มาต่อให้แต่เช้า.....รึเปล่า
************************************
บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบ…ผมกับต้นนั่งอยู่คนละมุมภายในห้องของผม มันกำลังใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดหัวตัวเองอย่างงงๆโดยหันมาสบตาผมเป็นระยะๆ มันคงงว่าเกิดอะไรขึ้นที่ผมลากตัวมันเข้าห้องน้ำทันทีที่มันลืมตาขึ้นมา ผมจัดการฉีดน้ำใส่มันแบบไม่ยั้งมือทั้งที่ปากมันก็ร้องไปเรื่อยว่า ผมเกิดบ้าอะไรขึ้นมาแต่ผมไม่ฟังมันหรอก ผมไม่จับมันแช่น้ำตั้งแต่เมื่อคืนก็บุญแล้วเห็นว่าเมาอยู่หรอกเดี๋ยวเกิดช็อคตายขึ้นมาล่ะยุ่ง…จนผมเห็นมันเปียกไปทั้งชุดที่ผมเปลี่ยนให้มันเมื่อคืนแหละ ผมถึงหยุดแยกตัวออกมาสงบสติก่อนที่มันจะเดินออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไปนั่งเช็ดหัวตัวเองอยู่อีกมุมหนึ่ง……..
เห็นหน้ามันแล้วผมหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆโตจะเป็นควายอยู่แล้วยังให้คนอื่นมามอมเหล้าได้ ถ้าเกิดผมไม่ไปเจอมันก่อนนะอะไรจะเกิดขึ้น บอกตรงๆผมรับไม่ได้หรอกนะครับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ใครจะเหมือนผมหรือเปล่า ผมยอมรับเลยล่ะครับว่าผมซีเรียสกับเรื่องพวกนี้มาก คนของผมก็ต้องเป็นคนของผมจะว่าผมขี้หึงก็ยอมล่ะ
“มองอะไร” มันว่าผมเมื่อผมจ้องมันไม่วางตา ยังมีหน้ามาขึ้นเสียงอีกนะมึง
“มองคนโง่ไง” ผมด่ามันตรงๆจนมันชะงัก ไม่รู้เหมือนกันว่าผมหลุดคำนั้นออกไปได้ยังไง แต่ทำไงได้ล่ะด่าไปแล้ว
“ไอ้งานนักข่าวมันสอนให้บอยปากจัดหรือเปล่า” มันว่าผมหรือมันจะจริงระยะหลังๆมานี่ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ร้อนมากกว่าแต่ก่อน
“พี่ต่างหากล่ะที่ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้” น่านผมโทษมันซะดื้อๆ จนมันเหวี่ยงผ้าลงจากหัวตัวเองจ้องผมดุๆ
“อะไรพี่ไปทำอะไรให้บอยอย่าหาเรื่องให้อารมณ์เสียหน่อยเลยแล้วอยู่ๆมาลากพี่ไปล้างน้ำแบบนี้เป็นคนอื่นโดนเตะไปแล้วนะบอกไว้ก่อน”
“ก็มันน่าหรือเปล่าล่ะไหนบอกตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ไงแล้วเมื่อคืนไปทำอีท่าไหนถึงเมาไม่รู้เรื่องแบบนั้นหรือว่าตั้งใจ”
“ตั้งใจอะไรแล้วมันเกิดอะไรขึ้นพี่ยังงงอยู่เลยก็แค่พี่บังเอิญไปเจอขวัญก็เท่านั้นอย่าบอกนะว่าแค่นี้หึง”
ยิ่งฟังมันก็ยิ่งหงุดหงิดครับ นี่ถ้าเกิดเขาลากมันไปเผานั่งยางมันจะมีโอกาสมาเถียงกับผมแบบนี้หรือเปล่าง านผมเองก็ตั้งเยอะตั้งแยะปล่อยมันไว้อย่างนี้คนเดียวแหละ วันนี้ก็วันหยุดอยู่กับมันก็พาลจะทะเลาะกันเปล่าๆ
ผมลุกเดินไปหยิบกุญแจรถกำลังจะเดินออกจากห้องแต่มันก็ทักไว้ซะก่อน
“จะไปไหน”
“ไปทำงานมีแถลงข่าวเปิดตัวสินค้า”
“หยุดบ้างไม่ได้เหรอไงไหนๆก็อยู่ด้วยกันแล้ว”
“ไม่ได้งานใหญ่”
“เปลี่ยนงานดีกว่ามั๊ย” ต้นเอ่ยออกมาในที่สุด นี่ผมไม่มีเวลาให้มันขนาดนี้เชียวเหรอ อารมณ์ผมเริ่มเย็นลงบ้างเมื่อมันเดินมากุมมือผมเอาไว้
“ผมรักงานแบบนี้มันคงเปลี่ยนยาก”
“รักมันมากกว่าพี่เลยหรือเปล่า” ผมอึ้งเลยล่ะครับเมื่อมันมาไม้นี้ ปัญหาโลกแตกจริงๆ
“ผมรักพี่เหมือนเดิมนะครับ แต่กับงานผมก็ทิ้งไม่ได้เหมือนกัน พี่อย่าเอามันมาเกี่ยวกันสิครับ”
“พี่ว่าแล้วบอยเปลี่ยนไปจริงๆ” มันปล่อยมือผมกลับไปนั่งที่เดิม มันจะงอนอะไรกันนักหนาเนี่ยผ มเลยจำเป็นต้องนั่งลงข้างๆมัน
จริงๆมันก็นานแล้วเหมือนกันนะครับที่เราไม่ได้อยู่กันตามลำพังแบบนี้ ก็มีแต่โทรคุยกันเท่านั้น ผมเองก็ยุ่งจนหัวแทบจะปั่นตั้งแต่เช้ายันดึกแต่ผมก็มีความสุขที่ได้ทำงานแบบที่ผมรัก จะให้ผมไปทำงานนั่งโต็ะเคลียร์เอกสารไปวันๆ ผมคงอึดอัดตายเลยล่ะครับ
ผมเอื้อมมือไปกุมมือมันไว้มันถึงยอมหันมาสบตาผมหน้า เราสองคนชิดกันอีกครั้ง แรงดึงดูดบางอย่างจากสายตาของเราที่สื่อให้กันทำให้ผมกับมันโน้มตัวเข้าหากันแบบไม่รู้ตัว
ต้นประกบปากผมทันทีก่อนที่มันจะส่งปลายลิ้นมาสัมผัสกับผม ผมโอบกอดร่างของมันที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเท่านั้นที่มันนุ่งไว้ แต่ก็กำลังจะหลุดเต็มที่เมื่อร่างกายเราสองคนเบียดกันแน่น เราถอนปากออกจากกันชั่วขณะเมื่อผมเอนตัวมันลงบนโซฟาร่างเปลือยเปล่าของคนที่ผมรักกำลังนอนอยู่ตรงหน้าผม
ผมก้มลงไปจูบมันใหม่อีกครั้งในขณะที่มันพยายามแกะกระดุมเสื้อเชิ๊ตที่ผมสวมอยู่ ผมซุกไซร้ต้นลงมาเรื่อยๆตั้งแต่ซอกคอพร้อมๆกับที่มันถอดเสื้อผมออกได้สำเร็จ ร่างกายมันเริ่มเกร็งพร้อมกับครางออกมาเบาๆเมื่อผมไล่ริมฝีปากและปลายลิ้นมาจนถึงหน้าอกที่แข็งแรงของมัน ผิวขาวสะอาดและอกที่แข็งแรงนั้นถูกผมลงลิ้นด้วยค้วยความรัก ผมต้องการให้มันมีความสุขกับสิ่งที่ผมทำให้ ร่างเปลือยเปล่าของเราเบียดกันอีกครั้งเมื่อต้นกอดผมเอาไว้แน่น เสียงที่มันครางออกมาทำให้ผมมีอารมณ์ที่จะโลมไล้ร่างกายมันต่อได้เรื่อยๆ มือผมเองก็เอื้อมไปสัมผัสในสิ่งที่ผมหวงแหนในตัวของมันรู้สึกถึงอารมณ์ที่ตื่นตัวเต็มที่ของมันที่ผมสัมผัสได้
ต้นยิ่งครางหนักขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายก็เกร็งขึ้นมาทุกขณะเมื่อลิ้นและมือของผมไม่ยอมที่จะห่างจากตัวมันไป ผมยังคงตอบสนองมันไปเรื่อยๆตามอารมณ์ของผมที่คงตื่นเต็มที่ไม่แพ้มันเหมือนกัน ผมเลื่อนตัวขึ้นไปประกบปากมันอีกครั้งเป็นใครๆก็คงคิดนะครับว่าแฟนตัวเองเป็นคนที่จูบเก่งที่สุด ผมเองก็ไม่เคยสัมผัสลิ้นกับคนอื่น ผมเองก็เกร็งทุกครั้งเหมือนกันที่ต้นมันดุนปลายลิ้นเข้ามาพันกับลิ้นผม ผมยอมให้มันพลิกร่างผมเป็นฝ่ายนอนลงไปแต่โดยดี มันคงไม่ยอมที่จะให้ผมทำมันฝ่ายเดียว ปลายลิ้นและริมฝีปากที่มันซอกไซร้ผมก็ทำให้ผมครางออกมาได้เหมือนกัน ผมกอดร่างต้นไว้แน่นเมื่อร่างเปลือยท่อนบนของผมถูกมันซุกไซร้ไปทั่วทุกส่วน ในขณะที่มือมันก็จัดการถอดกางเกงผมออกแต่แล้วทุกอย่างก็ต้องสะดุดลงเมื่อเสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นมาซะก่อน…
เงียบไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากใครคนใดนอกจากแววตาที่มองกันเท่านั้น มันคงกำลังวัดใจกับผมอยู่ผมเองก็มีความต้องการไม่น้อยไปกว่ามัน แต่ผมจำเป็นต้องรับสายเมื่อเบอร์ที่โชว์มันเป็นของเจ้านายผมเอง….
ต้นมันยอมลุกจากร่างผมคว้าผ้าเช็ดตัวผืนเดิมมานุ่ง ท่าทางมันหงุดหงิดน่าดู ผมเองก็รู้สึกผิดแต่ทำไงได้ล่ะครับเมื่อหน้าที่ที่ผมต้องรับผิดชอบมันมาตามผมแล้ว
“ไปเหอะไม่ต้องคิดมากหรอก...” ต้นบอกผมเครียดๆในขณะที่มันพาตัวเองไปนั่งก้มหน้าอยู่บนที่นอน ผมรู้สึกไม่ดีเลยล่ะครับ
“ผมขอโทษ”
“ไม่จำเป็น…” ต้นมันสวนกลับผมเร็วมากก่อนที่มันจะผลุนผลันลุกขึ้นแต่งตัวทำเอาผมตกใจ
ผมยิ่งเครียดมากกว่านั้นเมื่อได้ยินถ้อยคำที่มันเอ่ยออกมา ก่อนที่มันจะผลุนผลันออกจากห้อง
“คนอื่นที่เขาต้องการพี่มีเวลาให้พี่ และก็รอพี่อยู่ก็ยังมี…………….”
มันปิดประตูปังออกไปแล้วแต่ผมแทบจะไม่มีแรงที่จะยืนขึ้น
ต้นมันจะไปหาใคร??….