สิ่งที่พี่ต้องการ
วิฬาร์เก็บกลืนความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นลงไปแล้วทำเหมือนว่าไม่เคยได้ยินอะไรทั้งนั้น เขายังคงยิ้มแย้มเมื่อพี่เก้ามาหาลูก แต่ก็เว้นระยะห่างระหว่างเรา แมวเหมียวรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกถึงระยะห่างนี้ เพราะพี่เก้ามักจะทำหน้าเศร้าอยู่เสมอเมื่อเวลาที่เขาทำตัวห่างเหิน
เมื่อเกือบสี่ปีก่อนเขาตัดสินใจว่าจะตัดใจจากพี่เก้า...และความตั้งใจนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม ถึงมันจะยากแต่เขาก็ต้องพยายาม ถึงแม้จะล้มเหลวกี่ครั้ง เขาก็จะพยายามต่อไป
น้องแก้วตื่นเวลาเจ็ดโมงเช้าของทุกวัน หลังจากตื่นแล้วก็จะนอนเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอนอีกสักพักใหญ่ถึงจะลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน ปกติแล้วแมวเหมียวจะกระเตงลูกไปนั่งรอเล่นอยู่ในครัวระหว่างที่เตรียมอาหารเช้า แต่หลายวันมานี้ไม่ต้องเพราะพี่เก้าจะแวะเข้ามาดูแลน้องแก้วให้ในระหว่างที่เขาไปเตรียมข้าวเช้าให้ลูก
“วันนี้พ่อขาจะมาหาน้องไหมคะ” แก้วเกล้าถามคำถามนี้ทุกเช้าหลังจากตื่นเต็มตาแล้ว
“น่าจะมานะคะ” วิฬาร์ตอบยิ้มบาง เขารู้อยู่แก่ใจว่าถ้าน้องแก้วได้เจอพ่อเมื่อไหร่ จะต้องติดพ่อเป็นตังเมแบบนี้แน่นอน ก็ขนาดตอนที่อยู่ในท้อง แค่ได้ยินเสียงพี่เก้ายังดิ้นแรงเลย
ไม่นานนักคนที่ถูกถามถึงก็เปิดประตูห้องเข้ามา น้องแก้วรีบลุกจากที่นอนหลังจากที่เอาแต่โอ้เอ้อยู่นาน แขนป้อมสองข้างอ้าออกจากกันเป็นการบ่งบอกว่าอยากให้อีกฝ่ายอุ้ม
“น้องคิดถึงพ่อขาจังเลย”
การินหัวเราะในลำคอ “พ่อก็คิดถึงน้องแก้วที่สุดเลยค่ะ” หอมเข้าที่แก้มนิ่ม น้องแก้วหัวเราะคิกคักที่โดนตอหนวดทิ่ม เห็นแบบนี้คนพ่อก็ยิ่งหอมไม่หยุด
แมวเหมียวมองสองพ่อลูกสวีทกันแล้วก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะขยับไปเก็บพับที่นอนให้เรียบร้อย “พี่เก้ากินอะไรมาหรือยังครับ” เขาถามเพราะวันนี้อีกฝ่ายมาเช้ากว่าทุกวัน
“ยังเลย” การินตอบ
“พี่จะกินอะไรไหม”
“อะไรก็ได้ครับ เหมียวให้พี่กินอะไร..พี่กินได้หมดแหละ”
คนอายุน้อยกว่าชะงักก่อนจะหันหน้าหนีหลบสายตาของพี่เก้าที่มองตรงมา หัวใจดวงน้อยสั่นรัวอย่างที่ไม่อยากให้มันเป็น แต่ก็ควบคุมยากเสียเหลือเกิน “อ่า..งั้น..เดี๋ยวเหมียวเตรียมเผื่อนะ” แมวเหมียวบอกก่อนจะรีบออกจากห้องไป
การินยิ้มมุมปากที่เห็นว่าเขายังสามารถทำให้น้องเกิดอาการได้อยู่ จากที่ตอนแรกคิดว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสแล้ว เพราะแมวเหมียวดูเหมือนว่าจะตัดใจจากเขาได้แล้วจริง ๆ
“พ่อขา” น้องแก้วที่อยู่ในอ้อมแขนพ่อเรียกเสียงอ้อน
“ว่าไงคะ”
“ทำไมพ่อขาถึงไม่นอนกับเราเหรอคะ”
คนพ่อชะงักไปเมื่อลูกถามแบบนั้น ในอกรู้สึกปวดหนึบขึ้นมา
“น้องอยากให้พ่อนอนด้วยเหรอคะ”
แก้าเกล้าพยักหน้ารัว ถึงแม้น้องแก้วจะไม่เข้าใจถึงคำว่าพ่อดีนัก แต่เธอกลับรู้สึกผูกพันทั้งที่เจอกันเพียงแค่ไม่กี่วัน จนอยากให้พ่อขาคนนี้อยู่ด้วยกันนาน ๆ
การินยิ้มบาง “พ่อก็อยากนอนกับน้องแก้วนะคะ”
“งั้นนอน ๆ”
“น้องแก้วต้องขอป๊าก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นพ่อก็มานอนด้วยไม่ได้”
น้องแก้วพยักหน้าตอบรับอย่างใสซื่อ ประจวบเหมาะกับที่แมวเหมียวเดินกลับเข้ามาในห้อง
“น้องแก้วไปล้างหน้าแปรงฟันกันนะคะ” วิฬาร์ทรุดตัวลงคุกเข่าข้าง ๆ กายคนตัวใหญ่ ลูกสาวขยับตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขาอย่างว่าง่าย
“ป๊าขา”
“หืม?”
“ให้พ่อขานอนกับเราได้ไหมคะ”
ปะป๊าตัวน้อยเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่เก้า นัยน์ตาสีเขียวมองเขาด้วยแววตาสื่อความหมาย..ลึกซึ้งจนเขาต้องเบือนหน้าหนี
การินค่อย ๆ เอื้อมไปจับปลายมือของน้อง แมวเหมียวไม่ได้ชักมือหนี ใบหน้าขาวใสนั้นแดงระเรื่ออย่างน่ารัก เขายังหาโอกาสที่จะบอกความในใจกับอีกฝ่ายไม่ได้ ตอนนี้เลยรู้สึกอึดอัดพอสมควร
“ให้พี่นอนด้วยได้ไหมครับ”
“นะคะ”
แมวเหมียวเม้มปากเมื่อถูกมือใหญ่คลึงท้องนิ้วไปมา ก่อนจะพยักหน้าตอบอย่างช่วยไม่ได้ ก็เล่นแพ็กคู่มาอ้อนใส่แบบนี้ใครจะไปปฏิเสธได้ลงล่ะ เขาดึงมือออกจากการกอบกุมของพี่เก้าช้า ๆ แล้วขอตัวพาลูกไปล้างหน้าแปรงฟัน
“เหมียวปิ้งขนมปังกับทำซุปไว้ให้พี่แล้วนะ”
“ขอบคุณครับ”
-----
ตกกลางคืนการินอาบน้ำแต่งตัวเพื่อมาค้างคืนตามที่ได้บอกเอาไว้ เขาเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่นที่ทำขึ้นมาใหม่เพื่อจะขออนุญาตจากเจ้าของบ้านก่อน
