ตอนที่ 1
ปฐมทิเทศน์
"เดินเรียงแถวขึ้นมาเลย ตามพี่ ๆ เขาไปนะ"คน ๆ นี้เป็นใครก็ไม่รู้ รู้แต่เขาต้องเกี่ยวพันกับโรงเรียนนี้แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสิทธิ์มาพร่ำบอกนักเรียนใหม่แบบนี้หรอก บรรยากาศนี้มันก็ทำให้หวนนึกถึงวันเก่า ๆ ได้เหมือนกัน ผมจำได้เลยว่าวันแรกที่ได้เข้ามาเหยียบที่แห่งนี้มันรู้สึกยังไง ผมอยู่ที่นี่มา 1 ปีเต็มแล้ว ตอนนี้ผมเริ่มจะได้กลิ่นรุ่นพี่แล้วล่ะสิ ปีนี้ผมจะได้เป็นรุ่นพี่แล้ว หึหึ
ผมนายจักรินทร์ การช่าง ปีนี้อายุ 17 ปี ชื่อเล่นชื่อน็อต พ่อผมเขาเป็นช่างซ่อมรถ มีลูกเลยให้ลูกชื่อน็อต นามสกุลผมก็เกี่ยวกับช่าง แต่โคตรเหง้าของผมไม่ได้เป็นช่างนะ แต่ช่างตั้งนามสกุลให้ตรงกับปัจจุบันแท้ สงสัยล่วงรู้อนาคตว่าพ่อผมจะมาทำงานเป็นช่างซ่อมรถ เลยตั้งนามสกุลให้เข้ากับคนรุ่นหลังต่อไป อืม....เก่งแท้
แต่ช่างโคตรผมเถอะ ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า ผมจะได้เป็นรุ่นพี่แล้ว แล้วมันคืออะไร เป็นแล้วทำไมน่ะเหรอ ก็ง่าย ๆ อ่ะครับ ปีนี้ผมก็ได้ปลดปล่อยแล้วไง มีรุ่นน้องแปลว่ามีน้องใหม่ มีน้องใหม่แปลว่ามีนักเรียนเข้ามาใหม่ ซึ่งนั่นก็จะมีสาวน้อยมากมายหลั่งไหลกันเข้ามาจีบรุ่นพี่สุดหล่ออย่างผม ถูกต้องมั้ยครับ (ใครบอกไม่) หึ มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ
"ทำหน้าอย่างกับเหียก"ไอ้ห่านี่ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ คนใกล้ ๆ ตัว ใกล้ไปเยอะเลยด้วย มันอยู่กับผมตั้งแต่ผมจำความได้เลยล่ะครับ ผมเกิดมาลืมตาได้เดี๋ยวเดียวมันก็โผล่ออกมา คือผมกับมันเกิดวันเดียวกันครับ วัน เดือน ปี เดียวกัน ต่างกันแค่เวลา ผมเกิดบ่ายโมง 56 นาที มันเกิดบ่ายโมง 58 นาที ดูสิครับ มันใกล้ผมตั้งแต่เกิดแล้ว ครอบครัวของพวกเราก็สนิทชิดเชื้อกัน ราวกับเป็นญาติแท้ ๆ อ้อ! ลืมบอกไป มันชื่อ ทิน ครับ ชื่อจริง นายทินกร แสวงศักดิ์ หรือเรียกว่าทินเนอร์ก็ได้นะครับ มันเหมือนเมาทินเนอร์ตลอดเวลา
"เหียกพ่อมึงสิ กูกำลังนึกถึงสาว ๆ สวย ๆ เว้ย มึงว่าปีนี้จะมีคนสวย ๆ เข้ามาเปล่าวะ"ถ้ามีละเสร็จ หึหึ
"กูว่ามีนะ แต่เขาคงไม่ตาต่ำมาแดกเดนสังคมอย่างมึงหรอก"
"เดนอย่างกูก็ต้องอยู่คู่กับพวกเดนเหมือนกันอย่างมึงไง ถูกมั้ย ไปกันดีกว่า เดี๋ยวอาจารย์ว่ากูอีก ขี้เกียจหาเหตุผล"
