|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 148509 ครั้ง)

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ชอบอ่ะ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ทำไมเราชอบน้องติม น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องติมฟินไปถึงไหนแล้ว พี่แซ็คยังต้วมเตี้ยมอยู่เลย ขำในความมั่นของน้อง

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Chapter 3 [100%]




“โห เซ็กซี่จังเลยอะ” ไอติมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกใจหวิว สีหน้าเคลิ้มตาเยิ้มไปกับแซ็คในชุดชั้นในสีแดงทรงสามเหลี่ยมรัดรูปที่กำลังยืนอ้าขา มือโดนมัดไพล่หลังอยู่บนเวที มัดกล้ามสีเนื้อมันเลื่อมไปด้วยน้ำมันยิ่งทำให้เซ็กซี่และยั่วยวนชวนเยิ้มมากขึ้นไปอีก แม้จะมีหนุ่มล่ำอีกสามคนยืนถัดจากแซ็ค แต่สายตาของไอติมก็มองเพียงพ่อเทพบุตรหนังโป๊ขวัญใจของตัวเองท่ามกลางเสียงเพลงจังหวะมันส์ ๆ และเสียงกรีดร้องของเก้งกวางตุ๊ดกะเทยและหญิงสาวอันเป็นเสมือนชนกลุ่มน้อยในคลับนี้
   

“วู้ววว!! กรี๊ดดด!!!” ไอติมที่ได้บัตรนั่งโซนด้านข้างฝั่งแซ็คนั่งมองตาไม่กะพริบและอ้าปากค้างเป็นรอยยิ้มอ่อน ๆ ด้วยความใจเต้นตึกตัก จากที่เคยเห็นแต่ในไลฟ์ เคยเห็นแต่ในวิดีโออนไลน์ วันนี้เขาได้เห็นบุคคลที่ตัวเองอยากเสียตัวให้มากที่สุดอยู่ตรงหน้าแล้ว
   

ตึงๆๆ!!! ตึง ตึง!
   

“ว้าวววว!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นตอนที่มีมือสองมือโผล่ออกมาจากม่านสีดำด้านหลังของชายหนุ่มทั้งสี่คน ก่อนที่สองมือนั้นจะจับไปที่เป้าของพวกเขาแล้วลูบคลำจับบีบ มุมปากของไอติมขยับเป็นยิ้มกว้างขึ้น สายตาเลื่อนมองสีหน้าของแซ็คที่กำลังหลับตาพริ้ม เพลิดเพลินกับสองมือปริศนาที่กำลังครอบครองความเป็นชายของตัวเอง
   

อยากให้สองมือนั้นเป็นมือของตัวเอง จะจับให้แน่น ๆ เลย
   

ไอติมยิ้มเคลิ้ม เผลอกัดริมฝีปากล่างอย่างไม่รู้ตัว จับจ้องมองเป้าที่ตอนแรกตุงปกติ แต่ตอนนี้มันกำลังตุงขึ้น ๆ แล้วรูปร่างของเจ้าสิ่ง ๆ นั้นก็ชัดขึ้นเป็นแนวขวาง และเมื่อมันขยายขึ้นเรื่อย ๆ มือขวาของสองมือมืดจึงดึงขอบกางเกงในทรงสามเหลี่ยม และใช้มือซ้ายจัดระเบียบกับความใหญ่ยาวที่ขยายตัวจนเบียดล้นขอบกางเกงใน
   

“โว้ววว!!!” เสียงครางอู้อ้าดังขึ้นทั่วผับเมื่อตอนที่ของยักษ์ใหญ่ของสี่หนุ่มพาดเบี่ยงขวาล้นขอบกางเกงใน สองมือนั้นรูดตามความนูนช้า ๆ แล้ววนตรงส่วนเนื้อที่โผล่พ้นขอบกางเกงในขึ้นมาอย่างไม่เร่งรีบ หลายคนในร้านถ่ายคลิปวิดีโอ และมองทั้งสี่คนสลับกันไป แต่สำหรับไอติมคือมองแซ็คคนเดียวเท่านั้น หนุ่มเอเชียนั่งอ้าปากค้าง มองด้วยสายตาโหยหา และไม่ปฏิเสธที่จะยอมรับว่า ตอนนี้แท่งไอติมของตัวเองนั้นแข็งโป๊ก!


Oh, oh, oh, oh, oh, sometimes I get a good feeling, yeah


สองมือนั้นปล่อยออกจากอาวุธของหนุ่ม ๆ ทั้งสี่แล้วหายลับไปในม่านสีดำ


I get a feeling that I never never never never had before, no no…


เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มตอนที่ทั้งสี่คนเดินแยกไปตามมุมของเวที


I get a good feeling, yeah…


แซ็คเดินมาฝั่งของไอติม และเด้งเป้าเบา ๆ ตามจังหวะของเพลง หนุ่มผมทองกัดริมฝีปากล่าง ใบหน้า
ยั่วยวน


Oh, oh, oh, oh, oh, sometimes I get a good feeling, yeah


รู้สึกดีตามที่เพลงว่าจริงๆ…


ไอติมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง มองมือมากมายที่พยายามยื่นไปจับของดีของเด็ดของแซ็ค หลายมือยื่นไปโดนก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจ พอลูบคลำจับโดนแล้ว สักพักแบงค์สีเขียว ๆ มากมายก็ยื่นไปเหน็บตามขอบกางในสีแดงของแซ็ค ไอติมมองด้วยความสนใจ หยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเองออกมาแล้วหยิบแบงค์หนึ่งร้อยดอลล่าห์ขึ้นมาก่อนลุกไปยืนใกล้กับเวทีมากขึ้นและพยายามแทรกตัวเองเข้าไปใกล้แซ็ค


“เฮฮฮฮ้!!!” ไอติมตะโกนแข่งกับคนอื่นและพยายามเบียดตัวเองเข้าไป หมายว่าจะได้จับกับเขาบ้าง แขนเรียวยาวชูแบงค์ดอลล่าห์โบกขึ้นไปมา พยายามทำให้แซ็คเห็นตัวเอง


“ซะ… แซะ!” ไอติมหุบปากฉับเพราะนึกขึ้นได้ว่าแซ็คไม่อยากให้เรียกชื่อนี้ พอนึกได้ดังนั้นไอติมก็เปลี่ยนเป็นเรียกชื่อที่เขาบอกว่าให้เรียก


“ไบรอั้นนน!! ไบรอั้นนน วู้ววว! ขอจับบ้าง ขอจับหน่อยยย!!!” ไอติมพยายามดีดดิ้นให้แซ็คเห็น แต่เพราะคนเยอะ และมันก็มีหลายแบงค์ที่ยังโบกว่อนอยู่ในอากาศ และไฟบนเวทีน่าจะสาดใส่แซ็คมากจนตาพร่าเลยทำให้เขามองเลยผ่านไป สุดท้ายสี่หนุ่มก็ไปยืนรวมกันตรงกลางเวที กระชากเชือกที่มัดข้อมือตัวเองไว้จนหลุดด้วยท่วงท่าที่แข็งแรงแล้วยกแขนเบ่งกล้ามเรียกเสียงกรี๊ด สิ่งที่ตุงก็ยังคงตุงแน่นเหมือนเดิม สี่หนุ่มส่งยิ้มและแจกจูบให้กับคนทั้งผับก่อนจะก้มหัวลงเป็นการขอบคุณหลังจากแสดงโชว์มาหนึ่งชั่วโมง นับตั้งแต่มีเสื้อผ้าครบชิ้นจนกระทั่งเหลือแค่กางเกงในตัวจิ๋วนี่แหละ


“วู้วววๆๆๆ!!! I love you guys cock!!! (ฉันรักคxxพวกคุณณณ!!!)”


เสียงเก้งสาวฝรั่งตะโกนดังลั่นแข่งกับเสียงเพลง มีเสียงกรี๊ดดังเสริมทัพดังไปทั่วผับ และก่อนที่ทั้งสี่คนจะหายลับเข้าไปด้านหลัง พวกเขาก็ดึงเงินที่เหน็บตามขอบกางเกงออกจนหมดแล้วก้มตัวลงถอดกางเกงชั้นในที่ใส่อยู่ออก โดยใช้อีกมือกุมความตุงตวงนั้นไว้แบบไม่มิดชิด ให้เห็นแบบใจสั่นกันเล่น ๆ มือซ้ายที่ใช้ถอดกางเกงในสามเหลี่ยมตัวจิ๋วชูขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหล่อ สักพักทั้งสี่คนก็โยนกางเกงในในมือไปคนละทาง สีแดงของแซ็คลอยละลิ่วมาทางที่ไอติมยืนอยู่ หนุ่มเอเชียเบิกตากว้างและอาศัยความแขนยาวยื่นไปคว้าหมับเต็มมือ


“เก็บบบ!!!” ไอติมตะโกนดีใจคนเดียวท่ามกลางเก้งเกย์ฝรั่งที่หันมาหัวเราะและยิ้มให้ ไอติมยิ้มกว้าง ชูมือขวาที่ถือกางเกงในไปมา หนุ่ม ๆ ทั้งสี่คนโค้งตัวลง ยกมือโบกลาทุกคนที่มาชมการแสดงของตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไอติมโบกมือให้แซ็คทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเขาจะเห็นมั้ยแต่ก็โบกไว้ก่อน


“Good bye boy!” เสียงดีเจประกาศดังลั่นร้าน เสียงผิวปาก เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว หนุ่ม ๆ ทั้งสี่คนพากันเดินกลับเข้าไปด้านหลังเวที ให้ทุกคนด้านล่างเวทีได้เห็นก้นแน่น ๆ เป็นสิ่งสุดท้าย


ไอติมหันซ้ายแลขวา เริ่มสับสนว่าตัวเองจะต้องไปยังไงต่อ ตอนนี้ในผับกลับมาเปิดเพลงเต้นตามเดิม ทุกคนที่มากับเพื่อนก็กลับไปเต้น หลายคนที่น่าจะมาแค่ดูโชว์ พอโชว์จบก็พากันเดินออกไปจากร้าน ไอติมมองตามคนพวกนั้นและคิดกับตัวเองว่ายังไม่กลับแน่ ๆ เพราะอยากจะอยู่เจอแซ็ค แต่ประเด็นคือมัวแต่ดีใจตอนได้เจอกันจนลืมถามเขาว่าหลังจบโชว์จะมีโอกาสได้เจอกันอีกมั้ย พอลืมถามก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อเลย


“เฮ้!” เสียงเรียกมาพร้อมกับการสะกิดที่ไหล ไอติมหันไปมองก็เจอกับบอดี้การ์ดผิวสีคนนั้นที่เจอกันเมื่อตอนกลางวัน ไอติมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ


“Come with me. (มากับฉัน)” ไอติมฟังไม่ค่อยถนัด อาศัยมองเขากระดิกนิ้วเรียกแล้วหมุนตัวเดินนำตัวเองไป เลยก้าวเท้าตามเขาออกไปจากบริเวณโซนที่นั่งของตัวเอง บอดี้การ์ดผิวสีเดินนำออกไปทางหน้าร้าน ไอติมหันหลังไปมองด้านในผับที่บรรยากาศกำลังคึกคักและนัวเนียด้วยความรู้สึกไม่เข้าที่เข้าทางว่าตัวเองจะต้องไปทางไหน ไปทำอะไรต่อ ได้แต่เดินตามเขาต้อย ๆ ออกมาหน้าร้าน นึกในใจว่ากำลังจะโดนไล่หรือเปล่า


“Wait here. He is coming to see you. (รอนี่ เขากำลังมาหานาย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงง มองมือขวาของชายผิวสีที่ชี้ตรงตู้กระจกใสคล้ายห้องอาบน้ำอันกลางที่อยู่ตรงหน้าร้าน


“Stand here. Okay? Don’t go anywhere. Okay? (ยืนนี่ เข้าใจมั้ย อย่าไปไหน โอเคนะ)” หนุ่มผิวสีทำท่าชี้จริงจังในจุดที่ไอติมยืนอยู่ คนตัวเล็กพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความเข้าใจกับท่าทางและคำสั่งนั้น บอดี้การ์ดของร้านมองไอติมนิ่งสักแปบก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านในร้านทิ้งให้ไอติมยืนโดดเดี่ยวงง ๆ อยู่คนเดียว


ตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะเที่ยงคืน ไอติมมองไปรอบตัว รวงร้านยังคงเปิดไฟคึกคัก เสียงเพลงดังอึกทึกให้ได้ยินแว่ว ๆ ตามท้องถนนมีผู้คนเดินกันมากมายแต่ก็ไม่ได้แน่นขนัดจนชวนอึดอัด


ครืด ครืด


ไอติมยัดกางเกงในสีแดงของแซ็คไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนฝั่งซ้าย ใช้มือขวาล้วงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอ เดนนี่ส่งวอทสแอพมาถามเรื่องเวลาจะกลับ ไอติมเปิดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นแล้วพิมพ์ตอบกลับ


ไอติม : ยังไม่รู้เลยอ่าเดน มึงนอนก่อนมั้ย เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่กลับ


Denny : มึงอย่าเพิ่งอวดเก่ง โทรมาแล้วกัน


ไอติมส่งอีโมชั่นยิ้มกว้างกลับไปให้ ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิม หันมองตรงประตูก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าแซ็คจะออกมา ไอติมยืนรออยู่อย่างนั้น ล้วงกางเกงในของแซ็คขึ้นมาดูแล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ เขามองซ้ายมองขวาสักแปบก่อนจะยกกางเกงในขึ้นสูด ๆ ดม ๆ กลิ่นหอมอุ่นกรุ่นอยู่ในโพรงจมูก


“What are you doing? (ทำอะไรน่ะ)” ไอติมชะงักอยู่ในท่ากำลังดมกลิ่นกางเกงในแซ็คด้วยความฟิน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเลื่อนมองหนุ่มผมทองในชุดกางเกงยีนสีดำกับเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีเขียวที่กำลังย่นคิ้วมองมาด้วยความประหลาดใจ ไอติมยิ้มกริ่มแล้วชูกางเกงในให้แซ็คเห็น


“Your underwear! (กางเกงในของคุณไง)” คนตัวเล็กตอบเสียงสดชื่น ดีใจที่เห็นแซ็คออกมาหาตัวเองจริงๆ


แซ็คมีสีหน้าคลางแคลงใจเล็กน้อย “Did you just smell that? (นายดมมันเหรอ)”


ไอติมมีสีหน้างงนิดหน่อยกับคำศัพท์นี้ แต่ก็พยายามที่จะตอบ “สเมล สเมล แปลว่ากลิ่น อ๋อ Yes, yes. Smell good very much.”


แซ็คเลิกคิ้วค้างไว้แปบหนึ่งก่อนจะกระตุกมุมปากคล้ายเป็นรอยยิ้มขำแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เขามองไอติมด้วยความรู้สึกไม่ไว้วางใจ ส่วนคนโดนมองกลับยิ้มแย้มสดชื่น “Okay, do you want to have a walk? (เอาล่ะ อยากไปเดินเล่นมั้ย)”


“หะ ฮะ walk เหรอ” ไอติมถามด้วยความไม่แน่ใจและไม่มั่นใจว่าตอนนี้กำลังเข้าใจถูกมั้ยว่าเขาบอกให้เดินอะไรสักอย่าง


แซ็คพยักหน้าหนึ่งที “Yes, walk and talk. (ใช่ เดินเล่นแล้วก็คุยกัน)”


แซ็คชี้ที่ตัวเขาและไอติมสลับไปมาแล้วใช้สองนิ้วทำท่าขาคนเดิน ไอติมร้องอ๋อ พอจะเข้าใจแล้วว่าเขาน่าจะชวนเดินคุยกัน ไอติมทำท่าก้าวขาไปข้างหน้า แซ็คยักไหล่ทั้งสองข้างและทำหน้าประมาณว่าแบบนั้นแหละ


“Okay, go go.” แซ็คดึงฮู้ดของเสื้อกันหนาวขึ้นมาสวมหัว ไอติมยัดกางเกงในสีแดงลงกระเป๋ากางเกงแล้วก้าวเท้าเดินไปตามฟุตปาทด้วยความตื่นเต้น เขาแหงนหน้ามองแซ็คตาเปล่งประกาย


แซ็คตัวใหญ่มาก ยิ่งมาเทียบกับเขาแล้วก็ยิ่งใหญ่เข้าไปอีก ตัวสูงล่ำบึ้ก กล้ามเป็นมัด ตัวล่ำหนาน่าซบ ใบหน้าหล่อ แต่ไม่ใช่หล่อแบบอู้หูว ชวนตะลึง เพราะมีอย่างอื่นให้น่าตะลึงกว่า


เอ๊ะ…


“Why are you staring at me? (จ้องฉันทำไม)” แซ็คหันไปเห็นไอติมกำลังแหงนหน้ามองเขาราวกับกำลังพินิจพิจารณาอะไรสักอย่าง ซึ่งไอติมไม่เข้าใจหรอก แต่พอจะเดาออกว่าเขาคงถามว่ามองเขาทำไม เพราะตัวเองก็มองเขานานแล้วจนเขารู้ตัว


“You so sexy นะ” ไอติมยิ้มกริ่มพร้อมกับยกนิ้วโป้งทั้งสองข้าง หนุ่มหัวทองยิ้มอ่อน


“You like it? (ชอบมั้ย)”


“Very much! (มากๆ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้นราวกับจะย้ำว่าตัวเองชอบมากจริง ๆ นะ แซ็คกระตุกยิ้มอีกครั้ง มองไอติมด้วยสายตาสับสนเล็กๆ


“How do you know me? (รู้จักฉันได้ยังไง)” ไอติมทวนคำถามในหัวแล้วก็แปลแบบพอเข้าใจแบบที่ไม่ให้ใจความหลักหาย มันยังดีที่ว่าตอนนี้มันเป็นการสนทนาง่ายๆ


“I saw your picture and I think you are handsome and sex apple เอ่อ” ไอติมขมวดคิ้ว ปากเร็วกว่าความคิด และความคิดยังไม่ทันคิดเสร็จเลยว่าจะพูดยังไง


“You mean appeal? (หมายถึงแอพเพียลรึเปล่า)” ไอติมพยักหน้าและยิ้มเขิน ๆ ที่ตัวเองพูดผิด มันจะพูดคำนี้แหละแต่ปากดันพูดแอปเปิ้ลออกมาเฉย


“You sexy, have a very big arms แล้วก็เนี่ยๆ…” ไอติมชี้ไปที่บริเวณช่วงท้องของแซ็ค


“…แน่นมาก ๆ แบบ very good stomach อะ” แซ็คอดจะขำไม่ได้กับการพูดภาษาอังกฤษในเวอร์ชั่นของไอติม เขาไม่ได้นึกดูถูก แต่ฟังแล้วมันก็ตลกในการเลือกใช้คำ


“อ๋อ แล้วก็ important very much is your เป้า is very ตุงเว่อ ๆ เป้าอะเป้า” ไอติมคว่ำมือขวาแล้วงอหลังมือให้อูมเหมือนกระดองเต่าก่อนเอาไปวางไว้ที่เป้าตัวเอง ใช้มือซ้ายช่วยบรรยายลักษณะของคำว่าตุงเพิ่มเติมโดยการโบกมือซ้ายขึ้นลงตามแนวโค้งของหลังมือเหมือนลูบท้องคนท้อง


“I see it and I think I want to see your dick. It must big for sure. When I see it I ก็แบบ ฮู้ววว ใหญ่จริง ปลื้มมาก I am so glad very much that you play porn movie.” ไอติมพยายามอธิบายในแบบที่ตัวเองเข้าใจ แล้วก็ถ่ายทอดออกมาโดยที่ตัดความกังวลเรื่องที่คนฟังจะเข้าใจหรือไม่ออกไปก่อน


แซ็คประมวลผลในหัวตัวเองจากการฟังที่ไอติมอธิบาย เขาก็ไม่ได้ว่าจะเชื่อใจวางใจไอ้เด็กคนนี้ไปเลย แต่จากการบอกเล่าแบบไม่ตะกุกตะกัก เรื่องที่ว่ามันเป็นแฟนคลับเขาก็น่าจะเป็นเรื่องจริงมากกว่าเรื่องแต่งขึ้นมาแหละ


“Which photo you see me for the first time? (รูปไหนที่เห็นฉันครั้งแรก)” แซ็คถามพลางก้าวเท้าเดินไปเรื่อย ๆ แบบไม่เร่งรีบ ตอนนี้ทั้งสองคนหลุดออกมาจากโซนคนหนาแน่นแล้ว


ไอติมหน้างง ไม่แน่ใจกับคำถาม รู้ว่าถามถึงรูป แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงรูปอะไร แซ็คเห็นแบบนั้นก็คิดว่าจะใช้คำศัพท์อธิบายยังไงดีอยู่สักพัก ก่อนจะค่อย ๆ พูดช้าๆ


“First photo of me that you have. (รูปแรกของฉันที่นายมีน่ะ)”


“อ๋อ ๆ แปบนึงนะ” ไอติมล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอัลบั้มรูป เขาเลื่อนหารูปแรกของแซ็คที่เขาเห็นแล้วทำให้เขาคิดถึงแต่อวัยวะส่วนนั้น


“อันนี้ๆ” ไอติมหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้แซ็คมอง ฝรั่งผมทองก้มลงมองรูปตัวเองบนหน้าจอ เห็นเป็นรูปตัวเขาใส่กางเกงว่ายน้ำรัดรูปสีขาวตัวบาง สะพายกระเป๋าเป้สีดำ กำลังเดินอยู่ริมชายหาดสีขาว


“I got it.”


“I think so far มาก ๆ  with this picture.” ไอติมยิ้มกว้างพลางเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม แซ็คพยักหน้าหนึ่งครั้ง เข้าใจได้ว่าไอ้หนุ่มเอเชียมันพูดว่ามันคิดไปไกลกับรูปนี้


“You can’t tell me about how you know my real name, aren’t you? (นายบอกไม่ได้เลยใช่มั้ยเรื่องที่รู้ชื่อจริงฉัน)” แซ็คถามหน้านิ่งเสียงนิ่ง ไอติมไม่เข้าใจทั้งประโยคแต่จับใจความได้ถึงเรื่องชื่อเพราะรูปประโยคคล้าย ๆ เมื่อตอนบ่ายที่เจอกัน


“No. Sorry นะ” แซ็คถอนหายใจ หยุดเดินแล้วหันหน้าเข้าหาไอติมพลางดึงฮู้ดออกจากหัว สีหน้าของหนุ่มหัวทองออกไปทางบึ้งตึงเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกจนน่ากลัว


“Well, what do you want from me? (เอาล่ะ ถ้างั้นนายต้องการอะไรจากฉัน)” แซ็คถามด้วยท่าทีจริงจังจนไอติมรู้สึกเกร็งไปนิด ทั้งกลัวจะฟังไม่ออกและกลัวกับท่าทีของคนตรงหน้า


“What I want form you เหรอ” แซ็คพยักหน้านิ่ง


“What do you want and what is you purpose about me? (ต้องการอะไรและจุดประสงค์ที่ต้องการจากฉันคืออะไร)” คราวนี้ไอติมยิ่งหัวหมุนเพราะเหมือนคำถามจะยาวขึ้น แต่ก็ยังจำคำถามแรกที่เขาถามไปได้อยู่ เลยพยายามตั้งสติตอบคำถามนั้นก่อน


“I want this. (ต้องการอันนี้อะ)” ไอติมชี้ไปที่เป้ากางเกงยีนสีดำของแซ็ค เจ้าตัวก้มหน้าลงมองแล้วเงยหน้าขึ้นมองงงๆ


“What? (อะไร)” ไอติมยิ้มเขินเล็กน้อยแต่ก็ตอบเต็มปากเต็มคำ


“What in your jean? (อะไรในกางเกงยีนคุณ)” แซ็คขมวดคิ้วงง ๆ แต่ก็ลองตอบดู


“Underwear? (กางเกงในเหรอ)”


“In underwear. (ในกางเกงในอีกที)” แซ็คหรี่ตาลงวูบหนึ่งก่อนจะเริ่มเก็ท


“My cock or you said dick. (คxxฉันเหรอ)” ไอติมยิ้มกว้าง พยักหน้าหนึ่งทีแบบแข็งขัน


“Yes!”


