เพลย์ลิสต์ของนัทOther side of playlist 1“แล้วมึงต้องกระดิกหางปรี่ไปหาไอ้ห่าเฟิร์สทุกครั้งที่มันโทรมาเหรอวะ” ผมส่ายหัวเมื่อรู้ว่าบอมจะไปหาเฟิร์ส
“มันบอกว่ามันมีปัญหา …”
“ปัญหาแม่งก็เรื่องเดิมๆแหละวะ เรื่องเลิกกะแฟน” เบียร์พูดลอยๆ
“เห้ยยย นี่พวกมึง มารุมกูทำไมเนี่ย … กูแค่ไปดูแลเพื่อนเฉยๆ”
“เหอะ” ผม พี่ดิว เบียร์สามคนกระแทกเสียงแล้วถอนหายใจพร้อมกัน
“เออ นั่นแหละๆ กูไปก่อนละกัน … พี่ดิว หวัดดีนะพี่”
ผมมองตามร่างบางที่เร่งรีบออกจากร้านไปด้วยความกังวล เวลามันไปเจอไอ้เฟิร์สทีไรบอมมักจะกลับมาแบบเศร้าๆทุกที
แล้ววันนี้ผมก็ตัดสินใจตามบอมไปอย่างทุกครั้ง
ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจของผมไม่นานก็เจอบอมกำลังพยายามลากเฟิร์สขึ้นแท็กซี่ไป
ผมทิ้งระยะห่างจากรถแท็กซี่เล็กน้อย จนกระทั่งแท็กซี่จอดหน้าคอนโดหรูแห่งหนึ่ง บอมก็ประคองเฟิร์สเข้าไปในคอนโด
ผมรอบอมอยู่นาน จนเกือบจะตัดใจกลับอยู่แล้ว ก็เห็นร่างบางค่อยๆเดินออกมาจากคอนโดอย่างช้าๆ
แล้วทรุดตัวลงนั่งบนฟุตบาธ แล้วก้มหน้าร้องไห้
โคตรสงสาร โคตรอยากเข้าไปปลอบ แต่ก็ทำได้แค่รอ … เ
พราะผมไม่อยากให้มันรู้สึกว่าผมเข้าไปก้าวก่ายชีวิตมัน แค่นี้มันก็คงเกลียดผมจะแย่ที่ผมเอาแต่กวนประสาทมันเช้าเย็นแบบนี้
สารภาพตามตรงว่าผมเองแสดงความรู้สึกไม่เก่ง จะให้ผมไปพูดดีๆ ทำดีๆให้ผมเองทำไม่เป็นหรอกครับ
รอจนบอมมันเริ่มหยุดร้องไห้ ผมหยิบหมวกกันน็อคสำรองจากใต้เบาะ ค่อยๆสาวเท้าเข้าไปหาบอมอย่างช้าๆ
ที่คิดไว้คือจะแค่แตะไหล่นะครับ แต่มือเจ้ากรรมมันไม่ฟังคำสั่ง ตบหัวไอ้บอมไปแล้ว
“โอ้ยยยย เชี่ยไรเนี่ย … ไอ้เชี่ยนัท ตบหัวกูทำไม”
อยากขอโทษมันอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ต้องพยายามคีพลุคเอาไว้
“ตบเรียกสติมึงอ่ะ … ไอ้ห่า”
“… คือกู … ”
“เออๆ มึงไม่ต้องเล่าอะไรหรอก กูไม่ได้อยากรับรู้”
“แล้วนี่ทำไมถึงมาแถวนี้ได้วะเนี่ย”
“กู … แวะมาหาเพื่อนแถวนี้ … แล้วบังเอิญได้ยินเสียงสัมภเวสีร้องไห้ขอส่วนบุญ
กูเลยแวะดูหน่อยว่าเป็นไงบ้าง”
ผมพูดไปก็ด่าตัวเองไป แม่งโคตรปากเสียเลย
“ไอ้ห่านัท”
“เออ ด่ากูได้แล้วแสดงว่าไม่เป็นไรแล้วใช่มะ งั้นปะมึง กลับบ้าน เดี๋ยวกูไปส่ง”
ผมโยนหมวกกันน็อคไปให้บอม แล้วเดินนำไปที่มอเตอร์ไซค์ของผม
บอมมันดูอิดออดนิดหน่อยแต่ก็เดินตามมาแล้วเขย่งขึ้นนั่งซ้อนท้าย เอามือจับที่จับด้านท้ายรถ
“เอ้า มึงก็มากอดเอวกูสิวะ จับแบบนั้นจะไปถนัดอะไรวะมึง”
