Thank you
สายฝนเริ่มลงเม็ดเปาะแปะ ท้องฟ้าของเมืองกรุงคำรามต่ำอย่างอัดอั้น ฝุ่นควันจากท้องถนนฟุ้งกระจาย ควันจากท่อไอเสียบดบังทัศนวิสัย ร่างเล็กในเสื้อเชิร์ตสีอ่อนกับกางเกงสแล๊กรีบวิ่งเข้าไปหลบฝนตรงป้ายรถเมล์
ผู้คนเบียดเสียด เด็กหญิงตัวน้อยผูกแกละถือไอศกรีม มือหนึ่งจูงมือมารดา เงยหน้ามองชายหนุ่มแล้วถามเสียงแจ้ว "แม่ๆ พี่คนนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ?"
"อุ๊ย" มารดาร่างอ้วนอุทานแล้วหันมามอง "ขอโทษพี่สาวเค้าเร็ว ถามยังงั้นได้ยังไง" นางส่งยิ้มขอโทษให้ แต่ชายหนุ่มได้แต่เพียงหัวเราะอย่างเหน็ดเหนื่อย
"พี่เป็นผู้ชายครับ"
"โอ๊ะ!" สองแม่ลูกอุทานพร้อมกัน
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายร่างเล็กหยิบขึ้นมาดู ใบหน้าหวานใสนวลเนียนมีรอยยิ้มแต่งแต้มก่อนจะกดรับ แม้จะโดนชายร่างอ้วนเบียดจนร่างเล็กซีกหนึ่งโผล่พ้นจากหลังคาหรือเสื้อเชิร์ตตัวบางเปียกน้ำฝนจนแนบร่างก็ตาม
"พี่เสือ ?"
"ต่ายน้อยอยู่ไหน ?"
"พี่เสือกลับบ้านก่อนเลย เดี๋ยวหนูขึ้นรถเมล์กลับ"
"ได้ยังไง ? เดี๋ยวพี่ออกไปรับ..."
"พี่เสือ! อย่าดื้อนะ! กลับบ้านเดี๋ยวนี้!" กระต่ายตัวเล็กขึ้นเสียงดุ ปลายสายเลยตอบกลับเสียงอ่อย
"เดี๋ยวต่ายไม่สบาย..."
"หนูแข็งแรงดี รถเมล์มาแล้ว แค่นี้นะ" ร่างเล็กรีบปิดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้ววิ่งขึ้นรถเมล์
ผู้คนเบียดเสียดจนแทบหายใจไม่ออก พัดลมตัวเก่าพัดโกร่งกร่าง กระต่ายถูกเบียดไปข้างหน้าต่าง ใบหน้าเล็กแนบหน้าต่างบานเก่า การจราจรยังคับคั่ง ภาพรถคันหรูจอดเทียบข้างๆ เลนส์รถเมล์ที่จอดติดไฟแดง กระจกรถบูกัตติสีดำเลื่อนลง เผยให้เห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาด้านใน
"คุณจิรนันท์!" ชายหนุ่มในแว่นกันแดดราคาแพงจนสามารถดาวน์รถยนต์ได้ร้องทัก "จริงๆ ด้วย ให้ผมไปส่งไหม ?" เขาตะโกน
กระต่ายยิ้มสุภาพตอบกลับ นึกอายคนบนรถเมล์ที่มองเขาอย่างดูแคลนปนริษยา
รถหรูกับรถเมล์ เป็นใครก็เลือกอย่างแรก... ยกเว้นคนโง่
กระต่ายก็โง่จริงๆ นั่นแหละ
"ขอบคุณครับ ไม่เป็นไร" กระต่ายตะโกนกลับ ชายบนรถบูกัตติท่าทางไม่เชื่อ จะเอ่ยปากอีกครา แต่พอดีกับจังหวะไฟเขียว รถเมล์เคลื่อนตัวพอดี ทำให้กระต่ายถอนหายใจ
เจ้าของรถบูกัตติสุดหรูตามจีบกระต่ายอย่างไม่เกรงใจเสือได้หลายเดือนแล้ว ที่ผ่านมาด้วยใบหน้าหวานใส ร่างเล็กบอบบาง ดวงตากลมโต นิสัยอ่อนโยนทำให้หนุ่มๆ ทั้งอายุมากกว่า น้อยกว่าหรือเท่ากันตามจีบ บางคนแม้จะไม่เป็นเกย์แต่ก็หวั่นไหวกับเขาไปเยอะเหมือนกัน ยังมีพวกที่เป็นเกย์ ร่ำรวย มั่นใจในตนเองสูง ไม่พรั่นพรึงกับร่างยักษ์ของพี่ชายฝาแฝดอีกจำนวนมาก แม้กระต่ายจะตัดรอนเท่าใด แต่กลับไม่มีใครอยากถอนตัวไปง่ายๆ
ท่าทางหวงเนื้อตัวและสุภาพของกระต่าย กลับดูเป็นสิ่งสูงค่า น่าค้นหาสำหรับหนุ่มๆ
รถเมล์จอดเทียบแล้ว คนกรูกันลง กระต่ายถอนหายใจโล่งอกก่อนลงตาม
เสือพยายามรักษาสัญญา... ไปส่งไปรับด้วยรถยนต์มือสองคันเก่าราคาถูก แม้งานจะยุ่งเพียงใดหรือต้องแบกภาระค่าน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวันๆ ก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามก็มีบางวันที่งานยุ่งจนไม่อาจมารับกระต่ายได้ แต่กระต่ายก็เข้าใจดี ตรงกันข้าม กลับอยากให้พี่ชาย... คนรักได้พักผ่อนเสียมากกว่า
ไม่ใช่แค่เจ้าของรถยนต์บูกัตติคันงามนั้นหรอกที่เทียวไล้เทียวขื่อร่างบาง แต่ทั้งเจ้าของโรงงานขนาดยักษ์ นักการทูต ทนายความชื่อดัง ลูกชายเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ จนไปถึงเจ้าของโรงแรมชื่อดังต่างมาป้วนเปี้ยน มอบคำสัญญาให้ทั้งนั้น
...กระต่ายไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้ว่า ถ้าหากเลือกเอาแค่ผู้ชายหนึ่งคนในนั้น กระต่ายก็ไม่ต้องขึ้นรถเมล์ เผชิญกับสายฝนและผู้คน ชายพวกนั้นเพียบพร้อมและพร้อมจะจ่ายเพื่อให้กระต่ายมีความสุขที่สุด
กระต่ายวิ่งหลบฝนลัดเลาะตามกันสาดของร้านค้า เมื่อถึงป้ายรถเมล์ก็ต้องยิ้มกว้าง
...ร่างสูงใหญ่ราวสองเมตร ผิวคล้ำ หุ่นหนาล่ำในเสื้อกล้ามสีขาวเปียกชื้นและกางเกงเลตัวเก่า ต้นแขนหนาด้วยมัดกล้ามมีรอยสักภาษากรีกดูแปลกตา เขาสวมรองเท้าแตะหูหนีบและถือร่ม ก้าวยาวๆ มาหา
"กระต่าย! พี่บอกว่าจะไปรับ!"
ร่มของเสือเป็นร่มคันเล็ก ปั๊มตราธนาคารที่พวกเขาเป็นหนี้ก้อนใหญ่กันอยู่ นอกจากหนี้ก้อนนี้แล้วยังมีหนี้ทุนการศึกษาของเสือและหนี้ที่กู้มาจากคุณพ่ออีก ถ้าหากกระต่ายเลือกผู้ชายพวกนั้น... ก็ไม่ต้องเผชิญกับหนี้และดอกเบี้ย สามารถใช้ชีวิตทุกๆ วันได้เหมือนในเทพนิยาย ได้กินอาหารหรูๆ ทุกมื้อโดยไม่ต้องลงมือเอง ได้ซื้อของทุกอย่างที่ต้องการและไม่มีรายการของซื้อที่จำเป็นอยู่ในมือแบบนี้
ใบหน้าเล็กแหงนเงยขึ้นสบ หยาดฝนหยดพราวบนเส้นผมสีดำขลับ ยิ่งทำให้ใบหน้าสวยสะนั้นดูงดงามและบอบบาง พี่ชายและชายคนรักยื่นร่มให้ บังสายตาคนภายนอกและสายฝนที่อาจนำพาโรคภัยมาเยือน
"หนูสบายดี" กระต่ายตอบ ยิ้มพราว แต่ชายหนุ่มร่างยักษ์ไม่เชื่อ ซับน้ำฝนจากเรือนผมแผ่วเบา กระชับร่มในมือและจับจูงมือน้อย
"ไปเถอะ กลับบ้านกัน อาบน้ำอาบท่า"
"ต้องซื้อของนะพี่เสือ" เสือทำหน้าที่กุมกระเป๋าเงินของบ้าน จะซื้ออะไรต้องมาจากการเบิกทั้งนั้น แต่ส่วนมากแล้วเสือมักตามใจน้องทุกที
"อะไรหมดบ้าง ต่ายขึ้นบ้านก่อน เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้" เสือตอบ หยิบรายการออกจากมือเล็ก
"ไม่เอา... พี่เสือเลือกของไม่เป็น เดี๋ยวหนูไปเอง"
"ดูถูกพี่นะเรา!" พี่ชายหัวเราะเสียงห้าว เมื่อเดินมาถึงกลางทาง คนเริ่มน้อยลงก็รวบเอวบางเข้าหาตัว พรมจูบบนเส้นผมนุ่ม "เป็นห่วงแทบแย่เลยรู้ไหม"
กระต่ายน้อยในวงแขนแข็งแรงของเสือหนุ่มอมยิ้ม ซุกใบหน้ากับอกกว้าง
กลิ่นเหงื่อ บุหรี่และความเมื่อยล้าโอบล้อมร่างเล็ก เมื่อเงยหน้าขึ้นจะเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเสือหนุ่มอิดโรย รอยคล้ำใต้ตาเป็นวง เสือทำงานหนักเพื่อให้คนรักสบาย ริ้วรอยเริ่มเป็นเส้นเบาบางบนใบหน้าทั้งๆ ที่อายุยังอยู่เลขสอง ไรหนวดสีเขียวครึ้มลากผ่านคางและเหนือริมฝีปาก กระต่ายหมายใจว่าจะวันนี้ต้องจับโกน
