ตอนที่4
สามอาทิตย์หลังจากไปค่ายที่ชลบุรีผ่านไปกับตำราและการทบทวนบทเรียน เพราะเป็นการสอบครั้งแรกในรั้วมหาวิทยาลัยผมและเพื่อนๆจึงตั้งอกตั้งใจเป็นพิเศษ ทุกวันพวกเราจะรวมตัวไปอ่านหนังสือในร้านกาแฟที่มีรุ่นพี่แนะนำมา
“วันนี้อรกับแจนขอไปด้วยนะมึง”ไอ้อัทบอกผมระหว่างรอสาวๆเก็บของ
“ดีเลยมึง กูจะจีบแจน ไอ้นิทานไม่ได้จองอยู่ใช่มั้ย”แก๊ปที่ตามผมต้อยๆหลังจากจบค่ายเอ่ยขึ้น ผมพยักหน้าอนุญาติให้มันจีบแจนได้เต็มที่ถ้ามันมีปัญญาน่ะนะ”งั้นพวกเราลงไปรอหน้าตึกนะอร”
พวกเราสามคนทรีโอ้เดินลงมารอหน้าตึกตามที่ไอ้แก๊ปพูด ระหว่างทางก็คุยถึงการสอบที่จะมาถึงและประเด็นที่จะลืมไม่ได้เลยคือการเอ่ยถามผมถึงบุคคลในตำนานของมหาลัย”ได้เจอพี่กิตต์บ้างยัง”อัทเอฟซีพี่กิตต์ถามขึ้น
“ไม่นะ พี่เขาไปประจำต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอ”
“ตามตารางต้องกลับเมื่อวาน คิดว่าพอกลับกรุงเทพแล้วพี่เขาจะรีบติดต่อมึงซะอีก”
“พี่เขาจะติดต่อกูเพื่อ?”ที่สำคัญมันไปรู้ตารางชีวิตของพี่เขาได้ยังไง
“ก็เห็นสนิทกันนิ”
“ไม่ขนาดนั้น รู้จักกันแค่ผิวๆ”
ไอ้อัทเห็นผมยืนกรานหนักแน่นว่าไม่รู้จักพี่เขาเป็นการส่วนตัวจริงๆเลยเลิกแกล้งผม ทว่าเมื่ออัทเงียบไปไอ้แก๊ปก็โพล่งขึ้นมาแทนแทบจะทันทีว่า”แน่ใจนะมึงว่าไม่สนิทกับพี่เขาจริงๆ!?”ผมมองหน้ามันด้วยความสงสัย เพื่อนใหม่เลยชี้ไปยังม้านั่งหินอ่อนตัวหนึ่ง
ม้านั่งมันก็ตั้งอยู่ตรงนั้นเหมือนทุกวัน แต่วันนี้สายตาของคนที่อยู่รอบๆกลับโฟกัสไปยังมัน ถ้าผมเป็นม้าหินอ่อนตัวนั้นผมคงเขินตายชัก
“พี่กิตต์เหรอ!?”
ใช่ครับ
สุดหล่อที่พวกผมนินทาเมื่อครู่กำลังนั่งหน้าชแล่มส่งยิ้มกว้างมายังพวกเราสามคน ไม่ใช่สิ ยิ้มให้ผมนี่แหละ และกำลังเดินมาหาผมด้วย
“กำลังจะไปไหนกันเหรอครับ”เสียงทุ้มถามอย่างเป็นมิตร
“ปะ ไปอ่านหนังสือครับ”คนตอบคืออัท เอฟซีดีเด่น
“พี่ไปด้วยได้มั้ย”
“ได้ครับ!!”ผมเชื่อว่าอรติ่งพี่กิตต์ไม่ได้เท่าอัท
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ภายในร้านมีเพียงความเงียบสงบ ลูกค้ามีแค่6คนนั่นก็คือผม อัท แก๊ป อร แจน และพี่กิตต์ที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย สองสาวมีท่าทีประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ผมเห็นแจนมือไม้สั่นตอนจับปากกา ลายมือของเธอแปลกไปจากทุกวันสงสัยเพราะมือสั่น ส่วนคนที่ฟินที่สุดก็คืออัทเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือได้นั่งข้างๆพี่กิตต์
“พี่เบื่อมั้ยครับ”ผมถามอย่างอดไม่ได้ เพราะในระหว่างที่พวกผมนั่งทำโจทย์กันอยู่พี่แกก็นั่งไถหน้าจอมือถือไปเรื่อย
“ไม่นิ”
“พี่ไม่อ่านหนังสือบ้างล่ะครับ ไม่มีสอบเหรอ”
“มีแต่วิชาเลือก ไว้ใกล้ๆค่อยอ่าน ว่าแต่นิทานอ่านอะไรอยู่ หืม?”
“แคลครับ”
“ให้พี่ช่วยมั้ย”
“จะสอนเหรอครับ”
“แต่พี่จำอะไรไม่ได้เลยนะ”
“งั้นก็นั่งเฉยๆไปเถอะครับ”
“อ่า ฮ่าๆๆๆ ขอโทษครับ ไม่กวนแล้ว ตั้งใจอ่านๆ”
ผมหันมาสนใจชีทเรียนของตัวเองอีกครั้ง สักพักมือถือของผมก็สั่น แจ้งเตือนขึ้นว่าไอ้อัทส่งไลน์มา ผมหันไปสบตามันที่นั่งอยู่อีกข้างของพี่อัท มันส่งยิ้มแฝงเลศนัยมาให้ก่อนเพยิดหน้าเร่งเร้าให้ผมกดอ่านข้อความ
AUT_T : พี่กิตต์กำลังจีบมึง
Nithan : ไม่หรอกมั้ง
คือถ้าพี่เขาชะโงกหัวเผือกอ่านหน้าจอมือถือพวกเราตอนนี้นี่จบเลยนะ นินทาข้ามหัวกันขนาดนี้
กรุ้งกริ้ง
“ยินดีต้อนรับค่ะ”
เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านดังขึ้น คงมีลูกค้าใหม่เข้าร้าน ทีแรกผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอก ทว่าเสียงหวานของลูกค้าคนใหม่ที่อุทานด้วยความตกใจนั้นดันคุ้นหูผมเนี่ยสิ
“ไอ่หยา!!”
พี่เฟิร์นคนสวยกุมอกมองมายังพวกเราด้วยใบหน้าอึ้งๆ ที่อึ้งกว่าคือพวกผมกับเพื่อนๆ แต่ที่อึ้งที่สุดคือพี่กิตต์?
“แฟนพี่กิตต์!!”อัทกับแจนโพล่งขึ้นพร้อมกันก่อนตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันเพราะเผลอทำตัวเสียมารยาทไป
“สวัสดีครับ”ผมทักทายเธอเล็กน้อย”มานั่งตรงนี้สิครับพี่เฟิร์น”ก่อนจะสละที่ให้เธอได้นั่งข้างๆแฟน ผมย้ายก้นตัวเองมาอยู่ข้างไอ้แก๊ป พนักงานใจดียกโต๊ะมาต่อเสริมให้พวกเราอีกตัวหนึ่ง
“อ่า เฟิร์น ร้านนี้มีบิงซูที่เฟิร์นชอบด้วย สั่งมั้ย เดี๋ยวพี่ช่วยถ้ากินไม่หมด ^^;”พี่กิตต์กล่าว
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ แต่ที่จริงเฟิร์นไม่ได้ชอบบิงซูหรอกนะคะ”คนสวยตอบด้วยรอยยิ้มประหลาด ส่วนคนหล่อเอาแต่หัวเราะแหะๆขณะสาวเจ้าสั่งกับพนักงงานว่าเอาบิงซูรสสตรอเบอรี่กับบลูเบอรี่อย่างละ2ถ้วย”พี่สั่งเผื่อพวกน้องด้วยนะ ไม่ต้องเกรงใจ พี่คนนี้เขาเลี้ยง”พี่เฟิร์นทำอะไรไม่ปรึกษาพี่กิตต์เล้ยย ดูหน้าพี่เขาตอนนี้สิ ฮ่าๆๆๆ
ครืด
ไลน์ผมมีแจ้งเตือนอีกแล้ว เดาได้เลยว่าใครส่งมา
AUT_T : พี่กิตต์กำลังจีบมึง
Nithan : เลิกเพ้อเจ้อได้ละ ชักรำคาญ ไม่เห็นเหรอว่าตัวจริงเขามาแล้ว
AUT_T : แล้วมึงไม่เห็นหน้าพี่กิตต์รึไง เกร็งสัสตั้งแต่พี่เฟิร์นเข้ามา
Nithan : พี่เค้าแค่ไม่อยากเลี้ยงพวกเรา สี่ถ้วยนี่เป็นพันนะมึง
AUT_T : มึงก็บอกพี่เค้าดิว่าไม่เป็นไร ผมเกรงใจครับ
Nithan :ไม่ กูจะกินของฟรี
AUT_T :สัส
“มาแล้วค่า ค่อยๆทานนะคะระวังหก”ผมกับอัทหยุดเถียงกันเมื่อของฟรีมาเสริฟด้วยความรวดเร็ว ผมเลือกรสบลูเบอรี่มากินกับไอ้แก๊ป อรกับแจนกินถ้วยเดียวกัน ส่วนไอ้อัทได้กินคนเดียวถ้วยนึง สบายท้องเลยสิเมิง ผมแอบเห็นมันยิ้มดีใจที่จะได้กินของที่พี่กิตต์เลี้ยงด้วย สมงสมองไปหมดแล้วเพื่อนผม
“พี่ไม่ป้อนเฟิร์นหน่อยเหรอคะ”
อุ่ยยยย อย่ามาโชว์หวานแถวนี้ครับมีคนอิจฉา
ดวงไฟในตานักศึกษาคณะบัญชีปี1ลุกกันพรึบพรับเมื่อคนหล่อบรรจงตักช้อนจรดริมฝีปากบางของพี่เฟิร์น อรกับแจนหันหน้าไปอีกทางเพื่อหวีดร้อง ไอ้แก๊ปดึงชายเสื้อผมไปจิกด้วยความริษยา”พอเหอะพี่ พวกผมอิจฉา”
“แฮ่ๆ พี่ก็ว่างั้น พอเหอะเฟิร์น”
“คิกๆๆ ค่าๆ ไม่แกล้งแล้วค่า~~ บิงซูเจ้านี้ถูกปากนิทานรึป่าวคะ”
“อะ อ่า ครับ อร่อยครับ ผมชอบ”ไหงพี่คนสวยหันมาชวนผมคุยได้เนี่ย แอบเห็นพี่กิตต์เอามือปาดเหงื่อด้วย
“ขอบคุณคนเลี้ยงรึยังคะ”
“อะ ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะพี่กิตต์!!”ยังกับสวัสดีอาจารย์ตอนท้ายคาบ เมื่อพี่เฟิร์นสั่งว่านักเรียนทั้งหมด ทำความเคารพ!!พวกผมทั้งห้าคนก็ยกมือไว้พี่กิตต์ นิ้วโป้งจรดจมูก นิ้วชี้อยู่ระหว่างคิ้วตามแบบฉบับที่ครูสังคมเพียรสอนตั้งแต่ประถม
“คิกๆ แล้วคนพี่ล่ะคะว่าไง จะให้น้องใช้หนี้ให้อีกมั้ยคะ คิกๆๆๆ”
“สนุกใหญ่เลยนะน้องเฟิร์น”พี่กิตต์แยกเขี้ยวใส่สาวเจ้าที่ตอนนี้ก้มหน้าหัวเราะตัวงอ
“เอ่อ ผมงงๆนิดหน่อย คือ มันมีอะไรตลกเหรอครับ”ไอ้แก๊ปที่ใจกล้าที่สุดในกลุ่มเอ่ยถามคนดังจากคณะแพทย์ที่นั่งเกาหัวมองพี่เฟิร์นคนสวยหัวเราะร่าเริง
“ปะ เปล่า...ไม่มีอะไร...”
“โอ๊ยยยย พอเถอะค่ะพี่ เฟิร์นสงสารน้อง สงสารเฟิร์นด้วย ไม่ไหวแล้ว ขอโทษนะคะ พี่แกล้งเป็นแฟนกันต่อไปไม่ไหวแล้ว”
“เห้ย!!! เฟิร์น พูดอะไร!!”พี่กิตต์ตกใจเอามากเมื่อพี่เฟิร์นเอ่ยเช่นนั้น
“พี่อ่ะเงียบไปเลย!! เฟิร์นนัดแฟนไว้ที่ร้านนี้ แต่วันนี้เฟิร์นเลิกเร็วเลยมารอก่อนอีกเดี๋ยวยังไงๆแฟนเฟิร์นก็ต้องมาที่ร้านนี้ งานนี้พี่ไม่รอดแน่ๆยังไงน้องก็ต้องจับได้ว่าพี่หลอกน้อง ตายแน่นอนเฟิร์นฟันธง!!”
“หะ...!??”
ง.งูลอยฟุ้งทั่วร้านแล้วครับ
หลอกอะไร ใครหลอก?
พี่เฟิร์นบอกว่าแฟนกำลังจะมาทั้งๆที่พี่กิตต์ก็กำลังนั่งหัวโด่อยู่นี่
“ใครก็ได้ช่วยอธิบายทีค่ะ หนูงง”แจนงงจนตาตี่ไปแล้ว
อ่อ หมวยอยู่แล้ว โทษๆ
กรุ้งกริ้ง
แต่ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยตอบอะไรกลับมา กระดิ่งประตูหน้าร้านก็สั่นขึ้นอีกครั้ง พวกเราหันขวับไปมองราวกับมีคนตั้งระบบออโต้เอาไว้
ชายหนุ่มที่เดินเข้ามามีรูปร่างสูง ใบหน้าหล่อเหล่าเกลี้ยงเกลา ผิวขาวสว่าง
และที่สำคัญ
หน้าเหมือนพี่กิตต์ราวกับถอดมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน
เดี๋ยวนะ
.
.
“ฝาแฝดเหรอ!!!”_____________________________________
ผ่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
ทำไมไม่มีใครเดาถูกเลยล่ะคะ!!!!!!??
คุณพระเอกของเราออกจะใบ้แทบทุกการกระทำ 555
เช่น
“ไม่ถามชื่อพี่บ้างเหรอ”
“รู้อยู่แล้วครับ”
“รู้แล้วจริงอ่ะ”
พวกเจ้ายังอ่อนหัดนัก แต่ไม่ไร เรามีโอกาสให้พวกเจ้าแก้ตัว
ทายมาซิว่าพระเอกเรื่องนี้ชื่ออะไร