Politics of love รักถะศาสตร์ #เจ้ากรมขย่มปฐพี เล่มออกละเด้อ พร้อมส่ง 10/6/2563
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Politics of love รักถะศาสตร์ #เจ้ากรมขย่มปฐพี เล่มออกละเด้อ พร้อมส่ง 10/6/2563  (อ่าน 60539 ครั้ง)

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่กรมคะ อะไรคือเหมือนมากรุ่มกริ่มกะน้อง อิน้องก็ดูจะอึนๆ มึนๆ อ่ะ แต่ก็น่าเอ็นดูเหมือนพี่กรมว่าอ่ะค่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
:L2: :pig4:

อาการออก
วันนี้ก็มาถึงวันที่คุณ Billie มีตัวหนังสืออออออ ขอบคุณค้าาา

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
ตอนที่ 10.2

สิงห์สัมพันธ์

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา


   วันนี้เป็นวันที่ผมจะต้องไปค่ายของคณะคือค่ายกิจกรรมสิงห์สัมพันธ์ซึ่งกิจกรรมสิงห์สัมพันธ์ถูกแบ่งออกเป็นสองอย่างคือเป็นกีฬาประเพณีระหว่างสองสถาบัน และการเข้าค่ายเพื่อสานสัมพันธ์ในคณะระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง และค่ายครั้งนี้ที่ผมมาคือการออกค่ายเพื่อทำกิจกรรมกันในคณะ จุดประสงค์ของค่ายคือการสร้างความสามัคคีให้กับรุ่นพี่และรุ่นน้องในคณะโดยสถานที่ที่เราจะไปคือทะเลจังหวัดระยอง ผมเองก็ไม่รู้ว่าที่ไหนเหมือนกันครับ ไอ้เจ๋งก็บอกนะแต่ผมไม่ได้จำ


   “ สวัสดีครับ น้องคนไหนที่มาแล้วก็มาลงชื่อตรงนี้เลย” ผมเดินแบกกระเป๋าเป้ที่เตรียมมาไปวางไว้ที่จุดวางสัมภาระที่พี่ๆเขาเตรียมไว้ให้สำหรับเด็กปีหนึ่ง ก่อนจะเดินไปลงชื่อ ตอนนี้มีแค่ผมที่มาเพราะไอ้เจ๋งกับไอ้บิวมันยังไม่มา ผมว่ามันมาสายแน่ๆ


ตุบ!


   ผมเดินไปด้วยและก้มลงเช็คโซเชียลในโทรศัพท์ไปด้วยจนไม่ได้มองทางทำให้ครั้งนี้ผมเดินไปชนเข้ากับใครบางคน ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเห็นว่าเป็นเอ่อ...ไอ้กวง


   “ ขอโทษครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่มันเพราะครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายผิดเองถึงแม้ว่าใจผมอยากจะกระโจนไปต่อยพี่มันก็เถอะครับ ยิ่งเห็นหน้าผมก็ยิ่งหัวร้อนเรื่องงานที่มันขโมยผมไป


   “ อืม” แต่ครั้งนี้มันกลับไม่วอแวกลับผมเหมือนครั้งก่อนถือว่าดีครับ ผมเองก็ยังไม่อยากมีเรื่องเหมือนกันเพื่อนก็ไม่มี แบคผมก็ยังมาสักคน ถ้าผมกล้ามีเรื่องตรงนี้รับรองได้ว่า...กูเละแน่


   ผมนั่งรอพวกเพื่อนเวรทั้งสองอยู่นานก่อนที่ผมจะได้รับไลน์จากพวกมันพร้อมกันว่า


   ‘ พีกูกับไอ้เจ๋งรถล้มคงจะไปไม่ได้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงมึงไปเที่ยวให้สนุกเถอะเพื่อน’


   ผมแทบจะเดินไปเอากระเป๋ากลับหอทันที แต่ติดอยู่อย่างเดียวก็คือว่าพวกพี่ๆเขาเอาของขึ้นรถไปหมดแล้ว อีกอย่างตอนนี้ทุกคนก็ทยอยกันขึ้นรถกันหมด ทำให้ต้องจำใจไปทั้งๆที่ในใจตอนนี้ผมเฟลไปหมดแล้วครับ รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุแต่มันทำไงได้อุตส่าห์คิดว่าจะได้มาเที่ยวกับเพื่อนแท้ๆ


   “ นั่งไปเลยครับน้อง ว่างตรงไหนก็นั่งเลย” ผมเดินมานั่งด้านหลังของรถเพื่อหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆเพราะรู้ว่าอย่างไงก็มีกิจกรรมบนรถแน่นอน


   “ เก็บโทรศัพท์เพื่อความปลอดภัยครับ พี่จะคืนให้อีกทีคือวันกลับนะทุกคน” เสียงของพี่สตาฟบอก ทำให้พวกผมต้องเอาโทรศัพท์ยื่นไปให้พี่ๆที่เดินเก็บ แม้ว่าจะมีเสียงบ่นหรือโวยวายตามหลังก็ตาม


ตุบ!


   ผมที่กำลังจะเอนหัวไปพิงกับกระจกรถ อยู่ๆผมก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมานั่งเบาะข้างๆผมก่อนที่ผมจะหันหน้าไปดู จากที่ผมจะหลับในตอนแรก ตอนนี้ตื่นขึ้นมาเลยครับ


   “ พี่มานั่งทำไม?” ถึงผมไม่อยากจะมีปัญหาแต่ก็อย่างว่า ผมไม่อยากจะยุ่งกับพี่มันสักเท่าไหร่ ยิ่งตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ด้วย


   “ มันเขียนว่าห้ามนั่งหรอครับน้องพี” ผมหันหน้าหนีพี่มันทันทีเพื่อเลี่ยงการปะทะคารมบอกแล้วครับว่าวันนี้เพื่อนผมไม่มา และพี่ๆผมก็ไม่มาด้วยเช่นกัน


   “ ตามใจพี่”


   “ กูก็พึ่งรู้นะว่าทำไมไอ้กรมถึงชอบอยู่ใกล้มึง” ผมหันไปมองหน้าไอ้พี่กวงทันทีที่พี่มันพูดถึงบุคคลที่สามอย่างพี่กรม


   “ พี่จะสื่ออะไรวะ?”


   “ ไม่มีอะไรกูก็แค่อยากพูด”


   “ ครับ”


   “ เอาจริงๆนะ กูอยากจะคุยกับมึงเรื่องนั้น”


   “ เรื่องอะไร? ไอ้เรื่องที่พี่ขโมยงานผมอย่างนั้นหรอ?” ผมว่าผมจะไม่โมโหแล้วนะแต่ไอ้กวงมันก็ยังจะรื้อขึ้นมาอีก


   “ ตอนแรกกูก็แค่อยากจะทำขำๆแกล้งมึงแกล้งไอ้กรม แต่พอกูเห็นมึงร้องไห้.....” พี่มันเว้นช่วงเอาไว้ก่อนทีพี่มันจะพูดออกมา “ กูรู้สึกแย่”


   “ แกล้งขำๆ? ใช้เหี้ยอะไรคิดอะครับ” ผมพยายามระงับน้ำเสียงและท่าทางของตัวเองให้มากที่สุด แต่แล้วผมก็หลุดคำหยาบออกมาจนได้ แต่อย่างว่าคนอย่างไอ้กวงแม่งไม่ควรเรียกมันว่าพี่หรือพูดดีกับมันเลยด้วยซ้ำ


   “ ใจเย็นนะน้องพี คือกูก็รู้สึกแล้วไง” ไอ้กวงมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆซึ่งมันต่างจากคำที่มันพูดบอกคือการรู้สึกผิด แววตาของมันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย “กูไม่ชอบเห็นน้ำตามึง”


   “ ที่ผมร้องคือผมโกรธที่ผมทำอะไรคนอย่างพี่ไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว” ถึงปากจะบอกว่าไม่สนใจก็เถอะแต่ในใจตอนนี้ผมนี่โคตรเดือดเลยครับ


   “ ทำอย่างไงให้มึงหายโกรธ”


   “ พี่ไม่ต้องทำเพราะพี่ไม่ได้มีความสำคัญในชีวิตผม” ผมพูดออกไปตรงๆการที่พี่มันเข้ามาหาผมแบบนี้ บอกเลยว่าผมไม่ไว้ใจ “ แค่เลิกยุ่งกับผมกับพี่กรมก็พอ”


   “ อย่าขออะไรที่กูทำไม่ได้” มันชักจะอย่างไงๆแล้วแหละครับ ผมได้กลิ่นแปลกๆ “ กูว่ากูชอบมึงเข้าแล้วหละ”


   “.............”


   “ กูพูดจริง”


   ผมว่าผมต้องแคะขี้หูให้ออกจากหูของผมให้หมดเพื่อที่ว่าจะได้สบายหูได้ยินสิ่งที่ไอ้พี่กวงมันพูดกับผม พี่มันบอกว่าชอบทั้งๆที่มันเคยด่าผมว่าผิดเพศแต่ตอนนี้มันกลับมากลืนน้ำลายตัวเอง ผมไม่เชื่อคำพูดพี่มันแน่นอน


   “ ถ้ากูขอโทษตอนนี้มันจะสายไปไหม”


   “ เอาจริงๆนะ ผมไหว้พี่เลยพี่กวง” ผมยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับทำหน้าเอือม คือตอนนี้ผมก็พึ่งจะเฟลกับเพื่อนที่แม่งเทผมไป แล้วตอนนี้คือผมต้องมาเจอพี่มันที่มาพูดจาแปลกๆกับผมอีก “ เลิกยุ่งกับผมเหอะนะ”


   “ กูให้มึงต่อยกูเลย เผื่อว่ามึงจะได้สบายใจ” พี่มันพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง ผมก็อยากจะรู้ว่าไอ้สิ่งที่พี่มันพูดคือพูดออกมาจริงไหม หรือแค่พูดให้พี่มันดูเท่ ไม่รอช้าครับผมกระแทกหมัดใส่หน้าไอ้พี่กวงไปเต็มๆจนหน้าพี่มันหันไปตามแรงต่อย


ผั๊วะ!


   “ สำหรับที่พี่เอางานผมไป”


ผั๊วะ!


   “ สำหรับที่พี่เคยดูถูกผม”


ผั๊วะ!!


   “ สำหรับทุกสิ่งที่พี่ทำกับพี่กรม!” ผมต่อยพี่มันไปสามทีติดๆโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้พี่มันพูดออกมา ผมสะบัดข้อมือตัวเองทันทีหลังต่อยพี่มันเสร็จ


   เจ็บสัด! เชื่อแล้วว่าทฤษฎี Action เท่ากับ Reaction มันเป็นจริงๆ ยิ่งผมต่อยพี่มันแรงเท่าไหร่ผมก็ได้รับแรงกระแทกกลับมาเท่านั้น


   “ หึ” ไอ้พี่กวงมันหัวเราะออกมาก่อนจะใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของตัวเอง “ กูเข้าใจแล้ว แต่กูไม่ยอมแพ้แน่ๆ” พูดจบพี่มันก็ลุกเดินหนีออกไปทันทีทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่ที่เบาะเหมือนเดิม


   “ ผมเชื่อว่าพี่ไม่ได้ชอบ แต่พี่แค่อยากเอาชนะ ขอร้องอย่าเอาผมมาเป็นเครื่องมือ” ผมไม่รู้ว่าพี่มันได้ยินในสิ่งที่ผมพูดออกไปไหม แต่เชื่อเถอะครับว่าไอ้คำที่พูดออกมาว่าชอบแม่งโคตรจะปลอม ผมไม่เคยเห็นใครคนไหนพูดออกมาโดยที่สีหน้าไม่ได้รู้สึกหรือสอดคล้องกับคำพูดเลย ซึ่งไอ้กวงมันทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นเป็นคนแรก



   กวงเองก็ไม่แน่ใจว่าวันนั้นที่เขาโดนต่อยที่ร้านของพี่สิคือฝีมือใคร จนกระทั่งวันนี้ที่เขาให้พีต่อยทำให้เขาแน่ใจอะไรบางอย่างว่าคนที่ต่อยเขาคือใคร....


ผั๊วะ!


   ‘สำหรับวันนั้นที่มึงลวนลามไอ้พี’


ผั๊วะ!!


   ‘ สำหรับวันนี้ที่มึงขโมยงาน’


ผั๊วะ!!!


   ‘ สำหรับอนาคตที่มึงจะกำลังทำ!’


   “ไอ้กรม....” ภาพที่เล่นซ้ำๆขึ้นมาในหัวของเขา ภาพที่เขาโดนต่อย ภาพที่ไอ้กรมมันพูดกรอกหูเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ทั้งหมดมันคือการแก้แค้น เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่พวกมึงจะเจอ!



Jaokom’s talk


   วันนี้คือวันเสาร์ครับเป็นวันพักผ่อน ผมมีโปรแกรมที่ถูกวางเอาไว้ให้ผมเลือกอยู่สองทาง


1.   ไปกินข้าวกับพ่อพร้อมกับลูกๆนักการเมืองท่านอื่นๆ

2.   ไปเป็นเพื่อนไอ้เทพที่เป็นกน.จัดงานสิงห์สัมพันธ์


เลือกไม่ยากครับเพราะผมเลือกไปกับไอ้เทพ ทิ้งเวลาพักที่ผมจะได้อยู่กับเฉลิมลูกรักกลับต้องไปทะเลไปดูแลกิจกรรมของวันนี้ที่จัดเตรียมให้น้องๆปีหนึ่ง ตอนแรกผมจะเอาเฉลิมไปด้วยแต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวลูกผมจะโดนแดดแล้วผิวลูกจะเสีย


   “ มึงได้คุยกับไอ้พีไหม” ไอ้เทพบุตรถามผมขณะที่มันกำลังขับรถ


   “ ไม่ว่ะ มันหายไปเลยตั้งแต่เมื่อคืน” ไอ้เด็กผีมันชอบชวนผมเล่นเกมส์ดึกๆ ให้ผมช่วยผลิตของห่าเหวอะไรก็ไม่รู้พอโรงงานผมผลิตไม่ทันมันก็โทรไลน์มาด่าโคตรเกรียน


   “ มึงลองโทรหามันดิว่าอยู่ไหน เพราะกูจะได้กะเวลาถูก” ไอ้พีมันไปรถของที่คณะจัดให้ ส่วนพวกผมมากันเองครับสะดวกดี ขากลับค่อนชวนไอ้เด็กผีกลับพร้อมกันผมว่าจะสบายกว่ากลับรถของคณะ


   ผมกดโทรออกหาไอ้เด็กผีทันที แต่โทรแล้วโทรเล่าก็ไม่ติด


   “ ไม่ติดว่ะ”


   “ สงสัยจะเก็บโทรศัพท์” มันก็ไม่บอกผมนะครับให้ผมนั่งกดโทรออกอยู่นานสองนาน “ เดี๋ยวครึ่งชั่วโมงน่าจะถึง” ผมเลิกสนใจไอ้เทพก่อนจะเอนเบาะเพื่อพักสายตาเก็บแรงเอาไว้ครับ วันนี้ผมคงต้องใช้แรงอีกเยอะ



ชายทะเลจังหวัดระยอง


   ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงอย่างไอ้เทพบอกจริงๆครับ เพราะตอนนี้ผมมายืนอยู่ตรงชายฝั่งของทะเลเป็นที่เรียบร้อย ส่วนสัมภาระก็มีน้องๆปีสองมาขนให้ทำให้ผมกับไอ้เทพเดินมาที่ฐานกิจกรรมเลยไม่ต้องเสียเวลาเอาของไปเก็บ ผมมองไปรอบๆก็เห็นว่าตอนนี้น้องๆปีสองกำลังนำรุ่นน้องทำกิจกรรมอยู่ ทั้งเต้นทั้งร้องก็น่าจะสนุกกันดีนะครับ สังเกตจากเสียงร้องและรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าจะเว้นก็แต่เด็กบางคนที่ผมเห็นว่ามันไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับคนอื่นสักเท่าไหร่ นั่นก็คือไอ้น้องผีเองครับ


   “ หึ” ผมส่ายหัวให้กับท่าทางที่ไม่มีความสุขของไอ้น้องผีแต่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไรมาก เพราะตอนนี้ผมกับรุ่นพี่ปีสามอื่นๆต้องไปเตรียมทำกิจกรรมที่เริ่มเข้าสู่โหมดซีเรียส ไม่ใช่ว้ากแต่ผมว่าก็ไม่น่าจะต่างถ้าวัดเรื่องความกดดัน






ปล. ไอ้กวงไอ้เวร!!!

