พิมตะวัน
:บทนำ
เขาอกหัก อกหักทั้งที่ยังไม่มีโอกาสบอกรักเลยด้วยซ้ำ ก็รู้ว่ามันยาก ยากตั้งแต่ที่รักผู้ชายด้วยกัน แถมคนคนนั้นยังมีแฟนแล้วอีก แต่ทั้งที่รู้อย่างนั้น ก็ยังห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้....ต่อให้พยายามกดเก็บไว้แค่ไหน มันก็ห้ามไม่ได้เลยจริงๆถึงรุ่งที่รักของพี่
พี่ขอโทษนะคะที่ไม่ได้เขียนหารุ่งเสียนาน สารภาพโดยดีว่ามัวเอาเวลาไปปฏิบัติภารกิจมองตามคนคนหนึ่งอยู่ อย่างที่รุ่งคงเดาได้ พี่ตกหลุมรักอีกครั้ง และก็เพิ่งรู้ตัวว่าต้องตัดใจจริงๆแล้วอีกครั้งเมื่อบ่ายวันนี้เอง นี่ถ้าเรารู้ว่าพี่ทำอะไรลงไป เราคงขำจนท้องแข็งอีกแน่ๆเลย
พี่ชายของรุ่งเป็นแค่ไอ้ขี้ขลาดตามเคยเลยนะคะ เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมตรงที่แอบรักเขาข้างเดียว ก็จะทำไงได้ล่ะคนที่พี่เผลอไปปิ๊งเข้าเขาดันมีแฟนอยู่แล้ว แถมยังรักกันมาก และก็เหมาะสมกันไปทุกอย่าง รุ่งนึกภาพออกใช่มั้ย คู่รักประเภทที่ไม่ต้องจับมือถือแขน ไม่ต้องส่งสายตาหวานๆใส่กันตลอดเวลา แต่ทั้งๆที่เขาแค่เดินผ่านไปในระยะร้อยเมตร เราก็รู้สึกได้ถึงออร่าสีชมพูอ่อนแล้วก็ความรู้สึกอุ่นๆที่แผ่ออกมาน่ะค่ะ....... นั่นแหละ ความรู้สึกเวลาพี่มองเห็นพี่ภพกับพี่เค้กแฟนพี่เขา
เฮ้อ.....แอบรักรุ่นพี่ที่ได้เจอกันแทบทุกวันมาตลอดสามปี แต่กลับทำอะไรไม่ได้สักอย่างเพราะเรามาช้าไปนี่มันเจ็บจริงๆ วันนี้พี่ภพมาเรียนเป็นวันสุดท้าย พี่เลยตัดสินใจทำอะไรบางอย่างร้ายๆไป
วันนี้พี่ของรุ่งทำตัวเป็นตัวร้ายในละครน้ำเน่ามาค่ะ แถมทำไปแล้วยังขี้ขลาด ไม่กล้ายอมรับสารภาพผิดซะด้วยสิ ขอพี่ระบายความรู้สึกผิดนี้ด้วยการเล่าให้รุ่งฟังนะคะ วันนี้พี่ทำร้ายพี่ภพด้วยการวางแผนให้พี่เขากับแฟนเข้าใจผิดแล้วทะเลาะกัน แอบส่งรูปถ่ายคนหน้าเหมือนพี่ภพที่กำลังนัวเนียกับหลานรหัสของพี่เองให้พี่เค้ก ทำไปก็รู้สึกผิดไป พอเห็นอาการของพี่เค้กพี่ชายของรุ่งก็ยังอุตส่าห์รู้สึกพอใจที่เห็นความผิดหวังในตาของพี่เค้ก แต่พร้อมๆกันพี่ก็รู้สึกผิดจนแทบจะหายใจไม่ออกตอนที่แอบเห็นพี่เค้กเดินหนีพี่ภพไปทั้งๆที่น้ำตานองหน้า
และทั้งๆที่คิดว่าจะฉกฉวยโอกาสที่พี่สองคนเขาผิดใจกัน แทรกเข้าไปในความสัมพันธ์นั้นให้ได้ แต่แค่ครึ่งวัน แค่ครึ่งวันเท่านั้นเอง เขาสองคนก็คืนดีกัน......เขายิ้มให้กันเหมือนเดิม แถมยังดูจะเข้าอกเข้าใจกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
พี่ของรุ่งถึงมีเวลามานั่งเขียนจดหมายถึงน้องสาวคนดีอยู่นี่ไงคะ เพราะพี่พอแล้ว....จะเลิกพยายามกับรักครั้งนี้โดยเด็ดขาด ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ว่าอกหักคราวนี้พี่จะต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่เพื่อทำใจ ทั้งที่เตรียมใจรับความผิดหวังมาตั้งสามปีแท้ๆ แต่ทำไมยังเจ็บนักก็ไม่รู้
อ่อนแอแบบนี้....พี่คิดถึงรุ่ง อยากกอดรุ่งจริงๆ
พี่ดอนผู้อ่อนแอ
ปล. สวรรค์ของรุ่งยังหน้าตาเหมือนภาพที่พี่วาดเมื่อสี่ปีก่อนอยู่รึเปล่าคะ? กระดาษเขียนจดหมายสีไข่ไก่ถูกพับเป็นสามทบ เจ้าของตัวอักษรจากปากกาสีดำที่เรียงรายเป็นระเบียบทั้งที่ไม่มีเส้นบรรทัดกรีดตามรอยพับทั้งสองรอยจนเรียบกริบ ก่อนจะสอดลงซองสีเดียวกันแล้วปิดผนึก ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆทั้งที่ยังมีน้ำตาคลอจนแทบเอ่อล้น จนนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบทองมองเห็นเป็นสีเข้มข้นวาววับ จัดการจ่าหน้าซองถึงนางสาวรุ่งอรุณ โพเวลล์ โดยเว้นที่อยู่เอาไว้ แล้วเปิดลิ้นชักหยิบกล่องเหล็กใบเก่าออกมาเปิด ก่อนจะวางจดหมายฉบับนั้นซ้อนลงไปบนจดหมายไม่ต่ำกว่าสิบฉบับที่เขียนถึงน้องสาวฝาแฝดคนเดียว
“เฮ้อ......ก็พี่ไม่รู้นี่นาว่าค่าส่งจดหมายไปสวรรค์มันเท่าไหร่ เลยไม่ได้ซื้อแสตมป์มาแปะ จะไปถามพี่บุรุษไปรษณีย์ก็ไม่กล้าด้วยสิ เดี๋ยวถูกไล่เตะออกมา คราวนี้นอกจากอกหัก สงสัยจะได้ปากแตก ฮ่าๆๆๆ” เสียงงึมงำดังขึ้นเบาๆขณะที่ปิดฝากล่องสมบัติส่วนตัวนั้นลงอีกครั้ง แล้วสอดกลับเข้าไปไว้ที่ก้นลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือเหมือนเดิม
หยาดน้ำที่เอ่อคลอถูกเจ้าตัวใช้หลังมือปาดออกโดยยังไม่มีโอกาสจะหยาดออกมาเปื้อนแก้ม ก่อนชายหนุ่มในชุดง่ายๆอย่างเสื้อกล้ามกางเกงเลจะก้าวไปเอนตัวลงบนที่นอนชั้นล่าง ดวงตาที่ยังเบิกโพลงในความมืดหลังปิดไฟเพดานจ้องจับที่แผ่นไม้อัดเนื้อหนาของที่นอนชั้นบน ส่งความระลึกถึงให้น้องสาวคนเดียวที่เคยเป็นเจ้าของ แล้วจึงตัดใจข่มตาหลับลงทันที
..โปรดติดตามตอนต่อไป..
ปล.อ้อมกอดล้นหลาม ขอบคุณทุกท่านนะคะ