[story]!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย !!! โดย ตุ๊ด ตจว.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย !!! โดย ตุ๊ด ตจว.  (อ่าน 203045 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มันกินได้จริงๆหรือครับสอง
**************************
===========================================

ตุ๊ด ตจว.

ขอเสนอ

"อกกระเทยกลัดหนอง"
ตอน ชู้เฉพาะกิจ...

=====================================

ณ ที่ทำงานใหม่ของฉัน

แต่เช้าฉันกับเอกพากันไปนั่งรอเข้างานที่โซฟาด้านล่างตึก รู้สึกหวิวๆ ชอบกล เนื่องจากไม่รู้จักใครเลย แถมใครไปใครมาก็มองฉันอย่างกับเห็นของแปลก ยังดีมีเอกนั่งคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ วันนี้วันหยุดเค้าพอดิบพอด

"สวัสดีค่ะ ป้านง" ฉันรีบลุกขึ้นใหม่ เพราะหนึ่งเดียวที่ฉันรู้จักในบริษัทตอนนี้ เดินถือกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาบริษัทแล้ว ป้าแกรับไหว้ แต่ก็ไม่มีรอยยิ้มปรากฎบนสีหน้าอีกตามเคย ฉันลุกถือกระเป๋า เดินตามป้าไป เอกก็ลุกเดินจากออกไปเช่นกัน

ระหว่างอยู่ในลิฟท์ ป้าแกบอกกับฉันว่า จะให้ฉันแนะนำตัวเองให้คนอื่นรู้จัก อู้ยๆ ฟังดูตื่นเต้นยังไงไม่รู้

ลิฟท์เปิดออก ในสำนักงานยังดูโหรงเหรง อาจเป็นเพราะตอนนี้ยังเช้าก็ได้ ไฟในออฟฟิศยังเปิดไม่ครบทุกดวงด้วยซ้ำ

"พร" ป้านงเรียกผู้หญิงคนนึงที่มีโต๊ะทำงานอยู่ในห้องเดียวกับป้าแก เธอคนนั้นรีบออกมายกมือไหว้ใหญ่

"เดี๋ยวทำบัตรทดลองงาน และเอาใบตอกเวลาให้ ให้..............." ป้าแกคงจำชื่อฉันไม่ได้ ฉันเลยรีบตอบแทน

"พรหล้าค่ะ"
"เอ้อ พรหล้า ทำให้ด้วยหล่ะพร" ป้าแกกำชับ ผู้หญิงคนนั้นรีบตบปากรับคำ เรายิ้มให้กันเพื่อผูกมิตร ก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกกันเข้าไปในห้อง ฉันเห็นพี่พรกุลีกุจอทำบัตรทดลองงานให้ฉันใหญ่เลย

"ยัย....พรหล้า ได้ยินไหม มานี่ซิ" ป้าแกเรียกอีกแล้ว
"ขาาา" ฉันรีบขานตอบ ป้าแกให้ฉันนั่งลง ซึ่งแกก็นั่งลงอีกฟากของโต๊ะด้วยเช่นกัน

"เธอมีชื่อเล่นไหม เรียกยากจิงๆ ชื่อเธอเนี่ย" (แห่ะๆ แบบว่าไปเปลี่ยนชื่อมา อลังการณ์โคดๆ)

"แบะค่ะ หนูชื่อแบะ"

ฉันพูดจบ ทั้งป้านงและพี่พรต่างทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเล็กๆ จากคนทั้งคู่

"ทำไมชื่อเธอมันถึงได้บ้านนอกยังงั้นหล่ะ แบะ" ป้านง ยังติดหัวเราะไม่หาย (เหอๆชื่อนงอินเทรนด์ ตายหล่ะ เชอะ)
"ไม่เอาหล่ะ ขืนชื่อนี้นะ เทียบเลขาคนอื่นๆ ของที่นี่ไม่ได้แน่ๆ" (แค่ชื่อก็ต้องเทียบกันด้วยรึ?) ป้านงพูด พี่พรก็มาเออออห่อหมกไปกับเค้าด้วยซ้ำ

"ตั้งใหม่ดีกว่า เอาชื่อเปรี้ยวๆ เดิ้นๆ ดีไหมจ๊ะตัวเอง" พี่พรเดินมาใกล้ๆ และพูดหยอกล้อกับฉัน เอ่อ... ฉันพูดไรไม่ออก ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ใครมันจะอยากเปลี่ยนชื่อตัวเองหล่ะ ตลกตายเลย งี้ใครเรียกจะรู้เรื่องไหมเนี่ย

"ชื่อเชอรี่ เป็นไง" ป้านงเสนอ หูวว ชื่อเดิ้นไปเปล่าคะ
"ไม่ได้ๆๆ ค่ะป้า เชอรี่ซ้ำกะยัยเลขาฝ่ายตลาดนั่นแล้วค่ะ" พี่พรรีบค้าน ป้านงพยักหน้า เอ่อ...ถ้าเชอรี่ ซ้ำ หนูขอเสนอ น้องสตรอเบอรี่ ไปเลยดีไหมคะ เรียกสั้นๆ ก็น้องตอ น้องตอ แฮ่ะๆ (แค่คิดนะ ไม่ได้พูด)

"ลิลลี่ ชอบไหมคะ" พี่พรพูดมา ฉันรีบส่ายหัวแหย่กๆ ไอ้ตระกูลอี้ๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง จะลิลลี่ จูดี้ มีมี่ อะไรก็ไม่อาวหล่ะค่ะ (หรือจะเอา แบะบี้ อี้ น่าเกลียดเชียว)

"เอ เอาอะไรดีหล่ะ" ป้านงเริ่มคิดไม่ออกแระ พี่พรก็ดูจะส่ายหัวให้แล้วเหมือนกัน ส่วนฉันหรอ ไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้คิดเลย

"เดี๋ยวหนูกลับไปปรึกษาแฟนก่อนตอนเย็นก็ได้ค่ะ" ฉันบอก พี่พรดูตกใจใหญ่เลย
"หาา มีแฟนแล้วหรอ" พี่พรตกใจเกินเหตุ ประหนึ่งเห็นมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ปาน

"พี่เป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังหาไม่ได้เลย" พี่พรพูด แห่ะๆๆ เพื่ออะไรก็ไม่รู้เนาะ ป้านงหัวเราะใหญ่


"เหอะๆ แฟนเค้าหล่อด้วยนะยัยพร ฉันเห็นมาส่งอยู่ตอนเช้า ใช่เปล่า คนนั้นเปล่า" ป้านงหันมาถามฉัน ฉันรีบพยักหน้ารับ ป้าแกก็หัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่


"ร้ายนะเนี่ย ร้ายจิงๆ" ป้านงพูด

"ใช่ค่ะ ร้ายกาจ" พี่พรเป็นฝ่ายสนับสนุนอีกตามเคย แกทำบัตรทดลองงานให้ฉันเสร็จแล้ว เธอวางมันลงตรงโต๊ะต่อหน้าฉัน

"แต่จะให้กลับไปถามแฟนก่อนคงไม่ทัน เดี๋ยวจะแนะนำตัวแล้ว" ป้าแกพูดต่อ

..
...

"ร้ายๆ อย่างนี้ ให้ชื่อ เฟียซ ละกัน"

"เฟียซ ภาษา ฝรั่งเศส แปลว่า ดุ ร้าย" ป้านงพูด


.......
อร๊ายยยยยยส์ ไม่อาววว เปี๊ยด เปี๊ยก อารัยยย ไม่อาวววว T_T

 

ฉันหล่ะกระดากตัวเองเหลือหลาย แต่ในเมื่อจนหนทางก็เลยจำใจ หลายนาทีเลยแหล่ะ กับการต้องท่องจำชื่อใหม่ของตัวเอง มันเป็นอะไรที่เรียกยาก และไม่คุ้นอย่างแรงในบ้านเกิดของฉัน ชื่อ อีหล่า ยังดีเสียก่า -*-

8.30 น. เป็นเวลาที่ทุกคนจะต้องเข้าสำนักงานกันหมดแล้ว ฉันออกมาจากห้องป้านงอีกที ก็เห็นไฟออฟฟิศเปิดสว่างโล่หมดทุกดวงแล้ว จากออฟฟิศที่โหลงเหลงไปด้วยผู้คน ตอนนี้กลับมีเดินไปมาให้ขวักไขว่ ฉันเห็นหลายกลุ่มก็ยังนั่งจับกลุ่มกันทานกาแฟ คุยกันอย่างน่าสนุก ป้านงเดินตีคู่กับฉันออกมา ป้าแกตบมือเสียงดังสนั่นดัง แป่กๆๆ พนักงานหันมามองกันเป็นแถวๆ


"ฟังกันหน่อย จะแนะนำน้องใหม่ จะมาทดลองงานที่นี่" ป้าพูดเพียงเท่านี้ ผู้คนเหล่านั้นก็หันมามองที่กระเทยแปลกหน้าอย่างฉันเป็นตาเดียวกัน
เริ่มรู้สึกว่าตัวเองยังมียางอายเหลืออยู่ ก็ตอนนี้หล่ะ


"สวัสดีค่ะ หนูชื่อพรหล้า ณ แจงแวง ชื่อเล่นชื่ออ.... ชื่อเฟียซ ค่ะ" ฉันแนะนำตัวสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ นี่ถ้าให้บอกว่าชื่อแบะ จะพูดง่ายกว่านี้อีกเยอะ ฉันคิดในใจ
เสียงปรบมือบวกกับเสียงผิวปากแซว ดังมาจากคนเหล่านั้น คนยิ้มให้ก็มี คนเชิดใส่ก็มี คนมองเหยียดๆ ก็มี มีหมดแร่ะ พี่พรเดินตามมาทีหลัง เธอยืนอยู่ข้างๆ ฉัน


"เอ่อ ป้านงคะ รับตุ๊ดแต๋วยังงี้ มาทำอะไรไม่ทราบคะ" ผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสะสวยทีเดียว ผมหยิกๆ เป็นคนพูด ฉันเห็นหล่อนจ้องฉันหัวจรดตีนมาพักนึงแระ

"ถ้าเธอหมายความว่า เค้าจะมาหัดงานตำแหน่งอะไรล่ะก็ เค้าจะมาเป็นเลขา เธอเองก็ควรจะทำความรู้จักเค้าไว้นะแมรี่ จะได้สอนงานกัน" ป้านงโต้ตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว ยังแมรี่และหลายๆคน ทำท่าตกใจ

"เลขาแผนกอะไรกันคะ คุณป้าขาาา" ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังยืนพิงผนังกั้นออฟฟิศอยู่คนนึง ส่งเสียงแหลมๆ ถาม ฉันเดาว่าเธอคงเป็นเลขาอีกด้วยเหมือนกัน เพราะดูน้ำเสียงแล้ว หาเรื่องป้าแกไม่น้อย

"เลขาคุณทวีศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท คุณแองเจิ้ลจะตามสามีไปอยู่เมืองนอกอีกสองเดือนนี้แล้ว" ป้านงตอบเสียงแข็ง หลายคนรีบหันมาจ้องฉันปานจะแหกอกฉันกิน บางทีก็เบะปากให้ อะไรกันเนี่ย

ป้าแกก็ดูมีสีหน้าเครียด อาจจะเป็นเพราะฉัน รึเปล่า?