"ถุย เหตุผล อย่างมึงน่ะข้ออ้าง คนบ้าอะไรใช้เหตุผลว่าทำคลอดให้แมวได้ 3 วันติด ไอ้ควาย"
"คว.. มึงคิดได้อย่างกูเปล่าหรอก ไปได้แล้ว ขี้เกียจคุยกับคนโง่ ๆ"
วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศน์ของนักเรียนปี 1 ของโรงเรียนผม ปี 1 ที่ว่าไม่ใช่มหาวิทยาลัยนะครับ แต่เป็นวิทยาลัย ซึ่งแปลว่าปฐมนิเทศน์นักเรียนนักศึกษาปวช.และปวส.ปี 1 ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าคนดี ๆ อย่างผม พอเห็นอาจารย์ทำงานหนักก็อยากจะช่วย เป็นธรรมดาของคนดีล่ะครับ หึหึ
"ทำหน้าเหียกอีกละ กูไม่เข้าใจว่ะ ทำไมวะ แค่สอบได้คะแนนไม่ดีต้องให้พวกเรามาทำงานบ้าบอนี่ด้วย"ไอ้เวร อุตส่าห์สร้างภาพที่ดีให้กับตัวเอง ไปบอกเขาหมดซะงั้น ก็อย่างที่มันพูดแหละครับ ผมสอบวิชาภาษาจีนได้คะแนนน้อย เลยต้องมาช่วยงานอาจารย์ไป จริง ๆ มีคนได้คะแนนน้อยหลายคนนะครับ อย่าเพิ่งเหมาว่าผมเป็นคนโง่ จริง ๆ ไม่ใช่เลย มันไม่ใช่ภาษาพ่อแม่ผมนี่ครับ ถ้าถามภาษาไทยมาผมก็ตอบได้ (บ้าง) แต่อาจารย์เขาแบ่งเป็นช่วง ๆ กับหลินฮุ่ย ได้ของแถมเป็นหลินปิง เอ่อ...นอกเรื่องละ คือคนอื่นเขาก็ทำวันอื่น ๆ ไปแล้ว เหลือพวกผม 2 คน เพราะคนหล่อต้องทำทีหลัง (ใครบอกไม่เกี่ยววะ) นั่นละครับเหตุผลทั้งหมดที่ผมมาที่นี่ในวันนี้
"แม่ง แค่เราได้คะแนนน้อยที่สุด ต้องให้มาทำงานที่หนักที่สุด ไม่มีเหตุผลเลย ไรว้า"มึงน่ะไรว้า กูอุตส่าห์...ฮึ่ม เอาเป็นว่าอย่าไปฟังหรือไปรับรู้ในสิ่งที่มันพูดเลยครับ
"มึงหยุดเห่า แล้วไสตูดมากับกูเร็ว ๆ เหอะ กูขี้เกียจฟังจารย์บ่น"
ว่าแล้ว...งานท่วมเลย ไหนจะต้องเตรียมของว่าง เอกสารแจกนักเรียน ต่าง ๆ นานา ไรบีนา เอ๊ย! ไม่ใช่ ๆ นี่ผมต้องทำหรือนี่ ฆ่าผมเถอะ มันเยอะไปแล้ว (เอ่อ..ผมอยากอยู่ถึงอายุ 1 ล้านปี ฉะนั้นอย่าเพิ่งถือมีดดาบมา เขากลัวแล้ว T^T)
"จารย์ พวกผมต้องทำหมดนี่เลยเหรอ"โหดร้ายไปแล้ว อันหลังนี่พูดไม่ได้หรอกครับ ไม่งั้นโดนมากกว่านี้อีก
"จานกินข้าวเหรอ อาจารย์น่ะพูดเป็นมั้ย มาจาน ๆ บ้าบออยู่นั่นแหละ"อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมอาจารย์ที่มีการศึกษาสูง ๆ ถึงพูดแบบนี้ คือถ้าไม่พูดจะเอาพวกเดนนรก เอ่อ ไม่ใช่สิ พวกสุดหล่ออย่างผมอยู่หรอครับ
"โถ่จารย์"
"นายจักรินทร์ ถ้าเธอไม่พูดอาจารย์แบบเต็ม ๆ เธอทำหมดนี่คนเดียว"
