...เช้าวันต่อมา... รั้วสีขาวถูกเปิดออกโดยเจ้าของบ้าน เพื่อให้รถสีบรอนซ์ทองสัญชาติญี่ปุ่นคันเล็กของเพื่อนรักขับเคลื่อนออกไปได้
"ฟ้า ปิดประตูดีๆด้วย ...อืม...เอาอะไรเพิ่มมั้ย นอกจากโจ๊กกับปาท่องโก๋..." คุณหมอหน้าหวานโผล่หน้าผ่านกระจกออกมาถามเพื่อนก่อนที่รถจะพ้นประตูรั้วออกไป...
"ไม่เอาแล้ว...แล้วแต่นายดีกว่า อยากกินอะไรก็ค่อยซื้อมาแล้วกัน...ไม่รู้ด้วยว่าที่ตลาดเขาขายอะไรบ้าง..." น้ำฟ้าตอบ เด็กหนุ่มยังอยู่ในชุดนอนผ้าลินินสีครีมเข้ากับกางขาสั้นครือเข่าสีเดียวกัน... เขาใช้กิ๊บตัวใหญ่หนีบผมเอาไว้แต่เหลือปอยผมเล็กๆที่หลุดออกมาบ้าง ทำให้ใบหน้าอ่อนใสดูเยาว์วัยขึ้นหลายปี...
"จ้า...เอาซาลาเปา ขนมจีบด้วยเปล่า... หมั่นโถวก็มี... เออมีเจ้านึงอร่อยมาก เห็นนางพยาบาลเขาเคยซื้อมาให้ลองตอนเข้าเวรอยู่ที่หวอด..."
"...ก็บอกแล้วไง...อะไรก็ได้ซื้อมาเถอะ รีบไปเร็ว ขืนช้าอยู่เดี๋ยวแทนที่จะได้ของที่ว่ามาตลาดวายเสียก่อนพอดี รีบไปแล้วก็รีบกลับ ขับรถดีๆด้วย..." น้ำฟ้าเท้าคางกับกระจกรถเพื่อนพลางสั่ง คุณหมอกานต์หัวเราะชอบใจก่อนจะสัพยอกเพื่อนเล่นๆ
"คร้าบๆคุณแม่... คุณก็ดูแลลูกให้ดีด้วย...ฮ่ะๆ ไปไป๊ เข้าบ้านได้แล้วเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กตื่นนอนไม่เห็นหน้าแม่ได้ร้องไห้จ้ากันพอดี..." พูดพลางมือก็เลื่อนกระปุกเกียร์ เสียงล้อรถบดกับพื้นกรวดก็พอดีกับที่น้ำฟ้าได้ยินเสียงลูกชายบุญธรรมของตัวเองร้องไห้จ้าเหมือนกัน เด็กหนุ่มรีบปิดประตูเมื่อเห็นว่ารถของเพื่อนรักเลี้ยวพ้นประตูบ้านไปแล้ว ก่อนจะรีบสาวเท้ากลับเข้ามาในบ้านเพื่อมาดูเด็กน้อยไวโอลินที่คงไม่เห็นใครตอนตื่นเลยร้องเหมือนที่คุณหมอเด็กบอกไว้...
"โอ๋ๆครับ...คุณแม่อยู่นี่แล้ว...ไม่ร้องแล้วนะคนเก่ง...โอ๋..." น้ำฟ้าเอ่ยปลอบหนูน้อยพร้อมอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นบ่า มือประคองท้ายทอยไว้ข้าง ส่วนอีกข้างประคองก้นกันไม่ให้ตก ก่อนจะชี้ชวนให้ดูโน่นดูนี่เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ...
แต่แล้วไม่นาน เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น น้ำฟ้าหันมองไปที่รั้ว ...ใครกันนะมาหาเขาเวลาป่านนี้ คนรู้จักที่นี่นอกจากเพื่อนพี่ฝนแล้วก็ไม่มีใครอีกนี่... เสียงออดดังตามซ้ำมาอีกเป็นครั้งที่สองทำให้น้ำฟ้าต้องรีบหยิบกุญแจสำหรับไขประตูบ้านแล้วรีบสวมรองเท้าเดินออกไปที่รั้ว
"ครับๆ...มาแล้วครับ..." มือข้างหนึ่งประคองกอดลูกน้อยไว้แนบอก ส่วนมืออีกข้างก็รีบไขกุญแจ และเมื่อปลดล็อกได้น้ำฟ้าก็เอ่ยถามโดยไม่ทันได้มองหน้าแขก "...มาหาใคร...ครับ"
แต่เมื่อถามจบและเงยหน้ามองผู้ที่มาหาเขา ก็ทำให้น้ำฟ้าแทบจะรีบปิดประตูแล้วลงล็อกประตูไว้ตามเดิม ผู้ชายที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำหกเจ็ดคนยืนออกันอยู่หน้าบ้าน เบื้องหลังเป็นรถยนต์ติดฟิล์มดำสามคัน โดยมีชายคนหนึ่งที่ดูจากลักษณะภายนอกแล้วเป็นชาวต่างชาติกำลังยืนถือกระเป๋าเอกสารท่าทางนิ่งๆยืนอยู่ตรงกลาง... น้ำฟ้าหันจ้องมองบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความงงงวยและตกใจ...
"สวัสดีครับ..." ชายชาวต่างชาติเพียงหนึ่งเดียวในที่นั้นเอ่ยกับน้ำฟ้าออกมาก่อน สำเนียงไทยค่อนข้างชัดทำให้น้ำฟ้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะเดาสาเหตุที่กลุ่มชายชุดดำพวกนี้มาที่บ้านเขาไม่ออกเลย หรือจะมายึดบ้าน...แต่เขาก็จ่ายค่าเช่าตามกำหนดนี่...แม้ว่าพี่สาวเขาจะไม่ได้อยู่มาสองสามเดือนแล้วก็เถอะ
"...สะ...สวัสดีครับ..." น้ำฟ้าน้อมตัวเล็กน้อย พลางเหลือบตามองบุคคลต่างๆอย่างไม่ไว้วางใจ สองมือกอดกระชับเด็กน้อยไวโอลินไว้แน่น ไม่ว่ากลุ่มบุคคลนี้จะมีธุระอะไรหรือมีปัญหาอะไรกับเขาก็ตาม หนูลินของเขาจะต้องปลอดภัย...
"...คุณคือคุณน้ำฟ้าใช่มั้ยครับ... ผม..มาคัส ไบรอัน เป็นเลขาของคุณรังสิมันต์ พี่ชายของคุณรวี พ่อของคุณหนูไวโอลินครับ..."
ชื่อที่เพิ่งหลุดจากปากและสถานะของชื่อนั้นต่อหนูลินทำให้ดวงตาของน้ำฟ้าเบิกกว้าง...!
...คนจากบ้านของคุณรวี พ่อที่แท้จริงของหนูลิน !... เอายังไงดี จะทำเป็นไม่รู้จักกับเขาดีมั้ย... แต่ถึงขนาดรู้จักชื่อเขา ที่อยู่ และชื่อจริงๆของหนูลินอีก... จะบอกไปว่าไม่รู้จักคงไม่ได้แล้วสินะ... น้ำฟ้ายิ่งกอดตัวหนูลินแน่นขึ้นอีก... ตัดสินใจได้ในนาทีนั้นว่าเขาต้องไม่หวาดกลัวแม้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไรก็ตาม...
"พวกคุณมีธุระอะไรกับผม..." น้ำฟ้าถาม...พยายามเชิดสายตามองคนที่ชื่อมาคัสอย่างจะพยายามไม่หวั่น แต่ท่าทางคุกคามของคนที่อยู่รายรอบก็ทำให้ตัวเขาเริ่มสั่นได้อยู่เหมือนกัน... นายมาคัสยิ้มมุมปากเล็กๆก่อนจะให้ชายชุดดำคนหนึ่งใกล้ๆมาถือกระเป๋าเอกสารใบนั้นไว้ แล้วเปิดออก... ข้างในบรรจุเต็มแน่นไปด้วยฟ่อนธนบัตรหนึ่งพันบาท น้ำฟ้ามองของในกระเป๋าเอกสารแล้วเงยมองหน้าผู้ชายผมทองตรงหน้าทันที...
"...ในนี้คือเงินสดสามล้านบาท... บอสของผมต้องการมอบเงินนี่ให้กับคุณ...เพื่อแลกกับคุณหนูไวโอลินครับ..." มาคัสกล่าวสรุปธุระทั้งหมดอย่างกระชับได้ใจความตามนิสัยและอาชีพที่ตนทำอยู่ แม้ท่าทางและคำพูดพร้อมน้ำเสียงจะยังดูสุภาพเรียบร้อย แต่ท่าทางก็เหมือนจะเป็นการบังคับอยู่ในที ซึ่งเขาหวังว่างานนี้จะสำเร็จไปได้ด้วยดี ไม่ต้องมีใครมาเดือดร้อนอีก...
น้ำฟ้านิ่งอึ้ง... มองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง สมองพยายามประมวลผลของคำพูดที่เพิ่งผ่านหูไปเมื่อครู่...
...เงินสามล้าน เพื่อแลกกับหนูลินงั้นเหรอ?!?!... ประโยคสั้นๆที่เพิ่งทำความเข้าใจได้ คนพวกนี้ต้องการตัวหนูลินโดยใช้วิธีมายัดเงินใส่เขา !!... หึ นี่น่ะหรือ นิสัยและวิธีการของครอบครัวนี้... ครอบครัวของคนที่พี่น้ำฝนรัก... พี่น้ำฝนได้ยินสิ่งที่พวกนี้เขาพูดกับฟ้ารึเปล่านะ?... น้ำฟ้าเงยหน้าเชิดขึ้น แล้วบอกกับผู้ชายชาวต่างชาติตรงหน้าด้วยท่าทางนิ่งๆแต่แน่วแน่...
"...ขอโทษนะครับ แต่ช่วยฝากเงินนี่กลับไปคืนเจ้านายของคุณด้วย ผมไม่มีความจำเป็นต้องรับเงินจากพวกคุณ ผมจะเข้าบ้านแล้ว ขอตัว..." น้ำฟ้าพูดก่อนจะทำท่าเหมือนจะปิดประตูบ้าน แต่คำพูดต่อมาของใครบางคนก็ทำให้น้ำฟ้าต้องหยุดฟังด้วยความรู้สึกโมโหเล็กๆ...
"...งั้นก็แสดงว่าเงินแค่นี้ยังไม่พอสำหรับค่าตัวของเด็กนั่นใช่มั้ย... อยากเรียกซักเท่าไหร่ บอกมา..." น้ำเสียงทุ้มลึกแฝงแววดุดันและความมีอำนาจในตัวดังขึ้น น้ำฟ้าหันกลับไปมองก็ทันได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังก้าวออกมาจากรถสีดำที่จอดอยู่ตรงประตูบ้านของเขาพอดี ขายาวเรียวรูปร่างบึกบึนซึ่งแตกต่างกับตัวเขาชัดเจน ใบหน้าคมเข้มงดงามราวเทพบุรุษในนิยายกรีก แต่สิ่งที่ทำให้น้ำฟ้าต้องถึงกับกลั้นใจก็คือดวงตาคมกร้าวสีเข้มคู่นั้น... มันจ้องมองเขานิ่ง ก่อนจะกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะสบตากับเขาจนน้ำฟ้าต้องเป็นคนหันหลบสายตาไปก่อน...
"ว่าไง...ต้องการเท่าไหร่ ห้าล้านหรือสิบล้าน ฉันไม่มีเวลามาต่อรองกับเธอนานนักหรอกนะ รีบบอกจำนวนเงินมา ฉันจะให้มาคัสไปจัดการมาให้..." ชายหนุ่มร่างสูงจุดซิปโปที่ปลายบุหรี่ด้วยท่าทางรำคาญเล็กๆ กับแค่เด็กคนเดียว...มันจะเรียกร้องอะไรกันให้มาก แต่เพื่อตัดปัญหา ยังไงเงินมันก็ช่วยจัดการเรื่องพวกนี้ให้เขาได้ง่ายที่สุด...
"คุณหยุดพูดเถอะครับ..." น้ำฟ้าพูดโต้ตอบกลับ และเป็นคำพูดที่ชายหนุ่มรังสิมันต์ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากเด็กหนุ่มตัวเล็กท่าทางขี้โรคแบบนี้เลย... ...ท่าทางผู้ชายตรงหน้าเขาก็ดูดีมีอำนาจ แต่ไม่นึกเลยว่าวิธีจัดการปัญหาเขาจะคิดได้แค่ว่าต้องใช้ 'เงิน' เท่านั้น นี่เหรอคือ 'รังสิมันต์' พี่ชายคุณรวี น้องชายก็ดูท่าทางเป็นคนดีนี่ แต่ทำไมพี่ถึงได้...
"...เธอ...
ว่าไงนะ !" ชายหนุ่มคำรามลอดเสียงผ่านไรฟัน... ...ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะเจอกับคนอวดดีพรรค์นี้...
"ผมบอกให้คุณหยุดพูด...แล้วก็รีบกลับไปซะ ผมเองก็ไม่มีเวลาเหมือนคุณนั่นแหละ...กรุณาถอยออกไปด้วยครับ ผมจะปิดประตู..." น้ำฟ้าบอกโดยไม่มองหน้าผู้ชายตรงหน้าเขาอีก...มือก็ผลักบานประตูให้ขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น แต่มือใหญ่แข็งแรงของผู้ชายที่ท่าทางดูมีอำนาจสมดังชื่อคนนั้นกลับยกมือมาดันกั้นประตูเอาไว้...สายตาคมที่มองเขารู้สึกได้เลยว่าคงมองทะลุร่างเขาจนพรุนไปหมดแล้ว...
"...อย่าคิดว่าพูดแบบนี้กับฉันแล้วจะเลิกแล้วต่อกันได้ง่ายๆนะ..." ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงต่ำ แต่ท่าทางคนตัวเล็กข้างหน้าดูเหมือนจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อเขาเท่าที่ควร แต่กลับเชิดหน้ามองตาเขาอย่างไม่ยอมลดอีก...
"ผมก็ไม่คิดหรอก... แต่ผมจะบอกอะไรคุณนะครับ ถึงหลังจากนี้คุณจะเอาเงินพันล้านบาทหรือพันล้านดอลลาร์มากองไว้ตรงหน้าผม ผมก็ไม่มีวันที่จะยกหนูลินให้กับคุณ... แล้วอีกอย่างนะครับ หนูลินเป็นลูกชายของผม ไม่ใช่ลูกชายของคุณรวีอะไรนั่นด้วย... ขอโทษนะครับผมจะปิดบ้าน ขอความกรุณาเอามือออกด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจ ข้อหาบุกรุกและข่มขู่..." น้ำฟ้าเอ่ยตอบ ดวงตากลมโตพยายามที่จะไม่สั่นไหวไปกับอำนาจโทสะที่เขารับรู้จากนัยน์ตาคมคู่นั้น
ชายหนุ่มรูปร่างสูงเลื่อนมือออกจากประตู น้ำฟ้าก็รีบงับปิดประตูให้สนิทแล้วก็ล็อกกุญแจบ้านแน่นหนา... เขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นยังไม่ได้เลื่อนเท้าไปไหน...ยังอยู่คนละฟากกับประตูไม้นี่... แล้วถ้าชายหนุ่มเอาจริง ประตูไม้แค่นี้คงปกป้องเขากับลูกไม่ได้... แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็พร้อมจะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องหนูลินไว้ให้ถึงที่สุด... ถึงใครจะว่าเขาอ่อนแอ หงิมๆยังไง แต่พอถึงเวลาต้องเอาใจเข้าสู้ เขาเองก็ไม่ถอยง่ายๆเหมือนกันนะ แล้วยิ่งเป็นเรื่อง'ลูก'ของตัวเองอีก...ใครจะยอมปล่อยให้เด็กน้อยคนนี้ต้องตกไปอยู่ในการดูแลของคนใจร้ายพวกนั้นกันล่ะ...!!
"...ไม่ว่าจะยังไง ฉันจะเอาเด็กนั่นมาจากเธอให้ได้...ระวังตัวไว้ให้ดี..." น้ำฟ้าทันได้ฟังคำพูดเพียงแค่นั้นก็รีบวิ่งกลับเข้าบ้านทันที...
เด็กหนุ่มปิดประตูบ้านซ้ำอีกชั้น ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในครัว ตลอดเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นไป หนูลินไม่มีทีท่าตื่นกลัวคนแปลกหน้าเลยซักนิด... ไม่ร้องไห้งอแง... หรือเพราะหนูรู้จ๊ะ...ว่านั่นก็เป็นคนที่มีสายเลือดเดียวกับหนู... แล้วไม่รู้ว่าเพราะอดทนมามากเกินไปหรือเปล่ากับสถานการณ์เมื่อครู่ น้ำตาก็เอ่อคลอที่หน่วยตาแล้วก็ไหลรินลงมาอาบผิวแก้มอ่อนเป็นสาย... ...ทำไมกัน คนพวกนั้น... ...ทั้งๆที่เป็นคนผลักไสไล่ส่งพี่สาวของเขาให้ออกไปให้พ้นจากชีวิตของคุณรวีเองแท้ๆ พอตอนนี้กลับจะมาเอาตัวหนูลินไป... เป็นแบบนี้ใครเขาจะยอมกัน เขาเลี้ยงดูหนูลินมาตั้งแต่เกิด และสาบานได้ว่าไม่เคยได้รับความช่วยเหลือหรือติดต่อใดๆเลยกับครอบครัวบิดาแท้ๆของหนูไวโอลิน...
...แต่ว่า...จริงสินะ...ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นพี่ชายของคุณรวีจริงๆ... ถึงยังไง เขาก็มีศักดิ์และสิทธิ์เพียงพอและเทียบเท่ากับผู้ชายคนนั้นเหมือนกันนี่ เพราะเขาก็เป็นน้าแท้ๆของหนูไวโอลินเหมือนกัน... น้ำฟ้าคิดไปพลางสายตาก็มองหนูไวโอลินที่ทำท่าจะยื่นมือสั้นๆป้อมๆมาลูบหน้าเขา คล้ายจะปลอบโยนและเช็ดน้ำตา ยิ่งเห็นแบบนั้นน้ำฟ้าก็ยิ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ซุกหน้าลงกับผ้าอ้อมของลูก แล้วพยายามเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ในอก... ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เขาจะดูแลและปกป้องเด็กคนนี้ด้วยชีวิต จะเลี้ยงแกให้เติบโตเป็นคนดี... และจะต้องมีความสุขกับชีวิตในอนาคตให้ได้...
เขาจะดูแลและเลี้ยงดูหนูลินเอง...
ไม่ใช่ครอบครัวของคนใจร้ายอย่าง 'ภูบดีอัศวเมศวร์' เด็ดขาด !!!-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue-->>
x-> มาดึกไปหน่อยเพราะวันนี้ไปตามล่าหากระเป๋าบัตรมา TT^TT
ดันซุ่มซ่ามลืมกระเป๋าบัตรทั้งใบไว้ในฮาจิบัง !!!
พระเจ้า !!! แทบชักดิ้นชักงิกันเลยทีเดียวอ่ะทุกคน
เพราะว่ามีทั้งใบขับขี่ บัตรประชาชน บัตรนิสิต และที่สำคัญ เอทีเอ็ม !!!
โอ้วว มันคือทั้งชีวิตเค้าเลยก็ว่าได้อ่ะ
แต่โชคดีมาก ที่คุณพี่พนักงานร้านฮาจิบังอุตส่าห์เก็บไว้ !!!
ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งซึ้งที่สุดนะจ๊ะ
แหะๆ เผื่อคุณพี่เป็นสมาชิกบอร์ดนี้ก็ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยจ่ะ
-->>
ปล. ขอบคุณทุกแรงเชียร์น้องฟ้าเน้อออออ เรื่องนี้จะมาม่ารึไม่ก็คงต้องลุ้นกันล่ะจ่ะ แต่น้องฟ้าเห็นอย่างงี้ก็สู้ขาดใจนะเออ !! อิอิ
ปล.2
รักคุณผู้อ่านเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือความห่วงใยนะจ๊ะ