+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทที่ 4
" .... เมื่อไหร่จะเปิดเทอมซักที "
อาร์ตบ่นหลังจากที่นั่งเหม่ออยู่หน้า TV และกดเปลี่ยนช่องไปมาไม่ดูช่องไหนเป็นจริงเป็นจังซักที
จิตใจล่องลอยไปถึงแต่เพื่อนรักที่ตอนนี้เขาไม่อยากให้เป็นแค่เพื่อน
" อะไรนะลูก .. ไปเรียนมหาลัย 2 ปี ลูกเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี๊ยะ "
คุณแม่วางนิตยสารลงบนตักเบาๆ ด้วยความประหลาดใจพร้อมทั้งปลาบปลื้ม
" แม่ครับ อาร์ตขอเข้า ม. วันเสาร์นี้นะครับ อาร์ตจะได้ไปเตรียมตัวให้ดีๆ ก่อนเรียน "
คำเสนอตัวของอาร์ตยิ่งทำให้คุณแม่ประหลาดใจเข้าไปใหญ่ คุณแม่รู้สึกว่าลูกชายมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง
" แล้วอาร์ตจะรีบไปเตรียมตัวอะไรเร็วขนาดนั้น เปิดเทอมวันที่ 3 เดือนหน้าไม่ใช่เหรอลูก อีกตั้งเกือบสัปดาห์แหนะ "
หลังจากเอ็ดลูกชายจนหน้าง๋อย คุณแม่ก็เงียบไปครู่หนึ่ง และเริ่มขมวดคิ้วลงเป็นปมจ้องหน้าลูกขี้อ้อนไม่ละสายตา
" .... นัดสาวไว้ใช่ไหมเนี๊ยะ " คุณแม่พูดให้ข้อหาในทันที
" ป่าวคร้าบบบ .. ถ้ามีสาวผมจะรีบพามาไหว้คุณแม่เลยหละครับ " อาร์ตใช้สายตาออดอ้อนแบบน่าหยิก
" ผมขอไปเสาร์นี้นะครับ "
" ถ้าอยากไปก็ได้ แต่ถ้าเสาร์นี้มันคงเร็วไป เป็นพุธหรือพฤหัสฯ ก็แล้วกัน อาร์ตจะได้อยู่คุยกับญาติๆ ก่อน "
" ขอบคุณครับแม่ " อาร์ตกระโดดมากอดแม่เป็นการตอบแทน ( - -*)
โซฟาที่แม่นั่งอยู่ยุบตามน้ำหนักของอาร์ต ถึงจะไม่ใช่คนร่างสูงใหญ่มากนัก แต่อาร์ตเป็นหนุ่มนักกีฬา หุ่นดูสมส่วน ออกจะเป็นชายชาติทหารไปในทางนั้น
เขาวิ่งขึ้นไปชั้นบนในทันทีปล่อยแม่ออกจากอ้อมกอด
" อ่าวแล้วจะไปไหน TV ก็ไม่ปิด แม่ไม่ได้ดูด้วยซักหน่อย "
" ผมจะไปเก็บกระเป๋าครับ!! " เขาตะโกนกลับมาจากบันได ด้วยน้ำเสียงระรื่น
" สงสัยจะติดสาว .. ลูกเราจะเรียนจบหรือป่าวนะพ่อ "
คุณแม่ถอนหายใจแล้วมองไปที่รูปสามีในชุดนักธุรกิจรูปใหญ่ดูสง่างาม
อาร์ตเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของแม่ที่ต้องทำงานหนัก แม่ต้องดูแลลูกทั้ง 2 คน เพียงลำพัง
ดีที่ธุรกิจส่วนตัวขนาดย่อม ไม่หายไปกับชีวิตของสามีที่แสนดี
ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่อาร์ตและโอ๊ตยังเรียนประถม
การที่อาร์ตชอบดูแลคนที่อ่อนแอกว่าโดยเฉพาะคนที่น่ารักในสายตาของเขา
ก็อาจจะเป็นเพราะการเลี้ยงดูแลของแม่ด้วยที่คอยบอกให้อาร์ตดูแลน้องช่วยเหลือน้องอยู่เสมอ
และเป็นการเติมเต็มส่วนที่อาร์ตขาดมาตลอดด้วย อาร์ตเจ็บใจทุกครั้งที่โรงเรียนสมัยประถมและมัธยมจัดงานวันพ่อ
เป็นความรู้สึกที่แม่ไม่อาจจะทดแทนให้กับลูกคนโตได้ซักที
แต่สำหรับโอ๊ตผู้เป็นน้องชายกลับต่างกันเพราะโอ๊ตมีพี่ชายที่คอยปกป้อง พี่ชายที่เข้มแข็งอย่างอาร์ต
บริบทต่างๆ นานาในชีวิตของอาร์ตที่ทำให้อาร์ตได้มาเจอกับโอ๋ และทำให้อาร์ตรู้สึกว่าต้องปกป้องดูแล
เป็นการทดแทนความรู้สึกในวัยเด็กของอาร์ตที่ต้องการป้องปกดูแลจากผู้เป็นพ่อ
แต่ก็ไม่มีทางที่จะหาอะไรมาทดแทนได้เลย นอกจากการมอบสิ่งเหล่านั้นกับคนที่อาร์ตมีความรู้สึกดีๆ ให้
เลือกที่จะเป็นผู้ก่อนจะได้เป็นผู้รับ
.....................................................
และแล้วอาร์ตก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยตั้งแต่ 5 วันก่อนเปิดภาคเรียน
เขารีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว แล้วขับรถจักรยานยนต์คู่ใจออกมาที่หอพักของโอ๋ เดาไว้ว่าโอ๋คงยังไม่กลับมาหรอก
แต่ที่ระเบียงห้องกลับมีเสื้อผ้าตากไว้เหมือนมีคนอยู่ ใช่แล้วโอ๋กลับมาแล้ว กลับมาก่อนอาร์ตด้วยซ้ำ
นั่นก็เป็นการดีที่อาร์ตจะได้มีเวลาปรับความเข้าใจกับโอ๋มากขึ้น ก่อนที่จะถึงวันเปิดเทอม
..... วันนี้แน่ใจได้ว่าโอ๋คงยอมคุยกับเขา ....
แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มพูดกับมันยังงัยดี นับตั้งแต่วันนั้นก็เดือนกว่าๆ แล้ว โอ๋น่าจะมีอารมณ์เย็นลงบ้างแล้ว
ฝ่ายโอ๋ที่นอนสติฟุ้งซ่านคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องสมัยเด็ก และรวมถึงเรื่องของอาร์ตด้วย
พอได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เสียงทุ้มๆ แบบนั้นก็รู้แล้วว่าคงเป็น TENA ของไอ้อาร์ตนั่นแหละ
ซักพักก็มีเสียงเคาะที่ประตู
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก .. "
โอ๋ลุกขึ้นไปเปิดประตูแบบก้มหน้า พยายามเก็บอารมณ์ไว้ ความรู้สึกของคนที่ถูกเพื่อนตัวเองลักหลับนี่ไม่รู้จะอธิบายยังงัยละ
ใจจริงโอ๋อยากกระโดดขึ้นบีบคออาร์ตให้มันตายเสียเต็มที ' ไอ้สัดอาร์ต!! มึงทำกูนั่งไม่ได้ แถมถ่ายเป็นเลือดอีกตั้ง 4 - 5 วัน ไอ้เหี้ย!! '
แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ก่อน เรื่องมันผ่านไปแล้ว พยายามไม่คิดถึงมันอีกจะดีกว่า ยังงัยก็ต้องเป็นเพื่อนกันต่อไป
" มาไวเชียวมึง " ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน ... ทำบทสนทนาหยุดชะงักไปในทันที
" เข้ามาดิ " โอ๋เดินนำเข้ามาในห้อง อาร์ตมองโอ๋อย่างคิดถึงสุดใจ จริงๆ อยากวิ่งเข้าไปกอดมันให้หายคิดถึง
ตอนนี้อาร์ตอยากเอายางลบก้อนใหญ่ๆ ลบคำว่าเพื่อนระหว่างทั้งสองคนออกไปให้หมดจด แล้วบอกโอ๋ไปตรงๆ ว่า ' กูรักมึง '
แล้วจะทำได้ยังงัยเล่า โอ๋มันคิดยังงัยไม่รู้เลย จะถามก็ถามไม่ได้ คำว่า ' เพื่อน ' มันจิ้มคออยู่
เงียบกันไปทั้งคู่ จนบรรยากาศภายในห้องเริ่มมืดครึ้ม อาร์ตเริ่มบทสนทนาด้วยการชวนออกไปข้างนอก
" กูหิวข้าววะ มึงออกไปกินกะกูหน่อย " เริ่มต้นคำถามธรรมดาๆ เป็นการดูเชิงว่าโอ๋จะปฏิกิริยากับเขายังงัย
" อืม ...... " โอ๋พูดสั้นๆ เหมือนไม่เต็มใจออกเสียง พร้อมแสดงสีหน้าไร้อารมณ์
อาร์ตหน้าจ๋อย ยืนนิ่งคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อไป เขาไม่เคยถูกโอ๋เมินเฉยกับเขาขนาดนี้
" เออ .. กูก็หิว ยังไม่กินอะไรตั้งแต่เช้า " โอ๋ทำท่าลูบวนๆ ที่ท้อง เห็นได้ชัดเจนว่าโอ๋พยายามพูดให้เป็นปกติจนรู้สึกขัดๆ
โอ๋ยังไม่อยากขุดเรื่องวันนั้นขึ้นมาทะเลาะกันให้อารมณ์เสีย และอาร์ตก็เป็นเพื่อนสนิดคนเดียวที่โอ๋ไม่อยากผิดใจด้วย
มันคงยังไม่ถึงเวลาที่ทั้งสองจะมาคุยกันเรื่องนั้น นอกจากอาร์ตจะพยายามทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง โอ๋คงต้องทำอะไรซักอย่าง
" เออดี .. กูอยากกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊หมูวะ " การตอบรับของโอ๋ทำให้อาร์ตใจชื้นขึ้นมา
แต่เดาได้เลยว่าโอ๋มันคงเก็บความโมโหและอะไรหลายๆ อย่างไว้ในใจและไม่ลืมง่ายๆ
" ร้านมันจะเปิดให้มึงหรือ ยังไม่เปิดเทอมเลย เหลืออีกตั้ง 5 วัน "
" เออๆ เอาเหอะน่า ไปดูก่อนก็แล้วกัน แม่งแล้วรีบมาไว อะไรนักหนา "
" มึงก็เหมือนกันแหละ " โอ๋ค้อนควับ
" แล้วนี่ .. พ่อแม่มึงเป็นไง " อาร์ตเปลี่ยนเรื่องโดนทันที ก่อนที่มันจะอารมณ์เสีย
" ก็ยังเถียงกันดีเหมือนเดิมแหละ กูถึงรีบหนีออกมานี่ไง "
" อืม .. เหรอ .... เออ กูเปลี่ยนใจละไปกินข้าวร้านเดิมดีกว่า เมื่อกี้กูเห็นมันเปิดละ "
" ตามใจมึง "
..............................................
ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งกินข้าว ความเงียบระหว่างเขาทั้งสองถูกทำลายลงด้วยความคิดถึง
โอ๋ยังคงคิดเพื่อนคนนี้ ถึงแม้มันจะทำชั่วไว้กับเขาจนไม่สามารถให้อภัยได้
อาร์ตก็คิดถึงคนรักในคราบเพื่อนสนิดมาก โดยเฉพาะหลังจากที่โอ๋ตกเป็นของเขาแล้วในคืนนั้น
สองหนุ่มเริ่มกันคุยสนุกสนานเหมือนกับที่เคยเป็นมา บรรยากาศเสียงหัวเราะคิกคักตามประสาเพื่อนกลับมาอีกครั้ง
จู่ๆ ก็มีเงามืดดำพาดเข้ามาที่โต๊ะ พร้อมรังสีความร้อนที่ไม่อาจระบุที่มาแผ่ซ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียง ...
" พวกแกสองคนแอบนัดมาจู๋จี๋อะไรกันยะ!! อีกตั้งหลายวันกว่าจะเปิดเทอม !! "
เสียงเล็กๆ ได้ยินแล้วมันจี๊ดเข้าไปในสมอง มันเป็นเสียงของยัยปุ๊ก หนึ่งใน 5 สาว เบบี้วอกซ์
โอ๋กับอาร์ตเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง ... โหย... มันมากันครบเลย
" คนเป็นแฟนกัน เขาก็ต้องหาเวลาจู๋จี๋กันเด้ .. เนอะตัวเอง " อาร์ตทำหน้าตาน่าหมั่นไส้ แล้วโยนมุขไปทางโอ๋
แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากโอ๋แม้แต่น้อย ก็คำว่าแฟนนั้นที่โอ๋ไม่อยากได้ยิน
" พวกแกสองคนทำตัวน่าสงสัยนะ " ยัยปุ๊กคนเดิมยังต่อแยไม่หยุด
" ใช่!! " อีก 4 คนพูดเสริมมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
" รีบกลับมาไวๆ จะได้มาอี๋อ๋อกัน ชะม้าย " หนึ่งสาวในกลุ่มเสริมขึ้นมาอีกคน
" พวกแกก็มาไวเหมือนกันนั่นแหละ นัดหนุ่มไว้รึงายย " อาร์ตเริ่มเถียงไม่สู้แล้ว
" ทุเรด!! พวกฉันไม่ได้แรดอย่างนั้นนะ " ยัยปุ๊กมันเริ่มนั่งลงข้างโอ๋ แล้วกวักมือชวนเพื่อนๆ ลงนั่งที่โต๊ะเดียวกัน
แล้วทั้งหมดก็เริ่มคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ
" พวกแกไม่ได้ลงเรียนวิชาสหกรณ์ ของคณะเกษตรฯ ตอนซัมเมอร์หละสิ พวกชั้นได้ .... A ง่ายๆ เลยน้าา "
" ป่าว ก็ไม่รู้นี่หว่า แล้วเพื่อนห้องเรา ลงเรียนกันเยอะไหม " โอ๋แสดงความสนใจหลังจากที่เงียบไปนาน
" ก็ประมาณครึ่งห้องนะ "
" แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกพวกแกค่อยมาลงเรียนตอนซัมเมอร์ของปี 4 ก็ได้ ฉันเจอพี่ปี 4 มาเรียนกันหลายคนอยู่ "
" เออ ดีๆ " โล่งอกไปทีนึกว่าจะเสียเปรียบซะแล้ว
" โอ๋ไม่ต้องกังวลหรอกนะ เดี๋ยวเค้าลงเรียนเป็นเพื่อนตัวเองตอนปี 4 อีกทีก็ได้ " ยัยจอยสาวน้อยที่เงียบที่สุดในกลุ่มเบบี้วอกซ์
จอยชอบพูดแทะเล็มโอ๋เป็นประจำ เพื่อนทั้งห้องเลยรู้ว่ามันแอบชอบโอ๋จริงๆ ถึงแม้มันจะอ้างว่าพูดเล่นก็ตาม
" ขอบคุณครับที่รัก " โอ๋ยิ้ม หันหน้าไปแสดงบทบาทที่รักกับจอยที่นั่งอยู่ติดๆ กัน
" แต่เค้าพูดเล่นนะ " แหมเขารู้กันหมดแล้วหละ
แต่คำว่า ' ที่รัก ' ที่โอ๋พูดเล่นกับจอย อาร์ตอยากให้คำนั้นมันกลายเป็นคำที่โอ๋พูดกับอาร์ตมากกว่า
แล้วอาร์ตก็เข้าสู่พวังความคิดของตัวเองปล่อยให้เพื่อนๆ คุยกันสนุกสนาน ความรักมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปจริงๆ
โอ๋สังเกตุได้ถึงสีหน้าอาการของอาร์ตที่ซึมลงในทันที พอเดาได้ว่าเป็นเพราะเรื่องตั้งแต่ก่อนปิดเทอมนั้นแหละ
โอ๋เองก็ลำบากใจมากที่รู้ว่าเพื่อนสนิดแอบชอบตัวเอง ถ้าโอ๋ชอบอาร์ตบ้างก็คงจะดี สถานการณ์มันก็คงดูไม่เป็นปัญหาแบบนี้
ถึงแม้โอ๋จะกลัวมีการมีคนรัก แต่โอ๋ก็เหงาและอ้างว้าง โอ๋ต้องการคนที่คอยดูแลให้ความสุขอย่างใกล้ชิด
เติมช่องว่างในใจให้มันเต็มขึ้นมาซักนิดก็ยังดี แต่ถ้าจะให้คนๆ นั้นเป็นอาร์ต โอ๋คงรับไม่ได้เพราะว่า อาร์ตคือเพื่อนแท้
" ไม่ตื่นเต้นกันเหรอ จะได้รับน้องใหม่แล้ว โอ๋...แกต้องคุมน้องลีดฯ ปี 2 หนิ ..เหนื่อยแย่เลย " จอยพูดจาแบบจ๊ะจ๋า
" เฮ้อ... ฉันเชื่อต้องแสดงละครหลอกเด็กวะ ไม่ชอบเลย " ปีนี้โอ๋ต้องรับหน้าที่ประธานเชียร์ลีดเดอร์
เนื่องจากพี่ปี 4 จะไม่ลงมายุ่งเรื่องรับน้องอีกแล้วเพราะต้องเอาเวลาไปทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่
ดังนั้นแม่งานที่รับผิดชอบการรับน้องจึงเป็นนักศึกษาปีที่ 3 สำหรับโอ๋กิจกรรมรับน้องของคณะมันเครียดตรงที่ต้องหลอกให้น้องปี 1
ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ให้หลงเชื่อและคล้อยตามไปกับสถานการณ์ที่รุ่นพี่สร้างขึ้น
" 555 แต่กูชอบวะ โอ๋ " อาร์ตหัวเราะเสียงดังอย่างคึกคัก เพราะว่าปีนี้ก็เขาจะได้ทำหน้าที่ ' พี่สต๊าฟว๊าก ' สุดโหดเหมือนเดิม
ก็คณะเรามันมีผู้ชายอยู่แค่นี้ แล้วไอ้โอ๋มันก็แยกตัวออกไปเป็นลีดฯ ซะอีก
ที่เหลือเลยต้องเป็นสต๊าฟว๊ากกันหมด สต๊าฟว๊ากต้องคอยพูดเสียงดังและทำหน้าเหี้ยมๆ อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งอาร์ตมันก็หน้าเหี้ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
" แหม ไอ้อาร์ต .... ปีนี้แกอย่าแกล้งน้องหนักนะ " ยัยปุ๊กรีบแสดงบทบาท ' พี่สต๊าฟปลอบ ' โดยทันที
" อ่าวทำไมหละเจ๊ "
" ก็ปี 1 ที่จะเข้ามาใหม่เนี๊ยะ มีน้องผู้ชายเกือบ 10 คนแหนะ ฉันกลัวน้องๆ จะกลัวแกจนลาออกกันไปหมดหนะสิ "
ยัยปุ๊กพูดเล่นแกมจริงพร้อมแสดงสีหน้าอยากปลอบน้องใหม่เต็มที่ โดยเฉพาะน้องผู้ชาย
ทุกคนนั่งคุยกันต่อไม่นาน ก็แยกย้ายกันกลับ
" เจอกันวันเปิดเทอมนะคะที่รัก " ยัยจอยยังหันมาหยอดทิ้งท้าย
" คร้าบบ " โอ๋ตอบกลับไปโดยไม่ได้หันไปมอง
อีก 5 วันก็จะถูกเรียกว่า ' พี่ปี 3 ' แล้ว และการฝึกงานที่ตึกเวชกรรมฟื้นฟูก็จะเข้มข้นมากขึ้น คิดแค่นี้ก็ปวดหัวแทบแย่แล้ว
แล้วไหนจะวิชาภาคนิพนธ์ ที่รุ่นพี่ขู่ไว้ว่ายากนักหนา ยากเสียจนไม่มีคำบรรยาย
ก็ต้องสู่ต่อไป ทั้ง 30 คน นั่นแหละ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็เอาให้มันพอผ่านอย่าให้ถึงขนาดต้องได้เรียนซ้ำเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++