"ครับ อาจารย์สุดสวย"หยอดไปหน่อย เดี๋ยวก็ลดงานให้พวกผม คอยดูดิ
"อืม ดีมาก จริง ๆ เดี๋ยวจะมีพี่ ๆ มาช่วย ไม่ได้ให้ทำกัน 2 คนหรอก"นั่นไง ผมว่าแล้ว อาจารย์น่ะใจดีจะตาย (เมื่อกี้ว่าใครโหดวะเนี่ย) ใครพูด เปล๊า ปรักปรำ เดี๋ยวผมฟ้องพ่อนะ
"นายทินกร ใบ้รับประทานเหรอ เงียบเชียว"จารย์คร้าบ ลงโทษมันเลย (ไม่ได้ยุนะเนี่ย)
"ก็ผมมองสาวอยู่นี่ครับ ปวส.ปีนี้น่ารักทั้งนั้นเลย ผมชอบ"แม่งหน้าด้านไปบอกอาจารย์เขาอีก เอาเข้าไป
"คิดเหมือนกันเลย"อ้าวจารย์ เป็นไปด้วยซะงั้น
"ปกตินะ จะมีแต่พวกแต่งหน้าทาปาก ก็รู้ว่าการแต่งหน้าทาปากมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับระดับมันสมองหรอกนะ แต่แค่อยากรู้ว่าเอาปัญญาที่ไหนมาจ่ายเงินกับค่าเครื่องสำอางค์ทั้งหลายแหล่ ทีให้ทำบุญล่ะกว่าจะให้ได้ ทวงแล้วทวงอีก มือถือนี่เปลี่ยนกันทุกรุ่นที่มาใหม่ เอาเงินที่ไหนมาจ่ายถ้าไม่ใช่ของพ่อแม่ เด็กสมัยนี้นี่....."
"เอ่อ อาจารย์ ผมเมื่อยหู"ต้องหยุดก่อนครับ ไม่งั้นร่ายยาวเหมือนคัมภีร์ เขาเริ่มจะวัยทองแล้วต้องเข้าใจเขาหน่อยครับ เรื่องแบบนี้ หึหึ
"ฉันรู้ว่าเธอว่าฉันว่าวัยทอง"รู้ได้ไง อุตส่าห์คิดในใจ
"เปล่านี่ครับ ถ้าผมหิว ผมกินของตรงนั้นได้มั้ยครับ"
"ได้สิ เอาเงินมา 300 บาท เดี๋ยวสั่งพิซซ่ามากิน"ไถตังค์ผมซะงั้น
"นี่ไอ้ทินเนอร์ ถ้ามึงแง้มปากมาสนทนายามว่างกับกูคงไม่มีใครกล้าว่ามึงหรอกมั้ง"
"กูไม่กล้าสนทนายามว่างกับคนหน้าปลวก"ใครวะหน้าปลวก มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ .....อ้าวไอ้บ้านี่ หลอกด่ากู
"คว.. หลอกด่ากู"ทำหน้าเหรอหรา หนอย...ไอ้เมาทินเนอร์
"ไป ๆ ทำงาน ๆ อย่าแอบไปกินจิ้งจกนะจักรินทร์"เอ่อ..จารย์ครับ ผมคนนะ คนบ้าอะไรจะจับจิ้งจกกินยามว่าง
แล้วผมก็ต้องปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้เต็มที่ ดูเป็นคนดีมั้ยครับ ก็อย่างว่าแหละครับ ปฐมนิเทศน์ มีอะไรบ้างล่ะ นั่งฟังพวกผู้บริหารสถานศึกษาแห่งร่ายเวทมนต์หลายชั่วโมงแค่นั้นเอง ผมล่ะสงสัย มีกันอยู่แค่ไม่กี่คน ทำไมแม่งพูดกันเป็นชั่วโมงเลย ผีเจาะปากมาพูดหรือไง เฮ้อ! แต่ผมก็ทนได้ล่ะครับ ในนี้มีแอร์เย็น ๆ มีโต๊ะแข็ง ๆ (ที่วางของว่าง) แค่นี้ผมก็นอนได้แล้วล่ะ