* * * * * * * * * * * * *

ฉันกลับไปเล่าเรื่องที่ทำงานวันแรกให้ตาเอกฟัง เอกเค้าขำตรงที่ฉันเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นน้องเฟียซเนี่ย เห็นขำอยู่ท้องขดท้องแข็ง เลยเล่าอะไรอย่างอื่นไปก็ไม่ได้ใส่ใจกันพอดี
วันนี้ยังดีที่ได้ทำแต่งานง่ายๆ และส่วนใหญ่ก็อยู่กับแต่ป้านง (ซึ่งจิงๆ เป็นคนปากร้ายใจดี) กับพี่พร แต่ต่อไปข้างหน้าฉันจำจะต้องเรียนรู้งานจากบรรดาเลขา (สุดแสบ) รุ่นพี่
อันนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมเลย


ใครแกล้ง กรูตบ (คิดเล่นๆ นะ แฮ่ๆ)



ฉันกับเอกตื่นกันแต่เช้า เพราะเราอยากทานข้าวเช้าด้วยกัน หน้าตึกฉันตอนเช้าๆ มีอาหารหลายอย่างมาขาย อาจจะเพราะตรงนั้นมันเป็นย่านชุมชน ฉันเล็งร้านโจ๊กร้านนึงไว้แล้ว ดูน่ากินอร่อยดี วันนี้ได้ฤกษ์ก็เลยชวนสุดที่รักไปกินด้วยกัน

เราสองคนอาบน้ำ (พร้อมกัน) แต่งตัวกันแป๊ปเดียวก็เสร็จ เราปิดห้องแล้วก็นั่งมอเตอร์ไซด์พากันไปทำงาน
ถึงร้านโจ๊ก เราจอดมอเตอร์ไซด์ไว้ข้างๆ เสร็จแล้วก็เดินมาสั่งโจ๊กกินกัน ฉันชอบโจ๊กหมู เอกชอบโจ๊กทะเล (แพงง่ะ) โจ๊กร้านนี้ทานแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ อร่อยอย่างที่คิด ถึงว่ามีคนแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย พ่อค้าแม่ค้าก็บริการดี เป็นกันเอง เราสองคนก็เลยพลอยติดใจไปด้วย

ฉันกับเอกนั่งทานโจ๊กกันไปเพลินๆ ไม่รีบร้อนอะไร เพราะนี่ยังไม่ 7 โมงครึ่งด้วยซ้ำ ที่ทำงานเอกก็ไม่ได้อยู่ไกลจากฉันเลย มันมาทางเดียวกันเสียด้วยซ้ำ เลยได้ลิ้มรสโจ๊กของเค้ากันอย่างอร่อยปาก อื้มม


ความสุขหาได้ยาก ท่าจะจริง
"แป๊นนนน แป๊นนนนนนน แป๊นนนนนนนนนนนนนนน" โห เสียงใครบีบแตรรถขนาดนี้ ไม่มีมารยาทเรย ฉันมองไปในกระจก คุณแมรี่เลขาคนสวยนี่เอง เธอขับรถเก๋งสุดหรู ไม่รู้เธอไม่พอใจอะไร ถึงบีบแตรขนาดนั้น

หล่อนเลื่อนเปิดกระจกลง พร้อมตวาดออกมานอกรถว่า
"ใครมันมาจอดรถขวางที่จอดรถคนอื่นเนี่ย" ฉันได้ยินถึงกับสะดุ้ง รถเราเปล่าหว่าเอก พ่อค้าแม่ค้าโจ๊กรีบพยักหน้าให้ เอกเลยรีบลุกไปขยับรถออก ยัยแมรี่ยังตีหน้ายักษ์ไม่เลิก รถเอกพ้นออกไปไม่ทันเท่าไรเลย มันเสียบรถเข้าไปจนจะชนเอกอยู่แล้ว (โกดนะน่ะ ตอนนั้น)

หล่อนเปิดประตูรถออกมา แล้วปิดมันดัง ปั้งง หันกลับมาด่าเอกอีกด้วย
"ไอ้บ้า" ก่อนที่จะเดินฉับๆ ๆ ขึ้นตึกไป บรรลัยเอ้ยย พูดดีๆ ไม่ได้เหรอไง สงสัยประจำเดือนมาลักกะปิดลักกะเปิด ชิส์ หมดรมณ์เรย

เมื่อถึงเวลา เราแยกย้ายกันไปทำงาน เจอกันอีกทีก็ตอนเย็น (ฉันเลิกช้ากว่าเอก 1.30 ชม.) วันนี้คงจะต้องได้เริ่มฝึกงานเลขากับเค้าแล้วหล่ะสิ เรียนก็ไม่ได้เรียนมา จะทำได้เปล่ายังไม่รู้เลย

แต่ก็มั่นใจว่าทำได้ เพราะเราทั้งสวย ทั้งพูดเพราะ ใจดีอีกต่างหาก อิอิ
ไม่ลองก็ไม่รู้สินะ มันก็ต้องลองกันซักตั้ง...

+ + + + + + + + +

"หล่อน พูดอะไร นะ!" ยัยแมรี่ถามฉันซ้ำ ทั้งที่ได้ยินทุกอย่างเต็มสองหูดีอยู่แล้ว

"ป้านง ขอให้พี่แมรี่ช่วยสอนงานหนูหน่อยค่ะ" ฉันพูดอย่างเหนียมเจี้ยม

"โอ๊ยยย ป้าแกจะบร้าหรอไง ฉันไม่สอนหรอกนะ เปลืองเวลา" ยัยแมรี่ระเบิดอารมณ์นางร้ายช่อง 7 ออกมา
"อย่างหล่อนนะ ฉันเอาหัวเป็นประกันเลยนะ ไม่มีทางจะผ่านทดลองงานได้หรอกย่ะ ใครเค้าจะเอาตุ๊ดมาเป็นเลขา คนบ้าน่ะสิ" พูดจบ เจ้าหล่อนหันไปคว้าแป้งพัพฟ์ตลับหลายตังค์ขึ้นมา โบ๊ะหน้าซ้ายขวา ก็เค้าบอกกรูมาอย่างนี้ เมิงจะให้กรูทำยังไงหล่ะวะ ฉันจำใจ ต้องเดินกลับไป ทีแรกก็ยังไม่กล้าบอกป้านงหรอก เลยเลี่ยงไปบอกพี่พรแทน แต่สุดท้ายพี่พรก็บอกป้านงอยู่ดี

"ไม่สอนก็ช่างมัน เราอยู่กับป้าที่นี่ไปก่อน เดี๋ยวรอแองเจิ้ลกลับมา ป้าให้เค้าสอนเอง" ป้านงดูรมณ์เสียไม่ใช่น้อยเหมือนกัน พี่พรต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง ด้วยการชวนคุยเรื่องอื่น ก็เป็นอันว่าวันนั้น ฉันก็ช่วยงานพี่พรไป พี่แองเจิ้ลที่พูดถึงเนี่ย รู้สึกว่าแกจะลาไป 1 อาทิตย์ ลาไปเคลียร์อะไรต่างๆในเมืองไทย เพราะเห็นว่าพี่แกใกล้จะย้ายไปอยู่เมืองนอกแล้ว

* * * * * * * * * * * * * * * *


ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เอ่อ  อย่างนี้ต้องเอาหมามุ่ยโรยใส่แป้งให้ยัยแมรี่เอาไปใช้ชะมะคับคุณแบะ :laugh5: :laugh5: :laugh5:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ คุณเเบะจะเอาตัวรอดได้ไม๊เนี่ย  :monkeylove2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
 กินได้ดิ

ตอนเด็กๆ เจ้กินบ่อย อิอิ จนอะ

ปล.  เอามาลงต่อด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  งานนี้มีลุ้น  :laugh5:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
มาอีกแล้ว พวกน้องนีนิสัยเสีย ชิส์ๆ

เตะก้านคอแม่งมันเลย :3125:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อิแมรี่ กะอิกิฟต์ ใครดอกกว่ากันอะอิเจ้

แสรดดดดดด กรูเกลียดเมิง

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ชะนีร้ายกว่ากระเทยจริงๆ ค่า  :laugh5:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
ชะนีปากปีจอ
น่าตบไห้คว่ำ แสรด
ขอไห้ชาตินี้หาสะมีไม่ได้ ซ๊าธุ!!!


ติดตามอย่างกระชั้นชิดคับผม พี่เรย์


RrMz`,,

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
วิ่งหลบอลหม่านกันเลยกระทู้นี้ :5779:
 อะรายปลิวมาอ่ะ  :3128:
บึก(ลงไปนอนจุก)   :sad2:
**************************************
พักกลางวัน ฉันต้องลงมาซื้อข้าวข้างล่างคนเดียว ป้านงกะพี่พรห่อมาเองจากบ้าน แถวนี้ของขายเยอะเหมือนกัน แต่คนที่มากิน ส่วนมากก็จะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ในตึกนี่แหล่ะ ฉันขี้เกียจเดินตากแดดไกล เลยเลือกจะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวร้านใกล้ๆ นี่แหล่ะ

"พี่คะ หมี่เหลืองแห้ง 1 ที่ค่ะ" ฉันไปออเดอร์กับพ่อค้าก๊วยเตี๋ยว เสร็จแล้วก็กลับมานั่งรอที่โต๊ะ ดีนะที่ยังเหลือโต๊ะว่างอีกตัว คนกินกันเพียบเลย ก็เล่นปล่อยมาพักเที่ยงทีเดียวนี่เนอะ

"น้อง เล็กยำ ไม่ใส่ผัก เหมือนเดิม" ดูดิ ขายดีซะ ฉันได้ยินเสียงออเดอร์เพิ่มมาอีกแระ เค้าเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับฉัน (ด้วยจำเป็น)

"หวัดดีจร้า น้องเฟียซ" เค้าทักทาย ฉันเอ๋อ เพราะยังจำชื่อตัวเองไม่ค่อยได้ ก่อนจะเรียกสติ แล้วทักทายเค้าตอบ
"ดีค่ะ"

"ชื่อพี่อุยจ่ะ เราอยู่ออฟฟิศเดียวกันเนี่ยแหล่ะ" เค้าแนะนำตัว

"อ้า ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ พี่อุย" ฉันเองก็ยังรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ยังดีที่ยังมีคนญาตดีด้วย พี่แกก็ยิ้มแย้มแจ่มใส่ให้ดี

"จร้า เช่นกัน" พี่อุยได้ก๊วยเตี๋ยวพอดี เลยรับมากินไปคุยกันไป

"อื้ม ได้อาบน้ำเปล่าเนี่ย เห็นเมื่อวานก็ใส่ชุดนี้ไม่ใช่หรอ" พี่อุยทัก อายเค้าชิหายย จะบอกไม่มีตังค์ซื้อก็กระไรอยู่
"อ่ะ ชุดอื่นมันเอาไปส่งซักแล้ว ยังไม่มาส่งน่ะค่ะ" ฉันมุสา เย็นนี้กะไปกระชากสร้อยสามีไปขายทันที พี่อุยแกทำเป็นหัวเราะหึหึ ก็ไม่ได้ว่าไรต่อ เราสองคนกินไวพอๆ กันเลย เรยเรียกเก็บตังค์พร้อมกัน

"เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเองนะ เลี้ยงเพื่อนใหม่หน่อย" พี่อุยบอก อุ้ย อย่าค่ะพี่อุย อย่าค่ะ อย่าเพิ่งจ่ายค่ะ ขอหนูเบิ้ลอีกชามก่อนนะเพ่

อร๊ายยยยส์

ปล. พี่อุยแกทำงานในบริษัท เกี่ยวกับเน็ตเวิร์คค่ะ เจ้าชู้ แอนด์ กะล่อนน่าดูเลยหล่ะ เห็นมองสาวๆ ตาเป็นประกาย วิงค์ วิงค์ เรยหล่ะ





เราเดินกลับเข้าไปในบริษัทอีกครั้ง และก็แยกย้ายกันไปทำงาน
ฉันแวะกดน้ำดื่มกินก่อน ข้างหลังฉันเป็นโต๊ะทำงาน 3 โต๊ะ มีคนนั่งประจำอยู่แต่ละโต๊ะ มีบางคนยืนพิงอยู่ข้างๆ โต๊ะ อีกด้วย
และดูเหมือนฉันกำลังจะเป็นหัวข้อสนทนาของพวกเค้าอยู่ตอนนี้

"อีนี่มันจะมาเป็นเลขาคุณทวีศักดิ์จริงๆ หรอ" เสียงของผู้ชายออกกระตุ้งกระติ้งคนหนึ่งพูดขึ้น ท่าทางตั้งใจจะพูดกระทบให้ฉันได้ยินด้วยแหล่ะ

"อ๋าววว อีเบิ้ม ของยังงี้มันเปลี่ยนกันได้ ขึ้นกับรสนิยมย่ะ คุณทวีศักดิ์เค้าอาจจะเปลี่ยนแนว เรยมารีเควสกับป้านงไงยะ รีเควส รีเควสน่ะ หล่อนไม่เข้าใจหรอ" เสียงนังชะนีหลงป่ากรีดเสียงออกมา อีพวกบ่าพวกค่าง ร้องหัวเราะชอบใจ สาดดด กรูยังยืนหัวโด่อยู่นี่ ไม่ได้เกรงใจกันเรยนะเมิง -*-
ฉันรีบดื่มน้ำในแก้วจนหมด แล้วใช้หิริโอตัปปะที่มีอยู่ตัดใจเดินออกไปจากตรงนั้น คนเมืองกรุงนี่ ร้ายขนาด...

ฉันเดินกลับไปที่ห้องป้านง แล้วนั่งทำงานช่วยพี่พรต่อ พี่แกเห็นฉันหน้ามุ่ยๆ ก็ถามว่าเป็นอะไร เลยบอกพี่แกไป (ไม่ได้ฟ้องน้า บอกไปเฉยๆ) พี่แกก็แนะว่าไม่ให้ไปแถวนั้น คนรักชอบเรามี คนเกลียดเรา อิจฉาเราก็ถมไป ก็จิงดังคำพี่แกว่า

"วันจันทร์นี้ พี่แองเจิ้ลก็กลับมาแล้ว เราต้องชอบพี่แกแน่ พี่แกใจดี" พี่พรพูดให้กำลังใจฉัน อิอิ



"เฟียซ มาหาป้าหน่อย" เสียงป้านงเรียกเสียงดัง ฉันรีบลุกไปหา

"อีกเดี๋ยวคุณทวีศักดิ์แกจะแวะมาในออฟฟิศ ป้าจะได้ให้เค้ารู้จักเราด้วย" ป้าแกพูด ฉันเริ่มกดดันตัวเองอีกครั้ง นี่ถ้าคุณทวีศักดิ์มารู้ว่าเลขาคนใหม่ของเค้าเป็นกระเทย เค้าจะว่ายังไงเนี่ย จะบ่นไหมน๊า


"อุ้ยย มาแล้วๆ" ป้านงพูด ฉันมองไปที่หน้าลิฟท์ เห็นผู้ชายน่าจะรุ่นเดียวกันกับป้านงนี่แหล่ะ เดินใส่สูท ผูกไทด์ เดินมาทางนี้ ระหว่างทาง คนยกมือไหว้กันตรึม


"สวัสดีค่า คุณศักดิ์" ป้านงลุกขึ้นยกมือไหว้ทักทาย คุณทวีศักดิ์ยกมือรับไหว้ แล้วยิ้มให้พวกเราอย่างเป็นกันเอง ฉันกับพี่พร รีบยกมือไหว้ด้วยเช่นกัน คุณทวีศักดิ์มองหน้าฉันอย่างไม่คุ้น

"เด็กใหม่ค่ะ ป้ารับมาช่วยงานคุณศักดิ์นั่นแหล่ะ ชื่อหนูเฟียซ" ป้าแกแนะนำให้ฉัน ฉันยกมือไหว้แกอีกครั้ง คุณทวีศักดิ์แกพยักหน้าให้ ก่อนที่เค้าจะนั่งลงคุยกันกับป้านง ฉันก็เลยแยกออกไปหาพี่พร

"ไปเฟียซ เราไปชงกาแฟมาให้เจ้านายเราหน่อย กาแฟดำนะ เข้มๆ" พี่พรพูด ฉันรับคำเดินโค้งตัวหลบไปมุมกาแฟนอกห้อง จิงๆ น่ะชงไม่เป็นหรอกไอ้ชากาแฟน่ะ แล้วไอ้ที่พี่แกพูดกาแฟดำ เข้มน่ะ ไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำ ทำไงดีหล่ะเนี่ย พี่พรแกก็เข้าไปคุยงานกันกับพวกเค้านั้นแล้วด้วยสิ อ๊าาา ได้การล่ะ

= = = = = = = =

"ถ้าเป็นคุณทวีศักดิ์น่ะ แกชอบกินแบบนี้ น้ำตาลไม่ต้อง คอฟฟี่เมทก็ไม่ต้อง" พี่อุยหยิบถ้วยกาแฟ ตักกาแฟใส่พูนๆ ช้อน สองครั้ง ดูท่าทางแกทะมัดทะแมง คงจะกินบ่อยๆ แหล่ะ

"แล้วใส่น้ำ ไม่ต้องเยอะ ใส่แค่นี้ก็พอแล้ว" แกใส่น้ำลงไปเกินครึ่งถ้วยมาหน่อยเดียว อ๋อ เข้าใจแล้วทำไมเรียกกาแฟดำ เพราะมันดำสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ยังงี้นี่เอง

"ลองชิมดูสิ" พี่อุยยื่นช้อนแกแฟให้ ฉันมองหน้า จะดีหรือพี่

"เอาน่าาา ไม่ชิมจะรู้ได้ไง ว่าแกกินรสไหน" พี่อุยคะยั้นคะยอ ฉันเลยหยิบช้อนกาแฟมาตักชิมไปนิดนึง อี๋ กินไปได้ไงเนี่ย ขมชะมัด ฉันแลบลิ้นแปร่บๆ พี่อุยหัวร่อใหญ่
ฉันขอบอกขอบใจพี่อุยเสร็จ ก็รีบถ้วยกาแฟร้อนๆ ไปเสิร์ฟ กลิ่นกาแฟหอมคละคลุ้งไปหมด คุณทวีศักดิ์ยิ้มให้ด้วย ตอนไปเสิร์ฟ ฉันเห็นแกรับไปชิม แล้วก็คุยงานต่อกับป้านง เฮ้อ ถือว่า ภารกิจแรกสำมะเร็จ นี่ถ้าไม่ได้พี่อุยช่วย แย่แน่ๆ เลย อิอิ


ก่อนคุณทวีศักดิ์จะกลับ แกเอาถ้วยกาแฟมาให้ แถมยังชมว่าอร่อยดีอีก (แหว่ะ กินไปได้) ฉันก็เลยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รู้สึกสบายใจขึ้นอีกเยอะ ความจริง อะไรๆ หลายๆ อย่างที่เราคิด มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไปเลยนะ หากยิ่งคิด แล้วยิ่งทุกข์ รอให้มันเกิดขึ้นทีเดียวจิงๆ เลยยังจะดีก่า ฉันบอกกับตัวเองไว้อย่างนั้น

ตอนเย็น เอกมารอรับฉันกลับบ้าน พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของฉันเสียด้วย งั้นเตลิดไปเช่าหนังมาดูดีกว่า พักผ่อนๆ

+ + + + + + + + + + +

โทรศัพท์เอกดังอยู่หลายครั้ง ฉันกำลังดูละครอยู่เพลินๆ ไม่ทันได้ดูว่าใครโทรมา เอกวิ่งออกจากห้องน้ำมารับโทรศัพท์ เห็นว่าเป็นแม่เค้าโทรมาเรยตกใจใหญ่ เค้าให้ฉันหรี่เสียงทีวีลง

"ฮัลโหล ครับ"

"ได้แล้วครับ ใกล้ๆ ห้องนี่แหล่ะครับ" เอกพูด แม่เค้าคงถามว่าได้งานหรือยังประมาณนี้

"เดี๋ยวกลับครับ" (แม่เค้าต้องบอกว่า ไม่กลับมาบ้านบ้างหรอ ชัวร์ หุหุ)

"พอครับ" (เงินพอใช้ไหมลูก แน่นอน ว่าแต่ว่า ทำไมไม่ขอมาซื้อชุดทำงานให้เมียซักชุดหล่ะห๊าา) เอกเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดๆ ตามตัว ฉันเห็นเค้าไม่ถนัด ก็เรยหยิบผ้ามาช่วยเช็ดให้

"ก็อยู่กับเพื่อนแหล่ะแม่ หารกัน" เอกพูด
"ไม่ใช่แม่ เพื่อนผู้ชาย" (เอกบอกว่า แม่หาว่าอยู่กับผู้หญิง แฮ่ะๆ แต่จิงๆ แล้วหนักกว่านั้น มีการบอกให้ระวังท้องอีกด้วยนะ)

"คร้าบบบ คร๊าบบบ"
"หวัดดีคับ" เอกกดปิดโทรศัพท์ไป เค้านั่งลงบนเตียง ทำหน้าหนักใจ ฉันเห็นอย่างนั้นก็เลย...


เปิดเสียงทีวี ดูละครต่อเลย กำลังหนุกโคดๆ หมั่นไส้นางเอก มัวแต่โง่อยู่ได้ ดี ให้นางร้ายตบให้ตาย หุหุ

* * * * * * * * *

รุ่งขึ้น ฉันตื่นสายนักหนา ลืมตามาอีกที ไม่เห็นตาเอกแล้ว รถก็ไม่อยู่ เค้าแง้มประตูปิดไว้ให้เรียบร้อย ฉันบิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียงนุ่มๆ วันหยุดนี่มันสบายๆจิงๆ เลยแฮะ ฉันลุกขึ้นไปแปรงฟัน ล้างหน้าล้างตา กะจะไปซื้อไรกินซักหน่อย
เที่ยงของวันนั้น ฉันกลับมาห้องพร้อมก๊วยเตี๋ยว น้ำอัดลม และขนมอีกเต็มมือ เปิดประตูห้องเข้าไปในห้องนั้น รู้สึกโหวงๆ ชอบกล ไม่ชอบกับการอยู่คนเดียวเนี่ย รู้สึกไม่ดียังไงบอกไม่ถูก พาลให้คิดถึงเพื่อนๆ คิดถึงบ้าน ฉันกะไว้ว่า ทำงานไปสักพัก พอทุกอย่างอยู่ตัวดีแล้ว จะหาโอกาสไปเยี่ยมบ้านให้ได้

ฉันแกะก๊วยเตี๋ยวใส่ชาม กินไปพร้อมกับดูหนังที่เช่ามาเมื่อคืนวาน กินไปจนหมดชาม และก็หยิบขนมมานอนกินต่อบนที่นอน หนังไม่ค่อยสนุกอย่างที่คิด แต่ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ ฉันมองดูนาฬิกาที่หัวนอน อีกหลายชั่วโมงกว่าคุณดากจะกลับบ้าน ตอนนี้เค้ากินข้าวอยู่กับใครนะ ฉันคิดไปไกล.. แล้วแอบเผลบหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ท้องอิ่ม หนังตาหย่อน เป็นของคู่กันจริงๆ

ฉันตื่นมาอีกที มีเวลาพอแค่ล้างถ้วยชาม กวาดห้องถูห้องเท่านั้น เอกก็กลับมาถึงบ้าน แต่ไม่ได้มาคนเดียวนะ

"แบะ ว็อทส์ซัพ แม๊นน" (แมนบ้านเตี่ยแกดิ - -* )

"เอ้ยยย ไปเอาได้สองตัวนี้มาจากไหนเนี่ย" ฉันถามอย่างแปลกใจ แต่ก็แอบดีใจ เพื่อนเอกตอนเรียนมหาลัยด้วยกัน สองคนนั่งอัดมอเตอร์ไซด์ซ้อน 3 กันมา คนนึงชื่อแม็ค เป็นหนุ่มหน้าตี๋ ผิวขาวม๊ากๆๆๆ (ฉันไม่กล้านั่งใกล้มันเรยหล่ะ) กับอีกคนชื่อ หนึ่ง หนุ่มพุงพุ้ย ที่ยังระบุเพศที่ชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากชอบแทะโลมไอ้แมคอยู่บ่อยๆ

เอกจอดมอไซด์ เดินพากันเข้ามาในบ้าน โชคดีที่ถูห้องแล้วไม่ง้าน อายเค้าตายเลย
"มันอยากมาหาอ่ะ" เอกตอบ หน้ายิ้มระรื่น คงจะคิดถึงเพื่อนอยู่ไม่น้อย

"คิดถึงคนสวย ว่างั้นเหอะ" ฉันได้ที พูดเอาดีเข้าตัว ไอ้หนึ่งทำท่าล้วงคอใหญ่

"จร้าาา ยัยคนสวย สวยไม่มีที่สิ้นสุด สวยกระด้อกระเดี้ย" ไอ้แมคยังคงกวนตีนเหมือนเดิม ฉันหัวเราะร่าน เอ้ย! หัวเราะลั่น


"ได้งานกันหรือยังหล่ะ" ฉันถาม ไอ้แมคส่ายหัวหงักๆ
"จะเรียนต่อเว้ยย ส่วนไอ้หนึ่ง ไปเป็นจับกังอยู่บริษัทใกล้ๆ ไอ้เอกเนี่ยไง ฮ่าๆๆ" ไอ้แมคด่าเพื่อนเลยเชียว ไอ้หนึ่งมองหน้าใหญ่ ความจริงหนึ่งก็ได้ทำงานบริษัทเนี่ยแหล่ะ แต่ดูเหมือนเค้าจะใช้งานมันหนักไปหน่อยอ่ะนะ

"ไงหล่ะจ๊ะ ได้ข่าวว่าสาวสวยเพิ่งจะได้งานไม่ใช่หรอ อย่างนี้ต้องเลี้ยงเพื่อนๆ หน่อยแล้ว" แม็คพูด ฉันยกมะเหงกให้จังเบอเร่อ เลี้ยงกะผีไร เงินซื้อชุดทำงานยังไม่มีเลย เอกหัวเราะชอบใจ

"เมิงฝันไปเป่าวะ ให้แบะเลี้ยงเนี่ย" เอกพูดทับถม จะหาว่ากรูงกว่างั้นเท๊อะ ไอ้แม็คก็ไอ้หนึ่ง ก็หัวเราะกันใหญ่ เอาเข้าไป เอาเข้าไป ฉันลุกขึ้นไปหาน้ำมาให้แขก

"อ๊ะ เลี้ยงน้ำ" ฉันพูด พลางยกแก้วน้ำส่งให้ทั้ง 3 คน ไอ้แมคทำหน้าเบ้

"โห หนังน่าดูเว้ย ยืมหน่อย" ไอ้หนึ่งหยิบแผ่นหนังที่ฉันเช่ามา แล้วทำท่าทางอยากดูใหญ่เรย
"เอาดิ รีบเอามาคืนนะเว้ย เช่าเค้ามา เกินกำหนดเมิงจ่าย" เอกบอกเพื่อน

"อะฮึ่ม ๆ แล้วหนังโป๊ไม่มีบ้างหรอว้าา แบ่งกันดู แบ่งกันเสียวบ้างสิ" ไอ้แม็คออกอาการหื่นอีกแระ กลางวันแสกๆ ของอย่างงี้ ใครจะไปมี ถ้าไม่ใช่ฉันกับเอก (อร๊ายยย เขิลลล)

เอกไปลากกล่องซีดี มันเก่าและมีฝุ่นเกาะหมดแล้ว เราใส่หนังที่ซื้อกันมาไว้ในนั้น ก็เยอะเหมือนกันนะ เพราะเป็นคนชอบดูหนังทั้งคู่น่ะ เรียกได้ว่ามีครบ ทั้งบู๊ แอคชั่น แฟนตาซี ชีเปลือย โอ๊ยย สารพัด

"เมิงเลือกไปดิ" เอกบอก สองตัวรีบเข้ามารุมกันอยู่ที่กล่องนั้น ดังกับมันเป็นมหาสมบัติ

"เฮ้ยๆๆ เอามาคืนด้วยนะ" ฉันพูด ความจิงมีความคิดเล็กๆ ที่จะให้เพื่อนเช่า แต่ตาเอกคงไม่เห็นด้วย เลยขอแค่ให้ได้หนังคืนก็พอ

สองคนนั้นเลือกหนังไปคนละเป็นกำมือ ฉันจดไว้อย่างละเอียดทุกเม็ด เย็นๆ เราพากันไปกินข้าวด้วยกันนอกบ้าน ได้เจอเพื่อนๆ ทีก็ทำให้ชีวิตคู่เราสดชื่น และดูสมบูรณ์มากขึ้นนะ จิงม๊ะ...

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ตกลงพี่อุยนี่ผู้หญิงหรือผู้ชายอ่ะคับ   :confuse: :confuse:  ตอนแรกก็คิดว่าเปนผู้ชาย  แต่ว่าชงกาแฟให้คุณแบะเนี่ยะ  เลยงงๆว่าเอหรือว่าเปนทอมอ่ะ :laugh5: :laugh5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






jammy

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องคุณเเบะทีไรก็ยังสนุกไม่เปลี่ยนเลยนะครับ  :เชิป2: :110011: :เชิป2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วพาลไม่อยากทำงานเลยอ่ะ

เดี๋ยวเรียนจบแล้ว เรียนโทต่อเลยดีก่า :เชิป2: :110011:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
งงกะพี่อุ๋ย

 :serius2: :serius2:

หรือพี่อุ๋ยจะเป็นชู้ใหม่ของหนูแบะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-03-2007 10:34:27 โดย หนึ่งในดวงใจ »

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
มีตัวละครเพิ่มไห้หนักสมองอีกและ 555+
เออ...พี่อุ๋ยนี่ผุชายหรอผุญ หว่า?


รอพี่เรย์อยุ่ค๊าบบบบ



RrMz`,,

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ยังไงชีวิตก็หนีความจริงไปไม่พ้น เพียงแต่เดินไปอย่างมีสตินะครับ
ผมไปเที่ยวสามวันนะครับ เจอกันวันอังคารนะครับ
**************************
เอกไปส่งเพื่อนๆ เสร็จ เราก็พากันกลับห้อง

ตกกลางคืนเรานอนกอดกัน คุยกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องเพื่อน เรื่องที่ทำงาน เรื่องกลับบ้าน คุยกันจนง่วงแร่ะ จึงค่อยๆ ผล็อยหลับกันไป

วันต่อมาฉันไปทำงานด้วยจิตใจที่สดชื่น ฉันใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่า มันเติมเต็มกำลังใจที่ขาดหายไปให้กับฉัน วันนี้ฉันพร้อม พร้อมจะเรียนรู้งานใหม่ และฉันจะไม่คิดไปเอง ว่าฉันจะไม่ผ่านประเมิน เพราะในที่สุดฉันจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ และฉันถือว่าทำวันนี้ด้วยเต็มที่สุดความสามารถแล้ว

โชคไม่ดีนิดหน่อย ฉันได้ขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกับพี่แมรี่ และบรรดาเพื่อนสนิทของแก มีพี่แคท (เลขาเหมือนกัน) พี่ใจ (การเงิน) เค้าเสียดสีว่าฉันเหมือน "วัวหลงฝูง" พูดว่างานที่พัฒพงษ์น่าจะเหมาะกับฉันมากกว่า ฉันได้แต่ยิ้มรับ ไม่เถียงเค้าซักคำ ของยังงี้มันวัดกันที่ใจ บางคนแต่งตัว ทำงานทำการดี แต่กลับมีจิตใจที่ต่ำทราม แสนสกปรกยิ่งกว่าสิ่งปฏิกูลก็มีถมไป (ฉันเห็นอยู่เกือบทุกวัน)

พ้นจากตรงนั้นไปได้ ฉันเดินไปหาพี่พรเหมือนเดิม เจอป้านงกับพี่พรนั่งด้วยกัน ฉันยกมือไหว้ทั้งคู่

"วันนี้แองเจิ้ลกลับมาแล้ว เค้ารอเราอยู่ที่โต๊ะ ทางนู้น ไปหาได้เลย" ป้านงแกพูด ฉันทราบทางไปโต๊ะที่ทำงานพี่แกอยู่แล้ว จึงเดินถือกระเป๋าไปหา

มืดจังเลย เค้ายังไม่เปิดไฟให้ เพราะพนักงานยังไม่ค่อยมากันด้วยแหล่ะ ฉันเห็นเงาเป็นผู้หญิงนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานในมุมมืดๆ พี่แองเจิ้ลแน่ๆ ฉันเดินเข้าไปสวัสดี

"พี่แองเจิ้ลคะ สวัสดีค่ะ"

พี่แกดูตกใจ รีบเก็บบางอย่างใส่ลิ้นชักแล้วปิดมันลง ฉันสังเกตดูดีๆ เธอกำลังร้องไห้ น้ำตาเธอเปียกแก้มทั้งสอง แน่นอนเธอยิ้มรับให้ฉันแล้วรีบเช็ดน้ำตาจนเกลี้ยง

"น้อง... ชื่ออะไรนะ พี่เจิ้ลจำไม่ได้แระ" เธอกล่าว
"เอ่อ.....เอ่อ" ที่ฉันตอบติดขัด เพราะลืมชื่อตัวเองเหมือนกัน

"เฟียซค่ะ" ในที่สุดก็ตอบออกมาจนได้ พี่แองเจิ้ลคงตลกฉันแย่ พี่แกยิ้มใหญ่
พวกเราเปิดไฟ และฉันก็ได้เห็นหน้าพี่แกชัดๆ พี่แกดูเป็นผู้หญิงอบอุ่นและเป็นมิตรมากๆ แกให้ฉันนั่งลง ฉันจึงนั่งตามเธอสั่ง

"พี่ดูประวัติเราแล้วนะ คาดว่าจะพูดกับเราไม่นานคงจะเข้าใจ" พี่แกเริ่มต้น ฉันยิ้มเพราะถือว่านี่เป็นคำชม
"หน้าที่ของเรา มีแค่ช่วยงานให้เจ้านายทำงานง่ายขึ้น" พี่แกพูดต่อ ฉันนั่งฟังอย่างตั้งใจ

"และก็คอยทำตามที่แกสั่ง เชื่อในการตัดสินใจของเจ้านาย ก็แค่นี้ จบ" พี่เจิ้ลกล่าว ฉันพอจะเข้าใจเป็นแนวๆ
"พี่เชื่อว่าเราทำได้ เราไม่ใช่คนเกเรอะไร ใช่ไหม?"