“แต่กู …”
“เออ กูไม่ได้รังเกียจมึง โอเคมะ แต่ถ้ามึงซ้อนกูแล้วหล่น กูปล่อยมึงตายบนถนนนะ ขี้เกียจพามึงไปโรงบาล กูง่วงแล้ว”
“ไอ้เชี่ยนัท มึงนี่กวนส้นตีนกูจริงๆนะ”
บอมค่อยๆเอามือมากอดที่เอวของผมอย่างช้าๆ
ผมแอบยิ้มน้อยๆภายใต้หมวกกันน็อคของผมแล้วสตาร์ตรถออกไป
แค่นี้คืนนี้ผมก็นอนหลับฝันดีแล้วล่ะครับOther side of playlist 2 & 3โคตรจะหงุดหงิดเลยครับ ทำไมบอมมันต้องไปหาไอ้เฟิร์สทุกครั้งที่มันเรียกไปหาก็ไม่รู้
เจ้าตัวก็รู้นะครับว่าไอ้เฟิร์สมันก็ไม่ใช่คนดีอะไร แถมไปหามาทีไรก็กลับมาร้องไห้ตลอด
ผมตัดสินใจตามบอมไปอีกครั้งในวันถัดมา จะหาว่าผมเป็นสตอล์กเกอร์ ก็ต้องยอมล่ะครับจุดนี้ ก็คนมันเป็นห่วงนี่นา
ผมทิ้งระยะจากบอมแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะที่มุมร้านอีกด้านหนึ่ง สั่งน้ำแก้วนึงแล้วลอบดูความเคลื่อนไหวของทั้งสองคน
บอมดูสีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เหมือนพยายามฝืนยิ้ม แต่นานไปร่างบางก็เริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจและเริ่มเสียงดัง
ผมรีบเรียกพนักงานมาจ่ายค่าน้ำแล้วรีบเข้าไปหาบอม
"เสียงดังอะไรวะบอม"
"นัท!!" ร่างบางดูจะตกใจเมื่อเห็นผม
"เออ กูเอง ปล่อยให้กูรอมึงอยู่ตั้งนาน … ไหนว่ามึงจะแวะมาทักเพื่อนแป๊บเดียวไง"
"กู …"
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้วบอม ไปเหอะ" ผมรวบกระเป๋าเป้ของบอมขึ้นมาสะพายพลางหันไปมองไอ้เฟิร์ส
"งั้นเดี๋ยวผมกับแฟนขอตัวก่อนนะครับ" แล้วก็รีบลากบอมออกจากร้านไป
"ปล่อยกูได้ยัง!!! แล้วแฟนเฟินเชี่ยอะไรของมึง!!" บอมโวยวายเสียงดัง
"กลัวมันเข้าใจผิดเหรอ" ผมอดที่จะถามประชดมันไม่ได้
"แล้วมึงจะลากกูออกมาทำไมวะ กูกำลังจะคุยกับมัน"
"เท่าที่กูเห็น มันไม่น่าใช่ว่ะ เหมือนมึงทะเลาะกับมันอยู่"
"แล้วมึงจะเสือกอะไรด้วยวะ นัท"
เจ็บแปลบที่ใจเหมือนกันนะครับ โดนมันด่าแบบนี้ ตอนนี้สถานะของผมมันก็แค่คนนอกเท่านั้นล่ะ
"กูว่ารอให้มึงอารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนค่อยคุยเหอะ"
บอมนั่งก้มหน้ามองพื้นอยู่เนิ่นนาน คงพยายามคิดทบทวนไตร่ตรองอะไรบางอย่าง
สงสารมันนะครับ แต่จะไปปลอบผมก็ทำไม่เป็น แถมไปยุ่งตอนนี้เดี๋ยวมันจะด่าผมอีก …
ในตอนนั้นอะไรก็ไม่รู้มาดลใจให้ผมผมแอบหยิบมือถือไปถ่ายรูปของบอมไว้
อาจจะเป็นทั้งแสงเงาหรือบรรยากาศที่มันได้อารมณ์เศร้าดี ... หรืออาจจะเป็นเพราะผมแค่อยากมีรูปของมันไว้ดูบ้าง ...
ผมกดถ่ายเพิ่มไปได้สองสามภาพแล้วเก็บลงกระเป๋าไป
"กู … กูขอโทษนะนัท"
ร่างบางเอ่ยเบาๆ
ผมแอบยิ้มน้อยๆ พลางนึกในใจ
กูไม่เคยโกรธมึงหรอก ที่กูชอบมึงก็เพราะมึงเป็นคนขี้อีโมแบบนี้ล่ะOther side of playlist 4ผมเดินนำบอมเข้าไปร้านเครื่องประดับของพี่ที่ผมรู้จัก กะว่าจะไปทักทางเฉยๆนะครับ
แต่คุยกับพี่ได้แป๊บเดียวก็เห็นร่างบางยืนจ้องสร้อยเส้นนึงเขม็ง ท่าทางจะถูกใจน่าดู
"ถูกใจอันนี้เหรอมึง"
"ก้อสวยดีนะ"
"อันนี้เท่าไหร่อ่ะพี่" ผมหันไปถามเจ้าของร้าน
"อันนั้นงานแฮนด์เมดนะไอ้นัท ราคาสูงหน่อย 3500"
บอมได้ยินราคาก็คิ้วขมวด
"เอ่ แต่ปกติกูก็ไม่ได้ใส่เครื่องประดับสักเท่าไหร่เนาะ งั้นยังไม่เอาดีกว่า"
"จนเหรอมึง" ผมแซวขำๆ
"กูเปล่าจนโว้ย … แค่ปกติกูก็ไม่ได้ใส่พวกสร้อยข้อมือเท่านั้นแหละ … เออๆ นั่นแหละ งั้นเดี๋ยวกูไปดูเสื้อฝั่งตรงข้ามแป๊บนะนัท"
ผมรอจนบอมเดินพ้นประตูออกไป ก็หันไปคุยกับพี่เจ้าของร้าน
“งั้นผมขอสร้อยข้อมือเส้นนั้นละกันพี่”
พี่เจ้าของร้านยิ้มให้ผมแล้วเอ่ย
“แฟนน้องคงรักน้องแย่นะเนี่ย”
“เข้าใจผิดแล้วครับ … ไม่ใช่แฟนนะพี่ แค่เพื่อนน่ะ”
“แล้วในอนาคตล่ะ ...”
“ก็ … ผมกำลังพยายามอยู่น่ะพี่” ผมเกาท้ายทอยแก้เขิน
….
ระหว่างทางกลับบ้าน บอมมันก็ผลอยหลับไป ดูท่าจะหลับสนิทมากครับ แต่ไม่น่าจะสบายมาก เพราะเก้าอี้ยังตั้งตรงอยู่
ผมอาศัยจังหวะที่รถติดไฟแดงปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วค่อยๆ เอี้ยวตัวไปปรับเก้าอี้ให้เอนลงช้าๆ
ระหว่างที่ผมเอี้ยวตัวไปใบหน้าผมกับบอมใกล้ชิดกันมาก จนผมรู้สึกถึงลมหายใจที่ช้าและคงที่ของบอมเข้ามาปะทะที่หน้าด้านข้างของผม
...