"ไอ้น็อต พ่อมึงมา"พ่อในที่นี้ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ นะครับ ทินมันหมายถึงอาจารย์คนนึง ซึ่งเขาโหดและเนี๊ยบมาก แต่แปลกที่ว่า เขามาสนิทชิดเชื้อกับผมได้ แต่มันก็ทำให้ผมไม่ต้องเข้าห้องปกครองบ่อย ๆ หึหึ ผมจะบอกเคล็ดให้นะ ตอนแรกทำตัวให้สนิทสนมกับคนในห้องปกครองให้ได้ก่อน สักคนนึงก็ยังดี ทีนี้เขาก็จะคอยช่วยเราให้พ้นภัยจากใบเตือน ใบพักการเรียนได้แล้วล่ะครับ ไม่ได้โม้
"หวัดดีครับจารย์"ผมกับทินทักอาจารย์ก่อนที่เขาจะมาทัก ไม่งั้นเจ็บตัว คือเขาชอบทักแบบญี่ปุ่น (หรือเปล่า) เขามาตบหัวอ่ะครับ ไม่ได้ตบแบบเอาหัวหลุด แต่ตบเอามันส์ เหอะ ๆ
"เออดี มาช่วยงานอาจารย์เป็นด้วยเหรอ"ผมออกจะเป็นคนดี ทำไมว่างี้ละครับ
"แหม ก็มีบ้าง ผมออกจะเป็นคนดี อยากช่วยตลอดแหละ เพียงแต่ไม่ค่อยมีเวลา ธุรกิจรัดตัว ไหนจะต้องอ่านหนังสือ ช่วยพวกสัตว์ทั้งหลายคลอดลูก จูงคนแก่ข้ามถนน แล้วยัง..."
"พอ ๆ ฟังของเอ็งทีไรรู้สึกว่าเหมือนฟังนิทาน"อ้าว ซะงั้น
"จารย์ครับ วันนี้จารย์มาทำไมครับ"อ้าวไอ้ทิน ถามแบบนี้กวนส้งตีงเขานี่หว่า
"มาถามชื่อพ่อเอ็งไง"แรงงงงส์
"อ่าครับ คำนี้มันโดนจริง ๆ พ่อผมชื่อทศวรรศ ครับ"ไอ้นี่ก็เล่นตามด้วย คือจริง ๆ ผมบอกว่าพวกผมอ่ะหล่อครับ (อยากบอกเฉย ๆ)
"เออ ปีนี้ข้าจองตัวนะเว้ย มาเป็นนักกีฬาทีมบาสของข้าซะดี ๆ"คือปีที่แล้วพวกผมเป็นนักกีฬาทีมบาสน่ะครับ แล้วจารย์แกเป็นคนคุม ก็เลยสนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ ผมทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ใคร ๆ ก็หมายปอง
"ทำหน้าเหียกอีกแล้ว ทำไมมึงชอบทำหน้าเหียกวะไอ้น็อต"
"กูจะไปรู้มั้ย แล้วไอ้หน้าเหียกมันเป็นยังไงวะ"
"ก็เป็นอย่างมึงไง"จบครับ ผมเปิดประเด็นให้มันด่าผมอยู่
"สรุปพวกเอ็งเป็นนักกีฬาบาสเหมือนเดิมนะ ข้าไปก่อนล่ะ"และแล้วพระเอกก็จากไป หึหึ ผมลืมบอกไปหรือเปล่าว่าจารย์เขาชื่อปอง สมปองอ่ะครับ เรียกแบบสนิท ๆ ว่าปอง
"น็อต ปีนี้กูฝากชีวิตกูไว้กับมึงด้วยนะ กูรักมึงเสมอว่ะ"
"มึงรักกูทุกปีแหละ เมื่อไหร่จะให้โอกาสกูได้รักมึงบ้าง แม่ง รักกูทีไรมึงต้องให้กูทำการบ้านให้มึงลอกทุกที ไอ้ห่า"
"เออน่า เพื่อน กูรักมึงว่ะไง เสียสละ เข้าใจมั้ย"
"ขอกูรักมึงบ้างได้มั้ย"
"กูยังอยากโสดว่ะ ฮ่า ๆ"
พวกคุณว่าปีนี้ผมจะรอดพ้นจากชะตากรรมความรักของไอ้ทินเนอร์มั้ยครับ ผมอยากรู้จริง ๆ แต่ผมคิดอย่างนึงล่ะ ว่าถ้าจะหนีจากชะตาแบบนี้......มันยากนัก!!
จบตอน 1