บทที่2
เรื่องทุกเรื่องมันไม่ใช่ความฝัน
เรื่องทุกเรื่องมันเป็นความจริง
แต่เรื่องจริงที่หนักใจยิ่งกว่าคือผมต้องไปกับหมอนี่จริงๆหรอ
ตื่นตี2ทั้งๆที่นอนได้แค่3ชม. ผมเเละนายไนท์ออกมาโดยที่คนในบ้าน ยังคงหลับอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ ผมเองก็อยากนอนเเละซุกอยู่ในที่นอนนุ่มเเละผ้าห่มอุ่นๆอยู่เลยนะ แต่เพราะไอ้ที่มันเร่งยิกๆนี่สิไม่รู้ว่าจะรีบไปไหนสงสัยกลัวเด็กที่บ้านคิดถึงสินะ อิจฉาพวกรูปหล่อบ้านรวยจริงๆ
"คิดอะไรทำหน้าให้มันดีๆหน่อย"คนที่ถูกนินทาในใจก็เหมือนรู้ดีอีก
"อะไร ผมคิดอะไร"ผมทำหน้าตายเเล้วมองดูทิวทัศน์ด้านข้างที่ยังคงมืดสนิท
"นายไม่เคยรู้ตัวเลยหรือไงว่าเวลานายคิด หน้าตานายมันอุบาทสุดๆ" ผมได้เเต่อ้าปากค้าง หลอกด่ากันชัดๆ
"อุบาทเลยหรอ โหยไรวะรักษาน้ำใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง หน้าเเปลกก็ว่าไปสิ"ผมเถียง เเล้วก็เเอบมองหน้าตัวเองว่ามันเป็นอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า ไนท์ส่ายหน้าเหมือนเอือมๆเเล้วมองไปข้างหน้าต่อ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะถึงบ้านของคนขี้เก๊กนี่ดี แต่ที่เเน่ๆพักผ่อนเเค่3ชม.มันไม่พอสำหรับวัยกำลังกินกำลังนอนอย่างไอ้ซินได้เลยนะ
"ผ้านวมอยู่หลังเบาะ"คนพูดเหมือนไม่ใส่ใจ ผมควานหาสิ่งที่อยากได้เพราะมันมืดเเละไม่อยากเปิดไฟให้เเยงตาคนขับ เเล้วก็ได้ผ้านวมผืนเล็กที่ไม่ใหญ่มาก ผมเหลือบมองคนขับเเต่ก็เขาก็ยังเก๊กอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้อยากหลงตัวเองนะว่าเขาอาจจะหวังดีเตรียมไว้ให้ เเต่ผมน่ะเป็นคนติดผ้าห่มอย่างเเรง ก็ขอบคุณในใจละกัน
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนเเล้วที่ผมหลับ อาจจะเป็นเพราะเพลียมาก จึงหลับได้หลับดีทั้งๆที่นอนอยู่บนรถ หรือเพราะคนขับ ขับรถนิ่มก็เป็นได้ ขนาดตะวันเเยงตาขนาดนี้ผมยังไม่อยากที่จะลืมตาเลย
"อืมถึงหรือยังอ่ะคุณ"ผมถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย คนๆนี้ก็อึดจริงๆขับรถได้เป็นชม.ๆ
"อีก10กก."คนขับยังตั้งหน้าตั้งตาขับต่อไปเรื่อยๆ เก้าโมงเช้าแล้วหรือนี่มิน่าละทำไมตัวเองหิวๆ ผมมองออกไปนอกกระจกเพราะอยากรู้ว่าถึงไหน
"ภูเก็ตหรอ"ผมทำตาโต ป้ายบอกทางบ่งบอกว่าเราอยู่ในจังหวัดภูเก็ต นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มาเที่ยวเพราะตั้งเเต่ที่พ่อเสียไป กิจกรรมครอบครัวเราก็ไม่ค่อยได้ทำกันอีกเลย มันเลยหาโอกาศยากมากที่จะได้มาเที่ยวภูเก็ตหรือทะเลทางภาคใต้อย่างนี้
เหมือนจะถึงจุดหมายปลายทางแล้วเมื่อรถเเล่นเลี้ยวเข้าทางเข้าโรงเเรมขนาดใหญ่ เขาขับรถไปตามเส้นทางถนน ที่ด้านข้างเต็มไปด้วยบ้านขนาดเล็ก เป็นหลังๆ
"เข้าโรงเเรมทำไมอ่ะ" คนถูกถามไม่ยอมตอบเขายังขับรถไปตามทางเลื่อยมาจนเจอทางทราย ขับเลียบไปตามชายหาดซักพักก็เจอบ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ดูให้ความร่มรื่น
ผมมองเข้าไปทางด้านในเหมือนเห็นผู้ชายแก่ๆวิ่งออกมาเเล้ววิ่งหายเข้าไปในบ้านก่อนจะมีพวกออกตามมา2-3คน
"ลงสิถึงเเล้ว"คนสั่งพูดพร้อมลงเป็นตัวอย่าง ผมเลยสนองลงตามเพราะตัวเองก็อึดอัดเเละอยากยืดเส้นยืดสายเหมือนกัน
"นายหัวกลับมาเเล้วหรือครับ น่าจะโทรบอกพวกผมหน่อยจะได้มารอรับนายหัว พวกไอ้ดำมันเพิ่งจะไปฟาม เลยเหลือพวกผมอยู่กันเเค่นี้เอง" นายไนท์พยักหน้ารับรู้
"ไอ้หมอล่ะ"
"คุณหมอมาเเล้วครับ พอตรวจคุณหนูเสร็จคุณหมอก็กลับเห็นบอกว่ามีงานด่วน" นายไนท์พยักหน้าอีกครั้งเเล้วเดินเข้าบ้านไปทันที ผมที่กำลังยืนบิดขี้เกียจไปมาแต่หูก็เเอบฟังอยู่ ทำตัวไม่ถูกเลยอ่ะ แต่ก็ชอบนะที่นี่บรรยาดีกลิ่นทะเลมันโชยมาตามสายลม ทำให้รู้สึกสดชื่น
"เเล้วคุณล่ะครับหิวน้ำไหมเดี๋ยวผมเอาน้ำมาให้" ลุงทำท่าเหมือนเกรงใจผมถามขึ้น อันที่จริงผมก็หิวนะหิวทั้งน้ำเเละข้าว แต่ขอรอไอ้คนที่ลากผมมาด้วยดีกว่า ผมไม่อยากใช้คนเเก่
"อ่อ ขอบคุณครับไม่เป็นไร" จากนั้นเเกก็สั่งให้ลูกน้องเเกยกกระเป๋าของเจ้านายหายเข้าบ้านไปกันหมดปล่อยให้ผมยืนอยู่คนเดียวหน้าบ้านเนี่ยนะ
ผมเดินเข้ามาในตัวบ้าน ข้างในดูเงียบพิลึก ผมเลือกที่จะนั่งตรงโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อรอว่า ไอ้คนที่พามาจะเอายังไงต่อไปอีก ไม่คิดเลยว่าจะได้มาอยู่ที่ทะเลจริงๆ น่าเสียดายถ้าผมเอากล้องถ่ายภาพหรือบอร์ดวาดภาพอุปกรณ์คู่ใจมาด้วยก็ดีสิอย่างน้อยภาพพวกนี้ก็จะถูกเก็บไว้เป็นที่ระลึก
บ้านหลังนี้ห่างไกลจากบ้านพักหรือพวกบ้านบังกะโลมากถ้าไม่ใช้รถหรือจักรยานผมว่าคงได้เดินกันขาลากแน่ๆ ผมนั่งซักพักตอนนี้ท้องมันเริ่มไม่ไหวเเล้วจริงๆตัดสินใจถือวิสาสะเข้ามาในบ้านเพื่อหาคนบางคนที่ทิ้งผมไว้อย่างนี้
"มาหาใคร"เสียงเล็กเเหลมถามทันทีที่ผมเข้ามาถึงใจกลางบ้าน จนผมสะดุ้ง
"ผมมาหา...มาหาพี่ไนท์"
"มีธุระอะไรกับเขา" แล้วเขาคือใครล่ะเนี่ย
"ไม่รู้จะตอบว่าไงแต่ผมไม่ได้มีธุระ แต่มันจำใจให้เข้ามา"ไม่รู้ว่าคำตอบผมมันกวนไหม แต่ผู้หญิงคนนี้ทำสีหน้าไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้ใบหน้าสะสวยผมยาวหยิกเป็นลอนยาวไปถึงเอว ใบหน้ารูปไข่กับปากนิดจมูกหน่อย บอกตรงๆว่าสเป๊กของซิน แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าเราในสถานการณ์อื่นไม่งั้นไอ้ซินคนนี้คงได้เข้าไปจีบเเน่ๆ
"ถ้าไม่มีอะไรก็กรุณาออกไป เชิญ" โอ้โหไล่กันงี้เลยอ่ะ ทำอย่างกับผมอยากอยู่ ผู้หญิงอะไรสวยซะเปล่า สงสัยเป็นเด็กเก็บ ของหมอนั่นเเหงๆ ปากก็บอกไม่อยากให้ใครหาเมียให้ ที่ไหนได้กลับซุกเด็กไว้ในบ้านเเล้วทำไมไม่เเต่งกันเอง ไอ้ซินคนนี้คงไม่ต้องมารับกรรมเเทน
"เอ่อ" ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง แต่ในเมื่อไล่กันขนาดนี้เธอคงไม่ธรรมดาเเน่ๆ
"เกิดอะไรขึ้น" ในที่สุดพระเอกขี่ม้าขาวก็โผล่มาซักที ผมโล่งใจทันทีที่หมอนี่ลงมา ไม่งั้นคงได้มีเรื่องกันอีกยาวนาน
"พี่ไนท์ คนนี้เขาเป็นใครไม่รู้ ดูมีพิรุธมากเลยล่ะ ปรายไล่เท่าไรเขาก็ไม่ยอมออกไป" พูดอย่างเดี๋ยวไม่พอเธอเข้าไปเกาะเเขนเเล้วทำสีหน้าออดอ้อน อย่างนี้ชัดเลยชัวๆเด็กเก็บหมอนี่แน่ๆภาพมันฟ้อง
นายไนท์มองมาทางผมเเล้วเเกะมือที่เป็นปลาหมึกออกจากแขน คนชื่อปรายทำหน้าเหวอนิดๆ
"ทำไมไม่ตามมาตั้งแต่เเรก นึกว่าหนีไปแล้วซะอีก" เอ๊าผิดอีกหรอเนี่ย เเล้วใครมันทิ้งผมไว้ข้างนอกก่อนวะ จากนั้นก็เดินเข้ามาโอบเอวผม
"ปรายไปตามทุกคนมาให้พี่หน่อยสิ"เธอมองมือที่เกาะเอวผมตาเเทบถลน
"ทำอะไรอ่ะ"ผมกระซิบถามเเล้วเเกะมือที่ไม่ยอมออกง่ายๆ
"แล้วที่พามานี่ให้ทำหน้าที่อะไรล่ะ หึ"ผมตกใจกับคำตอบที่ได้รับ
"นี่คุณจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้ จะมาเป็นนายหญิงหรอค้ะ"ผมจะหันกลับไปปฏิเสธแต่กลับโดนคนที่เเรงเยอะกว่าปิดปากเอาไว้
"ไปตามทุกคนมาผมจะเเนะนำให้รู้จัก" เธอทำหน้านิ่ง ก่อนจะเดินลับไป
"คุณปิดปากผมไว้ทำไมเนี๊ยะ"
"เดี๋ยวหมามันออกจากปากไง" นี่ผมโดนหลอกด่าอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย รู้สึกว่าผมจะโดนผู้ชายปากร้ายนี่ด่าหลายรอบเเล้วนะ
"ผมคนนะไม่ใช่หมา แล้วอีกอย่างเขาคิดว่าผมเป็นผู้หญิง"
"แล้วมันแปลกตรงไหน"นายไนท์ส่ายหน้าเหมือนเวลาทรายอธิบายโจทย์คณิตเเล้วผมไม่เข้าใจเเล้วส่ายหน้าอย่างระอา
"ไป ขึ้นไปจะเเนะนำคนที่นายจะต้องดูเเล"พูดจบก็เดินนำผมขึ้นบรรไดไป ผมเดินตามอย่างอารมณ์เสีย ตั้งเเต่เจอจนถึงตอนนี้โดนทั้งด่าทั้งสั่ง ไม่เห็นจะมีไรดีเลย กรรมของไอ้ซินจริงๆที่มาเจอคนประเภทนี้ ผมเดินตามไปเงียบๆ นายไนท์เดินเลี้ยวไปตามทางขวามือเเล้วเปิดประตูเข้าไป ผมเดินตามเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนที่ถูกตกเเต่งไปด้วยภาพทิวทัศน์ ของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากทั่วทุกที่ทั่วโลก กลางห้องเป็นเตียงเล็กที่ตอนนี้ มีเด็กน้อยที่กำลังหลับสนิทจนรู้สึกว่าเด็กคนนี้เหมือนตุ๊กตาบลายน่ารักๆ ที่พี่สาวชอบซื้อเก็บมาสะสมไว้จริงๆ
นายไนท์นั่งลงข้างเตียงเเล้วเอามือลูบเเก้มเด็กน้อยเบาๆแล้วก้มลงไปจูบ เด็กคนนี้คงเป็นลูกสาวของเขาเเน่ๆ
"น่าเสียดายหลับไปซะเเล้ว"ปากคุยกับผมเเต่มือยังลูบผมของเธอเบาๆ
"นี่ลูกคุณหรอ"ผมถามทั้งๆที่รู้อยู่ แก่ใจ
"อื้ม น่ารักไหมล่ะ"หันมายิ้มกวนๆให้ผม
"น่ารักสิผมยังไม่เคยเจอเด็กที่น่ารักเท่าลูกคุณเลย เเล้วเธอชื่ออะไรล่ะ"ผมเดินเข้าไปใกล้ ทุกสิสิ่งที่พูดไม่ได้จะยอพ่อหรอกนะเเต่เธอน่ารักจริงๆ
"น้องดรีม เเม่เธอตั้งให้น่ะ" เวลาคุยเรื่องลูกน้ำเสียงของเขาจะอ่อนลงทันที ผมรู้สึกบรรยากาศมันแปลกๆชอบกลเหมือนหมอนี่มันกำลังอ้างว้างยังไงๆไม่รู้ สายตาที่มองลูกสาวเหมือนสายที่ที่กำลังมองลึกไปถึงใครบางคน เพราะผมเป็นคนชอบมองสายตาเเล้วอ่านใจ หมอนี่เวลาปกตินี่เดาไม่ถูกเลยว่าคิดอะไรแต่พออยู่ข้างๆลูกสายตากลับเเสดงอารมณ์ได้หลากหลายจริงๆ
.....................
ตอนนี้ผมรู้สึกหิวใส้จะขาดแต่ก็ยังไม่ได้กินซักทีแล้วยังต้องมายืนต่อหน้าคนตั้งหลายคนนี่อีก นายไนท์เเนะนำผมให้รู้จักกับแม่บ้านเเละพวกลุงๆที่เจอกันตอนแรกๆ ทุกๆคนต่างยินดีที่ผมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพวกเขา แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่พอใจ คนชื่อปรายยิ้มตามกระเเส แต่สายตากลับเเข็งกระด้างมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
ทันทีที่เเนะนำตัวเสร็จ พยาธิในลำใส้ผมที่กำลังเต้นระบำกันอยู่ ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
"คุณ ผมหิว"ผมดึงเสื้อเเล้วทำน้ำเสียง ทนไม่ไหวเหมือนใจจะขาด
"พวกเราเตรียมโต๊ะไว้รอเเล้วล่ะค่ะเชิญในครัวเลยค่ะ"ป้าแป๊ดหัวหน้าเเม่บ้านพูดในสิ่งที่ผมรอคอยมานาน
"งั้นดีเลยครับงั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่า"ผมยิ้มเเล้วปรี่ไปเกาะเเขนป้าแม่บ้าน แกหัวเราะกับสิ่งที่ผมทำเเล้วพาผมเข้ามาในห้องครัวโล่งๆกลางห้องเป็นโต๊ะทานเข้า เข้าไปด้านในเป็นห้องครัวอีกที
ทันทีที่อาหารอยู่ตรงหน้าผมก็ไม่รอช้าอีกต่อไป
"เฮ้อรอดตาย"ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก และรู้สึกสบายท้องสุดๆ ป้าเเป๊ดและลูกมือหัวเราะกับท่าทางของผมจนผมรู้สึกอาย
"ทำอย่างกับตายอดตายอยากมางั้นเเหละ"
"โหยนี่นาย เป็นมนุษย์หรือเปล่า นี่มันเลยเวลามาเป็นชม.อยู่เเล้วนะ ทนได้ไงเป็นยอดมนุษย์หรือไงล่ะถึงไม่กินข้าวน่ะ" พอได้เติมพลัง ก็ดูเหมือนจะมีเรี่ยวเเรงเถียงขึ้นมาทันที
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่"
"ว่าแต่นี่จะให้พวกเขาเรียกผมว่าอย่างนั้นจริงอ่ะ"ผมออกความเห็นกับเรื่องเมื่อกี้ที่ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยเข้าหูเข้าตากรรมการซินเท่าไร
"อะไรนายหญิงอ่ะหรอ หึหึ มันก็เป็นตำเเหน่งที่ภรรยาต้องเป็นอยู่เเล้วนี่"
"อะไรผมไม่ได้เป็นซักหน่อย อีกอย่างผม ผู้ชายนะให้เขาเรียกนายหญิงๆ มันกระดากหูชอบกล"
"นายน่าจะดีใจนะ เพราะใครๆก็อยากได้ตำแหน่งนี้ทั้งนั้น"
"ใครล่ะอยากไปเดี๋ยวจะประเคนให้เดี๋ยวนี้เลย" ผมพูดฮึดฮัดขึ้นมาทันที ดูเหมือนจะไม่ยอมหาศัพท์อื่นเเทนคำว่านายหญิงเลยใช่ไหม ไอ้หน้าตาที่กำลังทำอยู่นี่อีกมันเหมือนเย้ยๆกันยังไงชอบกล
"แต่ชั้นพอใจให้พวกเขาเรียกนายเเบบนี้" ดูเหมือนเป็นคำขาด คำสุดท้ายก่อนที่จะลุกจากไปปล่อยให้ผมนั่งฮึดฮัดไม่พอใจ
"คุณซินอิ่มหรือยังค้ะ"ป้าเเป๊ดเดินเข้ามาถาม
" ครับผมอิ่มมากเลย ป้าทำอาหารอร่อยอย่างนี้เลย"ผมยกนิ้วโป้งให้เธอ เธอยิ้มๆแล้วสั่งให้คนอื่นมาเก็บโต๊ะ
"คุณซินนี่เหมือนผู้หญิงมากๆเลยนะค้ะ เหมือนจนป้าเข้าใจผิดนึกว่าเป็นผู้หญิงจริงๆ"ป้าแป๊ดพูดเหมือนจะชม
"ครับ พอดีซินมีแฝดน่ะครับดูเหมือนแฝดผม เธอจะมีอิทธิพลมากกว่า"ผมตอบเเบบเขินๆ ป้าเเกได้เเต่ยิ้ม เเละไม่เซ้าซี้อะไรต่อ
น่าแปลกที่พวกเขาทำตัวได้ปกติมากที่นายไนท์พาผู้ชายเข้าบ้านเเล้วให้เรียกผมอย่างกับว่าเป็นภรรยาจริงๆ คนพวกนี้เขาแปลกๆชอบกล โดยเฉพาะนายใหญ่ของที่นี่ยิ่งน่าแปลกเข้าไปใหญ่
ผมรู้สึกว่าคนที่นี่จะพูดน้อย ทุกๆคนต่างจะไม่ค่อยยุ่งกับเจ้านายเท่าไร มีหน้าที่อะไรก็ทำตามหน้าที่ และที่ผมรู้อีกอย่างคือที่นี่เป็นเเค่เพียงบ้านพักในช่วงฤดูฝนเท่านั้นเพราะคุณหนูตัวน้อยๆมักจะเป็นหวัดและติดเชื้อบ่อยในช่วงฤดูนี้ และมันสดวกสบายกว่าที่หมอจะเดินทางมารักษาได้ง่ายดาย ผมถามป้าเเม่บ้านทุกเรื่องที่สงสัยเรื่องของคนที่นี่และเรื่องบ้านจริงๆ แต่วนไปถามเรื่องเจ้านายทีไรป้าเเกกลับปิดปากสนิท เลยได้รู้เเค่คราวๆว่า หมดฤดูฝนเมื่อไรทุกคนต้องกลับไปที่เกาะที่ใช้ทำธุรกิจเลี้ยงมุข เเละใช้ชีวิตที่นั่น ผมเองก็อยากรู้ว่าที่เกาะหรือฟามไข่มุขมันจะเป็นอย่างไรจะสวยไหม แต่ก็ยังค้างค้าใจเรื่องคน ผมไม่เห็นคนชื่อปรายหลังจากที่ถูกแนะนำตัว ป้าแป๊ดบอกว่า ปรายเป็นน้องสาวของภรรยาเก่าของนายไนท์ เขามีหน้าที่ทำบัญชีเเละดูเเลหนูดรีมในช่วงระยะเวลาที่กำลังหาคนมาดูเเลเเทน แต่พอยังเล่าไม่จบดีเลย คุณชายก็มาลากผมออกจากครัว
ทำให้ผมที่กำลังพูดกับป้าอย่างเมามันส์ก็เซ็งขึ้นมาทันตา
"เพิ่งรู้ว่านอกจากจะปากไม่ดีแล้วยังซุบซิบนินทาคนอื่น"นายไนท์พูดจบแล้วส่ายหัว ผมที่กำลังจะอ้าปากเถียงก็ถูกหยุดด้วยสายตา
ชิ๊ไม่เถียงก็ได้คิดว่าตัวเองใหญ่นักหรือไงถึงตาไอ้ซินเมื่อไรล่ะค่อยดูจะเอาคืนให้หนำใจเลยคอยดูสิ
......................