EP.5ุ7 (ติ๊กXเดี่ยว)ช่วยเป็นแฟนต้นข้าว
Part's เดี่ยว ตื่นมาแต่เช้าแต่งตัวหล่อๆ เหมือนเช่นทุกวัน ก่อนออกจากห้อง ผมก็ไม่ลืมที่จะหยิบแฟรซไดร์ที่ติ๊กมาวางไว้ให้เมื่อคืนจะเอาไปเปิดฟังในรถต่อ ระหว่างที่ผมเดินลงมาชั้นล่าง ผมก็เห็นไอ้ดิว มันยืนรอผมอยู่คนเดียว ผมก็มองหาว่าไม่มีใครแล้วเหรอ รวมไปถึงติ๊กด้วย ดิวมันหันมามองผมก่อนจะหันไปมองรอบๆ ตัวมันเหมือนที่ผมทำเช่นกัน
“มึงมองหาใครวะ ถ้าไอ้แจ็ค บอย ไอ้หลุยส์และธรรณ์ล่ะก่อ เขาไปกันหมดแล้ว” ไอ้ดิวพูด ผมก็มอง จะมองหาเขาทำไมเพราะว่าเขาก็ไปคนละคันกับผมอยู่แล้ว ไอ้ดิวมองหน้าผมและมันก็ยิ้มกริ่ม ผมว่ามันก็คงรู้ดีว่าผมมองหาใคร
“อยู่ในห้องครัว เขาต้องดื่มเครื่องดื่มบำรุงผิวพรรณกันก่อนออกจากบ้าน” ไอ้ดิวพูดและสามหนุ่มเหลือน้อยก็เดินออกมาจากห้องครัวทันที
“อะไรไอ้ดิว กูได้ยินน่ะ กูดื่มโปรตีนโว้ย!!” ติ๊กเป็นคนแรกที่ถามไอ้ดิว
“เดี่ยว!! “พายเรียกผมแถมยังจะเข้ามาหาผมแต่ว่ามีคนดึงเอาไว้ซะก่อน คนนั้นคือติ๊ก
“มึงนี่ก็แสดงออกเกิ้น!! เก็บอาการบ้างเถอะมึง” ติ๊กพูดก่อนจะลากแขนพายและแอ้เดินออกไปทันที ไอ้ดิวมันมองหน้าผม ขยิบตากับผม ผมก็มองหน้ามัน มันก็ยิ่งขยิบตา ผมก็มองเพ้งเข้าไปในตาของมัน
“โอ๊ย!!” สุดท้ายผมต้องเป็นคนจับให้มันเลิกขยิบตา
“อะไรของมึง!” ผมถามไอ้ดิว ไอ้ดิวมันชะโงกมองสามคนนั้นเดินออกไป
“กูอยากไปกับแอ้ มึงช่วยกูหน่อยดิ” ไอ้ดิวมันกระซิบกับผม ผมก็มองหน้ามัน เอาอีกแล้ว แต่สายตามันอ้อนวอนผม ผมก็เลยใจอ่อน ผมสองคนรีบเดินตามสามหนุ่มออกมาทันพอดี ติ๊กหันมามองผมกับไอ้ดิว
"กูไปกับมึงนะแอ้ "ติ๊กบอกแอ้ทันที ผมหันไปมองไอ้ดิว ไอ้ดิวดึงผมถอยหลังออกมาก่อนจะทำท่ากระซิบกับผม //รถไม่มาหนึ่งคันวันนี้//ไอ้ดิวมันกระซิบกับผม ผมก็พยักหน้า
"ไม่ไปกับไอ้เดี่ยวละว่ะติ๊ก "ไอ้ดิวถามติ๊ก
"นั้นดิรถไอ้เดี่ยว...ก็มีอีกคัน "พายอีกคน แอ้ไม่ได้พูดอะไร ผมไม่เคยเห็นแอ้ขัดใจอะไรติ๊กเลยนะ
“มึงก็ไปกับมันดิ” ติ๊กหันมาบอกพายโดยไม่มองหน้าผม
"เออ ขอบใจนะ แฟรซไดซ์ที่ให้มานะกูไม่ดูหนังเอ็กซ์ในรถ"ผมพูด ติ๊กมันแค่ยักไหล่แต่ก็ต้องไถลเพราะว่าผมบอกมันคือหนังโป้
"กูให้ผิดอันไปเหรอว่ะ "ติ๊กมันรีบพูดและผมก็เดินหันหลังออกทันที
ผมรีบเดินไปขึ้นรถของผมที่จอดเอาไว้รีบเปิดประตูเข้าไปและก็มี่คนวิ่งตามผมมาติดๆ และรีบเปิดประตูเข้ามานั่งในรถผม ดูสีหน้าแล้วน่าจะโมโหที่ผมบอกว่าเขาโหลดหนังโป้มาให้ผมแน่ๆ ผมเหลือบมองผ่านกระจกมองหลัง ก็เห็นไอ้ดิวก็วิ่งขึ้นรถมันไปมันลากแขนไอ้แอ้ขึ้นไปด้วย ส่วนพายก็วิ่งขึ้นรถไอ้ดิวไปทันที