อยากจะหันหน้าไปจูบซะให้รู้แล้วรู้รอด !!!! แต่ต้องห้ามใจไว้ครับ จะทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้ …
โอ้ยยยยยย ตอนนี้ผมใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะจะแย่แล้ว
ปรับเก้าอี้เสร็จ ผมต้องนั่งสงบสติอยู่แว้บนึง แล้วถึงจะขับรถต่อได้ …
เมื่อถึงจุดหมายผมก็เขย่าปลุกบอม
"บอม ถึงแล้วมึง"
ร่างบางงัวเงียลุกขึ้นมาจากเบาะที่เอนไปด้านหลัง
"ถึงแล้วเหรอวะ นี่กูหลับไปนานมั้ยเนี่ย"
"ก็ออกมาจากห้างมึงก็สลบไปเลย"
"แล้วนี่กูเอนเบาะนอนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
"กูไม่รู้ กูดูทางอยู่" ผมตอบแต่พยายามไม่มองหน้าบอม
"... เออ ถั่ว กูขอบใจมึงมากนะ วันนี้กูไม่รู้สึกเศร้ามาก เพราะมึงเลยนะ"
"อืม"
ระหว่างที่บอมเอื้อมมือกำลังจะเปิดประตู ผมก้อโยนกล่องหนังสีดำมาให้
"อะไรวะถั่ว"
“แกะดูดิ”
"เชี่ยถั่ว … อันนี้มันแพงนะเว้ย กูไม่มีปัญญาจ่ายหรอก"
"เออ คิดซะว่ากูซื้อให้ละกัน เห็นมึงมองตาละห้อยแล้วแม่งสงสารว่ะ เหมือนหมาอยากได้อาหาร … "
"โฮ่งงง"
"สัดบอม กวนตีนกูละ … เออๆ นั่นแหละ ไว้วันไหนกูมีไรอยากได้มึงค่อยหามาให้กูละกัน"
ผมพยักหน้า
"ขอบใจนะมึง"
อะไรที่ทำให้มึงมีความสุขกูก็จะหามาให้มึงนะบอมOther side of playlist 8ในชีวิตนี้มีเรื่องไม่กี่เรื่องหรอกครับที่ผมไม่ชอบ … หนึ่งในนั้นคือการตื่นเช้า!!!
ตอนแรกที่บอมมันจะมายืมรถไปรับเพื่อนมันที่สนามบิน ผมเองยื่นคำขาดว่าผมจะต้องไปด้วย
เพราะหนึ่งคือผมก็ไม่ไว้ใจบอมมันสักเท่าไหร่ ถึงแม้มันจะมีใบขับขี่แต่มันไม่เคยขับรถเลย ผมกลัวมันจะไปเกิดอุบัติเหตุ …
หวงรถก็ส่วนนึงนะครับ แต่ห่วงบอมเป็นส่วนใหญ่มากกว่า
เหตุผลที่สองคือจะไปดูหน้าเพื่อนสนิทของมันหน่อยครับ ว่าเป็นใคร เห็นว่าสนิทกันมานาน ผมเองก็อยากจะรู้จักบ้าง
แต่ด้วยความที่บอมมันลืมบอกผมว่าเพื่อนมันมาถึงไฟลต์เช้า มาบอกกันก็คืนก่อนไปรับ …
ตอน 5 ทุ่ม !!!!
สภาพผมเลยดูไม่ได้ครับ สุดแสนหงุดหงิดเพราะนอนไม่พอ จะให้ไปเสวนาดีๆอย่างเป็นมิตรกับคนอื่นผมก็ทำไม่ไหว
แค่ขับรถให้ตรงทางก็ลำบากแล้ว
ระหว่างทางขากลับบอมกับเนสคุยกันตามประสาเพื่อนสนิทอย่างสนุกสนาน
ตอนที่พวกมันขุดวีรกรรมสมัยก่อนๆขึ้นมาเล่าผมว่ามันก็ขำดี … ไม่คิดว่าสมัยมัธยมบอมมันจะเฮ้วได้ขนาดนี้
ฟังเพลินๆผมก็นึกขึ้นได้ว่าระหว่างทางมีร้านโจ๊กเจ้าอร่อยอยู่แถวๆนี้เลยลองถามบอมดูหน่อยว่าหิวมั้ย
"แวะกินอะไรมั้ย"
"แวะก็ได้นะไอ้นัท"
โอเคจัดไปตามนั้นครับ ...
ผมถือโอกาสที่เดินเข้าร้านมาก่อนทั้งคู่สั่งโจ๊กหมูใส่ไข่ไม่ใส่เครื่องในให้
เพราะผมจำได้ว่าบอมไม่กิน ส่วนเนสนี่เดาว่าคงไม่กินเครื่องใน
"กูอยากกินตับหมูอ่ะ … "
อ่าวเวรกรรมผมเลยรีบกุลีกุจอส่งตับไปให้บอม
"ปกติไม่กินเครื่องในไม่ใช่เรอะ"
"ก็ … ถ้าเป็นโจ๊กกูกินได้นะ … อร่อยว่ะ โจ๊กเจ้านี้ โคตรดี"
ผมอมยิ้มน้อยๆที่ดูบอมจะแฮปปี้ ...
ระหว่างที่บอมไปห้องน้ำ … จู่ๆเนสก็ถามผม
“เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ยครับ”
“เอ่อ … คงไม่ล่ะมั้งครับ”
“แต่ผมว่าผมคุ้นๆหน้านัทอยู่นะ … นัทเคยเรียนพิเศษที่ XX ใช่มั้ย”
“... ครับ”
“แสดงว่าเคยเรียนที่ XX แล้วใช่นัทมั้ยที่ตอนนั้นมีเรื่องกับเฟิร์ส”
“...” ผมคงทำสีหน้าตกใจจนเนสจับได้
เนสยิ้มกว้างขึ้นมา
“นั่นไง ผมว่าแล้วเชียว ก็ว่าอยู่ว่านัทหน้าคุ้นๆ … ตอนนั้นต้องขอบคุณนัทที่จัดการไอ้เฟิร์สให้นะ โคตรจะสะใจ”
“หมายความว่ายังไงครับ” ผมคิ้วขมวดด้วยความงุนงง
“คือใครๆก็รู้แหละ ว่าไอ้เฟิร์สตอนนั้นไม่ได้ชอบบอมจริงๆ มันคบซ้อนไปเรื่อย เพื่อนๆพยายามเตือนบอมแล้ว
แต่มันก็ไม่ฟังจนไม่รู้จะทำไง”
“แต่จริงๆตอนนั้นผมเองก็อาจจะทำเกินไป …”
“ถามตรงๆเลยนะ นัทยังชอบบอมอยู่ใช่มั้ย”
“ห้ะ!?”
“บอมมันยังไม่รู้ … แล้วบอมก็ยังจำนัทไม่ได้ใช่มั้ย”
ผมก้มหน้าแล้วพยักหน้าน้อยๆ
“เชี่ยบอมมมมม โง่สมเป็นมันจริงๆ”
“แต่ผมขอเนสได้มั้ยว่าอย่าเพิ่งบอกบอมมัน …”
“อ่าว ทำไมล่ะ”
“คือผมรู้สึกว่าบอมมันยังไม่พร้อม …”
เนสหลุดหัวเราะคิกคักออกมา
“โอเคๆ ผมเข้าใจละ … งั้นก็ตามใจนัทละกัน แต่ผมเตือนไว้ก่อนนะ
เพื่อนผมมันหัวช้ามากกกกก กว่าจะเข้าใจ นัทอาจจะต้องเหนื่อยหน่อยนะ …”
"เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย" ร่างบางที่เดินกลับมาจากห้องน้ำพอดีเอ่ยถามขึ้น
"ไม่มีอะไรๆ" เนสโบกมือหยอยๆ ในขณะที่ผมได้แต่นั่งก้มหน้าหลบสายตาของทั้งบอมและเนส …
Other side of playlaist 9 - 10"นัทไปนั่งก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ไปสั่งของแป๊บนึง"
ผมพยักหน้าให้พี่พัชแล้วเดินไปเลือกที่นั่งแถวๆริมกระจก
ไม่นานพี่พัชก็ตามมาแล้วยื่นแก้วกาแฟให้
"พี่พัชนัดผมมามีอะไรรึเปล่าครับ"
"อ้อ … คือพี่มีเรื่องอยากบอกนัท แต่อยากบอกแบบต่อหน้าน่ะ … พี่จะแต่งงานแล้วนะ"
"ยินดีด้วยครับพี่" ผมยิ้มกว้าง พี่พัชกับแฟนคบหากันมานาน ผมว่าก็สมควรแก่เวลาแล้วล่ะครับ
