“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้ พี่มีนัดก็รีบไปเถอะครับ”
“เออ! เอาเหอะ พี่ไม่รีบ อยู่ด้วยกันทุกเย็นจนชินแล้ว ไปกับพี่หน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่นอนไม่หลับ” พี่เอกยื่นมือมาให้ชานนท์จับเพื่อลุกขึ้น ชานนท์ใช้แรงขาเพียงเล็กน้อยก็ถูกแรงดึงจากคนที่ยืนอยู่ ทำให้ตัวเขาเองพุ่งขึ้นมาจนชนลำตัวพี่เอก
“โอ้ย...” ชานนท์อุทานเพราะแรงกระแทก
“เฮ้ย.... ระวังหน่อยสิ.....” พี่เอกใช้อีกมือหนึ่งโอบชานนท์กระชับเข้าหาตนเองเพื่อไม่ให้ชานนท์เซล้ม ช่วงนี้เขารู้สึกว่าเขาจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆจนเริ่มจะชาชินกับแรงอันมหาศาลของพี่เอกเสียแล้ว บางครั้งเขาก็พุ่งไปที่หน้าอกอีกฝ่าย บางครั้งเขาก็ทรุดลงไปกองที่ขา แรกๆเขาก็รู้สึกอายกับอาการอ่อนแรงของตัวเอง แต่ก็ถูกพี่เอกช่วยพยุงบ่อยๆ จนชาชินไปเสียแล้ว
“โอเคหรือยัง?” พี่เอกปล่อยมือทั้งสองข้างให้ชานนท์ได้จัดร่างกายตัวเองให้เรียบร้อย
“โอเคครับ” ชานนท์ใช้มือปัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนตอบ
“งั้นไปกัน..... ว่าแต่เราจะไปกินร้านไหนล่ะ?” พี่เอกถานพร้อมยกมือขึ้นพาดบ่าของชานนท์และใช้แรงเล็กน้อยเพื่อผลักให้เขาเริ่มก้าวไปข้างหน้า
“ก็คงเป็น ‘ร้านคอฟฟี่แอนด์เบอร์รี่’ ร้านใหม่หลังมอมั้งครับ เคยได้ยินสองคนนั้นเขาคุยกัน” ชานนท์รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยเวลาอยู่ในอ้อมแขนของพี่เอก มันทำให้เขารู้สึกตัวเล็กลงมาก และยิ่งการได้เดินกับพี่เอกซึ่งเป็นเดือนมหา’ลัยทำให้เป็นเป้าสายตายิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัด เขาอยากเด่นดังก็จริง แต่การอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดไว้ เขาเหมือนตัวประกอบมากกว่า
“อืมมมม ให้พี่กลับมา....รับไหม?” พี่เอกพูดจาติดขัดตอนพูดประโยคนี้ออกมา
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่กลับดึกหรอก พี่จะได้ไปสนุกกับเพื่อนได้เต็มที่”
“เออๆ ดีๆ อย่ากลับดึกนะพี่เป็นห่วง ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย” พี่เอกยิ้มหวานใส่จนดวงตารวมกันกลายเส้นเดียว
“เอ่อ.. ครับ” เป็นคำพูดที่ชานนท์ยังไม่ค่อยชินสักทีกับการถูกรุ่นพี่คนนี้ห่วงใยมากขนาดนี้
พี่เอกขี่รถบิ้กไบค์ของเขามาส่งชานนท์ถึงหน้าหอโดยที่แทบไม่ได้คุยอะไรเกี่ยวกับเรื่องการซ้อมเต้น เพลงเชียร์หรือกิจกรรมที่ต้องทำในวันเปิดภาคเรียนเพื่อเรียกคะแนนเสียงจากคนในคณะเดียวกันเลย
หลังจากที่ล่ำลาพี่เอกแล้ว ชานนท์เดินอย่างอ่อนแรงไปที่ประตูหอพัก ขณะที่เขากำลังจะใช้คีย์การ์ดเพื่อปลดล็อคประตูหอพักอยู่นั้น อยู่ก็มีสาวๆกลุ่มหนึ่งวิ่งโผเข้ามาหาเขาเหมือนฝูงผึ้งจู่โจมศัตรูที่มาดร้ายต่อรังตนเอง
“ชานนท์!!” สาวคนที่ถึงตัวชานนท์ก่อนเอ่ยทัก
“ครับ!!!” ชานนท์รับคำทักทายอย่างตื่นตระหนก
“พวกเรา.....” สาวคนเดิมเริ่มประโยคด้วยเสียงที่หวานและท่าทางเอียงอาย
“พวกเธออีกแล้ว!! บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาทักกันแบบนี้!!” ชานนท์พูดใส่หญิงสาวเหล่าด้วยเสียงที่ดังกว่าพลางเอามือลูบอกตัวเองเบาๆ
“นายขี้ตกใจมากไปต่างหาก!! ว่าแต่ของที่ให้เอาไปส่งให้เมื่อวาน วรุฒว่าไงบ้าง?” หญิงสาวในกลุ่มคนที่ตัวเล็กกว่าพูดแทรกมา
“เอ่อ..... เขา.....”
“อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ ไง! เขาว่าไงบ้าง?” สาวคนแรกที่พุ่งเข้ามาถามอย่างร้อนใจ
“ก็ดี.... เขาฝากขอบคุณมา” ชานนท์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“ว้ายยยยย!!!!” หญิงสาวทั้งกลุ่มหวีดออกมาประสานกันเสียงดัง
“ชู่วววววว!!” ชานนท์ยกนิ้วชี้ขึ้นป้องปาก
“โทษที ตื่นเต้นนี่นา....” หญิงสาวผมยาวที่ดูเรียบร้อยที่สุดในกลุ่มตอบมาด้วยสีหน้าอันแดงระเรื่อ
“งั้นวันนี้ เอาอันนี้ไปให้เขานะ ฝากด้วยนะ” หญิงสาวคนแรกยื่นกล่องพลาสติกใสขนาดเท่าสมุด A4 ให้ชานนท์ บนกล่องมีกระดาษโน้ตขนาดเล็กเขียนว่า ‘Warut hot guy FC” ชานนท์มองสิ่งที่ยื่นมาด้วยสายตาหน่ายๆ แต่พอรับมาไว้ที่มือตัวเองก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างอัตโนมัติ
“เดี๋ยวเราส่งให้เขานะ เขาน่าจะดีใจ” ชานนท์พูดตอบกลับไปหลังจากรับกล่องที่มีขนมเค้กสีสวยอยู่ภายในกระชับเข้าที่ตัว
“แน่นอน!! เราทำเองกับมือเลยนะ” หญิงสาวคนที่ยื่นกล่องให้พูดต่อท้ายประโยคชานนท์ทันที
เอี้ยด!!!!
เสียงล้อรถยนต์เบียดพื้นถนนดังลั่นจากที่ไม่ไหลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่หญิงสาวหลายคนปรารถนาได้ลงมาจากรถคันงามราคาแพง ทำให้สาวๆ กลุ่มที่ยืนอยู่กับเขาเสียอาการส่งเสียงหวีดเบาๆในลำคอ หญิงสาวเหล่านั้นทำเสียงแบบนั้นไปเรื่อยๆ จนวรุฒเดินนิ่งเงียบและก้าวเท้าว่องไวหายเข้าไปในตึกหอพัก โดยไม่ได้สนใจหญิงสาวเหล่านั้นที่ส่งสายตาและส่งเสียงชื่นชมเขาเลย
ชานนท์ที่เห็นเหตุการณ์นั้นโดยตลอดแอบถอนหายใจใส่พวกผู้หญิงกลุ่มนี้ซึ่งต่างซุบซิบกรีดร้องด้วยความดีใจที่ได้เจอคนที่พวกเขาแอบชอบ ชานนท์รู้สึกเสียใจกับคนกลุ่มนี้ที่ไปหลงไหลผู้ชายผิดคน ชานนท์กล่าวคำอำลากับพวกสาวกลัทธิคลั่งผู้ชายกลุ่มนี้และเดินแยกเข้าหอพักมา
หลายวันมานี้เขาเจอกับเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้บ่อยมาก วรุฒมีแฟนคลับและคนที่แอบชอบเยอะมาก แต่ด้วยท่าทางหยิ่งและเงียบขรึมของเขาทำให้สาวๆทุกคนเข้าถึงตัวเขาได้ยาก และต่างกลัวตกเป็นเป้าสายตาของคนต่างกลุ่ม ทุกคนจึงหยั่งเชิงด้วยการส่งของขวัญ ขนมและอื่นๆ ผ่านทางคนที่อยู่ร่วมห้องอย่างเขา ชานนท์เลยกลายเป็นบุรุษไปรษณีย์ไปโดยปริยาย แม้จะไม่เต็มใจนักแต่เขาก็เกรงใจคนเหล่านั้นที่อุตส่าห์ดั้นด้นเอามาให้ถึงหอพัก ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าชานนท์จะกลับมาถึงหอพักเมื่อไหร่ ทุกคนต่างมาเฝ้ารอ ด้วยตวามเห็นใจเขาจึงต้องรับหน้าที่นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เดี๋ยวเราจะมาถามนะว่าเขาชอบไหม?” สาวแฟนคลับคนแรกตะโกนบอกชานนท์ก่อนที่เขาจะเดินเข้าประตูไป
“ทำไมพวกเธอ ไม่ไปให้เขาชิมเองล่ะ จะได้รู้” บางครั้งชานนท์ก็อยากให้ผู้หญิงเหล่านั้นรับรู้ด้วยตนเองเหมือนกันว่าวรุฒมันเป็นคนยังไง
“ใจยังไม่กล้าพอน่ะ ช่วยหน่อยนะ” สาวๆ แฟนคลับทั้งหมดยกมือขึ้นพนมกลางอกทำนองขอร้องชานนท์ให้รีบเข้าไปให้วรุฒเสียที
“อืม... ได้” ชานนท์ฝืนยิ้มและเดินเข้าประตูไป
.......................................
”เอ้า! ของนาย” ชานนท์ยื่นกล่องขนมให้วรุฒทันทีที่ถึงห้อง
“..............” วรุฒได้แต่นอนมองชานนท์จากบนเตียงด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะกลับไปจ้องที่ไอแพดสีทองเครื่องใหญ่ของเขาอย่างไม่สนใจ
“งั้นวางไว้ตรงนี้นะ!!” ชานนท์รู้สึกขุ่นเคืองกับความไม่ใส่ใจของอีกฝ่ายเลยกระแทกกล่องนั่นลงบนโต๊ะหนังสือข้างเตียง แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่เขานึกถึงหน้าเหล่าบรรดาแฟนคลับเมื่อสักครู่ ทำให้ชานนท์เดินกลับมาส่องดูขนมเค้กในกล่อง เขารู้สึกโล่งอกที่เค้กยังคงสมบูรณ์ดี และบรรจงวางใหม่อย่างเรียบร้อย
“เฮ้ย! ไอ้เตี้ย! ถามจริงทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ?!” วรุฒถามขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นั่นควรจะเป็นคำพูดของเรามากกว่านะ!!” ชานนท์หันมาโต้กลับด้วยเสียงที่แสดงความไม่พอใจนัก
“อะไรของมึง?” ตอนนี้คนตัวใหญ่ที่นอนอยู่เตียงเริ่มมีอาการคิ้วชนกัน
“ก็.. มีคนมาสนใจมากขนาดนี้ ก็ควรจะดีใจและขอบใจคนที่ส่งของมาให้สักหน่อย” ชานนท์วาดนิ้วชี้ไปยังกองสิ่งของปลายเตียง ตั้งแต่ดอกไม้, ขนม, ตุ๊กตา และอื่นจิปาถะที่ชานนท์ไม่รู้ว่ามีอะไรในกล่องกระดาษผูกริบบิ้นสีสวยทั้งหลาย
“แล้วไง? กูไม่ได้ขอร้องให้คนพวกนี้ทำอะไรให้กูเสียหน่อย พวกเขามีสิทธิ์ที่จะให้กูก็ให้ไป แต่กูก็มีสิทธิ์ที่จะสนใจหรือไม่ มันก็เรื่องของกู!!” วรุฒพูดขึ้นพร้อมกับเปลี่ยนอริยาบทเป็นนั่งที่ขอบเตียงปลายเท้าถึงพื้นทั้งสองข้าง ดวงตาทั้งสองของเขาจ้องมองอาการประหม่าของชานนท์อย่างไม่ลดละ
“เออ! นายมีสิทธิ์ที่จะไม่สนใจได้ แต่ก็ควรจะให้ความสำคัญกับของที่ได้รับหน่อย หรืออย่างน้อยก็พูดขอบอกขอบใจคนให้บ้าง” ชานนท์พูดไปพลางนึกถึงพวกข้าวของจากบรรดาแฟนคลับคราวที่แล้วที่วรุฒยกให้ป้าศรีที่มาทำความสะอาดไปจนเสียหมดทั้งกอง ชานนท์รู้สึกไม่ดีกลัวว่าแฟนคลับที่อุตส่าห์นำของเหล่านี้มาให้ หากคนเหล่านั้นมาเห็นจะเสียความรู้สึกขนาดไหน เขาจึงเหนื่อยกับการจัดการของเหล่านั้นลงใส่ถุงขยะสีดำขนาดใหญ่อย่างมิดชิดให้ป้าศรี เพื่อไม่ให้ใครสักคนที่มาติดตามชีวิต ‘นักศึกษาไฮโซ’ ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เขาเคยอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้มาก่อนเขาเข้าใจดี
“อย่าเสือกเรื่องของกูให้มากนัก ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว!! อย่านึกว่ากูไม่รู้ว่ามึงชอบไปให้ความหวังคนพวกนั้น!! กูไม่ได้ต้องการ จำไว้!!” วรุฒยืนขึ้นและเดินมาในระยะประชิด กล่าวขึ้นเสียงกร้าว ชานนท์แหงนมองหน้าอีกฝ่ายด้วยอาการหวาดๆ เพราะอีกฝ่ายตอนนี้น่ากลัวจริงๆ เขารู้สึกเหมือนฮอบบิทตัวน้อยที่กำลังจะโดนมังกรยักษ์โฉบกิน
“ก็ได้!! เราไม่ยุ่งก็ได้!!” ชานนท์พูดจบก็หันหลังกระแทกเท้าเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป เขาพยายามจะไม่สนใจคนไร้หัวใจตรงหน้าเขา เขาควรจะรีบไปกินมื้อค่ำกับสาวๆที่เขานัดไว้ดีกว่า!
......................