เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เมามาย ตอนที่15 27/04/2561  (อ่าน 5953 ครั้ง)

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
« เมื่อ01-09-2017 19:50:59 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2018 01:31:35 โดย EanAA »

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย
«ตอบ #1 เมื่อ01-09-2017 19:56:29 »

ตอนที่1
สาเหตุ

สวัสดีครับ ผมชื่อแม้วครับ หรือที่เพื่อนเรียกกันไอ้แม้ว ชาวแม้ว เผ่าแม้ว แล้วแต่จะเรียกเลยครับ ผมชื่อจริงชื่อ ทรงเกียรติ พิทักษ์เทวา อายุ19 เรียนคณะแพทยศาสตร์ ปี2 ครับ
อย่าตกใจหน้าผมนะครับ หน้าหล่อๆขอผมทำไมมีรอยแผลเต็มไปหมด ผมไม่ได้รถล้มนะครับเพราะบ้านผมจนไม่มีรถขับ ฮ่าๆๆ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ว่ารอยแผลบนหน้าเกิดจากการที่ผมมีเรื่องชกต่อยกันครับ สาเหตุเหรอครับ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังครับ

   “แม้วจ๋า” เสียงหวานจากผู้หญิงที่ผมคุยกับเธอมาสักพักวิ่งมาทางผม ผมสาว ทรงโต ขาว ตาโต ปากกระจับสวยน่าจุ๊บ
   “ว่าไงบิว” ผมทักเธอ
   “คิดถึงไปหาอะไรกินกันมั้ย” ผมตอบรับเธออย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะผมใจงาสยนะครับ แต่เป็นเพราะผมหิว
   “งั้นไปกินเอ็มเคนะ” ผมแทบจะทรุดเพราะว่าเงินในกระเป๋าตังผมเหลือแค่ไม่กี่ร้อย
   “เราว่าไปกินอย่างอื่นดีกว่ามั้ย พอดีตังเราจะหมดแล้ว” และผมคิดว่าเธอคงไม่ยอมแต่ผิดคาดเธอพูดง่ายกว่าที่คิดแถมเสนอร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆมอด้วย
   “กินเยอะๆนะจะได้โตไวๆ” เธอบอกผม
   “ไรอ่ะเราโตแล้วนะบิว ไม่ใช่เด็กๆแล้ว” ผมแย้งเธอกลับ และเธอก็หัวเราะให้กับผม
   “แน่ใจนี้ถ้าบิวใส่รองเท้าตัวเก่งบิวมานี้สูงกว่าแม้วเลยนะ” ผมทำแก้มยู่ใส่บิว
   “เราว่าเราสูงนะ” ผมออกจะภูมิใจส่วนสูง 173 ขอผมจะตาย” ถึงแม้เด็กปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่มันจะสูงชะลูดก็เถอะ ยิ่งรุ่นเดียวกันในคณะผมนี้แม่งปาไปจะสองเมตรกันละครับ พ่อแม่มันเอาอะไรให้กินวะ
   “ขนาดซุงยังสูงชะลูดแต่พอมองดูแม้วแล้วอย่างกับคนกับต้นตาล” เธอหัวเราะ เมื่อเปรียบเทียบผมกับซุง ไอ้เชี้ยซุงมันเป็นเดือนคณะวิศวะครับ แถมพ่วงด้วยตำแหน่งเดือนมหาลัยปีที่แล้ว สูงหุ่นดี ตัดภาพมาที่ผมสิครับ พูดแล้วผมก็อิจฉามันนะ แต่ผมได้ยินข่าวแว่วๆว่ามันพึ่งจะเลิกกับแฟนไปหมาดๆ แต่ผมไม่รู้ว่าแฟนมันเป็นใคร
   “เหม่ออะไรคะ แม้ว” เธอดึงสติผมกลับมา
   “ป่าวว”
   “เหม่อถึงซุงอยู่หรอ”
   “บ้าเหรอคุยกับมันยังไม่เคยอีกอย่างมันไม่รู้จักเราด้วย”
   “จ้างั้นเดี๋ยวเราแยกกันเลยได้ป่าว พอดีบิวจะรีบไปหาเพื่อน” ผมไม่ได้ว่าอะไรเธอ หลังจากเราแยกกันผมก็กำลังจะเดินกลับหอพักของผมที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี้สักเท่าไหร่ ผมเดินตามหนทางอันยาวไกลของผม มองเพื่อนร่วมทางที่เดินผ่านไปผ่านมา ผมก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่ากระเป๋าดินสอผมหาย และผมก็ขาดของพวกนี้ไม่ได้ เหมือนเป็นพวกบ้าเครื่องเขียน ผมเลยโทรหาเพื่อนสนิทสมัยมัธยมที่สอบเข้ามหาลัยเดียวกันกับผมได้
   “ฮะโหลว่าน มึงอยู่ไหนวะ” ทันทีที่ว่านรับสาย ผมก็ถามทันที
   “กำลังจะกลับหอวะ มีอะไร”
   “พาไปซื้อเครื่องเขียนหน่อยกระเป๋าดินสอกูหาย” ผมบอกเหตุผลไป แล้วมันบอกว่ากำลังมาหาผมให้ผมไปรอที่หอของผม
ไม่นานมันก็มาถึง เรียกได้ว่าผมเดินเข้าหอปุ๊บรถมันมาถึงปั๊บเลยละครับ BMW สีขาวคันงานเคลื่อนมาจอดตรงหน้าผม
   “เร็วๆกูจะไปม่อสาวต่อ” เออกูขอโทษที่ขัดจังหวะมึงม่อสาว
   “เออ ไปห้างแถวนี้นะ” ผมบอกมัน
   “ทำไมมึงไม่ไปร้านเครื่องเขียนแถวมอวะ” ไอ้นี้ก็ถามโง่ๆ ผมก็บอกให้มันดูเวลา
   “เออวะจะสามทุ่มแล้วร้านแม่งปิดหมดละ แล้วมึงคิดว่าไปห้างจะทันหรอวะ” ต้องลุ้นเอาวะ
   “ยังพอเสี่ยง รถแม่งก็ติดชิบหาย” ผมเริ่มบ่นเมื่อกำลังจะถึงห้างแล้วแท้ๆแต่รถยังติดไม่เลิก
   “รีบมามึงก็วิ่งเข้าห้างไป เดี๋ยวกูหาที่จอดรอ” แล้วผมก็บ้าจี้ตามมันครบ
   “ได้ที่จอดแล้วโทรหากู” ผมพูดจบก็เปิดประตูวิ่งลงจากรถผ่านถนนที่มีการจราจรคับคลั่นเข้าสู้ตัวห้าง
   “B2S B2S” ผมพูดไปพร้อมๆกับวิ่งไปที่ร้านดังกล่าว แต่ก่อนที่ผมจะวิ่งถึงร้านสายตาผมก็เห็นบางอย่างแปลกๆ
บิวแล้วก็ผู้ชายอีกคนที่ผมรู้จักมันแต่มันคงไม่รู้จักผม ไอ้ท่อนซุง ผมเดินตามเงียบๆจนไปถึงโรงรถ ในจังหวะนี้เครื่องเขียนผมไม่สนใจแล้ว แต่ผมสนใจผู้หญิงของผมมากกว่า เอ๊ะ หรือผมสนใจท่อนซุงวะ
   “นี้เหรอเพื่อนของบิว” ผมรู้สึกจะงิดๆใจแปลกเหมือนทั้งคู่ไม่ใช่แค่เพื่อน ดูดิครับมันโอบไหล่บิวด้วย ไอ้เหี้ยเอ๊ย ขอตั๊นหน้าสักทีได้ป้ะ ขาสั้นๆของผมก็เดินตามไปเรื่อยๆจนถึงรถของมัน แม่งขับแลมโบกินีด้วยวะ จู่ๆไอ้ซุงก็ผลักบิวจนชิดรถและจูบลงที่กลีบปากของบิว และนั้นทำเอาผมรีบวิ่งเข้าไปทันที
   “มึงทำเหี้ยอะไรแฟนกูวะ!!” ผมกระชากมันออกจากบิวและประเคนหมัดลุ่นๆใส่หน้าหล่อๆของมัน และด้วยขนาดตัวของผมที่เล็กกว่า มันก็ใช้เรื่องนี้ในการถีบผมสะกระเด็นเป็นลูกหมาและยังไม่จบครับ ไอ้เชี้ยซุงมันเดินมาหาผมช้าๆและต่อยที่หน้าผมจนหันไปตามแรงต่อ
   “พอแล้วซุง เดี๋ยวมันก็ตายหรอก” เธอพูดโดยไม่ใยดีผม เจ็บแปลกๆนะครับ
   “เป็นแฟนมันหรอ แล้วกูละหรือว่าเลิกกับกุไปเอามันห๊ะ!!” ไอ้ซุงมันหันไปถามบิว
   “เหอะ จนๆแบบนี้บิวก็แค่คุยเล่นๆนะแหละไม่ได้จริงจังอยู่แล้ว” คำพูดของบิวมันบาดลึกเข้าไปในหัวใจของผม เจ็บจนน้ำตาไหล เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ ผมมองสองคนนั้นขึ้นรถไปแล้วก็ขอทำอะไรหน่อยแล้วกัน ระหว่างที่รถมันกำลังจะเคลื่อนออกจากที่จอดผมรีบวิ่งไปที่ถังขยะใกล้ๆก่อนจะมองหาของดีๆในนั้น และก็เจอครับถ้วยมันบดของแบรนไก่ทอดชื่อดังที่มันเหลือมากกว่าขึ้น แหมเอาสะผมเสียดายขอชิมก่อนได้ป่าวครับ และผมไม่ลังเลปาใส่กระจกรถมันเต็มๆครับ
   “แม่นจังวะกู” ผมเห็นท่าทางคนขับเหมือนจะลงมาเอาเรื่องผมก็รีบหนีก่อนสิครับ ไอ้เรื่องเกรียนๆแบบนี้ขอให้บอกผม ตอนอยู่ต่างจังหวัดผมนี้แหละหัวโจกงานวัดเลยขอบอก และพอผมเดินเข้าห้างไปปุ๊บ
   “ประกาศ ประกาศ เรียนท่านลูกค้าทุกท่าน ตอนนี้ห้างของเราใกล้ถึงเวลาปิดแล้ว ขอความกรุณาออกจากห้างด้วยค่ะ” เห้ย!! ผมเสียเวลากับไอ้ซุงนานขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทำเอาปากกาผมไม่มีใช้เพราะมันคนเดียว จำไว้
Rrrrrrrrr
   “กูจอดตรงแถวๆทางออกนะรีบมา” ไอ้ว่านบอกผม
   “เดี๋ยวกูเดินไปหาแป๊บ” ผมจ้ำอ้าวไปหาไอ้ว่านพร้อมปาดน้ำตาเบาๆ
เมื่อผมขึ้นรถ ไอ้ว่านก็มองผมด้วยอาการตกใจอย่างหนักแล้วมันก็หัวเราะขึ้นมา ผมเลยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้มันฟัง แล้วมันก็หัวเราะผมอีก
   “อะไรวะ มึงจะเข้าข้างใครกันแน่ไอ้เชี้ยว่าน” ผมเริ่มโวยวายจนเหมือนคนบ้า โถ่บิวจ๋า กว่าจะคุยกันมานาน เอ่อจริงๆแค่เดือนเดียวเอง แล้วแม่งเสือกตรงกับข่าวที่บอกว่าไอ้เชี้ยซุงเลิกกับแฟนพอดี ใครจะรู้ละว่ามันเคยคบกัน
   “แล้วมึงจะเอาไงต่อ ดักตีมันมั้ย” มันเสนอ น่าสนใจนะครับแต่...
   “มึงน่าจะได้เห็นตอนมันถีบอกกูจนกระเด็นออกมานะ” ครับ เรื่องดักตีมันอย่าดีกว่าครับ แก๊งค์มันนี้แบบมีแต่ตัวควายๆกันทั้งนั้น แต่ยอมรับว่าแก๊งค์มันหล่อทุนคนเลยแม่ง
   “เออวะ ต่อให้มึงเรียกเด็กวัดมึงลูกน้องมึงมาก็ไม่น่าจะช่วยได้” จริงครับอย่างที่ผมบอกผมเป็นหัวโจกงานวัด เพราะฉะนั้นเด็กวัดก็ลูกน้องผม หรือว่าผมจะใช้วิธีเด็กๆเดินไปหาเรื่องมันตรงๆดีมั้ยวะ
   “งั้นมึงก็อ่อยมันแม่ง”
   “ห๊ะ มึงตั้งสติไอ้ว่าน หน้าอย่างกูจะอ่อยผู้ชาย”
   “เออหน้าอย่างมึงนี้แหละ ไหนๆบิวก็เทมึง แถมไอ้เชี้ยซุงอะไรนั้นก็แย่งสาวที่มึงพึ่งคุยได้แค่เดือนเดียวไปแล้วมึงก็ต้องทำให้มันเจ็บเว้ย”  เออ ไอ้ว่านแม่งคิดแผนเด็กกว่าผมอีก เราเจ็บมันเจ็บ
   “หน้าอย่างมึงก็ไม่ต่างอะไรกับกูอ่ะ เก็บแผนมึงไว้ตอนสุดท้ายเลยเถอะเดี๋ยวกูแก้แค้นเองเว้ย ไม่ต้องห่วง” ผมยิ้มให้กับแผนในใจของผม
   “มึงจะทำไงวะ” ไอ้ว่านถาม ผมมองหน้ามันด้วยความมั่นใจ
   “กุจะจีบบิว แล้วแย่งบิวมา ทำให้ไอ้เชี้ยซุงต้องเสียน้ำตาเหมือนกู
   “ถุย ไว้กูจะรอดู”
ว่านขับรถมาส่งผมถึงหอและผมก็รีบขึ้นไปจัดการหน้าตาของผมทันที ผมหากล่องปฐมพยาบาลเล็กๆออกมาทำแผลหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ และนี้ก็คือสาเหตุที่ทำให้ผมนั่งทำแผลตัวเองอยู่ในห้องแบบนี้ไงครับ ผมบอกไว้เลยถ้าไอ้แม้วแย่งบิวมาจากไอ้เชี้ยซุงได้นะผมจะปิดห้องผมฉลองเลย (ไม่อยากปิดหมู่บ้านหรืออะไรเพราะผมไม่มีตัง)


 

-------------------------------------

นี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งในนี้นะ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน้าาา


ออฟไลน์ flowchat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เมามาย
«ตอบ #2 เมื่อ02-09-2017 17:38:45 »

สู้ๆนะคะ จะรอตอนต่อไปคะ o13

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย
«ตอบ #3 เมื่อ04-09-2017 20:25:43 »

ตอนที่2
กระเป๋าดินสอ
[/b]

ผมบอกแล้วครับผมเป็นคนบ้าเครื่องเขียนตอนนี้ผมมาอยู่หน้าร้านเครื่องเขียนที่น่าจะเปิดไวที่สุดในมหา’ลัยแล้วผมก็รีบซื้อของที่ผมต้องการให้ไวที่สุดแล้วมาใช้เวลานานๆกับการเลือกกระเป๋าดินสอ มีหมีพู มิกกี้ มินนี่ มินเนี่ยน หลายๆแหล่เต็มไปหมดทำเอาผมไม่สามารถตัดสินใจเลือกได้ และผมก็ตัดสินใจหยิบมินเนี่ยนออกมาจากราวแขวนกระเป๋าดินสอทั้งหลาย และขายาวๆ(ที่ผมคิดนะ) ก้าวไปที่เคาน์เตอร์พร้อมวางอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่บนนั้นพร้อมคิดเงิน
   กริ๊ง
สายตาผมหันไปเห็นไอ้คนเมื่อวานครับ ไอ้คนที่มีเรื่องกับผมเมื่อวาน ผมแทบจะหลบมันไม่ทันยังดีที่มันไม่ทันสังเกตเห็นผม และมันก็เดินไปหยิบปากกามาแท่งนึ่งกับสมุดหนึ่งเล่มแล้วต่อคิวข้างหลังผม พี่ครับเร็วๆหน่อย และผมก็หันไปมองมันอีกครั้งเมื่อโทรศัพท์ของไอ้ยักษ์ด้านหลังดัง โชคดีครับที่มันไม่ได้สังเกตหน้าผมอีกครั้ง
   “ว่าไง” มันตอบปลายสาย
   “กูก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใครวะ ต่อยกูไม่เท่าไหร่ มาบอกว่าบิวเป็นแฟนกูยังพอว่าแต่เอามันบดมาปาใส่รถกู อย่าให้กูตามเจอมันตายแน่ ยังไงกูฝากมึงเข้าไปเช็คกล้องวงจรปิดแถวนั้นหน่อยกูเห็นว่ามีอยู่” มันเก็บโทรศัพท์ลงหลังจากมันคุยกับปลายสายมันเสร็จ ชิบหายผมแล้วไงละ ไม่ๆนะถ้ามันแจ้งความจะทำยังไงผมเอาแต่คิดหาข้อแก้ตัวจนไม่ได้ยินเสียงพนักงานเรียกผม
   “ครับๆ” ผมรีบดึงสติตัวเองคืนมา
   “ทั้งหมดสามร้อยสิบแปดค่ะ” ผมยื่นแบงค์ม่วงไปให้และรอรับตังทอน เร็วๆดิพี่
   “เดี๋ยวมึง” มันคุยโทรศัพท์อยู่แน่ๆ ผมรีบเดินออกจากร้าน
   “กูเรียกไม่ได้ยินเหรอ” กูได้ยินนะแต่มึงไม่ได้คุยกับกูแน่ๆ ถึงมึงจะคุยกูก็ไม่คุยกับมึง
หมับ
บอกผมทีว่าไม่ใช่มันที่จับไหล่ผมอยู่ บอกผมว่ามันคุยโทรศัพท์กับเพื่อนมันอยู่
   “ไม่มีหูไงวะคนอื่นเรียกไม่หัน” และมันก็ดึงผมให้หันไป ผมรีบก้มหน้าลงก่อนมันจะเห็นหน้าผม เป็นไงละผมเก่งมั้ยหาทางแก้ได้ทันด้วย ผมยิ้มให้กับความฉลาดของตัวเอง
   “คนเหรอเนี้ยกูนึกว่ายักษ์” และสิ่งที่ผมเกลียดตัวผมก็คือความปากไวพอดีแม่เป็นแม่ค้าอะนะเลยได้สกิลแบบนี้มาเต็มๆ แต่แม่ผมไม่ได้พูดมากและปากหมาแบบผมนะ
   “มึงว่าไงนะ เงยหน้ามาดิ” ผมไม่เงยหน้าตามคำสั่งมันหรอก
   “มึงเป็นใครมาสั่งกู” ผมเถียงกลับ โอ๊ยมึงปล่อยกูไปเถอะเดี๋ยวกูไปล้างรถให้มึงเลยก็ได้
   “กูว่ามึงหน้าคุ้นๆ” มันพูดและพยายามทำให้ผมเงยหน้าโดยการจับที่คางของผมขึ้นอย่าหวังว่าผมจะยอม
   “โอ๊ย! อะไรนักหนาวะ ปล่อยกูจะไปเรียน” ผมปลักมันออกและรีบวิ่งออกจากร้านไปและมันก็วิ่งตามผมมาจนทัน เห้ยมึงจ่ายเงินค่าปากกากับสมุดแล้วเหรอวะเดี๋ยวกูแจ้งความนะเว้ย
   “นั้นไงกูว่าแล้ว มึงจะเอายังไงว่ามา” ไอ้ยักษ์เชี้ยนี้ดึงผมให้หันหน้าเข้าหามัน
   “ว่าแล้วอะไรของมึง”
   “หึ จะเอาไง ปามันบดใส่รถกู ต่อยกูแถมแย่งแฟนกู” ผมหาอะไรมาเถียงมันไม่ได้
   “...”
   “เงียบทำไมวะ เอาบิวไปดิ คิดว่าแย่งได้ก็เอาไปดิ” มึงเปิดทางให้กูแล้วนะไอ้ยักษ์
   “กู...” ผมน้ำตาไหลออกมา ผมคิดว่าบิวจริงจังกับผม ผมยอมบิวทุกๆอย่างถึงแม้ว่าผมจะจนแต่ผมก็รักเดียวนะครับ
   “เห้ยมึงเป็นอะไรวะ” มันคงตกใจที่ผมร้องไห้ออกมา แต่ผมก็แบบนี้แหละครับร้องไห้แป๊บเดียวก็เปลี่ยนอารมณ์ได้ไว เหมือนกับตอนนี้
   “มึงเบาๆได้มั้ยวะกูไม่มีสมาธิขับรถ” มันบ่น หลังจากที่มันบอกให้ผมขึ้นรถแล้วจะพาไปส่งที่คณะ
   “คนอย่างชั้นถูกโยนทิ้งงง ขว้างงง” ผมยังคงแหกปากร้องเพลงที่แสนจะถูกคีย์ของผมต่อไปโดนไม่สนใจว่าคนที่ขับรถจะทำหน้าแบบไหน ก็คนมันเฮิร์ตจะให้ทำไงวะ
   “ถ้ามึงไม่เงียบกูจะคิดว่าเสียหายที่มึงปามันบดใส่รถกู” พอได้ยินเรื่องอะไรที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเงินผมนี้เงียบลงทันที
   “คนนั้นไม่ใช่กู แค่หน้าคล้ายกูมีฝาแฝนนะเว้ย” ผมพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
   “แล้วทำไมมึงมีรอยโดนต่อยที่เดียวกับแฝดมึงวะ” ชิบหายผมนี้โง่จังวะ
   “กูหกล้ม”
   “แถมมึงยังชอบคนเดียวกับแฝดมึงด้วย”
   “...” ผมโง่จริงๆวะทำไมผมสอบติดหมอได้ไงวะ ทุกคนคงคิดเหมือนผมสินะ
   “มึงรักบิวจริงๆเหรอวะ บิวเป็นแฟนเก่ากูนอกใจไปคุยกับมึงเนี้ยนะ” มันเหมือนจะยอมรับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน สงสัยจะรับไม่ได้ที่แฟนนอกใจ
   “จะหาผัวใหม่ทั้งทีทำไมไม่หาที่หล่อรวยกว่ากูวะ ไปเอาทำไมคนบ้านๆจนๆ” ความสงสัยของผมได้คลายลงแล้วครับที่ไหนได้ก็รับไม่ได้ที่แฟนมันนอกใจไปหาคนที่ด้อยกว่า นี้ผมด่าตัวเองเหรอ
   “จนแล้วไงวะ หล่อน้อยกว่าแล้วไงวะกูก็คนเหมือนมึง” ผมเริ่มเถียงมันกลับบ้าง
   “เหอะเด็กน้อยวะมึง แค่นี้ทำเป็นโวยวาย” มันด่าผม
   “จอดกูจะลงตรงนี้!!” พอแล้วผมไม่อยากจะถียงกับมันอีกแล้ว
   “กลางถนนเนี้ยนะ” มันถาม
   “เมื่อวานกูก็ลงจากรถแบบนี้แหละ” ผมหันไปมองหน้ามันที่กลั้นขำเอาไว้ และก็ด่ามันว่าขำหาพระบิดามึงหรอ
   “เด็กน้อยจริงๆวะ อ่ะอยากลงก็ลง” เออกูลงก็ได้ถ้ามึงไม่ง้อกู ผมเดินลงจากรถยังดีที่มันจอดให้หน้ามหา’ลัย ผมเดินเข้ามหา’ลัยแต่แปลกๆนะ ทำไมทุกคนต้องมองผมด้วย ผมไม่สนใจและเดินต่อไปเรื่อยๆชมนกชมไม้เพราะเวลาเหลือเฟือให้ได้มีเวลาเดินรอบมหา’ลัยสักสองรอบ (ผมก็เวอร์ไป) เอาจริงๆไม่นานผมก็เดินมาหยุดที่หน้าคณะของผม เอาวะผมเตรียมพร้อมก่อนเข้าคณะอีกครั้ง กระเป๋าพร้อม โทรศัพท์พร้อม กระเป๋าตังพร้อม แต่...
   “เหี้ยยยย” ผมลืมถุงเครื่องเขียนไว้ที่รถมันทำไงดี ถ้าจะให้ไปยืมขอเพื่อนผมคงต้องยืมของไอ้ว่าน แต่แม่งรถคุ้นๆวะเหมือนผมพึ่งลงมาตอนอยู่หน้ามหา’ลัย และก็ใช่ครับไอ้ยักษ์
   “จะงอนก็เสือกลืมของตัวเอง กูไม่ง้อนะ” เรื่องของมึงสิครับ
   “เอามา” ผมเอื้อมมือไปหยิบแต่มันยกสูงขึ้น เออไอ้ยักษ์
   “ขอบคุณเป็นมั้ย เรียนแพทย์เหรอเนี้ยสงสารคนไข้จังมีแพทย์โง่ๆคนนึ่งแหนะ” ถ้ามึงจะเพื่อด่ากูนะกูยอมเดินไปซื้อใหม่อีกชุดนึ่งมากกว่าเอาจากมึง ถ้าไม่ติดว่าผมไม่มีตังนะเพราะฉะนั้น
   “ขอบคุณ” ผมพูดห้วนๆและคว้าถุงเครื่องเขียนผมมา
   “ซุงไปกันเถอะ” ผมได้ยินเสียงที่ผมคุ้นเคยดังออกมาจากแลมโบกินีสีเหลืองของมัน
   “บิว” ผมพูดออกมาเบาๆ
   “กูบอกมึงแล้วถ้าแย่งได้ก็เอาไป” มันพูดก่อนที่จะทิ้งให้ผมเหวอ มันไปรับมาตอนไหนวะ
   “ท่อนซุง” ผมเรียกชื่อมัน
   “หืม” มันหันมา
   “รอดูกูได้เลย เตรียมตัวร้องไห้ไว้เลย” ผมพูดแต่มันหัวเราะใส่ผม
   “หัวเราะไปเถอะไอ้ยักษ์ เดี๋ยวมึงจะโดนสยบเพราะกู” มันเดินเข้ามาหาผม ใกล้ จนแทบจะตัวติดกัน ผมก้าวถอยหลับไปทีละนิดๆจนมันหยุด
   “คิดจะสยบกูเหรอ แค่กูเดินหายังถอยหลับไปแบบนี้สิบชาติมึงก็ฝันไปเถอะ แต่ถ้าจะดักตีกูละก็ มาเถอะกูพร้อมเสมอ” มันพูดแล้วผลักหัวผมไปด้านหลัง อารมณ์ผมตอนนี้เหมือนโดนเหยียดหยาม และอะไรไม่รู้ดลใจให้ผมคว้ากระเป๋ามินเนี่ยนปาใส่หัวมันที่กำลังเดินไปที่รถ บอกแล้วครับผมแม่นตุ๊กตางานวัดผมเอามาหมดแล้ว
มันหันหลังมาชูนิ้วกลางให้กับผม ผมก็ชูกลับไปให้มัน ถือว่ากระเป๋านั้นให้มันละกันครับ เสียเงินแลกกับการที่ผมได้สะใจก็ถือว่าคุ้มนะ แต่ตอนนี้ไอ้ว่านอยู่ไหน ไอ้ว่านกูยืมตังมึงซื้อกระเป๋าดินสอหน่อยน้า
   “ควาย” ไอ้ว่านด่าผมเมื่อเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้ไอ้ว่านฟัง
   “ด่ากูทำไมวะ” ผมถามหน้าตาใสซื่อ
   “ตังก็จะหมดยังจะปาของที่พึ่งซื้อทิ้ง มึงนี้ควายจริงๆ” กูผิดไปแล้วกูขอโทษ
   “ยังไงมึงก็พาไปซื้อใหม่หน่อยนะ ตอนรี้เลย” ถึงไอ้ว่านจะบ่นผมแต่มันก็ยอมพาผมไปแต่โดยดี
   “ไอ้เชี้ยแม้วเอ๊ย โง่แล้วยังเสือกสอบติดหมอ” สอบติดหมอแล้วไงวะ หรือว่าคนอย่างแม้วไม่ควรสอบคณะหมอ เริ่มน้อยใจแล้วนะเว้ย
มือผมก็หยิบมินเนี่ยนแบบเดิมขาก็ก้าวมาฉับๆจ่ายเงิน แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจก็หลังจากที่พึ่งสังเกตตอนที่กำลังยัดปากกาทั้งหลายเข้ากระเป๋า ป้ายราคามันดันมีข้อความด้านในว่า You’r My Heart หวังว่ามันจะไม่เห็นนะ

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่2 04/09/2560
«ตอบ #4 เมื่อ08-09-2017 21:22:50 »

ตอนที่3
[/b]
กูม่ายมาว
[/b]

หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เจอไอ้ยักษ์ซุงอีกเลยไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลายๆวันที่ผ่านมาผมเอาแต่คิดเรื่องกระเป๋าดินสอ แต่คิดไปคิดมามันอาจจะทิ้งกระเป๋านั้นแล้วก็ได้ ในเวลานี้ผมยืนกลับหออย่างอืดอาดมาก เพราะวันนี้แม่งอัดเต็มบล็อกเหนื่อยจนแทบจะร้องขอเวลาว่างจากอาจารย์
   “เชี้ยแม้วแดกมั้ยคืนนี้” ไอ้ว่านที่เดินตามผมต้อยๆถาม
   “ตังกูหมดแล้ว” สำหรับคนอื่นข้ออ้างว่าตังหมดแล้วอาจจะเป็นข้ออ้างว่าไม่อยากไปแต่กับผมไม่ใช่ อยากไปชิบหายแต่ไม่มีตังจริงๆครับผม
   “กูจ่าย” ผมบอกมันว่าเกรงใจ
   “แต่กูรู้มึงไปอยู่ดีเพราะงั้น แต่งตัวหล่อๆเดี๋ยวไปรับสามทุ่ม แดกยาวๆพรุ่งนี้ไม่มีเรียน”
   “รู้ใจกูตลอด” ผมเดินไปกับมันตลอดทางจนเห็นรถแลมโบกินี่สีเหลืองผ่านคณะผมไป ผมรู้เลยว่าเจ้าของรถเป็นใคร แต่ทำไมต้องชะลอรถตอนผมมองด้วยวะหรือ่าผมคิดไปเอง
   “แหนะๆมีมองๆ” ว่างแซวผม แล้วมันก็ถามว่ารถใครวะ
   “มึงไม่รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใครแล้วยังจะมาแซวกูเนาะไอ้ห่า” ผมด่ามัน
   “เอ้าก็เห็นมึงมองตาละห้อยโหยหาขนาดนั้น” นี้มึงอ่านสายตากูได้ด้วยเหรอวะ มึงเทพเกินไปแล้ว แต่ผมก็ยอมรับนะว่ามองแต่ไอ้โหยหาอะไรนั้นไอ้ว่านก็เกินไปวะ
   “ตีนกูเถอะ” ผมด่า
   “งั้นกูไปแล้วนะ” ไอ้ว่างเดินออกไปที่รถของมันโดยไม่สนใจผมเลย เออกูมันคนโดนเท2017
ผมเข้าห้องผมด้วยความเหนื่อยล้า ถ้างั้นของีบสักพักแล้วกัน
   “ไอ้เหี้ยตื่น!!” เสียงไอ้ว่านมาตะโกนอยู่หน้าห้องทำเอาผมที่ฝันถึงสาวๆทั้งหลายสะดุ้งตื่นจนตกเตียงของผม
   “อู๊ยย ไอ้ว่าน!! โทรมาก็ได้มั้ยวะ” ผมตะโกนกลับไป
   “มึงดูโทรศัพท์มึงก่อนค่อยพูด” ผมเดินไปเปิดประตูให้มันและมันก็บ่นผมกลับมาเป็นการตอบแทน
   “โทษทีวะสงสัยนอนเพลิน” ผมยิ้มแห้งๆให้มัน แม่งโทรมาหลายสายมาก แต่ทำไมผมไม่รู้สึกว่าโทรศัพท์ผมสั่นเลยวะ
   “แต่งตัวไป กูลงไปรอข้างล่างนะ” ว่านบอกผมเสร็จมันก็เดินลงไปรอด้านล่างหอพักของผม เพราะผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับห้องของผมสักเท่าไหร่ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวหล่อๆเตรียมไปเที่ยวในฐานะคนโสด 
ตอนนี้ผมอยู่ในร้านเหล้าชื่อดังย่านมหา’ลัย ร้านเมาม๊ายม่ายเมา ผมมองซ้ายขวาก็มีแต่นักศึกษามหา’ลัยเดียวกับผม ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่สาวสวยๆทั้งนั้นถึงว่าแหละไอ้ว่างแม่งชอบมา
   “เด็ดมั้ย” ว่าถามผม
   “กูน่าจะมาร้านนี้บ่อยๆแล้ววะ” ผมพูดพร้อมลงนั่งข้างๆเพื่อนสนิทของผม
   “เห้ยพวกมึงไอ้เหี้ยนี้ชื่อแมว” ว่านแนะนำกับเพื่อนก๊กเหล้าของมัน แต่ว่าทำไมพวกมึงต้องทำท่างงกับชื่อกูด้วยวะ
   “แม้วเหรอ ชื่อแปลกวะ” ผมยิ้มเจื่อนๆให้มัน ชื่อกูออกจะเท่มึงไม่ได้ใช้ชื่อแบบกูแล้วอิจฉาอะโด่ว
   “แล้วมึงชื่ออะไร” ผมถาม
   “กูชื่อเบส วิศวะปีสอง” ชิบหายทำไมผมไม่พ้นกับพวกวิศวะเลยวะ
ผมไม่ได้ตอบอะไรมันไปเพียงแค่รอเวลากินเหล้าแล้วก็ดูสาวไปพลางๆ เวลาผ่านไปสักพักเมื่อเหล้าเริ่มเข้าปากผมมากขึ้น อาการขาแดนซ์ของผมก็ออกสิครับ เอ้าเฮามันผู้สาวขาเลาะ บ่แม่นผู้สาวขาเรียน
   “โจ๊ะๆ ยาวไปยาวไป” ผมแทบไม่รู้ตัวว่าผมทำอะไรไปบ้าง รู้แต่ว่ามันสนุกจนไม่อยากหยุดเลย
   “ไอ้เชี้ยว่านไปดูเพื่อนมึงดิ แม่งล่อตีนชิบหาย” ไม่รู้ว่าไอ้อีตัวไหนบอกว่าผมล่อตีน หน้าตาผมออกจะล่อสาวๆนะจ๊ะจะบอกให้
   “ไอ้เชี้ยแม้ว มึงพอเลยเมามากแล้วรู้มั้ย” ว่านบอกผม
   “ใครมาวกูม่ายมาว” ผมเถียงมันด้วยท่าทางคนที่เมาเละ
   “นอนพักไปมึง” มันบอกผม เออนอนก็ดีวะจะตื่นมาเต้นอย่างมีแรง แต่ว่าตอนนี้ผมปวดฉี่อ่ะ
   “กูปวดฉี่ เดี๋ยวกูมา” ผมไม่สนใจคำว่านห้ามว่าอย่างไปคนเดียว
   “กูไม่ได้เป็นง่อย กูปายโคนเดี๋ยวด้ายย” (ยอมภาษาวิบัติเพื่ออิแม้วเลยเอ้า) ผมบอกมันและเดินตรงๆในความคิดผมไปยังห้องน้ำ
   “ห้องน้ามอยู่หนายย” ผมตะโกนถาม ร้านอะไรวะห้องน้ำก็หายากเหมือนเขาวงกต ผมเดินมาหลายรอบแล้วนะเว้ย
   “มึงเมาเหรอ กุเห็นมึงเดินวนโต๊ะกูมาสามรอบแล้วนะ” ใครวะ กูม่ายมาวเว้ย
   “มึงเป็นใครวะ เอิ๊ก” ผมเรอใส่หน้ามันทีนึ่งโทษฐานที่ผมให้ผมสงสัยว่ามันเป็นใคร
   “มึงทำแบบนี้กับคนที่จะพามึงไปเข้าห้องน้ำเนี้ยนะ” ใครวะจะพาผมไปเข้าห้องน้ำ ผมลองมองหน้ามันดีๆอ๋ออ
   “ไอ้ยักษ์เชี้ย” ผมด่ามัน และมันก็ทำหน้างง
   “ยักษ์พ่อง” มันด่าผมกลับ
   “มึงมันสูงเกินคน หุ่นก็ดี หน้าตาก็ดี รวยก็รวยกูอิจฉา” ผมไม่รู้ทำท่ายังไงมันถึงยิ้มน่าขนลุกแบบนี้
   “มีคนน่าอิจฉากว่านี้อีกนะ” มันบอกผม แล้วผมต้องรู้มั้ยวะ
   “ใครวะ” โทษทีครับต่อมเสือกผมทำงานดีกว่าต่อยหยิ่ง
   “คนที่มาเป็นเมียกูไง” มันพูด แล้วทำไมผมต้องนึกถึงหน้าบิวให้เจ็บใจด้วยวะ
   “บิวอะนะ มึงได้บิวแล้วยังจะมาเยาะเย้ยกูอีกเหรอวะ มึงแม่งเลว” ผมเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้วนะครับ ตอนนี้ผมลืมอาการปวดฉี่ไปชั่วขณะ มีแต่อารมณ์อยากต่อยหน้ามันครับ
   “หึๆ ไปเข้าห้องน้ำไป” ผมไม่รอเวลารีบซัดหมัดเข้าที่หน้าของมันแต่โดนมันจับแขนแล้วดึงเข้าไปหาตัว
   “อย่าเล่นแบบนี้” มันมองผมด้วยสายตาจริงจัง แต่ผมก็สวนมันไปโดนอีกหมัดเต็มๆหน้าของมัน ผมอาจจะไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายมัน แต่สำหรับผมแม่งน่าจะโดนสักดอก
   “ไอ้เหี้ย!! มึงทำไรพี่กูวะ” ผมไม่รู้ว่ามันมากี่คนแต่ที่รู้ๆก็คือ รุ่นน้องคณะมันแม่งสิบกว่าคนเลยวะ
   “ไม่ต้องกูจัดการเอง” ซุงพูดแล้วหันมามองหน้าผม
   “...”
   “แค้นกูเหรอที่กูคบกับบิวอ่ะ อยากต่อยกูมากเลยเหรอ เอาสิ ต่อยเลย”  มันท้าผมมีเหรอผมจะสู้ ดูรุ่นน้องมันดิเกินวันดีคืนดีมันยกพวกมาดักตีผมหน้าคณะทำไง
   “ปวดฉี่!!” ผมบอกมันไปแค่นั้นแล้วเดินไปฉี่อย่างโซซัดโซเซ
   “เดินยังจะไม่ไหวเสือกมีแรงต่อยคนอื่น” ไอ้ยักษ์เดินมาพยุงผม
   “เสือก”
   “ขอบคุณกูด้วยที่ห้ามน้องกูไม่ให้รุมตีนมึง” ผมมองหน้ามันที่มีเลือดไหลที่ริมฝีปาก ผมเอื้อมือไปเช็ดริมฝีปากของมัน
   “ขอโทษนะ” ผมเช็ดเลือดนั้นออกก่อนที่จะผลักไอ้ยักษ์แล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ผมล้างหน้าล้างตามองหน้าตัวเองในกระจก
   “หน้าอย่างนี้เหรอวะจะแย่งบิวมาจากไอ้เชี้ยยักษ์นั้นได้ ไอ้แม้วมึงตั้งสติๆ” ผมเรียกสติตัวเองคืนมา ผมก้าวขายาวๆ(ในความคิดผม)  ออกจากห้องน้ำก็เจอไอ้ยักษ์ยืนรอผมอยู่
   “มึงชื่อแม้วใช่มั้ย ปี2คณะแพทย์ เด็กต่างจังหวัด พ่อเป็นกำนัน แม่ค้าขาย” ผมอึ้งอยู่สักพัก
   “มึงรู้ได้ไง” ชื่อกับคณะของผมไม่อึ้งเท่าไหร่ แต่ที่รู้ว่าพ่อแม่ผมทำงานอะไรนี้สิที่น่ากลัว
   “สืบเอาก็รู้ เพราะฉะนั้นอย่ากวนตีนกู คนรอบตัวกูไม่ได้ใจดีเหมือนกูนะ” ผมก็ลืมไปว่าพ่อมันรวยอยากทำอะไรก็ได้ เผลอๆมันเอาปืนยิงผมก็คงหนีความผิดได้ด้วยมั้ง
   “กู...” มันมองหน้าผมเหมือนอยากรู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อ
   “....”
   “กูคิดว่ามึงไม่ได้จริงจังกับบิววะ” ผมพูดอะไรออกไปครับ เกิดมันต่อยหน้าผมทำไง
   “ก็จริงตอนนี้กู สนใจ คนอื่นมากกว่า” มันตอบผม โล่งอกไปนึกว่าจะโดนต่อยสะแล้ว
   “ใครวะ”
   “ชั่งแม่งเหอะ” มันเดินหนีผมไปที่โต๊ะของมัน ในตอนนี้ผมค่อยข้างที่จะควบคุมตัวเองได้แล้วค่อยๆเดินตามมันช้าๆ ไม่ให้มันรู้ตัว
   “จะไปนั่งกินกับกูเลยมั้ยเดินตามขนานนี้” มันพูด
   “เลี้ยงกูก็ไป” บอกแล้วคนอย่างผมบ้าจี้ครับ
   “จำเป็นมั้ย”  มันหันมาหาผมที่เกือบเดินชนมันแล้ว ไอ้นี้หยุดทำไมไม่บอก
   “งั้นกูกลับแล้วนะ” ผมพูด จู่ๆมันก็จับมือผม มือสากๆของมันก็อบอุ่นดีนะ เดี๋ยว!! ผมคิดอะไรอยู่เนี้ย
   “นั่งกินเป็นเพื่อนหน่อย ถือว่าป๋าเลี้ยง” ของฟรีมีเหรอผมจะไม่ไป
   “หลงกุก็บอกเห็นว่ากูหล่อละสิ” ผมแซวมันบ้าง
   “ป่าวสงสารหมา กลับไปกินข้าววัดไม่ทันแน่ๆ” หือออ ข้าววัดก็อร่อยกว่าข้าวของมึงละกัน มึงไม่ลองกินข้าววัดกับลูกน้องกูมึงไม่เข้าใจ!!
   “พ่องเถอะไอ้เชี้ยซุง” ผมด่ามันแล้วนั่งลงข้างๆมัน เพราะผมมองไปแล้วในโต๊ะนี้มีมันคนเดียวนี้เหละที่น่าเข้าใกล้ด้วยที่สุด
   “กินอะไรก็สั่ง” มันบอกผม
   “เอาเหมือนมึง” เรื่องพวกนี้ผมไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่มีแต่กินอย่างเดียว และไม่นานน้ำอำพันก็กระดกเข้าปากผมอีกครั้ง แต่ทำไมผมกินไปแค่ไม่กี่แก้วก็รู้สึกคอพับแล้ววะ
   “มืงง กุม่ายหวายล้าว” ผมล้มลงซบไหล่มัน ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก็คือ มันเอามือมาจับแก้มของผมก่อนจะพูดว่า
   “มึงเล่นกับใครไม่เล่น อย่าเสือกมาเล่นกับกู!!

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: เมามาย ตอนที่3 08/09/2560
«ตอบ #5 เมื่อ08-09-2017 21:37:16 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่4 12/09/2560
«ตอบ #6 เมื่อ12-09-2017 17:10:45 »

ตอนที่4
กูยอมมึงแล้ว

   “อื้ออ อ๊ะ เจ็บ”
“อดทนหน่อยนะ จะสุดแล้ว อ๊า”
“โอ๊ยยย มันเจ็บ”
“ครับผม”
อย่าตกใจครับไม่ใช่เสียงของผม แต่แม่งเสือกเป็นเสียงจากโทรศัพท์ของคนที่นอนข้างๆผม
   “เบาๆดิ จะนอน” ผมบอกมัน
   “เสือกกูจะดู” สงสัยใช่มั้ยครับว่าทำไมผมมานอนห้องมันได้ ตัดภาพไปพาร์ทของมันครับ

พาร์ทของท่อนซุง

   “อยากนอน” ปกติผมไม่ชอบใครที่มาโดนตัวผมแบบที่ผมไม่ต้องการ ผมไม่ชอบคนที่มาโหวกเหวกโวยวายใส่ผม ผมไม่ชอบคนที่จู่ๆเดินมาต่อยมาหาเรื่องผมทั้งๆที่ผมไม่ทันได้รู้เรื่องเลย ไอ้คนตรงหน้าผมนี้แหละคือคนที่ผมไม่ชอบมันมากๆ แต่ผมเสือกไปสืบข้อมูลมันมาเยอะพอสมควรครับ
   “ก็ไปหาเพื่อนให้เพื่อนมึงพากับ” มันคงเป็นคนแรกๆที่ผมไม่ประหยัดคำพูดด้วยเลย
   “ไม่อาว จะไปกับมึง” ดูท่าแล้วคอแม่งน่าจะอ่อนมากครับ แล้วเวลาเมาเนี้ยท่าแม่งได้มากครับ ตัวนี้ขาวจั๊วะเลยใบหน้ารูปไข่หวานๆ ตาโตๆ ก็ยอมรับครับว่ามันหล่อแต่ออกไปทางน่ารักมากกว่า
   “จะไปห้องกู?” ผมถาม
   “ใช่จะไปนอนกับมึง ไอ้ว่านบอกกูว่าจะทำให้พวกมึงเจ็บต้องจีบมึง แล้วบิวก็จะเสียใจ” หืม ที่มายุ่งกับผมนี้จะจีบผมเหรอ
   “แต่ว่ากูชอบผู้หญิงเพราะฉะนั้นกูจะแย่งบิวมาจากมึง” มันพูดแล้เอานิ้วจิ้มแก้มของผม
   “อย่าเล่นหน้ากูกูไม่ชอบ” ผมพูดเสียงเข้มแต่เหมือนไอ้แม้วมันไม่ฟังเลย
   “แหะๆ ไม่เอาไม่ร้องน้าเด็กน้อย” ตกลงผมหรือมันทีเด็กน้อยกันแน่ จากที่มันจิ้มแก้มผมตอนนี้มันหยิกแล้วครับ
   “โอ๊ย ไอ้เหี้ย!! กูเจ็บ” ผมปัดมือมันออก หน้ามันดูตกใจมากจนแทบจะร้องไห้
   “ขอโทษ” มันพูดแล้วขยับมาเอาหัวซบไหล่ของผมแล้วส่ายไปมา ผมมองภาพที่มันทำแล้วผมก็ยิ้มออกมา มันน่ารัก
   “เออ กุให้มึงเล่นก็ได้” พอผมพูดเสร็จมันก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความดีใจแล้วก็ระเลงหน้าผมเลยครับ มึงจะทำอะไรกูก็เกรงใจรุ่นน้องกูบ้าง
   “ท่อนซุง” พอมันเรียกผมแบบนี้แล้วผมก็ใจเต้นไม่เป็นจังวะ เห็นมันแล้วอยากจะจับมากอดให้ชื่นใจ แต่ผมคงทำไม่ได้เพราะว่ามันคงไม่ยอมผมแน่ๆ ผมถือคติว่าถ้าไยอมผมก็ไม่ทำครับ
   “ว่าไงครับ” ถ้ามันดีมาผมก็ดีกลับ สภาพมาก็สุภาพกลับ หยาบมาหยาบกลับแฟร์ๆ
   “กูไปนอนกับมึงงน้า” มันพูดแล้วเอาแขนโอบคอผมไว้
   “อืมจะไปก็ไป” ผมบอกแบบนั้นก็จริงแต่ผมก็อยากให้มันไปด้วยอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่แค่ไปนอนนะผมหวังอย่างอื่นมากกว่า
จนผมแบกมันมาถึงห้องนอนของผม ผมวางมันบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมมันด้วยความที่หวังว่ามันต้องเสร็จผมแน่นอน
   “แม้วครับ” ผมเรียกชื่อมันเบาๆ
   “ว่าไงไอ้ยักษ์” มันพูดทั้งที่หลับตาอยู่
   “ซุงขอได้มั้ย” ผมถามมันนี้แหละครับลูกอ้อนของผมแต่ไม่ใช่ว่าจะใช้กับทุกคนนะ   
   “ขออารายอ่า” มันยังไม่รู้ตัวว่าจะโดนเสือกินอยู่แล้ว ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อมันทีละเม็ดๆ ร่างกายของมันค่อยข้างดีครับถึงแม้จะไม่มีกล้ามเนื้อชัดเจน แต่ก็ทำผมแบบบ้าได้
   “ซุงขอมีอะไรกับแม้วนะ” ผมพูดเสร็จก็ลงไปไซร้ที่ซอกคอขาวของมัน มันเคลิ้มตามผมไปสักพัก แล้วเหมือนไอ้คนที่อยู่ใต้ผมได้สติขึ้นมา
   “หยุด!!” มันพูดด้วยท่าทางเมาๆและตกใจ
   “ก็ได้ครับ” ผมลงไปนอนข้างมัน
   “ท่อนซุง” มันเรียกผมอีกครับ เอาอารมณ์ดิบในตัวผมเริ่มรวมตัวหนักกว่าเดิม
   “อย่าเรียกซุงแบบนี้นะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน” ผมพูด และไม่สนใจมัน ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วจัดการตัวเอง แล้วมาจบที่นั่งดูหนังผู้ใหญ่ข้างๆมันนี้แหละครับ

พาร์ทของแม้ว
   
ผมโวยวายใส่มันครับ แต่ผมไม่ไว้ใจมันแล้วครับเมื่อมันเกือบจะเอาผมแต่ทำไมมันยอมหยุดทำแค่คำว่าหยุดของผมคำเดียววะ อยากถามนะแต่กลัวมันจะไม่ตอบแล้วจัดผมทำเมียแทน อยากจะกลับห้องของผมนะแต่เหมือนสภาพนี้ผมจะไม่ไหว แล้วผมทำอีท่าไหนวะเนี้ยถึงมานอนห้องมันได้
   “หลับยัง” มันถามผม
   “กำลัง” ผมตอบ
   “ขอกอดหน่อยนะ” ไม่ทันที่ผมจะตอบมันก็วาดแขนหนักๆมารัดตัวผมเข้าไปชิดกับอกแกร่งของมัน
   “เห้ย”  ผมร้องขึ้นมา ไม่ใช่ว่าอะไรครับตกใจที่มันดึงผมเข้าไปเนี้ย
   “กอดไม่ได้เหรอ” มันดึงแขนตัวเองกลับไป ทำไมแม่งขี้งอนแบบนี้วะ
   “อยากกอดก็กอด” ผมบอกแล้วมันก็กอดผมอีกครั้ง
   “ฝันดีนะครับแม้ว” มันพูดข้าหูของผมทำเอาขนลุกซู่ และผมก็ตอบกลับมันไป ผมเคลิ้มกับการที่มันกอดผมจนหลับไปอย่างง่ายดาย
ผมตื่นมาตอนเช้า ไม่สิต้องเรียกว่าสายแล้ว โชคดีที่ผมไม่มีเรียนครับ แต่ตอนนี้ไอ้ซุงไม่ได้กอดผมแล้ว ผมมีความรู้สึกแค่อะไรแข็งๆในมือผม ใหญ่ ยาวด้วยวะ ผมค่อยๆลืมตาช้าๆ และหวังว่าอย่างเป็นแบบที่ผมคิด
   “เหี้ย!!” ผมร้องลั่นเมื่อมือของผมไปจังไอ้ซุงน้อย(ไม่น้อยนะ) ในกางเกงของมัน ทำเอามันที่หลับอยู่ตื่นขึ้นเพราะเสียงของผม
   “อะไรของมึงเนี้ย” มันพูดติดอาการงัวเงีย
   “มึงเอาจู๋มาให้กูจับอ่ะ” ผมพูดแล้วชี้ไปที่เป้าของมึง
   “มึงนั้นแหละตั้งแต่เมื่อคืนละจับอยู่นั้นแหละ ทั้งรูดทั้งดึงกูแทบจะนอนไม่ได้ กว่าจะนอนได้ก็เกือบเช้า” อ่าวผมผิดเหรอ แล้วผมจะไปจับของมันทำไมในเมื่อของผมก้มี ถึงจะไม่ใหญ่เท่าของมันก็เถอะ
   “ไม่เชื่อ” ผมตอบมันไป
   “แล้วแต่นะ เออเมื่อคืนกูแม่งได้วะ ตอนนี้กูก็เงี่ยนมากด้วยช่วยกูได้มั้ยวะ” แม่งขอกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
   “เงี่ยนก็ไปชู้วู้ดิวะ” ผมชี้ไปที่ประตูที่น่าจะเป็นห้องน้ำ
   “...” มันไม่พูดแต่ขึ้นมาคร่อมผม เห้ยเมื่อคืนกูรอดแล้ววันนี้กูก็ต้องรอด
   “มึงจะทำอะไร” ผมผลักมันที่กำลังมาไซร้ซอกคอของผม
   “ปกติถ้าอีกคนไม่ยอมกูก็จะไม่ทำ แต่ครั้งนี้กูไม่ไหวจริงๆ ยอมกูเถอะนะ” มันพูดจบก็ประทับรอยจูบที่ริมฝีปากผม ผมยอมรับว่ามันจูบเก่งมาก ทั้งลิ้นร้อนที่เข้ามาหาความหวานจากปากของผม
   “อื้ออ ฟันก็ไม่ได้แปรงทั้งคู่” ผมผลักมันออก
   “ซุงไม่ถือ แม้วยอมซุงเถอะนะ” ใบหน้าหล่อๆของมันบวกกับน้ำเสียงติดอ้อนๆนิดๆ ทำเอาผมใจอ่อนให้มันง่ายๆ เห้นไอ้แม้วมึงจะยอมเสียตัวให้ผู้ชายเหรอวะ
   “กูไม่..”
   “ก็มีอารมณ์นิ” ผมไม่ทันได้พูดจบมันก็ชิงพูดก่อนแล้วแอบจับน้องชายผมด้วย
   “เห้ยไอ้เหี้ย” ผมด่ามันผมพยายามผลักมันออกแต่โดนมันจับมือทั้งสองข้างของผมไปรวมกันที่เหนือหัว ส่วนมืออีกข้างของมันก็ปลดกระดุมเสื้อผมอย่างชำนาน ไม่นานปากของมันก็ครอบที่จุดบนอกสีชมพูของผม
   “ไอ้ซุงง อื้ออ” ผมเผลอร้องเสียงที่น่าอายออกมา
   “ขนาดนี้แล้วยอมซุงนะครับ” มันเงยหน้ามามองผมอีกครั้ง
   “เออ รีบๆทำ” ผมยอมมันแล้วครับ แม่งทำให้ผมยอมง่ายขนาดนี้เลยเหรอ”
   “สดนะ” มันพูด
   “จะอะไรยังไงก็เรื่องของมึง” จากนั้นมันก็รีบถอดเสื้อผ้าของผมออกรวมถึงเสื้อผ้าของมันด้วย แล้วความผิดชอบชั่วดีก็ไม่อยู่ในหัวผมแล้ว มีแต่ภาความสุขตรงหน้าที่พึ่งจะได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรกกับมัน


ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: เมามาย ตอนที่4 12/09/2560
«ตอบ #7 เมื่อ12-09-2017 22:19:45 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่5 18/09/2560
«ตอบ #8 เมื่อ18-09-2017 21:32:11 »

ตอนที่5
[/b]
เจ็บกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้ว
[/b]

หลังจากที่ผมเสร็จกิจกรรมอันร้อนแรงแล้ว ผมก็นอนเจ็บตูดไปคนเดียวสิครับ ไอ้ท่อนซุงทั้งชื่อทั้งขนาดแม่งหายหัวไปไหนวะ ผมหงุดหงิดมาก โกธรตัวเองที่ยอมให้กับผู้ชาย ผมรับไม่ได้ รับไม่ได้ที่ตัวเองเสียให้กับผู้ชาย ผมมีหน้าจะไปมองใครที่ไหนวะ ผมคงแสดงสีหน้าชัดเจนไปใช่มั้ยวะ
   “เครียดขนาดนั้นเลยเหรอ” มันถามพร้อมยื่นถ้วยข้าวต้มให้ผม
   “เออ!!” ผมไม่รับถ้วยข้าวต้มมัน เอาสิเวลานี้กูกินอะไรไม่ลงแล้ว แล้วจะไม่กินข้าวต้มที่มึงเอามาด้วย
   “กินสะ กูอุตส่าห์ทำมาให้” มึงทำเองเหรอวะ
   “กินแล้วตายกูไม่กิน” ผมประชดมัน สายตาผมมองไปที่ข้าวต้มน่าอร่อยนั้น ผมขอถอนคำพูดที่จะไม่กินได้มั้ยครับ
   “งั้นกูเอาไปเก็บนะ” มันกำลังเดินออกไปแต่พระเจ้าช่วย ท้องไม่รักดีของผมดันร้องออกมาดังขนาดทำให้มันหยุดแล้วหันมาต่อว่าผมว่าหิวก็กิน อย่าฟอร์ม
   “เอามาจะกิน”  ผมลุกนั่งบนเตียงแต่อู๊ยย เจ็บครับ เจ็บจนอยากจะร้องไห้
   “เจ็บเหรอ กูว่ากูเอายามาให้กินแล้วกัน กินให้หมดห้ามเหลือ” มันสั่งผมแล้วเดินไปหายามาให้ผมกิน ผมกินข้าวต้มขอมันจนหมดก็ถือว่าอร่อยใช้ได้นะครับ น่าจะไปเปิดร้านได้เลย
   “มึงซิงใช่มั้ย” ไอ้ท่อนซุงถามผม ผมแทบจะสำลักข้าวต้มที่กำลังกินคำสุดท้าย
   “คนที่ทำให้กูไม่ซิงก็มึงนี้แหละ” ผมตอบมันแค่นั้นแล้วคว้ายาที่มันเอามาวางให้ แล้วกินยานั้นโดยที่ไม่ลืมอ่านฉลากยา ยาแก้อักเสบยังไม่หมดอายุ ขนาดกำลังพอดีไม่แรงเกิน ผมกินน้ำตาแล้วมันหกลดตัวผม น้ำไหลจากปากของผมลงไปเป็นสายเล็กๆ ผมรีบเช็ดน้ำที่หกนั้น แต่สายตาก็ไปปะทะกับไอ้คนที่นั่งอยู่ปลายเตียง
   “มึงแม่ง ทำกูอารมณ์ขึ้นอีกแล้ววะ” มันพูดแล้วเลียปากตัวเอง
   “พ่อง กูไม่เอาแล้วแค่นี้ก็เจ็บจะตายแล้วไอ้สัด” ผมด่ามันแล้วปาหมอนใส่หน้ามัน
   “จะอยู่นี้หรือกลับห้องมึง” ผมกำลังลังเล เอาเป็นว่าผมกลับห้องของผมดีกว่า แต่ว่ามันไม่ยอมให้ผมกลับเพราะผมอยู่คนเดียว
   “แล้วถ้ามึงจะไม่ให้กูไปแล้วจะถามกุหาพ่อมึงเหรอ” ผมกลับมาหงุดหงิดอีกครั้ง
   “หงุดหงิดไรนักหนา กูทำไปแล้วเมนยังจะมาอีกเหรอ” ขอโทษครับกูเป็นผู้ชาย
   “พ่อง”
   “ที่กูไม่ให้มึงกลับเพราะว่าสภาพแบบนี้มึงจะทำอะไรได้ เกิดไข้ขึ้นอีกจะทำยังไง อยู่นี้แหละอย่างน้อยก็มีกูดูแล” มันพูดแล้วขยับมานั่งข้างผม
   “กูเป็นแบบนี้เพราะใครละ” ผมเหน็บมันเบาๆ แล้วมันก็เอามือมาโอบไหล่ของผมพร้อมเอามืออีกข้างจับใบหน้าของผมให้หันไปหามันช้าๆ
   “เพราะตัวมึงเองนั้นแหละที่ทำให้กูสนใจ” ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง หน้าตาอย่างผมจะมีผู้ชายมาสนใจด้วยเหรอ
   “เหี้ยขนลุก ออกไปดิกูไม่ชิน” ผมจับมือมันออก คนหรือหนวดปลาหมึกวะเนี้ยเหวี่ยงกลับมาพาดไหล่ผมได้ไวเกิน
   “แค่นี้ไม่ได้เหรอ ทีเมื่อคืนละร้องให้กูกอดตลอด” มันพูดเรื่องตอนทำกิจกรรมนั้นผมแทบจะมุดหน้าหนี ผมเรียกร้องเกินไปเหรอ หรือว่าผมเคลิ้มไปกับมันมากเกินไป
   “เงียบไปกูจะนอน” ผมล้มตัวลงนอน หลับตาแกล้งทำว่าเป็นหลับเพื่อไม่ให้มันมายุ่งกับผมแต่ผิดคาดครับ มันล้มตัวลงนอนข้างผมแล้วจับผมหันไปหามัน
   “นอนกอดผัวสิจะได้หลับสบาย” มันพูดและมือของผมก็ตีแก้มมันไปทีนึ่ง แรงใช้ได้จนมันทำหน้าเหมือนจะฆ่าผม เห้ยกูขอโทษมือกูไวไปหน่อย
   “ขอโทษ กูเป็นพวกมือไว” มันยังทำหน้าเหมือนโกธรผมทำไงดีวะ เกิดมันสั่งรุ่นน้องมาดักตื๊บผมแล้วจะทำไงวะเนี้ย
   “ขยับมานี้” น้ำเสียงมันเปลี่ยนไป มันโกธรผมจริงๆเหรอวะ ผมหรือเปล่าที่ต้องโกธรมัน
   “จะทำอะไรกู” ผมถามเมื่อมันขยับเข้าใกล้กว่าเดิน แล้วมันก็เอาปากกระจับของมันแตะที่ปากของผมเบาๆ และขยับออก
   “กูก็อยากโกธรมึงนะแต่โกธรไม่ลงวะ นอนไปเถอะเดี๋ยวกูออกไปทำงาน” มันพูดจบก็เดินออกไปนอกห้อง ผมมองห้องมันดีๆ แค่ห้องนอนก็ใหญ่กว่าห้องที่ผมอยู่แล้ว สงสัยมันจะหอพักที่แพงมากแน่ๆ หรือว่ามันอยู่คอนโดวะ
ผมนอนพลิกซ้ายขวาเปลี่ยนท่าแล้วก็นอนไม่หลับ อยากจะนอนเอาแรงแล้วตื่นแต่ผมทำไม่ได้ พอหลับตาลงผมก็คิดถึงแต่เรื่องเมื่อคืน
   “ไอ้เหี้ยซุงออกไปจากหัวกู” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ว่าแต่มันทำงานอะไรวะ นั้นไงต่อมเสือกของผมมันผุดมาอีกแล้วครับผม ผมค่อยๆประครองตัวไปที่ประตูช้าๆ ด้วยความทุลักทุเลทำเอาผมเกือบล้มหลายครั้งเหมือนกัน ผมเดินช้าๆจนถึงประตูแล้วเปิดออกช้าๆ ห้องของมันโทนสีขาว เฟอร์นิเจอร์สีครีมๆทำให้ดูว่าห้องนี้แพงเวอร์ สายตาของผมกำลังกวาดหาร่างของยักษ์ว่าทำงานอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่พบ ผมเดินไปที่ห้องครัวก็เจอไอ้ท่อนซุงที่ยืดชิดผนังแล้วมีผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยกำลังจูบกันต่อหน้าผม น้ำตาผมไหลลงมาช้าๆ ภาพด้านหน้ามันบาดใจผมขนาดไหนก็คิดกันเอาเองครับ ในหัวผมคิดอะไรไม่ออกมันขาวโพลนไปหมด แต่ความขาวโพลนนั้นมีกำแพงใสๆขัดไว้ทั้งแปดด้าน คนที่ผมพึ่งจะมีอะไรไปด้วยกับผู้หญิงที่ผมน่าจะใช้คำว่ารักได้กำลังจูบกันตรงหน้าผม ผมควรจะทำยังไงผมควรจะเดินเข้าไปหรือกลับออกมา หรือว่าผมควรที่จะปล่อยผ่านแล้วกลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง
   “ท่อนซุง” ผมเลือกที่จะเรียกชื่อมันมากกว่าชื่อบิว มันมองหน้าผมอย่างอึ้งๆ และผมก็หันหลังให้มันไม่สนใจว่ามันจะทำหน้ายังไง ผมเดินไปที่ประตูห้องที่ผมอยู่เพื่อไปเอาของๆผมที่ถือติดมาด้วย ผมหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าได้ปุ๊บ ผมก็รีบเดินไปที่ประตูห้องทันทีแต่ทว่า มันขวางทางผมอยู่
   “แม้ว” มันเรียกผมแต่ผมไม่ได้สนใจมัน
   “มีอะไรจะพูดมั้ยวะ” ผมหันไปสบตามันอย่างเอาจริง ความรู้สึกทั้งหมดทำให้ผมน้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ผมรู้แค่มันเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ
   “กูเลิกกับบิวแล้ว” ผมไม่เข้าใจว่ามันจะบอกผมทำไม แต่มันบอกว่าเลิกกันแล้วแต่ทำไมยังจูบกันละ มึงแน่ใจนะว่าเลิกกันแล้ว
   “มึงบอกกูทำไมวะ!!” ขึ้นเสียงใส่มันและเดินหนีไปที่ประตู โดนไม่สนใจเสียงของมันที่เรียกผมอยู่ด้านหลัง ผมเดินลงไปข้างล่าง เช็ดน้ำตาอย่างร้อนรนและเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่าที่นี้อยู่ที่ไหน ถึงแม้ว่าผมจะเรียนที่กรุงเทพก็จริง แต่ผมไม่ได้รู้จักทุกซอกทุกมุม ผมมองกลับไปที่ห้องพักของท่อนซุง หรือจะเรียกว่าคอนโดดีละ มันก็ทำให้ผมนึกถึงหน้าของมันตอนจูบกับบิว
   “โถ่เว้ย!!” ผมสบทลั่นทำให้ผู้คนหันมามองผม แล้วไงผมไม่ได้สนใจ ผมหยุดลงใต้ร่มไม้ใกล้ๆ และผมก็หยิบโทรศัพท์กดเบอร์หาว่าน
   “มึง อยู่ไหนวะ” ผมทำให้เสียงตัวเองปกติที่สุด
   “ห้องวะมีอะไร” มันถาม
   “มาหากูหน่อยกูอยู่ที่ไหนไม่รู้” ผมพูดตามความจริง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
   “เอ้าไอ้นี้ มึงโง่เปล่าวะส่งโลเคชั่นมาดิ”
   “เค รีบมานะมึง” ผมส่งโลเคชั่นที่ผมอยู่ให้กับว่าน ผมนั่งรอสักพักรถของมันก็ว่าจอดด้านหน้าของผม ผมเดินขึ้นรถไปด้านสีหน้าตายด้านไม่รับรู้อะไรอีกแล้วผมไม่ตอบคำถามอะไรมันแม้แต่คำเดียว ผมนั่งร้องไห้ตลอดทางจนถึงห้องของผม ผมบอกลามัน
   “ถ้าอยากจะบอกกูเมื่อไหร่ก็บอก” มันพูดแล้วผมก็พยักหน้าให้มันพร้อมปิดประตูเดินขึ้นห้องอย่างไร้ชีวิตจนทำให้ยามหน้าหอพักผมทัก แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้รู้แค่ว่าความเป็นที่ส่วนก้นของผมไม่เจ็บเท่าที่ใจของผม คิดดูดิคนที่ผมพึ่งจะมีอะไรด้วยไปจูบกับผู้หญิงที่ผมชอบ เป็นคุณจะรู้สึกยังไง ผมทิ้งตัวลงบนเตียงและปล่อยโฮอีกรอบ
   “ไอ้เหี้ยท่อนซุงเอากูแล้วมึงยังจะจูบกับผู้หญิงที่กูชอบอีกเหรอวะ มึงแม่งเลวจริงๆ อย่าให้กูได้เจอมึงเลย” ผมทุบเตียงเป็นสิบๆรอบจนเจ้าของตึกจะจ้างผมไปทุบตึกแล้วครับ ผมพยายามไม่นึกถึงมันแต่ก็ทำไม่ได้ ผมกลิ้งไปมาบนเตียง ผมอยากเอาหัวของผมที่คิดถึงแต่เรื่องของมัน ภาพ เสียง ความทรงจำบนเตียงไล่มาถึงตอนที่ผมเห็นมันจูบกับบิวไปโยนทิ้งที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้
   “แม้ว” ผมได้ยินเสียงเรียกใกล้ๆใบหูของผม
   “ขออีกได้ป่าว” เสียงของคนเดิมที่ถามผม ผมยังไม่อยากลืมตาดูเลยว่าใครถามผม
   “ลืมตามามองซุงหน่อย” ซุง ซัมซุง หรือว่าจงซุงกิเหรอ ผมยิ้มให้กับตัวเองที่เดาไม่ออกว่าเป็นใคร
   “ท่อนซุงเองนะ” เหี้ยยย
   “มึงเข้ามาในห้องกุได้ยังไง ออกไป!!” ผมรีบลุกขึ้นมาไล่มัน แต่เอ้าไม่มีใครเหรอวะ ผมมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นใคร ผมคิดเรื่องมันจนเก็บเอาไปฝันเลยเหรอวะ ผมมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าเย็นมากแล้วผมลุกไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อคืน ท้องผมร้องจ๊อกๆ เพราะความหิวที่ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่...
   “แล้วกูจะคิดถึงมึงอีกทำไมวะ” ผมบ่นกับตัวเอง ทำไมผมยังไม่เลิกคิดถึงมันสักที ถ้าผมเจอมันอีกละผมจะทำยังไงดี แต่คงไม่มีโอกาสได้เจอกันละมั้ง

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: เมามาย ตอนที่5 18/09/2560
«ตอบ #9 เมื่อ22-09-2017 19:31:28 »

รอนะคะ :impress2:
สู้ๆค่ะ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เมามาย ตอนที่5 18/09/2560
« ตอบ #9 เมื่อ: 22-09-2017 19:31:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
Re: เมามาย ตอนที่5 18/09/2560
«ตอบ #10 เมื่อ23-09-2017 07:55:41 »

รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่6 25/09/2560
«ตอบ #11 เมื่อ25-09-2017 20:03:52 »

ตอนที่6
พิสูจน์สิ

ผ่านมาสองวันแล้วอาการเจ็บก็ค่อยๆหายไป ผมมาเรียนในแบบของแม้วตามปกติก็คือกวนตีนคนอื่นไปทั่วแต่น้อยกว่าเมื่อก่อนนิดนึ่ง จริงๆเรียกว่าผมมาเรียนในมาดขรึมๆก็ได้ครับ ทั้งวันผมเรียนไม่รู้เรื่องหวังแค่ให้ไอ้ว่านช่วยติวให้ก็พอ วันนี้ผมเหมือนเป็นเพื่อนกับไบรอันเทพเจ้าแห่งความซวยยังไงไม่รู้ เดินเข้าคณะก็เดินชนต้นไม้ใกล้ๆ เดินเข้าห้องเรียนก็สะดุดขาเก้าอี้จนล้ม แต่ที่แย่ที่สุดคือผมลืมโทรศัพท์ของตัวเองไว้ที่ห้องของผม แล้วผมจะติดต่อกับคนอื่นยังไง เวลาเบื่อๆของแก้เบื่อของผมก็คือโทรศัพท์ที่คอยแต่จะไปเผือกเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้ผมนั่งรอเวลาเรียนอย่างเบื่อหน่าย ไอ้ว่านก็หายหัวไปกับสาวๆของมัน ผมมองเพื่อนๆในเอกของผม แต่ไม่คิดจะเข้าไปคุยด้วยเพราะว่าเพื่อนผมเยอะก็จริงแต่ที่สนิทจนเชื่อใจได้มีไม่กี่คน
   “แก!! เดือนวิศวะปีที่แล้วมาคณะเราด้วยแก” ผมหันไปมองเพื่อนผู้หญิงในเอกที่กำลังกรี๊ดกร๊าดกับเดือนคณะปีที่แล้ว แล้ววิศวะเกี่ยวอะไรกับแพทย์วะ งั้นผมไม่ไปเผือกหรอกครับ
   “หล่อมากเลยแก” ผมขอถอนคำพูดที่ว่าจะไม่เผือกตอนนี้ผมแอบหลังเสาใต้ตึกเพื่อดูคนที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอย่างอึ้งๆ ผมลือไปเดือนวิศวะปีที่แล้วก็คือไอ้ท่อนซุง
ผมเดินหนีขึ้นห้องเรียน ผมไม่รู้ว่ามันจะมาที่นี้เพื่ออะไรผมไม่อยากเข้าข้างว่ามันมาหาผม
   “แล้วมึงจะมาหากูทำไมวะ” ผมพูดคนเดียวเบาๆ คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดทำไมผมเจอง่ายจังวะ ผมไม่สนใจมันและเดินหนีขึ้นตึกแต่แล้วผมก้หันไปมองมันอีกครั้ง แต่ผมยืนบนบันไดที่ใช้ขึ้นชั้นสองเลยทำให้ผมเด่นเกินไป สายตาของท่อนซุงมองมาที่ผมแล้วมันก็ยิ้มให้ผม ผมรีบกลับหลังหันแล้วเดินขึ้นชั้นสอง
   “แม้ว!!” เสียงของท่อนซุงดังมาจากด้านหลัง และสัมผัสที่ดึงตัวผมให้เข้าใกล้คนที่มาจากด้านหลัง
   “ปล่อย” ผมพูดแล้วพยายามแกะมือของมันที่ขัดแขนของผมอยู่
   “คุยกันก่อน” มันพูด
   “ไม่มีอะไรที่จะต้องคุย”
   “แต่ซุงมี”
   “กูไม่มี!!” ผมตวาด พร้อมสะบัดมือของผมให้หลุดจากการพันธนการของของท่อนไอ้ยักษ์
   “แม้วฟังซุงก่อน” ผมไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับมันอีกแล้ว ผมอยากจะลืมๆเรื่องคืนนั้นไปสะ ถือว่าเป็นฝันร้ายของผมไปก็แล้วกัน
   “...”
   “จะฟังซุงใช่มั้ย” ผมหันกลับไปประจันหน้ากับมัน
   “ไม่” ผมพูดจบก็รีบเดินหนีลงไปข้างล่าง เพราะถ้าผมขึ้นไปชั้นสองจะหนีไม่ได้แน่นอน ผมรู้สึกโกธรคนออกแบบตึกก็วันนี้ที่สุดแล้ว ตึกตั้งใหญ่ทำไมมีทางขึ้นลงตึกที่เดียววะ ผมพยายามเดินหนีไอ้ยักษ์นั้นให้ไวที่สุด โดนไม่สนใจเสียงเรียกของมันที่ดังตามหลังผมมา
   “หยุดก่อนแม้ว” ผมโดนมันดึงเข้าไปหามันอีกรอบ แต่ครั้งนี้มันกอดผมเอาไว้ไม่ยอมให้ผมไปไหนได้
   “ซุงไม่ได้มีอะไรกับบิวแล้วจริงๆ” ไอ้ยักษ์พูดขึ้นและกอดผมแน่นขึ้น
   “กูต้องดีใจมั้ยที่มึงบอกไม่มีอะไรแล้วยังจบกันได้” ผมถามมันโดยที่ปล่อยให้มันกอดผม โชคดีที่ผมเดินมาข้างหลังตึกที่มีค่อยมีคนเดินเข้ามาเท่าไหร่ ก็ถือว่าโชคดี เอ๊ะหรือว่าโชคร้ายที่เปิดทางให้ไอ้ยักษ์ทำอะไรกับผมก็ได้
   “แม้วฟังดีๆนะ”
   “...”
   “ซุงชอบแม้ว” ผมตาโตและอึ้งกับคำที่มันพึ่งจะพูดออกมา
   “แก้ตัวแบบนี้ฟังไม่ขึ้นวะ ปล่อยกูแล้วไม่ต้องมาให้กูเห็น” ผมแกะแขนของมันออกอย่างง่ายดาย
   “คิดว่าซุงพูดเล่นเหรอ” ผมมองหน้ามันที่กำลังเข้าใกล้หน้าผมเรื่อยๆ และก็นำริมฝีปากของไอ้ยักษ์มาแตะพร้อมสอดลิ้นร้อนเข้ามาในปากของผม ร่างของผมโดนดึงเข้าไปหามันอีกครั้ง ผมแทบจะไม่ได้ตั้งตัว ลิ้นร้อนของซุงพยายามหาความหวานในปากของผมจนทำให้ผมเคลิ้มตามเป้นอย่างมาก ผมไม่สามารถยับยั้งตัวเองให้รองรับลิ้นของมันได้
   “อื้ออ พอแล้ว” ผมผลักออก ก่อนจะเช็ดปากที่เปื้อนน้ำลายของผมกับมันจนปนกันหมดแล้ว
   “เชื่อยัง” ผมควรจะเชื่อมันดีมั้ยขนาดบิวมันยังจูบได้เลยแล้วผมละ
   “เชื่อได้ไงขนาดบิวมึงยังจูบเลย”
   “งั้นกูพิสูจน์นะ”
   “พิสูจน์ไรวะ”
   “รอดูไปแล้วกัน”
   “รอดูอะไร” ผมถามมันด้วยความสงสัย ได้ข่าวเมื่อกี้ผมยังโกธรมันอยู่ไม่ใช่เหรอ
   “สัญญาจะเอาแม้วมาเป็นแฟนซุงให้ได้” ผมสตั๊นไปสิบกว่าวิ มันยิ้มให้ผมเหมือนว่าโลกใบนี้มีแต่ผมที่อยู่ตรงหน้ามัน หน้ามึงจะดูมีเสน่ห์ไปถึงไหนวะ หล่อโคตรๆตอนที่ไอ้ยักษ์ยิ้มโชว์ฟันขาว
   “ฝันไปเถอะ” ผมตอบกลับไปอย่างนั้นแต่ผมก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ตกลงผมโกธรที่มันจูบบิวเพราะผมหึงบิวหรือว่าผมหึงมันกันแน่
หลังจากที่ท่อนซุงมาหาผมแล้วกลับไปแล้ว ผมก็ขึ้นเรียนตามปกติแต่แตกต่างที่เพื่อนหลายๆคนเข้ามาถามผมว่าผมกันซุงเป็นอะไรกัน แต่ผมก็ตอบว่าเพื่อนนะเพราะผมกับไอ้ยักษ์นั้นไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ
หลังจากที่ผมเรียนเสร็จแล้ว ผมเดินออกมาจากตึกคณะของผมกับว่าน สายตาที่แสนจะดีของผมก็เห็นแลมโบกินีสีเหลืองจอดหน้าตึกคณะแถมยังมีนักศึกษาหลายคนมุงดูด้วย หรือว่ามีคนตายในรถวะ
   “แม้ว เดี๋ยวไปส่ง” เจ้าของรถเปิดกระจกรถลงและตะโกนมาบอกผม
   “เดี๋ยวนี้มาราชรถมารับแล้วเว้ย ไอ้แม้วเพื่อนกูไหนว่าจะทำให้มันเจ็บเพราะมึงแย่งบิวไงวะ หรือว่า” ไอ้ว่านเริ่มแซวผม
   “หรือว่าอะไรของมึง” ผมมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง
   “แย่งบิวไม่สำเร็จเลยเอาตัวเองเข้าแลก” ไอ้ว่านยังแซวผมไม่เลิก
   “เร็วๆดิค้าบซุงหิวข้าวไปหาไรกินกันนะ” ไอ้เชี้ยนั้นยังตะโกนมาอีกครับ สายตาของนักศึกษาแถวนั้นก็มองมาทางผมเป็นตาเดียวกัน ผมบอกลงไอ้ว่านและรีบขึ้นไปที่รถหรูของไอ้ซุงเพราะผมไม่อยากทนต่อสายตาของใครหลายๆคนที่ผมไม่รู้จักมองผมเหมือนเป็นจุดศูนย์กลาง
   “ใครให้มึงมาวะ” ผมถาม
   “ใจ” มันตอบได้หน้าตาเฉย
   “จะอวก” ผมทำท่าอวกใส่รถมัน
   “โดนไปครั้งเดียวนี้แพ้ท้องแล้วเหรอ ไปตรวจครรภ์มั้ย”
   “พ่องเถอะ จะไปไหนก็รีบไปกูไม่อยากอยู่ที่นี้นานดูพวกนั้นมองดิ” ผมชี้ไปข้างนอก
   “ไม่ชอบเป็นที่สนใจเหรอ” มันถามผมหน้าซื่อๆ
   “ถ้าชอบจะบอกให้รีบไปมั้ยละ” ผมสวนกลับ
   “ดีแล้วจะได้ไม่มีใครมองแม้วของซุง” มันพูดแล้วยิ้ม ยอมรับเลยครับว่าผมชอบตอนมันยิ้มมากกว่าตอนทำหน้าเฉยๆ
   “แล้วมึงก็เข้ามาทำให้กูเป็นจุดสนใจของคนอื่น”
   “เขาถามว่าอะไรมั้ง คนที่เข้ามา” ผมไม่ได้ตอบคำถามมันแต่โชว์แชทที่เข้ามาในโทรศัพท์ผมที่ค้างว่า เป็นอะไรกับท่อนซุงเหรอ
   “ชัดมั้ย” ผมเก็บโทรศัพท์ลง แล้วท่อนซุงก็ขับรถออกไป
   “หิวข้าวอ่ะ แวะกินก่อนได้มั้ย”
   “เอาดิกินอะไรดี” ผมถามความคิดเห็นจากคนที่เอ่ยชวน
   “ให้แม้วเลือกเลย” ผมคิดร้านที่ผมชอบในใจ คนรวยๆอย่างไอ้ยักษ์คงจะกินของดีๆมาเยอะแล้วงั้นข้างทางบ้างมันจะกินมั้ยวะ
   “งั้นแยกหน้าเลี้ยวซ้าย ร้านอาหารด้านซ้าย ร้านแซบแสบทรวง” แน่นอนผมเลือกร้านสมตำครับ อยากกินมาหลายวันแล้วแต่ไอ้ว่านไม่ยอมพาผมมากิน
   “จัดไปครับ” มันเลี้ยงไปจอดรถหน้าร้านที่สามารถจอดรถได้
ผมและท่อนซุงเดินเข้าร้านไปพร้อมๆกันถึงแม้จะเป็นร้านที่ไม่หรูแต่รสชาติจัดว่าเด็ดมาก ยิ่งอาการร้อนๆสมตำเผ็ดๆนี้อย่างส่วง และผมก็เกรงใจมันนะไม่ได้สั่งแบบที่ผมชอบกิน ผมเอารสเผ็ดที่คิดว่าไอ้ยักษ์ด้านหน้าน่าพอกินได้
   “สั่งเลยไม่ต้องเกรงใจเดี๋ยวซุงจ่ายเอง” งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ ผมสั่งตามที่ผมอยากกินแต่ผมไม่ได้สั่งมาเยอะเหมือนเลี้ยงทั้งหมู่บ้านนะ
   “สั่งแค่นี้จะอิ่มเหรอ” มันถามผม
   “แค่นี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวกูจ่ายช่วยครึ่งหนึ่ง” ผมยิ้มให้แม่ค้าไปทีหนึ่งก่อนจะหันมามองหน้าของท่อนซุงที่ทำหน้างงๆ
   “มีคนเลี้ยงไม่ชอบเหรอ ไม่ต้องช่วยจ่ายก็ได้ซุงมีเงิน” กูไม่เกาะมึงกินหรอกเว้ย เดี๋ยวมึงมาทวงบุญคุณแล้วกูจะไม่มีจ่าย
   “อย่างแรกกูไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร อย่างที่สองกูกินมึงก็กินช่วยกันจ่ายก็ถูกแล้ว” ผมพูดตามสิ่งที่ผมคิด
   “แม้วชอบมีอะไรๆที่ทำให้ซุงประหลาดใจนะ” มันแอบว่าผมว่าแปลกหรือเปล่า
   “แอบด่ากูใช่มั้ย” ผมทำตาจิกกันมันเบาๆ
   “ฮ่าๆๆ เปล่าครับปกติคนที่ออกเดทส่วนใหญ่ผู้ชายจะจ่ายให้หมดไง แล้วแม้วก็ถือว่าเป็นผู้หญิงนะ” ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาแปลกๆสงสัยอากาศร้อนเกินไป
   “พอเลยผู้หญิงอะไรจะแมนขนาดนี้” มันยื่นมือมาจับมือผม แต่ผมก็ชักมือกลับ ผมเลยได้แต่ชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง
   “ความรู้สึก ซุงรู้สึกอยากดูแลแม้วเหมือนแม้วเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง” ผมควรพามันไปหาหมอมั้ยครับ ผู้หญิงอะไรตัวอย่างกับควายขนาดนี้
   “เก็บไปแซวคนอื่นเถอะ”
   “ไม่เขินเหรอไง”
   “ไม่”
   “...” มันอมยิ้มเล็กน้อย
   “ยิ้มอะไรของมึง”
   “ขนาดไม่เขินทำไมแก้มแดง” อากาศมันร้อนหรอกน่า ผมได้แต่แก้ตัวในใจแล้วก้มหน้าไม่คุยกับคนจนกว่าอาหารจะมาถึง

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: เมามาย ตอนที่6 25/09/2560
«ตอบ #12 เมื่อ25-09-2017 21:07:30 »

 o13 พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ...ตามนะค่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: เมามาย ตอนที่6 25/09/2560
«ตอบ #13 เมื่อ26-09-2017 14:41:48 »

เอ๊ ตอนแรกๆยังต่อยกันอยู่เลย สักพักได้กันละ ไวไป๊  :ruready :ruready

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
Re: เมามาย ตอนที่6 25/09/2560
«ตอบ #14 เมื่อ26-09-2017 15:19:04 »

ซุงมาเเกล้งเเม้วรึเปล่า
ไม่ค้อยเชื่อซุงแหะ  :hao4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: เมามาย ตอนที่6 25/09/2560
«ตอบ #15 เมื่อ26-09-2017 18:53:52 »

แม้ว คงสมองดี สอบเข้าแพทย์ได้
แต่สมองเรื่องรัก ต่ำมาก เป็นแฟนบิวเพราะไม่รู้เรื่องก็ช่างเถอะ
แต่พอรู้ว่าบิว คบซ้อน แสดงถึงความเลวของบิว

แล้วบิวเลือกท่อนซุง แม้วจะอาลัยอาวรณ์คนที่ไม่ใยดีตัวเองทำไม
แล้วแม้วยังอยากจะจีบบิวใหม่เพื่อทำให้ท่อนซุงเสียใจ เหมือนที่ตัวเองเสียใจบ้าง
นี่ไงแม้วเอาสมองส่วนไหนมาคิด  ก็บิวบอกว่าไม่เอาแม้ว เพราะแม้วจน

แล้วที่ปาถ้วยไอติม ปาถุงเครื่องเขียนใส่ท่อนซุง
ทั้งที่ไม่มีเงินจะซื้อ ทั้งที่ติดเครื่องเขียน นี่ก็อีก แม้วเหมือนเด็กยังไม่โตนะ

พอแม้วมีอะไรกับท่อนซุง เห็นท่อนซุงไปจูบกับบิว
ก็โกรธ เจ็บใจ นี่เป็นอาการหึงท่อนซุงนะ
ท่อนซุงมาง้อ บอกชอบแม้ว 
ก็ดูกันต่อไป บิวคงไม่มาหาเรื่องแม้วนะ
ผู้หญิงแบบบิว ทำตัวแบบนี้มีแต่เขาเอา แต่ไม่จริงจังด้วย

ว่าน รักเพื่อนมาก
นี่แอบคิดว่าว่าน ชอบแม้วเกินเพื่อนหรือเปล่า แต่ยังไม่รู้ตัว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่7 02/10/2560
«ตอบ #16 เมื่อ02-10-2017 19:54:37 »

ตอนที่7
เส้นขนาน 1
พาร์ทของว่าน
   ผมชื่อว่านนะครับ หรือที่ใครหลายๆคนชอบเรียกเหี้ยว่าน เพราะผมเหี้ยจริงๆ ถามผมว่าทำไมผมถึงเหี้ยเหรอครับ ผมจะเล่าตั้งแต่ไปรับน้องปีหนึ่งเลยนะครับ 
   วันรับน้องวันสุดท้าย
ผมเดินเข้ามหาลัยอย่างหวาดระแวงเพราะผมพึ่งจะไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ปี 3 คณะเดียวกันกับผม เห็นอย่างนี้ผมก็อยู่คณะแพทย์ปีสองเลยนะครับ เก่งใช่มั้ยล้า ผมเดินเข้าลานกิจกรรมรับน้องที่หลายๆคนฝันถึงพี่ว๊ากหล่อๆ แต่ผิดครับผมเรียนแพทย์เพราะฉะนั้นมันค่อนข้างจะสร้างสรรค์สักนิด ผมเดินเข้ามาพร้อมกับไอ้แม้วที่มันทำท่าทางตื่นโลกเหมือนพึ่งออกมาจากป่า
   “ไอ้เชี้ยว่านสาวสวยวะ”  ไอ้แม้วมันชี้ให้ผมดูสาวๆที่เดินผ่านคณะแพทย์
   “มึงมองขนาดนี้ไม่เข้าไปขอเบอร์วะ” ผมถามพร้อมผลักมันให้เดินไปหาสาวๆกลุ่มนั้น
   “ไปกับกูมั้ยวะ” แล้วมันก็ไม่ทันที่จะถามผมสักคำมันลากผมเข้าไปหากลุ่มสาวๆกลุ่มนั้น
   “โทษนะครับ เพื่อนผมมันขอเบอร์พี่ได้ป่าวครับ” ไอ้แม้วพูดและโยนขี้มาให้ผมที่ไม่รู้เรื่องอะไร
   “เอาดิน้อง ใจกล้าขอพี่ก็กล้าให้” พี่สาวที่สวยที่สุดในกลุ่มคว้าโทรศัพท์ของผมที่ไอ้แม้วมันขโมยไปเมื่อไม่นานไปกดเบอร์พร้อมโทรออกแล้วครับ
   “มึงยังไม่เข็ดอีกเหรอวะ” เสียงที่ผมคุ้นๆเหมือนได้ยินมาเมื่อวันสองวันก่อน ทำให้ผมรีบหันกลับไปมอง
   “เห้ย!! มึงมาได้ไงวะ” ผมร้องลั่นมันไม่ใช่ใครที่ไหนครับ มันคือคนที่ผมพึ่งมีอะไรด้วยกัน ทั้งๆที่ผมรู้ว่ามันมีแฟนแล้วและถ้าผมจำไม่ผิดแฟนของมันก็ผู้หญิงที่ผมพึ่งได้เบอร์นี้แหละ
   “มึงจะตกใจทำไมวะไอ้ว่าน” ไม่ให้ตกใจได้ไงวะ คืนนั้นกูร่านชิบหาย ผมกับไอ้แม้วเหมือนกันอย่างหนึ่งครับคือเมาแล้วชอบอ่อย แต่ผมหนักกว่ามันครับ
   “นั้นสิคนเคยๆกันจะตกใจทำไม” มันพูดเสียงเย็นใส่หูผม
   “แหม กล้าก็แกล้งสะน้องกลัวหมดเลย ก็รู้ไม่ใช่เหรอไม่ว่าใครหน้าไหนก็แย่งขวัญไปจากกล้าไม่ได้หรอกน่า” ผมแม้แย่งได้ผมก็ไม่เอาผัวของผู้หญิงคนนี้แม่งจัดจ้านชิบหาย เหมือนมันตายอดตายอยากมาเป็นสิบปี
   “รู้แล้วครับ ป่ะไปกินข้าวกันส่วนพวกมึงรีบไปหาพวกน้องๆได้แล้ว เป็นพี่สันไม่ใช่เหรอ” ประโยคแรกมันพูดกับแฟนมันครับ ส่วนประโยคสำสั่งด้านหลังคงจะรู้ๆกันเนาะ
   “ว่าน กูสงสัยวะ” แม้วเปิดประเด็นสนทนาหลังจากที่เดินมารวมกับเพื่อนที่กำลังรับน้อง
   “ขี้เสือกนะมึง”
   “ยังรีบด่าจังนะ มึงรู้จักพี่ต้นกล้าด้วยเหรอวะ”
   “ก็ไม่เชิง” ผมตอบแบบตะกุกตะกัก
   “ปกติพี่กล้าแม่งหน้านิ่งแต่พอยิ้มแล้วหล่อชิบหาย คนอะไรกล้ามแน่นๆ ผิวแทนนิดๆ โอ๊ยกูอยากเกิดมาเป็นแบบนั้นบ้าง” ที่ไอ้แม้วบรรยายมาทั้งหมดผมเห็นมาหมดแล้วครับ เห็นเยอะกว่าที่มันเห็นด้วย
   “เกินไปละมึง” ผมหมายถึงออกหน้าออกตาเกินชายละมึง
   “ว่าแต่คนเคยๆนี้คืออะไรวะ” ผมแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง
   “...”
   “ตอบมาดิ อย่าให้กูสงสัยดิวะ” ผมเกลียดตอนไอ้แม้วขี้เสือกนี้แหละ ถ้าไม่ได้คำตอบมันก็จะไปสืบเอง งั้นผมเลือกที่จะโกหกมันก่อนดีกว่า ผมกลัวไปมันสืบจนรู้ไส้รู้พุงผมไม่เอานะ
   “เออๆ ฟังดีๆนะ” ผมเว้นระยะทำใจ
   “0.0” ไอ้เชี้ยนี้เวลาขี้เสือกตาโตชิบหาย
   “รุ่นพี่กูรู้จักตั้งแต่เรียน” ผมโกหกมันครับ
   “ไม่เชื่ออ่ะ มึงก็เรียนที่เดียวกับกูตอนมัธยม พี่ต้นกล้าก็เรียนกรุงเทพตั้งแต่เกิดละ โกหกไม่เนียนวะ” ผมว่าแล้ว
   “มึงไม่รู้อะไรกูติดต่อผ่านเฟซบุ๊คมึงไม่รู้เหรอ” ผมขอบคุณพี่มาร์คสากกระเบือที่ผมให้ไอ้แม้วมันเชื่อผมด้วยเหตุผลควายๆของผม
   “อ๋อ”
   “...” มันคงจะเชื่อผมจริงๆใช่มั้ย
   “กูนึกว่าผัวมึง” ผมสำลักน้ำลายตัวเองอีกครั้ง
   “มึงรู้!!” ผมทำท่าตกใจก่อนที่จะลากไอ้แม้วไปที่ลับตาคน
   “เอาจริงๆมั้ย” มันเปิดประเด็น
   “เออดิวะ มึงรู้ได้ไง” ผมก้มหน้ารอฟังคำตอบจากไอ้แม้ว
   “คือกูแค่แซวมึงเล่นๆวะ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง” ไอ้เหี้ย!! ผมอยากจะฆ่าเพื่อนชั่วๆอย่างมัน ไอ้แม้วยิ้มให้ผมนิดหน่อยก่อนจะถามคำถามหน้าต่อยออกมา
   “เปิดซิงเจ็บมั้ยวะ”
   “เสือก”
   “เร็วๆตอบกู กูอยากรู้” มันเขย่าตัวผมให้ตอบคำถามของมัน
   “มึงก็ลองไปมีผัวเองดิวะ” ผมตอบมัน
   “แล้วมึงไปได้กับพี่เขาตอนไหนวะ”
   “กูต้องเล่าใช่มั้ย” ผมหันหน้าไปสบตาของมัน คือสายตามึงนี้เสือกจริงๆไม่ได้มีความสงสารเพื่อนเลยเหรอวะ
   “หรือจะให้กูไปสืบ”
   “กูเล่าเอง”
   “กูจะตั้งใจฟัง”
   “สัส เออๆ สองวันก่อนกูเมาแล้วไปมีเรื่องกับโต๊ะข้างๆก็คือไอ้เชี้ยต้นกล้านั้นแหละ” ผมขอตัดภาพไปวันนั้นแล้วกันครับ
   ร้านเมาม๊ายม่ายเมา สองวันก่อนวันรับน้องวันสุดท้าย
   “คนเยอะชิบหาย” ผมเดินเบียดคนเยอะๆเข้าไปด้านในร้าน วันนี้ผมมาคนเดียวเพราะไอ้เชี้ยแม้วแม่งนอนตายตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ผมเปิดโต๊ะนั่งคนเดียวถึงแม้จะเหงาๆหน่อยแต่ผมคิดว่าไม่นานก็จะมีสาวๆเข้ามาหาผมอย่างแน่นอน แล้วมันก็เป็นจริงครับ
   “มาคนเดียวเหรอคะ” สาวสวยที่อกตูมๆนั่งตรมข้ามกับผม
   “ครับผม” ผมยิ้มให้เธอทีนึ่งก่อนที่จะชนแก้วกับเธอ
   “ทำไมมาคนเดียวละคะ”
   “เพื่อนมันหลับไปแล้ว แล้วคุณละมากับใคร”
   “เพื่อนค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะชี้ไปที่โต๊ะที่มีเพื่อสาวๆของเธอนั่งเต็มโต๊ะ
   “น่าสนุกนะครับ”
   “ไปนั่งด้วยกันมั้ยคะ” เป็นคำเชิญชวนสินะ แต่ผมขอปฏิเสธดีกว่า ผมอยากเมาครับไม่ได้ล่าแต้ม
   “ถ้ายังไงก็มาได้ตลอดนะคะ นี้ไลน์นะคะ” เธอยื่นกระดาษที่มีไลน์ของเธอส่งให้ผม
   “ขอบคุณครับ”
ผมนั่งดื่มไปจนเริ่มเมานิดหน่อย ผมหันไปหากลุ่มสาวๆพวกเธอก็ยังอยู่ที่เดิม ผมค่อยๆเดินไปหาเธอช้าๆ
   “สาวๆจ๋า เดี๋ยวค้าวปายหาตัวเองน้า”  ผมเดินเซๆไปโต๊ะของพวกเธอ
ตุ๊บ เพล๊ง
ผมเดินชนกับคนๆนึ่งและเสียงแก้วแตกก็ตามมา ผมมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง
   “เห้ย แกะกะวะ”
   “เหอะเมาเป็นหมาแล้วกร่างเหรอวะ” ไอ้คนตรงหน้าพูด มึงว่ากูเป็นหมาเหรอ
   “เดี๋ยวกูกัดให้ดู” ผมทำท่าจะกัดมัน แต่เหมือนไอ้คนตรงหน้าแม่งเล่นด้วยก้มหน้าลงมาให้ผมกัดเต็มๆเลยครับ  เต็มๆปากเลยครับ
   “เห้ยๆๆ!!” มันผลักผมออก
   “มึงก้มมาทำเชี้ยไรวะ” ผมด่ามัน
   “ใครจะรู้ว่ามึงจะกัดจริงๆวะ แล้วเสือกมากัดปากกูด้วย เหี้ยเอ๊ยทำไมกูต้องมาจูบกับผู้ชายด้วยวะ” มันดูหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
   “มึงก็คิดว่าจูบกับหมาสิวะ มึงด่ากูเป็นหมาไม่ใช่เหรอ” ผมหัวเราะเยาะมัน เอาครับตอนนี้ผมชนะมันครับ
   “ไอ้สัส เดี๋ยวมึงไปกับกูด้านนอก มีปัญหากับกูมากเลยเหรอวะ อ่ะข้องอะไรก็ว่ามา” มันลากผมออกไปข้างนอกร้านเหล้า
   “มึงกูน่ารักมั้ยวะ” ผมไม่รู้เป็นอะไรถึงถามแบบนั้น
   “เป็นเชี้ยอะไรของมึง” มันเหมือนจะไม่เข้าใจอารมณ์ของผม แต่ตอนนี้แม่งลากผมมาที่รถมันแล้วครับ และผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยครับรู้แต่ความรู้สึกเจ็บเมื่อนอนลงบนเตียง และเหมือนมีอะไรหนักๆทันตัวผม ก่อนที่จะตื่นมาพบว่านอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายที่เป็นรุ่นพี่คณะผม
   

   “เรื่องแม่งก็แบบนี้แหละ วันนั้นมึงก็ไม่ยอมออกมากับกู” ผมพูดจบไอ้แม้วแม่งก็ทำตาโต
   “ดีแล้วไม่ใช่เหรอมีผัวแล้วน้องว่านมีผัวแล้ว ว่าแต่มีคลิปมั้ยวะ” ผมตบหัวไอ้แม้วทีนึ่ง
   “มีคลิปก็เหี้ยแล้ว มึงเก็บเป็นความลับนะเว้ย”
   “ทำไมอะ มีผัวเป็นหนุ่มหล่อไม่ดีเหรอวะ”
   “ดีก็เหี้ยแล้ว กูมีอะไรกับคนที่มีแฟนอยู่แล้วนะเว้ย”
   “นึกว่าชอบแดกของคนอื่น” มันด่าผมหน้าตาเฉย ฝากไว้ก่อนเถอะมึง เอาเป็นว่าค่อยรอคนๆนั้นมาเล่าเองดีกว่าครับ




ขอบคุรที่ติดตามน้า แล้วก็หลายๆคอมเม้นท์ที่เม้นท์มาขอบคุณนะ ยังไงก็ติดตามเรื่องหนุกๆอยู่ด้านหลังจ้า หึๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: เมามาย ตอนที่7 02/10/2560
«ตอบ #17 เมื่อ03-10-2017 00:03:58 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่8 09/10/2560
«ตอบ #18 เมื่อ09-10-2017 22:37:23 »


ตอนที่8
กลับบ้าน

ผ่านมาอาทิตย์นึ่งแล้วที่ไอ้ยักษ์ท่อนซุงไม่มายุ่มย่ามอะไรกับผมสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มันจะโทรมาก่อนนอน หลังจากวันนี้ผมได้หยุดสี่วัน เย่!! แปลว่าผมจะได้กลับบ้านแล้วผมโทรไปบอกแม่ตั้งแต่เช้าว่าวันนี้จะกลับบ้าน แต่ไอ้ว่านไม่ได้กลับด้วยนะเห็นว่าพี่ต้นกล้าลากมันไปไหนไม่รู้ เอาจริงๆผมรู้สึกโกธรมันมากนะที่มาแช่งให้ผมมีผัวเนี้ย
   “แม่เดี๋ยวแม้วจะกลับไปแล้วนะเก็บกระเป๋าก่อน”  ผมโทรหาแม่เมื่อถึงห้องของผม ผมรู้สึกดีมากเลยที่อาจารย์ลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเกือบทั้งคณะผมจึงได้วันหยุดมาเพราะ เสาร์-อาทิตย์ก็หยุด จันทร์-อังคารก็ไม่มีเรียนแล้ว แต่หลังจากนั้นชดเชยยาวๆ
   “ค้าบบ เดี๋ยวแม้วนั่งรถไปหานะแม่ ไม่ต้องมารับจ้าเดี๋ยวเดินเข้าไป” ผมบอกกับแม่อีกครั้ง และผมก็เก็บข้าวของให้เรียบร้อยหลังจากที่วางสายไป ผมไม่ได้เจอแม่มาตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว คิดถึงมากมาย
   “แม้วจะกลับไปเล่นเหนียงแม่แล้วน้า” ผมบอกกับตัวเองพลางเดินลงไปข้างล่าง
   “จะไปไหน” ลิฟท์เปิดก็มีเสียงปริศนาดังมาจากด้านหน้าของผม
   “กลับบ้าน” ผมตอบ
   “ซุงไปด้วย” มันแย่งกระเป๋าของผมไปถือ
   “มึงไม่มีเรียนหรือไง บ้านกูตั้งไกลมึงอยู่เนี้ยแหละ” ผมแย่งกระเป๋ามันมาถือเหมือนเดิม
   “ก็ซุงอยากไปด้วยนิ แต่ซุงมีเรียนวันอาทิตย์” มันทำหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
   “ก็อยู่ที่นี้แหละ”
   “ซุงอยากไปด้วย”
   “เป็นอะไรของมึงเนี้ย” ผมเริ่มสังเกตความผิดปกติของมัน มันเหมือนจะขรึมลงไปกว่าเดิม   
   “คิดถึง” มันเงยหน้ามาสบตาผม
   “...”
   “ซุงรีบทำงานหลายวัน เพื่อนที่วันเสาร์จะได้อยู่กับแม้ว แต่แม้วไม่อยู่อีก” ผมผิดเหรอ โอเคผมขอโทษ
   “เอ่อ” ผมไม่รู้จะพูดยังไงผม
   “จะกลับวันไหน”
   “วันอังคาร” ผมตอบ มันยิ้มให้นิดหน่อย
   “งั้นให้ซุงไปส่งขึ้นรถนะ” ผมยอมให้มันไปส่งขึ้นรถ แต่ในเวลานี้รถติดชิบหอย ผมนั่งอยู่บนรถกับมันมาเกือบชั่วโมงแล้ว โอ๊ยกุอยากกลับบ้าน
   “ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ท่อนซุงเริ่มเปิดประเด็น
   “รถติดอยากกลับถึงบ้านไวๆ” ผมเริ่มบ่นยาวยืดให้มันฟัง
   “บ่นไปแล้วรถจะเลิกติดมั้ย” เดี๋ยวนี้มันอัพเลเวลกวนตีนผมแล้วเหรอ
   “จะกวนตีนกูทำไมเนี้ย”
   “ไม่อยากเครียด” มันเอามือมาจับมือผม และผมก็ชักมือตัวเองกลับ
   “...”
   “ขอจับมือหน่อยดิ”
   “ขับรถไปมึง”
   “ครับ” และแล้วมันก็เงียบลงอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรทำไมมันเงียบกว่าทุกครั้ง ถึงแม้ลุคของมันจะเงียบๆเป็นปกติก็เถอะแต่ผมไม่ชอบมันในอาการแบบนี้เลย
   Rrrrrrrrr
ผมมองโทรศัพท์ของมันที่มีสายของคนที่ผมรู้จักโทรเข้ามา
   บิว
   “จะรับก็รับ” ผมบอกมัน ไอ้ยักษ์หยิบโทรศัพท์และกดรับสายพร้อมเปิดแฮนด์ฟรีให้ผมได้ยิน
   “ซุง กว่าจะรับสายบิวได้ ทำไรอยู่คะ” ผมทำท่าไม่สนใจแต่หูผมเนี้ยตั้งใจฟังแบบสุดๆ
   “ขับรถ” มันตอบเสียงเรียบ
   “ไปกินข้าวกันมั้ย”
   “ไม่”
   “ทำไมละ”
   “ไม่ว่าง”
   “แต่ก่อนยังว่าให้บิวตลอดไม่ใช่เหรอ” ไหนมันบอกกับผมว่าเลิกกับบิวแล้วทำไมยังคุยกับอีก แถมบิวยังพูดเหมือนมันสองคนยังไปไหนด้วยกันอยู่
   “นั้นมันแต่ก่อน”
   “แต่ว่าแต่ก่อนนี้ทั้งอาทิตย์ที่แล้วไม่ใช่เหรอ” ผมเหมือนมีอะไรมาแทงที่อกของผม ผมมองหน้าท่อนซุงอีกครั้ง และสายตาที่ตอบกลับมาก็เรียบเฉยเช่นกัน ตกลงมันยังไงกันแน่เลิกกันแล้วหรือยังคบกันอยู่
   “จากนี้ไม่มีเวลาว่างสำหรับบิวอีกแล้ว” ไอ้ยักษ์พูดและตัดสายบิวทิ้ง
   “อย่างพึ่งถาม ให้ซุงอธิบายก่อน” ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากท่อนซุงก็ดักคอผมไว้แล้ว
   “ว่าไง” ผมมองหน้ามันระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนช้าๆ ผมอึดอัดตลอดเวลาที่รอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า
   “คืออาทิตย์ที่แล้วซุงรีบทำงานจริงๆ แต่บิวชอบมาหาที่คณะจะปล่อยไว้ก็ยังไงอยู่ ผู้ชายคณะซุงมีแต่ร้ายๆทั้งนั้น”
   “รวมถึงมึง” ผมพูดขึ้นขัดมัน
   “ใช่ซุงมันร้าย ซุงมันเหี้ยไงที่พยายามจีบแม้วแต่ดันไปกับผู้หญิงคนอื่น แล้วไม่มีเวลาให้แม้ว” มันเริ่มโทษตัวเอง
   “แต่กูไม่ใช่แฟนมึง มึงไม่จำเป็นต้องมีเวลาให้กู” ผมตอบกลับไป สีหน้าของท่อนซุงเริ่มแสดงถึงอารมณ์โกธรอย่างเห็นได้ชัด
   “แม้ว ไม่คิดจะเปิดใจให้ซุงจริงๆเหรอ” นั้นสิผมไม่คิดจะเปิดใจให้มันตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี้ แต่ทำไมในเวลาต่างๆของผมกลับมีมันอยู่ข้างๆ ทั้งข้างกาย และข้างใจของผม ผมเอามือปิดหน้าของผม ขอผมคิดสักพักเถอะ ผมไม่ได้ตอบมันแต่เปลี่ยนเป็นนั่งเงียบ และการตอบรับจากไอ้ยักษ์ก็คือการเงียบใส่ผมกลับมา
   “...”
   “จะตอบได้ยัง”
   “ตอบอะไร”
   “ไม่คิดจะเปิดใจให้ซุงจริงๆใช่มั้ย” มันถามอีกครั้งเมื่อถึงท่ารถที่ผมให้มันมาส่ง ผมเปิดประตูรถลงก่อนที่จะหันไปพูดกับท่อนซุงหนึ่งประโยค
   “คิดว่าให้มึงมาอยู่แบบนี้ปิดใจอยู่มั้งไอ้สัส” ผมด่ามันแล้วรีบปิดประตู เดินตรงไปหารถที่ผมจะขึ้นกลับบ้านทันที
   พาร์ทของท่อนซุง
ผมนั่งเครียงานที่ดังสั่งมาแบบเหมือนจะปิดมหา’ลัยตลอดทั้งอาทิตย์ และทุกเย็นผมก็ต้องปวดหัวเพราะบิวที่ชอบมารอผมที่ใต้คณะวิศวะ คณะที่ขึ้นชื่อเรื่องผู้ชายอันตรายที่สุด และพอแม้วรู้เรื่องผมก็ใจเสียเหมือนกันนะ เหมือนว่าผมทำแต้มอยู่แล้วกรรมการบอกว่าฟาวน์นับแต้มใหม่จาก0 ผมไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ผมได้แต่โทษตัวเองในขณะที่แม้วนั่งเงียบบนรถของผม ผมไม่รู้จะถามหรือพูดอะไร ผมคิดแค่ว่าจากนี้ผมจะทำยังไงให้แม้วเชื่อใจผม ทำยังไงให้แม้วรับรักจากผม จนถึงท่ารถ ผมจึงรวบรวมความกล้าถามแม้วไปอีกครั้ง ซึ่งคำตอบทำเอาผมใจเต้นแรงเหมือนตอนเจอแม้วครั้งแรกที่โรงจอดรถในห้าง
คิดว่าให้มึงมาอยู่แบบนี้ปิดใจอยู่มั้งไอ้สัส
ผมกดสติ๊กเกอร์รูปหมีสีน้ำตาลกอดกับกระต่ายไปในไลน์ของแม้วและคำตอบที่ได้กลับมาคือ
   แม้วง่าว “ไอ้สัส ห้ามถามแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย”
      “เข้าใจครับผม เปิดใจแล้วใช่มั้ย” TONZUN
แม้วง่าว “ถามอีกกูจะปิดแบบไม่เปิดให้มึงอีกเลย”
   “ไม่ถามแล้วครับ” TONZUN
ผมยิ้มกบตัวเองที่มองดูแม้วกำลังขึ้นรถตู้ได้ทันเวลาพอดี
   “จะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนกันนะ” ผมได้แต่คิดในใจ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: เมามาย ตอนที่8 09/10/2560
«ตอบ #19 เมื่อ09-10-2017 23:20:54 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เมามาย ตอนที่8 09/10/2560
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-10-2017 23:20:54 »





ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: เมามาย ตอนที่8 09/10/2560
«ตอบ #20 เมื่อ09-10-2017 23:21:20 »

ท่อนซุง พูดไม่ชัดเจนกับบิว
ถ้าจะเลิกก็พูดให้ชัดเจน เพราะบิวตั้งใจจับท่อนซุง
ถึงไปเฝ้า ไปรอที่คณะ ต้องทำใจแล้วนะเรื่องเป็นห่วง
มันเหมือนให้ความหวังนะ
ถ้ายังใจอ่อนก็ไม่มีทางเลิกได้สำเร็จ

ท่อนซุง คิดหาวิธีที่จะกันบิวตามติดด้วยนะ
เพราะมันเหมือนยังคบกันอยู่
อย่างที่บิวพูด ทำไมยังมีเวลาให้บิวทั้งอาทิตย์ที่แล้ว
ถ้ายังคาราคาซังให้บิวตามติดอีก
ก็อย่าหวังเรื่องเป็นแฟนกับแม้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่9 16/10/2560
«ตอบ #21 เมื่อ16-10-2017 19:20:57 »

ตอนที่9
แม้วกลับมาแล้ว
[/b]
เมื่อคืนผมถึงบ้านดึกมาจนพ่อแม่ที่รอผมหลับไปแล้ว ผมเลยต้องไปหากุญแจที่อยู่ในกะลาหน้าบ้านที่แม่ผมชอบซ่อนไว้ จุ๊ๆอย่าไปบอกใครละครับ
   “แม้วตื่นยังลูก” แม่ตะโกนมาจากชั้นล่าง
   “ตื่นแล้วแม่” ผมตะโกนกลับไป และหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อไปอาบน้ำก่อนที่จะลงไปกินข้าว
   “ไม่เจอกันนานเลยนะ” แม่เข้ามากอดผม
   “โถ่แม่แค่ไม่กี่เดือนเอง” ผมกอดแม่กลับ
   “ไปๆไปอาบน้ำเดี๋ยวพ่อแกกลับมาจะได้กินข้าวกัน”
   “อ่าวพ่อไปไหนอ่ะ” ถ้าให้ผมเดาพ่อคงไปสวนหลังบ้าน จะเรียกว่าสวนก็ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าฟาร์มขนาดเล็กๆ
   “ไปดูสวน” นั้นไงผมทายไม่ถูกแต่หวยนี้แหละครับ งั้นผมขอไปอาบน้ำก่อนละกับครับ
ผมอาบน้ำเสร็จก็เจอพ่อนั่งรอที่โต๊ะอาหาร สายตาพ่อดูเหมือนตะลึงอะไรบางอย่าง ก็แหงแหละผมหล่อขึ้นตั้งเยอะฮ่าๆๆ
   “ไอ้แม้ว เอ็งไปทำอะไรมา” พ่อผมมองหน้าผมอย่างตะลึง
   “แม้วหล่อขึ้นใช่มั้ยละคุณกำนัน” พ่อผมไม่ได้เป็นกำนันนะแต่พ่อผมชื่อกำนัน เท่มั้ยละผมเป็นลูกกำนันเลยนะ
   “หล่อกับผีเอ็งสิ ฮ่าๆๆ” ผมมองพ่ออย่างงงๆ
   “อะไรขอพ่อเนี้ย” ผมนั่งลงข้างพ่อ
   “ก็ไม่เชิงหล่อแต่น่ารักขึ้น มีหนุ่มกรุงเทพมาจีบหรือเปล่า” ผมแทบจะตกเก้าอี้เพราะคำพูดของพ่อ
   “บ้าไม่มี”
   “เอาผู้หญิงกลับมาได้แต่ถ้าผู้ชายนะไอ้นั้นตายแน่” พ่อผมพูดอย่างหนักแน่น
   “แหม่คุณกำนัน ไอ้แม้วมันซนแบบนี้ใครจะเอาเป็นเมีย ถ้ามีหามาหล่อๆนะลูก” ตกลงพ่อผมสนับสนุนให้ผมมีเมีย แต่แม่กลับสนับสนุนให้ผมมีผัวเหรอครับ
   “โอ๊ยถ้ามีเดี๋ยวพามาหาเลยดีมั้ย แต่นี้ไม่มีไงทั้งตัวผู้ทั้งตัวเมีย เอ้ากิน!!” ผมหยิบช้อนซ้อมมาถือแบบเด็กเล็กพร้อมเสียงหัวเราะของพ่อแม่ตามมา
   “ทำเป็นโกธรนะ เอ้ากินๆพ่อแค่จะบอกว่าเอ็งโตขึ้นเยอะแล้วแค่นั้นเอง หาเมียมาฝากพ่อได้แล้วนะ” ยังไม่จบเรื่องเมียเดี๋ยวผมหาผัวเข้ามาให้เลยดีมั้ย เดี๋ยวพาไอ้ยักษ์มาเปิดตัวให้พ่อหงายเงิบเลยดีมั้ย
   “แล้วนี้เรียนเป็นไงบ้างทำไมถึงได้กลับมาบ้านละ” แม่ผมถาม
   “ก็อาจารย์ไปเที่ยวกันเลยได้หยุดแต่กลับไปนี้ตายแน่นอน” ผมทำท่าเบื่อโลก
   “เดี๋ยวกินขาวเสร็จไปช่วยพ่อทำสวนหน่อยนะ กำลังจะเอาต้นไม้ลง เออใช่พ่อซื้อม้ามาด้วย” ม้าเหรอผมจำได้ตอนเด็กๆผมบอกพ่อให้ซื้อม้ามาเลี้ยง แต่ตอนนั้นครอบครัวผมไม่ได้มีตังเหมือนตอนนี้ ผมจำได้ว่าไปงานวัดแล้วเขาเอาม้ามาโชว์ผมชอบมากจนงอแงให้พ่อพาม้าที่เขาเอามาโชว์ใส่กระเป๋ากลับบ้าน
   “จริงเหรอ ป้ะพ่อรีบกินเลย”
ผมเดินตามพ่อไปที่สวนข้างหลังบ้าน สวนที่ผมชอบวิ่งเล่นตอนเด็กมันต่างไปจากแต่ก่อนมาก มันกว้างขึ้นสวนมีการจัดสถานที่ดีขึ้น แถมยังมีสัตว์มากขึ้นด้วย ผมรู้สึกแปลกๆที่เดินตามพ่อแล้วมีคนงานมองผมตลอดทางผมรู้ครับว่าผมหล่อ
   “อ่าวลุงพาใครมาอ่ะ” ผมมองไอ้เด็กน้องน่าจะม.ต้น ที่วิ่งมาหาพ่อผมพร้อมทำหน้าสงสัย
   “คิดว่าใคร” ผมตอบกลับไปตามนิสัยกวนๆของผม
   “จะรู้มั้ยละไม่งั้นไม่ถามหลอก” อ่าวไอ้นี้ มันสวนผมกลับแล้ววิ่งหนีไปหาเพื่อนของมันที่รวมเป็นแก๊งค์อยู่ใกล้ๆต้นไม้ใหญ่แถวนั้น
   “ฮ่าๆๆ เห็นเด็กพวกนี้นึกถึงเอ็งตอนเป็นเด็กๆ ซวนเหมือนกันไม่มีผิดเลย
   “โหยพ่อ แม้วว่าแม้วน่ารักกว่านี้เยอะว่าแต่เด็กเมื่อกี้ใครอ่ะ” ผมถาม
   “ลูกคนงานนี้แหละ เดี๋ยวเอ็งไปช่วยยกถุงปุ๋ยมาหน่อย” คุณกำนันชี้ไปที่ถุงปุ๋ยที่กองรวมกับเป็นสิบๆ
   “เอาไปทำอะไร” ผมถามแต่ก็เดินไปยกให้แต่โดยดี ผมไม่ได้ทำงานแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว
   “เอาไปใส่ต้นไม้สิวะ เอ็งจะเอาไปโรยให้แม่เอ็งกินหรือไง” นั้นแหละครับการตอบกวนๆแนวคุณกำนันพ่อผม
   “แม่แม้วก็ที่รักคุณกำนันนะ” ผมเลยสวนกลับไปพร้อมหัวเราะ
   “เออวะพ่อลืมไปเลยฮ่าๆ” เห็นมาดโหดๆแบบนี้พ่อผมก็ใจดีนะครับ
ผมช่วยงานพ่อจนเสร็จผมเลยถือโอกาสนี้ไปเดินเล่นรอบสวนสักหน่อยอยากรู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนแล้ว ผมมองซ้ายขวาหาแหล่งที่น่าจะเป็นคอกม้า ผมเดาว่าน่าจะเป็นข้างหน้าผมนี้แหละ ผมเดินเข้าไปข้างในที่มีม้าอยู่ด้านซ้ายขวา
   “หวัดดีสหาย เราเป็นหัวหน้าใหญ่ของพวกนายนะ เราชื่อแม้ว” ผมตะโกนลั่นคอกม้า
   “ฮ่าๆๆๆ” เสียงใครหัวเราะวะ
   “เห้ย!! ไอ้เด็กพวกนี้” ผมหันไปตะวาดพวกเด็กๆลูกคนงาน
   “คุยกับม้ารู้เรื่องด้วยวะฮ่าๆๆๆ” เทพไง ทำไมละทำไม่ได้แล้วอิจฉาละสิ
   “แล้วไง คุยไม่ได้กันละสิ” ผมพูดอย่างมีเชิง   
   “ไหนพูดให้ดูหน่อย ถ้ามันทำตามจะนับถือเป็นลูกพี่เลย” นี้แหละครับโอกาสที่จะกลับมาเป็นหัวโจกของไอ้แม้วอีกครั้ง แต่ปัญหาคือผมพูดกับม้าไม่ได้
   “รอดูเลย” ผมพยายามมองหาม้าตัวที่น่าจะเชื่องที่สุดก่อนที่จะเดินเข้าไปหา นี้แหละม้าตัวสีดำหล่อจังนะ ผมคิดว่าตัวนี้น่าจะเอาไปโชว์ได้น่าจะมีการฝึกมาไม่มากก็น้อย
   “สีนิลเลยวะ อู้ว” เด็กหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น สีนิลทำไมวะ
ผมเดินเข้าไปหามันใกล้ๆ ก่อนที่มันจะทำท่าฟุดฟิดๆ เห้ยขนาดนี้แล้วกูกลับไม่ได้นะเว้ยอายเด็กมัน
   “ขอจับหน่อยนะ” ผมพูดเบาๆกับตัวเอง จังหวะที่ผมเอามือเข้าไปใกล้กับหน้า มันก็สะบัดหัวหนี
   “โดนแน่ๆ” ไอ้เด็กพวกนี้จะพูดทำไมวะกูเสียว
   “เราชื่อแม้วนะ เรามาดีนะสีนิลสุดหล่อ” ผมพยายามเข้าไปใกล้มันอีกนิดจนสามารถจับหัวมันได้ ผมค่อยๆลูบไปตามคอสีดำสนิท
   “เห้ย แค่จับสีนิลได้ก็สุดยอดแล้ววะลูกพี่!!” ผมบอกแล้วครับ นี้แหละไอ้แม้ว
   “ขอบคุณนะที่ไม่ทำให้เราขายหน้าต่อหน้าเด็ก” มันเอียงคอเข้ามาหาผม
   “ว่าแต่ลูกพี่ชื่อแม้วใช่มั้ย” มันถามผม
   “ใช่”
   “ลูกพี่เป็นใครทำไมเข้ามาในสวนนี้ได้ ผมไม่เคยเห็นหน้าเลย” แหงสิตอนผมอยู่ยังไม่มีเด็กพวกนี้เลย
   “เป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น” ผมตอบกลับ และบอกให้มันพาผมไปชมสวนที่ค่อนข้างไปทางฟาร์มมากกว่า ผมเดินตามเด็กพวกนั้นที่พาเดินไปรอบๆ ที่นี้สวยจนทำให้ผมตะลึง ผมหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปตามทางไปเรื่องๆ
   “ถ่ายรูปเหรอ” เด็กที่เข้ามาถามพ่อผมพูดขึ้น
   “ใช่ ถ่ายด้วยกันมั้ย” ผมชวนและมีเหรอที่เด็กพวกนี้จะปฏิเสธผมจึงถ่านรูปกับเด็กพวกนี้ไปหลายรูป จากที่ผมจะถ่ายแต่วิวกลับถ่านรูปเด็กพวกนี้ไปซะเยอะเลย งั้นเดี๋ยวผมล้างรูปให้พวกมันแล้วกันถือว่าเอาใจลูกน้องของผม
   “ข้างบนมันเป็นเนินที่สูงที่สุดในฟาร์มนี้แล้วนะ ตอนกลางคืนถ้าฟ้าโปร่ง เราสามารถเอาเต็นท์มากางนอนดูดาวได้” เด็กที่ค่อยข้างเงียบๆแต่เหมือนจะรู้เรื่องเกี่ยวกับฟาร์มนี้เยอะพอสมควรพูดขึ้น
   “พาแฟนมาดูดิ” เด็กคนเดิมพูดขึ้น ผมไม่ได้ตอบพวกเด็กๆแต่ผมเดินขึ้นไปเพื่อถ่ายรูปท้องฟ้าโปร่งจากเนินตรงนั้น และส่งรูปไปให้ไอ้ยักษ์
   แม้วง่าว “เขาบอกว่านอนดูดาวที่นี้สวยมากเลยนะ”
   “ชวนเหรอ ไว้ไปด้วยกันนะ” TONZUN
   แม้วง่าว “ฝันไปเถอะ”
แล้วไอ้ยักษ์ก็ส่งสติ๊กเกอร์เลิฟมาให้ผม ผมเลยส่งรูปบรรยากาศของฟาร์มที่พ่อผมสร้างขึ้นมาให้มันดู แถมบอกว่า ถ้าอยากมาก็บอกเดี๋ยวพามา

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่10 28/10/2560
«ตอบ #22 เมื่อ28-10-2017 19:58:36 »

ตอนที่10
ทำไปเพื่ออะไร

ผมกลับเข้ากรุงเทพอีกแล้วครับและมั่นใจได้เลยว่าอาทิตย์แห่งการเรียนกลับมาอีกครั้ง ผมอยากลาออกแล้วไปทำสวน(ฟาร์ม)ช่วยพ่อผมจัง แต่ผมเลือกแล้วนิต้องทำให้ดีที่สุด วันนี้การเรียนผ่านไปได้ด้วยดีนักศึกษาแพทย์หลายรายกำลังสับสนงุนงงกับเนื้อหาใหม่ที่อาจารย์พึ่งสอนไปในคาบเช่นเดียวกับผมที่นั่งดูชาเขียวแก้วละสิบบาทใต้ต้นไม้สบายใจ ผมได้แต่คิดในใจว่าเทอมนี้จะแดกเอฟกี่ตัวดี
   “มึงแม้ว” ไอ้ว่านที่ดูดน้ำหมดไปสองแก้วเรียกผม
   “ว่าไง” ผมไม่ได้สนใจมันมากผมสนใจชาเขียวในมือผมมากกว่า
   “กูทำไงดีวะถ้าเกิดมีคนๆนึ่งทำท่าเหมือนจะชอบกูแต่เขามีแฟนแล้ว แต่เสือกมาขายขนมจีบบ่อยๆ มึงคิดว่าเขาจริงจังมั้ยวะ” มึงมาไม้ไหววะไอ้ว่านทำเอาสะกูอยากเสือกอีกแล้ว
   “พี่ต้นกล้าป้ะ” ผมลองเดา
   “มึงรู้ได้ไง” มันทำท่าตกใจ
   “ก็วันๆเห็นมึงมองแต่พี่เขา แล้วคนที่แวะมาขายขนมจีบมึงก็เห็นแต่พี่ต้นกล้าคนเดียวไม่ใช่เหรอไงวะ” ผมใช้หลักการนักสืบ(เสือก) ของผม
   “แต่กูไม่ได้คิดอะไรกับมันนะเว้ย” กูจะเชื่อมึงเพื่อนขนาดไม่ได้คิดอะไรมึงจะพล่ามขนาดนี้
   “แล้วไอ้ท่อนซุงมึงละ” ผมสำลักชาเขียวที่กำลังดูดอยู่
   “มันก็เฉยๆอ่ะ”
   “มันจีบมึงมั้ย” เสือกจังวะมึง ผมได้แต่ด่ามันในใจเพราะความจริงแล้วผมเสือกหนักกว่ามันอีก
   “ก็จะว่าแบบนั้นก็ได้มั้ง แต่กูก็เฉยๆเหมือนกันวะ” ผมบอกตามที่ผมรู้สึกไป
ผมกลับถึงหอด้วยอาการร่าเริงผิดปกติ ผมเปิดประตูห้องเข้ามาก็เจอกับห้องที่ผมนอนเป็นประจำ แต่สิ่งที่ผมว่ามันไม่เคยอยู่ในห้องผม ซองจดหมายสีขาว ผมเปิดมันออกมาอ่าน
   ดีกันได้มั้ย จากบิว
ผมพูดอะไรไม่ออกก่อนที่จะโยนกระดาษนั้นทิ้งลงถังขยะ ผมได้แต่ถามตัวเองถ้าผมเจอบิวจริงๆผมจะทำแบบนี้ได้มั้ยหรือว่าผมจะกลับไปหาเธอดี
   “เห้อทำไมอะไรที่มันยุ่งยากชอบเข้ามาทีเดียวจังวะ” ผมบ่นไป มือก็พลางกดเบอร์หาไอ้ยักษ์ ไม่นานมันก็รับสายผม
   “ว่าไง” มันทักผม
   “กลับมาแล้วนะ” ทำไมผมรู้สึกเหมือนเมียที่รายงานผัวหลังจากไปสัมมนาต่างจังหวัด
   “รู้แล้ว” มันรู้ได้ไงวะ
   “มึงรู้ตอนไหน”
   “รู้ตอนที่แม้วโทรมาเนี้ยแหละ”
   “สัส หิวข้าวมารับไปกินข้าวหน่อยดิ”
   “จริงดิจะให้ไปรับเหรอ” น้ำเสียงมันดูดีใจมากแตกต่างจากวันที่ผมให้มันไปส่งที่ท่ารถ
   “จะล้อเล่นทำไม เร็วๆหิว”
   “แต่เอารถเข้าอู่เมื่อกี้เอง แท็กซี่มั้ย”
   “ไม่เอาเปลืองเงิน งั้นไปยืมจักรยานที่อู่มาเขาน่าจะมีอยู่”
   “ยืมทำไม อู่ก็ของบ้านซุงนะ” ไอ้เชี้ยนี้ชักจะรวยไปละครับ เอาเถอะยังไงก็ชั่งตอนนี้ผมหิว
   “เอามาเถอะ จะเดินมาก็ตามใจเร็วๆเลยหิว” ผมตัดสายและรอเวลาให้มันมาหาผม ผมมองไปที่กองขนมที่เอามาจากบ้านโดยไม่ลืมหยิบอะไรบางอย่างติดตัวลงไปด้วยเมื่อท่อนซุงมาถึง
   “เอาจักรยานมาจริงๆเหรอ” ผมถามและแอบขำท่อนซุงนิดหน่อย
   “ก็มีแต่คันนี้แหละที่ว่างทำไมไม่กล้านั่งเหรอ” ผมยังคงหัวเราะไม่หยุด
   “ทำไมจะไม่กล้านั่งแค่มึงดูไม่เหมือนคุณชายอะไรเลย” ผมเดินไปนั่งซ้อนที่เบาะหลัง
   “ซุงไม่ได้อยากเป็นสักหน่อยคุณชายอะไรนั้น ซุงแค่อยากใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแค่นั้น” มันพูดไปพร้อมกับปั่นจักรยานไปตามทาง
   “ไปร้านก๋วยเตี๋ยวหลังมอนะ” คือหอผมอยู่ทางหน้ามอ นั้นก็แปลว่ามันต้องปั่นไปด้านหลังของมอ เพื่อไปกินก๋วยเตี๋ยวถือว่าออกกำลังกายไปนะไอ้ยักษ์
   “ได้ครับ ร้านเปิดใหม่ใช่มั้ย” มันหันมาถามผม เดี๋ยวมึงไม่มองทางเหรอวะ
   “ใช่ดิ ขับดีๆดิเดี๋ยวก็ล้ม”
   “กลัวก็กอดไว้ดิ”
   “กลัวติดโรคไม่เอา” แต่ผมไม่ได้จะแกล้งมันนะ ผมจับที่ปลายเสื้อของมันด้วยมือข้างนึ่งของผม ส่วนอีกข้างก็ถือโทรศัพท์ถ่ายรูปด้านหลังของมันไว้ นักศึกษากำลังปั่นจักรยาน ข้างทางมีต้นไม้ใหญ่เรียงรายล้อมรอบ แสงอาทิตย์สีส้มอ่อนๆ รูปที่ออกมามันดูสวยมาก ถึงแม้จะใกล้ไอ้ยักษ์ไปก็ตาม
   “ท่อนซุง” เป็นไม่กี่ครั้งที่ผมเรียกชื่อมันเต็มๆ
   “ว่าไงครับ” น้ำเสียงมันดูอ่อนโยนกว่าปกติ
   “คือตอนกูกลับห้อง กูเจอจดหมายของบิวบอกว่า คืนดีกันนะ” ท่อนซุงไม่ได้ทำท่าตกใจอะไร สองขาก็ยังคงถีบจักรยานไปเรื่อยๆ
   “แล้วแม้วว่าไงละ” ผมว่าไงเหรอ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรบิวแล้วสะหน่อย
   “เอาทิ้งไปแล้ว”
   “เลิกชอบบิวแล้วเหรอ”
   “ก็คงงั้นมั้ง”
   “แสดงว่าชอบซุงแล้วละสิ”
   “...” คำตอบของผมมีเพียงฝ่ามือหนักๆประทับที่หลังของไอ้ยักษ์จนทำให้จักรยานโอนเอนนิดหน่อยพอให้หวาดเสียว
   “ซุงก็ไม่ได้อะไรกับบิวแล้วนะ”
   “แน่ใจ”
   “เปิดใจให้ซุงแล้วก็ช่วยเชื่อใจด้วยได้มั้ย” ทำไมผมต้องยอมมันตลอด ทั้งเปิดใจและตอนนี้ผมกำลังเชื่อใจมันใช่มั้ยครับ
   “ทำไมมึงต้องให้กูเชื่อใจมึงด้วย หล่อๆ รวยๆแบบมึงหาสาวใหม่ได้ไม่ยาก แต่ก่อนเห็นควงไม่ซ้ำหน้า แล้วเดี๋ยวนี้คืออะไร ทำดีกับกูเพื่ออะไร” ผมถามในสิ่งที่ผมสงสัยมานาน
    “คำตอบมีแค่คำเดียว”
   “...” ผมตั้งใจฟังคำตอบจากมัน
    “แม้ว” ห๊ะ จะตอบก็ตอบดิจะเรียกทำไม
   “จะเรียกทำไมกูฟังมึงอยู่”
   “ไม่ได้เรียกแต่แม้วเป็นคำตอบของซุงจริงๆ” ทำไมผมรู้สึกดีกับคำพูดของมันแบบนี้ อยากเห็นจังว่าตอนนี้ท่อนซุงทำหน้าแบบไหน แต่ถ้ามันหันมามองหน้าผมก็จะเห็นว่าผมยิ้มแน่นอน
ก๋วยเตี๋ยวไก่ไข่คุณเค็ม
ผมเดินนำไอ้ยักษ์ที่ไปจอดจักรยานข้างร้านโดยไม่ลืมแกล้งมันโดยผมบอกมันว่าจะไปสั่งไว้รอแต่ความจริงคือผมจะสั่งให้มันกินแบบเผ็ดๆครับ โชคดีที่ร้านนี้เขาปรุงมาให้เลยครับ มึงเสร็จกูแน่ไอ้ท่อนซุง
   “คนเยอะจัง” ไอ้ยักษ์พูดก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งฝั่งตรงข้ามกันผม
   “ก็ร้านนี้รีวิวดีคนก็เลยแห่มา” ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ตามรีวิวมาครับ
   “ว่าแต่สั่งอะไรให้ซุงอ่ะ” เล็กต้มยำเผ็ดๆแบบที่พริกยังเรียกพ่อ
   “รอดูเอาเอง กูอุตส่าห์สั่งให้กินให้หมดนะมึง”
   “คงสั่งเผ็ดๆมาแกล้งซุงใช่มั้ย” ผมทำตาโตมึงมีจิตสัมผัสเหรอวะ
   “รู้ได้ไง”
   “ที่จริงก็ไม่รู้เหรอลองพูดเล่นเฉยๆไม่คิดว่าแม้วจะโป๊ะแตก” มันพูดไปขำไป เออกูมันไม่เนียน
   “ไรว๊า จะแกล้งมึงสักหน่อย” ผมบ่นอิดออด
   “งั้นก็ซุงจะทำเป็นไม่รู้แล้วกันนะ” มันพูดหน้าตาเฉยแล้วหยิบน้ำมากินอย่างชื่นใจ
   “เดี๋ยวเถอะมึงระวังตัวไว้ดีๆ” ผมชี้หน้ามัน ไม่นานก๋วยเตี๋ยวพิเศษที่ผมสั่งให้ไอ้ยักษ์ก็มาถึงครับ แดงฉูดฉาดเลย
   “ใจคอจะให้กินอันนี้จริงๆเหรอ” มันพูด
   “เอามาเดี๋ยวกินเอง” ผมทำท่าจะแย่งแต่มันขวางไม่ให้ผมหยิบชามนั้นไป
   “ไม่เป็นไรแม้วอุตส่าห์สั่งให้” มันพูดจบก็ซดน้ำซุปเข้าปากผมเห็นมันแอบกระพริบตาด้วย ผมแอบขำในใจ
   “เผ็ดมากอ่ะ” หลังจากที่มันกินจนหมดผมยังอึ้งเลยกระเพราะมึงไม่เป็นไรเหรอวะ
   “ไหวมั้ยเนี้ย” ผมถาม
   “ไหวๆ ป้ะกลับกัน” ผมนั่งซ้อนท้ายมันอีกครั้ง ระหว่างทางผมก็ได้เจอบรรยากาศที่ผมไม่ค่อยได้เจอสักเท่าไหร่ ลมเย็นสบายๆกับทางที่ไม่ค่อยมีคนสัญจรสักเท่าไหร่ 
   หมับ
มือผมถูกคว้าเอาไว้ด้วยมือของยักษ์ที่ขับจักรยาน ผมรีบดึงมือกลับทำไงได้ละผมไม่ชินวะ 
   “แม้ว” มันเรียกชื่อผม ผมพอจะเดาออกว่ามันจะพูดอะไร
   “กูบอกเปิดใจไม่ใช่ว่ามึงจะทำอะไรกูก็ได้นะ” 
   “ไม่ใช่เรื่องนั้น” มันแย้งครับ
   “แล้วมีอะไร” 
   “ปวดท้อง แบบแสบๆอ่ะตรงกระเพราะ” ผมบอกให้มันจอดและถามอาการมันเพิ่มเติมนิดหน่อย สรุปได้ว่ามันเป็นโรคกระเพราะอยู่แล้วเลยกินเผ็ดมากๆไม่ได้ รวมถึงวันนี้มันไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วย สรุปกูผิดอีกแล้วใช่มั้ย
   “ทำไมไม่บอกกูวะว่าเป็นโรคกระเพราะ” ผมทำเหมือนมันเป็นเด็กที่โดนแม่ด่า
   “ก็กลัวแม้วจะไม่แกล้งซุงแล้วไง” สรุปคือมึงยอกให้กูแกล้งเหรอ
   “แล้วปั่นต่อไหวมั้ย” 
   “ก็ไหวอ่ะแต่มันปวดๆ”
   “เดี๋ยวกูปั่นเองไม่ซ้อนไป” สรุปคือผมปั่นแล้วมันซ้อนครับแรกๆก็ไม่อะไรนะครับ พอได้สักครึ่งทางและไม่ค่อยมีคนแล้วมือมันก็อยู่ไม่สุขครับจับตัวผมทีเล่นหัวผมบ้างเอาสะผมด่ามันไม่ทัน แต่ที่พีคที่สุดคือมันมากอดเอวผมครับ ตัวมึงก็ไม่ใช่เบาๆยังจะมากวนกูอีก แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันนะครับเพราะเหตุผมของมันที่บอกว่า เป็นหมอต้องตามใจคนป่วยดิ หรือว่า รู้สึกดีที่มันกอดผมก็ไม่สามารถบอกได้ครับ



................................

ห่างหายไปเกือบหนึ่งอาทิตย์ ขอโทษด้วยที่ลงช้าไปหลายๆวัน
ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจหรือจะให้คำแนะนำไรท์ก็ยินดี  :hao5: :hao5:
ยังไงช่วยติดตามกันต่อไปด้วยน้าา

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: เมามาย ตอนที่10 28/10/2560
«ตอบ #23 เมื่อ28-10-2017 22:46:48 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: เมามาย ตอนที่10 28/10/2560
«ตอบ #24 เมื่อ29-10-2017 01:30:42 »

 :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่11 07/11/2560
«ตอบ #25 เมื่อ07-11-2017 19:50:46 »

ตอนที่11
เส้นขนาน 2

   พาร์ทของว่าน
ผมตื่นงัวเงียกลางดึกเพราะเสียงเคาะประตูที่ทำลายการนอนอันแสนสบาย ผมเดินไปเปิดประตูและพร้อมคิดคำพูดที่จะด่าคนที่มารบกวนเวลาแห่งความสุขอันแสนหวาน
   “มาทำเชี้ยอะไรกลางดึง” ทันทีที่ผมเปิดประตูไปก็พบกับไอ้กล้า หรือที่ใครๆเรียกกันว่าพี่กล้า หรือพี่ต้นกล้า แต่สำหรับผมแล้วผมหมดความนับถือมันไปนานแล้วละครับ
   “มาหามึงไง”
   “มึงจะมาหากูทำไม กลับไปซะกูจะนอน”  ผมรีบปิดประตูแต่ก็ไม่ทันมันใช้เท้าขวางเอาไว้
   “คิดจะหนีจากกูเหรอ” มันพูดและแทรกตัวเข้ามาในห้องของผม
   “มึงจะอะไรอีกวะ” ผมเริ่มอารมณ์เสีย
   “ก็กูมาหามึงไง เห็นว่าร้องเรียกหากูมาทั้งอาทิตย์แล้วไม่ใช่เหรอ” มันพูดแถมยังทำหน้าตาไม่รู้สึกเหี้ยอะไรเลย จริงครับผมร้องเรียกหามันมาทั้งอาทิตย์ มึงเข้าใจมั้ยว่า คิดถึง
   “แต่พอกูต้องการมึง มึงไม่เคยมาหากูเลยทีอย่างเนี้ยทำเป็นมาหา เงี่ยนละสิ เมียมึงไม่อยู่หรือไง”
     ปั้ง
ทันทีที่ผมพูดจบมันก็ตบไปที่ผนังห้องอย่างแรง
   “ก็มึงไงเมียกู มึงจะเรื่องมากอะไรอีกวะกูมาหามึงก็ดีแค่ไหนแล้ว ขวัญก็แฟนกู แต่มึงเป็นใครเรียงลำดับความสำคัญตัวเองด้วย” มันตะวาดใส่ผม ผมไม่รู้จะเถียงกับมันยังไงแล้วสิ่งที่มันพูดมาถูกหมดทุกอย่างและผมก็ไม่ได้สำคัญเท่าพี่ขวัญ ผมก็แค่คนคลายเหงาของมัน
   “งั้นกูกับมึงก็พอเถอะ ปล่อยกูไปเถอะ” ผมไม่สามารถเก็บน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว ผมพอแล้วกับสถานะแบบนี้ ผมไม่อยากอยู่โดยการเป็นมือที่สามของคนอื่น
   “ไม่” มันพูดแค่คำนั้นคำเดียวและยังล้มตัวลงนอนบนเตียงของผม
   “มึงแม่งเหี้ย ทำอะไรก็คิดถึงความรู้สึกกูบ้าง ความรู้สึกของแฟนมึง มึงเคยคิดถึงจุดๆนั้นบ้างมั้ย” ผมด่ามันเบาๆ
   “เออกูมันเหี้ย กูมันเลว แล้วมึงคิดถึงความรู้สึกกูมั้ยวะ” ผมมองภาพของมันที่ทำหน้าตาเบื่อโลก เหมือนมันแบกปัญหาเอาไว้
   “...” มันลุกขึ้นมานั่งท่าทีของมันเอาทำใจที่ร้อนลุ่มของผมเย็นลงทันตาเห็น
   “เข้าใจกูบ้างได้มั้ย กูจะบอกอะไรมึงไว้มีคนดีที่ไหนที่ได้กับคนที่ไม่รู้จักแค่ครั้งเดียวแล้วชอบมั้ยวะ ห๊ะได้ยินมั้ยวะว่ากูชอบมึง แต่จะให้ทำไงได้วะกูคบกับขวัญอยู่ กูไม่อยากให้เขาเสียใจ” มันพูดออกมาผมก็รู้สึกแบบเดียวกันกับมันครับ แต่ในเมื่อผมมาทีหลังผมขอไปเองดีกว่า
   “งั้นกูจะไปเอง ให้มึงกับพี่ขวัญได้มีความสุขเถอะ” ผมล้มตัวลงบนเตียง
   “...”
   “คืนนี้อยู่กับกูก่อนนะ ตื่นแล้วก็ถือว่าเราไม่รู้จักกัน” ผมพูดแบบนั้นไปและดึงไอ้คนที่เอาแต่มองหน้าผมลงมานอน แขนของผมก็กอดร่างกายของคนที่ผมรู้สึกดีด้วย
   “แน่ใจว่ามึงจะเลือกแบบนี้” มันถามผม
   “อืม มันไม่มีทางไหนที่ดีกว่านี้แล้ว” ผมเอิ่มมือไปปิดไปที่ตัวเตียงก่อนที่ห้องทั้งห้องจะมือสนิท มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ทำให้เห็นเงารางๆ
   “แล้วความรู้สึกมึง”
   “ไม่ต้องห่วงความรู้สึกกู กูเป็นใครไม่รู้แต่เขาเป็นแฟนมึง” ผมพอแล้วกับสถานะแบบนี้ ผมอยากจะเลวกว่ามันด้วยซ้ำที่ไปเอาของคนอื่นมา
   “น้องว่าน” ผมมองมันในความมืด นี้เป็นครั้งแรกที่มันเรียกผมแบบนี้ทำเอาใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ
   “อะไรของมึง”
   “พูดเพราะๆได้มั้ย” มันเอามือมาจับแก้มของผม
   “ไม่ใช่แนวของกู” มันปัดมือมันออกถึงแม้จะอยากให้มันจับก็ตาม
   “ถือว่าพี่ขอสักครั้ง”
   “...” ผมไม่เคยคิดที่จะเรียกมันว่าพี่สักครั้ง
   “พี่ไม่อยากให้เราสองคนเป็นคนที่ไม่รู้จักกันนะ จากนี้เราเป็นพี่น้องกันได้มั้ย”
   “....” พี่น้องเหรอ
   “พี่ต้นกล้ากับน้องต้นว่าน
   “...”
   “พี่ไม่อยากให้ว่านไปจริงๆนะ” มันเอาแขนมากอดผมกลับ
   “...”
   “ได้มั้ย พี่ไม่อยากเสียเราไจริงๆ”
   “เคยคิดมั้ยว่าได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง” ผมมองหน้ามันที่ค่อนข้างจะรางๆผ่านความมืด ในใจผมก็ไม่ได้อยากจะเสียมันไปครับ แต่เพื่อความถูกต้องผมต้องผมเสียมันไปดีกว่า
   “บางอย่างก็ควรที่จะใช้ใจตัดสินมากกว่าสมองนะ”
   “เออๆ พี่ต้นกล้ากับน้องต้นว่านก็ได้ แค่พี่น้องพอนะห้ามมีอะไรเกินเลย” ผมไม่ได้บอกแค่มันเหรอครับผมบอกตัวผมเองด้วย
   “ฝันดีนะครับน้องต้นว่านของพี่” มันจุ๊บที่หน้าผากผมทีนึ่งก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ผมมองภาพของ พี่ต้นกล้า พี่ชายคนใหม่ของผมเดินออกไปน้ำตาใสๆก็ไหลออกจากดวงตาของผม มันเป็นเวลาที่หนักหน่วงและผมไม่อยากเจอแบบนี้เลย ผมได้แต่ภาวนาในใจให้วันพรุ่งนี้สดใสเหมือนเดิม ความรู้สึกที่ผมมีให้มันคงจะน้อยกว่าที่พี่ขวัญมีให้ ถ้าผมเลือกได้ผมก็อยากเป็นคนที่มันเลือกนะครับ แต่ความจริงก็คือความจริงในเมื่อผมบอกแบบนั้นไปแล้วผมจะมาเสียใจทีหลังไม่ได้ ยังไงแฟนเขาก็ต้องสำคัญกว่าผม และนั้นคือสิ่งที่ผมคิดได้ในตอนนั้น ผมเปิดหน้าต่างและมองลงไปข้างล่างก็เจอพี่ต้นกล้ากำลังจะขึ้นรถ
   “ฝันดีนะพี่ชาย” ผมตะโกนแบบไม่เกรงใจว่าจะมีใครตื่น ผมเห็นมันมองมาที่ผมก่อนที่จะโบกมือให้ น้ำตาที่ไหลไม่หยุดของผมมันอาบหน้า พร้อมกับจี่เหมือนสะลายไปเพราะคำพูดของตัวผมเอง นี้หละคือผลกรรมของผมที่ผมได้ก่อขึ้นมา
   วันรุ่งขึ้น
ผมแทบไม่ได้นอนเลย ตานี้บวมช้ำไปหมดสภาพตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหมีแพนด้าครับแต่ผมไม่น่ารักเท่าหมีนะครับ ผมขับรถเข้ามาที่ตึกคณะในเวลาเช้าเพื่อมารอไอ้แม้วตรงที่ประจำของพวกผม แต่วันนี้ผมมาเช้ากว่าปกติเพราะงั้นกูขอไปกินข้าวก่อนนะแม้ว ผมเดินเข้าโรงอาหารของคณะ สายตาก็กวาดมองหาบุคคลหนึ่งแต่ก็ไม่พบ
ผมมองจานข้าวในมือของผม ก่อนที่จะเขี่ยเล่นเป็นอาหารหมาไปแล้ว
   “จะกินก็กินดิวะจะเขี่ยทำไม” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ผมหันซ้ายขวาก็ไม่เจอใครสงสัยผมคงจะหูแว่วไปแล้วครับ
   “มึงแม่งอยู่เฉยๆดิ กูจะทำงาน” เสียงในหัวของผมมันดังขึ้นมา
   “จะนอนแล้วเหรอขอกอดหน่อยนะ”
   “พรุ่งนี้โทรปลุกด้วย”
   “ให้ไปรับมั้ย”
   “สัส อย่ากัดลิ้นกู”
   “อยู่กับกูแบบนี้ไปนานๆนะ”
แต่ละประโยคคือช่วงเวลาที่ผมกับมันผ่านมาด้วยกัน ทุกฉากทุกถ้อยคำยังจดจำอยู่ในหัวของผม แต่ว่าผมแม่งเป็นหนักไปละคิดถึงมันจนเห็นภาพหลอนจนได้
   “เหม่ออะไรของมึง” เสียงแม่งมาเต็ม
   “กูหลอนไปละ เลิกคิดถึงมันได้แล้ว” ผมบอกกับตัวเองก่อนที่จะก้มลงกินข้าวในจานที่ผสมกันจนไม่รู้ว่ามันคืออะไร
   “รุ่นพี่พูดด้วยทำไมไม่เงยหน้ามาคุยดีๆละครับน้องว่าน” ผมค่อยๆเงยหน้าช้าๆ ก็เจอมันยืนยิ้มแฉ่งอยู่ มึงไม่ได้เสียใจอะไรเลยเหรอวะ
   “...”
   “นั่งด้วยคนดิ” มันพูดจนก็ถือจานข้าวลงมานั่งฝั่งตรงข้ามกับพี่
   “...”
   “กินของพี่มั้ย อร่อยนะ” ในสมองของผมนั้นขาวโพลนไปหมด สายตาโฟกัสแค่คนตรงหน้าเท่านั้น
   “ไม่เอา” ผมตอบ
   “งั้นพี่ขอชิมของว่านหน่อยดิ” มันพูดจบก็ตักข้าวของผมเข้าปากก่อนจะยิ้ม
   “อร่อย” มันพูดหลังจากที่กินเข้าไป
   “งั้นพี่ก็กินให้หมดแล้วกัน” ผมเลื่อนจานไปตรงหน้าของมัน ก่อนที่จะลุกหนี
   “แค่พี่น้องก็ไม่ได้เหรอ” มันพูด
   “ได้ แต่เป็นพี่น้องร่วมคณะเฉยๆก็พอ” ผมพูดจบก็เดินออกจากโรงอาหารทันที สายตาของผมก็พบกับแม้วที่ยืนรออยู่
   “อ่าวมึง กว่าจะมา” แม้วทักผม ก่อนที่ผมจะทำตัวร่าเริงและบอกว่าเมื่อวานเล่นเกมดึกไปเลยไม่ได้นอน แต่ในใจผมอยากจะปรึกษามันเหลือเกิน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: เมามาย ตอนที่11 07/11/2560
«ตอบ #26 เมื่อ07-11-2017 23:01:57 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: เมามาย ตอนที่11 07/11/2560
«ตอบ #27 เมื่อ08-11-2017 09:12:05 »

เจ็บเลย คำพูดจากต้นกล้า  :z3: :z3: :z3:
 “ก็มึงไงเมียกู มึงจะเรื่องมากอะไรอีกวะกูมาหามึงก็ดีแค่ไหนแล้ว
ขวัญก็แฟนกู แต่มึงเป็นใครเรียงลำดับความสำคัญตัวเองด้วย

ดีแล้วว่าน ถอยห่างจากต้นกล้าน่ะถูกต้องแล้ว  :katai2-1:
แฟน สำคัญมากกว่าเมีย   ถถถถถถ ต้องโคตรๆ เลยต้นกล้า  :fire: :fire: :fire:
งั้น -ึง ก็ไปหาแฟน -ึง สิ มาหาเมียทำไม
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่12 20/11/2560
«ตอบ #28 เมื่อ20-11-2017 21:52:41 »

ตอนที่ 12
ระบาย

ผมมองไอ้ว่านที่ทำหน้าเหมือนหมาจ๋อย ผมว่ามันกับพี่ต้นกล้าต้องมีอะไรที่ไม่บอกผมแน่นนอน เพราะผมมักเห็นมันไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ ส่วนผมทำไมถึงรู้เหรอครับไม่บอกเหรอครับผมมันสาย ส (สังสัย) ไม่ใช่เจือกนะครับ ผมก็ไม่อยากจะเม้าท์หรอกครับว่าเห็นไอ้ว่านมันไปร้านเหล้าทีไรมักจะเห็นว่าพี่ต้นกล้าก็อยู่ร้านเดียวกันเสมอ หรือว่าผมแค่มโนไปเองครับ เมื่อตอนเช้าผมก็เห็นว่าไอ้ว่านกับพี่ต้นกล้านั่งกินข้าวด้วยกันอยู่นะ
   “ว่าน” ผมเรียกชื่อมัน เพราะว่ามันเอาแต่นั่งเหม่อลอย
   “...”
   “ว่าน อาจารย์เลิกคลาสนานแล้วนะเว้ย เหลือแค่มึงกับกูอยู่ในห้องสองคนนะเว้ย” ผมมองไปรอบๆห้องที่มีผมกับมันแค่สองคน ที่นี้มีผีป่าววะ
   “...”
   “ไอ้เชี้ยว่าน” ผมตบหัวมันไปทีหนึ่งก่อนที่สติมันจะกลับมา
   “ครับอาจารย์!” อาจารย์ม๊ามึงอ่ะ
   “กูนี้แหละไม่ใช่อาจารย์ มึงเป็นอะไรวะเห็นเหม่อๆมาตั้งแต่เช้าแล้ว” ผมถามเพราะความเป็นห่วงนะครับไม่ได้อยากรู้เรื่องของชาวบ้านเลยจริงๆ
   “เสือก”
   “ตามใจ อยากเล่าก็เล่าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร แต่กูอยู่ข้างมึงนะเว้ย” ผมตบไหล่มันก่อนที่จะดึงมันให้ลุกตามผมไป
   “ไอ้แม้ว”
   “ว่าไง” ผมยิ้มให้มัน ผมไม่ได้พิศวาสนะครับรู้มั้ยครับยิ้มตอแหลนะครับ ยิ้มตอแหล
   “รอยยิ้มมึงแม่งเข้ากับนิสัยมีดีเนาะ” มันพูดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
   “มึงหัวเราะแล้วเพราะงั้นไปแดกน้ำปั่นกัน” ผมลากมันไปที่รถของมันพร้อมถือวิสาสักหยิบกุยแจเปิดรถพร้อมยัดให้มันเข้าไปที่ฝั่งคนขับทันที และสั่งให้มันขับรถไปที่ร้านน้ำปั่นข้างๆมอ
ผมถึงร้านน้ำปั่นด้วยร่างกายครบ 32 แต่เกือบได้ใช้ประกันแล้วครับว่านมันเหม่อมากครับ เกือบขับชนเสาไฟกับชนรถคนอื่นที่จอดอยู่เฉยๆมาตลอดทาง ใจผมหล่นไปไหนแล้วไม่รู้ครับฝากหาหน่อยนะผมกลัวไอ้ยักษ์เก็บได้
   “เอาน้ำแตงโมปั่นครับ ไอ้ว่านมึงเอาอะไร” ผมหันไปถามมันที่ยืนเหม่อลอย
   “...”
   “เอาน้ำอะไร” ผมถามมันอีกครั้ง
   “ใบบัวบกให้กูที” มันตอบ
   “มีน้ำใบบัวบกมั้ยครับ” ผมถามพนักงานและก็ได้รับคำตอบว่ามี ทำไมมึงกินอะไรแปลกจังวะ ผมลากไอ้ว่านมานั่งที่โต๊ะที่ว่างอยู่ ต้องเรียกว่าลากจริงๆครับเพราะมันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่ได้ตั้งโปรแกรมอะไรไว้เลย
   “น้ำและอาหารมาเสิร์ฟแล้วค่ะ” พนักงานเสิร์ฟสาวเดินเข้ามาและวางน้ำและอาหารลงบนโต๊ะ ผมมองไปที่เค้กและเฟรชฟรายที่ทอดร้อนๆและหยิบมากินชิ้นหนึ่ง เอ่อผมล้างมือแล้วนะครับ
   “แม้ว กูน่ารักมั้ยวะ” ผมอยากจะหัวเราะเป็นภาษาอิหร่าน ไอ้ว่าถามว่ามันน่ารักมั้ยเหรอครับ ผมฟังไม่ผิดใช่มั้ย
   “สติมึงยังดีป้ะ”  ผมถาม
   “ตอบกูดิกูน่ารักมั้ย”
   “ก็...มองมึงก็หล่อนะ แต่ถ้ามองดีๆมึงก็น่ารักใช้ได้แต่กูไม่เอามึงเป็นเมียแน่นอน” ผมพูดดักไว้ก่อนครับ
   “เหอะ มันก็เคยบอกกูน่ารักแต่ทำไมมันไม่เลือกกูวะ หรือว่าคำที่กูบอกให้ไปเลือกคนของเขา ใช่มั้ยวะ” ไอ้ว่านน้ำตาตกเลยสิครับ ผมจะทำยังไงดีปกติไอ้ว่านมันไม่เคยร้องไห้ง่ายๆเลยนะครับ แต่ก็อย่างว่าแหละคนเราก็ต้องมีอ่อนแอกันบ้างแต่มึงจะอ่อนแอแล้วเอาน้ำมูกมาเช็ดเสื้อกูไม่ได้นะเว้ยไอ้ว่าน
   “เสื้อกูเปื้อนหมดแล้วไอ้ว่าน”
   “ปื๊ดดด” ผมพูดไม่ทันขาดคำมันก็เอาอีกรอบแล้วครับ
   “ไอ้สัส จะร้องก็ร้องไปอย่าทำแบบนี้กับกูกูขอร้อง” ผมอยากจะร้องไห้ตามมันเสื้อนิสิตของผมเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและน้ำมูกของไอ้ว่านแล้วครับ
   “มึงงงกูรักมันฮื่ออ” ผมละอยากถ่ายคลิปเอาไว้นานๆทีจะเห็นมันร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้
   “ว่าแต่มึงรักใครวะ” ผมถาม
   “...”
   “ตอบมาดิวะ”
   “..ไอ้ท่อนซุง..”
   “ห๊ะ” ผมร้องลั่นร้านเมื่อมันตอบคำถามของผม ถ้ามึงบอกว่าเป็นไอ้พี่ต้นกล้าผมยังพอทนแต่ถ้ามึงอยากได้ไอ้ท่อนซุงเดี๋ยวกูคุยให้
   “ป่าวกูไม่ได้รักท่อนซุง แต่นู้น” มันชี้ไปที่นอกร้าน ผมมองร่างยักษ์กำลังเดินเข้าร้านนี้พร้อมกับคนที่ผมรู้จัก บิว  ผมเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วครับ
   “ไหนมึงบอกว่าไม่ยุ่งอะไรกันแล้วไง” ผมเปลี่ยนอารมณ์ไวจนไอ้ว่านที่กำลังร้องไห้มองหน้าผมปริบๆ มึงไม่ร้องต่อแล้วเหรอเพื่อน
   “มึงโอเคมั้ยวะ” ผมมองหน้ามันด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าโกธรชัดเจน
   “กูโอเค” สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดก็คือการโกหกกันนี้แหละครับ ผมมองดูทั้งคู่ที่ควงแขนเข้ามาในร้านสีหน้าของบิวดูมีความสุขผิดกับสีหน้าของท่อนซุงที่ไม่ได้สนใจอะไรบิวเลยสักนิด
   “แต่ดูเหมือนไอ้ท่อนซุงไม่เต็มใจที่จะมาเลยนะดูหน้ามันดิ” ไอ้ว่านพูด
   “มึงเปลี่ยนอารมณ์ไวมากไอ้ว่าน” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ผมพยายามไม่มองไอ้ท่อนซุงกับบิวแล้ว แต่สายตาก็ไปพบกับเป้าหมายใหม่ที่เข้ามา พี่ต้นกล้ากับพี่ขวัญ ครางนี้ไอ้ว่านเปลี่ยนอารมณ์ไม่ได้แน่นอนครับ มันมองด้วยสายตาที่เหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา
   “สรุปเรื่องของมึงก็คือพี่ต้นกล้าใช่มั้ย”
   “....” มันไม่ตอบครับแต่ใช้การพยักหน้าแทน
   “แล้วคือมึง..”
   “กูไม่ได้อยากแย่ง ถ้ากูแย่งกูจะมาอยู่แบบนี้มั้ย กูรู้กูมันเลวที่เคยแอบกินกันตอนมันคบกันแฟนแต่กูก็ถอยออกมาแล้วไง” มันพูดพลางปาดน้ำตาตัวเอง
   “กูยังไม่ทันว่าอะไรเลย” เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอเครียเรื่องไอ้ว่านแล้วกันส่วนไอ้ยักษ์ผมขอเชื่อใจมันวันหนึ่ง แต่ถ้ามีอีกนะมึง
   “แล้วไอ้ท่อนซุงของมึงอ่ะ” มันไม่ใช่ของกูเว้ยย
   “เดี๋ยวกูจัดการเอง” ผมลุกจากโต๊ะแล้วเดินไปหาโต๊ะของท่อนซุง
ท่อนซุงมองหน้าผมแปลกๆเหมือนว่ามึงเป็นผีแล้วโผล่มาจากไหนวะ ประมาณนี้อ่ะครับ ผมนั่งลงข้างๆท่อนซุงก่อนที่จะหันไปสบตากับบิว บิวก็มองหน้าผมด้วยรอยยิ้มที่ดูก็รู้ว่าตอแหล (นับวันผมยิ่งแรงขึ้นว่ามั้ยครับ)
   “อ่าวแม้ว” บิวทักทาย
   “ไงบิวไม่เจอกันนานเลยนะ” ผมทักทายกลับไปบ้านส่วนคนที่นั่งเงียบไม่สนใจอะไรก็คือไอ้ยักษ์นี้แหละครับ มึงนั่งเล่นโทรศัพท์สบายใจมึงเลยนะ
   “คำตอบว่าไง” บิวถามผม ถ้าเป็นเรื่องขอคืนดีผมคงไม่ตอบตกลงแน่นอนครับ
   “จะให้เราตอบยังไงละ ในเมื่อยังเห็นบิวมากับไอ้นี้อยู่เลย” ผมหันไปมองหน้าท่อนซุงที่ทำหน้าตายฟังบทสนทนาของผมกับบิว
   “คะ คือ” บิวมองซ้ายขวาพยายามคิดหาข้ออ้าง ผมเคยโง่ให้เธอมาแล้วต่อจากนี้ผมจะไม่ยอมโง่อีกแล้ว ถึงตาผมเอาคืนมั้งได้มั้ยครับ
   “เราเข้าใจบิวนะ” ผมพูด
   “นี้ไอ้ท่อนซุง” ขนาดผมเรียกมัน ไอ้นี้ก็ยังทำหน้าตายเหมือนเดิม
   “...” ไร้การตอบรับ
   “ท่อนซุงเขาคงรำคานเอ่อ” บิวพูดแล้วมองมาทางผม
ผมคิดในใจถ้าผมสวนกลับเธอจะเป็นอะไรมั้ย ตอนนี้ผมรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาแล้วครับ แหนะๆมีการจับมือไอ้ยักษ์แล้วบอกไม่เป็นไรนะคะด้วย ยอมเลยครับ
   “งั้นกลัวว่าแฟนของบิวจะรำคานงั้นเราไปก็ได้” ผมทำท่าจะลุกก่อนที่จะถูกท่อนซุงจับแขนเอาไว้แล้วดึงลงไปนั่งข้างๆเหมือนเดิม หึเสร็จละตามแผน
   “จะไปไหน” มันถามผม
   “ป่าวนิ เอ่อนี้เรียนเป็นไงบ้าง” ผมถาม
   “ก็ปวดหัวนิดหน่อยอ่ะ” มันพูดแล้วสายตาของผมก็มองไปทางบิวที่ทำหน้างงๆ
   “กินยายัง” ผมถามพร้อมเอามืออังหน้าผากของท่อนซุง
   “ยังเลย” มันพูดพร้อมจับมือของผม เดี๋ยวมึงมากไปแล้วไอ้เชี้ยนี้
   “ทำไมไม่กิน”
   “เป็นห่วงเหรอ” ไอ้นี้มีย้อน
   “ห่วงพ่อมึงอ่ะ”
   “พูดเพราะๆบ้างจะได้มั้ย”
   “....”
   “ทำตัวน่ารักๆพูดเพราะๆให้ซุงชื่นใจบ้างไม่ได้เหรอ” เอาละครับตอนนี้หน้าผมคงแดงขึ้นมาแล้วใช่มั้ยครับ ส่วนบิวหน้าเหวอไปแล้วครับ เอ่อเริ่มผิดแผนแล้วละครับ ทีแรกผมแค่จะทำให้รู้ว่าใครกันแน่ที่ทำให้ท่อนซุงรำคาน
   “ท่อนซุง” บิวเรียกเบาๆ
   “บิวจะสั่งอะไรก็สั่งนะ กูไปแล้วนะบิว” ท่อนซุงพูดแล้วลากผมออกไปนอกร้าน
   “มึงจะลากกูออกมาทำไมวะ” ผมถาม
   “คิดจะทำอะไรครับแม้ว” มันพูดพร้อมยื่นหน้าเข้ามาหาผม
   “ทำอะไรเล่าไม่มีสักหน่อย” ผมพยายามหาเรื่องอื่นมาคุยแล้วครับแต่มันคิดไม่ออกแล้วเมื่อไอ้ท่อนซุงมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆกับผม นี้ลานจอดรถมึงก็ไม่เว้นเหรอวะ
   “ซุงนึกว่าแม้วอยากจะแสดงความเป็นเจ้าของ รู้งี้น่าจะจูบโชว์บิวเลยไม่ดีกว่าเหรอ” มันพูดได้หน้าด้านๆครับ
   “ไปเล่นอยู่บ้านมึงไป” ผมผลักหน้ามันออก
เอ่อผมว่าผมลืมอะไรไปบางอย่างนะครับ เอ่อนึกยังไงก็นึกไม่ออกเอาเป็นว่าชั่งมันเถอะ แล้วผมก็สั่งไอ้ยักษ์ให้ไปส่งผมที่หอแล้วครับ

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
Re: เมามาย ตอนที่12 20/11/2560
«ตอบ #29 เมื่อ21-11-2017 01:42:09 »

แม้วววว ลืมว่านนนน
ป่านนี้ไม่น้ำตาท่วมไปแล้วหรอเนี่ย :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด