บันทึก(รัก)ยมทูติ
บทส่งท้าย
ฝันที่กำลังกลายเป็นจริง
เสียงดนตรีในงานศพดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ บรรดาสื่อต่างให้ความสนใจกับการจากไปของเจ้าของสื่อใหญ่อย่างช่องพีเพิ้ลแชแนล อย่างดนัย ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าการจากไปนั้นเกิดจากสาเหตุใด รู้เพียงว่าการจากไปในครั้งนี้เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุใหญ่ที่เป็นข่าวดังอยู่หลายวัน เพราะเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ
ผู้คนในงานต่างเดินใส่ชุดดำมานั่งอยู่ตามเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินที่วางเอาไว้จนเกือบจะเต็มไปทั่วศาลา บริเวณใกล้สุดมีโซฟาสีขำที่ถูกขัดจนมันขวับอยู่สามตัวยาวๆซึ่งมีหลายคนกำลังนั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือลุงเกรียงไกร ที่กำลังนั่งจ้องไปยังโลงศพที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางศาลา
“ สวัสดีครับลุง” ชายหนุ่มหน้าตาออกไปทางจีนอยู่ใยชุดเสื้อเชิร์ตแขนยาวสีดำที่เข้าชุดกับกางเกงแสล็คดำยกมือไหว้พร้อมทั้งทิ้งตัวลงนั่งข้างๆลุงเกรียงไกร “ ผมชื่อเต้นะครับเป็นหลานของลุงดนัยนะครับ ลุงจำผมได้ไหม” ลุงเกรียงไกรพยักหน้ารับ “ ก่อนที่ลุงจะออกไปวันนั้นลุงฝากจดหมายฉบับนี้ไว้ให้ลุงครับ”
“ ขอบคุณนะ” ท่านส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน “ ส่วนเราก็ พักผ่อนบ้างนะ ดูตาโหลๆ คงยุ่งๆใช่ไหม”
“ ครับ ช่วงนี้ผมต้องวิ่งตามงานหลายงานเลยครับ แต่มันกำลังจะเข้าที่แล้วล่ะครับ”
“ ดีแล้วล่ะ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ ครับ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ”
ชายหนุ่มทิ้งชายวัยกลางคนนั่งอยู่พร้อมกับจดหมายฉบับนั้น เขาบรรจงแกะมันออกอย่างช้าๆแล้วกางมันออก มันเป็นลายมือของรุ่นน้องของเขาไม่ผิดแน่
ถ้าพี่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมคงไม่ได้อยู่แล้ว ผมบอกตัวเองเสมอว่าถ้าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ทุกคนตายเพราะฟ้าลดาจริงๆผมเองก็คงเจ็บปวดที่สุด ผมเองที่เป็นคนเริ่มเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมาเพราะว่า ตลอดเวลาที่ผมอยู่ข้างพี่ ผมรู้ตัวเองตลอดว่าพี่คงไม่ใช่คนที่จะหันมามองผู้ชายอย่างผม ผมพยายามทำตัวเองให้ไม่แตกต่างจากคนอื่นเพราะมีอาการชอบผู้ชายด้วยกัน ผมพยายามแข็งแกร่งเมื่ออยู่ข้างๆพี่ พี่บบอกผมตลอดว่าให้เรียกพี่กูมึงปกติได้เหมือนเพื่อน ผมพยายามทำมันเพราะคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่พี่ชอบ ฟ้าลดา ตั้งแต่มีเธอเขามาในชีวิตของพี่มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของผมว่า พี่กับผมมันไม่มีทางบรรจบกันได้เลย วันนั้นผมเองก็ขาดสติเพราะเห็นพี่ไปเที่ยวกับฟ้า ผมเลยสร้างเรื่องพาทุกคนไปข่มขืนฟ้าลดา แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องมันจะเลยเถิดมาได้ขนาดนี้ ผมไม่หวังว่าพี่จะยกโทษให้ผมหรอกครับ
สุดท้ายนี้หวังว่าพี่จะไม่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แต่ถ้าได้อ่านจริงๆ ผมขออย่างเดียวพี่อย่าเกลียดผมนะ
น้ำตาแห่งความผิดหวังในตัวน้องชายและน้ำตาแห่งการสูญเสียไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย ผู้คนที่นั่งอยู่ใกล้ดึงลุงเกรียงไกรเข้าไปสวมกอด
“ มันจบแล้ว” เขาเอ่ยออกไปเพราะรู้ดีว่าน้องชายที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเขายืนอยู่ตรงหน้า
“ ขอโทษครับ” สิ้นเสียงนั้นร่างของดนัยก็ค่อยๆสลายหายไปในอากาศทิ้งไว้เพียงความโศกาอยู่เบื้องหลัง
อีกมุมหนึ่งของศาลา คนที่มองเห็นดวงวิญญาณได้ก็ยิ้มออกและกันมาหาคนรักและเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกันเพื่อเป็นการคอนเฟิร์มว่าเรื่องมันจบแล้ว
“ ลุงดนัยแกไปแล้วว่ะ”
“ มึงพูดอะไรของมึงวะ กูยิ่งกลัวๆอยู่” เสียงของธนาโพล่งขึ้นมา
“ จริงเหรอนนท์ มันจบแล้วสินะ”
“ หวัดดีครับพี่นนท์ หวัดดีครับพี่จักร” คนที่มาใหม่ยกมือไหว้ลกๆอย่างไม่เคยชิน
“ เป็นไงบ้างวะไม่ได้เจอนานเลยตั้งแต่ฟื้นแล้วใช่ไหม” ชยานนท์เอามือโอบไหล่ของรุ่นน้องให้เข้าไปหาโดยไม่รู้ว่ามีอีกคนอยู่ในนั้น
“ มึงปล่อยมันเลย มันยังเจ็บอยู่ ไอ้โก้มึงมานั่งนี่” ปิติภัทรชี้ไปที่เก้าอี้ที่ว่างข้างๆตัวเอง
“ อะไรวะ ทำไมมึงดูห่วงไอ้โก้จังเห็นแต่ก่อนกัดกันจะตาย” ธนาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้น
“ ปาร์คมันฝากให้ดูแลว่ะ”
“ เหมือนมึงจะเครมมันมากกว่าดูแลนะ”
“ พูดมากจังวะไอ้ปอนด์” ปิติภัทรบ่นออกมาอย่างหัวเสีย “ เรื่องของมึงเถอะ เป็นไงบ้างวะ แล้วแฟนมึงไปไหนเนี่ย”
“ เต้มันไปช่วยดูความเรียบร้อยข้างในว่ะ” พอเริ่มพูดถึงคนรักของตัวเองใบหน้าที่ร่าเริงเมื่อครู่ก็หายไป “ ช่วงนี้เต้มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ดูมันเหมือนไม่ค่อยได้นอน บางครั้งมันก็ดูหงุดหงิด มึงจำที่กูเล่าให้ฟังที่ร้านเหล้าได้หรือเปล่าวะ” ทุกคนพยักหน้า “ ช่วงนี้มันก็ยังเป็นอยู่
“ คุยอะไรกันอยู่เหรอ” คนที่กำลังถูกพูดถึงเอ่ยขึ้น
“ จักร นนท์เห็น” เขาเอี้ยวตัวไปกระซิบที่ข้างหูของคนรัก นนท์เห็นเงาดำๆเดินตามเต้อยู่”
THE END
LIFE OR DEATH พบกันต่อใน IN MY DREAM
จบแล้วน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
บะบุยยยยย ไปไล่ตามกันในฝันนะ