขาก็รับรู้.....แต่ที่เจ้านายเจ็บมันไม่ใช่มา
จากการกระทำของเขาจริงๆ ไง!!! มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่ป๋าคุณจอมหวงลูกพูดปลดจัดฉากออกมา!!!
"จะ...จริงหรอ.....แล้วผู้หญิงกับเด็กฝรั่งที่ฉันเห็นนายจ๊ะจ๋าอยู่ล่ะ พวกนั้นเป็นใครกัน" เจ้านาย
ปากคอสั่นถามออกมาอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อหู เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ปักใจเชื่อไปอีกอย่างนึงแล้ว
Tru...Tru...Tru...
"ว่าไงภีม!!! เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย" ภีมไม่ตอบแต่กลับเดินไปหยิบมือถือของตนที่วาง
ทิ้งไว้อยู่บนหัวเตียงมาโทรวีดีโอคอลหาใครสักคน ก่อนที่จะมีเสียงของหญิงสาวทางปลายสาย
เล็ดลอดออกมาพร้อมกับหน้าจอที่แสดงภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาวและเด็กฝรั่งตัวน้อยที่เป็น
ประเด็นในการสนทนาของเขากับภีมเมื่อสักครู่นี้.....นี่ภีมกำลังเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!!
"แค่บางส่วนน่ะ ยังไม่ทั้งหมดหรอก พอดีว่าเขาอยากจะรู้ว่าเธอและริกเกอร์เป็นอะไรกับฉัน"
ภีมพูดบอกพลางพยักหน้าไปทางเจ้านายที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างๆกัน...ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่
( // อืม....สวัสดีค่ะคุณเจ้านาย ยินดีที่ได้รู้จักกันสักทีนะคะหลังจากที่ฟังภีมบ่นให้ฟังอยู่หลายปี
เข้าเรื่องกันเลยแล้วกัน....ริกเกอร์เป็นลูกของภีมค่ะ ส่วนฉันเป็นแม่ของริกเกอร์ //) เธอทักทายกับ
เจ้านายก่อนที่จะเริ่มไล่บอกถึงความสัมพันธ์แปลกๆ ของภีมกับเธอและลูกของเธอ อย่างกำกวม
"แค่นี้ใช้ไหมที่นายจะบอกฉัน! ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัวหล่ะ!" ทันทีที่จบคำพูดของเจนนี่ เจ้านาย
ก็พรวดพราดลุกขึ้นพูดเสียงแข็งใส่ภีม พร้อมกับที่พยายามที่จะก้าวเดินหนีออกจากตรงนั้น แต่ก็ติด
ที่ภีมจับแขนตนไว้ด้วยมือเดียวอย่างแน่นหนาเหมือนโดนล็อคกุญแจมืออย่างไงอย่างงั้น
"หยุด!! แล้วนั่งลงที่เดิมเดี๋ยวนี้!!.....เลิกเล่นได้แล้วเจนนี่!!!" ภีมตะคอกใส่เจ้านายให้สงบสติและ
นั่งลงที่เดิม ก่อนที่จะหันไปพูดดุจนเกือบจะเป็นการตะคอกใส่เพื่อนคนสนิทของตัวเอง
(// ชิ!! อย่ามาดุฉันนะภีม เพราะฉันไม่ใช่ริกเกอร์ที่จะกลัวนาย เสียใจย่ะ!!.....คุณเจ้านายค่ะ
มันก็จริงที่ภีมเป็นพ่อของริกเกอร์ และฉันเป็นแม่ของริกเกอร์ แต่...สามีของฉันคือคนนี้ค่ะไม่ใช่ภีม
สรุปง่ายๆ คือ ริกเกอร์เป็นลูกแท้ๆของฉันกับสามีของฉันโลเวลคนนี้ ส่วนภีมก็เป็นแค่พ่อทูนหัวที่ไม่
มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆของภีมทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นคุณเจ้านายวางใจได้เลยค่ะว่า
อีตาภีมเพื่อนรักของฉันคนนี้ยังโสดและ 'ซิง' ไม่มีพันธะใดๆกับใครทั้งสิ้นค่ะ ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย
แล้วที่สำคัญนะคะ...ฉันไม่เอา 'หมาป่าห่มหนังแกะ' อย่างภีมมาเป็นสามีและพ่อของลูกให้ปวดหัว
หรอกค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้ก่อนนะคะริกเกอร์ง่วงแย่แล้ว เอาไว้ว่างๆ ค่อยไปเที่ยวด้วยกัน
นะคะ...บายค่ะคุณเจ้านาย บายภีม!! //) เธอพูดอธิบายยาวเหยียดจนแทบจะไม่หยุดหายใจ ก่อนที่
จะขอตัวตัดสายสัญญาณไปเพราะเจ้าหนูน้อยริกเกอร์ลูกชายของเธององแงอยากจะนอนกลางวัน
(ของที่โน่น) แย่แล้วเลยไม่สะดวกที่จะคุยต่อ
"ที่เธอพูด...เรื่องจริงหรอ" เจ้านายพูดถามเสียงเบาหวิว ความรู้สึกที่มีต่อภีมทั้งความโกรธ โมโห
ผิดหวัง เสียใจ และอีกหลายๆอย่างก่อนหน้า มันเหมือนกับพื้นเปียกน้ำที่โดนเช็ดทำความสะอาดแล้ว
ก็กลับมาเอี่ยมสะอาดดังเดิมเหมือนกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย อีกทั้งความรู้สึกรัก รู้สึกชอบและ
ความผูกพันที่ตนมีต่อภีมเสมอมาที่ก่อนหน้านี้คิดว่ามันได้หลายไปแล้ว แต่ไม่ใช่เลย มันแค่ถูกความ
มืดมิดในความรู้สึกของเขาบดบังไปชั่วคราวก็เท่านั้นเอง ที่ตอนนี้มันกลับมาชัดเจนแจ่มแจ้งจนทำให้
หัวใจดวงน้อยๆของเขาที่เคยฝ่อแฟบกลับกลายเป็นฟูฟ่องพองโตคับแน่นจนแทบจะทะลุออกมาจาก
หน้าอกของเขาอยู่แล้ว......ของภีมรักเขา!! น้องภีมยังเหมือนเดิม!!! น้องภีมของพี่นาย.....โฮ้โฮ~~~
"จริงครับ...หลังจากที่เราเคลียร์ปัญหาหัวใจกันได้แล้ว เราก็มาเคลียร์ปัญหา 'ร่างกาย' กันต่อ
ดีกว่านะครับ...พี่เจ้านาย... หึๆ"
_________________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!