ฉันส่ายหัวตอบ รู้สึกถูกชะตากับพี่แกมาก ฉันเริ่มเรียนรู้งานจากง่ายๆ โดยการจดจำชื่อคนที่ต้องติดต่อบ่อยๆ หน้าที่ของฉันตอนนี้คือแค่รู้ ว่าคุณทวีศักดิ์ทำอะไร ติดต่อกับใครบ้าง แล้วเราต้องช่วยเค้ายังไง

พี่แกเล่าว่าคุณทวีศักดิ์เป็นคนมีเหตุผล ไม่ได้ใจดีมากนัก แต่ก็เป็นคนแฟร์ๆ ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด จากนั้นก็สอนงานฉันอีกมาก ทั้งเรื่องขั้นตอนการทำงาน การลำดับความสำคัญของงาน สอนแม้กระทั่งเรื่องนอกเหนือจากงาน

"อยู่ที่นี่ ขอให้เรามีความอดทน เรื่องงานพี่เชื่อว่าเฟียซทำได้แน่นอน แต่นอกเหนือจากนั้น พี่ก็ต้องขอให้เฟียซอดกลั้น อย่าอ่อนแอเหมือนพี่" ฉันฟังๆ อยู่น้ำตาจะไหล รู้สึกได้ว่าเธอคนนี้โดนอะไรมาเยอะกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า (ขนาดฉันมาทำงานไม่ถึงอาทิตย์ ยังขนาดนี้)

ฉันเห็นพี่แองเจิ้ลเก็บของใส่ลังไว้บางส่วน พี่แกบอกว่าคงอยู่ทำงานต่อไม่ถึงสองเดือน จึงอยากรีบๆ สอนงานฉัน และสุดท้ายถ้าติดขัดมีปัญหายังไง ให้อาศัยถามไถ่กันทาง msn (มีคอมประจำตัว และต่ออินเตอร์เน็ตให้พร้อมสรรพ) ฉันฟังอย่างนั้น ก็ตั้งใจจะรีบเรียนรู้งานจากพี่แกให้ได้เยอะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากเป็นภาระให้แกหนักใจด้วยหล่ะ


พี่แองเจิ้ลกับป้านงสนิทกันมาก ฉันเห็นตลอดวัน แกเวียนเข้าเวียนออกไปคุยกับป้านงที่ห้องจนนับครั้งไม่ถ้วน พักกลางวันก็ทานข้าวด้วยกัน ส่วนฉันก็ตระเวณออกไปหาอะไรกินเองข้างนอกเหมือนเคย

"เดี๋ยวๆๆ เธอ" เสียงทุ้มๆ ใหญ่ๆ เรียกฉัน หันหลังกลับไปมองเป็น ไอ้เบิ้ม เกย์สาวที่เคยแอบนินทาให้ฉันได้ยินนั่นเอง

"ฝากซื้อน้ำหน่อย" หล่อนหยิบแบงค์ร้อยยัดใส่มือฉัน "ไปทางโน้นนะ ถามคนแถวนั้นเอา ว่าร้านป้ามุก" ให้ตายเถอะ ท่าทางจะไกล

"เอาชานมเย็นมา 2 ถุง น้ำส้มคั้น 1 และก็กาแฟเย็น 1 แค่นี้แหล่ะ" พูดจบ ฉันมองหน้ามันและผองพวก ฉันส่งเงินคืนให้นังเบิ้ม แล้วบอกว่า

"ขอโทดค่ะ พอดีไม่ได้ไปทางนั้นค่ะ" พูดจบฉันก็เดินไปกดลิฟท์รอ รู้แหล่ะว่าอีพวกนี้มันคงมีอาการจะบ้าอยู่ข้างหลัง

"โถย่ะ แม่คุณเลขาใหญ่" อีเบิ้มเดินตามมากระแนะกระแหนฉัน ก่อนจะตามด้วยเสียงโวยวายอะไรต่อมิอะไรอีกดังลั่น ช่างประไร ไม่มีขา ก็ไม่ต้องแดก


ฉันกลับเข้ามาทำงานอีกที ก็เจอพวกนี้รวมกลุ่มกันรอไว้อยู่แล้ว คราวนี้ดูท่า จะมีเจ๊แมรี่เป็นโต้โผใหญ่ ฉันก็กะจะเดินออกไป แม้จะรู้ว่าอีพวกนี้จับกลุ่มนินทาฉันอยู่ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะบังคับให้ต้องมีเรื่องกันเสียแล้ว

"เดี๋ยวก่อน หล่อนมานี่ซิ" ยัยแมรี่เรียกฉันด้วยน้ำเสียงแหลมและจิกกัด หล่อนใช้นิ้วมือชี้หน้าฉัน และทำท่าจะให้ฉันมานั่งเก้าอี้ตรงหน้าหล่อน ฉันถอนหายใจ ฉันยอมไปนั่ง

"บอกฉันมาซิ หล่อนจบอะไรมา" ยัยแมรี่เปิดฉากถล่มฉัน โดยมีพวกอีเบิ้ม คอยนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ รอเสริมทัพ

"จบบัญชีค่ะ" ฉันตอบ ดูเหมือนยัยแมรี่ก็ยังไม่ค่อยพอใจ
"จบบัญชีแล้วสาระแนอะไรไปเป็นเลขายะ" ยัยแมรี่เหมือนหญิงเสียสติขึ้นทุกวัน อีพวกนังเบิ้มก็ทำหน้าทำตาใส่ฉัน ฉันไม่รู้จะตอบทำไม ในเมื่อคนมันตั้งใจจะหาเรื่อง เลยนั่งเฉยๆ ทำให้พวกมันยิ่งโกรธกันใหญ่

"ฉันถาม หล่อน. ไม่.." ยัยแมรี่ตวาดฉันไม่ทันจบ ฉันได้ยินเสียงพี่แองเจิ้ลตะโกนมา

"แล้วหล่อนละยะ จบอะไรมา" พี่แองเจิ้ลเดินมาจากข้างหลังอีพวกนั้น นังแมรี่ดูหน้าจ๋อยๆ ฉันเห็นมันยกมือไหว้พี่แกประหลกๆ
"จบอุตสาหกรรมมาไม่ใช่หรอ แล้วเกิดนึกยังไงมานั่งแท่นเลขา ชูคออยู่ทุกวันนี้หล่ะ" พี่แองเจิ้ลด่ากราดด้วยความโมโห นังแมรี่รีบลุกขอตัวเดินกลับโต๊ะไป ส่วนพวกอีเบิ้มก็ทำเป็นก้มหน้าก้มตาทำงานซะยังงั้น

ฉันลุกเดินตามพี่แมรี่กลับไปที่โต๊ะทำงาน พี่แกย้ำให้ฉันต้องอดทน และเล่าเพิ่มเติมให้ฟังว่านังแมรี่ พี่แกเป็นคนสอนงานให้ตั้งแต่เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน จบมาพี่แกก็ฝากงานให้ และปลุกปั้นจนเป็นเลขาอยู่ปัจจุบันนี้

"พี่ยังเสียใจอยู่เลย ไม่นึกว่ามันจะทำ....." พี่แองเจิ้ลละไว้ ฉันไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ และไม่คิดจะถามพี่แกด้วย ฉันเห็นพี่แกเอาแต่ซึมๆ จะเห็นแกยิ้มบ้างก็ตอนอยู่กะป้านงเท่านั้นแหล่ะ บางที การทำงานที่นี่
อาจจะไม่ใช่โชคดีของพี่แกนัก ฉันจึงพยายามจะเรียนรู้งานต่างๆให้เร็วๆ ก็ไม่อยากให้เป็นภาระให้พี่แกต้องหนักใจด้วยประการนึง

สี่วันหลังจากนั้น พี่แองเจิ้ลก็ไม่ได้มาทำงานอีก ฉันถามกับป้านง ป้าแกบอกว่าพี่แกออกแล้ว แต่เดี๋ยวพี่เค้าจะโทรมาคุยกับฉันเอง และก็จริงดังพี่แกว่า ไม่นานฉันได้รับโทรศัพท์จากพี่แก เราคุยกันเรื่องกำลังใจในการทำงานมากกว่า พี่แกว่ากำลังจะบินไปเมืองนอกแล้ว เอาลูกไปด้วย ของพี่แกที่เคยอยู่ในที่ทำงาน พี่แกก็ไม่เอาไป บอกให้ฉันเก็บไว้ เพราะบางอย่างอาจเป็นประโยชน์
คุยกันคราวนั้น ฉันก็ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับพี่แกอีก พี่แกบินไปเมืองนอกแล้ว ฉันเองอยู่ทางนี้ก็ต้องอยู่ให้ได้ แม้จะรู้ว่าคงไม่สบายราบรื่น เหมือนกับตอนมีบารมีพี่แกคุ้มหัวอยู่ก็ตาม

คนเรา มันก็เป็นไปได้เนาะ

STAR

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2:รีบมาต่อด่วนค๊า!   นังแมรี่วอนโดนตบซะแล้น!

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
อืมม์  นึกได้ละว่าแมรี่เหมาะกับไร :haun5: :haun5:  แมรี่ลืมตีน :angry2: :angry2: :angry2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่ามันจะแท็คทีมกันทั้งออฟฟิตเลยนะนั่น

อุปสรรค์ครั้งนี้ดูท่าจะไม่ง่ายซะแล้วสิ


 :yeb:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ต้องเล่นมันก่อนดิอย่ารอมันเล่น 555  :laugh5:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
จิกตบจิกตบจิกตบจิกตบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยดีป่ะ?
(เย้ยยยยยยยยย - -*)

หวังว่าคุณแบะคงไม่โดนอะไรไปมากกว่าโดนว่า(ด่า)หรอกนะคับ


RrMz`,,

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
 :angry2: ตบมานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ต่อให้ก่อนเน้อ  ระหว่างเรย์ไปเที่ยว 
ว่าแล้วก็อยากตบอีนังแมรี่เหมือนกันวุ้ย  :angry2:
.........................................................................................
ตุ๊ด ตจว.

ขอเสนอ
ละครชีวิต

"อกกระเทยกลัดหนอง"

ตอน “ตอนชู้เฉพาะกิจ”
=============================

ฉันใช้เวลาอยู่ไม่นาน ก็เข้าใจในระบบและขั้นตอนการทำงานมากขึ้น คุณทวีศักดิ์ไม่ได้เข้ามาออฟฟิศบ่อยนัก แต่พอเข้ามาทีไร ก็ไม่ลืมหอบขนมติดไม้ติดมือมาฝากทุกที เพราะความเป็นกันเองของท่าน ฉันจึงลดความกังวลไปได้เยอะ เริ่มทำงานสบายใจขึ้น และแน่นอนฉันมีเพื่อนใหม่หลายคน ปอ กับ แจ้ เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

ปอ เป็นสาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉันนี่แหล่ะ เธอได้เข้ามาทำงานก่อนหน้าฉันไม่กี่วัน ป้านงให้เธออยู่แผนกบัญชี เราไถ่ถามกันบ่อยเมื่อมีปัญหา ส่วนแจ้ มองเผินๆ จะเป็นผู้ชายที่หล่อมากๆ ผิวขาว แต่เค้ามีสิวนิดหน่อยที่แก้มสองข้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ลดดีกรีความฮอตของสาวๆ ที่มีต่อลงไปเลย ฉันเองยังเคยพลอยเป็นไปกับเค้าด้วย แต่น่าเสียดาย สเป็คเค้าต้องหนุ่มหล่อล่ำ ไม่แสดงออกเท่านั้น

"เฟียซ กลางวันนี้เราไปกินข้าวหน้าเป็ด ปากซอยกันดีไหม ปอเห็นคนกินกันเต็มเลย ท่าทางน่าอร่อย" ปอยืนพูดกับฉันที่โต๊ะ นี่ 11 โมงกว่า ใกล้จะเที่ยงเต็มแก่แล้วสิ

"เอ้ย อร่อยดีนะ เราเคยพาแฟนไปกิน" จักร เสริม ความจริงเค้าอายุมากกว่าพวกเราอยู่สองปี แต่สุดท้าย ฉันสมมุติว่าเราอายุเท่ากันหมด แห่ะๆ

"ไปก็ไปสิ" ฉันตอบรับ ก่อนรีบเคลียร์งานที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างด่วนจี๋ ทำๆ อยู่ โทรศัพท์ก็ดังเข้ามาพอดี

"สวัสดีค่ะ เฟียซค่ะ"

"งานที่ให้ไปตรวจเมื่อวาน เสร็จหรือยัง" เสียงเจ๊แมรี่ ไม่รู้เคียดแค้นอะไรฉันนักหนา

"เสร็จแล้วค่ะ แฟ็กซ์ให้คุณทวีศักดิ์ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ" ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ ยัยแมรี่ตัดสายฉันเหมือนเช่นเคย เฮ้อ ชินซะแระ

พักกลางวันเราออกไปทานข้าวพร้อมกันสามคน ฉันว่าจะชวนพี่อุยไปด้วยแต่เห็นแกกำลังเครียดเรื่องงานแกอยู่ เลยไม่กล้าชวน เรานั่งรถของจักรออกไป ข้าวหน้าเป็ดร้านนี้มันอร่อยจริงๆ นะ อยากซื้อห่อไปให้ตาเอกกินเหมือนกัน แต่กลัวถึงเย็นนั้น มันจะไม่อร่อยแล้วหล่ะสิ (ตาเอกชอบกินปากเป็ดทอด เป็นที่สุด กินเข้าไปได้ไงก็ไม่รู้)

"เมื่อเช้าอีแมรี่ มันไฟลท์กันกับอีเบิ้ม ด่ากันให้ลั่นไปหมด" ออกมาข้างนอก จักรมันก็ใส่ใหญ่เรย เพราะส่วนตัวพวกเราไม่มีใครชอบพวกนี้กันเลย

"กัดกันเองด้วยหรอ" ปอถาม ฉันหัวเราะ กัดน่ะเค้าใช้กับหมา
"ได้ยินแล้วหล่ะ เสียงโวยวายๆ ไม่ได้ออกมาดู" ฉันบอก

"อีเบิ้มมันก็ร้ายใช่ย่อยนะ อีแมรี่ช่วยดันมันจะแย่ มันยังเอาเรื่องเค้ามาแฉซะหมด" ว่าไปไอ้จักร มันก็เหมือน ญ เหมือนกันนะ ช่างเมาท์

"มาไม่ทันอ่ะ แฉไรมั่งอ่ะจักร" ปอถาม

"ก็แฉว่านังแมรี่มันเป็นเมียเก็บยังไงหล่ะ" จักรพูดอย่างใส่อารมณ์ เค้าจะเป็นอะไรมันก็ช่างเค้าเถอะ ของยังงี้มันแล้วแต่จิตสำนึกของแต่ละคน แล้วถ้าไอ้ผู้ชายคนไหน มันไม่รักเรา เราก็อย่าไปรักมันก็สิ้นเรื่อง ตอนนั้นฉันคิดอย่างนี้ แต่ก็นั่นแหล่ะ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ฉันคิด มันจะถูก..

ฉันนั่งลิ้มรสข้าวหน้าเป็ดอย่างเอร็ดอร่อย แถมยังฟังสองคนนี้เมาท์กันอย่างออกรส ทำให้บรรยากาศในการมาทำงานของฉันนั้น มันไม่เลวร้ายอย่างที่คิด

เย็นนี้ เอกติดต้องทำโอที มารับฉันไม่ได้ แต่พี่อุยก็อาสามาส่งให้ เพราะพี่อุยก็ต้องกลับทางนั้นอยู่แล้ว และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันได้ใช้บริการ อุยเซอร์วิส   ฉันต้องอยู่คนเดียวจนถึง 2 ทุ่ม เอกถึงจะกลับมา กลับมาก็เหนื่อยแฮ่กๆ โถ ทำไมใช้งานผัวกรูหนักจังฟร่ะเนี่ย น่าฉงฉาน (ยังดีนะเนี่ย ที่เลี้ยงข้าวให้ด้วย)

ฉันทำงานต่อมาเรื่อยๆ ค่อยๆ ฝึกทีละอย่าง ไม่ได้อันไหน ก็อาศัยถามเอาแถวนั้น โชคดียังมีอยู่เหมือนกัน ในบรรดาเลขาหลายนาง   ยังมีพี่เปิ้ลอีกคนนึง นิสัยดีมากๆ (เป็นเพื่อนซี้พี่แองเจิ้ล สมัยแกทำงานอยู่) แต่พี่เปิ้ลก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศบ่อย งานพี่แกต้องไปติดต่อคนข้างนอกมากกว่า เวลาพี่แกเข้ามาที ก็จะแวะเวียนมาดูฉันบ้าง ฉันก็จะถือโอกาสเอาช่วงนั้นแหล่ะ ไขปัญหาต่างๆ ที่คิดไม่ตก

ตอนนี้เรื่องงานเริ่มจะอยู่ตัวดีแล้ว ฉันไม่ยำเกรงคำครหาที่ได้ยินกรอกหูอยู่ทุกวัน ฉันตื่นเช้าไปทำงานด้วยจิตใจสดชื่น และแอบรอคอยเงินเดือนก้อนแรกของชีวิต (เอกได้ไปก่อนแล้ว เอามาซื้อชุดทำงานให้อีกหลายชุด)

ในช่วงชั่วโมงการทำงานนั้น จะมีพี่อุยมาแอบแซวฉันบ่อยๆ คนในออฟฟิศ ยัยปอ ตาจักร ก็เลยพากันล้อใหญ่ ที่นี่เค้าว่าพี่อุยเป็นคนเจ้าชู้ จีบดะไปหมด ติดบ้างไม่ติดบ้าง ก็ไม่เห็นพี่แกจะซีเรียส แต่เท่าที่ฉันเห็น พี่แกเป็นคนดีนะ มีน้ำใจ และคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ไม่เฉพาะแค่เรื่องงาน แต่เรื่องนอกเหนือจากนั้นก็มี แห่ะๆ คือ พี่อุยต้องไปส่งฉันที่บ้านมากว่าอาทิตย์นึงแล้ว เอกต้องทำโอทีจนดึก (ถึงดึกมาก) เค้าบอกว่าที่ทำงานเค้าคนไม่พอ มีงานเร่งเข้ามา น่าเห็นใจเค้าอยู่เหมือนกัน พักหลังเราห่างๆกัน ก็อาศัยใช้คุยโทรศัพท์กันแก้ขัด

"วันนี้มีคนมารับเปล่าเนี่ย" พี่อุยถาม ฉันแอบยิ้มกระหยิ่ม

"เหมือนเดิม เพ่" ฉันตอบ เป็นอันรู้กัน พี่อุยแอบหัวเราะ

เฮ้อ แอบน้อยใจตาเอกเหมือนกัน ปล่อยให้ฉันกินข้าวคนเดียวมาหลายวันแระ รู้ๆ กันอยู่ กินข้าวคนเดียวมันอร่อยซะที่ไหนหล่ะ วันนี้ฉันเลยขอเปลี่ยนบรรยากาศ ชวนพี่อุยกินข้าวเย็นมันซะด้วยกันนี่เลย พี่อุยไม่ปฏิเสธสักคำ (บ่ได้เลี้ยงเน้อ จ่ายเอง)

"อื้มมม เฟียซอยู่ห้องคนเดียวไม่กลัวหรอ" พี่อุยพูดกับฉัน ในขณะที่ยังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก หลังๆ ก็กันเองแบบนี้หล่ะ

"เหอะ ไม่อ่ะพี่" ฉันตอบ คนกำลังอร่อย ฉันจะไปกลัวอะไรหล่ะ คนอื่นเซ่ะ ต้องกลัวฉัน

"เก่งดีเนอะ แถมไม่คิดมากด้วย" พี่อุยเอ่ยปากชม ซึ่งฉันเองยังแปลกใจ พี่อุยหมายถึงคิดมากเรื่องไรหรอ

"คิดมาก?" ฉันย้อนถามพี่อุย

"อ้าว... ถ้าเป็นแฟนเก่าพี่นะ พี่กลับบ้านช้าไป 2 ชม. ก็คิดไปไกลแล้ว หาว่ามีชู้บ้างหล่ะ หาว่านอกใจไรเงี๊ยะ" พี่อุยแจงให้ฟัง ฉันเพิ่งถึงบางอ้อ ฉันยิ้มให้พี่อุย แล้วก็ทานอาหารต่อ

ก็แหม มันไม่มีอะไรหรอก เอกเค้าไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้วนี่ ฉันกระหยิ่มในใจ

--------------------------------------------------------

4 ทุ่มกว่า เอกกลับมาบ้าน มาถึงเค้าก็กระโดดขึ้นเตียงนอน ไม่ยอมอาบน้ำอีกตามเคย ฉันละส่ายหัวให้เลย ฉันปิดบ้านปิดไฟ
และไม่ลืมจะห่มผ้าห่มให้เค้า ฉันนอนกอดเค้าทุกคืนหล่ะ ไม่เหนียวเหนอะหนะอย่างที่คิด กอดทีไรก็สบายเหมือนเดิม อิอิ

+ + + + + + + + +


jammy

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักดีครับ  : 222222:

STAR

  • บุคคลทั่วไป
นังแบะ เอ้ย!ขอโทษ...พรหลลลล้า..มาต่อ ณ บัดnow....ม่ายงั้นจะไปตามนังแมรี่มาวีน!!!!!






ขอลบนะจ๊ะ
ภาพไม่ขึ้นเนื่องจาก เวปดังกล่าวตั้งรหัสไว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2007 07:31:24 โดย ~๐แน๋วแน๋ว๐~ »

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ต่อเลยละกันน้า  :yeb:
..................................................