พี่พัชค่อยๆยื่นการ์ดเชิญมาให้
"พี่อยากให้นัทมาร่วมงานนะ"
"ด้วยความยินดีเลยครับพี่"
"พี่เองอาจจะเห็นแก่ตัวหน่อย … แต่พี่ก็รู้นะว่าตอนนั้นนัทก็ชอบพี่อยู่ ใช่มั้ย"
ผมยิ้มเขินๆให้พี่พัชแล้วเอ่ย
"จริงๆผมรักและเคารพพี่พัชแบบพี่สาวนะครับ... ตอนนั้นผมยังเด็ก ผมเลยคงยังแยกไม่ออกหรอก ว่าชอบใครสักคนจริงๆเป็นยังไง"
"แสดงว่าตอนนี้แยกออกแล้วเหรอ" พี่พัชยิ้มกว้าง
"ก็ … ทำนองนั้นครับ"
"คนคนนั้นต้องโชคดีมากๆเลยนะ"
ผมส่ายหัว
"ตอนนี้เจ้าตัวคงยังไม่รู้หรอกครับ เค้าเป็นคนหัวช้าหน่อย"
"งั้นพี่จะรอฟังข่าวดีนะ …"
พี่พัชออกไปจากร้านได้สักพักใหญ่แล้ว ในขณะที่ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
แต่ขณะที่ผมกำลังจะหยิบกระเป๋าเพื่อลุกออกจากร้าน สายตาก็กวาดไปตรงเค้าเตอร์ก็สังเกตเห็นร่างบางที่คุ้นเคยกำลังนั่งหลบมุมอยู่
ผมค่อยๆเดินไปหา ก็เห็นบอมใส่หูฟังจดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง
ผมเลยตัดสินใจถอดหมวกมันออก
"เชี่ยยยย" บอมอุทาน
"กูว่าแล้วเชียว …"
"เอ้อ …แหะๆ ไอ้ถั่ว หวัดดี โทษทีกูกำลังทำงานเพลินๆ"
"มึงนั่งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"ก็ … ก่อนมึงจะเข้าร้านมาอ่ะ โทษทีที่ไม่ได้เข้าไปทักนะ กูไม่อยากรบกวน" ร่างบางเกาท้ายทอยแก้เขิน
"ว่าแต่มึง … ทำงานอะไรวะ"
"กู … แต่งเพลงนิดหน่อย … เอ้อ มึงมาก็ดีละ ช่วยกูดูหน่อยดิว่าโอเคมั้ย"
"รักแรก ?"
"อืมๆ กูเห็นมึงคุยกับพี่พัช แล้วเหมือนเป็นแรงบันดาลใจดีว่ะ บรรยากาศแม่งได้ เหมือนกับรักแรกของมึงคือพี่พัชอ่ะ …"
ณ ตอนนั้นผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันนะครับว่ารู้สึกยังไงที่ถูกเข้าใจผิดไปไกลแบบนั้น
"บอม มึงเข้าใจผิดละ"
"???"
"ถึงพี่พัชจะเป็นคนที่กูเคยชอบ … แต่เค้าไม่ใช่รักแรกของกู"
อยากบอกใจจะขาดครับว่ารักแรกที่ผมแอบรักมาเสมอเนี่ย
คนคนนั้นคือมึงนะบอมผมโยนสมุดคืนไปให้บอมแล้วรีบเดินออกจากร้านไป
….
หลังจากวันนั้นผมไม่มีอารมณ์จะคุยหรือกวนประสาทกับบอมเลยครับ มันเหมือนท้อๆหมดกำลังใจยังไงไม่รู้
จะบอกมันไปตรงๆถึงความรู้สึกก็ไม่กล้า ... ทำให้มันรู้ตัวว่าผมชอบแบบอ้อมๆ มันก็ดันหัวช้าไม่รู้เรื่องรู้ราว …
แถมโดนเข้าใจผิดไปอีกทางแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง … เครียดครับ
เครียดจนไม่มีสมาธิ เล่นผิดเล่นพลาดจนโดนพี่ดิวด่า
ไม่ไหวล่ะครับขอพักสักหน่อยดีกว่า ...
ผมออกจากห้องซ้อมมานั่งแกร่วที่ม้านั่งหน้าตึกแถวห้องซ้อมของพวกเรา
นั่งอยู่ได้ครู่เดียว … ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเลยหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นบอม ...
ร่างบางยื่นทิชชู่ให้ผม
"เผื่อมึงร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่"
ล้อเลียนกูเหรอวะไอ้หมาหงอย"กูไม่ได้ขี้อีโมแบบมึง" ผมพยายามตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"พี่ดิวให้กูมาดูว่ามึงเป็นไงบ้าง …"
"กูก็ปกติดี"
"ตกลงกูทำอะไรให้มึงไม่พอใจรึเปล่าวะนัท" บอมหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
"..."
"คือ … มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูโง่เรื่องความรู้สึกของคนรอบข้างมาก …"
"ใช่มึงโง่มาก"
"ไอ้ห่าถั่วว มึงอย่าขัดกูดิ … เอ้า แม่ง ลืมเลยจะพูดอะไร"
เพราะบอมมันเอ๋อๆอ๊องๆ น่ารักแบบนี้ล่ะครับผมเลยชอบ"เอ้อ … คือกูอ่ะไม่ค่อยรู้เรื่องความรู้สึกคนอื่นสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นมันอาจจะมีเรื่องที่กูอาจจะทำให้มึงขัดเคืองไปบ้าง
อย่างเรื่องแต่งเพลงวันนั้น … ซึ่งกูก็ต้องขอโทษ … แต่อยากให้รู้ว่ากูไม่เคยตั้งใจทำร้ายความรู้สึกมึงนะ"
"กูไม่ได้โกรธหรอกเรื่องวันก่อน … กูแค่เสียใจนิดหน่อย ซึ่งปกติกูคงไม่เป็นแบบนี้ "
"อ่าฮะ"
"กูว่ากูติดเชื้ออีโม มาจากมึงนี่ล่ะ"
"..."
"คือพี่พัชน่ะ … กูชอบเค้าก็จริงแต่แม่งเป็นเรื่องสมัยนานมาแล้วตั้งแต่กูอยู่มหาลัย
ตอนนั้นกูคิดว่ากูจะจริงจังกับพี่เค้านะ ถึงขั้นวางแผนจะสารภาพรักละ แต่ท้ายสุดเค้าก็ไปคบกับรุ่นพี่อีกคน …"
"เชี่ยถั่ว … กูขอโทษ"
ผมส่ายหัว
"กูมาคิดทบทวนตอนหลัง ไอ้ความชอบตอนนั้นสรุปได้ว่าแม่งเป็นแค่ความหลงว่ะ
จริงๆกูแค่เทิดทูนเค้าเป็นพี่สาวคนนึงของกูแค่นั้นแหละ แล้วก็ … วันนั้นที่กูไปกินกาแฟกับเค้าคือเค้าจะแต่งงาน
เค้าก็เลยมาแจกซองชวนกูไปงาน …"
ร่างบางจ้องผมอย่างจริงจัง
"...จริงๆแล้วกูก็แค่ใช้พี่พัชเป็นตัวแทนของรักแรกของกูเท่านั้นแหละ …"
"..."
"เพราะงั้น ที่กูอีโมมากเมื่อวันก่อนมันคงเป็นเพราะกูไม่อยากให้มึงเข้าใจผิดว่าพี่พัชเป็นรักแรกของกู"
"ทำไมวะ"
"เพราะรักแรกของกูก็คือมึง"
อยากจะบอกมันต่อนะครับ ว่าตอนนี้ผมก็ยังรักมันอยู่ แต่ปากมันหนักไม่กล้าที่จะพูดออกไป กลัวมันจะปฏิเสธ กลัวความผิดหวังหลังจากที่เฝ้ารอมันมาหกปี … ตอนนี้บอกมันแค่นี้น่าจะดีที่สุดแล้วล่ะครับ ...********************************************************************
EP นี้ขอเล่าเรื่องในช่วงที่ผ่านมาผ่านสายตาของนัทบ้างนะครับ