Special case {ติณณ์เหนือ} : New Beginning
“โซระจางงง”
เสียงของโคจิ รูมเมทของเขาดังขึ้นจากหน้าห้อง เหนือฟ้าที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก เขาอยู่ที่นี่มาจะครบหนึ่งปีแล้ว ตอนที่มาใหม่ๆร่างโปร่งคนพบว่าชื้อของตัวเองออกเสียงยากและทำให้เพื่อนๆลำบากใจ เขาจึงแก้ไขโดยการให้ทุกคนตั้งชื่อให้ตามที่สะดวก โคจิจึงเสนอชื่อโซระ ที่แปลว่าท้องฟ้าขึ้น และกลายเป็นชื่อที่คนในมหาวิทยาลัยเรียกเขามาจนถึงปัจจุบัน
“ว่าไง มีอะไรเหรอ?”
“มีคนถามหานายอยุ่ใต้หออ่ะ คนไทยด้วยนะ หล่อโคตรอ่ะ สาวๆในมอกรี๊ดใหญ่แล้วตอนนี้” เพื่อนร่วมห้องขาเมาท์รายงาน “แฟนเหรอ?”
“บ้าเหรอ ฉันมีแฟนที่ไหนล่ะ” ร่างโปร่งตอบ แต่หัวใจของเขากลับเต้นแรงขึ้นอย่างน่าประหลาด
จะใช่...รึเปล่านะ?ไม่รอให้ตัวเองค้างคาใจไปมากกว่านี้ เหนือฟ้าปิดหนังสือ คว้าแจ็กเกตของตนแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังทางออกของหอทันที
ร่างสูงยืนหันหลังให้เขาในเสื้อโค้ทตัวยาวสีน้ำตาล แต่เหนือฟ้าจำแผ่นหลังกว้างนั้นได้ต่อให้เขาอยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม ดวงตาสีน้ำตาลหม่นภายใต้แว่นอ่านหนังสือเป็นประกายสดใส ก่อนที่ร่างโปร่งจะกระโดดกอดชายหนุ่มที่ยังคงไม่เห็นเขาจนอีกฝ่ายเซไปหลายก้าวก่อนจะล้มลงไปนั่งจุ้มปุ๊กกับหิมะที่สูงเกือบถึงเข่า
“ไอ้กล้า!!!”
“เซอร์ไพร์สมั้ยมึง” กวิพภพหัวเราะ กอดตอบเพื่อนสนิทแน่นพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
“พี่กล้า พี่เหนือ ลงไปทำอะไรตรงนั้นครับ เลอะเทอะหมด” แว่นที่เดินถือกาแฟร้อนในมือข้างหนึ่ง และไอศกรีมในมืออีกข้างเดินเข้ามาหาร่างทั้งสองที่กอดกันกลมอยู่บนพื้น เหนือฟ้าลุกขึ้นยืนก่อนจะดึงเพื่อนรักให้ลุกตามขึ้นมา เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเพื่อนรักจะมาโดยไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้ อันที่จริงกวินภพก็ร่ำๆจะโดดเรียนมาหาเขาหลายรอบถึงแม้จะไสกป์คุยกันทุกวันจนแทบไม่มีอะไรให้คุย แต่ก็ติดอยู่ที่น้องแว่นไม่ยอมโดดเรียน ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้มาเสียที
“แว่น หนาวขนาดนี้ยังจะกินไอศกรีมอีกเหรอ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” กวินภพเตือนอย่างเป็นห่วง เด็กหนุ่มส่งกาแฟร้อนที่คนรักฝากซื้อให้อีกฝ่าย ก่อนจะเลียไอศกรีมอย่างไม่สนใจคำเตือน เหนือฟ้าไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกว่าทำเลียไอศกรีมของเด็กหนุ่มมันชวนให้เขารู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไรบอกไม่ถูก
“อึก…”
ดูจากปฎิกิริยาของเพื่อนสนิท เขาคงไม่ได้คิดไปเองสินะ
“ก็เขาลดห้าสิบเปอร์เซ้นต์ ไม่ซื้อได้ยังไงล่ะครับ” ร่างเล็กในชุดโค้ทหลายชั้นที่ดูก็รู้ว่าถูกคนรักจับห่อว่า
เหนือฟ้ายิ้มอย่างเอ็นดู น้องแว่นยังไงก็เป็นน้องแว่นสินะ
“วันนี้วันแรกของหยุดฤดูหนาวใช่มั้ย ได้หยุดกี่วันล่ะ?”
“ก็ ตั้งแต่วันนี้ถึงปีใหม่ ก็สองอาทิตย์กว่าๆนะ” ร่างโปร่งบอก เขากะว่าจะไปเที่ยวจังหวัดอื่นเปลี่ยนบรรยากาศจากโตเกียวอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เขาได้ทุนมาศึกษาต่อ แตต่ถ้าเพื่อนรักอุตส่าห์มาเยี่ยมทั้งที เขาคงต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว
“กูคงอยู่เที่ยวโตเกียวซักสามสี่วัน ว่าจะพาแว่นไปเที่ยวสวนสนุกซะหน่อย แล้วคงไปต่อจังหวัดอื่น” ร่างสูงเล่าแผนคร่าวๆให้เพื่อนฟัง “ไปด้วยกันนะ”
“เฮ้ยๆ มึงจะมาฮันนีมูนกัน พากูไปด้วยจะไม่เกะกะเหรอวะ?” ร่างโปร่งรีบเบรกนิสัยที่ต้องหนีบเขาไปด้วยทุกทีของเพื่อนรัก
“ฮันนีมูนอะไรล่ะครับพี่เหนือ นี่น่ะทริปมาเยี่ยมพี่เหนือของพี่กล้าเค้าเลยล่ะครับ ผมตามมาหาของกินเฉยๆ” แว่นยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินโต๋เต๋ออกไปซื้อขนมที่ร้านขายขนมที่อยู่ข้างถนน
“น้องมันเก็บไว้ไหนหมด ทำไมมันไม่อ้วนวะ” เหนือฟ้าอดถามไม่ได้
“กูพาน้องออกกำลังบ่อย” สีหน้าภูมิอกภูมิใจของกวินภพทำให้เหนือฟ้าเข้าใจความหมายของประโยคนั้นเป็นอย่างดี
หากความตัณหากลับของคนน้องมีมากพอกับคนพี่ เหนือฟ้าก็ขอไว้อาลัยล่วงหน้าให้ความราบรื่นในการเดินของน้องแว่น
“ไปกับกูนะ” กวินภพดึงแขนเพื่อนพร้อมด้วยสายตาวิงวอน
“อือ กูว่างทั้งวันหยุดอยู่แล้ว” ร่างโปร่งไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
และแล้ว ทริปตะลอนทัวร์แบบไม่วางแผนของสองเพื่อนรักโดยมีคนรักของกวินภพติดสอยห้อยตามมาด้วยก็เริ่มขึ้น
“เคี้ยวตุ้ยๆเลย ชอบล่ะสิ” เหนือฟ้าหัวเราะเมื่อเห็นแว่นเคี้ยวขนมดังโงะตุ้ยๆไม่พูดไม่จา ตั้งแต่พาทัวร์มาานี้ สถานที่สวยงามหวือหวาน่ารักโรแมนติกแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้เด็กหนุ่มตาโตได้เท่ากับของกินมากมายที่เรียงรายตามสองข้างทาง
“เฮอะ!”
ปฎิกิริยาของน้องแว่นน่ะปกติ แต่คนที่นั่งหน้าเป็นตูดอยู่เนี่ย ดูก็รู้ว่าอารมณ์บูดสุดๆ เหนือฟ้าเอนตัวกระซิบข้างหูเพื่อนรัก
“มึงเป็นไรเนี่ย?”
“เปล่า” ร่างสูงสะบัดหน้าหนี ดูก็รู้ว่ากำลังงอนคนรักอยู่
ส่วนคนรักที่ถูกงอนยังคงเคี้ยวขนมอย่างเอร็ดอร่อยด้วยใบหน้าสุดฟินจนคนแถวนั้นอมยิ้มมองด้วยความเอ็นดู ไม่ได้สนใจสถานการณ์รอบข้างเลยสักนิด
เดี๋ยวนะ?
หรือว่า...
“กล้า...มึงคงไม่ได้กำลังหึงขนมอยู่ใช่มั้ย?”
ร่างสูงไม่ตอบ ยืนยันความคิดของเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆได้เป็นอย่างดี
ป้าบ!
เหนือฟ้าตบหัวเพื่อนรักไปหนึ่งทีให้หายคิดถึง เขาสงสัยเหลือเกินว่ากวินภพสามารถประคับประคองชีวิตรักของตัวเองมาตลอดหนึ่งปีได้อย่างไร
“ถ้าพวกกูไปเมืองอื่นแล้ว มึงจะไปเที่ยวไหนเหรอ?” กวินภพถามหลังจากลูบหัวตัวเองจนหายเจ็บ
“ก็คงเมืองข้างๆอ่ะ แบบเช้าไปเย็นกลับ แต่คงไม่ออกไปคริสต์มาสเลย คนคงเยอะ คงไปหาร้านนั่งอ่านหนังสือแถวมอแหละ” เหนือฟ้ายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปดูน้องแว่นเขมือบโซบะทั้งถ้วยลงท้องพร้อมข้าวแกงกระหรี่อย่างรู้้สึกอิ่มแทน
“แล้ว...มึงจะไปกับใครอ่ะ” ชายหนุ่มถามแซะ ใช้ศอกกระทุ้งแขนเพื่อนเบาๆพร้อมรอยยิ้ม
“ไปคนเดียวนี่แหละ มึงคิดว่ากูมีเวลาหาแฟนเหรอวะ แค่นี้ก็เรียนจนหัวหมุนแล้ว” เหนือฟ้าหัวเราะ
อันที่จริงเวลาของเขามีล้นเหลือ คนที่มาตามจีบก็เยอะจนน่าปวดหัว แต่สำหรับเหนือฟ้า คนที่ไม่ใช่ ก็คือคนที่ไม่ใช่
ส่วนคนที่ใช่...
น่าแปลกที่ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน เขาคิดถึงติณณ์ภพมากกว่าเขานึกถึงในหนึ่งปีที่ผ่านมาเสียอีก
แต่เขาในตอนนี้ สามารถนึกถึงชื่อของติณณ์ภพได้ โดยที่ก้อนเนื้อในหน้าอกไม่รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาแล้ว เหนือฟ้าไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอีกฝ่ายได้รับผลกรรมที่ตนทำไว้ หรือเป็นเพราะเขาไม่ได้ผูกใจเจ็บตั้งแต่แรก
หรือเพราะเขาพร้อมที่จะปล่อยวางอดีตเพื่อเริ่มต้นใหม่แล้วจริงๆ
“นี่…พี่ิติณณ์สบายดีมั้ย?”
กวินภพชะงัก ก่อนจะตอบอย่างไม่เต็มเสียง
“ก็…ดีมั้ง?”
“มั้ง?” เหนือฟ้าขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ พอขึ้นปีห้ามันมีเลือกเสรีใช่ป่ะ? พี่ติณณ์แม่งไม่เลือกอันไหนที่อยู่มหาลัยเลย กูก็ไม่ได้คุยกับเขานานแล้ว เอะอะก็เรียน เรียนเสร็จไปสัมนา สงสารว่ะ”
“อ๋อ…” ร่างโปร่งพยักหน้าเข้าใจ เขาก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าปีห้าจะมีช่วงนึงที่แทบไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยเลย
คงจะ...อยากเปลี่ยนบรรยากาศเหมือนเขาล่ะมั้ง?
หลังจากพาเพื่อนเที่ยวจนทั่วเมือง และพาน้องแว่นตะลุยกันจนหนำใจ เหนือฟ้าก็พาเพื่อนรักมาส่งที่สถานีในเช้าวันคริสต์มาสเพื่อออกเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดอื่น แล้วค่อยลงไปโอซาก้าเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับจากที่นั่น
“เดินทางปลอดภัยเว้ย โชคดีๆ” สองเพื่อนรักกอดกันกลม เหนือฟ้าพยายามจะไม่คิดถึงกวินภพมากนักเวลาอยู่ที่นี่ แต่พอถึงวันที่ต้องจากกันแบบนี้ เขาถึงได้จำได้ว่าความรู้สึกเหงามันเป็นอย่างไร
ถ้าเขาจะไม่ยอมต่อโทที่นี่แล้วกลับไทย ก็คงจะเป็นเพราะทนคิดถึงเพื่อนรักไม่ไหวนี่แหละ
“มึงด้วย โชคดีนะ” กวินภพตบไหล่เพื่อนหนักๆบอกลา ก่อนจะหยิบกระเป๋าพาคนรักเดินเข้าไปยังสถานีรถไฟ เหนือฟ้ามองภาพนั้นด้วยความสุขระคนอิจฉา นึกสงสัยว่าตัวเองจะได้เจอคนที่รักตนได้มากเท่ากับที่สองคนนั้นรักกันหรือไม่
แล้วคนคนนั้นจะยอมรับได้มั้ย หากรู้ว่าใจของเขา มีส่วนเล็กๆที่มีคนจับจองไว้ ไม่สามารถยกให้ใครได้อีกตลอดไป
ส่วนเล็กๆเพียงเศษเสี้ยว แต่ก็ทำให้หัวใจที่จะมอบให้ใครไม่มีวันเต็มดวง
วันนี้วันคริสต์มาส
วันคริสต์มาสของประเทศญี่ปุ่นนั้น เป็นเทศกาลที่สามารถฆ่าคนโสดได้ตายสนิทยิ่งกว่าวันวาเลนไทน์เสียอีก ร้านรวงประดับประดาไปด้วยแสงไฟและต้นคริสต์มาส หิมะโปรยปรายสร้างบรรยากาศให้คู่รักเดินจับมือเพิ่มความอบอุ่นควงกันตามถนน เหนือฟ้ากระชับอ้อมกอดของตนที่มีแต่ชีทเรียนและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค สะพายเป้เดินเข้าไปในร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟและความรักลอยละล่อง ทำเอาคนโสดอย่างเขาอยากจะหมุนตัวเดินกลับออกไปเลยทีเดียว
“อเมริกาโน่ร้อนครับ”
หลังจากรับกาแฟที่สั่งและหาที่นั่งเหมาะๆริมหน้าต่างได้แล้ว เหนือฟ้าก็เริ่มเปิดโน๊ตบุ๊คแล้วเริ่มทบทวนบทเรียนของตัวเองทันที เวลาผ่านไป จากช่วงเช้าที่ไม่มีแสงอาทิย์ลอดผ่านเมฆที่ลอยอยู่เต็มฟ้า กลายเป็นช่วงบ่ายที่เริ่มหนาวเข้ามาถึงในร้าน อันที่จริงเหนือฟ้าเป็นคนไม่ถูกโรคกับที่หนาวๆอยู่แล้ว หน้าหนาวแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกคิดถึงบ้านขึ้้นมาจับใจ
แล้วแบบนี้จะต่อโทที่นี่ไหวได้อย่างไรกัน
หากไม่นับความหนาวจับขั้วหัวใจ เหนือฟ้ารู้สึกว่าตัวเองสามารถนั่งมองวิวทิวทัศน์ผ่านทางหน้าต่างนี้ได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ จากช่วงบ่ายคล้อยกลายเป็นช่วงเย็น พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีส้มแดง ถึงแม้จะมีตึกสูงมากมายบดบังทัศนียภาพ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความงามของภาพตรงหน้าด้อยลงแม้แต่น้อย
“สวยนะครับ”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง เหนือฟ้าตัวแข็งทื่อ ร่างโปร่งหันกลับไปช้าๆ ถึงแม้จะรู้ดีว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ต่อให้เวลาผ่านไปแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันลืมเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มร่างสูงในชุดโค้ทตัวยาวสีดำสนิทที่ยืนถือแก้วชาเขียวร้อนใบโตตรงหน้าได้
‘ฟ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกกับพี่ติณณ์’
“ครับ...สวยมาก” รอยยิ้มแตะแต้มบนริมฝีปากบาง
“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ?” ร่างสูงถาม รอจนคนที่นั่งอยู่ก่อนพยักหน้าช้าๆ แล้วจึงวางแก้วชาเขียวร้อนของตัวเองลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งตามลงมา เหนือฟ้ามองคนตรงหน้า แสงอาทิตย์สีส้มอาบไล้ใบหน้าคมภายใต้แว่นไร้กรอบ ขับผิวสีเข้มให้ดูโดดเด่นจากสภาพโดยรอบ ร่างสูงหันมาสบตากับเขา ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
รอยยิ้มจริงใจที่จุดให้ทั้งโลกสว่างไสวอย่างที่เหนือฟ้าไม่เคยเห็นมาก่อน
“ผมชื่อติณณ์ภพ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เริ่มต้นใหม่...
“เหนือฟ้าครับ” ร่างโปร่งยิ้ม “ยินดีที่ได้รู้จัก”
THE END
--------------
มาล้าววววว
พี่ติณณ์จู้ๆ
จะพยายามดองไม่เกินอาทิตย์นึงต่อตอนนะคะ ตอนนี้ตาเจ็บ ขอบคุณค่า