วันนี้เงินเดือนออกแล้ว พูดอย่างไม่อายเลยนะ ฉันไม่เคยได้เงินเยอะเท่านี้มาก่อนในชีวิต ตอนเรียนที่บ้านส่งให้เป็นเดือนๆ ก็จริง แต่มันก็น้อยนิด ฉันจำต้องใช้จ่ายอย่างมัธยัสต์ (เขียนงี้เป่า) เพราะบ้านไม่ได้มีเงินอย่างหลายคนเค้า การได้กินมาม่าห่อตั้งแต่กลางเดือน จริงเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับฉัน นอกเรื่องไปกันใหญ่แระ กลับมาที่เงินเดือนของฉันกันดีกว่า ฉันเอาบัตรเอทีเอ็มไปกดดูยอด เห็นปุ๊ปน้ำตาแทบไหล ภูมิใจในตัวเองเหลือเกิน วันนั้นฉันไม่ได้กดเงินออกมาเรยหลอกนะ ฉันกลับมาที่บ้าน แล้วนั่งแบ่งสรรปันส่วนต่างๆ ในกระดาษ โห มีความสุขมากเลย ฉันโทรหาแม่ (เอมันพัฒนา มีมือถือใช้แล้ว) บอกว่าจะโอนเงินให้ แม่หัวร่อชอบใจใหญ่เลย คริคริ ฉันเองก็มีความสุข บอกแม่ไปว่าเดี๋ยวกลับไปเยี่ยม ฟังเสียงเค้าก็รู้แระว่าคิดถึงเรามากแค่ไหน คิดถึงพ่อแม่มากเช่นกันค่ะ

เอกกลับมาจากงาน ฉันเล่าให้เอกฟังด้วยความตื่นเต้น เราดีใจด้วยกันอยู่พักใหญ่ ตกลงกันไปเลี้ยงฉลองกันสองคน (มีฟามสุขทีไร เป็นเงี๊ยะทุกที) เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตระเวณหาร้าน หมูเกาหลีกินกัน เอิ๊กๆๆ เอกจ่าย

เพื่อนๆ ที่ทำงานเริ่มล้อฉันกับพี่อุยกันเป็นล่ำเป็นสัน ป้านง กะ คุณทวีศักดิ์ บางอารมณ์ก็มีมาถามๆ บ้าง เอากะเค้าซิ ฉันกับพี่อุยได้แต่ขำๆ แต่ไอ้พวกพรรคมารมันไม่ขำกับพวกฉันด้วยน่ะซี่

"มาทำงานหรือมาจับผู้ชายกันแน่ยะ?" นี่คือหนึ่งในคำพูดของอีเบิ้ม เกย์สาวอัปลักษณ์ท่าทางมีปมด้อยเกินแก้ไข ฉันเคยแอบคิดจะเข้าไปพูดกับเค้าดีๆ ไหนๆ เราก็ถือว่าเป็นเพศที่สามเหมือนกัน เราน่าจะเข้าใจกันมากกว่า แต่ก็ต้องรีบเปลี่ยนความคิดกะทันหัน มันถือมีดง้างไว้ข้างหลังตลอดเวลา เพื่อนอีเบิ้มแต่ละคน ลับหลังโดนอีเบิ้มสับเละเป็นโจ๊ก อย่างนี้จะหามิตรแท้ได้ที่ไหน

แต่อย่างที่บอก ฉันเลิกสนใจคำพูดไอ้คนพวกนี้ไปแล้ว เหมือนพูดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ฉันไม่เคยเก็บมันมาคิด หลังๆ มันเองก็คงจะรู้ว่าไม่ได้ผล เราจึงเริ่มกระทบกระทั่งทางด้านร่างกายกันมากขึ้น วันนึงฉันยืนกดลิฟท์รออยู่ พอลิฟท์เปิด พวกอีเบิ้มก็พากันกรูกันเข้าไป ฉันถูกพวกมันกระแทก จนศรีษะโขกกับผนัง ยังไม่ทันเข้ารีบ พวกอีเบิ้มกดลิฟท์ปิดกันจนประตูจะหนีบกระเป๋าฉันอยู่แล้ว ฉันรีบชักกระเป๋าออก ในใจเจ็บแค้นเกินทน มีคนบอกให้ฉันให้อภัยคน แต่คราวนี้


":-) Thongggggg" ฉันด่ามันเสียงลั่นออฟฟิศ (พอดีเลิกงานแล้ว) หวังว่าเสียงคงจะทะลุลิฟท์ตามมันลงไปถึงหูพวกมันซักกะตัว

อีพวกนี้มันคงแค้นฝังหุ่น ไม่ว่าใครดีกับฉัน มันสับเละ มั่วไปหมด ยัยปอ ไอ้จักรก็โดน ไม่เว้นแม้แต่พี่อุย ซึ่ง แก๊ แก่ อายุคราวพ่อมันได้แล้วม้าง (ย้อเย่น) โดนพวกมันเหน็บมาหมดแระ

"โอ๊ยยย อยากต่อยหน้าอีพวกแมร่งนั่นหว่ะ" ไอ้จักรฮึดฮัดๆ มันเพิ่งจะโดนครหาว่าเป็นอีแอบมา ไอ้คนพูดก็สมประกอบเสียตายหล่ะ
"ปล่อยแมร่งไปเฮอะหว่ะ นึกว่าทำบุญ" ฉันปลอบใจ

"ทำบุญไม่ขึ้น มันก็ต้องทำบาปหล่ะวะเฟียซ แกไปยอมมันได้ไงวะ" ไอ้จักรถาม หุหุ ก็ไม่ได้ทำไรมากหรอก ถือคติ แตะกรูได้ แตะผัวกรูเมิงตายยยย

"ก็คิดซะว่าแมร่งโรคจิต" ฉันตอบ ยัยปอสิน่าสงสารที่สุด เนื่องจากโดยหน้าที่การงานแล้ว ต้องโคงานกับอีพวกเวรตะลัยนี่บ่อยๆ แถมยังต้องนั่งทำงานติดกับโซนพวกมันด้วยสิ เครียดกับงานก็พอตัวแระ ยังมาต้องเครียดกับอีพวกไร้สาระแบบนี้อีก เสียสุขภาพจิตจิงๆ

"เอางี้ ฉันนึกออกแล้ว" ฉันปิ๊งไอเดียนึงขึ้นมา สองคนนั้นมองฉันอย่างตั้งใจฟัง


"เย็นนี้เราไปเลี้ยงข้าวให้พวกมันดีก่าาา" ฉันพูด พวกนั้นส่ายหัวกันเป็นแถว ฟังให้จบก่อนสิ หมายถึง

"สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย..." ฉันเกริ่น เราได้หัวร่อกัน เป็นอันเข้าใจ เย็นนั้นก็เลยชะแว๊บไปกินข้าวข้างนอกกัน ปล่อยให้พี่อุยกลับบ้านคนเดียวซะเลย หุหุ

- - - - - - - - - - - -

เราเลือกร้านอาหารที่ห่างออกมาจากที่ทำงานหน่อยนึง เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดี จักรมันมีรถเราเลยไม่ลำบากเรื่องการเดินทาง แถมร้านนี้ยัยปอบอกอร่อยแต่ไม่แพง เลยมาเทสต์กันซักหน่อย
ทานกันไปเกือบครึ่งนึงแล้ว พนักงานเสิร์ฟเข้ามาเชิญไอ้จักร เค้าให้มันไปถอยรถ เพราะจอดขวางชาวบ้านเค้า มันจำต้องลุกออกไป
ถือว่าเป็นโอกาสทองของฉันกับยัยปอ ที่จะรีบโซ้ยอาหารให้ได้มากที่สุด เอาให้คุ้ม (แต่หารเท่ากันนะ) ว่าแล้วพวกฉันก็เรยไม่รอช้า รีบจกกินกันใหญ่

"โหๆๆๆ นังพวกนี้ เห็นฉันไม่อยู่เอาใหญ่เลยนะ" ตดยังไม่ทันหายเหม็น ไอ้จักรก็กลับมา พวกฉันหัวเราะกันใหญ่ มันรีบนั่งลง แล้วจับอาวุธรีบต่อสู้ข้าศึก กลัวเสียดุลหล่ะซิ

"เออ จะเล่าอะไรให้ฟัง ตลกมากเลย" ไอ้จักรพูด น้ำลายกระเซ็น
"ฉันลงไปข้างล่างใช่ไหม เห็นผู้ชายคนนึงจอดมอเตอร์ไซด์อยู่ทางเข้า" ไอ้จักรค่อยๆ เล่า

"ฉันตกใจมากเลย นึกว่าผัวยัยเฟียซเค้ามาดักรอ ยังจะโทรมาบอกแกเลย"

"แต่แป๊ปนึง เมียเค้าก็มาซ้อนมอไซด์ เป็นเด็กนักศึกษาเนี่ยแหล่ะ ก็เลยถึงรู้ว่าไม่ใช่ เกือบหน้าแตกไปแล้วไหมหล่ะฉันน่ะ" ไอ้จักรพูดไปหัวเราะไป นี่ขนาดไม่ได้แดกเหล้านะเนี่ย ถ้าตอนแรกสั่งเหล้ามากินกัน เมิงจะเป็นไงเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

หลังจากนั้นจักรไปส่งเราที่บ้านแต่ละคน ฉันกลับมา 2 ทุ่มกว่าๆ ก็เจอเอกรออยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว เค้าบอกวันนี้กลับตั้งแต่ทุ่มนึง แอบงอนฉันด้วย เพราะโทรมาแล้วเครื่องฉันแบตหมด พอชาร์ตแบตเปิดมา เป็นมิสคอลเอก 2 สาย เป็นของพี่อุย 6

อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เลยโทรกลับหาพี่อุย นึกว่ามีเรื่องอะไร ที่แท้ก็คุยเล่นกันธรรมดานี่แหล่ะ คุยไปคุยมาชักง่วง เลยขอตัวแยกกันไปนอน พรุ่งนี้ก็เจอกัน ไว้ไปคุยกันที่โน่นเน้อออ...

เอกไปส่งฉันไปทำงานแต่เช้า หลังๆ เราไม่ได้กินโจ๊กด้วยกันเลย รอให้ที่ทำงานเอกลงตัวก่อน หวังว่าคงจะได้กินข้าวเช้าร่วมกันในอีกไม่ช้า และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันเลยซื้อน้ำเต้าหู้ กับปลาท่องโก๋สองสามตัวขึ้นไปกินบนออฟฟิศ

ฉันกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นบน แป๊ปเดียวลิฟท์ก็เปิดออก

"ว๊ายยยย" ฉันร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ด้วยความที่เห็นว่านี่ยังเช้ามาก คิดว่าไม่มีคน ลิฟท์เปิดฉันก็เดินพุ่งออกไป ชนกับใครก็ไม่รู้คนนึง

"sorry sorry" ผู้ชายคนนั้นรีบเอ่ยปากขอโทดฉันใหญ่ คนอะรั๊ยย ซุ่มซ่ามและยังหล่อระเบิดระเบ้ออีก นี่ถ้าไม่ติดว่าเคยเจอเอกมาแล้ว ครั้งนี้ฉันจะเรียกมันว่ารักแรกพบเลยแหล่ะ

เค้าชื่อ โยชิอากิ แต่ในออฟฟิศจะเรียกเค้าสั้นๆ ว่าโยชิ เป็นชาวเกาหลี (เหนือหรือใต้ไม่รู้) ขาว ใส หล่อเท่ห์ๆ สไตล์สเป็คสาวไทย ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมสาวๆ ในนี้ถึงพากันคลั่งเค้า เพราะแค่ฉันเห็นเค้าแว๊บแรก ก็เคลิ้มไปซะสนิท อยากลงลิฟท์ไปกับเค้าด้วยเสียจัง

โยชิ ทำงานในส่วนติดต่อกับชาวต่างชาติ เค้าพูดได้หลายภาษา ยกเว้นภาษาไทย -*- ข่าวว่าได้เงินเดือนสูงลิบ นี่เค้าก็เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น กลับมาทีก็ทำให้ออฟฟิศเปลี่ยนเป็นสีชมพู อะไรๆ ก็ดีไปโม๊ดดดด แต่ มีเมียแล้ว T.T

ครั้นรู้กระนั้นก็เถอะ สาวๆ ยังหมั่นไปหยอดเฮียแกถึงโต๊ะทำงานอยู่บ่อยๆ ฉันเองยังแอบหาเรื่องไปแถวนั้นอยู่เรื่อยเหมือนกัน

"แหม มาบ่อยจริงๆ เลยนะ" ไอ้จักรแซวฉัน มันก็หมายตาคนนี้ไว้เหมือนกัน กันซีนกันสุดฤทธิ์
"ไม่ได้หรอกย่ะ เดี่ยวแกวางยาเค้า" ฉันกัดมันตอบ ไอ้จักรไม่โต้กลับ คงกลัวหลุดสาวออกมา

"มีผัวแล้ว หมดสิทธิ์" แน่ะ มันยังอุตส่าห์มากระซิบ


"มีแล้วก็มีใหม่ได้เฟ้ยยยย" ฉันตอบอย่างเย้ยหยัน จักรกัดฟันกรอดๆ เราขำกันจะตาย โยชิมันคงมอง ว่าอีสองตัวนี้มันเป็นอะไรของมัน เฮ้อออ เค้าจะรู้ไหมหนอ ว่าเค้าขโมยหัวใจของฉันไปแล้ว โยชิ โยชิจ๋าาา

* * * * * * *





jammy

  • บุคคลทั่วไป
หึๆ แบะอย่านอกใจเอกดิ  :รักจัง11:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
อย่านอกใจเอกนะคุณแบะ :110011: :เชิป2:

แต่ถ้าได้ก็ดีใจด้วย จะได้เอาไปควงเย้ยบรรดายัยแมรี่แอนด์เดอะแก็งค์ :laugh5:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
อยากเหนโยชินั่นจัง ท่าทางจะหล่อ เอิ้กกกกก
คุนแบะไม่นอกใจคุนเอกหรอก ผมรุ้น่า เหะๆ

อยากตบอีแมรี่นี่จิงๆ

RrMz`,,

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ต่อ ต่อ มารอดูว่าใครจานอกใจใคร  :110011:  :เชิป2:
.........................................................................................
เย็นนี้เอกไม่มารับอีกตามเคย ฉันห่วงสุขภาพเค้าตอนนี้มาก เค้าต้องทำงานแต่เช้าแล้วเลิกดึก ดูเค้าเพลียๆ และเหนื่อยอ่อนมาหลายวัน ฉันอยากให้เค้าหยุดพักบ้าง แต่นั่นก็นะ เราเพิ่งเป็นเด็กใหม่ คงยาก

"เฟียซวันนี้รีบกลับบ้านไปทำไรเปล่า" พี่อุยถาม ขณะขับรถมาส่งฉัน

"จะทำไรหล่ะพี่ นอนตบยุงอยู่บ้าน มีไรเปล่าคะ" ฉันถาม พี่แกหันหน้ามายิ้มให้หน่อยนึง
"ง้านเอางี้ ไปเที่ยวห้องพี่กัน พี่ทำกับข้าวให้กิน" อ๊าา พี่อุยเอาของฟรีมาล่ออีกแระ ฉันไม่บอกหล่ะนะ ว่าฉันตอบพี่อุยว่าไง คงรู้กันดี


กว่าสองอาทิตย์มานี้ ฉันเริ่มสนิทกับพี่อุย อาจเพราะเรามีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อย และพี่อุยก็เป็นคนเก่งอีกคนนึงประจำออฟฟิศเราเลยหล่ะ ถ้าเรื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ฉันแอบไปขโมยความรู้จากพี่แกประจำ หรือถ้าว่างๆ ไม่มีไรทำ ก็เดินไปหยอดพี่แกเล่นแก้เซ็ง ซึ่งทั้งหมดนี่ เอกไม่รู้ เค้าทำแต่งานๆ ฉันเองไม่อยากให้เค้าคิดมาก เลยไม่ได้บอกอะไร กลัวเค้าเป็นห่วงเราด้วยแหล่ะ แต่ถ้าว่า เค้าเกิดมารู้ทีหลังหล่ะ จะเป็นยังไงน๊อออ...

ไอ้เราก็นึกว่าจะแน่ ที่แท้พี่อุยแวะซื้อเซ็ทกับข้าว สำเร็จรูปในมินิมาร์ท แค่นี้ฉันก็ทำได้ แกะห่อแล้วจับโยนใส่กระทะ ผัดๆ ทอดๆ เติมนู่นนิด นี่หน่อย เป็นอันเสร็จพิธี รสชาดก็ไม่ใช่จะเลวร้าย ยังพอกินได้อยู่

"ระวังจะติดใจฝีมือพี่หล่ะ" พี่อุยอวดใหญ่ คอนโดพี่อุย เปิดประตูมาทีแรก ฉันอึ้งไปเลย คนอะไรโคตรสะอาด นี่ถ้าพี่แกไปเห็นห้องฉันคงจะ... แห่ะๆ ห้องพี่แกน่าอยู่มากๆ มีเนื้อที่แบ่งเป็นห้องต่างๆ ได้สัดส่วน ตกแต่งห้องได้กิ๊บเก๋ยูเรก้าไม่มีที่ติ อย่างงี้ให้นอนอยู่ในห้องทั้งวันยังได้เลย ท่าทางจะสบาย

เราทานข้าวกันไปคุยกันไป เรื่องงานบ้าง เรื่องสมัยก่อนบ้าง และก็มีเรื่องแฟนอีกนิดหน่อย พี่อุยแกคงเหงา เพราะตอนนี้อยู่ครองความโสดมาหลายทศวรรษ แกเล่าให้ฟังสมัยโดนแฟนทิ้ง แต่ฟังยังไงก็ไม่เศร้าแฮะ กลับขำๆ มากกว่า เราคุยกันถูกคอดีจัง แต่ในช่วงที่กำลังเพลินๆ พลันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

"ฮัลโหล จ๋า" ฉันรีบเปิดรับ เอกโทรมา


"อยู่ไหน!!" เอกตอบมาด้วยเสียงแข็งเป๊ก
บ้านี่ โมโหอะไรมาก็ไม่รู้

คุยกันไปกันมา ชักมีน้ำโหกันทั้งคู่ ฉันเลยตัดสายทิ้งไปดื้อๆ คนอะไร ก็ตัวเองบอกว่าจะเลิกดึกเอง แล้วจู่ๆ ก็ไม่ไปทำ พอรอเรานิดเราหน่อยก็มาใส่อารมณ์ ฉันจำต้องรีบกลับบ้าน เลยต้องได้เสียมารยาทไม่ได้ช่วยพี่อุยแกล้างจาน พี่อุยเข้าใจและขับรถออกมาส่งฉันถึงบ้าน เอกยืนรออยู่หน้าบ้านไว้ก่อนแล้ว เค้าหน้ามุ่ย บอกบุญไม่รับ

"เอก นี่พี่อุย พี่ที่ทำงานเค้า" ฉันแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน โดยเริ่มจากพี่อุยก่อน

"พี่อุย นี่แฟนเฟียซค่ะ ชื่อเอก" ฉันหันไปบอกอีกฝ่าย ซึ่งความจริงเค้ารู้จักอยู่แล้ว และเคยเห็นบ้างสมัยเอกยังไปรับกลับจากที่ทำงาน

"ดีเอก" พี่อุยยิ้มทักทาย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย เอกมันกระฟัดกระเฟียดเดินเข้าไปในบ้าน ฉันหล่ะโมโหเอกมากเลยตอนนั้น พอพี่อุยกลับไปเสร็จ เราจึงเริ่มปะทะคารมกัน


"ทำไมเอกทำอย่างนี้เนี่ย พี่อุยเค้าเป็นธุระมาส่งเค้าทุกวัน ตอนตัวเองไม่อยู่ รู้บ้างไหม" ฉันเริ่มใช้อารมณ์

"มาส่งหรอ ส่งกันถึงที่ไหนหล่ะ ไปอยู่บ้านเค้าป้อ เอกกลับมาบ้าน เจอแบะไม่อยู่ห้องเลยมา 2 วันติดกันแล้วนะ" เค้าเถียงกลับไม่ลดละ ท่าทางเรื่องจะยาว ฉันปิดประตูหน้าต่างห้องให้เรียบร้อย ไม่อยากให้เสียงเล็ดลอดออกไปสร้างความรำคาญให้ชาวบ้าน

"เค้าไปทานข้าว เมื่อวานไปกับเพื่อน วันนี้ไปกับพี่แก แต่ขอโทษนะ เขาจะไปตรัสรู้ได้ยังไง ว่าเอกจะกลับเร็วน่ะ" ฉันถามเค้ากลับ

"อ้อ ไม่ต้องมารู้หรอก ขนาดตัวเองไปไหน ทำอะไร เค้ายังไม่เคยรู้เลย" เอกมันไม่ยอม เค้าพูดจบ เค้าก็เปิดบ้านออกไป ขี่มอไซด์ออกไปไหนก็ไม่รู้ ฉันไม่ได้ปรามเค้าไว้ ตอนนั้นคิด อยากไปไหนก็ช่าง...


ฉันรอเค้ากลับมาบ้านจนถึงตี 3 ก็ยังไร้วี่แวว ฉันตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา ตอนนั้นเค้าหลับไปแล้ว เสียงตื่นขึ้นมาคุยกับฉันยังงัวเงียๆ

"ฮัลโหล อยู่ไหน" ฉันถาม น้ำเสียงก็ยังไม่ค่อยปกติดีนัก
"บ้านแมค" เค้าตอบด้วยน้ำเสียงงี่เง่าไม่แพ้กัน

"ไม่กลับใช่ไหมบ้านเนี่ย จะได้ไม่รอ" ฉันเองก็ใช่ย่อยเหมือนกัน


"อื้ม ไม่กลับ" เอกตอบ แล้วเค้าก็วางโทรศัพท์ฉันไปเลย และฉันก็ไม่โทรกลับไปอีกแล้วด้วย...

......

นอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ฉันลุกอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ตื่นเช้ากว่าเดิมหน่อยนึง
เพราะคิดว่าคงได้เดินไปทำงานเองแน่ๆ แต่ผิดคาด เอกกลับมาตอนเช้า เค้ารอจนฉันแต่งตัวเสร็จ จากนั้นก็ขับรถไปส่ง (ยังไม่พูดกันนะ) จนถึงที่ทำงาน ลงรถเสร็จ เค้าบอกว่า

"เย็นนี้จะมารับเองนะ" เค้าบอก ลืมไปเลยว่าวันนี้วันหยุดเค้า ฉันรีบพยักหน้าเป็นสัญญาณว่ารับทราบ แล้วก็เดินขึ้นไปทำงาน

.......

jammy

  • บุคคลทั่วไป
เเหมคุณเเบะก็เห็นใจเอกเค้าหน่อยสิครับ เค้าคงอยากมีเวลาอยู่กับคุณเเบะบ้าง  :loveu:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด