มาต่อเข้าเรื่องกันดีกว่า เด๋วเข้าตัว
****************************************************
“เป็นอะไรตาแดงๆ” มันหันมามองผมจนได้ครับพร้อมกับถามออกมาผมจำเป็นต้องโกหก
“แสบบตาน่ะ”
“เหรอ แอร์แรงไปหรือเปล่า”
“ไม่หรอกผมคงง่วงมาก”
“ก็บอกให้นอนก็ไม่เชื่อดื้อไม่หายเลยนายเนี่ย เผลอๆหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ”
“เหนื่อยกับผมมากหรือเปล่า”
“ไม่อ่ะยังไงก็แฟนเหนื่อยให้ตายก็ยอม” มันเอื้อมมือที่ว่างอยู่มากุมมือผมไว้
“คงไม่แกะออกอีกนะในรถนี้มันมีแต่เรา”แทนคำตอบผมกระชับมือแน่นมากขึ้นจนมันหันมามอง
อืม………ผมอยากให้ทางมันไกลขึ้นมาซะแล้วล่ะครับ
“เห็นไอ้เอกมันบอกช่วงนี้จะมีงานที่สะพานข้ามแม่น้ำแควบอยอยากดูป่าวครับ”
ต้นหันมาถามผมเมื่อเรากำลังจะถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควซึ่งมันต้องเป็นทางผ่านไปบ้านพี่เอกอยู่แล้ว เห็นต้นบอกว่าแกอยู่ทองผาภูมิผมเองก็ไม่รู้จักทางหรอก มันพาอ้อมไปไหนผมก็ไปหมดแหละขอแค่มันเป็นคนนำทางผมก็พอแล้ว
“เหรอครับอืมก็ดีเหมือนกัน”
ถือเป็นโชคดีของผมเลยล่ะครับที่มีโอกาสอยู่กับคนที่ผมรักแบบนี้ ตั้งแต่คบกันมาผมกับมันเองก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆซะด้วย มีเหรอครับที่ผมจะปล่อยให้โอกาสที่จะเดินเที่ยวงานในช่วงหน้าหนาวแบบนี้กับคนที่ผมรักหลุดลอยไป
“คนเยอะจังครับ” ผมเอ่ยออกมาเมื่อเราเดินเข้าไปในงานที่มีทั้งการแสดงแสงสีเสียงรำลึกประวัติศาสตร์และการออกร้าน ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควเมื่อต้นมันเป็นคนบอก
นักท่องเที่ยวค่อนข้างที่จะเยอะจนผมเริ่มมึนเพราะโดยส่วนตัวผมไม่ชอบอะไรที่มันดูแออัดอยู่แล้ว ดีที่ผมมากับต้นถ้าเป็นคนอื่นผมเผ่นตั้งแต่เห็นคนเยอะๆแล้ว
“กลัวหลงเหรอจับมือพี่ไว้ดิ” มันบอกผมยิ้มๆก่อนที่จะตีหน้าเศร้า
“อย่างบอยคงไม่กล้าหรอก” เดี๋ยวกูก็จับจูบปากซะนิรู้ดีนัก ผมว่ามันอยู่ในใจเมื่อมันท้ามีเหรอผมจะไม่กล้าผมคว้าหมับเข้าที่มือมันทันที ถ้าปล่อยกูล่ะมึงโดน
ต้นมันจูงมือผมเดินซะทั่วงานผมมีความสุขที่สุดเลยล่ะครับ คิดว่าต้นมันคงไม่ต่างไปจากผมดูจากสีหน้าและรอยยิ้มของมันในทุกๆที่ที่เราไปร่วมเล่นเกมด้วยกันทำให้ผมลืมบรรยากาศแออัดไปได้เลยล่ะครับ อย่างว่าแหละครับคนมันเยอะไม่มีใครมาสนใจใครหรอกครับว่าใครจะจูงมือใคร ต้นมันเองก็ไม่ยอมปล่อยมือผมหรือผมไม่ยอมปล่อยมือมันก็ไม่รู้ก็มีบ้างบางที่บางมุมที่มันอาจจะดูน่าเกลียดเกินไปเราก็จะปล่อยมือจากกันไปเองโดยอัตโนมัติ………
…….จนเรามาหยุดนั่งพักเหนื่อยกันริมแม่น้ำในมุมที่คนไม่เยอะเกินไปผมชอบบรรยากาศแบบนี้จังดาวที่ต่างหวัดมันสวยกว่าในกรุงเทพเยอะเลยล่ะครับ
“นึกยังไงถึงอยากมาหาไอ้เอก” ต้นมันเอ่ยถามขึ้นมา
“แล้วพี่ต้นล่ะ”
“บอยนี่ยังไงถามอะไรไม่เคยได้คำตอบเลย”
“ผมว่าเราคิดเหมือนกัน” ผมจ้องหน้ามันบ้าง
“เนื้อคู่กันก็งี้แหละชอบคิดอะไรตรงกันหรือคิดถึงแล้วชอบมาให้เห็นหน้า” เอาล่ะสิครับผมเป็นฝ่ายหลบตามันซะเองเมื่อมันก็มองผมไม่วางตาเหมือนกันแถมแววตาที่มันส่งให้ผมรู้สึกอบอุ่นอยู่ลึกๆ
“แล้วพี่ต้นไม่ทำงานเหรอครับ” ผมถาม
“ใครจะมีกะจิตกะใจทำหลอกให้เราอารมณ์ค้างซะขนาดนั้น”
“ทะลึ่ง!! ก็พี่ไม่ยอมเข้าใจผมบ้างแล้วนี่ลางานมากี่วันครับ”
“จนกว่าบอยจะกลับ”
“เดือนหนึ่ง” ผมล้อมัน
“ให้สองเดือนเลยอะ”
“ทำเป็นพูดดีไปเหอะเดี๋ยวกลับไปงานท่วมหัวจะพูดไม่ออก”
“เตือนตัวเองเหอะไอ้น้องนักข่าวใหญ่” มันเอามือมายีหัวผมเล่นมันก็จริงผมชักไม่อยากกลับแล้วสิ ผมกลัวปัญหาเดิมๆมันจะกลับมาหาเราอีกรอบ
“ตอนแรกผมคิดว่าพี่จะไปหาขวัญซะอีก” ผมเอ่ยถามในที่สุดเมื่อนึกถึงขวัญที่ตอนนี้ก็วนเวียนอยู่ใกล้ชีวิตผมเข้ามาทุกขณะ
“คิดไม่ผิดหรอก” ต้นมันตอบกลับมาทำเอาผมอึ้งดีที่มันหลุดขำออกมาซะก่อน
“กลัวอ่ะดิทีหลังก็อย่ามาแกล้งให้อารมณ์ค้างละกันไอ้น้อง”
มันมองผมล้อๆพลางตบแก้มผมเบาๆ สงสัยคืนนี้ผมคงหนีมันไม่รอดแล้วล่ะครับ………
เช้าแล้วล่ะครับ ผมลืมตาขึ้นมองร่างที่นอนอยู่ข้างๆผม… ต้นมันกำลังนอนหายใจอย่างสม่ำเสมอ
ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวยังงงๆกับชีวิตตัวเองนึกๆไปก็แทบจะไม่น่าเชื่อว่าผมจะได้มานอนข้างๆต้นแบบนี้และมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับมัน คนที่เคยทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายก็มานอนข้างๆกันแบบนี้…อีกแวบหนึ่งผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเราจะมีกันและกันไปอีกนานเท่าไหร่ ผมก็ได้แต่ภาวนาให้ต้นมันแบบนี้ให้นานเท่านาน แต่เหตุการณ์ข้างหน้าผมควรจะปล่อยมันไปก่อนดีกว่าครับแค่วันนี้มันอยู่กับผม.ผมก็ควรจะรักษาความผูกพันตรงนี้ให้มันดีที่สุด...........
พี่เอกแกก็เข้าใจหาห้องให้เราจริงๆ บ้านพักแกก็น่าอยู่ครับอยู่กลางแมกไม้มันก็ดูร่มรื่นไปอีกแบบเสียงนกร้องตอนเช้าๆมันทำให้ผมอดที่จะลุกไปสูดอากาศบริสุทธ์ไม่ได้ ผมไม่แปลกใจเลยที่พี่เอกแกเลือกที่จะอยู่ที่นี่ก็บรรยากาศมันน่าอยู่ขนาดนี้ นี่ถ้าเกิดผมมาอยู่นี่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีต้นอยู่ด้วยผมคงเหงามากเลยล่ะครับ
อากาศเย็นแฮะ… ผมรู้สึกได้เมื่อลุกจากที่นอนและผ้าห่มหนาๆนั่นผมเลยหันกลับไปห่มผ้าให้ต้นมันใหม่
“อ้าวบอยทำไมตื่นเช้าจังอ่ะ” พี่เอกทักผมเมื่อผมเดินออกมานอกตัวบ้านแกคงเตรียมตัวจะไปโรงเรียนแล้วล่ะครับ ใส่ชุดพละซะเท่ห์เชียวมันทำให้ผมอดนึกถึงวันเก่าๆไม่ได้สมัยที่เราเรียนมัธยมแล้วแกกับต้นก็ลงเล่นบอลด้วยกัน เรียกว่าแกกับต้นซี้กันมากเลยล่ะครับ เรื่องที่ต้นมันคบกับผมมันก็เลยไม่เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรในสายตาของแก
“ไม่รู้เหมือนกันครับบอยคงไม่ชินที่อ่ะครับ”
“อืมเดี๋ยวก็ชินแล้วไอ้ต้นมันยังไม่ตื่นอ่ะดิ”
“ครับคงเพลียมากกว่าจะขับรถมาถึงพี่ได้เขาก็คงจะเมื่อยครับ”
“อยู่แถวชายแดนก็งี้แหละอยู่ใกล้ตัวเมืองแต่อากาศดีนะพี่ชอบ”
“เห็นด้วยครับขนาดคืนแรกผมยังติดใจเลยแล้วนี่พี่จะไปโรงเรียนแล้วเหรอครับแล้วแฟนพี่ล่ะ” ผมหมายถึงแฟนหญิงของแกน่ะครับ ผมยังไม่มีโอกาสเจอหน้าเลยรู้แต่ว่าเป็นครูเหมือนกัน เมื่อคืนผมกับต้นก็กลับดึกคงหลับไปแล้วมีแต่พี่เอกที่นั่งคอย
“อ๋อ..ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วรายนั้นน่ะขยันเอามากๆ”
“พี่ก็โชคดีสิครับที่ได้แฟนขยันแบบนี้” พูดไปผมก็ใจแป้วนึกเห็นใจต้นขึ้นมาถ้าเกิดวันหนึ่งคนที่รักมันและมันก็เคารพเกิดอยากให้มันมีครอบครัวขึ้น มาผมควรจะทำยังไงครับ???
“อ้าวอยู่ดีๆก็เงียบไปคิดอะไรอยู่บอย” พี่เอกเดินมาตบไหล่ผม
“เปล่าครับ” ผมปฎิเสธแต่ดูเหมือนพี่เล็กแกจะดูออกแกจึงพูด
“อย่าคิดอะไรมากเลยบอยไอ้ต้นนะมันจะรักใครนะใครก็ห้ามมันไม่ได้หรอก ก็บอกแล้วไอ้นี่มันยอมใครที่ใหนรู้ป่าวว่ามันบอกว่ามันกลัวใจบอยมากกว่า พี่ว่าบอยควรที่จะเลิกกังวลในหลายๆอย่างได้แล้ว พี่ไม่ได้แช่งนะคนเราไม่รู้ว่ามันจะตายจากกันไปเมื่อใหร่ ความรักมันเป็นสิ่งที่ดีเสมอไม่ว่ามันจะเกิดกับใคร ในเมื่อต้นมันยังเป็นต้นคนเดิมบอยก็สบายใจเหอะอย่าไปเครียดกับมันเลย ไอ้เนี่ยดูแลมันให้ดีก็พอแล้วอย่าให้มันต้องวี่งโร่เอาเรื่องของบอยมาปรึกษาพี่บ่อยๆ เดี๋ยวพี่ยุให้มันเลิกนะ ทำร้ายจิตใจมันบ่อยๆพี่ก็สงสารเพื่อนพี่เหมือนกันนะ”
ผมรู้ว่าพี่เอกแกพูดติดตลกให้ผมเลิกคิดมากมันคงช่วยได้ไม่มากหรอกครับพี่เอก…
ผมกลับเข้าไปห้องที่ต้นนอนอยู่อีกครั้งเมื่อพี่เอกแกออกไปแล้ว แกก็บอกอะไรๆหลายว่าอะไรอยู่ที่ใหนอะไรยังไงแต่แกบอกว่าต้นมันเคยมาอยู่ก่อนแล้วมันก็พอที่จะรู้ลู่ทาง มิน่าล่ะมันถึงขับรถมาได้ถูกอย่างชำนาญ
“ตื่นแล้วเหรอครับ” ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นต้นมันนั่งหน้ายุ่งอยู่บนเตียง
“ไปไหนมาอ่ะ”
“ไปคุยกับพี่เอกมา”
“นึกว่าหนีกลับกรุงเทพซะแล้ว”
“กลับได้ไงคนขับรถยังนอนขี้เซาอยู่เลย”
“อืมก็มันเพลียๆสงสัยเมื่อคืนหนักไปหน่อย” ดูมันทำยังมีหน้ามายักคิ้วหลิ่วตาอีก
“พูดมากไปอาบน้ำไป”
“อาบให้หน่อยดิ”
“ไม่เอาจะไปหาอะไรกินแล้วหิว”
“อ้าวแล้วไม่รอพี่อ่ะ”
“ก็รีบไปอาบสิครับผมจะรอข้างล่าง”
“ไม่เอาอ่ะไม่มีแรงหนาวด้วยเป็นแฟนประสาอะไรขอแค่นี้ไม่ได้” มันมองผมดุๆผมล่ะเชื่อมันเลย
“แต่ผมอาบแล้วนะ”
“ก็อาบอีกรอบไง..นะ”
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะอ้อนเป็นด้วยผมก็เลยปล่อยเลยตามแล้วล่ะครับ ส่วนเหตุการณ์ในห้องน้ำผมขอผ่านนะครับ อนุญาตให้คิดกันได้ตามสบายว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมขอจำช่วงเวลานั้นไว้กับผมก็แล้วกัน….
มันทำผมเจ็บตัวอีกแล้วครับ...แต่ผมก็ยอม!!!!