ขอบคุณ ทุกกำลังใจนะครับ เริ่มเขียนยากขึ้นทุกที มันควรจะต่อยังไงดีช่วยคิดหน่อยนะครับ
ตอน ต่อ ค้าบบบ
ตอน สิบเก้า
กว่าหนังจะจบผมต้องยุกยิกอยู่ตลอดเวลา จนคนที่นั่งข้างหลังกระแอมด่าหลายที จนหลังๆผมต้องนั่งนิ่งๆ มันเห็นว่าผมนั่งนิ่งแทนที่จะเกรงใจมันกลับเอานิ้วล้วงเข้าไปในกางเกงตรง สะโพกเขี่ยเล่นอยู่อย่างนั้น ผมต้องทำใจอยากลุกหนีไปเลยแต่มันขู่ว่าถ้าผมลุกมันจะโวยวาย ผมไม่ใช่กลัวแต่ไม่อยากจะเสี่ยงเพราะที่นี่ผมมาดูหนังบ่อยไม่อยากให้เสีย ประวัติ แล้วกลับมาดูหนังอีกไม่ได้ที่จริงมันก็ไม่เกี่ยวหรอก แต่ผมรู้สึกเกรงมันยังไงไม่รู้ พอหนังจบผมรีบลุกเลยแต่มันก็ดึงมือไว้
"ปวดห้องน้ำเหรอคะ"
มันถามแบบกวนๆ ผมลุกตอนที่คนยังไม่ลุกหันไปมองคนอื่นมองที่ผมเหมือนกัน
"เออ"
ผมตอบสะบัดไป แล้วแกะมือมันออกเดินออกจากโรงหนัง มันเดินตามออกมา ที่จริงไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำแต่รำคาญมัน
"อ้าว ไม่ไปห้องน้ำล่ะ"
"หิว อยากรีบกลับบ้าน"
"อ้อ"
มันเกาหัวแล้วเกาะบ่าผมเหมือนเดิม ตอนลงบันไดเลื่อนมันก็จับมือ ผมสะบัดออก มันก็เกาะเอว โอ๊ย อยากจะถีบมันเหลือเกิน เดินเหวี่ยงใส่มันมาจนถึงชั้นล่าง ตายสองทุ่มครึ่งแล้ว ถึงว่าหิวจัง ผมรำพรรณกับตัวเอง
"กินอะไรดีคะ"
เบื่อคำว่า คะ ของมันจังเลย ฟังแล้วอยากจะเอามือตบปากมัน ไม่อายปาก
"ไม่รู้ แต่ไม่กินแถวนี้"
ผมตอบกวนๆ
"โย ต๊าย โย ควงเด็กเหรอแก"
เสียง ทักที่น่ารังเกียจที่สุด นัท ยืนอยู่กับคนที่เคยทำให้ผมร้องไห้ข้ามคืนมาแล้ว คนที่ทำให้ผมยังเจ็บปวดใจอยู่ แม้จะไม่มากก็ไม่ใช่ว่าอยากจะเจอเขา ตอนนี้ พี่ตั้ม รู้สึกใจหล่นหายไปเหมือนกัน ตั้งแต่เลิกกันเพิ่งจะได้เจอเขา แต่ก็เจออยู่กับไอ้คนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด รอยร้าวที่เกิดขึ้นในใจมันยากเหลือเกินที่จะเกลี่ยให้มันคืนกลับเป็นดังเดิม ทั้งสองเดินเข้ามาหาเรา เอมันมองหน้าผมคงรู้ว่าพวกนี้เป็นใคร เพราะผมคงสีหน้าอาการออกมาก มันโอบเอวผมทันที
"สบายดีเหรอโย ไม่เจอกันตั้งนาน"
พี่ตั้มถาม แต่ตามองที่เอ
"ครับ สบายดี"
ผมตอบเสียงสั่น ทำไมไม่รู้ทำไมยังมีความรู้สึกกับคนแบบนี้ ใจเต้นแรง สั่น แม้จะพยายามควบคุม แต่มันก็ยากเหลือเกิน
"แล้วนี่"
"จะใครล่ะพี่ตั้ม ก็เด็กใหม่มันไง ไม่ยักรู้ว่าโยมันจะชอบกินเด็ก"
นัทพูดแล้วหัวเราะ รู้สึกหมั่นไส้มันขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่อยากจะพูดกับมันแม้แต่คำเดียว
"ยังเด็กๆ อยู่เลยนะโย น่าจะเรียน ม ปลายป่ะ น้อง"
พี่ตั้มหันไปถามเอ
" ครับพี่ ผมยังเรียน ม ปลาย อยู่ แต่ก็รักเดียวใจเดียวครับ ไม่มั่ว ไม่หลายใจ ผมโชคดีครับที่ได้แฟนน่ารัก ใครปล่อยหลุดมือไป โง่เป็นควายเลยนะผมว่า ตัวเล้ก เรารีบกลับบ้านเถอะ เค้าหิวข้าวแล้ว ตัวเองว่าจะทำสุกี้ให้เค้ากินใช่มะ"
เอมองหน้าพี่ตั้มนิ่ง สายตามันดูไม่กลัวหรือเกรงเลย แต่ถือเป็นเรื่องปกติเพราะมันก็มองผมแบบนี้บ่อยๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะมองคนแปลกหน้าด้วยสายตาแบบนี้ มันพูดจบก็ดึงเอวผมเข้าไปกอดอย่างไม่อายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แปลกที่ผมยอมโดยง่าย เรารีบเดินออกมาหน้าประตู
"เดี๋ยว โย"
นัทมันวิ่งตามออกมา
"อะไร"
ผมหันไปอย่างไม่พอใจ ท่าจะมีเรื่องกันอีกแน่
" ฉันไม่ได้อยากคุยกับแก แต่อยากคุยกับน้องเขา นี่น้องหล่อๆ อย่างนี้น่ะมาดูหนังกับพี่ไหมวันหลัง อยากได้อะไรพี่ซื้อให้หมดเลย นี่เบอร์พี่ พี่โยน่ะเขาคงไม่มีกำลังจะซื้อให้เราหรอก"
เอดึงแขนผมไปอยู่ข้างหลังมันทันที
" อ้อ ขอบคุณพี่ แต่ผมไม่เอาหรอกคับ แม่ผมรวย พี่ก็น่ารักนะครับ แต่ท่าทางคงมั่ว ผมไม่อยากยุ่งหรอก ไม่อยากเป็นเอดส์ อยากได้เด็กมากก็ไปดักเอาแถวนี้สิพี่ เผื่อมีพวกหิวเงินเป็นเหยื่อ"
"ไอ้"
นัท หุบปากทันที เพราะเอมันชี้หน้า ถลึงตาใส่ ดูท่าทางเอาเรื่อง พี่ตั้มวิ่งออกมาทันก็เลยดึงตัวนัทกลับเข้าไป เอมันขึงขังน่ากลัวผมเองก็ไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้ มันลากมือผมไปเรียกแท็กซี่กลับบ้าน มันบอกทางอย่างคล่องแคล่วเหมือนกลับไปบ้านมัน ผมไม่พูดสักคำ อึ้งงงอยู่กับสถานการณ์
"ไอ้คนนี้เหรอที่มันทิ้งพี่"
มันถามขึ้นหลังจากที่เราขึ้นรถได้ไม่นาน ผมไม่ตอบ ไม่รู้จะรื้อฟื้นขึ้นมาทำไมอีก มันหันมาจ้องหน้าผม
"ดีนะที่ผมไม่ต่อยหน้าเอา กวนตีน"
"เอาเถอะ มันผ่านมาแล้ว อย่าใจร้อนนักเลย ไม่สนใจล่ะ"
"อย่าพูดแบบนี้นะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าผมจะคบคนเพราะเรื่องแบบนั้นผมมีไปนานแล้ว ผมจะเอาพี่เป็นแฟนคนเดียว"
"ทำไม"
ผมสอดขึ้น ไม่รู้ทำไม ทั้งที่ไม่น่าถาม ไม่น่าไปเปิดประเด็นให้มัน คนขับแท็กซี่เริ่มมอง
"ไม่บอก เดี๋ยวสักวันก็รู้เอง"
มัน ทำหน้ากวนใส่แล้วยิ้ม เออแปลกดี แต่มันก็เปลี่ยนหน้าเร็วอยู่แล้วนี่นะ เป็นเรื่องปกตของมัน เมื่อกี้หน้าเหมือนจะไปกินเลือดกินเนื้อใคร แต่ตอนนี้หน้ามันกลับมายียวนกวนประสาทเหมือนเดิม
"นั่งแท็กซี่นี่เราจะจ่ายเหรอ"
"จ่ายก็ได้ แต่คืนนี้"
มันทำท่าเจ้าเลห์
"คืนนี้จะนอนห้องแม่"
ผมตอบแล้วเบะปาก
"ดีเหมือนกัน ไม่เคยนอนห้องแม่อรเลย คงเตียงนุ่มเนอะ"
มันพูดหน้าตาเฉย
"ขี้เกียจพูด"
ผมตัดรำคาญ แล้วมองออกไปนอกรถ สิ่งที่เราพยายามหนีทำไมมันถึงยังคงวนเวียนอยู่ไม่ห่างเลยนะ หรือว่าใจเรายังไม่สงบ
" รู้ไว้นะพี่ ใครที่ได้พี่เป็นแฟนน่ะ ผมว่าน่าจะมีความสุขที่สุดแล้ว ผมเองก็เชื่ออย่างนั้น อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด มองหน้าแล้วไม่รู้จักเบื่อ อยากมองอยู่อย่างนั้น อยากกอดอยู่อย่างนั้น ผมโชคดีใช่ไหม"
มันเพ้อขึ้นมาตอนรถรอสัญญาณไฟที่แยกพระโขนง ผมได้แต่มองหน้ามัน เอียนคำพูด ไอ้เด็กแก่แดด แหมคิดจะมาจีบ โปรยคำหวาน ไม่ตกหล่มง่ายๆหรอกแก อยากจะตะคอกใส่มัน แต่ก็เงียบไม่พูดดีกว่า ปล่อยให้มันกุมมืออยู่อย่างนั้น
ถึงบ้านสามทุ่มกว่า ผมรีบไปเปิดตู้เย็นดูของที่จะทำกิน มีไก่กับหมู ผักสามสี่อย่าง แต่ขี้เกียจเหลือเกิน เหนื่อยไม่อยากจะทำอะไรเลย ผมไปเปิดตู้เก็บของแห้งเห็นบะหมี่ก้อน ต้มหมี่กินดีกว่า ว่าแล้วผมก็ต้มบะหมี่ใส่คะน้าไข่แล้วก็ไก่ ต้มสามก้อนเพราะคงไม่พอ ไอ้ยักษ์มันคงไม่อิ่ม ผมเป็นกังวลว่าจะกินอะไรดี ส่วนมันเปิดโทรทัศน์ดูอย่างสบายใจ
"นี่ จะกินไหมข้าวน่ะ"
ผมตะโกนเรียก แต่ไม่รอมันตักบะหมี่ใส่ชาม แบ่งให้มันเยอะกว่า
"โห น่ากินจังเลย"
เป็นคำพูดเดียวที่ผมได้ยินตอนกินข้าวเพราะหลังจากนั้น มันก็กินไม่พูดไม่จาเลย
"อร่อยมาก ไม่ยักรู้ต้มมาม่ามันจะอร่อยขนาดนี้"
"เวอร์ กินเสร็จเอาชามไปล้างด้วย"
"ค้าบบ ที่รัก"
"ไอ้นี่"
ผมค้อนใส่ แต่ก็ก้มหน้ากินต่อเพราะถ้าแสดงอาการอายให้มันเห็นเดี๋ยวไม่จบง่ายๆ
"เออ มีสับปะรดอยู่ในตู้เย็นน่ะ"
ผม บอกมันแล้วกินต่อ กินเสร็จก็ล้างถ้วยจาน เดินออกไปเห็นมันนอนกินสับปะรดอย่างสบายใจ ดูโทรทัศน์ ท่าทางมันไม่ใช่เด็กที่จะเรียนได้ดีเอาเสียเลย
"โอ๊ยย อะไรกัดหลัง"
มันร้องแล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ผมรีบเดินไปดู
"โอ๊ย เจ็บจังเลย ดูให้หน่อย"
มันก้มหลังแต่ยังนั่งอยู่กับที่ ผมเดินเข้าไปถลกเสื้อมันขึ้น
"ไหน ไม่เห็นมี"
"มีสิ ตรงนี้ไง โอ๊ย เจ็บ"
"ไหน ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีรอยอะไรเลย"
ผมนั่งลงพิจารณาหลังมัน ไม่มีรอยจริงๆ หรือว่ามัน
"นี่ ทำอะไรน่ะ นิสัยเสีย หลอกพี่เหรอ"
ผมร้องเพราะมันพลิกตัวแล้วมาคร่อมทับผมแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่ามันหลอก ทำไมไม่เฉลียวใจนะเรา
"อ้าว ไม่ทำแบบนี้แล้วจะได้อยู่ใกล้ๆเหรอ อยากกอดจะตายอยู่แล้ว"
มันไม่พูดปล่าวเอาหน้าลงมาซุกตรงแก้มและซอกคอ
"เอ้ย ไอ้นี่ ปล่อย เป็นบ้าเหรอ คุยกันแล้วนะเอ ปล่อย"
ผมร้องกึ่งตะโกน
"ไม่ปล่อย ผิดเหรอที่ผมจะทำแบบนี้กับแฟนตัวเอง"
"โอ๊ย จะพูดกี่ที ถึงจะเข้าใจ ไม่ใช่แฟนโว้ย ไม่มีอะไรทั้งนั้น"
ผมตวาดผลักหัวมันออก
"ไม่สน คนจะทำน่ะ พี่จะทำอะไร พีไม่อยากก็อยู่เฉยๆดิ ผมจะทำเอง"
"ไอ้นี่ ปล่อย"
"อย่าดิ้นสิ ยิ่งดิ้น ของผมยิ่งแข็งนะ"
มัน เป็นกรรมเก่าของผมจริงๆล่ะ คิดไม่ตกอยากจะโกรธมัน แต่ตอนที่คุยกันดูมันฟังเข้าใจรู้เรื่อง แต่ตอนนี้มันก็แค่ทำอย่างที่มันอยากทำ ผมนอนนิ่งขี้เกียจจะขัดขืน รำคาญ อยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่ามากกว่านี้ก็แล้วกัน
"ตัวห้อม หอม"
"กอดเฉยๆได้ไหม อย่าทำอย่างอื่น"
ผมตวาดมัน แล้วผลักหน้ามันออก
"โห ก็กอดอยู่นี่ไง ทำตรงนี้ไม่ดีหรอก อาย"
โห กล้าพูดนะแก อาย ไม่อยากจะด่า อายแต่ล้วงเอาๆ
"พอเถอะ จะไปอาบน้ำ"
"อาบด้วย"
"เสียสติเหรอ อาบเองไม่เป็นไง"
"ไม่ได้จะให้อาบให้สักหน่อย อาบด้วยกันเฉยๆ"
"ทุเรศ ปลอย"
ผม อยากจะด่ามันแรงๆ ให้มันเสียใจกลับบ้านไป แล้วเลิกให้ผมสอนมันเสียที ยิ่งอยู่มันยิ่งลามปาม หรือเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยมีปากเสียงกับใครเหรอ มันถึงทำได้ขนาดนี้ ผมกลุ้มใจเสียเหลือเกิน จะทำยังไงดี