ขอบคุณน้อง Little Diamond และ น้องPigstar มากๆ นะคะ พี่ทำตามคำแนะนำแล้ว ของร้อนมาเสิร์ฟแล้วค่ะ ไปอ่านกันเลยเนอะ เช้าวันนี้ผมว่าอากาศสดใสกว่าทุกวัน ผมตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอให้พี่ไม้มารับ พี่ไม้โทรมาเปลี่ยนแผนการเดินทางจากเมื่อวานตอนเย็นมาเป็นวันเสาร์เช้า ผมชักไม่แน่ใจการกระทำของพี่ไม้ว่าตกลงคิดยังไงกับผมกันแน่ แล้วการที่ไอ้สปามันทำตัวแปลกๆแบบนั้น มันหมายความอย่างที่ไอ้เกมส์มันว่าจริงหรือเปล่า แล้วมันจะมาชอบผมเพื่ออะไรกัน....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
“ดิน มีเพื่อนมาหาแน่ะลูก” แม่มาเรียกแล้ว ผมว่าต้องเป็นพี่ไม้แน่ๆ ครับ
“ครับแม่ จะลงไปเดี๋ยวนี้ครับ” ผมรีบหยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย เอาเสื้อผ้าไปแค่ 2 ชุด เพราะที่บ้านพ่อก็พอมีอยู่บ้างแล้ว หยิบหนังสืออ่านเล่นซักเล่ม แล้วก็รีบออกจากห้อง
“เพื่อนลูกคนนี้ไม่เคยเห็นหน้าเลยนี่ ใครกัน” แม่พูดกับผม หลังจากที่ผมเดินตามหลังแม่ลงมาจากชั้นสอง
“อ๋อ รุ่นพี่น่ะครับแม่ รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียน ม.ต้นอ่ะครับ”
“แล้วพี่เค้าจะไปส่งที่คิวรถเหรอลูก”
“คงงั้นมั้งครับแม่” ผมเองก็ยังไม่แน่ใจและไม่ได้ถามว่าพี่ไม้จะไปส่งผมที่ไหนกันแน่ แต่ถ้าถึงกับต้องไปส่งที่บ้านพ่อเนี่ย ผมว่ามันคงไกลไป แต่มันก็ไม่แน่นะ....
ผมเดินลงมาเห็นพี่ไม้นั่งอยู่ข้างเคาท์เตอร์ เมื่อเห็นผมเดินลงมาก็ส่งยิ้มให้ และหันไปพูดกับแม่ว่า จะไปส่งผมถึงบ้านพ่อ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วยังบอกแม่ว่าจะดูแลผมให้ดีที่สุด ผมตกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าพี่ไม้จะพูดแบบนี้กับแม่ แต่นั่นก็ทำให้ผมมั่นใจขึ้นว่า พี่ไม้อาจจะชอบผมจริงๆ พี่ไม้เดินนำผมไปที่รถเก๋งสีดำคันเดิมที่ผมเคยนั่ง ผมยืนนิ่งอยู่ที่ประตู และไม่รู้ว่าจะเข้าไปนั่งดีหรือเปล่า ผมยื่นนิ่งอยู่สักครู่
“ดิน จะไม่ไปเหรอ ยื่นนิ่งเลยอ่ะ” พี่ไม้ถามก่อนเปิดประตูรถ และส่งยิ้มให้กับผม
“ไปครับไป แต่ก่อนไป พี่ไม้สัญญาอะไรกับผมก่อนได้มั๊ยครับ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“พี่ไม้ต้องบอกความจริงกับผมทุกอย่าง ทุกเรื่อง ไม่ว่าพี่ไม้จะปิดบังเรื่องอะไรผมอยู่ก็ตาม...ถ้าผมอยากรู้ พี่ไม้ต้องตอบความจริงกับผม ได้มั๊ย” ผมพูดออกไปแทบจะลำดับคำพูดไม่ถูก การที่ผมคิดอยู่นั้น มันทำให้ผมเริ่มจะสับสน บางทีพี่ไม้ก็เหมือนสนใจ เอาใจใส่ บางทีก็ดูละเลยจนเหมือนคนไม่รู้จัก ผมรู้สึกเหมือนไม่รู้จักผู้ชายคนนี้จริงๆ ซะที แต่สิ่งที่ค้างคา มันมากมายเกินกว่าจะทำให้ผมทนนิ่งๆ อยู่ได้อีกต่อไปแล้ว
“ขึ้นรถก่อน พี่สัญญาว่าพี่จะตอบทุกอย่าง ตามความจริง!”
ผมนั่งรถมาโดยไม่พูดอะไรอีก หันหน้ามองคนขับรถที่ตอนนี้ก็หันหน้ามามองผมเช่นเดียวกัน สายตา รอยยิ้ม ที่ให้ผม มันคืออะไร
“ว่าไง จะถามอะไรพี่” พี่ไม้เริ่มต้นพูดขึ้นก่อนเพื่อทำลายกำแพงความอึดอัดที่เริ่มก่อตัวเมื่อผมเข้ามานั่งในรถ
“ผมอยากรู้ว่า....”
ชอบก็จีบเลย ชอบก็จีบเลยเซ่ ชูวับ ชูวับ ๆ ๆ
ไม่ทันจะพูดเรื่องที่จะถามด้วยซ้ำ ทำไมต้องมีมารผจญ(อีกแล้ว) พี่ไม้มองหน้าผม ยิ้มให้ก่อนจะก้มมองโทรศัพท์อยู่นาน และไม่รับสายซะที ผมมองหน้าพี่ไม้อีกครั้ง ถามด้วยสายตาว่าทำนองว่าทำไมไม่รับ พี่เค้าชั่งใจอยู่แป๊บนึง จึงยอมรับโทรศัพท์
‘ฮัลโหล มีอะไร’ ไม่เคยได้ยินว่ารับโทรศัพท์แล้วจะพูดแบบนี้นะ ใครนะ โทรมา
‘อยากจะทำอะไรก็ทำไป ถ้าที่ผ่านมายังไม่พอใจ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว แต่...เรื่องนี้ ขอร้องล่ะ พอเถอะ’ คำว่า...เรื่องนี้ พี่ไม้หันหน้ามาสบตากับผม นั่นยิ่งทำให้ผมจับต้นชนปลายไม่ถูก สิ่งที่พี่ไม้พูดคืออะไร แล้วใครเป็นคนโทรมา
‘ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องคุยกันอีก ไม่ต้องโทรมาอีกนะ แค่นี้นะ’ พี่ไม้วางสายด้วยความฉุนเฉียว โมโห แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก จากนั้น พี่ไม้จึงปิดเครื่อง และเก็บโทรศัพ(เรียกว่ายัดดีกว่า) ลงในเก๊ะด้านหน้าคนนั่งข้างๆ โดยไม่สนใจมันอีก
“โทษทีนะ ตกลงเมื่อกี้ ดินจะถามอะไรพี่เหรอ” พี่ไม้โคลงหัวพร้อมกับยิ้ม
“ใครโทรมาเหรอครับ” ผมอยากรู้เรื่องเมื่อกี้มากกว่าแล้วล่ะ หึหึ
“ไม่มีไรหรอก อย่าสนใจเลย”
“ทำไมล่ะครับ ทำไมผมจะสนใจไม่ได้ มัน...ป็นความลับเหรอครับ” นั่นสิครับ ทำไมผมถึงสนใจไม่ได้ ทำไมไม่ให้ผมรู้เรื่องราวของพี่ไม้บ้างล่ะ ทั้งๆที่ ผมพร้อมที่จะฟังเสมอ
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะเป็นความลับสำหรับดินหรอกนะ มันก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ อีกอย่าง ถึงดินรู้ ดินก็ช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอก ช่างมันเถอะนะ” พี่ไม้พูดเสียงราบเรียบ และยิ้มแบบเหนื่อยๆ ให้ผมอีกครั้ง ผมอยากปลอบใจ แต่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร เกิดอะไรขึ้น
“.....”
“ดิน...เชื่อใจพี่นะ” ถึงตอนนี้ ผมอยากจะถามอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่ผมก็อยากจะเชื่อใจคนๆ นี้ จริงๆ
“บ้านพ่ออีกไกลมั๊ยดิน แล้วที่บ้านปลูกอะไรบ้างล่ะ”
“อีกซักชั่วโมงน่าจะถึงแล้วอ่ะครับ แต่ทางใกล้ๆ ถึงบ้าน ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ พี่ไม้ส่งแค่ในเมืองก็ได้ เดี๋ยวดินเข้าไปเอง ไม่ต้องไปส่งถึงบ้านหรอก” ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะครับ ผมรู้สึกเกรงใจ และไม่อยากให้รถพี่ไม้สกปรกนี่ ถึงระยะทางจะไม่ไกลมาก ก็ขึ้นชื่อว่าต่างจังหวัดอยู่ดี ผมไม่อยากให้พี่ไม้ขับรถกลับไกลๆ คนเดียวแบบนี้เลย (ตกลงพี่ไม้มีใบขับขี่ยังเนี่ย เฮ้อ)
“ใครบอกว่าพี่แค่มาส่งล่ะ พี่จะมาขอพ่อดินนอนด้วยซัก 3 – 4 คืนนะ พี่เอาเสื้อผ้ามาแล้วด้วย” พี่ไม้พูดพร้อมกับหันมายิ้มพร้อมยักคิ้วให้ผม หา! ไม่ได้แค่มาส่งงั้นเหรอ อ้าวววววววว
“แล้วทำไมไม่บอกดินก่อนล่ะ ว่าจะมาเที่ยวด้วยน่ะ แล้วนี่ที่บ้านพี่ไม้รู้เรื่องหรือยังว่าจะมาค้างน่ะ ” นั่นน่ะสิ ถ้าบอกกันก่อน ผมจะได้เตรียมเสื้อผ้าหล่อๆ โน่น นี่ นั่น ที่อยากจะเอามา คิดจะเซอร์ไพรส์กันแบบนี้ เซ็งนะ
“อ้าว ก็นึกว่าอยากให้ค้างอยู่เป็นเพื่อน อีกอย่างพี่ก็อยากเห็นว่า สถานที่ที่ทำให้ดินมาอยู่ได้โดยไม่คิดถึงบ้านเลยเนี่ย สภาพยังไง จะน่าอยุ่แค่ไหน”
“ไม่ได้น่าอยุ่อะไรมากนักหรอก ก็ตอนนั้นคิดว่าอกหักนี่นา” ประโยคหลังผมพูดเสียงอ่อยๆ และไม่ค่อยอยากให้พี่ไม้ได้ยินเท่าไหร่
“อะไรนะ อกหักๆ อะไรเหรอ พี่ได้ยินไม่ถนัดน่ะ หึหึหึหึ” ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ก็ใครล่ะ ทำให้คิดแบบนี้อ่ะ
“เปล่า ไม่มีอะไร ไปแล้วก็เห็นสภาพเองแหละว่าเป็นยังไง อย่ามาร้องจะกลับบ้านก็แล้วกัน”
“ยังไงก็ไม่กลับหรอก ถ้าดินไม่กลับ พี่ก็ไม่กลับ” นั่น หันมายิ้มกรุ้มกริ่มอีก ขับรถไปเลยไป
“แล้วนี่จะมาพักฐานะอะไร จะได้บอกพ่อว่าไงดี เป็นเพื่อน รุ่นพี่ หรือว่า...”
“แฟน....กล้าบอกพ่อหรือเปล่า ว่าพี่เป็นแฟน”
“เฮ้ย ผม....ผม ไปเป็นแฟนพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คิดเองเออเอง เรายังไม่รุ้จักกันดีด้วยซ้ำอ่ะ” ผมทั้งดีใจ ตกใจ แทบจะเสียสติ อ๊ากกกกกก อยุ่ๆมาบอกว่าเป็นแฟน ผมอยากรู้จักพี่ไม้มากกว่านี้ ไม่ใช่ผมไม่ชอบพี่ไม้นะครับ แต่ผมอยากรู้จักพี่ไม้มากกว่านี้จริงๆ ขอกันซักนิดก็ยังดีนี่มาทำเนียนๆ แบบนี้เลยเหรอ
“ดินมีพี่น้อง 3 คน เป็นลูกชายคนกลาง มีพี่สาวและน้องสาว ที่บ้านเปิดซุปเปอร์มาเก็ตชื่อร้านสามพี่น้อง พ่อกับแม่แยกทางกัน แล้วก็มีน้องสาวต่างแม่ 1 คน พ่อมีอาชีพทำสวน ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษและศิลปะ เวลาว่างชอบอ่านหนังสือ เล่นเกมส์บ้าง และที่สำคัญ ไม่มีเบอร์มือถือ” ผมประทับใจนะครับที่พี่ไม้รู้ประวัติผมขนาดนี้ แต่เรื่องแบบนี้ ก็คงได้มาจากไอ้เกมส์นั่นแหละ (คิดว่านะ)
“แต่ผมไม่รู้จักพี่ เหมือนจะรู้จัก แต่ไม่เคยรู้จักจริงๆ ซะที รู้แค่ว่าชื่อเล่น ขื่อ ‘ต้นไม้’ ชื่อจริง ‘พนัส วชิราลักษณ์’ นอกนั้น ผมไม่รู้อะไรเลย ....แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะรู้หรอกนะครับ มันไม่กล้าที่จะอยากรู้มากกว่า”
“แล้วไม่รู้บ้างหรือไง ว่าเมื่อก่อนน่ะ พี่รอดินทุกวัน”
“หือ รอ?~”
“ใช่ รอ เหมือนเฝ้ารอ อยู่ๆ ดินก็หายไป เหมือนพยายามจะออกไปจากชีวิตพี่ ทั้งที่ตอนแรก พี่ยังเห็นดินอยู่ตลอดเวลา ...ถึงไม่มีคำพูด ไม่มีการกระทำ แต่พี่รู้สึกได้นะ แต่แล้วอยู่ๆ ดินก็หายไปซะเฉยๆ พอมารู้ตัวอีกที พี่ก็เข้าไม่ถึงดิน ดินกลายเป็นคนที่พี่ได้ยินชื่อบ่อยขึ้น มีคนพูดถึงมากขึ้น มีคนชอบมากมาย แต่ตอนนั้นพี่กลับห่างดินไปซะแล้ว”
“งั้นที่ผ่านมา ก็แสดงว่า....”
“ใช่ พี่รู้ว่าดินมองพี่อยู่ รับรู้มาตลอดว่าดินเป็นยังไง แต่เหมือนเราโดนจับให้ห่างกัน พี่ต้องซ้อมบอลทุกวัน เรียนหนักขึ้น พี่เองอยากจะบอกดินเป็นร้อยเป็นพันครั้ง แต่พี่ไม่กล้า ไม่กล้าพอที่จะบอก ถ้าไม่เกิดเรื่องกับพี่ซะก่อน พี่คงได้บอก ได้พูด ได้คุย ให้ดินได้รู้เร็วกว่านี้ แน่ๆ”
“พี่ชอบดินมากนะ ตั้งแต่วันแรกที่พี่เจอดิน หึหึ ....เด็กชายพสุธา.... ตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักคล้ายเด็กผู้หญิง รอยยิ้มที่ทำให้พี่รู้สึกหัวใจเต้นแรง พี่ไม่เคยลืมรอยยิ้มของดินเลย ....แต่พี่ไม่กล้า ไม่แน่ใจ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าพี่ชอบดินแบบไหน ของที่พี่ตั้งใจจะซื้อให้ พี่ซื้อมามากมายแต่ก็ไม่รู้ว่าจะให้อะไร ยังไง ในวันที่ดินจะเรียนจบ ม.ต้น พี่ก็กล้าที่จะฝากแค่การ์ดเล็กๆ ใบเดียว เพราะตอนนั้นพี่กลัว...พี่กลัวจริงๆ”
“......แล้วตอนนี้ พี่ไม่กลัวแล้วเหรอ ไม่กลัวว่าใครๆ จะรู้ว่าพี่ชอบดินแล้วเหรอ”
“พี่กลัว...แต่พี่กลัวจะสูญเสียดินไปมากกว่า” ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งมาก เหมือนโล่งอก เหมือนตัวกำลังลอยได้ เหมือนฝันที่เป็นความจริง คนที่ผมชอบ เค้าก็ชอบผม เค้าก็คิดเหมือนผม งั้นเหรอ
“แล้วอะไรที่ทำให้พี่ไม้รู้สึกกลัวว่าจะสูญเสียดินไปล่ะ” ผมอยากรู้ว่า ทำไมตอนนี้พี่ไม้ถึงกล้าบอกกับผมทั้งที่กลัวคนอื่นจะรู้ อะไรคือสิ่งที่พี่ไม้กล้าจะบอกกับผมกันแน่
“....”
“อ้อ พี่ไม้ แยกข้างหน้าเลี้ยวซ้ายนะ แล้วก็ขับตรงไปอีกหน่อย ก็ถึงแล้วล่ะ หลังคาสีส้มนั่นแหละ บ้านพ่อดิน...แล้วไอ้ต้นมะม่วง ทุเรียน กระท้อน พวกนี้อ่ะ ก็เป็นของพ่อดินเองแหละ”
“อืม” ผมยังไม่ได้รับคำตอบใดจากพี่ไม้อีก แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่ผมพอใจเป็นที่สุดแล้ว หลังจากนี้ไป ผมว่าผมคงมีเวลาที่พูดคุยกับพี่ไม้มากขึ้น (ซะที)
เมื่อมาถึงบ้านพ่อ พ่อไม่อยู่ เข้าสวนไปเก็บมะม่วง เหลือแต่ยัยกิ่งที่อยู่บ้าน ยังกิ่งตื่นเต้นที่ได้เห็นผมและพี่ไม้ ปากก็เอ่ยชมรถพี่ไม้ว่าสวยมากๆ อยากได้ซักคัน เบื่อนั่งรถกระบะของพ่อแล้ว แล้วก็ชมพี่ไม้ว่าหล่อกว่าผมอีก (น้องใครวะ) ผมเอากระเป๋าเป้ และกระเป๋าเสื้อผ้าของพี่ไม้เข้ามาในบ้าน ที่บ้านมี 3 ห้อง ห้องพ่อ ห้องยัยกิ่ง และก็ห้องที่ผมใช้พักตอนปิดเทอม ว่าแต่ผมจะให้พี่ไม้นอนห้องผมดีหรือเปล่านะ
“กิ่ง ไปนอนกับพ่อนะ พี่จะนอนห้องกิ่ง ให้เพื่อนพี่นอนห้องพี่อ่ะ”
“อ้าว ทำไมพี่ไม่นอนด้วยกันล่ะ มาไล่กิ่งไปนอนห้องพ่อทำไมกัน เพื่อนกันก็นอนห้องเดียวกันสิ”
“ไม่เอา...พี่นอนดิ้น ไม่อยากนอนกะใคร” พี่จะบอกแกได้ยังไง ว่าพี่กับพี่ไม้ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน พี่แกก็กลัวนะเว้ย นอนกะผู้ชายเนี่ย
“พี่ไม่อยากนอนกะใคร แล้วชวนเพื่อนมาเที่ยวทำไมกัน แปลกจริงพี่ดินนี่ ไม่เอาอ่ะ ไม่ให้นอนห้องกิ่งหรอก”
“แล้วกัน ก็ได้ พี่ไปขอพ่อเองก็ได้”
“โหย พี่ดิน ขอพ่อนะ พ่อก็ตามใจพี่ดินอีก นี่กะจะแกล้งกิ่งใช่มั๊ยเนี่ย รังแกเด็กอ่ะ” ยัยเด็กแก่แดดเอ๊ย
“พี่นอนกับดินก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องไปกวนน้องเลย” พี่ไม้คงทนนั่งฟังผมกับยัยกิ่งทะเลาะกันไม่ไหว จึงเดินเข้ามาบอกและห้ามเราสองคนไว้
“พี่ไม้จะนอนกับดิน...งั้นเหรอ?”
“ใช่ หรือว่านอนไม่ได้ล่ะ เพื่อนกันไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา ใช่มั๊ยกิ่ง” ยังจะหันไปหาแนวร่วมอีก ยัยกิ่งก็เออออ ห่อหมกไปด้วย แล้วยังมาแซวผมว่าหน้าแดงทำไม ไม่เคยนอนกับผู้ชายหรือไง เคยนอนโว้ย กับไอ้เกมส์ก็นอนด้วยกันบ่อยๆ แต่นี่มันไม่ได้รู้สึกแบบเพื่อนนะ ไม่เหมือนกัน มันบอกไม่ถูกนี่
ตอนเย็นพ่อกลับจากสวน ดีใจที่ได้เห็นหน้าผมมาก ผมแนะนำให้รู้จักกับพี่ไม้ แนะนำพี่ไม้ว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียน จะให้ผมแนะนำว่าเป็นคนพิเศษ สงสัยพ่อคงได้ช็อคแน่ๆ พ่อพูดเสมอว่าผมเป็นลูกชายคนเดียว ต้องสืบสกุล แต่งงาน ผมจะบอกพ่อยังไง ว่าผมคงมีหลานให้พ่อไม่ได้ คิดแล้วก็เครียดนะเนี่ย เฮ้อ....หลังจากกินข้าวฝีมือของพ่อโดยมีผมและยัยกิ่งเป็นลูกมือ ผมกับพ่อออกมาคุยกันที่หน้าบ้าน พี่ไม้ขอตัวไปจัดของที่ห้องก่อน ส่วนยัยกิ่งก็เข้าห้องนอนไป
“ดิน รู้หรือป่าว แถวนี้มีสัญญาณโทรศัพท์แล้วนะ วันก่อนพ่อเห็นมีคนมาติดตั้งเสาสัญญาณที่สวนข้างๆ น่ะ”
“เหรอครับ ดีแล้วนี่ครับ เวลาโทรศัพท์ พ่อไม่ต้องปีนต้นไม้อีกไง”
“ดินจะเอาโทรศัพท์พ่อ โทรบอกแม่หน่อยมั๊ย” พ่อยื่นโทรศัพท์มือถือให้ผม ยิ้มและตบบ่าผมเบาๆ กำลังลุกขึ้นเดินไป
“พ่อครับ...พ่อยังรักแม่อยู่มั๊ยครับ” ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ๆ ผมถึงได้ถามพ่อแบบนี้ ผมเห็นสายตาที่พอมองเมื่อกี้แล้ว มันอดที่จะถามแบบนี้ไม่ได้จริงๆ นะครับ
“แม่ของดิน คือผู้หญิงที่พ่อรักมากที่สุดนะ” พ่อพูดทั้งที่ยังยืนอยู่
“แล้วทำไมถึง...” ผมก็ลุกขึ้นตามพ่อครับ เราสองคนยื่นคุยกัน (ทำไมไม่นั่งล่ะเนี่ย)
“เรื่องบางเรื่อง แค่ความรัก มันก็ไม่พอหรอกนะดิน ความรักที่ว่าสำคัญแล้ว ความเข้าใจสำคัญยิ่งกว่า พ่อกับแม่รักกัน แต่เรายังไม่เข้าใจกันดีพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ไปตลอดรอดฝั่ง แต่ตอนนี้พ่อก็มีความสุขนะ ที่ได้คุยกับแม่ของดินเป็นเพื่อนไปแบบนี้ ...ดินถามพ่อทำไม รู้สึกแย่เหรอลูก”
“เปล่าครับพ่อ ดินเข้าใจครับ...ดินรักพ่อนะครับ” ผมเข้ามาโอบเอว กอดพ่อไว้ พ่อตบหลังผมเบาๆ แล้วก็บ่นว่าผมตัวเล็ก ให้กินให้เยอะกว่านี้ ผู้ชายต้องมีร่างกายแข็งแรง เพื่อจะได้ปกป้องคนที่รักได้ แต่ผมอยากจะบอกพ่อจริงๆ ว่าผมไม่อยากโต ผมอยากเป็นแบบนี้แหละ ผมอยากโดนปกป้องมากกว่า
หลังจากโทรไปหาแม่แล้ว คุยกันเสร็จเรียบร้อย ผมเอาโทรศัพท์ไปคืนพ่อและคุยเรื่องจะขอห้องกิ่ง พ่อทำท่าทางแปลกใจ ผมกลัวพ่อจะจับพิรุธได้ เลยบอกว่างั้นก็ไม่เป็นไร ยอมนอนดิ้นถีบเพื่อนไปดีกว่า ผมเดินเข้ามาในห้อง ไม่เห็นพี่ไม้อยู่ในห้อง จึงเดินเข้ามาและมองหา ผมเห็นพี่ไม้ยืนอยู่ตรงระเบียง ทอดสายตาออกไปไกล
“คิดถึงบ้านเหรอครับ” ผมถามพร้อมกับนั่งบนเตียง พี่ไม้เดินเข้ามาและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เตียง
“เปล่า คิดถึงคนแถวนี้มากกว่า” พี่ไม้หันมามอง พร้อมกับส่งสายตาให้กับผม เอาเข้าจริง ผมก็ทำอะไรไม่ถูกนะครับมันรู้สึกแปลกๆ เขินไปหมด ใจเต้น มื้อไม้สั่น พี่ไม้ขยับมาใกล้ๆ พร้อมกับกุมมือผมไว้
“ดิน...เป็นแฟนพี่นะ อยู่ข้างๆ พี่นะ อย่าไปไหนจากพี่อีกเลยนะ” พี่ไม้กุมมือ เอามือผมไปจับไว้ที่หน้าของพี่เค้า ตอนนี้ผมใจเต้น แทบจะระเบิดอยู่แล้ว
“ครับ ผมจะอยู่ข้างๆพี่” พี่ไม้ยิ้มให้ และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับหน้าผม พี่ไม้สูดลมหายใจเข้าเมื่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆกับแก้มของผม ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกมันรู้สึกแปลกๆ หัวใจเต้นผิดปกติ รู้สึกเหมือนเลือดมันไปกองอยู่บนหน้าทั้งหมด
“ฮือ...หอมจัง...” พี่ไม้กระซิบด้วยเสียงแหบพร่าข้างหูผมเบาๆ ผมผลักพี่ไม้ออก แต่ก็ไม่ได้แรงมากนัก คิดแต่ว่าให้ตัวเองออกจากภวังค์นั้น ผมบอกให้พี่ไม้ปอาบน้ำ พี่ไม้หัวเราะ และลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ผมนั่งใจเต้นโครมครามอยู่บนเตียงอย่างนั้น โดยไม่มีแรงจะลุกไปไหน
ชอบก็จีบเลย ชอบก็จีบเลยเซ่ ชูวับ ชูวับ ๆ ๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์ของพี่ไม้ดังอยู่นาน จนเสียงหยุดไป ผมหยิบขึ้นมาดู โห! 15 สายไม่ได้รับ (จะโทรอะไรกันขนาดนี้) สักพักมันก็ดังขึ้นอีก ผมจึงหยิบขึ้นมาดูหน้าจอว่าใครโทรมา หน้าจอที่ขึ้นมา ชื่อนี้ ทำไมถึงคุ้นๆ
เฮ้ยยยยยยยยยยย นี่มัน ...
‘SPA’
-----------------------------
มีแค่เลิฟซีนเล็กๆ ก่อนนะ ถึงจะจัดครั้งใหญ่ให้ ต้องทีละนิดละหน่อย เดี๋ยวน้องดินจะช้ำ