แซ็คอ้าปากค้างเล็กน้อย หรี่ตามองไอติมด้วยความรู้สึกประหลาดใจและตลก ไม่ใช่ว่าเขาเดาจุดประสงค์ไม่ออก แต่ยังงง ๆ อยู่ว่าไอ้เด็กเอเชียคนนี้มันจะยังไงของมัน


“What do you want to do with it? Touch, suck or jerk it off? (แล้วนายต้องการทำอะไรกับมัน จับ ดูด หรือชักว่าว)” ไอติมเริ่มรู้สึกมึน เริ่มจะแปลมั่ว ๆ ซั่ว ๆ กว่าเดิมที่เป็นอยู่ แต่ก็ขอตอบแบบสรุปให้แซ็คเข้าใจง่าย ๆ เลย


“I want you fuck me. I’m virgin I want you destroy my virgin by your big cock. (ผมอยากให้คุณเอาผม ผมบริสุทธิ์ ผมอยากให้คุณทำลายความบริสุทธิ์ของผมด้วยจู๋อันใหญ่ของคุณ)” แซ็คอ้าปากค้างด้วยความตะลึง ทั้งตะลึงกับจุดประสงค์ของไอ้หมอนี่กับตะลึงที่มันเลือกใช้คำซะน่ากลัว


Destroy เลยเหรอ นี่มันสงครามรึเปล่า


สองหนุ่มต่างเชื้อชาติและต่างไซซ์ มองตากันคนละความรู้สึกสึก คนตัวเล็กมองอย่างเป็นประกายและตื่นเต้น ส่วนคนตัวใหญ่กำลังมองอย่างอึ้งหน่อย ๆ เป็นความรู้สึกทั้งตลก ระแวงและประหลาด


“You want to have sex with me? (อยากมีเซ็กซ์กับฉันเหรอ)” ไอติมพยักหน้าทันทีโดยที่ไม่ต้องประมวลผลเลยสำหรับประโยคนี้


แซ็คยิ้มขำ รู้สึกตลกกับท่าทางเด๋อด๋า ออกแนวเอ๋อ ๆ ด้วยซ้ำของไอ้หนุ่มเอเชีย เขาทำงานแบบนี้ เขารู้ว่าหลายคนต้องการอะไรจากเขา แต่การแสดงออกแบบนี้เขาไม่เคยเจอ มันทั้งตลกแล้วก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน น่ากลัวตรงที่มันรู้ชื่อจริงเขาแล้วไม่ยอมบอกว่ารู้ได้ยังไงเนี่ยแหละ


“I don’t fuck boy. I fuck girl. (ฉันไม่เอาผู้ชาย ฉันเอาผู้หญิง)” แซ็คเลือกใช้คำที่ง่ายที่สุดในการสื่อสาร


“But I see you fuck boy in porn นะ (แต่ผมเห็นคุณเอาผู้ชายในหนังโป๊ด้วยนะ)”


“That’s my job, which mean I earn money from it. That’s why I can fuck some men. (นั่นมันคืองานของฉัน ซึ่งหมายความว่าฉันได้เงินจากมัน นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าฉันเอาผู้ชายบางคนได้)”


ไอติมหน้าหงอยแม้จะยังไม่เข้าใจทั้งประโยค “Fuck me ไม่ได้เหรอ Can you?”


แซ็คส่ายหัวช้าๆ “I am a man. Not gay. But I could be gay if I got more money. (ฉันเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เกย์ แต่ฉันเป็นเกย์ได้ถ้าได้เงินเยอะ)”


แม้จะงง ๆ แต่ก็เข้าใจที่แซ็คสื่อได้ ไอติมเลยหน้าเป็นหมาหงอยไปเลย


“Fuck no money. It’s okay? (เอาแบบไม่มีตังค์ไม่ได้เหรอ)”


“It’s not okay.” ไอติมทำปากยื่น หน้ายังคงหงอยเหมือนเดิม แซ็คมองหน้าคนตรงข้ามนิ่งสักแปบก่อนจะไหวไหล่ทั้งสองข้างและทำหน้าชิล


“But as you are my truly fan—decided from what you have told me how you like me. I’m gonna let you touch my dick for free. But after that don’t ask me to fuck you again. (แต่ในฐานะที่นายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฉัน ตัดสินจากที่นายบอกฉันน่ะว่านายชอบฉันมากแค่ไหน ฉันจะให้นายจับไอ้จ้อนฉัน แต่หลังจากนั้นห้ามถามถึงเรื่องให้ฉันเอานายอีก)” ไอติมกะพริบตาหน้างงเพราะประโยคยาวเกิน แล้วจับใจความไม่ค่อยจะได้ด้วยว่าประเด็นของประโยคนี้คืออะไร


แต่ที่ทำให้หยุดงงแม้จะยังไม่หายงงคือการที่แซ็คปลดกระดุมกางเกงออกแล้วแบะจนเห็นกางเกงในสีดำก็ทำให้ไอติมตาโตและมองเป้าของแซ็คนิ่ง


“Touch it. (จับสิ)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองแซ็คแบบยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หนุ่มหัวทองชี้ที่เป้าตัวเอง ไอติมเบิกตากว้างกว่าเดิม สีหน้าตื่นเต้นราวกับเพิ่งจะเข้าใจจริง ๆ ว่าแซ็คสื่อถึงอะไร


“Really? (จริงเหรอ)” แซ็คพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ไอติมไม่รอช้า ล้วงมือเข้าไปในกางเกงชั้นในสีดำของแซ็คแล้วจับของดีของเด็ดเต็มมือด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว


“อู้วววๆๆ นิ่มจัง ฮู้ยยยๆ” ไอติมว่าอย่างตื่นเต้น มือซ้ายบีบจับสิ่งนั้นด้วยความบันเทิงรื่นเริงใจ ถึงมันจะยังไม่ขยายตัวจนใหญ่แต่ที่จับอยู่ก็เต็มมือ


“And can you promise me that you will not tell anybody about my real name? (แล้วนายสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่บอกใครเรื่องชื่อจริงของฉัน)” ไอติมหน้างง ๆ เพราะกำลังเพลินกับการได้จับเอ็นอุ่น ๆ ของแซ็ค มีการใช้มือขวาดึงกางเกงชั้นในสีดำลงไปใต้ลูกกลมกลึง พอได้เห็นชัด ๆ ก็ยิ่งตาโตจนยิ่งไม่เข้าใจสิ่งที่แซ็คพูดเข้าไปอีก


“โฮ้ยยย ดีจังวะ” ไอติมใช้มือซ้ายรูดเข้ารูดออกเบา ๆ แท่งเนื้อสีน้ำตาลนอนสงบนิ่ง ปล่อยให้เขาลูบหัวลูบตัวตามอำเภอใจ


“Promise me? (สัญญามั้ย)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองแซ็คแบบงง ๆ แซ็คถอนหายใจเซ็งๆ


“Don’t tell my real name to no one. No one can’t know about this. Okay? (อย่าบอกชื่อจริงฉันกับใคร ห้ามให้ใครรู้ โอเคมั้ย)” มือก็รูดสลับกับบีบไป สมองก็ประมวลไป ใช้เวลาคิดอยู่สักพักก็พอเข้าใจความหมายของประโยคนั้นแล้วไอติมก็พยักหน้ารัวๆ


“Okay!” แซ็คมีสีหน้าโล่งอก แต่ยังไม่เต็มที่ที่จะบอกว่าสบายใจแล้ว มันก็ยังคงเป็นเรื่องแปลกและชวนระแวงอยู่ดีที่จู่ ๆ ก็มีใครจากไหนไม่รู้มาเรียกชื่อจริงทั้งที่มันเป็นความลับและเป็นเรื่องส่วนตัวมากสำหรับเขา


“Smell ได้มั้ย” แซ็คส่ายหัวพร้อมกับดึงมือไอติมออกจากแก่นกายตัวเอง


“That’s it. (พอแค่นั้นแหละ)” ไอติมมองแซ็คเก็บของดีที่ยังไม่ตื่นตัวกลับเข้าไปในกางเกงชั้นในแล้วตามด้วยรูดซิบกางเกงยีน ไอติมทำหน้าเสียดายเมื่อรู้ความหมายว่าหมดเวลาจับของดีแล้ว แซ็คเลื่อนสายตาไปมองแสงไฟจากหน้ารถคันหนึ่งที่กำลังแล่นมาทางนี้ก่อนเลื่อนกลับมามองไอติม


“I have to go. (ฉันต้องไปแล้ว)” รถคันนั้นแล่นมาจอดเทียบริมฟุตปาทตรงบริเวณที่ทั้งสองคนยืนอยู่ ไอติมหันไปมองก็พอดีกับที่กระจกรถฝั่งคนขับเลื่อนลง สาวฝรั่งผมบลอนด์หน้าตาดีฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับชูกล่องสีดำสี่เหลี่ยมขึ้นมาเขย่าตรงหน้า ไอติมหันกลับไปมองแซ็คก็เห็นว่าขวัญใจตัวเองยิ้มหล่อหนึ่งทีก่อนก้มลงมองเขา


“Good night my super fan. (ฝันดี แฟนพันธุ์แท้ของฉัน)” แซ็คยกมือซ้ายขยี้หัวไอติมช่วงสั้น ๆ ก่อนจะเดินผ่านเขาไป ไอติมหันมองตาม แซ็คเดินอ้อมหน้ารถไปขึ้นฝั่งข้างคนขับ พอขึ้นรถไปได้ทั้งสองคนก็จูบปากกันหนึ่งทีก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเลื่อนกระจกรถขึ้นพร้อมกับขับรถออกไปจากจุดที่ไอติมยืนอยู่


ร่างเล็กมองตามรถเก๋งสีน้ำเงินไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง มองด้วยสายตาละห้อยและรู้สึกเศร้าสร้อยในอกเล็ก ๆ ที่โดนปฏิเสธแม้ว่าจะได้จับก็เถอะ แต่มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ไอติมต้องการ เขาพ่นลมหายใจ หน้าตาอึน ๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเดนนี่พลางหมุนตัวเดินกลับไปตามทางเดิมด้วยความรู้สึกหม่นๆ


โดนผู้หญิงคนนั้นตัดหน้าไปแบบสวย ๆ เลย น้าแพนเคยบอกว่าแบบนี้เรียกปาดหน้าเค้ก คิดแล้วก็เซ็งๆ


