#เจนไม่นก
เจนกับวันหยุดที่ได้หยุดแต่ก็เหมือนไม่ได้หยุด
“คุณรบจะไปแล้วเหรอคะ”
“ครับ” เช้าวันจันทร์ได้วนมาอีกครั้ง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาต้องรีบออกไปหาลูกค้าที่ต่างจังหวัดกับเลขาเลยทำให้พลาดข้าวเช้ากับครอบครัวไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไร เมื่อวานเขาได้จิ้มแก้มนุ่มมาทั้งวันแล้ว
เจ้าลูกกบของพ่อ….
กระโดดกบเก่งจริงอย่างที่คุณพี่เลี้ยงอ้างสรรพคุณ วันนี้น้องวินตื่นมาอย่างอารมณ์ดีมาส่งคุณพ่อไปทำงาน แม้จะไม่ได้ทานข้าวด้วยกันแต่ไม่มีใครเสียดายเลย ขอบคุณเมื่อวานที่เขาขี้เกียจเกินกว่าจะทำงาน และขอบคุณเมื่อวาน…ที่มีคนคอยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง แต่ว่าคนเมื่อวาน….
ไม่ได้มาส่งเขาในวันนี้
“วันนี้เจนยังไม่ตื่นดีเลยค่ะ แม่ไพเห็นหน้าง่วงแต่เช้าเลยอาสาเอาคุณหนูลงมาทานข้าวให้และปล่อยแกนอนต่อ” คุณอำไพนั้นส่งยิ้มให้ ตอบทุกข้อสงสัยที่ไม่ได้ถามออกไปอย่างยินดี
“แอะ แอ้ะ” เจ้าลูกกบของพี่เจนนั้นยื่นแขนจะให้พ่ออุ้ม เขานั้นหันไปมองทางหน้าบ้าน เลขาคนสนิทยังมาไม่ถึง ยังพอมีเวลาเล่นด้วย เอ…หรือว่าจะกลับเข้าไปกินข้าวที่บ้านเลยดี
“น่าเสียดายนะคะวันนี้คุณรบกินข้าวกับคุณผู้หญิงไม่ได้อีกแล้ว แต่แม่ไพเตรียมอาหารกล่องไว้ให้ เดี๋ยวไปเอาให้นะคะ” หลังจากรับลูกมาอุ้ม คุณอำไพก็เดินกลับไปเอาอาหารกล่องมาให้ เป็นอย่างนี้จนชินแล้ว นักรบไม่ค่อยได้ทานข้าวเช้าที่บ้าน แต่มักจะใช้เวลาที่มีในรถในการทำทุกอย่างที่ต้องทำให้ทันเวลา
“ตาหนูไม่ดึงเสื้อพ่อครับ” เขาก้มมองลูก ติเตียนด้วยน้ำเสียงที่ไม่คิดว่าตนจะมีอยู่ เจ้าลูกกบนั้นช้อนตาขึ้นมอง จะว่าเข้าใจก็ไม่ใช่ เพราะปล่อยจากเสื้อก็มาเอาเนคไทเขาไปอม น่าตีจริงๆ
“ไม่ได้ลูก อันนั้นคุณย่าเป็นคนเลือกให้นะ” เรื่องที่อบอุ่นที่สุดของรัตนสกุลดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ว่าคุณนักรบที่โตจนป่านนี้แล้วยังคงผูกเนคไทด้วยตัวเองไม่เป็น แม้เขาจะเรียนอยู่ที่อังกฤษและต้องสวมเนคไท แต่ไม่เคยจะเรียนรู้มันเลยสักครั้ง เขามักจะมีเนคไทหลายอัน และมักจะถูกผูกปมไว้แค่รอคล้องคอแล้วจัดให้ดูดีเสมอ หรือไม่ก็ใช้เป็นเนคไทสำเร็จไปเลย แต่เมื่อกลับเมืองไทย ก็จะเลี่ยงไม่ใช้ หรือถ้าวันไหนต้องใช้ก็มักจะมีคุณพรรณีเป็นคนเลือกและผูกให้ มันไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดจะทำหรือเรียนรู้จะทำ
แต่อะไรที่ทำไม่เป็นแล้วเป็นความสุขของแม่…เขาก็เลือกจะไม่ทำ
“มาแล้วค่ะ คุณหนูวิน มานี่สิคะมา” พี่เลี้ยงของเขามีรอยยิ้มมาให้ทุกครั้ง นักรบเพิ่งได้สังเกตถึงความคล้ายคลึงของอีกฝ่ายกับลูกชาย เจนรักษ์ได้แม่มาเยอะทีเดียว แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่คล้าย อาจจะเพราะการเลี้ยงดูก็เป็นได้ที่ทำให้อีกคนดูจะทะโมนเป็นลิงแบบนั้น ในส่วนของรอยยิ้มนั้นจัดได้ว่าคล้าย ในตอนเด็กๆเขาก็มีแม่ไพที่คอยให้กำลังใจ อ้อมกอดของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเขา จนอดคิดไม่ได้ว่าคนลูกก็คงจะมีเหมือนกัน
ไม่งั้นตาหนูคงไม่ทำหน้าพริ้มยามที่พี่เจนอุ้มเอาไว้แบบนั้น
“นี่ค่ะอาหารคุณรบ ทานนะคะ ไม่ใช่เอาแต่ทำงานจนไม่ยอมทานนะ” อีกข้อที่กล่าวได้ว่าคนแม่เหมือนกับคนลูกมากๆคือความเจ้ากี้เจ้าการ แม่ไพนั้นมักจะพูดแบบนี้แต่ไม่ได้ดูบังคับกันจนเกินไป เจนก็เหมือนกัน ความเจ้ากี้เจ้าการสไตล์นี้คงได้จากแม่ไปเต็มๆเพราะอีกฝ่ายได้เผื่อแผ่มาถึงเขาบ้าง ไม่ได้ขอก็จะเอาให้กิน มาเคาะประตูให้ไปเจอลูก บังคับให้อุ้ม ไปเรียกให้มากล่อมลูกนอน อย่าว่าแต่เขาที่โดนฝ่ายเดียวเลย เจ้าตัวเล็กคงโดนไม่ใช่น้อย ที่จับได้ก็มีเรื่องนึงแล้ว….. เรื่องที่ฝึกตาหนูให้มาหอมแก้มเขายังไงล่ะ
ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่ออกท่าออกทางดีใจเว่อร์ๆนั่นเลยนะ
“ต้องทานนะคะคุณรบ” พี่เลี้ยงของเขานั้นกำชับกันยันตอนจะส่งขึ้นรถ นักรบเพียงบีบแก้มเจ้าตัวเล็กเบาๆเป็นการกล่าวลาและยิ้มให้ แม่ไพนั้นดูเหมือนคนนิ่งๆเงียบๆ แต่เท่าที่ได้รับทราบมาก็มีบ้างที่ออกตัวหาเรื่องคนอื่นเหมือนกัน อันนี้คงเป็นด้านที่กลับกันกับคนลูก เขาเคยคิดว่าเจนคงได้วิญญาณไฟว์เตอร์จากแม่ แต่มันก็เหมือนจะทั้งใช่และไม่ใช่ เจนพร้อมสู้ แต่บางทีก็เหมือนจะไม่สู้คนไปเสียอย่างนั้น ดูได้จากเหตุการณ์ ก่อนหน้านี้ที่มีคนมาทำร้าย เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเจนต้องสู้แน่ๆ แต่ก็เหมือนจะชะงักไปเสีย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะน้องวินในอ้อมแขนเหรอ
ที่ทำให้ยอมเจ็บได้แบบนั้น
“คุณรบครับ จะทานข้าวก่อนหรือจะให้ผมชวนคุยเรื่องงานก่อนดี” เลขาของเขาเอ่ยถามขึ้นมา คงโดนคุณอำไพกำชับเรื่องอาหารเช้าของเจ้านายมาบ้างถึงได้ทำน้ำเสียงล้อกันแบบนี้ แม่ไพก็จริงๆเลย รู้ว่าบังคับเขาไม่ได้เลยไปขู่คุณเพชรแทนสินะ
“รู้สึกว่าจะมีของนายด้วย” เขานั้นค้นกล่องอาหาร มีสองกล่องสำหรับแซนวิช ผลไม้ และมีกาแฟในกระติกน้ำเก็บความร้อนแบบที่เขาชอบ น้ำเปล่าขวดนึง และ….
คุ้กกี้….
“………….”
“อ้าวเงียบ….คราวนี้มีแตงกวาสดเหรอครับ” คุณรบไม่ชอบกินแตงกวา แต่ไม่เป็นประเด็นที่ควรล้อ เพราะนี่คือเจ้านาย
“กินๆและหุบปากไปซะ” เขาสั่งลูกน้องตัวดีก่อนจะยื่นกล่องข้าวให้ ทว่ายังคงลังเลที่จะหยิบยื่นบางสิ่งบางอย่างให้
นักรบกินอาหารของตัวเอง และในระหว่างที่ขับรถ คุณเลขาของเขาก็ยัดแซนวิซเข้าปากเงียบๆสมกับที่เขาสั่งไว้ เขาส่งกล่องผลไม้ไปที่ด้านหน้าให้กับอีกคนที่จัดการอาหารหลักเสร็จแล้ว เพชรนั้นจิ้มกินเรื่อยๆโดยไม่ได้มาสนใจอะไรอีก และเมื่อเขาเห็นดังนั้น….นักรบก็ค่อยๆเคี้ยวกัดคุ้กกี้ทีละชิ้นๆ มีคุ้กกี้ในถุงมา 4 ชิ้น และเขาจัดการไปซะ 3 แล้ว เหลือชิ้นสุดท้ายที่วัดความมีน้ำใจของเจ้านายต่อลูกน้อง นักรบกำลังจะกินชิ้นสุดท้าย แต่เผอิญดวงตาของเขากลับประสานกับอีกฝ่ายที่กระจกมองหลังพอดี
“มีคุ้กกี้ด้วยเหรอครับวันนี้”
“อืม”
“เจ้านายไม่แบ่งกันเลยนะครับ”
“นายก็ไม่แบ่งผลไม้เหมือนกัน”
“โธ่ ผมขับรถนะครับ”
“แล้วไง” เขากัดชิ้นสุดท้ายโชว์
“คุณนักรบหวงของเหมือนกันนะนี่ ทำงานมาด้วยกันจะสิบปีเราถือเป็นพี่น้อง คุ้กกี้นั่นอร่อยมากเลยเหรอครับถึงได้ไม่คิดแบ่งน้องชายคนนี้”
“ผมเป็นลูกคนเดียว”
“น่าน้อยใจ ผมขอย้ายตำแหน่งงานได้ไหมครับ”
“ทำไมไม่ลาออกไปซะเลยล่ะ”
“แฮ่ แล้วใครจะช่วยคุณรบละครับ” แต่ในใจคุณเพชรมีอยู่ชื่อหนึ่งซึ่งเป็นไม้ตาย ยังบอกไม่ได้
“ดังนั้นผมจะแบ่งอะไรยังไงก็เรื่องของผม กลับไปขับรถดีๆ”
“คงอร่อยมากสินะครับ คุ้กกี้”
“………”
“ปกติคุณรบชอบกินขนมไปพร้อมๆกับจิบกาแฟใช่ไหมครับ”
มันก็….ทั่วๆไปไหม
“แต่วันนี้ฝากระติกกาแฟยังไม่ถูกเปิดเลยนะครับ”
หรือเพราะทำเป็นเข้มแล้ว กาแฟเลยไม่จำเป็น
“ขี้หวง ระวังติดคอนะครับเจ้านาย” พอคิดถึงคนทำเขาก็เริ่มรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาจริงๆ ส่วนเรื่องที่ว่าคุณเพชรขอย้ายตำแหน่งอะไรนั่นก็สุดแท้ แต่ในส่วนของโบนัสปีนี้….
ก็ให้คุ้กกี้ทำนายกัน…
xxx
ทั้งๆที่เมื่อวานเจนก็ใช้ชีวิตเหมือนปกติ ตื่นเวลาเดิม นอนเวลาเดิม แต่ที่ไม่ปกติคืออยู่กับคนจ่ายเงินเดือนนานกว่าปกติ คาดว่าอาการคิดมากของตนนั้นส่งผลโดยตรงกับการนอน ทำให้ตื่นมาอย่างไม่มีคุณภาพ ตื่นมาก็ไม่ได้ลุกขึ้นปล่อยให้คุณหนูคลานไปมากลิ้งอยู่บนตัวแบบนั้น แต่ต่อให้ถูกกระทำแค่ไหนสังขารก็ไม่อำนวยให้ลุกมาโวยวายฟัดเจ้าแก้มนุ่ม พี่เลี้ยงคนโปรดทำเพียงแค่พลิกตัวและรัดเจ้าลูกกบไว้แทน จนกระทั่งคุณอำไพเดินเข้ามาในห้อง
เจนรักษ์หัวฟูโบกมือให้แม่ที่อุ้มคุณหนูซึ่งหัวฟูพอๆกันออกไปก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเบาะอีกครั้ง จะว่าไปก็สักพักแล้วที่เจนไม่ได้นอนบนเตียงดีๆ และกลิ่นจากเนื้อกายก็ไม่มีน้ำหอมที่เคยชื่นชอบติดอยู่เลย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กลิ่นแป้งเด็กที่ติดตัวมาจากน้องวิน แต่เจนไม่ใช่ไม่ชอบนะ ถึงจะดูประหลาดไปเสียหน่อยแต่เมื่อไร้เจ้าก้อนข้างกาย ก็ดมแขนตัวเองเล่นกลายมาเป็นคนที่เสพย์ติดสัมผัสของคนอื่นไปแล้ว
ทว่านอนไปได้ไม่นานก็นอนไม่หลับเสียอย่างนั้น จริงๆเมื่อวานนี้คุณพรรณีได้บอกกันไว้เรื่องของวันหยุดที่จะต้องเอามาชดเชย เนื่องจากวันหยุดเมื่อวานเจนดูแลทั้งพ่อกบและลูกกบแทนทุกคนในบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้มีการตกลงว่าควรจะเป็นวันไหนดี เกือบจะลืมไปเสียแล้วถ้าอยู่ๆไม่ได้คิดถึงพ่อกบขึ้นมา….
เอ่อ….คิดว่าไม่ได้เอาลูกเขาไปบ้ายบายก่อนออกไปทำงานอะนะ
เลิกคิดและทำอะไรสักอย่างเสียทีสิ ไอ้เจน! นี่คือการเรียกสติหลังจากความคิดของตนได้เตลิดไปไกล หากนอนคิดแล้วมันหยุดคิดไม่ได้ก็จงปฏิบัติอะไรสักอย่างแทน และสิ่งที่เจนเลือกคือการอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว ลงมาข้างล่าง เจ้าลูกกบพอเห็นพี่เจนก็ตีปีกโชว์ใหญ่ จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ก็รู้หรอกว่าหน้าตาดี แต่นี่ยังไม่ชินอีกเหรอไง
“แม่ เจนอยากกินไข่ดาว”
“ไปทอดกินเองสิ”
“แง้ ทอดให้เจนหน่อย”
“ไม่เอา แม่กำลังปลอกกระเทียมอยู่ไม่เห็นเหรอ”
“ก็เห็น แต่อยากกินง่า”
“งั้นไปขอน้าจิน”
“…………”
“โน่น น้าจินอยู่ในครัวพอดีเลย ไปขอน้าจินสิ”
“แม่อ่ะ”
“ไม่งั้นก็ทำเอง” เจนทำเองก็ได้
แต่เจนทอดไข่ดาวทีไร….กลายเป็นไข่เจียวทุกที
ไม่รู้เจนเป็นคนเดียวบนโลกหรือไม่ที่ได้รับอนุญาตจากสวรรค์ให้ทอดไข่ดาวได้ห่วยแตกที่สุดในโลก จริงๆการทอดไข่นั้นเป็นศาสตร์อาหารขั้นพื้นฐานแต่เพราะมันง่ายไปไง เจนก็เลยทำไม่ค่อยได้ เพราะความตื่นเต้นตอนน้ำมันร้อนๆนั้น ทำให้ตอกไข่ลงไปทีไรไข่แดงก็มักจะแตกผสมเป็นเนื้อเดียวกับไข่ขาวในกระทะ หรือพอจะพลิกด้านไข่แดงก็แตกอีก การทอดไข่ดาวกับเจนนั้นถือเป็นเรื่องไม่ถูกกัน และจะเลี่ยงทุกครั้งทีมีความจำเป็น
“…………”
“………….”
“ทำอะไร” เป็นน้าจินที่ทำลายความเงียบ แม้จะพอรู้มาบ้างว่าน้าจินไม่ได้ร้ายกาจแบบคนใช้ตัวร้ายในละคร แต่ปุปปับจะให้เดินไปกอดคอเลยก็ไม่ใช่ปะวะ
“ผมจะกินไข่ดาวครับ” เจนตอบกลับไป เอ๊ะ หรือจะกินไข่เจียวแทนดีจะได้ตัดปัญหาโชว์ทอดไข่ดาวกากในทีนี้ แต่ง่า….เจนอยากเจาะไข่แดงแล้วเหยาะซอสแม้กกี้อ่า!
“ไปตักข้าวมา” ตักมาทำไม ตักเพื่ออะไร ใบหน้าที่ยังดูนิ่งเฉยของคนใช้รุ่นน้าทำให้เจนรักษ์งงงวยในเจตนาไม่ใช่น้อย จนกระทั่งเห็นอีกคนตั้งกระทะและเทน้ำมันใส่ลงไปก็พอจะคาดเดาความเป็นไปได้ได้มากขึ้น และเมื่ออีกฝ่ายตอกไข่ลงไปอย่างงดงามฟินาเล่…
เจนก็เริ่มมีความมั่นใจ….
“ยังอีก ยังไม่ไปตักมาอีก”
“ง่า น้าจินทำให้เจนเหรอ”
“แล้วมันมีหมาที่ไหนอยากกินไข่ดาวอีกล่ะ แล้วเอ็งจะกินแต่ไข่ดาวเปล่าๆหรือไง มีกะเพราอยู่ตรงโน้นน่ะ จะเอาไหม ถ้าเอาก็ไปตักมา” ตอนนั้นเร็วกว่าเดอะแฟลชก็ไอ้เจนล่ะครับ สิ้นคำน้าจินพูดเจนก็จัดการยัดทุกอย่าง แม้น้ำเสียงจะยังเกรี้ยวกราดไม่น่าคบหา แต่ความใจดีที่หยิบยื่นมาให้ เจนรักษ์ก็ซาบซึ้งดี
“ขอบคุณครับ”
“เออ วันหลังจะกินอะไรก็มาบอก ถ้าว่างๆไม่ติดงานอะไรให้คุณๆท่านก็จะทำให้”
“ครับ”
“ยังไงก็ขอบใจเอ็งมากล่ะกัน”
“…………”
“ที่ดูแลเจ้าพายมันดี” อา…..คนเรานี่ นอกจากจะดูภายนอกไม่ได้แล้ว ดูสั้นๆก็ไม่ได้ด้วย แบบน้าจินคนนี้
คนที่มาทำลายแบบอย่างคนใช้ร้ายๆในละครให้ไอ้เจนเห็น!
จริงๆเห็นเจนไร้สาระไปวันๆ แต่ตอนที่น้องพายมาเล่นกับน้องวินด้วยก็มักจะได้พูดคุยปรึกษา ด้วยอยู่ในวัยใกล้เคียง (เจนยืนยันว่าวัยของน้องพายยังใกล้เคียงกับตนอยู่) จึงสามารถรับฟังปัญหาและคอยแนะแนวให้ในสิ่งที่อยากรู้ อาจจะเพราะนิสัยโผงผางและการแสดงออกของน้าจินที่ทำให้น้องรู้สึกอึดอัด เรื่องบางเรื่องจึงไม่สามารถพูดคุยกับแม่ได้ แต่เอามาพูดให้เจนฟังได้
คือจริงๆน้าจินก็ห่วงพายในแบบของเขานั่นแหละ แต่ก็ทั่วไป ตั้งใจเรียน อย่าเอาแต่ไปแรดที่ไหน เห็นกลับมาช้าหน่อยก็ด่าโดยไม่ฟังว่าน้องไปทำอะไร มันก็ต้องมีบ้างที่เด็กวัยนี้อยากจะเที่ยวกับเพื่อนฝูง ทว่าแม่ก็มักจะห้ามไว้โดยใช้คำพูดแบบไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน ทำให้น้องพายเสียกำลังใจ จริงๆแล้วน้องพายเป็นเด็กฉลาด แต่สถานการณ์หลายๆอย่างกดกันเอาไว้มากเกินไป จนไม่มีความกล้าที่จะแสดงออกก็เท่านั้นเอง
และเจนก็มักจะแสดงให้เห็นว่าคนเราต่อให้เป็นลูกคนใช้ ก็ใฝ่ดีได้เช่นกัน!
ดูเป็นไอดอลผู้เป็นแบบอย่างในทางที่ดีไปเลย และผลก็คือน้องอาจจะไปบอกแม่ หรือน้าจินอาจจะมาเห็นตอนเจนคุยกับน้องเรื่องเรียน คนใช้ที่ไหนก็หูตาเป็นสัปปะรดทั้งนั้น แต่เจนไม่ได้ปิดเรื่องตัวเองนี่ เลยไม่ได้สนหรือแคร์ ที่ทำดีกับน้องก็ไม่ได้หวังให้ใครมาดีด้วยเช่นกัน แต่ถ้ารู้ว่าทำอย่างนี้แล้วจะมีคนทอดไข่ดาวให้กินฟรีและไม่ต้องก่อวอร์ที่ไหน…..รู้งี้กูทำไปนานแล้วครับ! /อ้าว
“อ้าว เพิ่งตื่นเหรอเจน เมื่อวานขอบคุณมากนะ” คุณพรรณีที่เดินผ่านมานั้นกล่าวทัก แต่เดี๋ยวสิครับ ใบกะเพราจะติดคอผม
“ไม่เป็นไรครับ ขอโทษที่ตื่นสายนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ว่าแต่เมื่อวานเราคุยกันเรื่องวันหยุดสัปดาห์นี้ เจนคิดไว้ยังละจ้ะ”
“เอ่อ เจนยังไม่ได้คิดไว้เลย”
“แต่ไม่รีบคิดจะไม่ได้หยุดนะ เพราะฉะนั้นรีบคิดเร็วๆ” อ้าว เร่งกูอีก
“เอ่อ งั้นเจนหยุดวันนี้เลยก็ได้ครับ”
“เอางั้นเหรอ”
“ไหนๆก็เสียงานตั้งแต่เช้าแล้ว ผมหยุดดีกว่าครับ”
“จริงๆก็ไม่ได้อะไรเลยนะลูก เมื่อวานอุตสาห์ทนรับมือตารบให้ทั้งวัน ฉันละกลัวเธอจะไข้ขึ้น” พอพูดแล้วผมก็ครั่นเนื้อครั่นตัวเลยละครับ แค่คิดถึงหน้าคุณรบก็ไข้ขึ้นได้แล้ว!
“ผมสบายดีครับ ทานยาดักไว้หมดแล้ว เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอหยุดละกันนะครับ เดี๋ยวช่วงบ่ายๆจะออกไป ขอไปทำความเข้าใจกับหนูวินก่อนนะครับ”
“แน่ะ ยังมีจะทำความเข้าใจอะไรกันอีก ลองได้คุยกับเจ้ากบนั่นดู รับรองวันนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ๆ” อ้าว เขาเรียกหลานเขาว่ากบกันทั้งบ้านแล้วหรือนี่ เพราะไอ้เจนคนเดียวเลย
แต่จะให้ไปไม่ลามาไหว้ก็กระไรอยู่ ไอ้เจนจึงได้ไปทำความเข้าใจกับนายสายตรงของตนเองว่าด้วยเรื่องวันหยุดที่เจนควรจะได้รับ ตอนแรกก็เห็นดีๆ ไม่สนใจกันแท้ๆ แต่พอจะเดินออกจากบ้านเท่านั้นแหละครับ ร้องไห้ดังกว่าไอ้เจนตอนประกวดคิดเลขเร็วแล้วตกรอบแรกก็น้องวินนี่แหละ โอ๋กันอยู่นาน เบี่ยงความสนใจกันสุดๆก็ยังไม่ยอม เดือดร้อนพี่เลี้ยงที่ควรได้หยุดวันนี้ จึงพาไปนอนตบตูดดูดนม แต่ไม่ใช่ว่าจะหลับง่ายๆ
“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
เด็กสมัยนี้ทำไมมันฉลาดทันกันงี้วะนี่
“ปล่อยเจนไปเถอะครับ คุณหนู”
ไม่! ห้ามเจนไปไหนทั้งนั้น!
“เจนสัญญาว่าจะรีบกลับ”
ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา!
หลังจากตบตีกับน้องวินและความคิดของตัวเองเสร็จก็ได้เวลาออกจากบ้าน เหลือบดูนาฬิกาอีกทีก็บ่ายละ ช่างเป็นวันหยุดที่มีคุณภาพ ไว้วันหลังถ้าได้หยุดอีกแล้วเจ้ากบยังงอแง นี่จะไม่ทนแล้ว จะเอาออกมาด้วยกันซะเลยจะได้ไม่เสียเวลา ในที่สุดก็เรียกรถมาถึงห้าง แต่นี่ก็ใช้เวลาไปเกินครึ่งวันแล้ว และจะทำอะไรอีกละ ไม่เอาแล้วนะที่จมอยู่ในแผนกของเล่นเด็กแบบนั้น เจนรักษ์จึงเริ่มต้นวันด้วยการไปแผนกเสื้อผ้าเพื่อใช้เงินที่แลกด้วยการเสียน้ำตาของน้องวิน
เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนมีถุงติดมือสองใบ เหลือบดูเวลาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองสามารถที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกจึงเดินไปที่ซุปเปอร์ เลือกผักผลไม้จากต่างประเทศซื้อกลับไปกินที่บ้านรัตนสกุล พร้อมทั้งดูวัตถุดิบทำขนมอื่นๆที่ตนอยากได้เพิ่มเติม ทำไปทำมา ในมือก็เต็มไปด้วยสัมภาระบ้าบอดูไม่งามตาสักเท่าไหร่
“…………..” เอาไงล่ะ กลับบ้านดีไหม
กลับดีกว่า…..คือความคิดของเจนรักษ์ในตอนนั้น เจ้าของร่างเล็กนั้นเดินออกมาจากห้างด้วยหมายจะกลับบ้านไปทะเลาะกับเด็กขี้แยต่อ แต่ดูเหมือนฟ้าฝนไม่เป็นใจ อ่อ ไม่ใช่แค่นั้น….ถนนของกรุงเทพมหานครก็ไม่เป็นใจให้ไอ้เจนกลับบ้านด้วยครับ
“……………” ช่างเป็นวันหยุด ที่ได้หยุด แต่ก็เหมือนไม่ได้หยุดที่แท้ทรู ฟ้าของกรุงเทพนั้นมืดลงอาจจะเพราะเมฆฝน รถที่หนาแน่นกว่าปกตินั้นทำให้เจนเพิ่งนึกได้ว่านี่มันเป็นเวลาเลิกงานแล้ว ด้วยความงกและเบื่อฟังแท็กซี่ส่งรถจึงเลือกที่จะหันหลังกลับเข้าไปในห้าง วางสัมภาระบ้าไว้ข้างๆกายหลังจากหาที่นั่งได้ ยังไงดีล่ะ จริงๆวันนี้กูควรจะได้หยุดสิครับ มันไม่ควรเป็นงี้โว้ย
นี่เหนื่อยกว่าเลี้ยงเจ้าลูกกบทั้งวันอีกนะ!
“แม่…ฝนตก น้ำท่วม รถติด” เจนยังคงคอนเสปต์การอธิบายอย่างย่อๆแต่ชัดเจนเอาไว้ แม่ดูไม่ค่อยตกใจอาจจะเพราะสภาพแถวบ้านก็คงไม่ต่าง แต่จริงๆที่เจนคิดนั้นไม่ใช่เสียทีเดียว
“อืม แม่ก็ได้ยินคุณรบบอกมาอย่างนั้น” เพราะแม่มีคนชิงดักมาอธิบายสถานการณ์ให้ฟังก่อนนั่นเอง
“อ้าว คุณรบถึงบ้านแล้วเหรอ” ต้องออกจากที่ทำงานกี่โมงวะถึงจะได้ถึงเร็วเบอร์นั้น
“เปล่า โทรมาบอกว่าไม่ต้องเตรียมอาหารให้ จะกินจากข้างนอก” ง่อวววว ก็คงจะนั่งกินข้าวกล่องที่ทำงานละมั้ง ในเมื่อฝนตกหนักแบบนี้ช่างเป็นใจให้นั่งทำงานอยู่บริษัทจนดึกดื่นนี่นา เป็นไอ้เจนก็ไม่กลับหรอกครับบ้งบ้านอะไรกัน ฝ่ารถติดในรถขณะที่ฝนตกมันไม่ใช่เรื่องสนุกจริงๆนะคุณ
แต่พูดถึงเรื่องอาหาร ท้องก็เริ่มทำงาน วันนี้ตบตีกับเจ้ากบน้อยจนเหนื่อยไปหมด ข้าวเขิ้วกลางวันได้กินที่ไหน ทั้งวันนี่หล่อเลี้ยงกันมาได้ด้วยกระเพราของเหลือกับไข่ดาวน้าจินเท่านั้นแหละ เจนจึงตัดสินใจเดินหาร้านอาหารที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ ดูท่าแล้วถ้าช้ากว่านี้อีกนิด มนุษย์หนีรถติดทุกคนคงจะจับจองทุกที่นั่ง และเจนรักษ์ยอมไม่ได้ ด้วยความต้องการเอาชนะขั้นสุดจึงทำให้เลือกร้านราเมงมาหนึ่งร้านเพราะเห็นคนน้อย สั่ง กิน ดื่มด้วยความรวดเร็วก็ออกมาจากร้านด้วยเห็นจำนวนคิวแล้วสงสาร อีกนิดคงมีคนวิ่งมากัดหูเพราะโมโหหิวเป็นแน่!
แต่กระนั้นฝนก็ยังกระหน่ำตก เงินก็มีแต่ไม่รู้จะซื้ออะไร ชักเข้าใจปัญหาของคนมีเงินขึ้นมานิดๆ ยิ่งเดินก็ยิ่งขึ้นมาสูงเรื่อยๆจนถึงชั้นสูงสุดที่ไม่มีอะไรให้ซื้อนอกจากป็อปคอร์นและน้ำ อ่อ….ต้องซื้อตั๋วเพื่อเขาไปซื้อด้วย เดินเข้าไปอย่างคนใจง่ายไม่ได้นะจ้ะ เจนรักษ์นั้นมองรอบหนังที่ใกล้ฉายและคำนวณเวลาที่จะกลับบ้าน สภาพของตนที่ถือของเต็มมือนั้นไม่เหมาะจะให้เดินไปเดินมาจริงๆ แต่นั่งเฉยๆก็ไม่ใช่แนว ถึงแม้วันนี้จะเหมือนไม่ใช่วันหยุดเท่าไหร่ แต่หนังสักเรื่องคงช่วยเยียวยาได้บ้าง
ตัดสินใจเลือกเรื่องที่คิดว่าดูแล้วไม่น่าจะด่าผู้กำกับและเป็นแนวที่ชื่นชอบได้แล้วก็เดินไปต่อแถวกดซื้อตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติ จำนวนแถวยาวและแต่ละคิวใช้เวลาในการเลือกโปรโมชั่นของตัวเองอย่างน่ารำคาญ เจนจึงใช้เวลาไปกับการด่าคนในใจสลับกับเหม่อลอยอย่าเหนื่อยล้าในระหว่างต่อแถว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นคนที่อยู่หน้าสุดเดินเข้าไปกดตั๋ว ขาเจ้ากรรมก็ขยับตามซะงั้นโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าคนข้างหน้าตนเขายังไม่ได้ก้าวขาเดิน
ปึก!
“ขอโทษครับ” ไอ้ซุ่มซ่ามเอ้ย! นี่ด่าตัวเองนะ ไม่ได้ด่าใครเลย
“ไม่เป็นไรครับ” คนข้างหน้านั้นตอบกลับมา น้ำเสียงที่คุ้นหูทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นหลังจากที่เอาแต่มองต่ำมาตลอดเวลา คือไอ้เจนนี่อ่ะ รับรู้มาตลอดว่าคนข้างหน้าที่ใส่สูทนี่ตัวสูงกว่ามาก แต่ขี้เกียจเงยคอขึ้นไปมองเป็นหมาเห่าเครื่องบินไงครับ กูเลยเอาแต่ก้มหาไส้เดือน!
เลยไม่ได้รับรู้เลยว่าชะตากรรมเล่นตลกกันอีกแล้ว
“…………”
“คะ…คุณรบ” หรรษาฉิบหาย…
คือไอ้เจนจะไม่ได้หยุดจริงๆใช่ไหมวันนี้!
Talk: ดีแค่ไหนแล้วที่คุณพี่รบเขาไม่วิ่งหนีน้อง5555 มีคนบอกมาว่าอยากให้ใส่ซับแปลตรงเจนพูดอังกฤษให้ เราเข้าไปใส่ให้แล้ว และก็เห็นมีคนมารอเมื่อวาน ฮือออออ วันนี้เรามาต่อให้แล้วน้า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะมาลงนะ
ขอบคุณที่ติดตามและมารอเรือเจนรบที่ท่าน้ำนะคะ
ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ
Twitter #เจนไม่นก @reallyuri