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:08:37 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กวงคือคนที่อยู่ใต้โคลนตมแบบแท้ทรู เหนื่อยกับคนแบบนี้ :angry2: พี่เขาอยากจะโชว์ก็ต้องให้พี่เขาโชว์หน่อย ก็นึกว่าโดนต่อยแล้วจะจำยังหาเรื่องใส่ตัวเองอีก ตอนที่น้องผีต่อยคือสะใจมาก กวงสมควรโดนเยอะกว่านี้อ่ะจริงๆ รอตอนต่อไปนะคะ อยากเห็นความตอของกวง อยากเห็นพี่กรมตอนแบดๆอีก ดีต่อใจมาก :hao6: คุณไก่ทอดสู้ๆนะคะ :กอด1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อย่างกวงมันต้องโดนรุมสกรัมบ้าง นิสัยอันธพานไม่เลิก

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
  เกรียนมากนายเอกชั้น เกรียนขั้นสุดอ่ะ แต่ชอบ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :o8: แซวเรา 55
 อีกวงงงง โรคจิต

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 10.3

สิงห์สัมพันธ์


Pee’s talk


   เอาจริงๆนะตอนนี้ผมโคตรจะเบื่อเลยที่ต้องมาเต้นมาร้องตามพวกพี่ๆเขาโดยที่ผมไม่รู้จักใครเลย อีกทั้งเรื่องที่ผมกังวลก็คือไอ้พี่กวงที่มันพูดกับผมบนรถแล้วผมก็ต่อยหน้าพี่มันไป ซึ่งผมว่าผมก็อารมณ์ร้อนเกินกว่าจะควบคุมตัวเองปล่อยให้อารมณ์และความไม่พอใจในครั้งที่พี่มันทำกับผมครอบงำ ผมไม่ฟังในสิ่งที่พี่กรมมันเคยสอนผมว่าไอ้กวงมันเป็นคนชอบปั่นหัวคน ตอนนี้พี่มันทำสำเร็จแล้วครับที่ปั่นหัวคนอย่างผมได้


   “ เห้ย! น้องคนนั้นถ้าไม่อยากเต้นก็เดินออกไป”


   ผมว่าผมต้องไปคุยกับพี่มันอีกครั้งแล้วแหละครับไม่งั้นผมจะไม่สบายใจ จริงๆก็อยากที่จะโทรไปปรึกษาไอ้พี่กรมมันแต่ว่าโทรศัพท์ก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง ทำให้ผมอดทนคอยเวลาพักค่อยไปตามหาพี่กวงมัน


   “ เห้ย! กูพูดไม่ได้ยิน” ผมไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างเท่าไหร่ ผมเอาแต่นิ่งอยู่ในความคิดของตัวเองจนกระทั่งมีมือเล็กๆมาสะกิดที่ไหล่ของผมเบาๆ


   “ นาย...พี่เขาเรียกนาย” จังหวะนั้นที่ทำให้ผมเงยหน้ามองไปรอบๆก่อนจะเห็นว่าทุกคนหยุดทำกิจกรรมและหันมามองผมกันทั้งแถวรวมถึงพี่ๆด้วย ทำให้ผมก้มหัวขอโทษทุกคน


   “ ขอโทษครับ”


   “ อย่าให้เห็นว่าไม่มีส่วนร่วม” ผมก็อยากที่จะกลับมาเป็นน้องพีคนดีคนเดิมที่เฮฮาและเกรียนแตกไปวันๆ แต่บางครั้งอารมณ์ผมมันก็ไม่สามารถที่จะฝืนทำอย่างนั้นออกไปได้ เอาเป็นว่าพักเรื่องไอ้พี่กวงมันไปก่อนละกันครับผมจะเกรียนแล้วตอนนี้


   “ เราพีนะ” ผมหันไปบอกเพื่อนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆผม


   “ เรารู้จักพี พีออกจะดัง”


   “ เราอ่อ?” ผมชี้มาที่ตัวเองอย่างที่ไม่เชื่อคำพูดของเธอสักเท่าไหร่


   “ ใช่ เราเห็นพีในคลิปเมื่อเดือนก่อนที่พีโดนต่อยไปทีฮือฮามากเลยนะ” ผมก็พอจะรู้กระแสของตัวเองช่วงนั้นอยู่เหมือนกัน “ แต่ว่าภายนอกพีดูเข้าถึงยากเราเลยไม่ค่อยได้เข้ามาคุยกับพี อีกอย่างพีก็ดูสนิทกับรุ่นพี่ที่น่ากลัวมันทำให้พีดูน่ากลัวและเข้าถึงอยากไปอีก” ผมเนี่ยนะเข้าถึงยาก แล้วไอ้รุ่นพี่ที่ผมอยู่ด้วยบ่อยๆก็คือพวกพี่กรม พวกพี่เขาไม่ได้ดูน่ากลัวเลยนะ ออกจะเฮฮาบ้าบอสะมากกว่า


   “ เราเข้าถึงง่ายมากถ้าหอยแครงอยากรู้จักเรา” ผมมองที่ป้ายชื่อของเธอก็เห็นว่าเขียนว่าหอยแครงผมก็อ่านตามนั้น อยากจะรู้จริงๆนะครับว่าพ่อกับแม่ของเธอตั้งชื่อให้ลูกสาวน่ารักๆว่าหอยแครงได้อย่างไง


   “ ฮ่าๆ เราชื่อเชลแต่ว่าพี่ที่เขียนชื่อเขาแกล้งเรา” เธอรีบยกมือขึ้นมาปฏิเสธทันที


   “ เราขอโทษๆ” ผมนี่เขินเลยครับดันไปเรียกเธอว่าหอยแครง “ จริงๆเราเข้าง่ายมากเลยนะ ไม่หยิ่งและไม่น่ากลัว” ผมยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร


   “ จะคุยกันอีกนานไหม!!!” เสียงตะโกนพร้อมกับสายตาดุๆของพี่ปีสองมองมาทางผมกับเชลที่ยืนคุยกัน


   “ ขอโทษค่ะ” เชลตะโกนออกไปก่อนที่เธอจะสั่งให้ผมเต้นๆตามทุกคนจะได้ไม่มีปัญหาและไม่ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน


   จนกระทั่งตอนนี้เป็นช่วงพักเบรกมีพี่ๆฝ่ายสวัสดิการนำน้ำหวานและขนมมาเดินแจกน้องๆที่นั่งเป็นกลุ่มๆ ไอ้ผมที่ไม่มีเพื่อนก็แยกตัวออกมานั่งคนเดียว เพราะพวกผู้ชายดูก็รู้ว่าพวกแม่งมันไม่ชอบผมกันสักเท่าไหร่ เห็นมองมาทางผมแล้วก็หันไปซุบซิบ ถามจริงนะครับถ้าจะนินทากูขนาดนี้ก็ลุกมาคุยมาด่ากูซึ่งๆหน้าจะดีกว่า


   “ น้ำ” ผมหันไปมองตามเสียงที่อยู่เหนือกว่าก่อนจะเห็นว่าเป็นไอ้พี่กวงที่ยืนแก้วน้ำหวานมาให้ผมท่ามกลางสายตาของทุกคนที่ดูอยากรู้อยากเห็นไปซะหมด


   “ ผมไม่หิวพี่ ผมกินแล้ว” ผมปฏิเสธพี่มันออกไป แต่ดูเหมือนว่าการที่ผมปฏิเสธจะเป็นการทำให้ทุกคนหมันไส้และคิดว่าผมเล่นตัว


   “ แค่รับไปมันจะยากขนาดนั้นเลยหรอวะ?” ผมหันไปมองหน้าพี่มันตรงๆก่อนที่จะลุกขึ้นยืนหันหน้าเข้าหาพี่กวง


   “ ผมว่าหยุดเถอะพี่ ผมรู้ว่าที่พี่เข้ามาหาผมมันไม่ใช่เจตนาที่ดี” ผมพูดออกมาเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่ดูเหมือนว่าพี่กวงมันจะไม่เข้าใจเพราะพี่มันจงใจพูดออกมาเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้ยิน


   “ ก็พี่เป็นห่วงเราหนิครับ”


   ไอ้สัดเอ้ย! ผมว่ามันไม่ใช่แล้วอะครับ


   “ ผมจะรับไว้” ผมรับแก้วพี่มันมาเพื่อตัดความรำคาญ เมื่อผมยอมพี่กวงมันก็เดินยิ้มออกไปจากตรงนี้เมื่อพี่มันออกไปเท่านั้นแหละครับเสียงของใครหลายๆคนก็พูดขึ้น


   “ โอโห้ว เนื้อหอมสัดอะ มีแต่รุ่นพี่มารุมล้อมกูไม่เห็นมีแบบนี้บ้างวะ”


   “ มึงไม่เด่นพออะดิ สู้ไอ้นี่ไม่ได้ร้อก” ยิ่งน้ำเสียงที่ฟังดูประชดประชันมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเก็บอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เท่านั้น ทำให้ผมเดินไปนั่งกับกลุ่มของพวกมัน


   “ เป็นเหี้ยอะไรอะครับ ไหนพูดดิ้” ผมยื่นหน้าไปหาไอ้คนที่พูดใส่ผมเมื่อสักครู่นี้ “ พูดดิ! เก่งไม่ใช่ไง เก่งก็พูด!” ยิ่งมันเงียบผมก็ยิ่งโมโหทีผมมาให้พวกแม่งด่าก็ไม่ยอมด่าออกมาตรงๆ


   “ ........”


   “ อยากแดกมากใช่ไหม เอาไป” ผมเทน้ำที่พี่กวงมันเดินเอามาให้ใส่แก้วของพวกแม่งไปก่อนจะลุกเดินหนีออกมาเพื่อเอาแก้วไปทิ้งถังขยะ


   ถึงจะหัวร้อนแต่ก็รักษ์โลกครับ!


   หลังจากที่ทิ้งแก้วเสร็จผมก็เดินหัวเสียมาเข้าห้องน้ำด้านในรีสอร์ทเพราะที่ทะเลซึ่งเป็นบริเวณที่ทำกิจกรรมไม่มีห้องน้ำให้เข้า ถ้าจะเข้าต้องเดินมาเข้าที่ห้องน้ำด้านใน


   “ ไอ้พี” ผมที่กำลังจะเดินเลี้ยงเข้าห้องน้ำทั้งสองมือเตรียมปลดกระดุมกางเกงออก แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของไอ้พี่เทพที่เรียกเอาไว้


   “ พี่เทพหวัดดีพี่” ผมปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงยกมือขึ้นไหว้พี่เทพ “ ผมไม่เห็นพี่เลย”


   “ กูพึ่งถึง เป็นไงมึง”


   “ เบื่อ โคตรเซ็งเหมือนมาให้โดนด่า” ได้ทีผมก็ฟ้องพี่มันหน่อยครับนานๆทีจะเจอพวกเดียวกัน แค่ครึ่งวันผมยังโดนขนาดนี้ ผมจะเอาชีวิตรอดอย่างไงให้ถึงพรุ่งนี้ดีครับ


   “ มีประเด็น?”


   “ เออดิพี่ ไอ้เหี้ย ผมเซ็งสัดๆ” ผมไม่เข้าห้องน้ำแม่งละครับ นั่งหน้าห้องน้ำคุยกับพี่มันดีกว่า ระบายสิ่งที่ผมอึดอัดออกมา อย่างน้อยๆก็มีคนคอยรับฟัง


   “ อยากคุยกับพ่อมึงไหม?” อยู่ๆพี่เทพก็พูดขึ้นทำให้ผมขมวดคิ้วทันทีว่าไอ้พ่อเอ้ย! พ่อที่เทพพูดคือใคร พ่อผมจริงๆหรือเป็นเพียงแค่นัยแทนใครบางคนเท่านั้น ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามอะไรพี่เทพก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน


   ( ว่าไงไอ้เทพ?) ทันทีที่ปลายสายรับผมก็รู้เลยทันทีว่าพ่อที่พี่มันพูดถึงคือใคร แค่ได้ยินเสียงผมก็อยากจะร้องไห้ครับ คิดถึงความอบอุ่นของพี่มันจริงๆ


   “ ลูกมึงจะคุยด้วย” พี่เทพยื่นโทรศัพท์ของพี่มันมาให้ผม


   “ พี่กรมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม” ผมเรียกเสียงยานทันทีให้พี่มันได้ยินและรู้ว่าตอนนี้ผมไม่ไหว ผมอยากกลับบ้าน


   ( เป็นไรครับน้องผี)


   “ ผมมีเรื่องโคตรเยอะตั้งแต่เช้า เพื่อนผมสองคนมันเกิดอุบัติเหตุเลยมาไม่ได้ ผมไม่รู้จะไปคุยกับใครเลยพี่ เพื่อนๆแม่งก็ไม่เป็นมิตรกับผมสักคน” ยิ่งผมพูดน้ำเสียงของผมก็เปลี่ยนเป็นเสียงสองเสียงสามโดยอัติโนมัติ


   ( อดทนดิมึง พรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว)


   “ ผมอยากกลับวันนี้” ทำไมเสียงกูออดอ้อนขนาดนี้วะ??? ไม่ดิ ไม่เอาดิวะไอ้พี เดี๋ยวพี่กรมแม่งจะเข้าใจมึงผิด


   (อย่างอแงดิ) เอ๊ะ? ทำไมผมรู้สึกว่าบทสนทนาแม่งดูแปลกๆวะ เหมือนไม่ใช่ผมกำลังคุยกับพี่แต่เหมือนผมกำลังบ่นให้.........ขออนุญาตไม่พูดตามที่คิดออกมาก็แล้วกันครับเพื่อความปลอดภัยของหัวใจ


   “ พี่.......”


   “ พอๆไอ้ห่า กูทนฟังไม่ได้” พี่เทพแย่งโทรศัพท์ของพี่มันจากผมก่อนที่พี่มันจะคุยกับพี่กรมสองสามคำและวางสายไป


   “ ไปได้แล้วมึงเดี๋ยวก็โดนด่า ยิ่งมีประเด็นหนิ” ไอ้พี่เทพมันไล่ผมทันที


   “ ครับ พี่ไล่จังก็รู้ว่าผมไม่มีเพื่อน” ผมหน้างอทันทีที่พี่มันเอ่ยปากไล่ออกมา


   “ ทานโทษนะครับกูไม่ใช่ไอ้กรมเนอะ อย่ามาทำเสียงงุงิๆใส่กู เหมือนหมาฉิบหาย” ผมไม่รู้นะว่าพี่มันชมหรือด่าแต่ผมว่าผมแม่งรู้สึกดีกว่าที่อยู่กับเพื่อนทำกิจกรรมเมื่อเช้าเลยหวะ บรรยากาศต่างกันราวฟ้ากับเหวถึงหน้าไอ้พี่เทพจะดูเหมือนเหวก็เถอะ แต่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจผมจะยกให้พี่มันเป็นฟ้าก็แล้วกัน


   “ แล้วพี่กรมมาไหมอะพี่” ผมถามพี่เทพมันออกไปอีกครั้งก่อนที่ผมจะกลับไปยังลานกิจกรรมริมชายหาด


   “ มา เดี๋ยวมึงก็เจอมัน” ผมพยักหน้าให้พี่มันอีกทีว่าผมรับรู้ และเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อทำกิจกรรมต่อ เหมือนว่าผมลืมอะไรบางอย่างเท่าที่รู้สึกนะ แต่ผมก็คิดไม่ออกจนกระทั่ง.......


