มาต่อรอบสุดท้ายของวันนี้
*****************************************************************
อึดอัดใช่ไหม ที่เธอยังมีฉันอยู่ ก็ฉันเห็น ฉันรู้.................ในแววตา
เมื่อวันนี่เธอนั่น มีใครอีกคนเข้ามา
และเขาดูเป็นคนที่สำคัญ
อยากบอกกันไหม อะไรที่เธอคิดอยู่ ให้ฉันรู้เก็บไว้............ทำไมกัน
เมื่อความจริงตอนนี้ ใจเธอมีเขาทุกวัน
เก็บฉันไว้ยืนข้างเธอทำไม
หากรักกับเขาจริงๆ เธอต้องทิ้งฉันไป อย่ายื้อเอาไว้เพราะความผูกพันธ์
หากรักกับเขาจริงๆ เธอก็ควรจะบอกกัน ปล่อยไว้ทำไมให้มันวุ่นวาย
ก็อยากจะขอให้เธอจัดการซะที อย่าทิ้งไว้เรื่องนี้อันตราย
อย่าลังเลกับรักที่เคยให้กันมากมาย
อย่าเสียดายความผูกพันธ์…………………..ปลอม…ปลอม..!!!!!!……เสียงเพลงในร้านยังคงดังมาเรื่อยๆ มันค่อนข้างกระทบใจผมอย่างจังเมื่อภาพตรงหน้าที่ผมมองอยู่
ต้นมันไม่สงสารผมบ้างเลยเหรอ...
มันกำลังเอาใจขวัญท่ามกลางเสียงเชียร์ของทุกๆคนที่อยู่ในงานวันเกิดพี่นก หลายครั้งที่มันก็หันมามองผมบ้างแต่ก็ได้แค่มองครับ ..แค่นั้นจริงๆ
ทุกคนดูจะมีความสุข จะรู้บ้างหรือเปล่าว่าผมกำลังเศร้าอย่างหนัก เมื่อมองดูภาพคนรักและเคยบอกรักผมกำลังอี๋อ๋ออยู่กับแฟนเก่าที่เป็นคู่รักหวานชื่นในสายตาเพื่อนร่วมงาน
“บอยไปไหนอ่ะ” พี่นกเอ่ยถามเมื่อผมลุกขึ้น ผมไม่ต้องการที่จะตกเป็นเป้าสายตาหรือเรียกร้องความสนใจกับใครหรอก แต่ผมทนมองภาพตรงหน้าไม่ได้จริง
“จะไปเข้าห้องน้ำครับ” ผมบอกพี่นกก่อนจะเดินออกไป แต่เสียงต้นที่ดังขึ้นมันทำให้ผมชะงัก
“รอด้วยดิเดี๋ยวไปด้วย..!!!!!!!!”
ต้นมันลุกตามผมมาจริงๆครับ แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันจนลับตาคนอื่น ต้นมันจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“เบื่อเหรอเห็นนั่งหน้าเครียดตลอดเลย”
“เปล่าแค่ง่วง”
“ไม่สบายหรือเปล่า”
.
“อย่ามายุ่งกับผมได้ป่ะ”
ผมไม่รู้สึกดีสักนิดเลยล่ะครับที่มันมาแสดงความห่วงใยผมแบบนี้ พอกลับไปที่โต๊ะเดี๋ยวมันก็เป็นเหมือนเดิมอีก
“ที่ถามนี่ห่วงนะ”
“ผมดูแลตัวเองได้แค่นี้มันไม่ตายหรอก”
“พาลนะเรา”
“ผมไม่ได้พาล พี่จะเอาไงกับผมพี่บอกมาเลยดีกว่า”
“เอาไงมันมีอะไรต้องเปลี่ยนงั้นเหรอ พี่เคยรู้สึกยังไงพี่ก็เป็นแบบนั้น”
“พี่จะปั่นหัวผมไปอีกนานแค่ไหน พี่พาผมมาทำงานที่เดียวกับพี่ แล้วพี่พาขวัญมาอีกทำไม”
“แล้วมีเหตุผลอะไรที่พี่จะห้ามไม่ให้ขวัญมา”
“พี่ก็น่าจะรู้ว่าทำไม”
“พี่ไม่รู้ พี่รู้แต่ว่าขวัญก็เป็นคนๆหนึ่งที่พี่รู้จักและคุ้นเคย เมื่อเขาอยากจะมีงานทำ ทำไมพี่จะช่วยเขาไม่ได้ นายอย่าใจแคบไปหน่อยเลย”
“ผมไม่ได้ใจแคบถ้าผมไม่ได้เป็น…”
ผมจำเป็นต้องหยุดการสนทนาไว้แค่นั่นเมื่อกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันเดินมาทางเราพร้อมๆกับขวัญ
“ยังไม่เสร็จธุระกันอีกเหรอ” ขวัญเอ่ยถามก่อนพลางไปหยุดยืนข้างๆต้น จนพวกที่มาด้วยอดที่จะแซวไม่ได้
“อะไรจะหวานกันขนาดนั้นยัยขวัญ ห่างกันไม่ถึงสิบนาทีเลยนะ” ขัวญมองหน้าผมกับพี่ต้นสลับกัน ผมคิดว่าความจริงที่มันรู้อยู่เต็มอก คงจะทำให้มันกระดากอายบ้างแหละครับที่จะแสดงความเป็นเจ้าของต้นต่อหน้าผม..แต่ผมคิดผิด!!!!!!
“ขวัญไม่ได้มาตามนะ ขวัญเชื่อใจพี่ต้น อีกอย่างพี่ต้นมากะบอยยังไงก็ผู้ชายด้วยกันเขาคงไม่ทำอะไรกันหรอก”
ผมละเอือมระอาจริงๆครับ แต่ก็ทำได้แค่ทนขนาดต้นมันยังไม่พูดอะไร แล้วผมจะพูดอะไรได้ล่ะครับ ท่าทางผมจะอยู่ในงานนี้ไม่ได้แล้วล่ะ
ผมเดินแยกตัวกลับออกไปที่โต๊ะเพื่อจะบอกพี่นกว่าขอตัวกลับก่อน พี่นกแกก็พยักหน้าแกคงเห็นผมหน้าตาเครียดๆมั้งครับ อยู่ไปก็จะพลอยทำให้งานแกกร่อยไปด้วย แกถึงยอมตอนเดินออกจากร้าน ก็ยังไม่วายที่จะเจอคู่นั่นอีก พวกมันจะทำให้ผมเจ็บไปถึงไหนกัน
“ขับรถดีๆล่ะบอย” ขวัญเอ่ยบอกผม ผมคงคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จริงๆจึงตอกกลับมันไปเล่นเอาทุกคนอึ้ง
“เสือกกก!!”
ผมเองก็ตกใจไม่น้อยยิ่งต้นมันมองดูผมดูท่ามันก็ตกใจ มันคงไม่คิดว่าผมจะเอ่ยออกมาได้
“ทำไมบอยพูดงี้กะขวัญล่ะเพื่อนอุตส่าห์ห่วงนะ” พี่นกพูดกับผม แกก็คงไม่เชื่อหูเหมือนกัน
“บอยเขาไม่ชอบหน้าขวัญตั้งแต่ตอนเรียนแล้วค่ะ” ขวัญมันบอกออกมาทุกคนก็ยิ่งมองผมเข้าไปใหญ่
“อ้าวเป็นงั้นแต่เราอยู่ออฟฟิสเดียวกัน ก็ควรจะถูกกันไว้นะใช่ป่ะบอย” พี่นกแกพูดเหมือนผมเป็นคนผิด ผมก็คงปล่อยเลยตามเลย
“ครับต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้งานกร่อย สนุกต่อเถอะครับเจอกันวันจันทร์ครับ”