แต่ไอติมก็ไม่คิดหมดกำลังใจง่าย ๆ วันพระไม่ได้มีหนเดียวฉันใด วันเสียตัวก็ไม่ได้มีหนเดียวฉันนั้น แม้ตอนนี้จะมืดเกือบแปดด้าน แต่ก็ไม่คิดถอยทัพกลับไปอย่างบริสุทธิ์ดังเดิมแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 19:35:02 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ thevicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หนูไอติมลูก หนูช่างทำเรื่องผิดศีลธรรม คุณแม่หัวใจจะวาย น่าเสียดายที่ได้แค่จับเนอะ
รอไปก่อนลูกสักวันมันต้องเป็นของเรา

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
 :m20: ยัยเด็กแก่แดด

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไอติมลูก หนูโลกสวยมาก เตรียมใจไว้สำหรับการผิดหวังจากอีพี่แซ็คไว้เนิ่นๆ นะลูก  :กอด1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องไอติมมันซื่อมากกก ไม่น่าเชื่อเลยจะถูกอิพี่แซ็คหล่อหลอมจนร้ายกาจ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อิจฉาน้องติม คงจะฟินมากๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Qualmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :jul1: สงสารนุ้งงงง เห้อมมมหนทางยังอีกยาวไกลนัก เมื่อไหร่จะได้รักกัน โฮฮอฮ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust, Chapter 4 : Unexpected. (ไม่คาดคิด) [50%]




“แอลเอร้อนจัง ร้อนแสบผิวอะ”
   

“มึงหดหัวเข้ามาก่อนไอ้เหี้ยติม เดี๋ยวเป็นไอติมเหลือแต่โคนหรอกมึง” เดนนี่ยื่นมือขวาไปดึงแขนเพื่อนที่ยื่นหัวและตัวออกไปนอกรถเกือบครึ่งตัว แต่ไอ้ติมมันก็ไม่กลัวเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นไอติมหัวหลุด
   

“อู้หู ทะเล ทะเลลล แอลเอมีทะเลด้วยเหรอเดน” ไอติมยังคงยื่นหน้าออกไปมองวิวทางฝั่งมันอย่างสนุกสนานและดูไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนสนิทจะเตือนด้วยความเป็นห่วง
   

“มึงก็ให้เกียรติบ้านเขาเมืองเขาบ้าง มีสิวะ” เดนนี่เลิกพยายามดึงเพื่อนกลับเข้ามาในรถแล้วหันไปสนใจมองถนนแทน ถ้ามันจะหัวหลุดเดี๋ยวค่อยเก็บหัวมันตามไปเย็บติดกับตัวแล้วกัน
   

หลังขับรถมาเป็นเวลาเกือบหกชั่วโมงเต็มจากซานฟรานซิสโก ทั้งสองคนก็มาถึงเมืองที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมบันเทิงที่โด่งดังที่สุดในโลก เมืองที่มีต้นปาล์มเยอะแยะมากมายจนเป็นเอกลักษณ์ เมืองที่มีสตูโอสำหรับการถ่ายทำหลายสิบสตูฯ เมืองที่เซเลบริตี้มารวมตัวกันอยู่มากมาย เมืองต้นกำเนิดของรางวัลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างออสการ์ เมืองที่ถ้าพูดถึงความบันเทิงก็จะเป็นลำดับแรกของใครหลายคนที่ผุดขึ้นมาในหัว
   

Los Angeles, California
   

“แถวนี้น่าพักอะ ติดทะเลด้วย พักตรงนี้ไม่ได้เหรอ” ไอติมหดหัวกลับเข้ามาแล้วหันมองเพื่อนแปบนึงก่อนหันกลับไปมองทะเลที่ทอประกายกับแสงอาทิตย์ระยิบระยับ
   

“พักได้ ถ้ามึงมีเงินสักห้าพัน” ไอติมหันกลับมามองเดนนี่ด้วยสายตาทึ่งและตื่นเต้น
   

“ห้าพันบาทเหรอ เฮ้ย งั้นก็อยู่ได้ดิ พักที่นี่เลยมึง ๆ ติดทะเลอะ กูชอบ” ไอติมว่าด้วยความคึกคะนองกับความคิดที่ว่าจะได้นอนใกล้ทะเล กะอีแค่เงินห้าพันมันไม่น่าจะทำให้ขนขาเขาหายไปทั้งแถบหรอก
   

“ห้าพันดอลล่าห์” ขนขาเบิร์นไปแล้วเป็นแถบๆ


ไอติมเบิกตากว้าง อ้าปากหวอด้วยความตกใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อมูลในกูเกิ้ลเรื่องการแลกเปลี่ยนอัตราเงิน เดนนี่กดปิดกระจกฝั่งเพื่อนเพื่อไม่ให้ลมเข้ามาตีแอร์
   

“ฮะ เป็นแสนเลยเหรอ?!” เดนนี่หันไปมองหน้าตกตะลึงของเพื่อนอย่างเรียบเฉย
   

“เออ มึงมีมั้ยล่ะ” ไอติมย่นคิ้วหน้าบู้ เก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนตามเดิม
   

“มี แต่กูก็จะไม่เหลือเงินกินเงินใช้เลย กูไม่อยากขอแม่กับน้าเยอะอะ” ไอติมว่าด้วยความสลดใจ ถึงแม่กับน้าจะออกปากว่าโทรกลับไปขอเงินเพิ่มได้ และให้บัตรเครดิตมารูดเพื่อความสะดวก แต่ก็ต้องรู้ตัวว่าอะไรควรจ่ายอะไรไม่ควรเสีย ถึงจะมีตังค์แต่ก็ไม่ใช่ลูกเศรษฐีที่ไหน ดีไม่ดีลูกเศรษฐียังไม่ยอมจ่ายเลย
   

“ก็ไปพักกับลูกชายเพื่อนแม่กูที่บอกนั่นแหละ เชื่อกู คนนี้นิสัยดี เพื่อนมันก็คงดี เพราะตัวน้องกูมันเป็นคนดี น่าจะดึงดูดคนดี ๆ เข้ามาหากันแหละ”
   

“ไม่ใช่กูไม่เชื่อมึงนะ กูแค่อยากอยู่ใกล้ทะเลอ่า”
   

“มึงอยู่นี่ตั้งเป็นเดือน ๆ แวะมาสักวันก็ได้ แล้วจากที่พักมึงกับซานต้าโมนิก้าไม่ไกลเกินเลย” ไอติมพยักหน้าหงอย ๆ หันไปมองทะเลยามกลางวันด้วยความรู้สึกเสียดาย ไม่ได้เป็นคนรักทะเลอะไรขนาดนั้น แต่คิดว่าถ้าได้อยู่ที่พักติดริมหาดแบบนี้มันคงฟินน่าดู ใส่เสื้อฮาวายหน่อย ๆ เดินเล่นริมทะเลตอนไหนก็ได้งี้อะ
   

“ทำไมค่าที่พักมันแพงจังวุ” ไอติมบ่นเสียงอ่อนพร้อมกับย่นจมูก
   

“เมืองท่องเที่ยวก็เงี้ย โฮสเทลยังแพงเลย ครึ่งเดือนก็ล่อไปสามสี่หมื่นไทยละ มีแต่บ้านให้เช่าอะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีหอพัก หรืออพาร์ทเม้นต์ให้เช่าหรอก ที่มึงได้เพราะน้องมันเป็นนักศึกษา แล้วแถวมหา’ลัยมันมีพวกห้องให้เช่าแยกจากหอใน” ที่พักที่เดนนี่จะพาไอติมไปอยู่คือหอพักของลูกชายเพื่อนแม่ เป็นรุ่นน้องเขาที่เคยเล่นด้วยกันมาสมัยเด็ก ๆ แล้วก็มีเฟซบุ๊คของกันและกัน แต่เขาก็ไม่ใช่คนติดตามชีวิตใครขนาดนั้น เลยเพิ่งรู้ว่าน้องมันมาเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมืองนี้จากแม่เมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่แม่รู้ว่าไอติมกำลังหาที่เช่าที่พักในเมือง LA แม่ก็แนะนำและเป็นคนติดต่อให้ ถือว่าเป็นความโชคดีของไอ้ติมมันไป เพราะน้องมันอยู่กันแค่สองคน แต่ห้องที่น้องมันอยู่ พักได้สี่คน พอมีคนจะมาแชร์ห้อง พวกน้องมันเลยโอเค อีกอย่างด้วยความรู้จักเขาด้วย มันเลยเชื่อใจว่าไอ้ติมจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้
   

“กูจะพูดกับน้องมึงรู้เรื่องเปล่า”
   

“น้องที่เป็นลูกเพื่อนแม่พูดไทยได้ แต่ไม่แข็งแรงหรอก มึงก็ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับมันไปเลย จะได้พูดอังกฤษคล่องๆ”
   

“มึงจะอยู่กับกูก่อนใช่มั้ยอะ” ไอติมพูดตาละห้อยหน้าหงอย เดนนี่ถอนหายใจเบาๆ
   

“เออ อยู่เที่ยวอาทิตย์นึง” จากหน้าละห้อยก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างดีใจ อย่างน้อยก็ทำให้ไอติมรู้สึกอุ่นใจที่ยังมีเพื่อนอยู่ด้วยกัน ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายซะทีเดียว
   

เดนนี่เองก็ไม่ได้มาเที่ยวแอลเอลเป็นสิบปีแล้ว เลยถือโอกาสมาพักต่างเมืองไปในตัว แอลเอสิบปีก่อนกับตอนนี้ก็คงไม่ได้เหมือนเดิมทุกอย่าง อีกอย่างลึก ๆ ก็เป็นห่วงไอ้ติมมัน มาส่งมันวันเดียวแล้วทิ้งไปเลยก็กลัวจะปรับตัวไม่ทัน หนึ่งอาทิตย์ที่มาอยู่เป็นเพื่อน คงต้องสอนให้มันใช้ชีวิตในเมืองนี้ให้คล่องมากที่สุด
   

“เดน มึงจะทำงานมั้ยหรือช่วยแม่ที่ร้านอาหาร”
   

“หาดิ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาอะไรทำดี ตอนนี้คงช่วยแม่ไปก่อนแหละ มึงอะ”
   

“เสียตัวก่อน ค่อยว่ากัน” เดนนี่ทำตาปรือแล้วส่ายหัว ไอติมนั่งหน้าพริ้ม ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้หยิบกระดาษเอสี่ที่ม้วน ๆ กันไว้ออกมาจากกระเป๋า ไอติมคลี่อ่านสักแปบก่อนจะขมวดคิ้วอ่อนๆ
   

“เดน ๆ รู้จักตรงนี้ป้ะ” ไอติมยื่นกระดาษให้เพื่อน เดนรับกระดาษมาไว้ในมือ มองทางจนแน่ใจว่าถนนกำลังไหลไปได้เรื่อย ๆ เลยรีบก้มลงอ่านชื่อสถานที่ที่เพื่อนถาม
   

“ไม่รู้ว่ะ แต่มันเขียนว่าอยู่แถวดาวน์ทาวน์ เดี๋ยวลองถามน้องกูว่ารู้จักมั้ย”
   

“อือ เป็นสถานที่จัดงานอะ” ไอติมรับกระดาษเข้ามาเก็บไว้ในกระเป๋าตามเดิม เดนนี่หันมองเพื่อนแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปสนใจท้องถนนต่อ
   

ใช้เวลาจากซานตาโมนิก้าเกือบยี่สิบนาทีก็มาถึงเวสต์วูดอันเป็นถิ่นที่พักของไอติมตลอดหนึ่งเดือนที่จะอยู่ที่นี่ เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก สงบ สะอาดและเป็นระเบียบ อาจด้วยเพราะเป็นโซนใกล้มหาวิทยาลัย เลยทำให้เมืองนี้ไม่วุ่นวายเหมือนในเขตเมืองอื่น ๆ ของแอลเอ ตึกรามบ้านช่องไม่แออัดกันจนแน่นหนา ถนนหนทางกว้างขวาง ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคกับความสมัยใหม่ได้อย่างไม่ขัดหรือฝืน
   

“อู้” ไอติมแหงนหน้ามองตึกสีครีมหลังคาสีสมสูงหกชั้น ตั้งเป็นมุมฉากเชื่อมสองตึกเข้าด้วยกัน ด้านหน้าของตึกเป็นลานสวนหย่อม มีทั้งพื้นปูนและพื้นหญ้าสีเขียว มีต้นไม้ขึ้นสูงเป็นต้นเดี่ยวห่างกันให้หลบแดดที่แผดเผาจนแสบผิว
   

“ดูกว้างขวางเนอะ”
   

“เออ ห้องไม่ติดพรืดกันดี” เดนนี่ว่าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาน้องชายลูกเพื่อนแม่ รอสายอยู่สี่ครั้งฝั่งนั้นก็รับสาย เขาบอกน้องว่ามาถึงแล้ว ฝั่งนั้นตอบรับและตัดสายไป เดนนี่เดินไปเปิดกระโปรงรถ หยิบกระเป๋าของตัวเองและของไอติมออกมาวางบนพื้นลานจอดรถของหอพัก ไอติมมองไปรอบตัวด้วยความตื่นเต้น
   

“เงียบดีจังเดน”
   

“แถวมหา’ลัยไง เขาต้องการให้นักศึกษาพักผ่อนเต็มที่และมีสมาธิ ไม่เหมือนมอเราหรอก” ไอติมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง แถวมอเขาคึกคักแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ที่นี่เป็นระเบียบเรียบร้อย คนไม่พลุกพล่าน การจราจรไม่วุ่นวาย
   

“มึงมาอยู่ก็ทำตัวดี ๆ ล่ะ กูกับแม่การันตีมึงไว้เยอะนะ”
   

“ตั้งแต่มึงรู้จักกูมา กูเคยทำอะไรเสียหายด้วยเหรอเดน” เดนนี่ยักคิ้วและกระตุกยิ้มมุมปาก
   

“เออ ไอ้เด็กดี” ไอติมยิ้มกริ่ม จับกระเป๋าลากเตรียมพร้อม สายตามองไปทางหน้าหอก็เห็นเด็กฝรั่งหัวดำผิวขาวคนหนึ่งกำลังมองซ้ายมองขวา ไอติมเลยหันไปสะกิดเรียกเพื่อน
   

“เดน ๆ คนนั้นเปล่า” เดนนี่หันไปมองตามที่เพื่อนบอก เพ่งมองสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วชูมือซ้ายขึ้นโบกเรียก ฝรั่งผมดำผิวขาวขุ่นคนนั้นยกมือซ้ายตอบและวิ่งเหยาะ ๆ มาทางทั้งสองคน ไอติมมองตั้งแต่คนนั้นวิ่งจากหน้าหอมาจนถึงลานจอดรถ พอเห็นใกล้ ๆ ก็หูวกับตัวเองเบาๆ
   

กล้ามแขนขาว ๆ มันแน่นอะไรปานนั้น ไม่ได้แน่นบึ้ก แต่แน่นกำลังดี
   

“Hey, bro! (สวัสดีพี่ชาย)” สองหนุ่มกอดกันและตบหลังกันเบาๆ
   

“How ya doing? Good? (เป็นไงมั่ง ดีมั้ย)” รุ่นน้องของเดนนี่ยกมือขวาเสยผมขึ้นก่อนตอบ
   

“It’s all good. (ดีครับ)” หนุ่มหน้าตาไม่หล่อแต่หน้าตาชวนหื่นยกนิ้วโป้งขึ้นสองนิ้ว ไอติมอยากจะละสายตาไปทางอื่นแต่มันก็ไม่ยอมไปให้ มองค้างเขาไว้แบบนั้นจนกลายเป็นจ้องมอง
   

“This is my friend that I have told you. His name is Ice-cream. (นี่เพื่อนพี่ที่บอก มันชื่อไอติม)” รุ่นน้องของเดนนี่หันมามองไอติมพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร ไอติมขยับยิ้ม พยายามทำให้เป็นยิ้มกว้าง ๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นยิ้มแหะๆ
   

“ไฮ สวัสดีขับ” หนุ่มฝรั่งผมดำผิวขาวยกมือขึ้นไหว้ตามประเพณีไทย ไอติมปล่อยกระเป๋าเดินทางและยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
   

“ฮัลโหล ชื่ออะไรเหรอ เอ่อ What’s your name?” คนถูกถามยิ้มขำนิดหน่อย
   

“I’m Robert. (ผมชื่อโรเบิร์ตครับ)”
   

“Nice to meet you robot. (ยินดีที่ได้รู้จักโรบอท)” ไอติมรู้ตัวว่าพูดชื่ออีกคนผิดไปเลยยกมือซ้ายปิดปากด้วยความตกใจ เจ้าของชื่อขำอย่างอารมณ์ดี
   

“มึงเปลี่ยนเขาให้เป็นหุ่นยนต์แล้วเหรอ” เดนนี่แซวขำ ๆ ไอติมยิ้มแห้งด้วยความเขิน
   

“Okay, follow me. (เอาล่ะ ตามมาครับ)” โรเบิร์ตเดินนำทั้งสองคนกลับไปทางหอพัก ไอติมลากกระเป๋าเดินตามไปพร้อมเดนนี่ ที่นี่เดินเข้าเดินออกได้เลยไม่มีประตูรั้วปิดกันไว้ ด้านล่างหอพักแบ่งเป็นสองฝั่ง มีฟิตเนสอยู่ฝั่งขวามือและมีร้านอาหารกับเครื่องดื่มอยู่สี่ร้านฝั่งซ้ายมือ แต่ละฝั่งจะมีที่นั่งให้นักศึกษามานั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย
   

“We don’t have elevator here. (ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะ…)” โรเบิร์ตหันมาบอกทั้งสองคน เดนนี่หันไปแปลให้ไอ้เพื่อนตัวเล็กฟัง ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความอึ้ง โรเบิร์ตยิ้มขำก่อนจะว่าต่อ
   

“…But I stay at the second floor. (แต่ผมอยู่แค่ชั้นสองครับ)” เดนนี่ขำก่อนจะแปลอีกที ไอติมทำหน้าโล่งใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะกระเป๋าเขาใบใหญ่สุด ถ้าเกิดน้องพักอยู่ชั้นหกก็คงแบกกันกล้ามขึ้น
   

ห้องพักที่นี่มีระยะห่างที่ห่างกันมาก แสดงให้เห็นว่าห้องด้านในต้องกว้างขวาง ห้องของโรเบิร์ตอยู่ริมสุดฝั่งซ้ายมือตอนเดินขึ้นบันไดมา พอเปิดประตูเข้าไปด้านใน ที่ไอติมคิดไว้เรื่องความกว้างของห้องก็ไม่แปลกใจ ด้านซ้ายมือตอนเดินเข้าประตูเป็นครัว ด้านขวามือเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางของห้องเป็นพื้นที่ส่วนรวม มีทีวีจอใหญ่ โซฟา โต๊ะทำงานที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตั้งอยู่ ด้านนอกประตูกระจกบานเลื่อนเป็นระเบียงขนาดใหญ่
   

“นั่นห้องของเพื่อนพี่ครับ” โรเบิร์ตชี้ไปที่ประตูสีขาวติดกับฝั่งระเบียง
   

“You can use anything in this room but use it well please. I live with my mate, we don’t have much activities to do. Rarely watching movies together in the middle room. He goes to the college now. You will meet him this evening. (ใช้ได้ทุกอย่างในห้องเลย แต่ก็ช่วยกันรักษาด้วย ผมอยู่กันสองคนก็ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากนักหรอกครับ นาน ๆ ทีจะมานั่งดูหนังด้วยกันที่ห้องส่วนกลาง ตอนนี้รูมเมทผมเข้าไปในมหา’ลัย เย็น ๆ เดี๋ยวได้เจอกัน)” ไอติมพยายามทำความเข้าใจทุกคำพูดของรุ่นน้องเพื่อนสนิท แต่ก็พบว่าเข้าใจได้น้อยมาก
   

“Any prohibitions? (มีอะไรเป็นข้อห้ามมั้ย)” เดนนี่ถาม โรเบิร์ตทำหน้านึก ย่นคิ้วอ่อน ๆ ก่อนจะตอบแบบไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก
   

“We don’t have much rule in our room, just look after it and clean it. For the rule of accommodation, don’t be loud and don’t be a trouble to others. Oh, this is the highlight rule for both of you, if you see staff of this building; tell them that you come here for a summer course. That is what I have told them. Pi Denny might not see them but Pi Ice-cream have a chance because you live longer. (กฎในห้องก็ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก แค่ช่วยกันรักษาความสะอาด ส่วนกฎของที่พักก็อย่าส่งเสียงดัง อย่าสร้างความรำคาญให้คนอื่น อ้อ สำคัญสำหรับพี่ทั้งสองคนเลย ถ้าเกิดเจอคนดูแลหอก็บอกไปเลยนะว่าพี่มาเรียนซัมเมอร์ เพราะผมบอกเขาไปแบบนั้น พี่เดนอาจจะไม่เจอ แต่พี่ไอติมอยู่นานกว่า อาจจะเจอ)” ไอติมหันควับไปมองเดนนี่ทันทีเพราะประโยคยาวมาก แต่ได้ยินชื่อตัวเองในนั้นเลยคิดว่ามันต้องเป็นอะไรที่ตัวเองควรจดจำไว้ให้ขึ้นใจ เดนนี่สรุปให้ฟังสั้น ๆ แบบที่ไอติมเข้าใจได้ง่ายๆ
   

“อ้อ โอเค ๆ I understand แล้ว” โรเบิร์ตยกยิ้มก่อนเดินไปเปิดประตูห้องนอนของทั้งสองคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับจอที่วีตั้งโต๊ะ
   

“ข่าห้องให้สิ้นเดือนก่อด้ายคับ” ไอติมยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นทำท่าว่าโอเคพร้อมกับก้าวเดินตามเดนนี่ไปทางห้องนอนของตัวเอง แวะโค้งตัวขอบคุณรุ่นน้องที่ตัวสูงกว่าตัวเองนิดหน่อย โรเบิร์ตโค้งกลับและยกมือไหว้ ไอติมเลยต้องยกมือไหว้อีกที
   

“พอละ มึงเข้ามา ๆ ไหว้จนไอ้เบิร์ตจะเป็นศาลพระภูมิห้องแล้ว” โรเบิร์ตเข้าใจที่พี่ชายพูดเลยหัวเราะ ไอติมเดินตามเดนนี่เข้าไปด้านใน
   

“โหว กว้างนะเนี่ย” เป็นห้องนอนสีครีม เตียงสีขาวนอนสองคนแบบเบียด ๆ หน่อย มีตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาลอ่อนให้หนึ่งตู้ มีหน้าต่างสองบาน ทั้งบนหัวเตียงและฝั่งขวามือเวลานอน ข้างเตียงฝั่งขวามือเวลานอนมีโต๊ะเขียนหนังสือสีขาวตัวเล็กหนึ่งตัว ปลายเตียงเป็นตู้เก็บของสีเดียวกับโต๊ะเขียนหนังสือ ห้องไม่ได้ใหญ่เว่อร์ แต่ก็กว้างมากพอที่ให้คนสองคนอยู่ด้วยกันแบบไม่อึดอัด
   

“ห้องน้ำรวมนะครับ อยู่ด้านนอก แต่แยกห้องอาบน้ำกับห้องปลดทุกข์ไว้ให้” เดนนี่หันไปพยักหน้ากับน้องชาย ในขณะที่ไอติมเริ่มเปิดกระเป๋าเตรียมตัวจัดของแล้ว
   

“เดน นอนด้วยกันบนเตียงแหละเนาะ เบียดหน่อยแต่ก็ใช่ว่าไม่เคย” เดนนี่เดินไปปิดประตูแล้วเดินกลับมายืนมองเพื่อนเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า
   

“เดี๋ยวจัดของเสร็จไปหาซื้อของที่มึงต้องใช้กัน”
   

“โอเค้!”
   