“มึงบอกว่ากูโหลดหนังโป้ให้มึงเหรอว่ะเดี่ยว “ติ๊กมันถามผม ผมก็ยักไหล่
"ไม่รู้ซิ แต่มันซี้ดซ้ดด สนั่นเลยอ่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าชอบแบบนี้ด้วย ะ"ผมพูดก่อนจะสตาร์ทรถ
"ไม่จริงอะ ไหนมึงลองเปิดดิ "ติ๊กพูดและหันมามหน้าผมและมองที่แฟลซ์ไดร์ในมือของผม
“เปิดเดี๋ยวนี้!!” ติ๊กบอกผมเป็นเชิงออกคำสั่ง ผมก็เสียบแฟล็ซไดร์และเลือกเมนูเปิด มันก็ขึ้นมาที่เพลงโปรดของผมทันที เพลงของพี่ตูน
อยากดีพอ ให้เธอได้มั่นใจ ปับ ปา ดับ ปับ ปับ ปา เย เย้
แต่ที่พอมี ก็แค่ทั่วๆ ไป มั่นใจ ปับ ปา ดับ ปับ ปับ ปา เย เย้
ความจริงคือเธอยังลังเล ยังไม่เทให้กันหมดหัวใจ
กังวลว่าเธอจะเจอใคร ที่รักเธอเหมือนกัน
ฉันก็เลยแค่ขอให้...เธอ…..
[/i]
"ไอ้เดี่ยว!!! "หันขวับมามองผมทันที ผมก็หันไปมองคนเรียกผม นึกว่าจะทำหน้าซึ้งเพราะว่าเพลงแต่ไม่ใช่
"โอ๊ย!! “เสียงผมร้องออกมาเพราะว่าติ๊กมันบิดหูผมสองข้างพร้อมกันเลย ผมรีบเอามือกุมหูตัวเองแทบไม่ทัน
"ปึก"เสียงปิดประตูของคนที่นั่งข้างๆ ผม แต่ทว่าเขาไปกันหมดแล้ว
“อ้าว! แล้วกูละ"ติ๊กพูดออกมาและมองไปรอบๆ
"ก็คันนี้ไง หรือจะเดินไปก็ดีนะ ฝุ่นก็แดง แดดก็ร้อน กว่าจะถึงคงจำสภาพเดิมไม่ได้แน่ "ผมพูด ติ๊กหันมามองหน้าผม
“ถ้าอย่างนั้นก็ยืนตัดสินใจไปก่อนแล้วกันนะ “ผมก็ค่อยๆ ออกตัว ติ๊กหันมาทำท่าจะก้าวเท้าขึ้น ผมก็แกล้ง ออกตัวอีก ขึ้นไม่ได้ และหยุด พอจะขึ้นออกตัวอีก
“เห้ย! มึงจะให้กูไปด้วยไหมไอ้เดี่ยว” ติ๊กทำท่าโมโห ผมเอียงหัวมองคนที่ยืนหน้ามุ้ย ทำไมเวลาโกรธถึงได้น่ารักแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้คนนี้ และนี้ก็คือสาเหตุที่ทำให้ผม ชอบแกล้งเขา
“อะจร๊าไม่แกล้งแล้ว ขึ้นเลย “ผมพูดผมหยุดรถแล้ว อีกคนขึ้นมาหน้างอมาเลย ผมก็เปิดฟังเพลงที่เขาโหลดมาให้ผมไปด้วยในแฟล็ชไดซ์ แต่ล่ะเพลงเพราะๆ ทั้งนั้นมีทั้งเพลงสนุกและเพลงเศร้า
"เพลงเพราะดีนะ ทุกเพลงเลย "ผมเอ่ยขึ้นและมองคนข้างๆ ดูน่าเศร้าๆ นะ
"อืมม"อีกคนตอบมา
"ไม่อยากมาด้วยขนาดนั้นเลยเหรอ"ผมถามติ๊ก
"เปล่านี่ "ติ๊กหันมามองผม และหันกลับไปกดเลือกฟัง ระหว่างที่ผมกำลังขับรถไปที่โรงเรียน ติ๊กก็ไม่ได้นั่งเปล่า หันไปเปิดนั้นดูนี้ในรถผมไปทั่ว ผมก็ขับไปและหันมาเหล่มองไปด้วย ค้นหาอะไรของเขานะ ทำยังกะว่าเป็นแฟนพยายามจับให้ได้ว่ามีกิ๊กหรือเปล่าอย่างนั้นแหละ
"รถรกมาก"ติ๊กบ่น เขาบ่นเหมือนแม่ผมไม่มีผิดเลย แม่ผมคือผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด ผมพูดกับแม่ว่า ผมจะรักคนที่ผมรักให้เหมือนผมรักแม่ผม
"อะไรที่ไม่ใช้ทิ้งบ้าง จะเก็บไว้ชิงโชคเหรอ รถก็ดูดีนะ ภายนอกอะ" ติ๊กยังคงตั้งตาบ่นผมอยู่และจัดรถให้ผมไปด้วย แต่ผมกลับชอบ เพราะว่ามันทำให้ผมคิดถึงแม่ผม แม่บ่นผมทุกอย่างแต่บ่นเพราะท่านรักผม แล้วคนนี้ละบ่นเพราะอะไรนะ ผมอยากจะรู้
"คนขับก็ดูดีนะ ว่าไหม"ผมพูดคนที่จัดรถผมก็หันมาชำเลืองตามอง
"นิดหนึ่ง"ติ๊กพูด
"นี้รูปใครอะ"ติ๊กถามผมพร้อมกับหยิบรูปถ่ายออกมาจากลิ้นชักด้านหน้า ผมก็ชะเง้อมอง รูปถ่ายผมตอนเด็กๆ ผมถ่ายกับพ่อของผม
"รูปเราตอนเด็กๆ ถ่ายกับพ่อ ตอนไปหาพ่อที่ค่ายฯ แหละนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เราได้เข้าไปในนั้น "ผมพูดบอกติ๊ก
“แล้วตอนนี้ละ พ่อนายน่ะไปประจำการที่ไหนเหรอ” ติ๊กถามผม ผมหันไปมองหน้าติ๊ก ผมนิ่งไปหลายวินาทีเหมือนกัน
“พ่อเราเสียไปแล้ว” ผมตอบติ๊ก ติ๊กหันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่มันดูว่าเขาก็เห็นใจผม
"ตอนเด็กๆ อ้วนวะ แก้มป่องเลยอะ "ติ๊กพูดและมันก็ทำให้มต้องก้มลงดู รูปนั้นอีกครั้ง ตอนรถติดไฟแดงกลิ้นน้ำหอมอ่อนๆ โชยมาแตะจมูกผม ผมเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด
"ปี้ปๆๆๆ "เวรแล้วไฟเขียว ผมรีบออกตัว ติ๊กมองผมค้าง
"น้ำหอมมันหอมน่ะ"ผมพูดเอามือเกาหัวแก้เขิน
"ชอบกลิ่นนี้เหรอ "ติ๊กถามผมและดมเสื้อต้วเอง
"อืม "ผมตอบในลำคอ
"ให้เอาไหม น้ำหอมอ่ะ มีเยอะ"ติ๊กหันมาพูดกับผม
"ไม่อะ…กลิ่นมันหอมแบบดูอ่อนหวานเกินไป "ผมพูดและทำให้คนฟัง แอบค้อนผมด้วย
"ไม่เห็นมีกลิ่นน้ำหอมเลย ไม่ฉีดบ้างเหรอ"ติ๊กยืนหน้ามาดมกลิ่นน้ำหอมที่ตัวผมขณะที่ผมกำลังขับรถ ผมนี้ตกใจเลย
“เว้ยย! ติ๊ก..ทำอะไรนะ?” กลับกลายเป็นผมเองที่เสียหลักคือมันเขินมาก ติ๊กเงยหน้ามองผมแว๊ปหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปจัดของต่อ
"ซื้อไม่เป็น"ผมตอบติ๊ก ตอนนี้มาถึงโรงเรียนแล้วแต่รถทุกคันจอดด้านนอกเหมือนปกติทุกครั้ง ผมก็เดินลงมาจากรถ ไอ้ดิวมันส่งสัญญาณว่าเข้าไปก่อน ผมหันมามองติ๊กที่กำลังเก็บขยะในรถผมใส่ถุงและออกมายื่นให้ผม
“เก็บไว้ชิงโชคฝาโองเหรอมึง” ติ๊กมันถามผม แต่ผมกลับไม่โกรธนะ ยิ้มให้ด้วย ผมรับถุงขยะมาจากติ๊กเพื่อจะได้เอาไปใส่ถังขยะ ขณะที่ผมกำลังเดินเข้าไปด้านใน สายตาผมก็เหลือบไปเห็นไอ้ต้นข้าวที่มากับใครก็ไม่รู้และมีไอ้บลูมาด้วย ผมมองดีดี นั้นมันไอ้กีตาร์นิ ที่มาส่งต้นข้าว ผมจำรถเก๋งมันได้ ไอ้นี่บ้านมันรวย ไอ้กีตาร์ มันมีพี่ชายชื่อซอ มีน้องสาวชื่อเปียโน บ้านนี้มีโรงเรียนสอนดนตรีและมีธุรกิจอื่นๆ อีก ผมกับติ๊กหยุดรอต้นข้าวเพื่อจะได้เข้าไปพร้อมกัน แต่เล่นเดินหน้างอคอหักมาแบบนี้ ผมพยักพเยิดให้ติ๊กมองต้นข้าว ไอ้ต้นข้าวมันเดินลากไอ้บลูออกมาและหันไปส่งนิ้วกลางให้ไอ้กีตาร์ ไอ้นี่มันหล่อและเท่แต่ผมว่ามันออกจะแนวโรคจิตไปหน่อยเหมือนเพื่อนมันไอ้ธงรบ
“แม่งทำไมซวยได้ขนาดนี้ว่ะ กู” ไอ้ต้นข้าวมันเดินบ่นงุ้งงิ้งๆ เข้ามาจนถึงพวกผม
“เป็นอะไรของมึง” ไอ้ติ๊กมันถาม ไอ้กีตาร์มันออกมายืนโบกไม้โบกมือให้ต้นข้าวอีก ติ๊กก็ชะเง้อคอมองและไอ้ต้นข้าวมันก็หันไปมองพร้อมกับนิ้วกลางให้แบบเต็มๆ ตา แต่ว่าไอ้คนที่ยืนนั้นมันกลับส่งนิ้วเลิฟยูกลับมาให้ไอ้ต้นข้าวแทน พร้อมกับส่งจูบด้วย ไอ้อ้นต้นข้าวหันมามองผมสองคน
“มึงดูดิ อะไรจะซวยขนาดนี้ ไอ้โรคจิตนี้แม่ง เป็นลูกของเพื่อนรักพ่อแม่กู” ไอ้ต้นข้าวพูด ผมสองคนถึงกับพยักหน้าพร้อมกับใช่แล้วซวยได้อีก
“พอดีครอบครัวไอ้บ้านี้เขาเพิ่งจะย้ายกลับมาและมันเพิ่งไปทานข้าวบ้านกูมาว่ะเมื่อวานนี้” ไอ้ต้นข้าวพูด
“และมันก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับไอ้แชมป์อีก ไอ้คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ที่มันจีบไอ้บลูอ่ะ ซวยซ้ำซวยซ้อน! “ไอ้ต้นข้าวพูดและหันมาเหล่มองไอ้ลูกบลูมันที่ยืนทำท่าสำนึกผิด
“แล้ว?” ติ๊กถามมั้นสองคน
“มันอยากให้กูไปเรียนโรงเรียนเดียวกับมันว่ะ ดูมันดิ มันพยายามใส่ไฟพวกมึงอีกและพ่อแม่กูก็กำลังจะหลงเชื่อมันอีก รอบที่แล้วดีที่พี่แฮกซ์ไปช่วยพูดให้กูเลยได้กลับมาเรียนแต่รอบนี้เจอไอ้นี่เข้าไปกูว่าพ่อแม่กูคงได้หาที่เรียนใหม่ให้กูแน่ๆ ว่ะ” ไอ้ต้นข้าวพูด ผมดูสีหน้ามันแล้ว มันคงเซ็งมาก
“โอ๊ยย เซ็งว่ะ!!” ไอ้ต้นข้าวพูด ติ๊กพยักหน้าก่อนจะหันมามองหน้าผม
“เอาอย่างนี้กูมีแผนว่ะ” ติ๊กพูดพร้อมกับหันมามองหน้าผมอีกครั้ง มองผมแบบชัดเจนมากกว่าผมถึงกลับชี้หน้าตัวผมเอง ผมนี่น่ะคือแผน ติ๊กพยักหน้า
“ให้ไอ้เดี่ยวมันเป็นแฟนมึง” ติ๊กพูด ผมกับต้นข้าวสะบัดหน้ามามองหน้าติ๊กพร้อมกันเลย
“ห๊ะ!!” อุทานพร้อมกันด้วย
“ไม่ต้องไปหาที่ไหน ไอ้เดี่ยวนี่แหละ” ติ๊กพูด ผมส่ายหัวไปมาทันที ผมว่ามันไม่เวิร์คหรอก ผมเคยเจอไอ้นี่ ไอ้นี่มันโรคจิตและมันก็ฉลาดมาก ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ได้ฉายามือแฮกขั้นเทพหรอก...ไอ้กีตาร์น่ะ
“ไอ้นี่มันไม่ใช่คนโง่ติ๊ก มันโคตรฉลาด มันไม่เชื่อหรอก” ผมพูด
“ทำไมอ่ะ มึงช่วยเพื่อนแค่นี้ไม่ได้เหรอ ห๊ะ!! “ติ๊กพูด พร้อมกลับยืนเอามือเท้าเอวมองผม สายตานี้ดุเดือดมากแล้วแบบนี้ใครจะกล้าปฏิเสธ ผมเลยต้องพยักหน้าหงึกๆ
“มึงทำเป็นว่ามึงเป็นแฟนไอ้ต้นข้าวมันหน่อย” ติ๊กกระซิบบอกผม ผมหันไปมองหน้าติ๊กจะดีเหรอ
“ช่วยมันหน่อยดิว่ะ เพื่อนกันหรือเปล่า” ติ๊กพูดผมหันมามองต้นข้าวที่ยืนหน้าบึ้งเอาว่ะ
“ให้ทำไงอ่ะ” ผมถามติ๊กกลับ
“ถือกระเป๋าให้กันและเดินจับมือ” ติ๊กกระซิบข้างหูผม ผมหันมามองเอาขนาดนี้เลยเหรอ
“เร็วดิ” ติ๊กมันพูดเชิงบังคับผม ผมสั่นหัวเล็กน้อยก้อนจะแบมือขอกระเป๋าไอ้ต้นข้าว ไอ้ต้นข้าวมันก็ทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามใส่ผมทันที “?” ทำหน้างงและมองมือผมที่แบอยู่ตรงหน้ามัน
“อะไรของมึงอ่ะไอ้เดี่ยว” ไอ้ต้นข้าวมันถามผม ผมหันมามองไอ้ผู้กำกับ นักแสดงมันไม่รับบท
“ไอ้ต้นข้าว! ให้ไอ้เดี่ยวมันถือกระเป๋าให้มึงและทำเหมือนมึงกับมันเป็นแฟนกันไง "ติ๊กบอกต้นข้าว
"ทำไมว่ะ"ต้นข้าวมันถามติ๊กกลับ "แกล้งเป็นแฟนกันเพื่อไอ้โรคจิตนั้นมันรู้ว่ามึงมีแฟนเดี๋ยวมันก็เลิกตามมึงเอง” ติ๊กพูด ไอ้ต้นข้าวหันไปมองไอ้โรคจิตนั้นก่อนจะส่งกระเป๋ามาให้ผม
“ปึก” มันวางได้แมนมาก จนผมนี่แทบจะหน้าทิ่มตามแรงกดมันทันที
“วางเบาๆ ก็ได้ไอ้ข้าว” ผมบ่นอุบทันทีและก็เอามาถือให้ก่อนจะหันไปมองติ๊ก
“จับมือ” ติ๊กพูดผมก็มองหา
“ไหนละมือ” ผมถาม
“นี้ไงหรือมึงคิดว่านี่ขาหน้ากูล่ะ ไอ้เดี่ยว!” ต้นข้าวยื่นมาให้ผม ผมก็ต้องกุมมือแบบเกๆ กังๆ มันไม่ใช่คนที่ผมอยากกุมมือนี้ครับ
“แนบชิดหน่อยดิมึง” ติ๊กมันดันให้ต้นข้าวเข้ามาใกล้ชิดผมอีกและติ๊กมันก็เดินอยู่กับบลู มันยักคิ้วหลิ่วตากันสองคน ผมก็เดินผ่านนักเรียนที่หันมามองผมกันใหญ่เลย
“แฟนพี่ต้นข้าวคือพี่เดี่ยวเหรอวะ” แต่ละคนพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจจนกระทั่งผมมาเจอไอ้เด็กที่มันพาบลูไปกับมัน แน่นอนมันหันมามองผมกับต้นข้าวพร้อมทั้งยังแอบถ่ายรูปผมกับไอ้ต้นข้าว คงส่งไปให้ไอ้โรคจิตนั้นดูแน่ๆ พวกผมเดินมาถึงก็เห็นพวกไอ้ดิวมันยืนอยู่ มันเข้าห้องอาหารไม่ได้และผมก็ทำท่าจะปล่อยมือไอ้ต้นข้าว
“อย่าเพิ่งปล่อยมือไอ้ข้าวดิว่ะไอ้เดี่ยว!” ติ๊กบอกกับผม
“เพื่อว่าไอ้แชมป์มันอยู่แถวนี้ ผมหันมามองติ๊ก ตัวต้นคิด ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ไม่เห็นมันแล้วเนี่ย
“ห้องอาหารปิดว่ะ น่าจะเป็นเพราะว่าตีกันเมื่อวานอ่ะ" ไอ้ดิวมันพูดก่อนจะหันมามองผมที่เหมือนเบ้ไอ้ต้นข้าวเลยแถมยังจับมือกันอีก ไอ้ดิวมันมองหน้าผมและมองมือผมที่กุมมือไอ้ต้นข้าวเอาไว้ ส่วนไอ้คนที่ผมกุมมือมันก็เดินมองไปรอบๆ ไม่ได้ทำหน้าฟินเหมือนคนเป็นแฟนกันสักนิด
“มึงจูงไอ้ต้นข้าวทำไมว่ะ กลัวมันหลงเหรอ” ไอ้ดิวมันถามผม ผมก็ก้มลงมองมือตัวเองที่กุมมือมันเอาไว้
“กูให้มันแสดงเป็นแฟนไอ้ต้นข้าว” ติ๊กเป็นคนพูด
“ฉิบหายแล้ว!” ไอ้ดิวมันสบถออกมาไอ้ต้นข้าวมันสะบัดหน้ามามองไอ้ดิวทันที
“นี้ชมเหรอ” ไอ้ต้นข้าวถามไอ้ดิว
“ไอ้ต้นข้าวมันบอกว่าไอ้โรคจิตที่พยายามแจกขนมจีบมันเมื่อวานน่ะ ไปกินข้าวที่บ้านมันและพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้พ่อแม่ต้นข้าวมันย้ายต้นข้าวไปเรียนที่อื่นและไอ้โรคจิตนี้มันก็ชอบต้นข้าว กูเลยให้ไอ้เดี่ยวแสดงเป็นแฟนมัน” ติ๊กพูดและผมก็หันไปเจอพายที่เดินมากับแอ้
“เดี่ยวจร๊า” พายเดินตรงดิ่งมาหาผมก่อนเบรกสุดตัวจนหัวแทบทิ่ม
“เดี่ยว!! ทำแบบนี้ได้ยังไง นอกใจพายเหรอ” พายพูด
“หลักฐานเห็นๆ เลย ทำแบบนี้กับพายได้ยังไง ฮึก ฮึก ฮึก” พายแสดงได้เหมือนคนอกหักเลยจริงๆ ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหยุดมองผม พายเองก็เดินมานั่งกระหนาบข้างกับผมทันที ตอนนี้ผมคือคนกลางที่หนักใจมาก
“สงสัยต้องเพลงนี้แล้วแหละ” พายหันมามองไอ้ต้นข้าวก่อนจะหยิบเอาปากกาออกมาแทนไมโครโฟน
“เธอ หรือเธอบ่ฮู้จัก ว่าเขาคือคนฮัก ของเฮา มาแต่ดน เธอ คือจั่งหน้าด้าน หน้าทน แอบแชท แอบคอล ขอเบิ่งอีหยังกัน” เพลงขึ้นมาทันที ต้นข้าวสะบัดหน้าไปมองพาย ก่อนจะงัดเอาปากกาขึ้นมาบ้าง ไมโครโครโฟนเหมือนกัน อย่าบอกนะว่าจะแบทเทิลกันน่ะ ถามผมสักนิดเถอะ!!
“ตบมือข้างเดียวสิดังติ้ ถ้าแฟนเธอบ่มีใจ ถ้าฉันเล่น เขาปฏิเสธไป กะจบส่ำนั้น แต่นี่เขาบอกว่าเขา โสด อยู่ในโหมดแฟนตาย ไปหลายวัน แล้วเธอ สิให้ฉัน เฮ็ดจั่งได๋” ผมถึงกลับกุมขมับตัวเอง ต้นข้าวยืดอกยื่นล้ำมาขนาดนี้ และมีเหรอที่น้องพายจะยอมน้อยหน้า ยืดมายืดใส่ไม่โกง และสองคนหันมาประชันกัน ผมคนกลางที่ยืนตัวลีบ
“แต่ถ้าเธอฮู้แล้ว เธอสิเลิกอยู่เบาะ” น้องพายถามต้นข้าวกลับ
“บ่ เฮาเลิกบ่ได้ กะคนมีฮักหมดใจไปแล้ว) )) )” ต้นข้าวมันก็ร้องพร้อมกับทำมือด้วย การแบทเทิลกัน แถมยังทำฟุตฟิตใส่กันเอง กลิ่นปากตัวเองละซิ ผมเงยหน้าขึ้นมองทั้งคู่ ก่อนจะมองทุกคน ไม่มีใครจะช่วยห้ามศึกหน่อยเหรอ แต่ล่ะคนส่ายหัวพร้อมกับโบ้ยปากให้ผมนี่แหละเป็นกรรมการ
“พอ!!!” ผมต้องเป็นคนห้ามทับเองว่าให้พอเถอะ
“พอเถอะครับ!! ฉายาที่ใครก็ว่าโหด พังหมดแล้ว น่ะ ทั้งคู่เลย” ผมพูดก่อนจะมองทั้งสองคนพยักหน้าด้วยข้อร้องเลย ฉายาที่เขาล่ำลือกันของเดี่ยว และทั้งสองคนก็ยอมหยุดและสะบัดบ๊อบใส่กันก่อนจะถอยออกมาและพากันควงแขนผมซ้ายขวา ผมหันไปมองซ้ายทีขวาที ยังจะถอยกลับมาทีเดิมอีกเหรอ
“อินเนอร์มาเต็มๆ ไอ้เดี่ยว เมียหลวงและเมียน้อยมึง” ไอ้ดิวมันพูด
ผมหันไปมองรอบๆ เด็กๆ ห้องอื่นก็ยืนดูสองคนนี้แบทเทิลเพลงรักควรมีสองคนผมหันมามองไอ้ดิวขยิบตาว่าให้ทำอะไรสักอย่างดิและทั้งสองคนก็จับแขนผมไว้แน่นเลยไม่ยอมปล่อย ผมหันมามองไอ้ดิวอีกทีแต่ว่ามันก็ยักไหล่กลับมาว่าไม่สามารถ ผมหันมามองหาไอ้ผู้กำกับว่าให้มันสั่งคัตให้ผมที แต่ว่าหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว ผมก็ไม่เห็นแอ้ ดังนันผมน่าจะเดาได้ว่าไปกับแอ้ ผมก็เลยค่อยๆ แกะมือต้นข้าวให้มันไปจับมือพายแทน ส่วนผมก็รีบถอนตัวเองออกไป ไอ้ดิวมันยืนรอผมอยู่แล้ว ดังนั้นผมก็รีบเดินออกไปไอ้ดิวทันที ผมขออนุญาตทิ้งเลยครับทั้งคู่ ไอ้ดิวมันหันมามองผม มันกลั้นหัวเราะผมด้วย
“เป็นไงล่ะ เขาให้ทำอะไรก็ทำ ยังไม่ทันได้เป็นแฟนเขาเลย มึยอมเขาขนาดนี้แล้ว “ไอ้ดิวพูด ผมถึงกลับเกาหัวแกร็กๆ คันที เพราะว่ามันตรงมาก ผมเองไม่เคยยอมใคร มีคนเดียวจริงๆ
“กูว่า…ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่าว่ะ ที่สหกรณ์น่ะ พอจะมีขนมนิดๆ หน่อยแก้หิวว่ะ” ไอ้ดิวมันพูดและ
ผมก็เดินแทรกตัวเข้าไปในสหกรณ์ของโรงเรียน ปกติจะมีแค่พวกสมุดปากกาแต่ว่าวันนี้มีพวกแซนด์วิชด้วย ครูคงรู้ว่าห้องอาหารอยู่ในสภาพที่เละมากแม่ค้าคงทำอะไรขายกันไม่ได้วันนี้ ผมกับไอ้ดิวก็หาซื้ออะไรทานกันจนออกมาก็เจอต้นข้าวกับพายที่ยังฟาดฟันกันไม่เลิกจนสัญญาณเข้าแถวดังนั่นแหละ ระหว่างที่ผมเดินผ่านคนอื่นๆ ไปเข้าแถวพายและต้นข้าวก็เข้ามาแย่งจะควงแขนผม
“ไอ้เดี่ยว ไอ้แชมป์มันยืนมองมึงใหญ่เลยว่ะ กูว่ามันต้องรายงานไอ้กีตาร์แน่ๆ เลยว่ามึงกับไอ้ต้นข้าวเป็นแฟนกันของจริง” ติ๊กเดินมากระซิบกับผม ผมก็มองสองคนที่ยื้อแย่งผมอยู่นี้
“ดูท่างานนี้มึงคงได้โชคสองชั้น ได้กินทั้งยอดข้าวและขนมพายไปพร้อมๆ กัน” ไอ้ดิวมันพูด ผมหันมามองพวกไอ้แจ็คที่เดินตามมาเข้าแถว มันก็มองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“มึงพ่นยาเสน่ห์ใส่ไอ้ต้นข้าวมันเหรอวะ” ไอ้แจ็คมันถามผม ผมอยากจะส่งนิ้วกลางก็ส่งไม่ได้ติดสองคนนี้ มีคนแอบขำผมอยู่ บอยและธรรณ์
“นักเรียนเข้าแถวค่ะ จะมายื้อแย่งอะไรกันนี่มันเวลาเข้าแถวหรือจะให้ครูพาเธอสามคนออกไปยืนเข้าแถวพิเศษด้านโน้น ไปแย่งกันตรงโน้นเลยดีไหมคะ!” คุณครูเดินมาแยกผมสามคนพอดี ผมแทบจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณจริงๆ และทั้งสองคนก็ถูกส่งไปเข้าแถวที่ด้านหน้าแทนให้ห่างจากผมสักพัก
ผมหันมามองติ๊กที่ชะเง้อมองหาว่าไอ้แชมป์มันจะมองผมอยู่ไหม ผมแอบสั่นหัวไปมา ทำไมผมรู้สึกน้อยใจแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ น้อยใจที่เขาพยายามให้ผมจีบคนอื่นอยู่นั่นแหละแต่เขาแสดงสีหน้าไม่พอใจถ้าเป็นปู จะว่าไปผมก็หันไปมองหาปูเหมือนกันแต่ว่าไม่เจอหรือว่าช่วยแม่ของป๊อดอยู่ ก็ไม่น่าจะใช้น่ะเพราะว่าวันนี้ห้องอาหารปิด ตอนบ่ายเดินไปหาที่ห้องดีกว่าผมแอบยิ้มกริ่มก่อนจะหันมาเจอคนที่ยืนมองผม เขาคงเดาสายตาของผมได้ว่าผมมองหาใครอยู่ ติ๊กหันหน้าไปมองทางอื่นทันที ผมยืนจนกิจกรรมหน้าเสาธงจบลง และพากันแยกย้ายขึ้นห้องเรียน ผมเดินแถวออกมาจนเจอเพื่อนของปูยืนอยู่
“เธอ ปูล่ะ” ผมถามผู้หญิงในกลุ่ม เธอหันมามองหน้าผมก่อนจะส่งยิ้มให้ผม
“ปูเหรอ เขาขอครูที่ปรึกษาเข้าสายน่ะเห็นบอกว่าต้องป้อนข้าวและป้อนยาแม่ก่อนน่ะเดี่ยว” เพื่อนของปูบอกผม ผมพยักหน้า ผมหันมาเห็นติ๊กเดินมาหยุดมองและเดินแทรกขึ้นไปทันที
“เราไปก่อนน่ะ ปูคงใกล้จะถึงแล้วแหละ” เพื่อนๆ ของปูคงรู้ว่าติ๊กไม่พอใจเลยพากันแยกตัวออกไป ผมหันไปมองคนที่เดินขึ้นไป ผมก็รีบเดินตามไปติดๆ
“หมับ” ก่อนจะรีบคว้าแขนเขาเอาไว้ ผมมองหน้าติ๊ก
“มีอะไรจะขึ้นห้อง” ติ๊กพูดโดยไม่มองหน้าผม
“ทำไมต้องแสดงอาการไม่พอใจทุกทีที่เดี่ยวถามหาปูด้วยล่ะ” ผมถามติ๊ก ติ๊กมองหน้าผม
“กูเหรอแสดงความไม่พอใจ คิดเองหรือเปล่า” ติ๊กพูดและทำท่าจะสะบัดมือผมให้ปล่อยแขนเขา
“หึงเหรอ” ผมถามติ๊ก ติ๊กมองหน้าผม
“หึงก็บอกดิ ถ้าไม่อยากให้ไปจีบคนอื่นก็บอกดิ แค่บอกมา จะเอายังไง” ผมบอกติ๊ก ติ๊กมองหน้าผมนิ่งๆ
“ใช่กูไม่อยากให้มึงจีบปู แต่กูอยากให้มึงจีบไอ้ต้นข้าว มันเหมาะกับมึงมากกว่า นี้ไงเหตุผล” ติ๊กพูด ประโยคนี้ทำให้ผมต้องปล่อยแขนติ๊กทันที จังหวะนั้นต้นข้าวเดินขึ้นมาพร้อมกับแอ้พอดี ส่วนพายน่ะเดินถ่ายทำวิดิโอเพื่อไปลงติ๊กต๊อกกับบลู ทุกคนหยุดมองผมกับติ๊กสลับกันไปมา
“นี้ไงที่มึงอยากให้กูบอก กูก็บอกแล้วไงเดียว ทำได้ป่ะล่ะ” ติ๊กพูดก่อนจะเดินขึ้นไปทันที แอ้มองหน้าผมก่อนจะเดินแทรกตัวขึ้นไปหาติ๊กก่อน ต้นข้าวก็เลิกคิ้วมองผมอีกคน
“เพราะกูหรือเปล่าว่ะ ถ้าใช่กูขอโทษว่ะเดี่ยว” ต้นข้าวพูด ผมสั่นหัวว่าไม่ใช่มันหรอก
“ไอ้คนที่มึงก็รู้ว่ามันปากแข็งอ่ะดิ” พายพูด
“ไปขึ้นห้องเถอะเดี่ยว” ดิวมันเดินตามมาผมไม่รู้ว่ามันได้ยินอะไรไหมแต่ว่ามันโอบไหล่ผมและพากันเดินขึ้นห้องไปเลย ผมนั่งเรียนตามปกติ พวกภาคินมันก็อยู่ในห้องเรียนรอพวกผมแล้วแต่ว่ามันดูเป็นมิตรมากกว่าทุกวัน จะว่าไปแค่ช่วยเด็กนั้นพวกมันถึงกับเปลี่ยนความคิดด้านลบกับพวกนี้ได้มากขนาดนี้เลยเหรอ ผมล่ะเชื่อเลยว่าพวกนี้มันมีดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ
TBC...