   “ พี พี่ใส่กางเกงในสีขาวหรอ?” หอยแครง เอ้ย! เชลถามผมหลังจากที่ผมเดินมาเข้าแถวเหมือนเดิม


   “ ใช่ เชลรู้ได้ไง”


   “ พีลืมรูดซิบกางเกงอะ” ไม่พูดเปล่าครับเธอยังใจดีชี้มาที่เป้าผมด้วยท่าทางเขินอาย


   “ ฉะ...ฉิบหาย” ใครต่อใครเห็นบ้างก็ไม่รู้ ดีนะที่ผมเลือกกางเกงในตัวใหม่มาใส่ ถ้าใส่ตัวเก่าที่เป้าขาดมานะครับ ทุกคนจะได้เห็นพีน้อยและผองเพื่อนแน่ๆ และอีกหนึ่งอย่างที่ผมคิดได้ก็คือ....ผมลืมเข้าห้องน้ำครับ เอาไว้ทำกิจกรรมลงน้ำทะเลเมื่อไหร่ผมค่อยหาโอกาสฉี่มันในนั้นเอา ผมขี้เกียจเดินไปแล้วครับแม่งไกล









PS. อิน้องงงง หัวร้อนบ่อยไปนะเราอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:15:15 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดีใจมากกกก :mc4: เราคิดถึงน้องผีมากๆเลยไม่นึกว่าจะมาวันนี้ :กอด1: เชื่อแล้วว่ากวงปั่นเก่ง ถ้าเราเป็นน้องผีนะมีต่อยแล้ว พ่อกรมคือไรอ่ะมีงองงงอแงคุยงุ้งงิ้งกับลูกผีอยู่สองคน :hao7: :-[ ขำตอนสุดท้ายลูกผี55555 ขอบคุณที่มาอัพนะคะ :กอด1: :pig4: สนุกมากๆเลย อ่านแล้วก็อยากอ่านตอนต่อไปเรื่อยๆ คุณไก่ทอดสู้ๆนะคะ เราเป็นกลจให้ :mew1: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขอบคุณที่เอาน้องพีมาส่งเร็วค่ะ

อิน้องง๊องแง็งกับพี่กรมมากค่ะลูก  :laugh:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชอบน้องพีนะ น่ารักแบบกวนๆดี

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่กรม  ออกอาการหึงพี่แล้ว  :z3:
เหมือนพี่เทพมองพี่กรมกับพีออกว่าชอบกัน  o18

ไอ่พี่กวง นี่ชักยังไงๆ สับสน หรือแกล้งพี  :really2: :angry2:

พี่กรม  พี   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
ตอนที่ 10.4

สิงห์สัมพันธ์


ผ่านมาอีกสองสามกิจกรรมง่ายๆคือโยนลูกโป่งน้ำข้ามไปข้ามมาให้โดนกันและกัน ผลก็คือเสื้อผ้าทุกคนดูเปียกไปหมดยิ่งสาวๆนะ โอ้วโหว ผมไม่อยากจะบรรยายยิ่งเสื้อแนบเนื้อมากเท่าไหร่ความคมชัดก็มีมากเท่านั้น ยกเว้นแม่หอยแครงคนเก่งที่เอ่อ....แบนจนผมคิดว่าเป็นหลังด้านที่สองของเธอ


   “ เชลหนาวไหม” ด้วยความที่ลมมันแรงบวกกับน้ำที่เปียกสะสมมาจากการเล่นลูกโป่งน้ำเมื่อสักครู่ทำให้ผมหันไปถามเชลที่นั่งข้างๆในตอนนี้ เธอยอมทิ้งเพื่อนๆของเธอมานั่งกับผมโดยให้เหตุผลที่ว่า


   ‘พีดูน่าสงสารและสมเพชเกินไป เดี๋ยวเรานั่งด้วยนะ’


   ย้ำนะครับว่าเธอใช้คำว่าสมเพช ผมนี่แทบจะร้องไห้เลยทีเดียว


   “ พอไหวนะ แล้วพีหนาวไหม?”


   “ หนาวกายไม่เท่าไหร่อะดิ แต่หนาวใจอะหนาวมาก” ผมเลิกนิสัยปากไวไม่ได้จริงๆ.....ขอโทษล่วงหน้าเลยนะแม่หอยแครงที่น้องต้องมาเจอกับน้องพี เดี๋ยวนานไปผมว่าเธอน่าจะชิน


   “ มุขโบราณขนาดนี้พียังจะเล่น?” ผมว่าผมเจอคนจริงของจริงก็คราวนี้แหละครับ


   “ โทษทีละกัน” เขินเลยกู เอาเป็นว่าเปลี่ยนเรื่องดีกว่า ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรออกมาพี่ๆปีสองก็เดินนำข้าวกล่องมาแจกให้พวกปีหนึ่งที่นั่งชิวอยู่ริมทะเลในช่วงเวลาพักกลางวัน


   “ เชลได้อะไร เราได้กระเพราไก่ไข่ดาว” ผมยื่นกล่องข้าวไปให้เธอดู


   “ เราก็ได้เหมือนพีแหละ กินเถอะ” เหมือนว่าเธอจะดูรำคาญผมเล็กน้อยที่ผมเอาแต่ถามเธอไปเรื่อย ขณะที่เธอกำลังจะตักข้าวเข้าปาก เอาเป็นว่าผมลุกเดินไปเอาน้ำให้เธอดีกว่า ไม่ถามเดี๋ยวจะโดนรำคาญกลับมาอีก มีเพื่อนคนเดียวที่คุยด้วยได้ผมต้องรักษาเข้าไว้


   ผมเดินไปที่จุดบริการน้ำก่อนที่จะหยิบแก้วมารินน้ำเย็นใส่ให้ทั้งผมและเชลแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินกลับ อยู่ๆก็มีเพื่อนที่มันด่าผมเดินเอาขามาวางดักผมเอาไว้ เหมือนว่าพวกนั้นตั้งใจจะทำให้ผมสะดุด ถ้าจงใจขนาดนี้ผมก็จะแกล้งทำเป็นสะดุดก็แล้วกันครับ


ซ่า!


   “ ไอ้สัดพี”


   ผมแกล้งสะดุดและสาดน้ำใส่หน้ามันเต็มๆ สมใจไหมละครับ เล่นกับผมก่อน ทำตัวเป็นเด็กผมก็จัดแบบเด็กๆให้ไปก็แล้วกันครับ


   “ ซอรี่ครับเพื่อน” ลุกขึ้นแบบหล่อๆก่อนจะเดินไปกดน้ำเหมือนเดินและเดินผ่านหน้ามันไป จนกระทั่งกลับมาหาเชลที่ตอนนี้เธอกระดกน้ำดื่มอยู่.....


   “ ตรงนี้ก็มีพี เราเอามาให้” ผมแทบจะปาแก้วทิ้งไปเลยครับ ที่กูเดินไปตั้งไกลเพื่ออะไรกัน!!


   “ เดี๋ยวเชลหิวอีกไง” แก้ตัวไปครับ แถอะไรได้ก็แถ จะมาเสียหน้าต่อหน้าสาวไม่ได้เด็ดขาด


   ทั้งผมและเชลเราต่างคนต่างกินข้าวและพูดคุยกันไปจนกระทั่งกินเสร็จเชลก็ชวนผมไปเข้าห้องน้ำ ทีนี้แหละครับที่ผมจะได้เข้าห้องน้ำสมใจผมจริงๆ


   เชลแยกไปเข้าห้องน้ำหญิงส่วนผมเข้าห้องน้ำชายที่ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ จนกระทั่งผมทำธุระเสร็จก็ออกมารอเชลที่ยังไม่ออกมา สงสัยเธอจะถ่ายหนักแน่ๆเพราะตอนที่ผมกินข้าวอยู่เหมือนผมได้ยินเธอแอบตด


   “ น้องผี” ผมยืนชมนกชมไม้ไปเรื่อยก่อนจะได้ยินเสียงจากสวรรค์


   “ พี่กรม ^^” เอาจริงคืออยากวิ่งไปกอดพี่มันมากๆหลังจากที่ผมได้เห็นหน้าพี่มันตอนนี้ ผมเหนื่อยผมอยากกลับบ้าน ผมจะงอแง!!


   “ หยุดเลยมึง” ไวกว่าความคิดของผมก็มือของพี่กรมนี่แหละครับที่ดันหัวผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะพุ่งเข้าใส่พี่มันตรงๆ


   “ ผมโดนทำร้ายทางจิตใจว่ะพี่” ได้โอกาสก็ขอฟ้องพี่มันหน่อยเถอะครับ จะนิดจะหน่อยก็อยากจะฟ้อง ไม่รู้เหมือนกันนะว่าผมเป็นเด็กขี้ฟ้องตั้งแต่เมื่อไหร่ สงสัยตั้งแต่ที่เจอพี่มันมั้งครับ


   “ ไหนเล่า” พี่มันยืนกอดอกมองมาทางผมตรงๆ ท่าพี่มันตอนนี้พร้อมฟังผมสุดๆไปเลย


   “ ก็คือไอ้พี่กวงมันมายุ่งกับผม.....” ผมเห็นว่าคิ้วของพี่มันขมวดหลังจากที่ผมพูดชื่อของพี่กวงไป


   “ มันทำอะไรมึง?” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคพี่กรมก็พูดแทรกขึ้นมาทันที


   “ เอ่อ....” หน้าพี่แม่งคือพร้อมบวกเต็มที่เอาสะผมไม่กล้าเล่าต่อเลยครับ “ ก็มาเคลียร์แหละ แต่ไม่ต้องห่วงผมต่อยแม่งไปสามหมัดเต็มๆ” ผมบอกอย่างนั้นเพื่อให้พี่มันสบายใจแต่เปล่าเลยครับ เพราะคำตอบที่ผมได้คือ.....


   “ ไม่ได้ห่วงเลยครับ”


   “ กูไม่เล่ามันละพี่”


   “ ทำเป็นหน้าบึ้ง คิดว่าน่ารัก?” เมื่อไอ้พี่มันเห็นว่าผมทำหน้าเซ็งก็แกล้งเอามือมาหยิกแก้มผมแรงๆ ย้ำนะครับว่าแรง ไม่ได้เอ็นดู แต่กูว่าพี่แม่งกะจะทำร้ายผมอะ


   “ เจ็บนะพี่!” หงุดหงิดคูณสองอารมณ์เหมือนเป็นประจำเดือน


   “ เจ็บ? แต่มึงก็ไม่ปัดมือกูออก??”


   “ ก็...” ก็อะไรดีวะ แก้ตัวไม่ถูกเลยกูทีนี้ “ ก็เดี๋ยวพี่เอาออกเอง ผมรู้”


   “ หึ” พี่กรมเอามือของพี่มันออกจากแก้มผมทันที “ อย่าไปใกล้มันมาก ถ้ามันเข้าใกล้ มึงก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือดิ”


   “ โถ่พี่ ผมผู้ชายนะ ทำงั้นก็สาวแย่ดิ ประหนึ่งว่าผมดูบอบบางและอ่อนแออย่างนั้นแหละพี่” ถ้าผมทำอย่างที่พี่มันพูดจริงๆนะครับ ไอ้เพื่อนที่เขม่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วิ่งมารุมกระทืบผมซ้ำเผลอๆเป็นกำลังเสริมให้ไอ้พี่กวงมันมาเล่นงานผมอีกแน่ๆ แต่ละพวกดูไว้ใจไม่ได้สักคน จะมีก็แต่แม่หอยแครงน้อยของผมเท่านั้น


   “ แล้วผู้ชายอ่อนแอไม่เป็น?”


   “ ก็เป็นแหละ แต่ผมไม่อยากดูอ่อนแอไง” ผมก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้พี่มันเข้าใจผมนะ แต่ผมว่าผมยังเอาอยู่ ( แต่ที่น้องมาฟ้องพี่กรมนี่ต้องการอัลไล! : เสียงกระซิบจากคุณไก่)


   “ อ่อนแอบ้างก็ได้” ทำไมน้ำเสียงของพี่มันฟังดูอบอุ่นอย่างนั้นหละครับ “ ไม่จำเป็นว่าต้องเข้มแข็งเสมอไปหนิ กูพูดถูกไหม”


   “ ครับ พี่พูดถูก....” เสียงสองผมกลับมาแล้วครับทุกคน


   “ เดี๋ยวไปก่อนนะ แล้วเจอกันฐานเย็นๆ เตรียมใจไว้เลยว่ากูไม่อ่อนให้มึงแน่ๆน้องผี” ก่อนที่พี่มันจะไปพี่กรมยื่นบางอย่างมาให้ผม “ เก็บไว้เพื่อได้ใช้ ไปละ” ผมก้มลงมองในมือของตัวเองตอนนี้พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสมเพชตัวเองทันทีเมื่อเห็นของบางที่อยู่ในมือ


   “ พี่กรมนี่มันกวนตีนจริงๆ” ขยะทั้งนั้นครับกระดาษที่ขยำเป็นก้อนเล็กๆเอาไว้ ผมจะเสี่ยงเก็บไว้ก็แล้วกันในเมื่อพี่มันบอกว่ามันจะมีประโยชน์และผมจะได้ใช้


   “ เราขอโทษนะที่นานไปหน่อย แฮะๆ” แม่หอยแครงเดินออกมาหลังจากที่เธอทำธุระเสร็จ ผมยอมยืนรอเธอนานๆให้เธออึจนสบายก้น ดีกว่าที่เธอแอบตดไปเมื่อก่อนหน้านี้อะครับ ขมคอฉิบหายเลย ยิ่งคิดกลิ่นก็ยิ่งหวนคืนกลับมา “ พีเป็นอะไร?” แม่หอยแครงเดินเข้ามาถามอาการเมื่อเธอเห็นว่าผมดูท่าไม่ดี


   “ เปล่าๆ เราโอเค” ผมตอบปัดๆเธอไป เพราะขี้เกียจอธิบายให้มันดูมากความ ผมจะทนดมกลิ่นตดของเธอต่อไปเพื่อแลกกับมิตรภาพของเราในวันนี้




           

PS. เอาจริงๆ ไรท์เองก็ไม่อยากหยุดอัพพพพพ เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างงงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:19:04 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

 :hao7: เราก็ไม่เอาตด 55

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
+1  o13 ขอบคุณครับ :pig4: :katai5:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องพีกับพี่กรมคุยกันได้งุ้งงิ้งมากเลย มีหยิกแก้มงอแง  :-[ จ้าๆพี่ชายน้องชาย :hao3: พี่กรมมาคงไม่เหงาแล้วเนอะน้องผี :hao7:  ชอบเจ๊หอยแครงมากคนจริง5555 ดีใจที่คุณไก่ทอดไม่อยากหยุดอัพ เพราะเราก็รออ่านทุกวัน :กอด1: สู้ๆนะคะคุณไก่ทอด นิยายสนุกมากๆ เป็นกลจให้นะคะ การสอบก็ให้ผ่านไปด้วยดีนะ :L1: :pig4:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รออยู่นะคะ :mew1: อยากเห็นบักกวงโดนตี :laugh:

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
 

บทที่ 11.1

ปริษณา

ค่ำคืนอันแสนหวาน กับการผจญภัยในถ้ำ (?)



ทุกคนครับผมมีเรื่องจะฟ้อง คือตอนนี้ทุกคนต่างแบ่งออกเป็นสี่ทีมในการทำกิจกรรมช่วงบ่าย ผมได้อยู่กับหอยแครงน้อยเพราะว่าผมแอบเปลี่ยน แต่กิจกรรมที่ทำให้ผมแทบอ้วกคือกินวิบากครับ วิบากสมชื่อเลย ทุกคนต้องมีส่วนร่วมด้วยกันทั้งนั้น แน่นอนว่าของที่ทุกคนไม่อยากกินอย่างขนมโก๋ ตกเป็นของผมที่ต้องรับหน้าที่กินมันให้หมด กินไปจุกๆสี่ห้าชิ้นเลยครับ และคนอย่างนายปฐพีแน่นอนว่ากูกินไม่หมดครับยัดใส่กระเป๋ากางเกงแม่งเลย จุ๊ๆอย่าไปบอกใครเชียว


   “ มาถึงเกมสุดท้ายกันแล้วนะครับ” ผมเดินตามหลังทุกคนมา ก่อนจะเห็นว่าบรรยากาศเริ่มดูจริงจังและซีเรียสมากขึ้นกว่าฐานที่ผ่านมา


   “ เกมส์นี้จะเป็นเกมส์ที่ต้องใช้ความคิดและความสามัคคีกันนะครับ” ผมเห็นว่าเกมส์นี้เป็นเกมส์ที่พี่ปีสามมาคุมฐานทั้งหมด โดยที่พี่ๆปีสองเดินออกไปด้านนอกทิ้งให้พวกปีหนึ่งอยู่กับพี่ปีสามเท่านั้น ผมพยายามมองหาพี่ๆของผมทั้งสองคนอย่างพี่เทพกับพี่กรม ก่อนจะเห็นว่าพี่ทั้งสองอยู่อีกด้านหนึ่งของชายหาด


   “ จะมีซองภารกิจทั้งหมดสี่ซอง ทุกซองจะเหมือนกัน” พี่เริ่มอธิบายให้น้องฟัง “ ในนั้นจะมีมิชชั่นให้น้องทำ ต้องทำทีละแผ่นและเขียนมาใส่กระดาษให้พวกพี่ๆดู ถ้าไม่ถูกต้องกลับไปทำใหม่ จนกว่าจะครบ และต้องส่งตัวแทนเพื่อนที่คิดว่าไม่มีประโยชน์ออกมาหนึ่งคน” ผมว่าไอ้คำพูดด้านหลังว่าเพื่อนที่ไม่มีประโยชน์ผมรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทุกที เหมือนว่าเพื่อนแม่งจะโหวตให้ผมเป็นไอ้ตำแหน่งนั้นแน่ๆ


   “ โดยที่เพื่อนที่ถูกเลือกจะไม่มีสิทธิ์พูดและออกความเห็นอะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะจบเกมส์” มันก็ดีเหมือนกันนะครับ เหมือนจะดูสบายๆไม่หนักดี


   “ ถ้าอย่างนั้นน้องๆเลือกเพื่อนที่ไม่มีประโยชน์ออกมาเลยครับ” ตอนนี้ทั้งกลุ่มมาล้อมกันเป็นวงกลมเพื่อปรึกษาว่าใครจะเป็นคนนั้นที่ถูกเลือก


   “ มีใครจะเสนออะไรไหม?” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดอกมา


   “ วันนี้มีใครไม่ได้เล่นกิจกรรมบ้าง” และเพื่อนอีกคนก็เปิดประเด็นมา เอาเป็นว่ากูก้มหน้ามองพื้นทรายไปก่อนละกันครับ ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าวันนี้ตัวเองทำตัวไม่มีประโยชน์จริงๆ


   “ เราโหวตกันไหม?” ความคิดนี้ก็ดีเหมือนกันครับ ผมเห็นด้วย


   “ เราเสนอพี พีดูไม่ค่อยตั้งใจตั้งแต่เช้า” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ก่อนจะเห็นว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ตาสะสวยและค่อนข้างมีความมั่นใจพูดออกมากลางวงทำให้เพื่อนๆหันมามองทางผม


   “ แต่พีกินขนมโก๋นะ” หอยแครงน้อยที่นั่งข้างๆพูดออกมาเสียงดัง อยากจะดึงมาจูบสักทีให้กับการที่ยื่นมือมาปกป้องผม “ ถึงจะอย่างเดียวก็เถอะ.....” ผมขอถอนคำพูดครับ! เชลหันหน้ามาทางผมก่อนจะทำท่าเหมือนว่าเธอหลุดปากพูดออกไป


   “ เราก็เห็นด้วยนะ”


   “ เราด้วย”


    “ เรา”


   มันก็คงเป็นเอกฉันท์แล้วหละครับที่ผมต้องออกไปทำหน้าที่ไร้ประโยชน์ของกลุ่ม แต่ผมว่าไอ้ตำแหน่งนี้มันไม่ธรรมดาแน่ๆ ถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิดไปเองนะครับ


   “ เอาหละ มาๆๆ กลุ่มไหนได้ตำแหน่งเพื่อนที่ไม่มีประโยชน์ออกมาครับ” ผมก้มหน้าเดินออกไปกลางลานกิจกรรม เอาจริงๆนะถ้าเป็นผม ผมจะไม่ส่งใครไปเลยแม้ว่าเพื่อนจะไม่มีประโยชน์ก็ตามเพราะผมเชื่อว่าทุกคนต่างมีสิ่งที่ตัวเองถนัดและไม่ถนัดเหมือนกัน แต่ถ้าเพื่อนเลือกผมทั้งหมดผมก็จะออกไปครับ ในเมื่อผมเป็นตัวไร้ประโยชน์ในสายตาของทุกคน ขออนุญาตดึงดราม่าครับ


   “ อ้าว..ทำไมมีแค่กลุ่มเดียวที่ออกมาครับ?” ผมเงยหน้ามองทุกคนทันทีที่เห็นว่ากลุ่มอื่นๆไม่ได้ส่งคนไม่มีประโยชน์ออกมา


   “ ผมคิดว่าทุกคนในกลุ่มมีประโยชน์ทุกคนครับ ถ้าจะไม่มีประโยชน์แค่คนใดคนหนึ่งผมว่าคงจะเป็นทั้งหมด ผมเลือกใครออกไปไม่ได้จริงๆ” ผมมองไปที่หัวหน้ากลุ่มสีฟ้าพูด ทำไมผมไม่ไปอยู่กลุ่มนั้นวะ! คิดแล้วก็เศร้า


   “ แล้วกลุ่มอื่นๆละ”


   “ ผมก็เหมือนกันครับ”


   ทุกคนดูรักเพื่อนกันดีนะครับ ยกเว้นกลุ่มผม....


   “ ขอโทษนะครับ น้องมันตัวไร้ประโยชน์ของเพื่อน” ผมก้มลงมองพื้นทรายอีกรอบเมื่อพี่ผู้นำกิจกรรมพูดออกมาเสียงนิ่ง “ น้องเก่งมากที่ทำให้ทุกคนเห็นว่าน้องไร้ประโยชน์ แค่กิจกรรมน้องทำไมไม่ได้ น้องก็ไม่ควรมีกลุ่มอยู่ เชิญไปอยู่ด้านนู้นครับ” พี่มันผายมือไปทางอีกด้านหนึ่งของลานกิจกรรม จังหวะที่ผมเดินผมต้องเดินผ่านกลุ่มที่ส่งผมมา ผมเห็นสายตาของทุกคนที่มองผมแตกต่างกันไป ทั้งเสียใจ ขอโทษ รู้สึกผิด และสะใจ.... ผมยอมรับครับ ยอมรับทุกสายตา


   ผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ที่พี่คนหนึ่งเดินพาผมมานั่งมองเพื่อนๆคนอื่นนั่งเป็นกลุ่มทำกิจกรรม ส่วนผมก็ได้มานั่งมองพวกเพื่อนๆอยู่ไกลๆ


   “ กูไม่คิดว่าจะเป็นมึง” ผมหันไปมองทางด้านหลังก่อนจะเห็นว่าเป็นพี่เทพกับพี่กรมที่เดินหน้านิ่งเข้ามาหาทางที่ผมนั่งอยู่


   “ พี่ครับ” ผมยิ้มออกมาเหมือนว่าผมเห็นแสงสว่างอยู่ตรงหน้าในทางที่มืดมิด


   “ ทั้งๆที่เป็นตัวไร้ประโยชน์ของเพื่อนแต่น้องก็มานั่งยิ้มอยู่แบบนี้?” ใจของผมหล่นวูบไปทันทีที่พี่กรมพูดออกมาแบบนั้น ทั้งๆที่พี่เขาไม่เคยพูดแบบนี้กับผม.... “ น้องไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ ที่เพื่อนๆเห็นว่าน้องไร้ประโยชน์ทั้งๆที่กลุ่มอื่นไม่ได้ส่งใครมาเลย?”


   ผมได้แต่นั่งคิดตามในสิ่งที่พี่กรมพูดโดยที่มีสายตากดดันของพี่เทพมองอยู่


   “ ......” ผมเลือกที่จะไม่ตอบพี่กรมออกไป เพราะผมรู้ว่าผมผิดเองจริงๆ


   “ เงียบ? น้องเงียบทำไมครับ?”


   “ ครับ.....” แล้วจะให้ผมตอบอะไรออกไป ถ้าผมตอบก็ไม่ต่างจากผมเถียงหรือแก้ตัวออกมาทั้งๆที่รู้ว่าผมผิดและทำตัวเองเต็มๆ


   “ พี่อยากให้น้องรู้ว่าการที่น้องถูกมองว่าน้องเป็นเพื่อนที่ไร้ปะโยชน์ของกลุ่มมันเป็นเพราะตัวน้องเอง ไหนลองบอกเหตุผลที่ไม่ทำกิจกรรมมาให้พี่ฟังหน่อยครับ” น้ำเสียงของพี่กรมเริ่มอ่อนลงจากตอนแรก


   “ เพื่อน..เพื่อนผมไม่มาครับ” ซึ่งเรื่องนี้ผมก็บอกพวกพี่มันไปแล้ว


   “ แล้วคนอื่นไม่ใช่เพื่อนน้องหรอครับ? ถ้าน้องคิดแค่ว่าเพื่อนของน้องคือคนที่ไม่ได้มากับน้องด้วย และคนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เพื่อนน้อง มันก็สมควรแล้วครับที่พวกเขาจะไม่เห็นน้องเป็นเพื่อน”


   “ ผม....ผมแค่ไม่รู้ว่าต้องเข้าหาพวกนั้นอย่างไง ทุกคนดูไม่ต้อนรับผม” ผมตอบพี่กรมออกไปตามความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะมีเพื่อนคนอื่น แต่...สายตาพวกนั้นที่มองมาทางผมมันทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปหาใคร


   “ แล้วน้องคิดว่าเพื่อนๆเขาจะคิดแบบนั้นเหมือนที่น้องคิดหรอครับ? อย่าตัดสินคนที่เปลือกนอกพี่ว่า..มันเหมาะกับสถานการณ์ที่น้องกำลังเจอ ถ้านอกเองก็คิดแบบนั้น” สิ่งที่พี่กรมพูดทำให้ผมนึกถึงคำพูดของเชลก่อนหน้านี้ที่เธอบอกว่าผมเข้าถึงยากดูน่ากลัว นั่นมันก็เป็นแค่สิ่งที่คนภายนอกมองผมทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้เข้ามาทำความรู้จักผมจริงๆ และนั่นทำให้ผมรู้ได้อีกอย่างหนึ่งว่าผมเองก็ตัดสินเพื่อนคนอื่นจากภายนอกเหมือนกัน


   “ ที่น้องเงียบพี่จะคิดว่าน้องเข้าใจที่พี่ต้องการจะสื่อนะครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับพี่กรมตรงๆ สายตาของพี่กรมไม่ได้ดูดุเหมือนตอนแรก แต่สายตาของเขาต้องการที่จะสื่อให้ผมรู้ว่าเขาอยากให้ผมคิดได้และคิดตามในสิ่งที่เขาพูด แม้ลึกๆแล้วผมจะรู้สึกว่าพี่มันเป็นห่วงผมจริงๆ


   “ ครับ ผมคิดได้ทุกอย่าง”


   “ ครับ” พี่กรมมองผมนิ่งๆก่อนจะยื่นซองกระดาษมาตรงหน้าผม “ ถ้าน้องอยากช่วยเพื่อนและพิสูจน์ว่าคุณมีประโยชน์สำหรับกลุ่มจริงๆ นี่คือสิ่งที่น้องต้องทำ กลับมาก่อนหกโมงนะครับ” เมื่อพูดจบพี่กรมและพี่เทพต่างเดินหนีออกไปจากทางที่ผมนั่งอยู่ ก่อนที่ผมจะค่อยๆแกะซองกระดาษสีน้ำตาลออกและอ่านคำสั่ง


ไปที่ด้านหลังของรีสอร์ท  และนั่งรอจนกว่าจะมีคนมารับ อย่าไปไหนเด็ดขาด!!


   ในกระดาษมีเพียงเท่านี้ทำให้ผมเดินไปด้านหลังรีสอร์ทที่เป็นที่รกร้างมีเก้าอี้ไม้เก่าๆอยู่หนึ่งตัว ด้านบนของเก้าอี้มีซองกระดาษอยู่หนึ่งซอง


ตอบให้หมดจนกว่าทุกคนจะมาโดยห้ามออกไปไหน และคุณจะคือบุคคลที่ไม่ไร้ประโยชน์อีกต่อไป


1. บางเดือนมี 30 วัน บางเดือนมี 31 วัน มีกี่เดือนที่มี 28 วัน
2. ถ้าคุณหมอให้ยามา 3 เม็ด แล้วบอกให้คุณกินยาทุกๆครึ่งชั่วโมง คุณต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะกินยาหมด
3. ฉันเข้านอนตอน 2 ทุ่ม แล้วตั้งนาฬิกาให้ปลุกตอน 9 โมงเช้าถามว่าฉันจะได้นอนกี่ชั่วโมงก่อนที่นาฬิกาปลุกจะดัง
4. เอา 30 หารด้วยครึ่ง แล้วบวก 10 จะได้คำตอบเท่าไหร่
5. ชาวนามีแกะ 17 ตัว ทุกตัวยกเว้น 9 ตัวตายหมด ถามว่ายังมีแกะที่มีชีวิตเหลืออยู่กี่ตัว
6. ถ้าคุณมีไม้ขีดไฟเหลือเพียงก้านเดียว แล้วต้องเข้าไปในห้องที่ทั้งหนาวทั้งมืด ในห้องนั้นมีฮีตเตอร์น้ำมัน ตะเกียงน้ำมัน และเทียนไข คุณจะเลือกจุดอะไร
7. ชายคนหนึ่งสร้างบ้านด้วยไม้ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั้ง 4 ด้าน และหันบ้านไปทางทิศใต้ ถ้ามีหมีผ่านมา ถามว่าหมีตัวนั้นจะมีสีอะไร
8. หยิบแอปเปิ้ล 2 ลูกออกจากแอปเปิ้ล 3 ลูก ถามว่าคุณจะได้อะไร
9. โมเสสเอาสัตว์ขึ้นเรือตอนวันสิ้นโลกไปชนิดละกี่ตัว
10. ถ้าคุณขับรถซึ่งบรรทุกคน 43 คนจากชิคาโกไปพิสเบอร์ก แล้วหยุดรับอีก 7 คนขึ้นมา แล้วหยุดจอด ให้คนลงที่เคลเวอร์แลนด์ 5 คน จนมาถึงฟิลาเดอเฟียในอีก 20 ชั่วโมงต่อมา ถามว่าคนขับรถชื่ออะไร


   ผมนั่งมองไอ้ชุดคำถามนี่มาได้เกือบสิบนาทีละครับ นั่งมองมันอยู่อย่างนั้นโดยที่ผมไม่ได้แตะมันเลยสักข้อ จะไปแตะได้ไงละครับ เพราะ ผม ทำ ไม่ เป็น!!!!!!!!! ถ้าได้อยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มๆผมว่านะทุกคนจะได้ช่วยกันคิด หลายสมองดีกว่าสมองเดียว


ตุบ!


   อยู่ๆก็มีกระดาษโยนมาใส่ผมที่นั่ง ผมพยายามมองหาแต่ก็ไม่เจอว่ามีใครโยนมา จนกระทั่งผมค่อยๆแกะมันดู
เดินเข้าไปในป่า แล้วจะเจอคำตอบ ^^


(คำใบ้ ป่าลึก)


   ผมไม่รอช้าครับและไม่ทันได้คิดอะไร ทำให้ผมเดินเข้าไปตามคำใบ้ที่บอกยิ่งลึกก็น่าจะยิ่งมีโดยไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้เป็นเวลาใกล้หกโมงเย็น ผมจะพิสูจน์ตัวเองให้เพื่อนๆเห็น










PS. พึ่งสอบตัวแรกเสร็จไปค่ะ ร้องไห้หนักมาก อาจารย์ไม่อ่อนโยน

เมื่อวานขอโทษที่ไม่ได้มาอัพนะตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:22:46 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ้าวน้องผีเขาบอกว่าห้ามลุกออกไปไหนไม่ใช่หรอ :katai1:  เพื่อนในกลุ่มก็คือใจร้ายมากแต่มันก็ทำให้เรียนรู้และปรับตัวเนอะ แอบกลัวพี่กรมตอนนี้ คำถามนี้คือกวนตีนมาก อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่ออ่ะน้องผีคือเข้าป่าไปแล้ว :katai1: คุณไก่ทอดสู้ๆนะคะ เราเป็นกลจให้ :กอด1: :pig4: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
บทที่ 11.2

ปริศนา


Jaokom’s talk


   เอาจริงๆนะครับผมเองก็ไม่อยากที่จะพูดแบบนั้นกับไอ้พีมันออกไป แต่ว่ามันเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำ แม้ผมจะรู้ว่าไอ้พีไม่ใช่ตัวไร้ประโยชน์ที่เพื่อนของมันส่งมาก็ตาม ผมรู้ว่าไอ้พีมันติดปัญหาก็ต้องที่เพื่อนที่สนิทไม่ได้มาด้วยและเจอสายตาของคนที่ไม่ชอบมองด้วยความไม่เป็นมิตร อันนี้ผมรู้ดีเพราะผมก็โดนเป็นประจำ ผมไม่อยากให้ไอ้พีมันเป็นแบบผมที่ไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จักกับคนอื่น และที่ผมพูดออกไปมันก็ไม่ใช่สคริปที่ผมเตรียมเอาไว้ แต่ผม....เป็นห่วงมันอยากให้มันเอาชนะกำแพงที่มันสร้างขึ้นด้วยความกลัวและวิตกไปว่าคนอื่นจะไม่ชอบทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำความรู้จัก


   “ กูเข้าใจไอ้พีเลยว่ะ” ไอ้เทพที่เดินกลับมาพร้อมกับผมพูดขึ้นหลังจากปล่อยให้ไอ้พีทำภารกิจของมัน


   “ มันต้องทำได้” ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจว่าเด็กอย่างไอ้พีมันจะทำและพิสูจน์ตัวเองได้ว่ามันไม่ใช่คนที่ไร้ประโยชน์ในกลุ่ม


   ผมกับไอ้เทพเดินมาที่ลานทำกิจกรรมที่ตอนนี้น้องๆปีหนึ่งต่างช่วยกันหาคำตอบ โดยแบ่งออกเป็นสี่คำถาม คำถามแรกจะเป็นคำถามวิชาสังคม คำถามที่สองเป็นคำถามเกี่ยวกับวิชาอังกฤษ และอีกคำถามคือวิชาคณิตศาสตร์และคำถามที่สี่คือคำถามไฮไลท์ของวันเลยก็ว่าได้คือ....


คำถามที่ 4


หาเพื่อนให้เจอและตอบคำถามทั้งหมด (ถ้ากลุ่มไหนไม่มีเพื่อนที่ไม่มีประโยชน์ก็ต้องตามหาเพื่อนของกลุ่มอื่นให้เจอ)


   และสถานที่ ที่ให้ไอ้พีไปหลบก็คือด้านหลังของรีสอร์ท โดยที่จะไม่มีใครรู้ว่าไอ้พีมันหายไปไหนจนกว่าจะถึงคำถามที่สี่ เกมพวกนี้ที่ผมคิดขึ้นมาก็ไม่อยากให้พวกเด็กๆมองว่าใครไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าคนนั้นถูกเลือกมาก็อยากจะให้เพื่อนในกลุ่มมองในมุมของคนที่ถูกเลือกผ่านตัวเกม จากที่ผมสังเกตเด็กๆรุ่นนี้ไม่ค่อยมีความเป็นทีมเวิร์คสักเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างทำโดยที่ไม่ค่อยปรึกษาใครกัน ผมกับไอ้เทพนี่ส่ายหัวให้กันเลยครับจนกระทั่งเวลาผ่านไป


   “ หยุดครับ” ผมออกไปยืนตรงกลางและสั่งให้ทุกคนหยุดการช่วยกันหาคำตอบ เพราะถ้าปล่อยให้ถึงคำถามที่สี่ผมว่าคืนนี้ก็ไม่น่าจะเสร็จครับ


   “ เท่าที่พี่ดูน้องๆมานะครับ น้องๆขาดทีมเวิร์คและการแบ่งงานกันทำครับ ดังนั้นพี่จะให้น้องเปิดคำถามที่สี่ไปเลยเพื่อความรวดเร็ว” ผมกอดอกมือมองปฏิกิริยาของน้องๆทุกคนทันทีที่เปิดคำถามที่สี่ออกมา


   “ เห้ย พีไปไหน????” ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มของพีน้องแอะอะโวยวายออกมาทันทีเมื่อมองไปยังจุดที่พีเคยนั่งอยู่


   “ แล้วผมจะไปรู้ว่ามันไปไหนอะครับ” เสียงของน้องผู้ชายเป็นคนพูดขึ้น


   “ หน้าที่ของพวกน้องครับ” ผมเองก็ตอบไม่ได้ด้วยซิ ถ้าผมตอบไปมันจะเรียกว่าให้หาหรอครับ?? เอาเป็นว่านั่งดูพวกน้องๆเขาได้เล่นเกมกันไปดีกว่า


   “ มึงว่าพวกน้องจะหาไอ้พีมันเจอไหมวะ?”


   “ ไม่รู้ดิ พื้นที่มันก็ไม่ได้ใหญ่ ถ้าเกิดว่าแบ่งคนกระจายกำลังก็น่าจะเจอ”


   ผมนั่งรออยู่ที่เดิมจนกระทั่งเวลาผ่านมาถึงหกโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาที่น้องๆต้องกลับมาได้แล้ว แต่ปรากฎว่ายังไม่มีกลุ่มไหนกลับมาเลยสักกลุ่มนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนว่าจะเกิดเรื่องไม่ค่อยดีขึ้น


   “ กูว่าเราไปดูน้องเถอะหวะ” ผมหันไปบอกไอ้เทพที่คิดแบบเดียวกันก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังที่ ที่ผมบอกให้ไอ้พีไปนั่งรอนั่นคือ.......ข้างๆสวนบริเวณด้านข้างของโรงแรม



Pee’s talk


   ผมว่าผมเองก็เดินเข้ามาในป่าลึกอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ทำไมยังไม่เห็นว่าจะมีคำใบ้อะไรเลย อีกอย่างนะไอ้คำถามเชาว์นั่นผมเองก็ยังตอบไม่เสร็จเลย หรือว่าผมจะไม่เข้าไปละเสียเวลาชีวิต สู้ผมเอาเวลามานั่งคิดอยู่ที่เดิมจะดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็เดินกลับไปทางเดินที่ผมเดินจากมา ผมเองก็ไม่ได้ฉลาดน้อยที่จะลืมทำสัญลักษณ์เอาไว้ นั่นก็คือเศษกระดาษที่พี่กรมมันให้ผมไปทิ้งเมื่อกลางวัน ดีนะที่ผมยังเก็บมันเอาไว้อยู่ไม่อย่างนั้นผมหลงจริงแน่ๆ


   ผมมองไปรอบๆบรรยากาศที่ตอนแรกยังพอมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ตอนนี้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีมืดครึ้มตามเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า นาฬิกาข้อมือผมก็ไม่มีด้วยอะครับเลยไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว อ่อ! ผมเรียนลูกเสือมาอาจารย์บอกว่าให้ถอดกางเกงเอาก้นแนบกับต้นไม้ดูว่าอุณภูมิยังอุ่นอยู่ไหม ไม่รอช้าครับผมหันซ้ายหันขวาดูว่ามีคนอยู่ไหม แต่มันจะไปมีได้ไงอะครับก็ตอนนี้ผมอยู่ในป่า


พรึบ!


   ผมถอดกางเกงออกทันทีก่อนจะค่อยๆหันหลังเข้าต้นไม้และแนบก้นของตัวเองลงทีลำต้นของต้นไม้เบาๆ ทันทีที่ก้นของผมสัมผัสกับลำต้นนั้นผมก็รู้เลยว่าต้นไม้มีอุณหภูมิค่อนข้างอุ่น แล้ว? แล้วอย่างไงต่อวะครับ ผมไม่รู้ว่าผมทำแบบนี้เพื่ออะไรในเมื่อการทำแบบนี้คือการหาทิศทางไม่ใช่การหาว่าตอนนี้เวลากี่โมง เมื่อคิดได้ดังนั้นผมวค่อยๆใส่กางเกงกลับเหมือนเดิม ก่อนจะมุ่งหน้าเดินไปยังทางที่ผมโปรยเศษกระดาษไว้เล็กๆ จนกระทั่งผมเจอเข้ากับใครบางคนที่เดินยิ้มมาทางผม แต่รอยยิ้มนั้นผมคิดว่า....มันไม่น่าปลอดภัย


   “ พี่กวง?” ผมเดินถอยหลังทันทีที่พี่มันเดินเข้ามาใกล้ตัวผม


   “ ครับ พี่เอง” ยิ่งน้ำเสียงของมันก็ดูไม่น่าเป็นมิตร “วันทีพี่รอคอยก็มาถึง”


   “ รอคอยอะไร????”


   “ คอยที่จะทำให้ไอ้กรมมันรู้สึกตายทั้งเป็น” ผมนี่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ จะทำให้พี่กรมรู้สึกตายทั้งเป็นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมวะ


   “ แล้วเกี่ยวไรกับผมอะพี่???”


   “ เดี๋ยวน้องก็รู้ครับ” ไอ้พี่กวงเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนที่พี่มันจะถอดเสื้อตัวเองออก อ่อ! ผมรู้ละพี่มันจะปล้ำผมแน่ๆ ห้ะ!!!!! ปล้ำกันเลยหรอ


   “ พี่จะปล้ำผม?” ผมถามพี่มันย้ำอีกครั้ง


   “ เออ กูจะเล่นขี่ม้าส่งเมื่อกับมึงมั้งไอ้โง่!” อ้าว ด่ากูอีก?? จะปล้ำกันก็พูดจากันดีๆหน่อยดิพี่ ผมยืนนิ่งให้ไอ้พี่กวงมันเข้ามาลวนลามผม


   ผมไม่ดิ้นนะ พี่มันอยากจะทำอะไรก็ปล่อยมันไปครับ ให้พี่มันมีโอกาสได้ทำไปก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว ค่อยจัดการมันทีเดียวครับ ไอ้พี่กวงมันค่อยๆใช้ทั้งสองมือล้วงเข้ามาด้านในเสื้อของผม ก่อนที่จะค่อยๆใช้นิ้วเขี่ยที่ผิวของผมเบาๆ โคตรขนลุก! แต่ผมต้องทนเอาไว้ให้มันตายใจ ยิ่งมือมันเลื่อนขึ้นมาเท่าไหร่ผมก็ยิ่งอยากจะผลักมันให้ออกห่างจากตัวของผมเท่านั้น


   “ ไม่คิดว่าผิวผู้ชายจะดีขนาดนี้....” น้ำเสียงที่ฟังดูเคลิ้มๆของพี่ค่อยๆเปล่งออกมา ใบหน้าของมันค่อยๆยื่นเข้ามาใกล้ซอกคอของผม ไวเท่าความคิดพี่มันค่อยๆใช้ลิ้นของมันเลียที่ซอกคอของผมเบาๆ


   กูไม่ไหวละครับ!


ผั๊วะ!!


   จังหวะที่พี่มันเคลิ้มผมใช้โอกาสนี้ต่อยหน้าพี่มันทันทีด้วยแรงทั้งหมดที่ผมมี ทำให้ไอ้กวงมันล้มกระเด็นจนตัวมันกระแทกที่พื้น มันทำท่าจะลุกขึ้นมาแต่ผมใข้เท้าเหยียบหน้าอกของมันเอาไว้


   “ กูไม่ได้โง่” ผมเข้าใจแล้วครับว่าไอ้การที่พี่มันเข้ามาหาผมเพราะว่าอะไร “ กูไม่ใช่เครื่องมือที่จะเอามาแก้แค้นใคร ถ้ามึงจะแก้แค้นพี่กรมก็ไปทำกับพี่มัน ไม่ใช่กู”


ตุบ!


   ผมออกแรงกระทืบหน้าอกของไอ้กวงอีกครั้งก่อนจะเดินหันหลังหนีไปเพราะคิดว่าที่ผมถีบและกระทืบที่หน้าอีกจะทำให้มันลุกขึ้นไม่ไหว แต่นั่นผมคิดครับ!


หมับ!!!


ตุบ!!


   ไอ้กวงมันขว้าข้อเท้าของผมเอาไว้ในช่วงที่ผมกำลังจะก้าวเดินหนีไปอีกทาง นั่นทำให้ผมเสียหลักล้มทันทีไอ้กวงที่ตอนแรกนอนอยู่ที่พื้นได้โอกาสลุกขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะใช้สองมือกุมใบหน้าผมเอาไว้แรงๆ


   “ พอดีว่ากูก็ไม่ได้โง่เหมือนกันหวะ!” ผมพยายามสะบัดหน้าหนีแต่ด้วยความที่ผมถูกกดให้นอนราบไปกับพื้นทำให้เรี่ยวแรงที่ผมพยายามจะยันตัวให้ลุกขึ้นไม่สามารถทำได้ เข่าของไอ้กวงมันกดทับหน้าขาของผมเอาไว้


   “ ปล่อยกู!” แม้ว่าผมจะถูกมันทับแต่เสียงของผมก็ยังคงมีอยู่


   “ อ้อนวอนกูซิ อ้อนวอนกู!” มันตะคอกใส่ผมเสียงดัง “ เป็นเมียกูสบายนะ สบายกว่าเป็นเมียไอ้กรมอีก แค่นอนให้กูเอาแค่นั้น กูมีทั้งเงินทั้งของเท่าที่มึงจะต้องการ”


   “ ข้อเสนอดูดี.....แต่พอดีว่ากูไม่ต้องการ!!!!” ผมใช้หน้าผากของผมโขกเข้ากับหน้าผากของไอ้กวงแรงๆจนทำให้ไอ้กวงเสียจังหวะไปเล็กน้อย แต่ก็มากพอที่ผมจะเป็นอิสระจากการเกาะกุมของมัน


   “ พูดดีๆไม่ฟังมึงก็ต้องเจอแบบนี้”


เพี๊ยะ!!!


   ไอ้กวงกระชากแขนของผมและดึงตัวผมให้เข้าไปหามันก่อนที่มันจะใช้มือฟาดเข้ามาที่ใบหน้าของผมเต็มๆจนหน้าของผมหันไปตามแรงที่ไอ้กวงมันตบ


   “ เชี่ยเอ้ยย” ผมสบถออกมาเมื่อปากของผมแตกจากการตบของไอ้กวง ต้องให้กูเลือดออกสักอีกเท่าไหร่กันวะ! “ มึงมาเดี่ยวกับกูมาไอ้สัด มาต่อยกับกูให้มันรู้ว่าใครแพ้ใครชนะ!!” ผมยันตัวลุกขึ้นท้าไอ้กวงออกไป ผมเบื่อที่จะต้องมายุ่งวุ่นวายกับมันอีกแล้ว


   “ แต่กูจะปล้ำ”


   “ ถ้ามึงชนะ มึงอยากจะทำอะไรกับกูก็ทำ แต่ถ้ามึงแพ้กูขอแค่อย่ามายุ่งกับกูอีก” ผมเสนอมันออกไป


   “ แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครแพ้ใครชนะ”


   “ ใครล้มก่อนก็แพ้”


ผั๊วะ!


   สิ้นเสียงนั้นผมก็ต่อยหน้าไอ้กวงเต็มแรงจนมันเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว หึ ไม่มีกติกาหรือข้อห้ามว่าผมห้ามลุยก่อน ถ้าผมเปิดอย่าหาว่าผมจะออมมือใครทั้งนั้น เรื่องเตะต่อยมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมไม่ถนัดแต่ผมแค่ไม่เอามันอกมาใช้


   “ ไอ้พี ไอ้เด็กเหี้ย เล่นทีเผลอนะมึง” เมื่อมันตั้งหลักได้ก็พยายามจะต่อยเข้ามาที่หน้าผม แต่ขอโทษผมหลบได้ทัน ทำให้จังหวะมันวืดออกไป ผมกับไอ้กวงแลกหมัดกันได้สักพักสลับกันเข้าเป้าแต่ผมว่าผมได้เปรียบเพราะผมหลบมันได้เกือบจะทุกหมัด แต่กลับไอ้กวงสภาพมันตอนนี้ก็ดูแย่ครับ


   “ ถ้ามึงแพ้เลิกยุ่งกับกู” เมื่อเห็นว่าท่าทางของไอ้กวงดูเริ่มไม่ไหว ผมง้างมือขึ้นเตรียมต่อยหน้าของมันเพื่อปิดฉากการต่อสู้นี้แต่แล้วก็มีมือของใครสักคนมาจับแขนข้างที่จะต่อยของผมเอาไว้ และนั่นก็คือ....


   “ พี่กรม”


   “ ....!!!” ผมไม่รู้นะว่าทำไมพี่มันต้องทำสีหน้าเหมือนว่าไม่พอใจผมด้วยทั้งๆที่ผมไม่ผิด แต่แค่ผมไม่มีโอกาสได้อธิบาย แต่ภาพที่ผมกำลังจะต่อยไอ้กวงมันคงตีความได้ว่าผมเป็นคนเริ่มก่อน


   “ กูเคยบอกมึงว่าอะไร?” พี่มันถามผมเสียงเข้มพร้อมสายตาดุๆที่ส่งมาให้ จนผมต้องบิดข้อมือของตัวเองออกจากข้อมือของพี่กรมทันที


   “ ผมอดทนแล้ว”


   “ ได้แค่นี้?”


   “ ถ้าพี่ไม่รู้อะไรก็อย่าพึ่งพูด” เป็นครั้งแรกเหมือนกันครับที่ผมพูดแบบนั้นออกไป ไม่ซิครับมันคงเป็นอารมณ์ของผมตอนนี้แหละมั้ง


   “ ไอ้พี”


   “ ถ้าอยากรู้ก็ถามเพื่อนพี่ละกัน” ผมมองหน้าพี่มันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินชนไหล่พี่กรมออกไปทั้งๆที่ใบหน้าของผมเต็มไปด้วยแผลและเลือด









PS. มาชดเชยนะที่เมื่อวานไม่มา

ตอนนี้คือน้องดุมาก ดุที่สุด!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:27:34 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องพี่เก่งมากลูก อย่าไปยอมให้ไอ้คนที่มันไม่มีทางจะทำตัวดีได้อย่างไอ้กวงเลย

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องผีคือสุดยอดมากเก่งมากลูก ไม่ต้องสนใจอิพี่กรม ตอนนี้คือสมน้ำหน้าอิพี่กรมนะ ก็พี่กรมไม่ฟังอะไรเลยแล้วจะมาพูดแบบนี้มันก็ไม่โอเคป้ะ เข้าข้างน้องผีที่สุดคือเราเอง เราว่าบักกวงโดนน้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับการขโมยงานและจะมาข่มขืนน้องผี ตอนอ่านไปก็แอบคิดว่าถ้าแพ้ :a5: ไม่คิดต่อดีกว่า แล้วจะเป็นยังไงต่อน้องผีคงไม่หลงป่าหรอกเนอะ มาต่อเร็วๆนะคะสนุกมากๆเลย :pig4: :L1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สิ้นเสียงนั้นผมก็ต่อยหน้าไอ้กรมเต็มแรงจนมันเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
ตรงนี้ต้องเป็น กวง ใช่ป่ะ

พี่กรม บอกให้พีอดทน อดทนอะไรเหรอ  :angry2:
อดทนให้ไอ้กวงปล้ำหรือเปล่า  .....อดทนจนมันปล้ำให้เสร็จเหรอ  ยังไง  o22 o22 o22
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
     
        บทที่ 11.3

               ปริศนา


        “ พี....” ทันทีที่ผมออกมาจากป่าเพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มต่างมารวมตัวกันตรงที่ผมเดินมา “ พวกเราขอโทษ”


   “ .....” ผมมองหน้าพวกเพื่อนๆทีละคนโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา


   “ เดี๋ยวเราทำแผลให้นะ” ผมเดินตามแรงดึงของเชลโดยที่ไม่ได้รับรู้ว่าสถานการณ์รอบตัวมันเป็นอย่างไง แค่รู้ว่าตอนนี้ผมร้อนมาก มากเกินกว่าที่ผมจะหยุดตัวเองไหว บวกกับการที่พี่กรมพูดออกมาแบบนั้นโดยที่ไม่ได้เอ่ยปากถามผมสักคำ


   “ เชลออกไปก่อนได้ไหม?” ผมหันมาพูดกับคนตัวเล็กที่กำลังจะใช้สำลีเช็ดแผลให้ผม “ ได้ไหม เราขอร้อง”


   “ แต่เรายังไม่ได้ทำแผล...”


   “ เดี๋ยวเราทำเองนะ” ผมหยิบสำลีออกมาจากมือของเชล


   “ ได้ เดี๋ยเราออกไปรอนะ” เธอเองก็ออกไปรอด้านนอกห้องพักที่ได้ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับเป็นห้องพยาบาลและสวัสดิการในเวลาเดียวกัน


   ผมนั่งทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างใช้ความคิด ผมวิเคราะห์สถานการณ์ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่าผมไม่ผิดคนที่เข้ามาหาเรื่องผมก่อนก็คือมัน แต่สิ่งที่พี่กรมกับพวกพี่คนอื่นๆเห็นก็คือการที่ผมกำลังจะต่อยไอ้กวงที่ล้มกองอยู่ที่พื้นในลักษณะที่ใครก็ดูออกว่ามันไม่ไหว แล้วผมผิดหรอวะที่ปกป้องตัวเองหรือว่าผมต้องนอนให้มันซ้อมแต่ผมว่ามันจะไม่ใช่แค่ซ้อมเพราะเจตนามันเองก็บอกผมตั้งแต่แรกว่ามันตามผมมาทำไม.....


แอดดดด


   ผมมองไปตามเสียงประตูที่ถูกเปิดออกอีกครั้ง และครั้งนี้ผมอยากจะเดินหนีออกไปเองแทนที่จะไล่เหมือนที่ผมไล่เชลให้ออกไป เพราะรู้ว่าไล่อย่างไงพี่แม่งก็ไม่ออกไปแน่ๆ คนบ้าอำนาจอย่างพี่กรมตามผมมาก็เพราะจะมาด่าที่ผมไม่ทำตามที่เขาเคยสอน แทนที่จะเลือกถามผมก่อนว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร และทำไมผมถึงเลือกใช้กำลังในการตัดสินปัญหา ทั้งๆที่จริงแล้วผมพยายามที่จะไม่ใช้มันเป็นคำตอบและตัวเลือกสุดท้ายที่ผมจะหยิบมันออกมา แต่พี่กรมเขาไม่ได้ถามผมเลย... และเขาได้ตัดสินผมไปแล้วตามภาพที่เขาเห็น


   “ ถ้าพี่จะเข้ามาด่ามาว่าผมอีกก็ออกไปครับ” ผมไม่อยากจะยอมรับเลยว่าผมน้อยใจพี่มัน ทั้งก่อนหน้าที่ผมทำกิจกรรมเป็นคนไร้ประโยชน์ของเพื่อนจนมากระทั่งตอนที่ผมต่อยไอ้กวง


   “ มีเหตุผลหน่อยดิ” ผมเงยหน้ามองพี่มันทันทีที่พี่มันพูดออกมา นี่ผมยังไม่มีเหตุผลอีกหรอครับ??


   “ ไม่มีว่ะครับ แม่งมาถึงก็เอาแต่ด่าเคยถามผมไหมว่าผมเป็นอะไร เคยถามผมก่อนไหมว่าผมโอเคหรือเปล่า พี่แม่งก็เอาแต่ตัดสินในสิ่งที่พี่เห็นอย่างเดียว เชี่ยเอ้ย!” ด้วยความน้อยใจบวกกับความโมโหทำให้ผมระเบิดใส่พี่กรมออกไป


   “ ไอ้พี” พี่กรมเรียกผมเสียงดุ ทำให้ผมก้มหน้ามองพื้นห้องเพราะไม่อยากหันไปมองพี่มันอีกเดี๋ยวอารมณ์ผมมันจะแย่ไปมากกว่านี้


   “ .....”


   “ เดี๋ยวทำแผลให้” พี่กรมเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ


   “ ไม่ต้อง ผมทำเองได้”


   “ ทำไมมาดื้อเอาตอนนี้วะ”


   “ แล้วทำไมต้องทำตามพี่ตลอดละครับ?”


   “ กูจะไม่ทนละนะ” ในน้ำเสียงของพี่กรมมันไม่ได้แฝงแววล้อเล่นแม้แต่น้อยเมื่อยังเห็นว่าผมมีท่าทีต่อต้านพี่มัน “ หันหน้ามาอย่าให้พูดซ้ำ” ผมรู้ตัวอีกทีก็มีมือใหญ่ของพี่มันค่อยๆเอื้อมมือมาจับคางของผมเบาๆก่อนจะบังคับให้ผมหันมาทางพี่กรมที่ยืนอยู่ระหว่างขาของผมที่พี่มันเข้ามาแทรกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


   “ ทำไมชอบทำให้เป็นห่วง?” น้ำเสียงที่ดูอ่อนกว่าตอนแรกพูดขึ้นพร้อมกับสำลีที่ชุบน้ำเกลือล้างแผลค่อยๆแตะตามแผลบนใบหน้าของผม


   “ แล้วใครให้เป็นห่วง? คนเป็นห่วงเขาพูดกับผมแบบนี้?” ยังไม่ทันที่พี่กรมจะทำแผลให้ผมจริงๆจัง ปากของผมมันก็ดนประชดพี่แม่งขึ้นมาอีกรอบ


   “ เดี๋ยวเถอะมึง” พี่กรมไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งสอง แต่ด้วยความอึดอัดหรืออะไรก็ไม่รู้ทำให้ผมก้มหน้าลงพาดศีรษะของตัวเองลงบนไหล่ของพี่มันเอาไว้โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าเผลอไปทำแบบนั้นกับพี่มันได้อย่างไร ทั้งๆที่ในใจของผมยังคงไม่พอใจพี่มันอยู่กับเหตุการณ์เมื่อสักครู่


   “ ไม่เป็นอะไรแล้ว” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเป็นห่วงบวกกับมืออุ่นๆที่ค่อยๆลูบที่ผมของผมเบาๆ “ ขอโทษที่ไม่ได้ถามอะไร ขอโทษที่ตัดสินด้วยภาพที่กูเห็น ยกโทษให้กูได้ไหมพี?”


   ความอ่อนแอที่ผมเก็บซ่อนมาตอนนี้มันได้พังลงไปเพราะความอบอุ่นและความเป็นห่วงที่พี่มันมอบให้เด็กอย่างผม ทั้งๆที่ตอนแรกผมทำเป็นไม่กลัวตอนที่ไอ้กวงมันจะปล้ำ ผมคิดว่าผมเอาอยู่ แต่....ในใจผมโคตรกลัว กลัวว่ามันจะทำผมตามที่มันต้องการ ในใจตอนนั้นผมหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาช่วยและใครคนนั้นผมภาวนาของให้เป็นพี่กรม แต่แล้วผมก็รู้ว่าโลกแห่งความจริงมันไม่มีใครมาช่วยผมได้จริงๆ จนกระทั่งผมฮึดสู้มันโดยใช้กำลังในการตัดสิน ผมอยากจะจบๆทุกอย่างในวันนี้ ให้มันรู้แพ้รู้ชนะกันไปข้างหนึ่ง นั่นคือความโมโหที่มันขับเคลื่อนให้ผมทำแบบนั้นออกไปทั้งๆที่ในใจกำลังกลัวและหวาดหวั่นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จนกระทั่งผมเห็นว่าคนที่ผมภาวนาให้เข้ามาช่วยอยู่ตรงหน้า มันทำให้ผมรู้ว่าผมกำลังจะปลอดภัย.......


   “ ผู้ชายไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดก็ได้” ยิ่งน้ำเสียงและความอบอุ่นของพี่กรม ยิ่งกระตุ้นให้ความอ่อนแอของผมออกมา “ อยู่กับกูแค่สองคนไม่เห็นต้องกังวลอะไร” เท่านั้นแหละครับสองมือของผมโอบกอดพี่มันเต็มๆ จากที่แค่พาดในตอนแรกแต่ตอนนี้ผมซุกหน้าลงบนไหล่ของพี่มัน ความอ่อนแอที่ผมเก็บไว้มาพลั่งพลูไหลออกมา


   เหตุการณ์ตั้งแต่เช้าคือเหตุการณ์ที่ทำให้ผมเฟลเพราะเพื่อนที่คิดว่าจะมาสนุกด้วยกันมันไม่มาเพราะอุบัติเหตุ และอีกเหตุการณ์ที่ทำให้ผมคิดมากมาตลอดทั้งวันคือสิ่งที่ไอ้กวงมันพูดกับผมท่าทีของมันที่เข้าหาผมมันทำให้ผมวิตกจนไม่เป็นอันธรรมกิจกรรมและที่สำคัญการที่เป็นตัวประหลาดของเพื่อนมันก็ทำให้ผมรู้สึกแย่ ยิ่งการที่ผมถูกเลือกออกมาแม้ลึกๆจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคนทำตัวเองทั้งนั้น แต่นั่นมันก็ยากที่จะยอมรับครับ.... แต่ความโชคดีของวันก็คือการที่เห็นพี่กรมกับพี่เทพมาค่ายในครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกดีที่ยังมีคนที่ผมรูจักและพวกเขาจะไม่มีทางทิ้งผม แล้วใครจะไปคิดว่าตอนสุดท้ายผมจะเจอกับความเลวร้ายอย่างนั้น


   “ ผม...ผมไม่ไหว”


   “ กูจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน....” มือของพี่กรมก็ยังคงลูบผมไล่ลงมาที่หลังของผมเบาๆ จนกระทั่งมือของพี่มันเลื่อนมาจับมือผมทั้งสองข้างที่โอบกอดพี่มันอยู่ จนมือที่กอดของผมค่อยๆตกลงมาประสานกับพี่กรมอยู่ด้านข้างของลำตัวพี่มันอยู่อย่างนั้น “ อยากเล่าอะไรไหม หื้ม”


   “ มันจะปล้ำผม....ผมทำเหมือนไม่กลัว”


   “ ......” พีไม่ทันสังเกตว่าใบหน้าของเจ้ากรมนิ่งและเครียดไปทันทีที่พีพูดออกมา เจ้ากรมคิดเพียงแค่ว่าเขาจะทำอย่างไรกับกวงดีทั้งๆที่เคยพูดออกไปแล้วทั้งใช้กำลังก็แล้วพูดดีๆก็แล้ว หรือว่าตอนนั้นกวงไม่มีสติพอที่จะรับฟังในสิ่งที่เขาพูด


   “ พี่...ผมกลัว”


   “ ไม่เป็นอะไรแล้ว” เจ้ากรมรีบสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดที่จะจัดการกับไอ้กวงออกก่อนจะหันมาสนใจคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาตอนนี้ “ มันไม่มีทางทำอะไรมึงได้แล้ว”


   “ ผมแอบคิดนะว่าตั้งแต่ผมรู้จักกับพี่ผมเจ็บตัวมาตลอด...” เจ้ากรมนิ่งเงียบเพื่อฟังในสิ่งที่พีกำลังจะพูดต่อไป “ แต่ผมก็ไม่มีความคิดว่าจะออกห่างจากพี่เลย”


   “ ไอ้น้องผีเอ้ย” เจ้ากรมอดที่จะหมันเขี้ยวเด็กคนนี้ไม่ได้ทำให้ลืมตัวเผลอเข้าไปจะก้มลงไปหอมที่ศีรษะของคนที่อยู่ในอ้อมกอด แต่ต้องชะงักเอาไว้ก่อนเพราะความสับสนบางอย่างที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร จนกระทั่งพีค่อยๆผลักออกจากอ้อมกอดของกรม


   “ ทำแผลให้ผมหน่อย” ผมจับมือของพี่มันที่จับสำลีอยู่ขึ้นมา


   “ แล้วเมื่อกี้ไล่กู?”


   “ ก็....ตอนนี้ไม่ไล่แล้ว” ผมไม่กล้าบอกพี่มันออกไปว่าผมน้อยใจ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมน้อยใจอะไรไม่เข้าเรื่องอีก แต่ผมว่าพี่มันน่าจะรู้แล้วแหละครับเพราะไอ้ผมเองก็ประชดพี่มันไปเต็มๆตั้งแต่พี่มันเข้ามา


   “ เออ” พี่กรมหันกลับมาสนใจทำแผลให้ผมต่อ “ หาเรื่องเจ็บตัวเองนะมึง”


   “ ผมไม่ได้หา แต่เรื่องมันมาหาเอง”


   “ เงียบได้ไม่นานจริงๆคนอย่างมึง” ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่สายตาผมจะเหลือบไปเห็นว่าเลือดของผมเปื้อนเสื้อของพี่มันบริเวณที่ผมไปซุก


   “ เลือดเปื้อน” ผมจิ้มไปที่ไหล่ของพี่กรมเบาๆบริเวณที่มีเลือดของผมเปื้อนอยู่


   “ ซักออกได้ แต่นี่” พี่กรมเว้นช่วงเอาไว้พร้อมกับใช้นิ้วจิ้มมาที่แผลของผมเบาๆและพูดออกมาช้าๆ “ ซักไม่ได้” ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องยิ้มออกมากับอะไรแบบนี้


   “ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะพี่” ผมพูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆหลังจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาตอนนี้ผมเริ่มมีสติก่อนจะไตร่ตรองทุกอย่าง และรับรู้ได้ว่าพี่มันเป็นห่วงผมจริงๆอย่างที่พี่มันพูดออกมา


   “ ขอโทษที่ต้องเป็นต้นเหตุให้มึงเจ็บตัวในหลายๆเรื่อง” พี่กรมวางสำลีลงบนกล่องปฐมพยายามบาลไว้เหมือนเดิมก่อนที่จะฉีกพลาสเตอร์ขึ้นมาแปะตามแผลที่เขาพึ่งทำความสะอาดให้เสร็จ 


   “ ผมก็ทำตัวเองด้วย ไม่ใช่พี่คนเดียว” ผมแย้งออกมามื่อเห็นว่าคำพูดของพี่มันดูโทษตัวเองฝ่ายเดียว ทั้งๆที่ตัวผมเองก็มีส่วนที่ทำให้ผมต้องเจ็บตัวด้วยเหมือนกัน


   “ ชอบขัดกูจัง อยากเท่บ้างไม่ได้เลยดิ?” พี่มันเลิกคิ้วขึ้น


   “ โห่พี่ แค่นี้ก็เท่จะแย่แล้วครับ พี่จะเอาเท่ไปขายที่ไหนหนักหนาละ”


   “ เศร้าไม่ได้ตลอดเลย? จะต้องเกรียนทุกตอนว่างั้น”


   “ ยังคงคอนเซปครับพี่ครับ” ผมเสนอหน้าออกไปให้พี่มันหมันไส้เล่น


   “ จะกลับเลยหรือจะอยู่ต่อ” พี่กรมถามผมออกมาเมื่อทำทุกอย่างเสร็จ


   “ ทางไหนดีที่สุด” ผมเลือกไม่ได้ว่าทางไหนดีที่สุดสำหรับผม “ ถ้าผมกลับ ผมจะกลายเป็นขี้แพ้ไหม?”


   “ เป็นครับ” พี่มันพยักหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนไม่ทันได้คิด “ เรื่องนี้กูช่วยไม่ได้จริงๆนะน้องผี เพราะเป็นการทะเลาะวิวาทอาจารย์ต้องรับรู้หรือไม่ก็อาจจะไม่รับรู้ อยู่ที่เฮดของงานซึ่งกูไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ อย่าลืมนะว่าทำอะไรลงไปต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองด้วย”


   “ ครับพี่”


   “ แต่อย่างไง กูเอาใจช่วยมึงเสมอ กูรู้ว่ามึงต้องผ่านมันไปได้” มือของพี่มันวางลงมาบนศีรษะของผมครั้งแล้วครั้งเล่าจนผมว่าผมจะกลายเป็นคนเสพติดมือของพี่กรมมันแล้วครับ


   “ แต่ผมไม่อยากเห็นหน้ามันเท่านั้น แค่ชื่อก็ไม่อยากจะเอ่ย”


   “ ก็แค่มองหน้ากู...คนเดียว”


ตึก ตัก ตึก ตัก


   ผมว่าผมน่าจะกำลังเป็นโรคหัวใจ สงสัยจะเป็นผลข้างเคียงจากเหตุการณ์นั้นแน่ๆ ผมว่าวิธีเดียวคือผมต้องลุกขึ้นให้ออกไปจากตรงนี้ ให้ออกห่างจากพี่กรม....ก่อนที่พี่มันจะได้ยินเสียงของหัวใจผม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะลุกออกพี่มันก็ดันตัวผมให้นั่งลงเหมือนเดิม


   “ จะรีบไปไหน?”


   “ แล้วจะให้ผมอยู่ทำอะไรหละครับ” แค่นี้อกกูก็จะแตกตายอยู่แล้ว...ไอ้บ้าเอ้ย!! ถ้าผมยังหาคำตอบว่าการที่ผมหัวใจเต้นแรงเป็นเพราะสาเหตุอะไรไม่ได้ ผมก็ต้องออกห่างจากตัวของพี่กรมมากเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทั้งผมและพี่มัน


   “ แล้วมึงจะออกไปทำไมหละครับ??”


   “ ออกไปหาพ่อพี่มั้ง..อุ๊บ!” ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อเผลอพูดแบบนั้นออกไป


   “ ปากดีแบบนี้แสดงว่าหายแล้ว” พี่มันกระตุกยิ้มพร้อมกับเลิกคิ้วอย่างกวนๆ


   “ ดีไม่ดีไม่รู้ รู้แค่ว่าจะชิมไหม...อุ๊บ!!!” ผมอยากจะตบปากตัวเองแรงๆเลยครับที่ดันพูดแบบนี้ออกมา


ผั๊วะ!


   แล้วผมก็รู้แล้วครับว่าผมโดนอะไร.....ฝ่ามืออันแสนหวานของพี่กรมฝาดลงมาที่กลางหัวของผมเต็มๆ


   “ น้องเจ็บอยู่!”


   “ กูแคร์ว่างั้น”


   “ ครับ!!”


   จบบทสนทนาเพียงเท่านี้..............







PS.พี่กรมก็คือพี่กรม น้องพีก็คือน้องพี เพลียค่ะ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:33:41 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เกรียนพอๆ กัน น้องพีสลดได้ไม่ถึงนาที แต่ก็สงสารน้องเจ็บตัวตลอด

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 12.1

ค่ำคืนที่แสนหวาน


Jaokom’s talk


   ผมแยกออกมาจากไอ้พีแล้วครับ ตอนนี้ปล่อยให้พีมันไปรับบทลงโทษในสิ่งที่มันก่อถึงแม้ว่าในสายตาของผมมันจะไม่ผิดก็เถอะครับ ไอ้เทพหนึ่งในผู้จัดงานพยายามจะช่วยให้ไอ้พีไม่โดนอะไรมากแค่เรื่องไม่ถึงอาจารย์หรือถึงขั้นดำเนินคดีก็พอแล้ว ส่วนคู่กรณีของมันก็เงียบครับเงียบกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ปล่อยมันเอาไว้แน่ๆ ถ้ามันกล้าทำถึงขนาดนั้นผมว่ามันต้องมีเคลียร์กันหน่อยแล้วแหละครับ


   “ ไอ้กรมไปไหนมา” ไอ้เทพทักขึ้นหลังจากที่ผมเปิดประตู้เข้ามาในห้องพักที่เป็นห้องของผมกับไอ้เทพในคืนนี้


   “ เดินเล่น” ผมตอบออกไปตามความจริงเพราะผมต้องการหาที่สงบนั่งคิดทบทวนอะไรบางอย่างที่มันรบกวนทั้งในหัวใจและในความคิดของผมตอนนี้ “ แล้วไอ้พีเป็นไงบ้าง”


   “ ก็โดนไปตามระเบียบ แต่แม่งไม่ยอมพูดว่าต่อยกันทำไม ทั้งคู่เลย”


   “ มันไม่บอกเหตุผลหรอวะ?” ผมนั่งที่ขอบเตียงก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเพื่อเช็คข่าวสารในแอพลิเคชั่นต่างๆ


   “ อื้อ กูก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรพวกมันต่อ”


   “ อาฮะ” ผมเองก็พอจะรู้เหตุผลของไอ้พีว่าทำไมไม่อยากที่จะบอกเหตุผล เรื่องแบบนี้มันยากที่จะเข้าใจครับ ถ้ามันบอกโต้งๆไปว่าไอ้กวงจะข่มขืนมันก็ไม่ได้ เพราะสิ่งที่ไอ้พีพูดมันไม่มีหลักฐานที่ว่าไอ้กวงจะทำบางทีถ้ามันพูดออกไปกระแสอาจจะตีกลับไปที่มันก็ได้ ผมว่าการที่ไอ้พีมันเงียบก็น่าจะดีที่สุดแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ผมเชื่อในสิ่งที่มันพูดอย่างไม่มีข้อกังขาอะไรทั้งสิ้น


   “ แต่ไอ้กวงก็เละเลย กูสงสัยตรงที่ไอ้กวงมันเงียบหวะมึง ปกติไอ้กวงมันไม่ใช่คนแบบนี้ กูว่ามันต้องมีอะไรกับไอ้พีโดยที่พวกเราไม่รู้” ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันครับ เพราะไอ้พีมันก็ไม่ได้บอกผมหมดทุกอย่างมันบอกเพียงแค่ว่าไอ้กวงจะข่มขืนมัน


   “ รอดูต่อไป”


   “ เออ” ผมไถ่หน้าจอไปเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งเด้งขึ้นมาในหน้าฟีดของผม ผู้หญิงที่ผมเคยตามจีบเธอมาได้สักพัก แต่ผมก็เลิกจีบเธอไปเพราะคิดว่าเธอจะไม่น่าชอบผม แต่นี่ก็ผ่านมาได้เกือบปีแล้วครับที่ผมไม่ได้คุยกับเธอ หรือบางทีการที่ผมกลับไปคุยกับเธออีกครั้งจะทำให้ผมตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ง่ายขึ้น


   “ กูว่ากูจะกลับไปจีบเมย์”


   “ ห้ะ?” ไอ้เทพที่นอนอยู่ข้างๆถึงกับลุกขึ้นมานั่งทันทีที่ผมพูดออกไปแบบนั้น “ มึงคิดอะไรอยู่”


   “ ไม่รู้หวะ กูสับสน”


   “ ไอ้กรมมึงฟังกูนะ” ไอ้เทพจับไหล่ทั้งสองข้างของผมให้หันไปมองหน้ามันตรงๆ “ อย่าลากใครเข้ามาเกี่ยวอีกเลยมึง”


   “ กูไม่ได้จะลากใครมาเกี่ยว แต่ครั้งที่แล้วกูยอมแพ้ไปเองทั้งๆที่เมย์กำลังจะหันมาชอบกูอยู่แล้ว”


   “ แต่....มึงแน่ใจว่ามึงยังชอบเมย์อยู่” สายตาของไอ้เทพมันพยายามจะสื่อว่ามันรู้ว่าผมไม่ได้ชอบเมย์แต่ผมกำลังชอบใครอีกคนที่ผมก็ไม่แน่ใจว่านั่นมันคือความชอบหรือแค่รู้สึกดีเท่านั้น


   “ กูไม่รู้หวะไอ้เทพ” ผมผลักมันออกก่อนจะทิ้งตัวลงนอนลงบนเตียงปล่อยให้ไอ้เทพพูดสอนและเตือนสติของผม แต่อยู่ที่ตัวของผมว่าผมจะรับฟังในสิ่งที่มันพูดหรือไม่


   “ ถามใจตัวมึงเองนะไอ้กรม มันไม่ยากเลยเว้ยถ้ามึงจะตัดสินใจคบกับใครหรือมึงจะชอบใคร ก็แค่ความรักมึงจะคิดมากทำไมวะ” นั่นซิครับผมจะมานั่งคิดมากทำไมถ้ามันเป็นความรักในรูปแบบปกติ โดยที่ทุกคนรอบข้างผมจะรับได้กับความรักหรือการที่ผมจะคบกับใคร แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่....


   “ ก็แค่ความรัก..........” ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง



Pee’s talk


   ผมโดนเรียกไปถามครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมต้องต่อยไอ้กวงมันขนาดนั้น ผมโดนเรียกไปทั้งคู่โดยที่ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่อยากไป แต่ถ้าผมไม่ไปนั่นก็จะเท่ากับว่าผมยอมรับว่าผมเป็นฝ่ายผิด และนั่นทำให้ผมตัดสินใจเข้าไปด้านในพร้อมกับมันโดยที่มีพี่ๆที่เป็นเฮดกิจกรรมและคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาซักถามถึงเรื่องราวทั้งหมด ผมก็นิ่งเพื่อรอฟังว่าไอ้กวงมันจะพูดว่าอะไร แต่ผิดคลาดครับไอ้กวงมันเองก็เลือกที่จะเงียบเหมือนกับผม ทำให้การเรียกไปคุยครั้งนี้ไม่ได้อะไรเลยนอกจากความเงียบของผมกับมัน


   ส่วนเพื่อนๆเองก็พากันมาขอโทษผมที่ทำให้ผมต้องไปเจอกับเหตุการณ์นั้น ผมยอมรับเลยนะว่าโกรธอยู่เหมือนกัน แต่ในเมื่อมันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปครับ อย่าไปยึดติดเพราะถ้าผมยึดติดคนที่จะคิดมากแม่งก็คือตัวของผมเองนั่นแหละครับ บทลงโทษของผมกับไอ้กวงก็คือการถูกกักบริเวณจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้าโดยที่ผมต้องมาอยู่แต่ในห้องพักคนเดียว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมต้องไปนอนกับเพื่อนอีกสามคน ส่วนไอ้กวงก็คงน่าจะเหมือนผมมั้งครับ ไม่อยากพูดถึงมันหละปวดหัว


   ผมนอนบนเตียงโดยที่ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ก็ไม่มีเล่น ทีวีก็ไม่มีดู ผมไม่มีกิจกรรมอะไรทำนอกจากนอนคิดทบทวนกับบางสิ่งบางอย่างที่มันค่อยๆเริ่มก่อตัวในใจของผมมาได้สักพัก แต่ผมเองก็ไม่อยากจะแน่ใจสักเท่าไหร่ว่ามันคืออะไร ทั้งๆที่ผมรู้มาตลอดแต่ผมเลือกที่จะหลอกตัวเองว่านั่นคือความสัมพันธ์ที่เรียกว่า พี่ชาย-น้องชาย เท่านั้น


แอดด


   เสียงไขประตูและถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงที่ผมคุ้นเคยที่เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร เดินมาตรงเตียงที่ผมนอนอยู่ ก่อนที่พี่มันจะวางถาดอาหารไว้ข้างๆเตียงและขึ้นมานั่งข้างๆผมแทน ผมไม่ได้ลุกขึ้นนั่งแต่ผมทำแค่เพียงหันหน้าไปมองทางพี่มันเท่านั้น


   “ กินข้าว”


   “ ยังไม่หิวครับ”


   “ แล้วมันจะหายไหม?”


   “ แผลหายไม่หายไม่ได้อยู่ที่กินข้าวนะพี่...”


   “ แต่แผลจะหายไม่หายมันอยู่ที่มึงจะยอมกินข้าวไหมไม่รู้ แต่ถ้าไม่กินตอนนี้มึงจะได้อีกแผลแน่ๆ” ผมยิ้มให้กับคำขู่เล่นๆของพี่มันก่อนที่ผมจะยอมแพ้ยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆพี่กรม


   “ ผมไม่หิวจริงๆนะ” ผมบอกพี่กรมมันออกไปอีกครั้ง เพราะตอนนี้ผมไม่รู้สึกหิวจริงๆแม้ว่าอาหารมันจะมีหน้าตาหน้ารับประทานก็เถอะ


   “ แต่กูหิว...” พี่มันพูดออกมาเสียงเรียบนั่นทำให้ผมขมวดคิ้วทันที พี่มันหิวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม ยังไม่ทันที่จะได้ถามออกไปพี่มันก็พูดขึ้นมา “ ว่าจะมากินด้วยกันแต่ถ้ามึงอิ่ม...กูไปกินข้างนอกก็ได้” พี่กรมมันทำท่าจะลุกขึ้นเดินออกไป ทำให้ผมขว้าแขนของพี่มันเอาไว้ก่อน พี่กรมก้มลงมามองมือของผมที่จับแขนพี่มันเอาไว้พร้อมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าผมจับแขนพี่มันไว้ทำไม


   “ ผมก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน”


   “ หึ” พี่กรมมันเดินไปยกถาดอาหารมาวางที่พื้นห้องทำให้ผมลงไปนั่งที่พื้นกับพี่มัน


   “ ผมอยากกินเหล้าจังพี่”


   “ หยุดความคิดเถอะนะน้องผี ถือว่ากูขอร้อง” พี่มันหยุดชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวใส่จานให้ผมพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม


   “ มาทะเลแต่ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้กินเหล้าเลย เหมือนมาไม่ถึงหวะพี่”


   “ มึงทำตัวเอง” พูดอีกก็ถูกอีกครับผม ผมทำตัวเองทั้งนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นกินกุ้งย้อมใจไปครับ


   “ หยุด” ผมรีบยกมือขึ้นเหนือหัวของตัวเองทันทีที่พี่กรมพูดออกมาเสียงดัง


   “ เดี๋ยวแกะให้” ผมไม่รู้นะว่าพี่มันมาอารมณ์ไหน แต่การที่พี่มันอาสาแกะกุ้งให้มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองดูตัวเล็กลงไปอีกแล้ว เหมือนว่ากำลังถูกเอาอกเอาใจ


   “ พี่ ผมเข้มแข็งพอที่จะแกะกุ้งเองได้แล้วนะครับ” ผมแย่งกุ้งพี่มันมาก่อนที่ไล่ให้พี่มันนั่งอยู่เฉยๆ “ ผมขอบริการพี่บ้าง แค่แกะกุ้งเดี๋ยวผมทำให้” ผมตั้งใจแกะกุ้งเผาที่พี่มันยกมาให้


   “ เข้มแข็ง? คนเข้มแข็งร้องไห้ซบอกกู??” ผมรีบวางกุ้งเลยครับเมื่อพี่มันพูดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า


   “ ก็พี่พูดเองหนิว่าผู้ชายไม่ต้องเข้มแข็ง ถ้ารู้งี้ผมไม่ร้องออกมาดีกว่า” พี่แม่งก็ชอบล้อไงครับ เสียหน้าลูกผู้ชายอกสามซอกอย่างผมชะมัดเลย


   “ โอ๋ แค่แซวเอง” พี่มันยื่นมือมาลูบศีรษะของผมอีกครั้ง “ อยากไปทะเลไหม?”


   “ พี่ทำเหมือนว่าจะพาผมไปได้”


   “ ได้ดิ มีอะไรที่คนอย่างกูทำไม่ได้?”


   “ เหยียบดวงจันทร์”


ผั๊วะ!


   “ เลิกกวนตีนไม่ได้จริงๆ” ผมโดนพี่มันตบหัวอีกแล้วครับไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บนะครับมันรู้สึกดีมากกว่าเหมือนว่าพี่มันหยอกล้อผมเล่น แต่การหยอกล้อของพี่มันค่อนข้างที่จะรุนแรงไปหน่อยเท่านั้นเอง...


   “ อะพี่ กินได้” ผมยื่นกุ้งไปวางไว้ตรงหน้าพี่กรมก่อนจะแกะอีกตัว แต่ยังไม่ทันได้แกะพี่มันก็แย่งกุ้งในมือของผมไปวางไว้เหมือนเดิม


   “ พอแล้ว มึงก็กินบ้างดิ”


   “ ครับพี่” ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหยิบกุ้งขึ้นมากิน “ โคตรหร่อย” ผมนี่โคตรจะเสียดายที่ต้องมานั่งโง่ๆอยู่ในห้อง ถ้าผมได้ออกไปกินอาหารทะเลด้านพร้อมวิวสวยๆนะ ผมว่ามันน่าจะฟินกว่านี้แน่ๆ


   “ ไอ้เทพบอกว่ามึงไม่ได้เล่ารายละเอียดและสาเหตุที่ทะเลาะกันหรอวะ?” เมื่อกินไปได้สักพักพี่กรมก็พูดขึ้นทำให้ผมเงยหน้าไปมองพี่มันก็เห็นว่าพี่กรมเองก็มองหน้าผมอยู่เช่นกัน


    “มันพูดยากนะพี่ ถ้าผมบอกว่า..ไอ้กวงมันจะข่มขืนผม ผมถามหน่อยว่าใครจะเชื่อ” ถ้าผมเป็นผู้หญิงมันก็น่าจะดูสมเหตุสมผลมากกว่านี้...แต่นี่ผมเป็นผู้ชายไอ้กวงมันก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะชอบผมนอกจากเมื่อเช้าและตอนที่มันพูดเสียงดังช่วงทำกิจกรรม แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเหตุจูงใจมากพอที่มันจะมาข่มขืนผม และผมเองก็ไม่อยากจะบอกใครหรือแม้กระทั่งพี่กรมในเรื่องที่ไอ้กวงมันจะทำเพราะอยากแก้แค้นพี่กรม ผมไม่อยากให้พี่มันกังวลไปมากกว่านี้


   “ กูเชื่อ” ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดปากออกมาจากปากของพี่กรมนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิมที่ยังมีคนที่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดออกมา “ ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว”


   “ พี่ถ้าผมโดนมันปล้ำหละ” ผมถามออกไปโดยที่ไม่ได้คาดหวังคำตอบ แต่คำตอบของพี่มันก็ทำให้ผมชะงักอยู่ไม่น้อย
   “ มันจะไม่มีทางเป็นไปได้ถ้ากูยังมีชีวิติอยู่”


   “ ฮื่อออออออ พรี่” ผมคว้าคอพี่มันเข้ามากอดทันทีก่อนที่ผมจะปล่อยออกอย่างรวดเร็วเช่นกัน “ ผมซึ้งจนน้ำตาจะไหลออกมาอีกรอบแล้วนะพี่”


   “ เรื่องเวอร์ไม่มีใครเกินมึงจริงๆ” พี่มันส่ายหัวเบาๆ “ แล้วนี่อิ่มยัง”


   “ ครับ แต่อยากกินเบียร์”


   “ มึงเมาแล้วกูไม่ไหวจริงๆ”


   “ ผมเมาแล้วนักเลงจนพี่รับมือไม่ไหว?”


   “ กูถามจริง มึงไม่รู้ตัวจริงดิ เต้นยั่วๆบดๆอะไรของมึงนั่น กูขอเห็นแค่สองครั้งพอในชีวิต” ดูจากสีหน้าพี่มันก็พอจะรู้แล้วแหละครับว่าพี่มันไม่อยากเห็นผมเมาจริงๆ


   “ แต่ผมอยากมากครับพี่ ผมอยากมากๆเลยนะ” ผมค่อยๆเอาศีรษะของผมดันไปที่แขนของพี่มันอยู่อย่างนั้น


   “ อ้อนมากไหม? เฉลิมยังไม่อ้อนกูเท่ามึงเลยน้องผี” พี่กรมใช้มือทั้งสองข้างของเขาค่อยๆดันศีรษะของผมให้ออกห่างจากตัวของพี่มัน


   “ เฉลิมลูกรักพี่มันเป็นงูหนิครับ มันอ้อนพี่ได้ก็แปลกแล้ว” เอาผมไปเปรียบเทียบกับเฉลิมเจริญจริงๆเลยฮะ มันไม่มีอะไรที่ผมจะสามารถเป็นแล้วใช่ไหม


   “ ไม่มีใครเถียงเก่งเท่ามึง” พี่กรมมันค่อยๆยันตัวลุกยืนขึ้น “ เดี๋ยวมา” ก่อนที่พี่มันจะออกไปด้านนอกทิ้งผมอยู่ในห้องกับไอ้กุ้งไอ้ปลาหมึกไอ้หอยพวกนี้


   “ มองหน้ากูหาพ่อมึงหรอ” ผมหยิบกุ้งตัวหนึ่งขึ้นมาก่อนที่จะพูดกับมัน “ มึงคิดดูนะ กูอะแค่อยากจะทำอะไรให้พี่มันได้บ้าง แค่จะแกะกุ้งกูยังจะมาหวั่นไหวอะไร ไอ้ฉิบหาย” ผมขอย้อนกลับไปตอนที่พี่มันบอกกับผมว่าเดี๋ยวแกะกุ้งให้ เอาจริงๆนะผมโคตรงงเลยครับ ทุกคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นแค่เรื่องธรรมดานะแต่สำหรับผมการที่เขาใส่ใจและทำอะไรที่มันเล็กๆน้อยๆให้เราได้ทั้งที่เราเองก็สามารถทำมันได้ แบบนี้มันโคตรทำให้ผมคิดมากเลยครับว่าตกลงแล้ว....พี่ชายเขาทำแบบนี้ให้น้องชายทุกคนไหม


แอดดด


   ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดมากอะไรพี่กรมมันก็เปิดประตูห้องมาอีกครั้งพร้อมกับเบียร์สองขวดในมือ เห็นภาพนั้นผมนี่ยืนยิ้มเลยครับ แค่ได้จิบเบียร์ผมว่าผมก็น่าจะมีความสุขแล้ว


   “ หึ ยิ้มหน้าบานเลยนะมึง” ตอนนี้เราสองคนย้ายมานั่งด้านล่างเหมือนเดิมแต่แค่เปลี่ยนโลเคชั่นมานั่งหันหลังพิงเตียงเอาไว้


   “ เปิดเพลงได้ไหม?” ผมเอียงคอไปถามพี่มันที่ตอนนี้ต่างคนต่างเงียบและจิบเบียร์ไปพรางๆอย่างไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา จนกระทั่งผมเอ่ยปากขอพี่มัน


   “ เรื่องมากจริงวะ” ถึงปากพี่กรมมันจะบ่นแต่ก็ยอมยื่นโทรศัพท์มาให้ผม


   “ พี่ไม่ถือหรอ ให้ผมเล่นโทรศัพท์พี่” ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่คิดจริงๆครับว่าพี่มันจะเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ผม


   “ ถืออะไรหนักหนา เล่นๆไปเหอะมึง” พี่กรมพูดอย่างไม่ใส่ใจทำให้ผมเปิดแอพลิเคชั่นฟังเพลงขึ้นมาเลื่อนดูแต่ก็ไม่รู้ว่าจะฟังเพลงอะไรดี


   “ พี่อยากฟังเพลงอะไรไหม?” ผมหันไปมองด้านข้างของหน้าพี่มันที่เอาศีรษะพิงขอบเตียงเอาไว้


   “ ได้โปรด...” พี่กรมพูดออกมาทันทีเหมือนว่าเพลงนี้อยู่ในหัวของเขา “ ไม่รู้หวะ อยู่ๆกูก็คิดถึงเพลงนี้ แต่มึงจะฟังเพลงอะไรก็ได้ เปิดเลย”


   “ ครับ” ผมกดเปิดไปที่เพลงได้โปรด ของแพรว คณิตกุล ตามที่พี่กรมมันบอกก่อนที่ผมจะกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง
ดึงตัวเองกลับมาทุกที


เมื่อฉันรู้สึกดี ทุกวันที่อยู่ใกล้เธอ
เตือนตัวเองว่าคิดให้ดี
กับท่าทีที่พบเจอ เธอคงไม่ได้ตั้งใจ


   เมื่อเพลงค่อยๆบรรเลงขึ้นผมค่อยๆเอนศีรษะลงไปนอนราบกับขอบเตียงเหมือนกับที่พี่กรมมันนอนอยู่ก่อนจะค่อยๆหลับตาปล่อยให้จังหวะเพลงนำพาผมไป


แต่ละคำที่เธอพูดมา มันคล้ายว่าห่วงใย
เธอคงพูดไปอย่างนั้น แต่ว่าฉันจำขึ้นใจ


   ทำไมท่อนนี้มันโดนใจผมอย่างนี้วะ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรท่อนฮุกของเพลงก็ดังขึ้นมา


รู้บ้างไหมว่าใครบางคน สับสนและไม่แน่ใจ
เธอทำให้ฉันต้องหวั่นไหว
เธอทำให้ใครต้องคิดมากเพราะเธอ

รู้บ้างไหมที่เธอทำไป ฉันหลงเอาไปละเมอ
ได้โปรดอย่าทำให้รักเธอ
ถ้าเธอไม่เคยสักนิดที่คิดจะจริงจัง

กลัวตัวเองจะเปลืองหัวใจ
ที่มันเผลอคิดมากมาย
แต่กลับเป็นไปข้างเดียว



   ผมไม่รู้นะว่าเพลงนี้ที่พี่กรมมันพูดขึ้นมาคือเพราะพี่มันอยากฟังเอง หรืออยากจะสื่ออะไร ผมเองก็นอนฟังไปนิ่งๆทั้งที่หัวใจตอนนี้ของมันมันกลับหวั่นไหว ไม่รู้ว่านี่มันเรียกว่าอะไร แต่ผมอยากจะบอกว่าในเนื้อเพลงที่คิดไปเองข้างเดียว แต่สำหรับตอนนี้ถ้าพี่มันอยากจะสื่อตามความหมายจริงๆ ผมก็อยากจะบอกออกไปว่าผมก็คิดเหมือนกัน แต่นั่น....ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลืมตาขึ้นมาจากภวังค์ความนึกคิดของตัวเอง อยู่ๆก็มีบางอย่างทาบลงมาบนริมฝีปากของผมเบาๆ...







PS.ถ้าพี่สับสนก็อย่าทำแบบนี้กับน้อง!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 11:40:58 โดย KJH177 »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่กรม พี่ทำอะไรน้องผี .......ฮะ

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังไม่แน่ใจกันทั้งสองคนเลยเนาะเพราะอยู่กันแบบพี่น้องปลอมๆมาตลอด :laugh: เอาใจช่วยทั้งสองคนเลย แต่ตอนต่อไปน้องผีจะเมามั้ยนะ อยากเห็นน้องบดๆยั่วๆอีก55555 ถ้าไม่ติดว่าน้องผีมีความหวั่นไหวให้กับพี่กรมก็อยากให้พี่เทพมาจีบน้องผี เพราะเราหมั่นไส้พี่กรม เรือผีๆเทพผีเราจะได้เดินด้วย555 คุณไก่ทอดมาเร็วมากๆว่าจะเม้นตอนที่แล้วเปิดมาอีกทีตอนใหม่มาแล้ว ขอบคุณมากๆนะคะที่มาเร็วมาก ห้ามทิ้งกันนะ :pig4: :L1:  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด