"ตอนที่ 20"
เช้านี้ผมไปมหาวิทยาลัยพร้อม ๆ กับโบ ซึ่งที่จริงแล้ววันนี้คาบเช้าผมไม่มีเรียนหรอกครับ แต่ที่อยากจะไปมหาวิทยาลัยตอนเช้าๆ
เพราะผมอยากที่จะเริ่มลองเปลี่ยนตัวเองในแบบที่ผมคิดไว้ ซึ่งวิธีนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกครับนอกจากตัวผมคนเดียว
ผมเลยลากไอ้โบไปเป็นเพื่อนด้วย เพราะยังประหม่านิดหน่อย
เรานั่งรถตู้มาถึงมหาวิทยาลัย จากนั้นผมกับโบก็ไปนั่งที่ซุ้มประจำของพวกเรา
ตอนนี้ไอ้โบแอบไปหาที่โทรคุยกับแฟนมัน เหลือผมนั่งอยู่คนเดียว ผมเริ่มลังเลที่จะทำในสิ่งที่ผมคิดเมื่อคืนนี้ คิดว่ามันถูกหรือเปล่า
แต่จะทำไงได้ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ต้องเดินหน้าอย่างเดียวแล้วล่ะ
“สวัสดีครับ ผมชื่อโยนะ นายชื่ออะไรครับ นั่งด้วยคนได้ไหม”
ผมเดินเข้าไปทักชายหนุ่มหน้าตาดีคนนึงที่นั่งอยู่ที่ซุ้มถัดออกไปประมาณ 2 ซุ้มเป็นเป้าหมายแรก
“ผมชื่อตี๋ครับ”ชายหนุ่มคนนั้นตอบด้วยอาการ งง ๆ
“นั่งด้วยคนได้ป่ะ อยากมีเพื่อนคุยด้วยอ่ะ นายมานั่งรอใครหรอ”ผมยิ้มให้และรีบทำการผูกมิตรทันที
“เรามานั่งรอแฟนครับ เดินมานั่นไง”ตี๋ชี้ไปที่ผู้หญิงคนนึงซึ่งกำลังเดินมาหา
“อ้าวมีแฟนแล้วหรอครับ ขอโทษครับ ผมไม่กวนละ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระอ่ะครับ”
ผมพูดอาย ๆ เพราะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บที่ดูคนผิดได้ไงไม่รู้ เลยรีบเดินก้มหน้าออกมา
“ไอ้โยเมื่อกี้มึงไปคุยอะไรกับเค้าวะ”โบถามผมหลังจากที่ผมเดินมาถึงที่ซุ้มแล้ว
“เปล่า เราแค่อยากรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ จะได้ลืมเรื่องเก่า ๆ ไง”ผมบอกพลางหลบสายตาโบที่จ้อมมองผมอยู่ด้วยความแปลกใจ
“นี่แกจะบ้าไปแล้วหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้วะ นี่หรอที่แกว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พอเลยอย่าบ้าไปหน่อยเลย”ไอ้โบว่าผมอย่างรุนแรง
“โบ แกไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้ความรู้สึกเรามันเป็นยังไง แกอย่ายุ่งเรื่องนี้เลยนะ เราสัญญาว่าจะไม่ให้กระทบเรื่องการเรียน”ผมบอกโบด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
“ตามใจแกนะ ถ้าแกคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ลืมเรื่องของบูมลงไปได้ก็ตามใจ”ไอ้โบพูดประชด
“แต่อย่างน้อยถ้าเรามีใครในตอนนี้ เราอาจจะลืมเค้าได้นะโบ”ผมบอกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด จนโบได้แต่ส่ายหน้า
“สวัดดีครับโย เป็นไงดีขึ้นแล้วใช่ป่ะ เราเป็นห่วงแทบแย่ เมื่อคืนทำรายงานเสร็จกะว่าจะโทรไปหา แต่กลัวจะรบกวนน่ะ เพราะมันดึกแล้ว
โชคดีจังวันนี้เจอโยตั้งแต่เช้าเลย”ปอนด์เดินเข้ามาเอ่ยทักทายผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่รบกวนหรอกครับ สำหรับปอนด์น่ะ จะโทรมาดึกแค่ไหนก็ได้เราไม่ว่าหรอก ตอนนี้เราว่าง”ผมพูดเปิดทางให้ปอนด์
ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับปอนด์เลย นอกจากคำว่าเพื่อน
“จริง ๆ นะ ว๊า.....แย่จัง ไม่มีเวลาคุยด้วยเลย เดี๋ยวปอนด์ไปเรียนก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนกลางวันปอนด์โทรหานะ”
ปอนด์แสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า แล้วขอตัวจากไป
หลังจากที่ปอนด์เดินพ้นไปแล้วไอ้โบก็ดึงผมเข้าไปคุยในซุ้มทันที
“เฮ้ยยย โยเอาจริงหรอวะ ถ้าแกไม่คิดอะไรอย่าไปดึงปอนด์มาเกี่ยวด้วยเลยนะ”โบถามผมเพราะรู้สึกเป็นห่วง
“เราก็แค่ลองเปิดใจดู ใครจะเข้ามาตอนนี้เราจะรับหมด เผื่อจะมีคนที่แทน......”ผมพูดได้แค่นั้นเพราะไม่อยากเอ่ยถึงคนที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวด
“เฮ้อออออออออ”โบถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะไม่รู้ว่าจะห้ามผมได้อย่างไร
ตลอดช่วงเช้านี้ผมได้ทำความรู้จัก (ก็จีบนั่นแหละ) กับคนไปทั่วไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย เกย์ ซึ่งมีบางคนที่ผมแห้วรับประทาน
แต่หลาย ๆ คนที่คิดว่าน่าจะมีโอกาส แล้วยังมีคนที่เดินเข้ามาหาผมเองก็มีบ้าง
ส่วนมากจะเป็น คนที่อยู่ในคณะเดียวกับผมซะมากกว่า ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง รวมไปถึง แอนนี่ หญิงร้อนแรงประจำคณะที่ ออฟเคยบอกว่าสนใจผมรวมอยู่ด้วย
แต่พวกเพื่อน ๆ ผมรีบห้ามเอาไว้เพราะรู้ดีว่าคนนี้แหละตัวอันตรายห้ามเข้าไปยุ่งเด็ดขาด
“โยมันจะดีหรอ ที่แกไปให้ท่ายัยแอนนี่อ่ะ มันมากไปนะ เดี๋ยวก็ซวยหรอก แกก็รู้นี่ว่า แอนนี่ น่ากลัวแค่ไหน”ออฟพูดเตือนผม หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าของโบ
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ก็แค่เปิดใจรับคนอื่นบ้างไม่เสียหายนิ จริงป่ะ”ผมพูดแบบไม่ใส่ใจในสิ่งที่ทำ
แต่มาคิด ๆ ดูแล้วผมก็เห็นด้วยนะครับที่จะไม่เข้าไปยุ่งด้วย เพราะแอนนี่น่ากลัวจริง ๆ เคยมีเรื่องกับกายด้วยอ่ะ
ผมเลยไม่ยุ่งดีกว่า แล้วเริ่มหันไปหาเหยื่อรายใหม่ต่อไป
“สวัสดีครับพี่ พี่น่ารักจังเลย เป็นพี่รหัสให้ผมได้ป่ะคับ”ผมเดินไปป้อรุ่นพี่หนุ่มคนนึงซึ่งเรียนอยู่คณะเดียวกันที่นั่งอยู่ที่ซุ้มฝั่งตรงข้าม
“ได้สิครับ น้องรหัสน่ารัก ๆ แบบนี้หาง่าย ๆ ซะที่ไหน พี่ชื่อ น้อต นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องโย”ชายหนุ่มเอ่ยทักชื่อผมขึ้นมาทั้ง ๆ
ที่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยอ่ะ ทำให้ผมแปลกใจมาก ๆ
“พี่รู้จักชื่อผมได้ไงอ่ะครับ”ผมถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้จักได้ไง เราอ่ะดังจะตาย”พี่น้อตพูดยิ้ม ๆ ยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้นไปอีก แถมยังคุ้น ๆ กับชื่อนี้ยังไงก็ไม่รู้
“ผมเนี่ยนะดัง ไม่จริงหรอกครับ”ผมตอบ
“อืมม....เอาเป็นว่าพี่รู้จักน้องโยแล้วกัน แต่เรื่องพี่รหัสนี่ น้องโยสัญญาแล้วนะ ว่าให้พี่เป็นพี่รหัสเราจริง ๆ นะ”พี่น้อตยิ้มอย่างมีเลศนัย
“จริงดิครับ อ่ะนี่เบอร์ผม 0xxxxxxxx”
“งั้นพี่ขอถ่ายรูปเราเป็นที่ระลึกได้ป่ะ”พี่น้อตพูดพลางถ่ายรูปผมด้วยมือถือซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
“พี่น้อตยังไม่ให้เบอร์ผมเลยอ่ะ ไหนว่าจะเป็นพี่รหัสผมไง”ผมทวงเบอร์โทรพี่น้อตด้วยน้ำเสียงแบบอ้อน ๆ
“อ่ะครับพี่ลืม พอดี พี่กำลังดีใจที่ได้น้องรหัสน่ารัก ๆ ไง”พี่น้อตพูดพลางกดมือถือเพื่อยิงเข้ามาที่เบอร์ผม
“งั้นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของเรา พี่ขอเลี้ยงข้าวน้องโยได้ไหมครับ”พี่น้อตชวนผมไปทานข้าว
ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าจะตอบรับคำชวนของพี่น้อตดีหรือไม่ ผมก็เห็นบูมกำลังเดินมากับไอ้หนุ่มคนนั้นสองต่อสอง
มันทำให้ผมรู้สึกแปลบ ๆที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ผมจึงต้องรวบรวมสติ และตอบพี่น้อตว่า......
“ได้ครับพี่ เราไปทานข้าวกันดีกว่าครับ ผมหิวแล้วอ่ะ”ผมตอบรับคำชวน ทั้ง ๆ ที่ทีแรกกะว่าจะขอตัวกลับไปที่ซุ้ม
“ครับ ๆ ไปกัน”พี่น้อตลุกขึ้นยืน ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับบูม ที่เดินมาถึงที่ซุ้มที่ผมนั่งพอดี
ซึ่งผมก็รีบเดินเข้าไปควงแขนพี่น้อตโดยที่ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจบูม ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าผม
แต่ผมกลับยิ่งเอาตัวเข้าไปประชิดกับตัวพี่น้อต จนพี่น้อตเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร แล้วเราสองคนก็เดินออกมานำหน้าบูมออกไป
ผมรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันจะได้ไปกระทบกระเทือนใจของบูมบ้างหรือเปล่า หรืออาจจะไม่เลยก็ตาม
แต่การที่ผมทำให้เค้าเห็นว่า ผมเองก็มีดีพอที่จะมีคนมาจีบเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ามีแต่บูมคนเดียวที่มีคนอื่นได้ ก็ทำให้ผมสะใจมากพอสมควร
หลังจากที่ผมเดินควงมากับพี่น้อตได้สักระยะนึงผมก็รีบผละตัวออกจากพี่น้อต จนพี่น้อตแซว
“เมื่อกี้ยังควงพี่อยู่เลย ใกล้ถึงโรงอาหารกลัวแฟนมาเห็นหรอไงครับรีบชิ่งเลยนะ”พี่น้อตแซวยิ้ม ๆ
“เปล่าครับพี่ ผมไม่มีแฟน ผมแค่............”ผมกำลังจะพูดต่อ พอดีปอนด์โทรเข้ามาพอดี
“ครับโยพูดครับ”
“ตอนนี้โยอยู่ไหนครับ ปอนด์เลิกเรียนแล้ว อยากไปหาจัง”ปอนด์เริ่มหยอดคำหวาน จนผมเริ่มที่จะอึกอัก
“เรามากินข้าวกับพี่รหัสที่โรงอาหารน่ะ”
“หรอครับ ปอนด์ไปกินด้วยคนได้ป่ะ จะได้แนะนำตัวให้พี่รหัสโยรู้จักไง”
“เอ่อ คือ เราต้องขอพี่รหัสเราก่อนนะ”
“ครับ ปอนด์อยากไปหาจริง ๆ นะ”
“พี่น้อตครับคือ เพื่อนของโยเค้าอยากมาทานข้าวด้วย พี่จะว่าอะไรไหมครับ”ผมถามพี่น้อตที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“เพื่อนหรือว่าแฟนครับ ถ้าแฟนพี่ไม่ยอมนะ”พี่น้อตแซวผม
“เพื่อนครับ เพื่อนจริง ๆ ตอนนี้ผมโสดนะ”ผมพูดแล้วหัวเราะ
“ได้สิครับ แต่ใจจริงพี่อยากนั่งทานกับโยสองต่อสองมากกว่านะครับ”พี่น้อตมองผมด้วยสายตาหยาดเยิ้มเลยอ่ะ
“แฮะ แฮะ แฮะ”ผมหัวเราะแห้ง ๆ แล้วผมก็บอกให้ปอนด์มาหาที่โรงอาหาร
หลังจากที่ผมนั่งทานข้าวกับพี่น้อตได้สักครู่นึง ปอนด์ก็เดินเข้ามาหา และเอ่ยทักทายพี่น้อต
แต่ดูเหมือนพี่น้อตจะรู้ว่า ปอนด์ไม่ใช่เพื่อนผมธรรมดาแต่เป็นคนที่เข้ามาจีบผมต่างหากเลยแกล้งถามหยั่งเชิง...........
“ปอนด์รู้จักกับโยตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”พี่น้อตถามหยั่งเชิง
“อ๋อออ เพิ่งรู้จักเองครับพี่ แต่อีกไม่นานก็คงจะสนิทกันมากขึ้น”ปอนด์พูดพลางยิ้มหวานมาที่ผม
“อ้าวไม่สนิทกันหรอกเหรอ อย่างนี้พี่ก็มีคู่แข่งแล้วอ่ะสิ”พี่น้อตพูดจนปอนด์หันมาจ้องพี่น้อตอย่าง งง ๆ จนผมต้องรีบแก้สถานการณ์
“แล้วปอนด์ทำรายงานเสร็จแล้วหรอ มีอะไรให้เราช่วยไหม”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะท่าทางฤกษ์จะไม่ค่อยดีแล้ว
“เสร็จแล้วครับ...เออ โยเย็นนี้ว่างไหม ไปดูหนังกันป่ะ”ปอนด์หันมาสนใจในสิ่งที่ผมพูด
“เย็นนี้พี่ก็ว่างนะครับ น้องโยไปด้วยกันสิ พี่จะได้ไปด้วย”เอาสิครับทีนี้ ปอนด์หันไปจ้องพี่น้อตแบบไม่สบอารมณ์ แต่พี่น้อตก็ยักไหล่ไม่สนใจ
“เอ้อ เย็นนี้ผมไม่ว่างครับ พอดีนัดกับเพื่อน ๆ เอาไว้ครับ
ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะ”ผมรีบหาทางออกเพราะไม่งั้นผมจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างแน่นอน
“ว้า....เสียดายอ่ะ”ปอนด์บ่นเสียดาย
พวกเราคุยกันต่ออีกสักพักนึงแล้วพี่น้อตก็ขอแยกตัวออกไปเพราะเพื่อน ๆ พี่น้อตโทรมาตาม ทำให้ผมต้องอยู่กับปอนด์ สองต่อสอง......
“เราไม่ค่อยชอบพี่รหัสของโยเลยอ่ะ”ปอนด์บอกแล้วเบ้ปาก
“อ้าว ทำไมล่ะ พี่น้อตก็น่ารักดีนี่”ผมพูดยิ้ม ๆ
“ใครว่า กับโยก็ดีหรอก แต่เวลาพูดกับเรา พี่เค้าชอบมากวนอ่ะ”ปอนด์บอก
“ไม่ละมั้ง ปอนด์อ่ะคิดมาก ไม่มีอะไรหรอก”ผมบอกปอนด์
ทันใดนั้นผมก็สังเกตเห็นบูมเดินมากับเพื่อน ๆในกลุ่ม แต่ไม่ยักกะเห็นไอ้เจ้าคนนั้นเดินมาด้วยเลย
ประจวบกับมีเศษอะไรไม่รู้ลอยมาติดที่ผมของปอนด์พอดี ผมเลยเอามือไปดึงออกให้โดยลุกขึ้นยืนเอาตัวเอี้ยวเข้าไปใกล้ ๆ
จนหน้าผมกับปอนด์เกือบจะติดกัน อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ แต่ผมต้องการให้บูมเห็นในสิ่งที่ผมทำ
ผมจึงต้องแสดงแบบ โอเวอร์แอคชั่นไปนิดนึง แล้วโชคก็ดูเหมือนจะเข้าข้างผมเพราะบูมหันมาเห็นพอดี แถมปอนด์ก็ดูเหมือนจะเป็นใจด้วย
เพราะปอนด์เอามือมาจับมือผมเอาไว้ ผมจึงยิ้มให้ แล้วแอบเหล่ไปสังเกตอาการของบูม แต่ก็ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ได้สนใจอะไรเลย (หรือเปล่าไม่รู้)
เพราะเค้าหันกลับไปสั่งอาหารกับเพื่อนเค้า จนผมเริ่มรู้สึกเจ็บใจมากขึ้น.........
“โยเป็นอะไรหรือเปล่าอยู่ ๆ ก็ทำสีหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรขึ้นมา
ปอนด์ทำอะไรให้โยโกรธหรือเปล่าครับ”ปอนด์บอกหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของผม
“ปะ ปะ เปล่า เราแค่ไม่ค่อยสบายนิดหน่อยอ่ะปอนด์”ผมรีบแก้ตัว
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปห้องพยาบาลไหม เดี๋ยวเราพาไป”ปอนด์พูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ ปอนด์ไปนั่งที่ซุ้มกับเราไหม”ผมเอ่ยชวนชายหนุ่มตรงหน้า
“ไม่ดีกว่าครับ เพราะเรามีเรียนต่ออ่ะ เดี๋ยวเราต้องไปหาเพื่อนเราด้วย”
“อ้าวหรอ....งั้นเดี๋ยวเราไปหาเพื่อน ๆ ก่อนนะ”
“ให้ปอนด์ไปส่งนะ”ปอนด์เสนอ
“ไปสิ”ผมยิ้มให้แล้วเดินไป
จากนั้นผมกับปอนด์ก็เดินไปที่ซุ้มด้วยกัน แต่ก่อนที่จะถึงซุ้มประจำของผม ปอนด์ก็ขอตัวกลับแล้วบอกว่าคืนนี้จะโทรหาผม
ซึ่งผมก็พยักหน้ารับรู้ แล้วเราก็แยกจากกันไป
ทันทีที่ผมเดินมาถึงที่ซุ้ม ผมก็เริ่มรู้สึกถึงรังสีแปลก ๆ แผ่ออกมาจากเพื่อน ๆ ของผมแต่ละคน จนผมทนไม่ไหว....
“เป็นอะไรกันหา เห็นจ้องอยู่ได้”ผมถามพวกเพื่อน ๆ ผม
“พวกฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก มีแต่แกน่ะคนเดียวที่เป็น แกเป็นบ้าไปแล้วหรอไงโย แกรู้ตัวไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่”ออฟถามผมอย่างทนไม่ไหว
“เราไปทำอะไร ก็แค่เราไปกินข้าวมา แค่นั้นเอง”ผมตอบไปอย่างหน้าตายทั้ง ๆ ที่ผมก็รู้ว่าพวกมันหมายถึงอะไร
“อย่ามาทำเป็นเซ่อ แล้วไอ้พี่คนนั้นนั่นมันใคร นี่แกจะบ้าไปแล้วหรอไง ระวังจะกู่ไม่กลับนะ”โบบอกผมอย่างห่วงใย
“เรารู้น่ะว่าเรากำลังทำอะไรอยู่นะโบ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกแกก็ด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราจะไม่มีทางเป็นแบบเดิมอีกแล้ว เชื่อเราสิ”
ผมบอกพวกเพื่อน ๆ ผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนพวกมันได้แต่ส่ายหน้า
“เออ เห็นเหยื่อรายใหม่แล้ว เดี๋ยวมานะ”ผมเห็นรุ่นน้องในคณะคนนึงหน้าตาน่ารักดี ตี๋ ๆ หน่อย ผมเลยขอตัวไปจีบน้องเค้า
ผมทำตัวแบบนี้ คือ จีบคนเค้าไปทั่ว ให้ท่าคนโน้นทีคนนี้ที ใครมาจีบก็เล่นด้วย จนตอนนี้ ผมรู้จักคนมากขึ้นเยอะเลยทั้ง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ในคณะ ต่างคณะ
มีคนที่เดินเข้ามานั่งในซุ้มเพื่อคุยกับผมค่อนข้างเยอะในแต่ละวัน จนบางครั้งผมแทบจะไม่มีเวลาให้เพื่อน ๆ ผมเลย
จนกระทั่งเข้าสู่เทอมที่สอง ผมก็ยังทำตัวในลักษณะเดิม การเรียนที่เคยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็เริ่มตกลงไป เพื่อน ๆ ผมก็แทบจะไม่มีเวลาให
้ จนพวกมันอดน้อยใจผมไม่ได้ จนโบเคยว่าผมมาแรง ๆ ทีนึง
แต่ผมก็กลับไปทำตัวแบบเดิมอีก จนพวกมันทนไม่ไหว เลิกสนใจผมเลย ไม่มาตามตื้อ ไม่มาสนใจผมเหมือนเคย ผมก็อดที่จะรู้สึกเสียใจไม่ได้นะ
แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะทำในรูปแบบนี้แล้ว ผมก็ต้องทำใจยอมรับในสิ่งที่ผมตัดสินใจ
ตลอดระยะเวลาหลายเดือน ปอนด์ก็ยังคงโทรมาหาผมทุกวัน ๆ ถามผมอย่างห่วงใยสม่ำเสมอ เรานัดกันออกไปทานข้าวบ้าง
ไปดูหนังบ้างจนผมเริ่มที่จะสนิทและผูกพันกับปอนด์มากขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้วปอนด์นิสัยดีมาก ๆ ผิดกับทีแรกที่เห็นว่าขี้เก็ก
แต่ลึก ๆ แล้วปอนด์ค่อนข้างเป็นคนที่อ่อนโยนเอามาก ๆ เอาอกเอาใจผมตลอด เทคแคร์ ดูแลผมดีมาก ๆ
แต่แม้ว่าผมจะรู้สึกดีกับปอนด์มากแค่ไหนหรือแม้ผมจะสนิทกับปอนด์มากเท่าไรก็ตาม
แต่สิ่งที่ผมให้ปอนด์ได้ก็เพียงแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น เพราะคำอื่นที่นอกเหนือจากนี้ผมได้ยกให้คนอื่นไปแล้ว แม้ว่าเค้าจะไม่เคยเห็นคุณค่าของมันก็ตาม
แต่ปอนด์สิ ดูเหมือนว่านับวีนจะยิ่งถลำลึกลงไป ลึกลงไปมากขึ้น เรื่อย ๆ ที่จริงต้องโทษที่ตัวผมเอง เพราะเวลาที่ผมเห็นบูมเดินผ่านมา
ไม่ว่าผมจะอยู่กับใครก็ตาม ผมจะเข้าไปคลอเคลีย ลูบหัว เข้าไปกอดบ้าง โอบเอวบ้าง เป็นอย่างนี้เสมอ ๆ จนดูเหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้ว
ซึ่งหลัง ๆ มานี้ผมไม่ค่อยเห็นบูมเดินกับเค้าคนนั้นแล้ว แต่ผมก็ยังคงแสดงกริยาแบบนั้นอยู่ ปอนด์เองก็โดนผมทำแบบนี้ค่อนข้างบ่อย
จนบ้างครั้งปอนด์เกือบที่จะมาจูบผม ดีที่ว่าผมไหวตัวทันเลยแก้สถานะการณ์ไว้ได้
พี่น้อตที่ตอนแรกผมกะจะจีบในตอนนี้กลับกลายเป้นว่า พี่น้อตเหมือนจะเป็นพี่ชายจริง ๆ ที่แสนดีมาก ๆ ด้วย
เพราะพี่น้อตไม่ได้มาคิดจะจีบอะไรผมตั้งแต่ทีแรกแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงรับเป็นพี่รหัสผมก็ไม่รู้ แล้วอีกอย่างคือพี่เค้ามีแฟนอยู่แล้ว
แต่พี่น้อตก็ยังคงคอยมาให้คำปรึกษา มาเตือนผมบ้าง มาดุผมบ้าง มาลากผมเข้าไปเรียนบ้าง จนทุกคนที่เห็นต่างนึกว่าพี่น้อตเป็นพี่ชายของผมจริง ๆ นะเนี่ย
ตอนนี้ชีวิตผมก็ยังคงอยู่ในวังวนแบบนี้ ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั้ง สอบmid-term ผ่านพ้นไป คะแนนที่ผมได้รับเรียกได้ว่า ล้ำเส้นมานิดหน่อย
บางตัวก็แทบจะไม่ถึงครึ่ง บางตัวก็ต่ำกว่าครึ่ง จนเพื่อน ๆ ผมเริ่มจะทนพฤติกรรมของผมไม่ไหว
จึงนัดคุยกับผมที่ห้องประชุมในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นห้องส่วนตัวอย่างจริงจังสักที
“โย นี่แกบ้าพอหรือยัง หา.........หา แกบ้าพอหรือยัง”ออฟพูดกับผมอย่างเหลืออด เมื่อเห็นผมเดินเข้ามาหา
“เรียนก็ไม่ใส่ใจ นัดกับเพื่อนก็หายหัว นี่แกรู้ไหมแกทำอะไรอยู่”โบเสริม
“ใช่ นี่แกจะบ้าเพราะผู้ชายคนเดียวแบบนี้นี่นะ แกเอาชีวิตแกไปแลกกับมันทำไม ทำตัวเหมือนคนไร้ค่า”กายบอกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“.....................................”ผมเงียบเพราะตกใจไม่คิดว่าพวกเพื่อน ๆ ผมจะโมโหมากมายแบบนี้
“ดูคะแนนแกสิ เทอมที่แล้วก็แทบจะไม่ถึง สอง นี่กลางภาคก็เกือบไม่ผ่านสักตัว แกเป็นอะไรโย”ออฟถามย้ำอีกครั้ง
“ออฟอย่าไปพูดกับมันเลย ตอนนี้มันสติแตกไปแล้ว ปล่อยให้มันบ้าผู้ชายแบบนี้ไปเถอะ อย่าไปสนใจมันเลย”โบบอกออฟ
พลางมองผมอย่างดูถูก ซึ่งตั้งแต่ที่ผมรู้จักโบมาหลายปี ไม่เคยที่โบจะมองผมด้วยสายตาแบบนี้เลยทำเอาผมอึ้งไปจริง ๆ
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง หา...........บอกฉันสิ จะให้ฉันทำยังไง”ผมตะโกนบอกพวกมันอย่างเหลืออด
“แกก็น่าจะรู้ดี...เลิกบ้าซะที กลับมาเป็นโยคนเดิมได้แล้ว”กายพูด
“กาย ก็รู้ว่าเราทำแบบนั้นไม่ได้ เรายังตัดใจไม่ได้”ผมพูดเสียงอ่อยพลางหลบสายตาเพื่อน ๆ
“งั้นแกก็จริงจังไปเลยสักคนสิ ใครก็ได้ ปอนด์ก็ได้ พี่น้อตก็ได้”โบบอก
“พี่น้อตมีแฟนแล้วเค้าไม่คิดอะไรกับเราหรอก ส่วนปอนด์ เราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยด้วยจริง ๆ นอกจากความเป็นเพื่อน”
“แล้วที่แกไปลูบหน้าลูบตาเค้า กอดเค้าบ้างล่ะ โอบเอวบ้างล่ะ นี่มันหมายความว่าอะไรมิทราบ”ออฟถามอย่างสงสัยแกมประชด
“ก็เรา........เราแค่อยากประชดบูมแค่นั้นเอง”ผมตอบไปตามความจริง
“ประชดด้วยการแสดงอาการให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าแกชอบเค้าเนี่ยนะ ทำไมแกเป็นคนแบบนี้วะ
แกเคยคิดถึงปอนด์บ้างไหมว่าปอนด์เค้าจะคิดยังไง”กายถามผมอย่างไม่ค่อยพอใจ
“เราไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น........อย่ามาคาดคั้นอะไรกับเราได้ไหม”ผมตะโกนออกมาแล้วเอามือปิดหู
“เฮ้อออออออ โยเอ๋ย เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ด้วยนะ”โบพูดอย่างปลง ๆ
หลังจากการสนทนาในครั้งนี้ พวกเพื่อน ๆ ผมก็ให้ผมสัญญาว่าผมจะกลับไปตั้งใจเรียนแบบเดิม เพราะก่อนหน้านี้ผมมีคะแนนอยู่ในกลุ่มผู้นำมาโดยตลอด
แต่พอระยะหลังจากเกิดเหตุการณ์ทำให้คะแนนผมตกลงไปอย่างมาก และที่สำคัญคือ พวกมันให้ผมเลิกการติดต่อกับพวกที่ผมไปขายขนมจีบทั้งหลายให้หมด
แถมให้ผมเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ และนัดเจอกันที่ใหม่แทนที่จะเป็นซุ้มเดิม จะได้ไม่มีคนเดินเข้ามาหาอีก ทีแรกผมก็จะไม่ยอมพวกมันหรอก
แต่ที่ผมต้องจำใจยอมรับเพราะมันจะเอาเรื่องผลการเรียนของผมไปเป็นตัวประกัน ถ้าผมไม่ทำตามมันจะคาบข่าวไปเล่าให้พ่อกับแม่ผมฟังเรื่องการเรียน
ผมเลยต้องยอมจำนน เพราะถ้าพวกมันไปบอกแม่ หรือ พ่อผมจริง ๆ ผมต้องโดนเทศน์แน่ ๆเลย
ดีไม่ดีอาจจะถูกจับไปทำงานที่เชียงใหม่แทนที่จะได้เรียนที่หรุงเทพฯอีกต่างหาก ผมเลยต้องยอมอ่อนข้อให้ก่อน......
ระหว่างนั้นผมเริ่มกลับมาเรียนอีกครั้งนึง โดยที่เรียนรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างเพราะผมห่างไปนาน ต้องคอยอาศัยเพื่อน ๆ ในกลุ่มคอยช่วยเหลือ ติวให้บ้าง
ให้ยืมเล็คเชอร์บ้าง ถ้าไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ไปขอยืมเล็คเชอร์มาจากเพื่อนอีกกลุ่มนึง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็กลุ่มของแพทนั่นแหละครับ
ผมเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง มาเรียน ไปเดินห้างกับพวกไอ้โบตอนเย็น มีคนที่ผมเคยจีบ ๆ มาหาบ้างประปลาย มีที่สม่ำเสมอก็คือ
ปอนด์ที่ยังคงโทรมาหาผมทุกวัน ก็จะให้ทำไงได้เค้ารู้เบอร์โทรที่บ้านผมแล้วนิ จะให้ปฎิเสธก็เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างปอนด์ก็เป็นคนที่น่าคบด้วยจริง ๆ
ส่วนพี่น้อตก็ยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีอย่างสม่ำเสมอ อาจจะดูดุไปบ้างแต่ก็เป็นห่วงผมอย่างจริงใจจริง ๆ
ส่วนเรื่องบูมผมก็เริ่มจะทำใจขึ้นมาได้อีกติ๊ดนึงแล้ว แม้ว่าจะเป็นแค่เศษเล็ก ๆ
แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้ผมไม่ต้องไปกังวลว่าจะต้องคอยทำให้บูมเห็นว่าผมกำลังกอดกับใครอยู่
ผมได้ก้าวผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่ผมก็ยังคงแอบมองเค้าอยู่ตลอดเวลา ส่วนพวกเพื่อน ๆ เค้าก็ยังคงยิ้มให้ผมเหมือนเดิมซึ่งผมเองก็ไม่ได้อะไร
ก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน จนเวลาล่วงเลยไปใกล้จะสอบ final เพื่อขึ้นไปปีสามแล้ว .....
“ฮัลโหล นี่พี่วิทย์นะครับ น้องโยสบายดีหรือเปล่าครับ”สิ้นเสียงกับปลายสายผมตกใจจนโทรศัพท์แทบหล่น............
จบตอนที่ 20 แล้วครับ ช่วงท้าย ๆ เรื่องผมจะพยายามกระชับเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุดนะครับ เพราะกะว่าจะไม่ให้จบเกินตอนที่ 25 ประมาณนั้น
ยังไงก็ขอให้ติดตามอ่านบทสรุปส่งท้ายความรักในเรื่องนี้ได้นะครับ ขอบคุณครับ
******************************************