27
หลังจากวันที่ราชามีเขี้ยวงอกออกมาให้พยัคฆ์ได้เห็น พยัคฆ์ก็พยายามจะใช้ความสามารถพิเศษสื่อสารกับราชาและราชัน กับราชันพยัคฆ์ไม่ได้กังวลใจอะไรมากนักเพราะยังไม่ได้แสดงออกถึงความรุนแรงอย่างราชา แต่กับราชาที่พยัคฆ์พยายามสื่อสารด้วยว่าทำไมราชาถึงจะกัดนิ้วมือของเชอร์รี่แบบนั้น ก็ได้เพียงคำตอบเดียวจากราชาคือคำว่า'เกลียด'ที่ราชาบอกกับพยัคฆ์ มันหมายความว่าราชาเกลียดเชอร์รี่และคงจะเกลียดมากจริงๆถึงเกือบจะทำร้ายเธอ
เขารู้ว่าทุกคนในบ้านไม่ชอบเชอร์รี่ แม้แต่ตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะยินดีกับการมาเยือนของผู้หญิงคนนี้มากนัก กลิ่นของเชอร์รี่เขาเองก็ไม่ชอบมัน มันไม่ใช่กลิ่นของน้ำหอมที่เธอใช้ แต่พวกเขาทุกคนในบ้านเนตรสุริยารับรู้ถึงกลิ่นที่ออกมาจากภายในร่างกาย กลิ่นของเชอร์รี่มันน่าสะอิดสะเอียนมันเป็นกลิ่นของความอยากและตัณหา พยัคฆ์คิดว่าเชอร์รี่เป็นเหมือนดอกไม้งามที่อาบยาพิษร้ายแรงเอาไว้ใช้ความสวยงามหลอกล่อผู้ชายที่เป็นเหมือนแมลงให้หลงใหลไปกับความสวยงามเหล่านั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ควรมองแต่ไม่ควรสัมพันธ์และดมดอม
พยัคฆ์เฝ้าสังเกตพัฒนาการของราชากับราชันอย่างใกล้ชิดและเป็นห่วง จนขวัญเองก็ต้องออกปากบอกพยัคฆ์ว่าอย่ากังวลกับเรื่องพัฒนาการของสองแฝดแสบมากเกินไปนักเลย มันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอที่สองแฝดแสบมีพัฒนาการที่ดีและเร็วกว่าเด็กปกติธรรมดาทั่วไป ขวัญเองก็คิดว่าสองแฝดแสบเป็นเด็กที่ฉลาดและรู้เรื่องมากกว่าที่พยัคฆ์คิด เพราะตั้งแต่ที่พยัคฆ์ทำตัวเป็นพ่อที่เฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของลูกๆ ขวัญแอบเห็นหลายครั้งแล้วเวลาที่พยัคฆ์หละสายตาจากสองแฝดแสบ ราชากับราชันก็จะหันมายิ้มให้กันเสมอเลยเหมือนกำลังสนุกที่ได้แกล้งพ่อของตัวเอง
พยัคฆ์ที่ได้ฟังขวัญพูดมากทั้งหมดก็หันไปมองสองแฝดแสบที่กำลังนอนฟังพ่อและแม่ของตัวเองพูดคุยกันอยู่ พยัคฆ์เดินเข้าไปหาราชากับราชันแล้วถามถึงสิ่งที่ขวัญพูดมาว่าจริงหรือป่าว
"คิง คิน เราสองคนแกล้งพ่ออย่างนั้นหรอฮะ จริงอย่างที่แม่ขวัญบอกใช่มั้ย"
แต่สิ่งที่พยัคฆ์ได้รับคำตอบจากลูกรักทั้งสองคือรอยยิ้มกว้างของราชันและรอยยิ้มมุมปากเล็กๆของราชา ขวัญที่เห็นความแสบของลูกรักทั้งสองคนพร้อมๆกับพยัคฆ์ก็คิดว่าไอ้ท่าทางและรอยยิ้มที่ยิ้มมุมปากแบบนั้นของราชามันเหมือนกับพยัคฆ์อย่างกับคนๆเดียวกัน ขวัญเริ่มสงสารพยัคฆ์ที่ต้องพบเจอกับความแสบและความฉลาดที่มากเกินเด็กของลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แต่จะโทษใครก็คงไม่ได้คงต้องโทษที่ตัวของพยัคฆ์เองที่ไม่ใช่คนปกติ สองแฝดแสบถึงเกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษและพัฒนาการที่ต่างออกไปจากเด็กธรรมดา
เวลาผ่านไปจนวันนึงที่สองแฝดแสบอายุได้ประมาณสองเดือน ขวัญกับพยัคฆ์ที่นั่งมองดูไลท์เล่นกับสองแฝดแสบอยู่ก็ได้เห็นพัฒนาการที่เหนือคนปกติของทั้งสองคนอีกครั้ง พยัคฆ์คิดว่าคงเป็นเพราะสัญชาตญาณสัตว์ป่าของไลท์และสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่อยู่ให้ตัวของราชากับราชันที่กระตุ้นกันและกันทำให้สองแฝดแสบแสดงสัญชาตญาณของตัวเองออกมา ราชันมีเขี้ยวงอกออกมาเหมือนราชาในวันที่จะกัดนิ้วมือของเชอร์รี่ แตกต่างกับราชาที่เขี้ยวงอนในวันนั้นเพราะอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ แต่ราชันเขี้ยวงอกออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เล่นกับไลท์อยู่ ราชาที่มีพัฒนาการขึ้นไปอีกขั้น พยัคฆ์กับขวัญคิดว่าราชาน่ารักมากจริงๆเมื่ออยู่ในรูปร่างแบบนี้ ราชาที่เล่นกับไลท์อยู่ตอนนี้มีเขี้ยวงอกออกมาและมีหูเสือเล็กๆกับหางงอกออกมาด้วย พยัคฆ์ดีใจและปลื้มใจมากที่ได้เห็นราชาในร่างนี้เป็นลูกเสือขาวในร่างคนและอีกไม่นานเขาคงได้เห็นราชันในร่างแบบนี้บ้าง พยัคฆ์มีความสุขที่ได้เฝ้าดูพัฒนาการของลูกๆและช่วงเวลาเหล่านี้ก็มักจะผ่านไปเร็วเสมอ
พยัคฆ์คิดว่าเขาเองก็ทิ้งภาระหน้าที่ของตัวเองฝากไว้กับหลานชายทั้งสองคนมานานพอสมควรแล้ว อีกไม่นานเขาคงต้องกลับไปดูแลและจัดการภาระและงานของตัวเองได้แล้ว พยัคฆ์รู้ว่าหลานของเขาทั้งสองคนคงกำลังมีปัญหาเรื่องความรู้สึกของตัวเอง เมฆก็เป็นคนเงียบและเก็บความรู้สึกเกินไป ส่วนไม้ก็คิดเล็กคิดน้อยคิดมากเกินไปและมักจะมองข้ามความรู้สึกของตัวเอง ความรักไม่ได้ใช้สมองแต่ใช้หัวใจและการกระทำก็ไม่ได้สำคัญว่าคำพูดเสมอไป ไม่รู้ว่าหลานของเขาทั้งสองคนจะเข้าใจเรื่องนี้กันบ้างมั้ย
ราชากับราชันอายุได้สามเดือนพยัคฆ์ก็เห็นว่ามันถึงเวลาอันสมควรแล้วที่เขาต้องกลับไปทำงานในหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเอง ขวัญก็เห็นดีด้วยเพราะร่างกายของขวัญเองแข็งแรงและหายดีแล้ว สองแฝดแสบเองก็ไม่ได้เลี้ยงยากอะไร ขวัญคิดว่าราชากับราชันเลี้ยงง่ายกว่าเด็กธรรมดาทั่วไปซะอีก แต่ก็มีอยู่อย่างเดียวที่ต้องคอยระวังคือสัญชาตญาณความเป็นเสือที่อยู่ในสายเลือดของทั้งสองคน ยิ่งมีไลท์เป็นพี่เลี้ยงแล้วด้วย ราชากับราชันก็มันจะเล่นกันจนเผลอแสดงสัญชาตญาณสัตว์ป่ากันออกมาบ่อยๆ ขวัญคิดว่าพยัคฆ์คงหยุดอยู่บ้านกลับสองแฝดแสบนานเกินไป จนดูเหมือนพยัคฆ์ไม่อยากกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อถึงเวลาซะอย่างนั้น แต่ในใจขวัญลึกๆก็ดันกลับรู้สึกไม่อย่างให้พยัคฆ์ห่างจากตัวเองและสองแฝดแสบยังไงก็ไม่รู้
พยัคฆ์เองที่วันนี้ต้องกลับไปทำงานเป็นวันแรกหลังจากที่ห่างหายไปนาน ก็มีความรู้สึกลึกๆในใจมันสั่นไหวเขาไม่อยากอยู่ห่างจากเมียและลูกๆของเขาเลย เขาคงจะเป็นโรคติดเมียติดลูกเสียแล้ว ก่อนพยัคฆ์ขึ้นรถไปทำงานขวัญก็อุ้มสองแฝดแสบมาส่งพ่อเสือที่กว่าจะยอมไปทำงานได้นี้ก็สายมากๆแล้ว พยัคฆ์หอมแก้มลูกรักทั้งสองคนแล้วจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางสวยของเมียรักแล้วบอกกับสองแฝดแสบว่าอย่างซนกันให้มากนักเดี๋ยวแม่ขวัญจะปวดหัว เสร็จแล้วพยัคฆ์ก็ขึ้นรถที่มีลูกน้องเป็นคนขับออกไปบริษัท
พยัคฆ์เคลียร์เอกสารต่างๆโดยมีเมฆกับไม้เป็นคนคอยช่วยทำให้พยัคฆ์ทำงานได้เร็วขึ้นมาก แต่ก็คงจะเคลียร์ให้เสร็จทั้งหมดในวันเดียวไม่ได้ พยัคฆ์มองดูกองเอกสารมากมายที่ว่างอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาแล้วคิดว่าอย่างน้อยๆคงต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์หรือมากกว่านั้นถึงจะอ่านและเคลียร์เอกสารทุกอย่างได้หมด แต่ไม่ว่าเอกสารพวกนี้จะมากแค่ไหนพยัคฆ์ก็ไม่คิดจะทำงานเกินเวลาห้าโมงเย็นเป็นอันขาด เพราะพยัคฆ์จะรีบกลับบ้านไปหาสองแฝดแสบกับขวัญ ไม่รู้ว่าขวัญกับลูกๆจะคิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงหรือป่าว
ขวัญที่ส่งพยัคฆ์ขึ้นรถไปทำงานแล้วก็อุ้มสองแฝดแสบกลับเขามาในบ้านอีกครั้ง วางสองแฝดแสบให้นอนลงในห้องที่มีไลท์นอนคอยอยู่ก่อนแล้ว ไลท์เมื่อเห็นขวัญวางน้องๆลงก็ทำหน้าที่ของตัวเองทันที ไลท์ลุกขึ้นเดินเข้าไปเอาหัวถูมือของสองแฝดแสบไปมาเรียกรอยยิ้มจากราชาและเสียงหัวเราะจากราชัน ขวัญที่เห็นภาพเหล่านี้จนเริ่มจะชินตาก็ยิ้มออกมาแล้วคิดถึงใครบ้างคนที่ขวัญไม่ได้กลับไปหาเลยตั้งแต่จากมา ป่านนี้ยายศรีของขวัญจะเป็นยังไงบ้างนะ ขวัญกำลังคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ขวัญจะกลับไปหายายจ๊า
เวลา 17.15 น. พยัคฆ์ก็กลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่พยัคฆ์ทำคือเดินเข้าไปหาเมียกับลูกๆที่ห้องของเด็กๆ พยัคฆ์หอมแก้มขวัญแรงๆหนึ่งที'ฟอด'แล้วมองไปที่สองแฝดแสบที่ตอนนี้นอนสลบอยู่
"พี่กลับมาแล้วครับ"
ขวัญยิ้มให้กลับทางทีที่ทำเหมือนเขากับพยัคฆ์จากกันไปนานนับเดือนทั้งๆที่ห่างกันยังไม่ถึงแปดชั่วโมงด้วยซ้ำไป
"ขวัญรู้แล้ว ว่าพี่เสือกลับมา หอมแก้มขวัญแรงซะแก้มถลอกแล้วมั้งเนี่ย"
"ก็พี่คิดถึงเมียกับสองแฝดแสบนี้ คืนนี้ให้ราชากับราชันนอนห้องตัวเองได้แล้วนะ...นะครับ"
ขวัญยิ้มเพราะรู้ว่าพยัคฆ์กำลังคิดอะไรและต้องการอะไรอยู่ พยัคฆ์เริ่มสร้างห้องนอนให้สองแฝดแสบตั้งแต่ทั้งสองคนอายุได้แค่เดือนเดียว ขวัญเห็นว่าลูกยังเล็กกันเกินไปที่จะให้นอนแยกห้องกัน จึงบอกกับพยัคฆ์ว่าให้ลูกโตกว่านี้อีกหน่อยเพราะขวัญกลัวลูกจะร้องแล้วขวัญจะไม่ได้ยิน หลังจากวันนั้นพยัคฆ์ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกแต่ให้คนมาติดตั้งกล้องที่สามารถเห็นภาพและเสียงที่อยู่ให้ห้องของลูกได้และพูดถึงมันอีกครั้งในวันนี้
กลางคืนขวัญก็ยอมทำตามที่พยัคฆ์ขอมาอุ้มราชากับราชันไปนอนในห้องนอนที่พ่อของเขาตั้งใจทำเอาไว้ให้ ขวัญหอมแก้มราชากับราชันแล้วบอกลูกก่อนนอนอย่างนี้ทุกคืนว่า'แม่รักลูกๆมากนะ'แล้วเดินกลับไปหาพยัคฆ์ที่ห้องของพวกเขา
ขวัญขึ้นไปนอนบนเตียงที่มีพยัคฆ์นอนคอยอยู่ ขวัญคิดมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วว่าอยากพาราชากับราชันไปหายายศรีสักครั้ง ขวัญรู้สึกว่ายังไงขวัญก็ต้องไปให้ได้ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ได้แต่หวังว่ามันคงไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับมาอีก
"พี่เสือ...พาขวัญไปหายายหน่อยได้มั้ย ขวัญคิดถึงยาย อยากให้ราชากับราชันได้เจอยายของขวัญด้วย"
พยัคฆ์เองก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลยว่าขวัญยังที่ยายเหลืออยู่อีกคน ตั้งแต่ขวัญมาอยู่ที่นี้ก็ปีกว่าแล้วขวัญยังไม่เคยกลับไปบ้านเลยสักครั้ง ยายเองก็คงจะคิดถึงขวัญเหมือนกัน แต่ที่เขากำลังกังวลคือขวัญจะอธิบายกับยายยังไงเรื่องของราชากับราชัน อยู่ดีๆก็กลับไปบอกว่าตัวเองที่สามีเป็นผู้ชายแล้วยังตั้งท้องมีลูกชายฝาแฝดอีก ยายของขวัญไม่เป็นลมหัวใจวายไปก่อนหรือไง
"ครับ วันเสาร์พี่จะพาขวัญกับสองแฝดแสบไปเองนะ เพื่อขวัญอยากค้างที่นั้นสักคืนสองคืนก็ได้ แล้วขวัญจะบอกว่ากับยายยังไงเรื่องของพวกเรา"
ขวัญเองก็คิดเอาไว้บ้างแล้วเรื่องที่จะบอกกับยายยังไง แต่ขวัญคิดว่าการบอกความจริงกับยายเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถึงยายอาจจะตกใจหรือไม่เชื่อในสิ่งที่วันบอกแต่ขวัญก็ไม่ต้องโกหกยาย เพราะตั้งแต่ขวัญเกิดมาขวัญยังไม่เคยโกหกยายเลยสักครั้ง
"ขวัญจะบอกความจริงกับยายทุกอย่าง "