“ใครให้มึงมานอนบ้านกู” ธีราว่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“น้องแก้วอยากให้กูมานอนด้วย อีกอย่างกูขอแมวเหมียวแล้ว”
ธีราส่งเสียงเหอะอย่างไม่พอใจนัก
“น้องแก้วติดเราน่าดูเลยนะ” จักรชัยบอก “แบบนี้ถ้าต้องกลับไปทำงานจะทำยังไงเนี่ย”
การินมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เขายังเหลือสัญญาที่ต้องประจำอยู่ที่นั่นอีกปีกว่า มันไม่ใช่เวลาที่ยาวนาน..แต่ก็ไม่ได้สั้นเลย เด็ก ๆ มักจะโตเร็ว แค่สามปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่น้องแก้วเกิดและเติบโตมันก็ทำให้เขาเจ็บมากพอแล้ว
“อย่ากังวลไปเลยนะจ๊ะ” เกวลินเอ่ยปลอบ “แค่ปีกว่า..แป๊บเดียวมันก็ผ่านไปแล้ว”
“แต่ผม..” การินพูดไม่ออก
เขากลัวว่าถ้าไปอยู่ไกล แมวเหมียวจะทำตัวห่างเหินกับเขา ไม่ให้เขาได้พบเจอกับลูก อย่างตอนนี้ถ้าไม่เพราะเขากลับบ้านมาเจอเอง แมวเหมียวก็คงไม่เป็นฝ่ายบอกเขาเองหรอก
“กลัวว่าแมวเหมียวจะไม่ให้มึงได้เจอลูกเหรอไง”
คนถูกถามพยักหน้าช้า ๆ “แมวเหมียวใจแข็งกว่าที่กูคิดอีก”
“คิดแบบนั้นเหรอจ๊ะ” เกวลินถามยิ้มบาง “คิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ”
“ผมเองก็ไม่อยากคิดแบบนั้นครับ แต่น้องปิดเรื่องลูกกับผมไว้โดยไม่คิดจะบอกกล่าวอะไรเลยมาตั้งหลายปีแบบนี้”
“ที่แมวเหมียวทำไปก็เพื่อเก้าทั้งนั้นเลยนะลูก” เกวลินบอก “น้องน่ะ..คิดว่าตัวเองเอาแต่สร้างความลำบากใจให้กับเก้ามาเยอะแล้ว ส่วนน้องแก้วเกิดขึ้นมาก็เพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง แมวเหมียวไม่อยากให้เก้าต้องเอาชีวิตมารับผิดชอบในสิ่งที่เก้าไม่ได้ทำนะจ๊ะ”
การินนิ่งอึ้ง พูดไม่ออกเมื่อได้ฟังสิ่งที่ตัวเองไม่เคยได้รับรู้มาก่อน
“แมวเหมียวน่ะรักเก้ามากเลยนะ”
ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นปิดใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเอง
“มีอะไรในใจก็บอกน้องเถอะ” จักรชัยเอ่ยขึ้น “ที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปนะ”
การินพยักหน้ารับ “ขอบคุณครับ”
“กูล่ะไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ก็รักแมวเหมียวมันแล้วจะปฏิเสธหัวใจตัวเองไปเพื่อ!”
-----
แมวเหมียวกำลังอ่านนิทานให้ลูกฟังอยู่ในห้อง ยังไม่ทันจบพี่เก้าก็ค่อย ๆ เปิดประตูเข้ามา น้องแก้วที่เห็นหน้าพ่อก็ดีใจส่งเสียงเรียกพร้อมกับกวักมือเรียกยกใหญ่
การินแทรกตัวลงไปนอนตะแคง เอามือดันหัวไว้ มองหน้าลูกสาวที่จ้องเขาตาแป๋ว ก่อนจะเหลือบไปมองแมวเหมียวที่ก็มองมาเขาอยู่เหมือนกัน
“ยังไม่ง่วงอีกเหรอคะ”
“ยังค่ะ หนูฟังเรื่องของคุณหมีอยู่ค่ะ”
“เหรอ ให้พ่อฟังด้วยได้ไหมคะ”
แมวเหมียวหน้าตึง เมื่อประโยคคำถามเมื่อครู่ดูเหมือนว่าถามน้องแก้ว..แต่สายตากลับมองหน้าเขา มันจะไม่อะไรเลยถ้าไม่มีนัยแฝงอยู่ในสายตานั้น เขาหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจแล้วเริ่มอ่านนิทานต่อจากที่ค้างเอาไว้
ไม่นานนักน้องแก้วก็ผล็อยหลับไปโดยที่แมวเหมียวไม่ทันได้สังเกต การินเห็นแต่ก็ไม่อยากบอกเพราะอยากฟังน้องเล่านิทาน เขามองใบหน้านวลเนียนที่เอาแต่จดจ้องนิทานตรงหน้า เสียงที่เคยแหลมเล็กแปรเปลี่ยนนุ่มทุ้มละมุนหู
เด็กน้อยที่เขาเคยบอกรักเขาในวันวาน เวลานี้ดูเหมือนว่าจะตัดใจจากเขาได้แล้ว การินรู้ว่ามันอาจจะสายไป แต่เขาก็อยากจะลองดู เผื่อว่าแมวเหมียวจะยังมีใจหลงเหลือให้กันอยู่บ้าง
วิฬาร์เหลือบตามองลูกก่อนจะเห็นว่าน้องแก้วหลับไปแล้ว แต่คนเป็นพ่อนอนตะแคงมองตาแป๋ว คิ้วเรียวขมวดฉับ ในใจคิดบ่นอีกฝ่ายว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกกัน ปล่อยให้เขาอ่านอยู่ได้ เหมียวห่มผ้าให้ลูกดี ๆ ก่อนจะลุกจากที่นอน
“จะไปไหนเหรอ” การินถามเสียงเบา
“ไปเข้าห้องน้ำครับ” วิฬาร์ตอบก่อนจะออกจากห้องไป เมื่อกลับเข้ามาอีกครั้งก็เจอกับพี่เก้าที่กำลังยืนรออยู่แล้ว เขารู้ว่าอีกฝ่ายมีอะไรอยากจะคุยด้วยแต่ยังคงหาจังหวะไม่ได้
“พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
แมวเหมียวยิ้มบาง “ครับ”
ทั้งสองคนนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน โดยทิ้งระยะห่างเพียงน้อยนิด เพราะไม่อยากรบกวนลูกที่นอนหลับด้วยเสียงพูดคุยที่ดังเกินไป
แมวเหมียวนั่งขัดสมาธิรอฟังว่าพี่เก้าจะพูดอะไร แต่ก็เหมือนจะเดาได้จากพฤติกรรมที่ผ่านมาหลายวันนี้ที่อีกฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะทางสายตาหรือการกระทำว่ารู้สึกกับเขาอย่างไร วิฬาร์รู้แต่ก็ทำเหมือนไม่อยากรู้ แต่จะให้บอกปฏิเสธไปก่อนก็ไม่ได้ เพราะว่าพี่เก้ายังไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ
“ที่ผ่านมาเลี้ยงลูกคนเดียวเหนื่อยไหม”
“เหนื่อยสิครับ เลี้ยงลูกคนหนึ่งไม่ได้ง่ายเลย เหมียวโชคดีที่มีครอบครัวคอยซัพพอร์ต คิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีทุกคนคอยช่วยเหลือเหมียวกับลูกจะเป็นยังไง แต่ว่าตอนนี้น้องแก้วโตขึ้นเยอะ เหมียวก็ไม่เหนื่อยเท่าตอนแรกแล้วครับ”
การินอยากจะเอื้อมมือไปลูบหัวน้องอย่างที่เคยทำ แต่ทำได้เพียงกำหมัดแน่น..เพราะความไม่กล้าพอของตัวเอง
“อีกเดี๋ยวน้องแก้วก็ต้องเข้าโรงเรียนแล้ว เหมียวก็จะมีเวลาว่างมากขึ้น”
“แมวเหมียวคิดจะทำอะไรต่อล่ะ” การินถาม
“เหมียวว่าจะกลับไปเรียน”
“แต่เหมียวอยากเรียนอีกมหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ”
วิฬาร์ยิ้มบาง “ที่นั่นก็ได้ครับ” เขาหมายถึงมหาวิทยาลัยในจังหวัดที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเล “ความจริงที่นั่นก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับ เหมียวแค่อยากเรียนให้จบเท่านั้นเอง ในอนาคตจะได้ช่วยงานที่บริษัทได้”
คนอายุมากกว่าเงียบลงอีกครั้ง เขาจุกในอกจนพูดไม่ออก เพื่อลูก...แมวเหมียวต้องละทิ้งอะไรหลายอย่างไป ทั้งชีวิตวัยรุ่นและความฝัน เขาที่ได้ใช้ชีวิตมาจนคุ้มค่า พอเห็นน้องเป็นแบบนี้ก็อดที่จะรู้สึกเศร้าไม่ได้เลย
“พี่เก้ามีอะไรจะพูดกับเหมียวเหรอ” เหมียวถามเพราะเขารู้สึกง่วงมากแล้ว
“คือพี่…” คนอายุมากกว่ากลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่า อึกอักอยู่นานจนแมวเหมียวอ้าปากหาวขึ้นมา
“ขอโทษครับ” เจ้าตัวเอ่ยปาก เขาไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท แต่มันง่วงจริง ๆ ปกติตอนนี้เขาจะนอนหลับไปพร้อมลูกแล้วด้วยซ้ำ
“พี่รักแมวเหมียวนะ” การินตัดสินใจบอกออกไป
วิฬาร์ยิ้มบาง “เหมียวรู้”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” การินคว้ามือบางที่เคยนุ่มนิ่มแต่ตอนนี้มันเริ่มกร้านขึ้นมากุมไว้ “พี่อยากจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับแมวเหมียวและลูก”
“เหมียวว่า…เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนะครับ เหมียวสัญญาว่าจะไม่กีดกันพี่กับลูกนะ”
คนถูกปฏิเสธนิ่งอึ้งไปครู่ “แมวเหมียว..อยากให้ลูกขาดพ่อเหรอ”
วิฬาร์ชะงักไปด้วยไม่คิดว่าพี่เก้าจะพูดแบบนี้ออกมา น้ำตาที่แห้งเหือดไปนานคลอหน่วย เขาจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ฝ่ามือขาวพยายามบิดออกจากมือของอีกฝ่าย
“พี่คิดว่าเหมียวอยากให้ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้เหรอ”
“พี่ไม่..”
“เหมียวเองก็ไม่ได้อยากให้ลูกขาดใครไป แต่ถ้าพี่อยากจะทำแบบนี้เพราะรู้สึกผิดก็อย่าเลย เหมียวไม่อยากให้พี่ต้องมาทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่พี่ไม่ได้เต็มใจก่อสร้างขึ้นมา-”
“ชู่ ๆๆ” การินดึงน้องที่กำลังโมโหเข้ามากอดก่อนจะกระซิบที่ริมหู “ใจเย็น ๆ นะ” แมวเหมียวไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน ทำเพียงร้องไห้กับอกเขาเงียบ ๆ “พี่ขอโทษ”
“เหมียวน่ะ..อยากให้พี่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากเป็น เหมียวไม่เคยคิดให้พี่ต้องมารับผิดชอบอะไร เหมียวอยากให้พี่มีความสุขก็เท่านั้นเอง”
“แล้วแมวเหมียวรู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่พี่ต้องการ”
วิฬาร์เงียบเพราะไม่รู้
“เหมียวบอกว่าอยากให้พี่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากเป็น และพี่อยากเป็นคนรักของแมวเหมียวและเป็นพ่อของน้องแก้ว เหมียวบอกว่าไม่ต้องการให้พี่รับผิดชอบอะไร แต่พี่อยากจะรับผิดชอบทั้งหมด เหมียวบอกว่าอยากให้พี่มีความสุข พี่จะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อคนที่พี่รักเอาแต่ปฏิเสธ”
วิฬาร์นิ่งอึ้งไปหลังจากได้ยินความในใจของพี่เก้า
“ที่พี่บอกว่ารัก..นั่นคือความในใจของพี่จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเพราะแมวเหมียวเกิดมีลูกขึ้นมาพี่ถึงคิดอยากรับผิดชอบ พี่อดทนเก็บความรู้สึกมานาน เพราะเคยคิดว่าระหว่างเรามันไม่ถูกต้อง แต่ตอนนี้พี่ไม่อยากเก็บมันเอาไว้อีกต่อไปแล้ว พี่ไม่ได้อยากได้แค่ลูก..แต่ต้องการแมวเหมียวด้วยนะ”
วิฬาร์ค่อยผละออกจากอ้อมกอดของพี่เก้า เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่ตัวเองเฝ้ารักมานานหลายปี “พี่..พูดจริงใช่ไหม” เขาเอ่ยถามเสียงเครือ “ไม่- ไม่ได้หลอกเหมียวนะ”
การินยิ้มบาง ยกมือขึ้นลูบผมนิ่มแผ่วเบา “ที่ผ่านมาพี่เอาแต่หลอกตัวเอง แต่ต่อจากนี้ไปจะไม่มีแบบนั้นอีกแล้วครับ”
น้ำตาแห่งความปีติไหลอาบแก้มอีกครั้ง แต่คราวนี้แมวเหมียวไม่ต้องเช็ดมันเองอีกแล้ว แต่ได้มือของคนที่รักเช็ดออกจากใบหน้าให้อย่างนุ่มนวล หลังจากฟังความในใจของพี่..ความตั้งใจที่พยายามสร้างมาตลอดพังครืนลงอย่างไม่เป็นท่า
การินดึงน้องเข้ามาแนบชิดพร้อมกับปลอบโยนด้วยการลูบแผ่นหลังบาง เขากดจูบที่ขมับด้วยความรักและคิดถึง
“แมวเหมียว” เขาเรียก
“ครับ”
“เป็น..” การินหยุดคิด “เป็นแฟนพี่นะ”
ใบหน้าขาวแดงซ่าน พยักหน้าเร็ว ๆ หลายที ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย เขาเหลือบมองลูกสาว “เราเป็นแฟนกันเหรอครับ”
“อืม..พี่ก็ว่าเป็นแฟนมันแปลก ๆ นะ เอางี้เป็นเมียดีกว่าไหม”
วิฬาร์หัวเราะคิกคัก “มันจั๊กจี้อะ”
“ลูกก็มีด้วยกันแล้ว ไม่เป็นเมียจะเป็นอะไรล่ะ..หืม” คนอายุมากกว่าดันตัวน้องออก ย้อนถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
แมวเหมียวไม่ตอบ เอาแต่เหม่อมองใบหน้าของพี่เก้าที่อยู่ในระยะประชิดด้วยความคิดถึง ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้..ไม่มีแม้สักวันเลยที่เขาตัดใจจากอีกฝ่ายได้ ที่ผ่านมามีแต่พยายามยอมรับและทำใจเพียงเท่านั้น
“พี่ขอจูบแมวเหมียวได้ไหม”
ใบหน้าขาวแดงขึ้นอีกครา คนถูกขอเม้มปากก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ การินไม่รอช้าขยับเข้าใกล้ แขนข้างหนึ่งโอบเข้าที่เอวเพรียวบางให้ขยับชิดใกล้กันอีก มืออีกข้างจับเข้าที่ลำคอเล็ก เพียงริมฝีปากแตะกันแค่แผ่วเบาก็ทำเอาใจที่เคยห่อเหี่ยวกลับพองฟู
การินพรมจูบไปทั่วใบหน้าขาว ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ขมับ ปลายจมูก แก้ม และจบลงที่ริมฝีปากนุ่มนิ่ม บดเบียดกันเพียงแค่ภายนอกสักพักคนอายุมากกว่าก็ขบเม้มปากน้องบนล่างสลับไป
เวลานี้แมวเหมียวเองก็ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ได้มากประสบการณ์อะไรนัก เขาพยายามเลียนแบบพี่เก้าจนอีกฝ่ายนึกเอ็นดูเลยร่างเลยดึงน้องให้ขยับขึ้นมาคร่อมตัก
“อ้าปากให้พี่หน่อยนะครับ” การินบอก และน้องก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากที่ใฝ่หา บดขยี้และดูดดึงด้วยความรักและใคร่ นานมากแล้วที่เก้าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใคร ความปรารถนามันเลยจุดติดได้ง่าย
แมวเหมียวเองก็ไม่ต่างกัน เจ้าตัวดันกายออกห่างเมื่อถูกมือใหญ่ล้วงเข้ามาในเสื้อ “พี่..ลูกอยู่นะ”
การินชะเง้อมองลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงที่ตั้งอยู่อีกมุมห้อง “น้องแก้วตื่นง่ายไหม” เขาถามพลางลูบเอวบาง
“มะ ไม่ครับ แต่เหมียวว่ามันไม่เหมาะ” เหมียวตอบตะกุกตะกักเมื่อใบหน้าของพี่เก้าขยับเข้ามาดมที่ซอกคอ ปกติแล้วน้องแก้วเป็นเด็กที่หลับลึก ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่มีตื่นกลางดึก แต่เขาก็ไม่อยากทำเรื่องแบบนี้ในห้องที่มีลูกสาวนอนหลับด้วยอยู่ดี “เหมียวกลัวลูกตื่น”
การินนิ่งคิดก่อนจะซบหน้าผากลงกับอกแบนราบของน้อง ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจ” เขาอายุเยอะแล้ว ต้องรู้จับควบคุมตัวเองให้ได้
แมวเหมียวประคองใบหน้าพ่อของลูกขึ้นมาหอมแก้มซ้ายทีขวาที “คนเก่ง” แล้วเอ่ยชมราวกับอีกฝ่ายเป็นลูกอีกคน
“แต่แมวเหมียวยังไม่สรุปให้พี่เลยนะว่าเราเป็นอะไรกัน” การินทวง
“อื้อ”
“อื้อ อะไร”
“ก็..อื้อไง”
มือใหญ่บีบจมูกน้อง “ตกลงเราเป็นอะไรกันครับ ไหนตอบพี่สิ”
วิฬาร์รู้สึกเขินเกินกว่าจะพูดออกจากปาก เขาโถมตัวกอดอีกฝ่ายแน่นพร้อมกับเอาหน้าซุกไหล่
“อย่าหนีสิ ตอบพี่ก่อน” การินบอกกลั้วหัวเราะ “ให้พี่ชื่นใจหน่อยนะ”
“...เมีย”
“อะไรนะ” คนอายุมากกว่าแกล้งไม่ได้ยิน
แมวเหมียวพ่นลมจากจมูกดังฟืด เขาขยับไปกระซิบ “เป็นเมียพี่ พอใจยัง”
“หึ พูดจาไม่เพราะแบบนี้ต้องโดนทำโทษนะรู้ไหม” คนพี่ว่าก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่
“พี่ไม่กล้าหรอก”
การินหัวเราะในลำคอ ก็จริงอย่างที่แมวเหมียวว่า เอาเข้าจริงเขาไม่กล้าทำอะไรน้องหรอก มีแต่จะยกขึ้นหิ้งดูแลอย่างดี คนรักเมียบูชาเมียเขาว่าได้ดีทั้งนั้น
“ครับ ใครจะไปกล้าหือกับเมีย” เขายอมรับแล้วจึงหอมแก้มนิ่มตรงหน้า “ขอบคุณนะครับ..ที่ยังรักพี่”
แมวเหมียวยิ้ม “พี่รู้ไหม ตอนที่เราห่างกัน..เหมียวทำใจแล้วว่าเรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้จริง ๆ เหมียวตั้งใจที่จะตัดใจจากพี่ พยายามแล้ว..พยายามอีกเป็นร้อยเป็นพันครั้งเลยมั้ง น่าตลกนะ..เหมียวไม่เคยทำอย่างที่ใจคิดหรือบอกคนอื่นได้เลยสักครั้ง”
“ขอโทษนะครับ” การินทาบมือเข้ากับแก้มใส ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไปมา “ถ้าตอนนั้นพี่ยอมรับหัวใจตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เรื่องของเรามันก็คงไม่เป็นแบบนี้ แมวเหมียวก็จะได้ไม่ต้องท้องในวัยที่ยังไม่พร้อม และต้องลำบากแบบนี้”
วิฬาร์ส่ายหน้า “เหมียวเข้าใจ..พี่ทำก็เพราะหวังดี เหมียวเองซะอีกที่ฉวยโอกาสตอนพี่เมาทำเรื่องแบบนั้น น้องแก้วเป็นสิ่งย้ำเตือนเรื่องที่เหมียวได้ทำลงไป สอนให้เหมียวรู้จักโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น ถึงแม้จะต้องเสียอะไรหลายอย่างในชีวิตไป เหมียวไม่เคยเสียใจเลยนะที่อุ้มท้องและคลอดเขาออกมา”
“พี่เสียใจ..ที่ไม่มีโอกาสได้ดูแลเหมียวตอนท้องและคลอด ไม่มีโอกาสได้ช่วยเลี้ยงลูก เสียดายที่ไม่ได้เห็นพัฒนาการของน้องแก้วเลย”
“...เหมียวขอโทษน้า~” เหมียวบอกพร้อมเข้าไปกอดคลอเคลีย ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่าพี่เก้ามีใจให้กัน เขาก็คงจะไม่ปิดบังเรื่องลูก
“ไม่เป็นไร ๆ พี่เข้าใจครับ” คนพี่กอดเอวบาง “ไว้เราค่อยมีอีกคนก็ได้”
“ต้องรอให้เหมียวเรียนจบก่อนนะ” คนอายุน้อยกว่าบอก
“อ่า...” การินคำนวณในใจ “ตอนนั้นพี่ก็อายุสี่สิบกว่า”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ใครกันนะขี้คุยว่ายังเตะปี๊บดังอยู่”
มือใหญ่เลื่อนลงมาบีบก้นน้อง “ถ้าไม่ติดว่าลูกอยู่นะ พ่อจะพิสูจน์ให้ดูเลยเชียว”
แมวเหมียวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเอ่ยชวนให้ไปนอนด้วยกัน เพราะพรุ่งนี้เขายังต้องตื่นแต่เช้า การินก็พยักหน้าตอบรับ
คืนนี้บนเตียงนอนใหญ่ไม่ได้เงียบเหงาอีกต่อไปเพราะมีคนตัวใหญ่มาเพิ่ม น้องแก้วนอนริมที่นอนฝั่งติดกำแพงเหมือนเดิม ในขณะที่แมวเหมียวนอนตรงกลาง ตามมาด้วยการินที่นอนกอดแม่แมวอยู่ด้านหลัง
ทั้งสองคนนอนหลับไปด้วยความสุขที่อบอวลอยู่ในหัวใจ ที่ผ่านมาไม่เคยมีวันไหนที่มีความสุขเท่าวันนี้ การินสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันทำให้แมวเหมียวต้องเสียใจเพราะเขาอีกต่อไป เขากดจูบลงที่หลังคอ
“ราตรีสวัสดิ์นะครับที่รัก”
tbc…
ในที่สุดดดดดดดดด!!
คนขี้ป๊อดอย่างพี่เก้าก็ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องการสักที!!
พอคืนดีกันได้ก็นัวเนียปากไม่ห่างกันเลยนะ หมั่นไส้!!