บูกัตติ เงินทอง ชีวิตในเทพนิยาย ความสมบูรณ์แบบ... ช่างมันปะไร...เพราะไม่มีใครบนโลกแล้วที่จะรักกระต่ายได้... เหมือนที่พี่เสือรัก____________
[Talk] อัพตอนพิเศษสุดท้ายแล้วค่ะ ขอแจ้งปิดเรื่องตรงนี้เลยค่ะ เรื่องราวของพ่อแม่ ของพี่เสือต่ายน้อยหลังแต่งงาน(?)จะมีเพิ่มอยู่ในรวมเล่มค่ะ ในรวมเล่มประกอบไปด้วยทั้งตอนพิเศษที่ไม่เคยลงที่ไหนมาก่อนและตอนพิเศษที่เคยลงในเพจค่ะ ส่วนเรื่องของฟงแกง เขียนแยกเป็นอีกเรื่องนะคะ ติดตามได้ที่นี่ค่ะ กำลังรีไรต์อยู่เลย ;w;
Stay Gold
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47031.0ต่อเรื่องรวมเล่มเนอะ ความคืบหน้ารวมเล่มสามารถตามได้ที่เพจ
https://www.facebook.com/AimersIsland?ref=hl ค่ะ ตอนนี้ส่งต้นฉบับไปแล้ว ปกก็เสร็จหมดแล้วค่ะ รอทางสนพ. พิจารณาและจัดเข้าคิวค่ะ คาดว่าน่าจะประมาณตุลา - หลังงานหนังสือค่ะ เรารวมกับ สนพ. Hermit ค่ะ สามารถสอบถามเพิ่มกับได้ที่เพจของ สนพ. โดยตรงเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks?fref=ts เพราะกระบวนการจัดพิมพ์หรือคิวพิมพ์เราเองก็ไม่ค่อยทราบอะไรเท่าไหร่ กลัวว่าข้อมูลจะผิดพลาดได้น่ะค่ะ
สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าอวสานอย่างเป็นทางการ(ในโลกออนไลน์)เท่านี้นะคะ อยากบอกว่า เราดีใจมากๆ ที่มีคนอ่าน มีคนตาม มีคนรักสองพี่น้องขนาดนี้
ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นคนเขียนเก่ง เป็นนิยายเรื่องแรกหลังจากที่ร้างมาสิบกว่าปีอีกต่างหาก ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาแวะ มาอ่าน มาเมนต์ มาบวกเป็ด กดไลค์ คอมเมนต์ฯลฯ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
นิยายเรื่องนี้อาจจะใช้เวลานานไปหน่อยกว่าจะจบ คนเขียนก็ขี้โวยวาย ขี้งอน ขี้น้อยใจ ขี้บ่น มีแต่เรื่องๆๆๆ มีบ่นๆ ให้คนอ่านฟัง แต่คนอ่านก็ยังใจดี แนะนำ ให้กำลังใจมาโดยตลอด ไม่รู้สิ สำหรับเราไม่ใช่แค่ คนอ่าน - คนเขียนนะ แต่คือ 'เพื่อน' ที่รวมตัวกันมาให้กำลังใจบ้าง เมาท์บ้าง ช่วยคอมเมนต์บ้าง เราผ่านวันที่แย่ๆ วันที่เหนื่อยมาด้วยทุกๆ คนเลยค่ะ เหมือนกับว่าพี่เสือต่ายน้อยคือไดอารีในช่วงปีที่ผ่านมาของเราเลย และสองพี่น้องก็พาให้เราพบกับทุกคน ต้องขอบคุณพี่เสือและน้องต่ายด้วยนะ
ยังไงก็ตาม aimer ก็ยังไม่ไปไหนนะคะ ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในเล้าและเพจค่ะ 5555 และยังอัพเรื่องฟงแกงอยู่ อาจจะช้าเหมือนเดิม
แต่ก็จะพยายามค่ะ
ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ เลยนะคะ
สามารถไปพูดคุย เมาท์มอย ด่าคนเขียน ดักตบได้ที่เพจเหมือนเดิมนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหน
ปล. เปิดจองเมื่อเมื่อไหร่ จะแจ้งทั้งที่เล้าและที่เพจเลยค่า
ยูเลิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
สวัสดีค่า <3 แล้วเจอกันที่ Stay Gold นะคะ