“อยู่ได้ใช่มั้ย” ไอติมเงยหน้าขึ้นพรึ่บแล้วยิ้มด้วยความดีใจ
   

“อยู่โคตรได้อะ ดีมาก ๆ เลยเดน กูโชคดีมากใช่มั้ยที่น้องมึงเรียนอยู่เมืองนี้”
   

“เออ ดีจริง เมืองนี้ที่พักแพง มันก็มีบ้านให้เช่าแหละ แต่มึงก็ต้องแชร์กับคนอื่น ซึ่งมึงไม่มีไง หอพักแถวนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษากันทั้งนั้น คนนอกไม่มี” ไอติมยิ้มด้วยความปลื้มใจที่ตัวเองได้ที่พัก ตอนแรกที่ยังไม่รู้จากแม่ของเดนเรื่องน้องโรเบิร์ต ก็เครียดว่าจะไปพักที่ไหนดี เพราะค่าที่พักมีแต่ราคาสูง ๆ พวกราคาถูก เดนบอกว่าอยู่ในแหล่งที่ไม่ค่อยปลอดภัย
   

“พูดถึงน้องมึง น้องโรเบิร์ตเขาแซ่บนะ” เดนนี่ขมวดคิ้ว มองไอติมด้วยความระแวง
   

“มึงจะกินน้องกูรึไง”
   

“ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องกินกูเก็บไว้ให้แซ็คคนเดียวเท่านั้นแหละ กูชมเฉย ๆ ว่าน้องมึงแซ่บ”
   

“มึงรู้ได้ไง เห็นแค่กล้ามก็ว่าแซ่บแล้วเหรอ” ไอติมขมวดคิ้วน้อยๆ
   

“เซ้นส์มันบอกอะว่าโรเบิร์ตแซ่บ”
   

“เซ้นส์หรือความเงี่ยน เอาดีๆ” ไอติมบู้ปากและก้มหน้าเคลียร์ของในกระเป๋าเดินทางต่อ
   

พอจัดของเคลียร์เข้าตู้เข้าที่เข้าทางเสร็จเรียบร้อย สองเพื่อนซี้ก็ออกไปข้างนอกโดยมีโรเบิร์ตไปเป็นไกด์ โรเบิร์ตพาทั้งสองคนย้อนกลับไปทางซานต้าโมนิก้าอีกครั้ง เพื่อพาทั้งสองไปห้างแถวนั้นที่พวกนักศึกษาชอบไปช้อปปิ้งกัน ไอติมกับเดนหาซื้อของใช้จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน ซึ่งสวนใหญ่เป็นไอติมมากว่าที่ต้องซื้อ ไอติมเลือกซื้อของที่ขนมาจากไทยไม่ได้และของที่สามารถเอาเงินในกระเป๋าซื้อได้ที่นี่ในราคาไม่แพง อย่างยาสีฟัน แชมพู ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิวอะไรแบบนี้ มีซื้อขนมไปตุนเก็บไว้ตามประสาคนชอบกิน
   

“พี่เดน drop at the Metro. พี่ติม needs a tap card. (พี่เดน แวะสถานีรถไฟใต้ดินก่อนนะ พี่ติมต้องมีแท็ปการ์ด)” โรเบิร์ตบอกหลังจากออกจากห้าง เดนนี่ขับรถออกจากตัวห้างไม่ไกลก็เจอสถานีรถไฟใต้ดินที่ทางเข้าเป็นโพรงสี่เหลี่ยมสีดำ โรเบิร์ตพาไอติมลงไปซื้อที่ด้านล่างสถานี ปล่อยให้เดนนี่จอดรถรออยู่ริมถนน
   

“พี่ติมเติมมันนี่ด้ายตาหลอดน่ะคับ” โรเบิร์ตยื่นบัตรสีส้มอมฟ้าอันเป็นสีท้องฟ้าในยามเย็นและมีต้นปาล์มสีดำแรเงาหนึ่งต้นแผ่ใบอย่างเลือนลางท่ามกลางสีพระอาทิตย์ตกดิน
   

“ผมเติมหั้ยแล้วสำหลับเดือนนึง ถ้าหม่ดก็เติมเพิ้ม” ไอติมยิ้มกว้าง รับบัตรนั้นมาไว้ในมือ
   

“โอ้ แต้งกิ้วมาก ๆ ใช้ได้กับเทรนแอนด์บัสเลยใช่มั้ย”
   

“Yes!” โรเบิร์ตพยักหน้าและยิ้มกริ่ม ก่อนจะพากันเดินกลับขึ้นไปด้านบน รีบวิ่งไปขึ้นรถของเดนที่จอดรออยู่ริมถนนในพื้นที่ที่จอดได้


พอได้ของที่ควรจะมีเสร็จเรียบร้อย เดนนี่ก็ขับรถพาไอติมไปดูที่จัดงานมหกรรมหนังโป๊ของไอติม ใกล้ ๆ กับดาวน์ทาวน์ เป็นอาคารสูงทรงกระบอกติดกระจกรอบอาคาร ด้านล่างก็เป็นหลังคากระจกยื่นออกมาไว้กันแดดกันฝนบริเวณประตูทางเข้า เป็นอาคารสำหรับจัดงานแสดงสินค้า งานอีเว้นต์ งานคอนเสิร์ต หรืองานใด ๆ ที่ต้องใช้สถานที่ใหญ่ ๆ ในการจัดโดยเฉพาะ
   

“What are you doing here พี่ติม?”
   

“มาเสีย…”
   

“…มันก็แค่อยากมาชมเมืองเฉย ๆ แหละ” เดนนี่รีบพูดแทรกเพื่อนก่อนที่มันจะพูดความปรารถนาของตัวเองให้คนอื่นฟังไปทั่ว ไอติมเบะปากใส่เดนนี่ หันหนีไปมองตึกนั้นอย่างไม่สนใจ
   

“อ๋อ” โรเบิร์ตพยักหน้าแม้จะยังไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ ไอติมนั่งมองอาคารกระจกทรงกระบอกสูงใหญ่จากในรถตาเป็นประกายแล้วคลี่ยิ้มด้วยความตื่นเต้น
   

พรุ่งนี้เราก็จะได้เจอกันอีกแล้ว คราวนี้ผมจะทำมากกว่าจับด้วย!

   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2019 02:26:38 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องติมเชียร์อยู่นะจ๊ะ ตอนหน้าเราต้องได้มากกว่าจับแน่นอน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ติม ใจแข็งไว้นะ อย่าไปหลงหนุ่มคนอื่น นอกจากแซ็คนะ  o12

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ขอให้น้องติมได้สมหวังดังปรารถนานะ ขำอ่ะ เอ็นดู

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้องติมน่ารักอ่ะ ซื่อๆดี

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Chapter 4 [100%]





Convention center
   

“เสร็จแล้วก็โทรมา เดี๋ยวกูมารับ”
   

“โอ๊เข่ ขอบใจนะเดน” ไอติมยิ้มกว้าง ท่าทางระริกระรี้แบบไม่มีปกปิด
   

“มึงใจเย็น มึงไม่ได้จะเดินเข้าไปเสียตัวให้มันวันนี้ซะหน่อย”
   

“ใครจะไปรู้ล่ะมึง เกิดได้เสียกันวันนี้ก็แฮปปี้เลยนะ!” เดนนี่ทำหน้าเอือมกับความเพ้อความเพี้ยนของเพื่อน ยกมือซ้ายโบกมือไล่อีกฝ่ายแบบว่ามึงไปเถอะ ก่อนจะขับรถออกไปจากหน้าอาคารที่เพิ่งมามันมาดูเมื่อวาน
   

ไอติมหันไปมองตึก เห็นป้ายไวนิลอันใหญ่เขียนชื่องานห้อยติดไว้บนหลังคากันสาดที่อยู่ด้านล่างและด้านหน้าของตัวอาคารทรงกระบอกอันนั้น ผู้คนมากมายเดินเข้าไปด้านใน เห็นแล้วก็ชวนใจเต้นตึกตัก
   

“ใครว่ามีแต่กูขี้หงี่ไอ้เดน เนี่ย คนเต็มไปหมด” แต่ดูจะเน้นเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่ไอติมก็ไม่แคร์หรอก จะเพศไหนมางานนี้ก็ไม่สำคัญเท่ากับตัวเขาเองมาหาเพศชายคนหนึ่งในงานนี้ต่างหาก
   

I’m coming for you! And you are cumming for me!
   

ไอติมก้าวเท้าเดินตรงไปยังทางเข้าของอาคาร ระหว่างเดินก็หยิบกระดาษเอสี่สีขาวที่ปริ้นมาจากเมืองไทยขึ้นมาเพื่อเตรียมยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าหรือด้านไหนสักที่ที่จะต้องเจอก่อนเป็นที่แรก ไอติมมองคนมากมายเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ และยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจอีกชั้นหลังจากผ่านประตูนั้นไป นั่นเลยทำให้ตรงทางเข้ามีคนออกันมากมาย แต่ก็ไม่ได้ว่าแน่นขนัด เนื่องจากมีประตูตรวจจับโลหะพร้อมเจ้าหน้าที่ถึงสี่ประตู ไอติมคิดในใจว่าคนพวกนี้คือมางานหงี่เหมือนเขาใช่มั้ย
   

“Push your hands up. (ยกมือขึ้น)” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชายผิวสีตัวใหญ่บอกไอติมด้วยใบหน้านิ่ง หนุ่มไทยอ้าปากหวอ แต่ก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้นสูงอย่างเงอะงะเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกหรือเปล่า เนื่องจากสำเนียงของเจ้าหน้าที่คนนี้ฟังยาก เจ้าหน้าที่ขมวดคิ้ว มองไอติมด้วยความสงสัย ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงง เจ้าหน้าที่คนนั้นใช้สองมือตบตามตัวเขาดังตุบ ๆ ไล่ตั้งแต่ไหล่จนไปถึงข้อเท้า และขอดูข้างในรองเท้าผ้าใบเขาด้วย
   

“What are you doing here? (มาทำอะไรที่นี่)” เจ้าหน้าที่คนนั้นถาม ไอติมอ้าปากค้างตามเดิม เปลือกตากะพริบปริ๊บ ๆ ก็เจ้าหน้าที่คนนี้เขาพูดรวบคำเหมือนฮิปฮอปน่ะสิ
   

“เอ่อ สะ… ซอหรี่ เอ้ย พาด๋อนหมี” เจ้าหน้าที่คนนั้นดึงไอติมให้หลบทางคนข้างหลังที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านใน ไอติมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นกลัว เจ้าหน้าที่ผิวสีตัวใหญ่เขม้นมองไอติมแบบที่แทบไม่กะพริบตา แต่ไอติมก็ไม่ได้หลบสายตาไปทางอื่น
   


“Give me your bag, and that paper.” ไอติมรู้สึกหูอื้อ หัวตื้อ เจ้าหน้าที่เห็นหนุ่มไทยตัวผอมไม่ตอบสนองเลยยื่นมือไปหยิบกระเป๋าเป้กับกระดาษมาจากมือไอติม เจ้าของกระเป๋าและกระดาษแผ่นนั้นยืนมองเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นในกระเป๋าด้วยความกลัวและกังวล
   

กูอยากให้มีคนผลิตวุ้นแปลภาษาแบบโดราเอม่อน


แต่พอค้นไม่เจอสิ่งผิดปกติก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าไอติมนิ่ง ก่อนเลื่อนสายตาไปมองกระดาษในมือที่ค่อย ๆ คลี่ออก ไอติมยืนมองด้วยความลุ้น ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับม้วนกระดาษไว้ตามเดิมแล้วก็คืนกระเป๋ากับกระดาษให้กับเจ้าของที่ยังมองด้วยความงงๆ
   

“Enjoy.” ไอติมมองล่อกแล่กไม่แน่ใจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ผายมือเข้าไปด้านในนั่นแหละไอ้หนุ่มจากไทยหัวใจพร้อมเสียตัวก็โค้งหัวลงจนเกือบติดพื้นเป็นการขอบคุณ
   

“Thank you.” พอว่าจบพร้อมรอยยิ้มก็หมุนตัวเดินเข้าไปด้านในด้วยความโล่งใจ
   

พอเดินเข้ามาในอาคาร มันไม่ใช่ว่าเจองานอันเป็นเป้าหมายของไอติมเลย ในอาคารนี้มีฮอลจัดงานแยกออกไปอีกหลายฮอล ซึ่งฮอลไหนที่มีงานก็จะติดป้ายบอกชื่องานไว้ด้านหน้า นั่นหมายความว่าทุกคนที่มาที่นี่ไม่ได้มางานหงี่แบบเขาไปซะหมด ผู้คนเดินกันขวักไขว่ภายในอาคารทำให้ไอติมต้องเอากระเป๋ามาไว้ด้านหน้าเพื่อป้องกันการถูกขโมยของโดยไม่รู้ตัว ไอติมเดินหาชื่องานของตัวเองโดยเทียบกับในกระดาษเอสี่ที่ปริ้นมา 
   

Adult Entertainment Exhibition
   

ไอติมหยุดตรงหน้าประตูสีดำบานใหญ่สองบานที่ปิดสนิท มีฝรั่งผิวขาวตัวสูงใหญ่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูสี่คน มีหน้าจอเหมือนที่โชว์โปรแกรมหนังติดอยู่บนผนังข้างประตูฝั่งขวามือ ในจอมีตัวอักษรสีขาวที่เป็นชื่องานวิ่งอยู่บนหน้าจอสีดำ ขอบด้านบนมีคำว่า ‘NOW SHOWING’ เปล่งแสงนีออนออกมาชัดเจน ไอติมคลี่ยิ้มดีใจ เดินเข้าไปหาคนเฝ้าประตูทางเข้าที่ทำหน้านิ่งจนชวนเกร็ง แต่ไอติมก็หาได้สนใจไม่ เข้าไปยื่นกระดาษเอสี่ที่ม้วนจนยับยู่ยี่ให้การ์ดอ่าน แต่การ์ดกลับจ้องหน้าคนตัวผอมแทนกระดาษแผ่นนั้น
   

“How old are you? (อายุเท่าไหร่)” คำถามนี้ไอติมเข้าใจ และเพราะสำเนียงคนนี้ง่ายกว่าคนก่อนเลยไม่ต้องตีความให้มาก
   

“Twenty one. (21 ครับ)” ไอติมตอบเสียงใสพร้อมคลี่ยิ้มกว้าง การ์ดมองหน้าไอติมนิ่งก่อนจะแบมือมาข้างหน้า
   

“ID card or passport, or something to show me. (บัตรประชาชน พาสปอร์ต หรืออะไรก็ได้ เอามาให้ดูหน่อย)” ไอติมจับคำว่าพาสปอร์ตได้เลยเปิดกระเป๋าเป้หยิบมันออกมาแล้วยื่นไปให้ ในหัวก็ได้แต่คิดว่าจะเข้างานสำหรับคนเงี่ยx นี่มันยากอะไรขนาดนี้
   

“Thailand?” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ การ์ดหน้าดุยื่นพาสปอร์ตคืนและดึงกระดาษในมือไอติมไป ก้มลงอ่านไม่นานก็เงยหน้าขึ้น
   

“Have fun.” การ์ดหน้าดุว่าแค่นั้นแล้วก็ยื่นกระดาษคืนให้ไอติม หนุ่มไทยรับมาแบบงง ๆ และพยักหน้ารับแบบงง ๆ พอการ์ดคนที่คุยกับเขาหันไปพยักหน้าให้กับการ์ดอีกคน ประตูบานใหญ่ด้านขวามือของไอติมก็เปิดออกแบบแง้ม ๆ ไอติมก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน แปบเดียวประตูก็ปิดตามหลังอย่างเร็วราวกับกลัวจะมีอะไรเล็ดลอดเข้ามาหรือมีอะไรเล็ดลอดออกไป
   

แต่พอไอติมหันกลับไปมองในฮอลอันเป็นสถานที่จัดงาน ก็ต้องอ้าปากค้าง พร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว แล้วก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าทำไมประตูถึงรีบปิดนัก เพราะในนี้มันมีแต่สิ่งล่อตาและล่อเป้าให้ตื่นตัวน่ะสิ
   

“แม่เหยดดด” ไอติมครางเบา ๆ กับตัวเอง มุมปากทั้งสองข้างขยับกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
   

ใครชอบดูหนังโป๊ มาที่นี่คงอย่างกับได้ขึ้นสวรรค์
   

ในงานมีบูธตั้งเรียงกันสี่แถว แต่ก็ไม่ได้เป็นการตั้งเรียงกันแบบแน่นหนาจนชวนอึดอัด แต่ละบูธจะมีพื้นที่กว้างขวางเป็นของตัวเอง จำนวนคนแต่ละบูธก็ดูจะไม่เท่ากัน ไอติมเดาว่าคงแล้วแต่ว่าบูธไหนกำลังนำเสนออะไรให้กับคนที่มางาน อันไหนน่าสนใจ คนก็พากันแห่ไปชม จากสายตาไอติมที่มองจากมุมกว้างในตอนนี้ คนมางานหงี่กันเยอะมาก ชวนให้นึกถึงงานท่องเที่ยวไทยที่เมืองไทยอยู่เหมือนกัน หรือที่นี่มันมีลดแลกแจกถามอะไรด้วยหรือเปล่า คนเลยพากันมาซะมากมาย
   

ไอติมชะเง้อคอมองหาเป้าหมายของตัวเอง ในกระดาษเขียนไว้ว่าอยู่โซนซีจากทั้งหมดสี่โซน ไอติมมองหาอักษรที่บ่งบอกว่าโซนซีก่อนเป็นอย่างแรก ดีที่ว่าในงานติดตัวอักษรแต่ละโซนอยู่ด้านหน้าทางเข้าแต่ละซอย แถมงานนี้มีแค่สี่ซอยสี่โซน เลยยิ่งหาง่าย ขายาว ๆ ของไอติมก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ มีการแวะเดินโซนอื่นเพื่อชมงานเพลิน ๆ ก่อน ถือซะว่าเป็นการวอร์มอัพหัวใจสักพัก ในหัวไอติมไม่ได้มีความคิดอะไรมากมายนอกจากว่ากำลังจะได้เจอแซ็คอีกครั้ง ค่อนข้างแน่ใจว่าเขาน่าจะจำตัวเองได้เพราะเพิ่งเจอกันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แบบว่ายังไม่ทันครบอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ
   

“Oh, really? Yes, it’s fine. / Hahaha. That’s amazing scene for me. Your cum is so heavy! / Is that the real boobs? / I am really admire you. / Oh, I can say you gonna love it. It is a big match! /…”
   

เสียงจ้อกแจ้กจอแจพูดคุยกันระหว่างที่ไอติมกำลังเดินไปบูธจุดหมายของตัวเอง ซึ่งก็ฟังไม่ออกหรอก พูดกันเร้วเร็ว แถมยังพูดกลบกันไปมา ไอติมตาโตกับเหล่าหญิงสาวที่ใส่ชุดนุ่งน้อยห่มน้อยยืนต้อนรับผู้ร่วมงานอย่างสบายๆ ราวกับกำลังยืนอยู่ในบ้านของตัวเอง แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกใจหรือทำให้รู้สึกว่าตัวเองผิดที่ผิดทางแต่อย่างใด เพราะผู้หญิงพวกนี้น่าจะชินและชิลกับการนุ่งน้อยชิ้น หรือบางทีก็ไม่นุ่งอะไรเลย
   

แต่มันก็แอบไม่ยุติธรรมอยู่เหมือนกัน ผู้หญิงนุ่งกันน้อยชิ้น แต่ทำไมฝ่ายชายที่ออกมายืนต้อนรับคนที่มาเที่ยวงานถึงใส่ชุดปกปิดหมด ที่ว่าไม่ยุติธรรมน่ะ ไม่ยุติธรรมกับตัวเขานั่นแหละ เห็นแต่ของผู้หญิง ของผู้ชายไม่เห็นเลย หวังว่าแซ็คคงไม่แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดมากนะ
   

“เฮฮฮฮ!”
   

ไอติมได้ยินเสียงดังมาจากด้านในส่วนของเวทีที่มีแผ่นฉากกั้นสีดำตั้งขึ้นสูงครึ่งหนึ่งของฮอลจัดงานในตอนที่เดินผ่านด้านหน้าตรงบริเวณทางเข้าเวที แต่จุดหมายปลายทางของเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไอติมเลยเดินผ่านไป เงยหน้าขึ้นมองเลขบูธที่จำจากแผ่นกระดาษนั้นภายในครั้งเดียว และเมื่อเห็นว่าเลขแถวโซน C เรียงกันจากน้อยไปหามาจากจุดที่ตัวเองอยู่ ไอติมก็ยิ้มดีใจเพราะมันทำให้หาง่ายขึ้น
   

“C8 C9 C10 และ C11…” ไอติมหยุดยืนตรงหน้าบูธตามเลขที่ตัวเองนับมา บูธเป้าหมายของไอติมมีผู้หญิงผมดำสองคนและผมบลอนด์หนึ่งคน นุ่งกางเกงบิกินีแบบปิดแค่กลีบตรงนั้น ตรงหน้าอกมีแค่เทปกาวสีดำแปะหัวนมทั้งสองข้างเป็นรูปกากบาท แต่ละคนมีเครื่องประดับเพื่อทำให้ดูไม่โล่งจนเกินไป คนกางเกงบิกินีสีแดงสวมสร้อยคอเพชรอันใหญ่ คนกางเกงบิกินีสีน้ำเงินใส่ต่างหูขนนกอันบึ้ม และคนกางเกงบิกินีสีเขียวใส่หูกระต่ายแหลมสีดำด้านบนหัวและสวมแว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีเดียวกัน แต่ละคนยืนเรียกแขกแบบชิลมาก ใครเข้ามาขอถ่ายรูปก็โพสต์แบบสบาย ๆ ไม่มีเขินอาย มีผู้ชายมาชวนสาวบิกินีแดงคุย เธอก็ยืนคุยกับคนนั้นราวกับว่าอยู่ในบ้านของเธอเอง
   
V
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2019 02:29:28 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v


“Hey, little boy. What are you looking for? (เฮ้ หนุ่มน้อย มองหาอะไรอยู่เหรอจ๊ะ)” สาวบิกินีสีน้ำเงินหันมาถามไอติมพร้อมกับยิ้มกว้าง ไอติมกระตุกยิ้มไม่เต็มปาก กำลังแปลในใจว่าเขาถามประมาณว่ามาทำอะไรใช่หรือเปล่า
   

“อะ… เอ่อ… I want to see Anthony.” ไอติมพยายามออกเสียงให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ สาวบิกินีสีน้ำเงินยิ้มกว้างและทำหน้าเข้าใจ หน้าตาเธอดูยินดีจนทำให้ไอติมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
   

“Anthony, marketing? (แอนโทนี่การตลาดใช่มั้ย)” ไอติมอ้าปากค้าง กะพริบตาปริบ ๆ และพยักหน้าลงแบบไม่มั่นใจนักว่าตัวเองเข้าใจว่ายังไง แต่ได้ยินชื่อของคนที่มาหาเลยพยักหน้าไว้ก่อน
   

“Wait a minute. (รอแปบนะจ๊ะ)” เธอหมุนตัวเดินเข้าไปในบูธ เข้าไปคุยกับผู้ชายหน้าตาดี รูปร่างล่ำสันคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นมองมาที่เขา ไอติมยิ้มกว้าง หนุ่มล่ำคนนั้นยิ้มตอบก่อนหายเข้าไปในประตูผ้าสีดำ สาวบิกินีสีน้ำเงินเดินกลับมาหาไอติมพร้อมรอยยิ้มดังเดิม
   

“Are you friend with Anthony? (เป็นเพื่อนกับแอนโทนี่เหรอจ๊ะ)” ไอติมพยายามไม่มองนมเธอแม้มันจะสะดุดตามากมายก็ตาม
   

“อ่า เยส ๆ แอมเฟรนด์แอนโทนี่” เธอยิ้ม ไอติมยิ้มตาม ดวงตาสีดำของเธอเป็นประกาย หุ่นอกเอวสะโพกชัดเจนไปหมด เหมาะแล้วที่จะทำอาชีพด้านนี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่ไอติมกำลังคิดคือพวกเธอเป็นมิตรมาก ยิ้มแย้ม ไม่บึ้งตึง และโคตรจะชิลกับการแต่งตัวแค่นี้ คนนี้ไม่เคยเห็นเล่นกับแซ็ค อีกสองคนก็เช่นกัน เป็นนักแสดงหน้าใหม่หรือเปล่านะ
   

“And are you a porn lover? (ชอบดูหนังโป๊ด้วยรึเปล่า)” เธอยิ้ม ไอติมเข้าใจประโยคนี้
   

“I love ซะ…” ไอติมเบรกปากตัวเองทันก่อนจะพูดชื่อจริงของแซ็คออกมา


“Bryan.” เธอทำหน้าเหมือนนกฮูกก่อนจะคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มและมองไอติมแบบแซวๆ
   

“Are you his fan boy? (แฟนบอยสินะ)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง เธอขยิบตาให้ไอติมหนึ่งที
   

“He is so hot. And he is number one. You choose the best choice to love. (เขาเผ็ดมาก แล้วเขาก็เป็นเบอร์หนึ่งเลยละ เธอเลือกรักคนได้ดีนะ)” ไอติมยิ้มค้าง กะพริบตาปริบ ๆ พยายามจับใจความประโยคที่เธอพูดมาอยู่ ประโยคแรกฟังออก อันต่อ ๆ มาเริ่มไม่มั่นใจละว่าฟังออกมากน้อยแค่ไหน
   

วุ้นภาษาควรมีเป็นอย่างมาก จริงๆ
   

“What’s up? (ว่าไง)” หนุ่มตัวสูงผมดกดำ ผิวขาวขุ่น ใส่แว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีดำเดินออกมาหน้าบูธและหันไปถามสาวบิกินีสีน้ำเงิน
   

“He came to see you. (เขามาหานายแน่ะ)” เธอบอกและผายมือไปทางไอติม ผู้ชายฝรั่งหน้าตาพอใช้ได้หันไปมองไอติมแบบงงๆ
   

“You want to see me? (อยากเจอฉันเหรอ)” ไอติมหน้าเอ๋อ หันมองสาวบิกินีน้ำเงินทันที เธอยิ้มขำก่อนจะว่า
   

“Anthony. (แอนโทนี่ไง)” ไอติมทำหน้าเก็ท อ้าปากยิ้มกว้าง หันไปมองคนที่ตัวเองเอ่ยชื่อไปก่อนหน้านี้ ไอติมเองก็ไม่ไม่แน่ใจว่าใช่เป้าหมายของตัวเองมั้ย พยายามเทียบหน้าจริงกับรูปในเฟซบุ๊คในหัวตัวเองอยู่
   

“Hello, Anthony. I am I-tim, ice-cream. We chat and you send email to me. I come from Thailand.” แอนโทนี่ที่ไอติมมาขอเจอขมวดคิ้วนึกอยู่พักใหญ่จนไอติมเริ่มคิดว่าควรเอาแชทให้เขาดูหรือไม่ แต่ก่อนจะได้ทำแบบนั้น อีกฝ่ายก็ยิ้มด้วยความเก็ต พอรู้ว่ากำลังคุยกับใครแอนโทนี่ก็ยื่นมือขวาไปจับมือขวาของอีกฝ่ายทันที
   

“สวัสดีไอ่ติ้ม ไนซ์ทูมีทยูว โว้ววว ด้ายเจอสั่กที” ไอติมยิ้มกว้างดีใจที่ได้ยินภาษาไทยออกจากปากของแอนโทนี่ ผู้ซึ่งเป็นฝรั่งที่สามารถพูดไทยได้ แบบที่เรียกได้ว่าแทบจะคล่องมาก สำเนียงการพูดไทยอาจจะยังติดความเป็นฝรั่งอยู่สักหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาหลักเลย แค่เจอคนพูดไทยได้ตอนนี้ก็โคตรจะดีกับไอติมมากแล้ว ยิ่งเป็นแอนโทนี่ด้วยยิ่งดี
   

“ผมดีใจจังที่ได้ยินภาษาไทย” ไอติมรู้สึกอยากจะปล่อยน้ำตาให้ไหลทะลักออกมาตอนนี้ ตั้งแต่เข้ามาในงานก็สะดุดกับภาษาอังกฤษไปหลายทีหลายหนจนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะโง่อะไรปานนั้น
   

“ฉั๋นดีใจมากที่ได้เจอเถ่อนะ”
   

“ผมก็ดีใจครับ” ทั้งสองยิ้มให้กัน ในมือยังคงเช็กแฮนด์กันไม่หยุด แอนโทนี่หันไปหาสาวบิกินี่สีน้ำเงิน
   

“He is a super fan of Bryan. He is a SUPER V.I.P. of us as well. (เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแซ็ค แล้วยังเป็นเมมเบอร์วีไอพีของเราด้วย)” สาวบิกินีสีน้ำเงินยิ้มให้ไอติมอีกรอบ แต่รอบนี้เป็นยิ้มที่เปรมกว่าเดิม
   

“Wow, nice to meet you. Thank you for your support even you may support Bryan more than everyone. (ว้าว ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนนะ แม้ว่าเธอจะสนับสนุนไบรอั้นมากกว่าใครก็เถอะ)” ไอติมยิ้มเหลอหลาเล็กน้อย แอนโทนี่หันมาแปลเป็นภาษาไทยให้ พอเข้าใจว่าหญิงสาวพูดอะไร ไอติมก็ยิ้มกว้างและก้มหัวลงสามสี่ที ก่อนจะยกนิ้วโป้งสองมือขึ้นเป็นการบอกว่าเยี่ยม
   

“เดี๋ยวฉั๋นพาเข้าไปเจอเข๋าก่อน เข๋าจะขึ้นโชว แล้วเดี๋ยวก็มามีทแอนด์กรีทกับแฟนๆ แต่เธอเป็นซูเปอร์แฟน และฉั๋นสัญญาไหว่แล้ว เดี๋ยวพาเข่าไปก่อนเลย” แอนโทนี่กวักมือให้ไอติมเดินตามเขาเข้าไปในบูธ ไอติมหันไปยิ้มให้สาวบิกินีสีน้ำเงินที่ยิ้มตอบกลับมาก่อนจะเดินตามแอนโทนี่เข้าไปด้านใน หนุ่มไทยส่งยิ้มให้กับทุกคนที่มองมา แล้วก็ได้รอยยิ้มกลับ ตอนที่แอนโทนี่แหวกผ้าสีดำที่ทำเป็นประตูกั้นออก หัวใจของเขาก็เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น พอเดินเข้าไปด้านในก็เจอฝรั่งทั้งหญิงชายอยู่ในนั้นเป็นสิบคนได้ บางคนก็แก้ผ้าเดินไปเดินมา บ้างก็นั่งอ้าชิลอยู่บนโต๊ะและก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ไอติมยิ้มตื่นเต้น บางคนเขาก็จำได้จากหนังโป๊ เป็นนักแสดงค่ายเดียวกับแซ็ค


อย่างผู้ชายตัวใหญ่ ๆ มีรอยสักและเจาะจมูกที่นั่งเปลือยอยู่บนเก้าอี้และกำลังอ่านหนังสือ ไอติมจำได้ว่าเยโหดมาก ซึ่งก็ถือว่าเหมาะกับภาพลักษณ์ภายนอกของเขา หรือผู้ชายหัวหยิกหยองสีทองที่กำลังยืนคุยกับผู้หญิงเปลือยอกคนหนึ่ง นั่นก็มีเคที่ยาวมาก และปล่อยน้ำทีก็เยอะสุด ๆ ไอติมเคยดูผลงานของสองคนนี้ มีเผลอนอกใจแซ็คใช้สองคนนี้ช่วยตัวเองไปบ้าง แต่ก็ไม่มากมายเท่าแซ็คหรอก
   

“Bryan!” ไอติมได้ยินเสียงแอนโทนี่ตะโกนเรียกชื่อขวัญใจตัวเองก็หันขวับไปมอง หัวใจกระหน่ำรัวผนังอกเร็วกว่าเดิม เจ้าของชื่อเดินออกมาจากกลุ่มคนพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตขาวแขนสั้นรัดติ้วกับกางเกงยีนสีเข้ม
   

“Your super fan. (ติ่งตัวพ่อของแก)” สิ้นคำแอนโทนี่ แซ็คหรือไบรอั้นก็หันไปมองร่างผอมผิวขาวที่ฉีกยิ้มกว้างและยกมือโบกทักทายรัว ๆ มาให้
   

“Hi!” แซ็คขมวดคิ้วก่อนในตอนแรก แต่พักเดียวก็เบิกตากว้างตะลึง
   

“You?!”
   

“Yes!!” ไอติมตอบเสียงใสพร้อมกับมอบรอยยิ้มอันสดใสให้กับชายในฝันที่อยากจะเสียตัวให้
   

“ฮะ ทำไมเหมือนรู๊จักกั่น Did you know him?” แอนโทนี่มองสลับทั้งสองคนอย่างงง ๆ สีหน้าของทั้งสองคนต่างกัน คนนึงยิ้มแย้มอิ่มเอม อีกคนก็สีหน้าเนือยเอื่อยเฉื่อยจนเกือบจะเป็นเอือม
   

“And you? (แล้วแกล่ะ)” แซ็คหันกลับมามองหน้าแอนโทนี่พร้อมกับถาม
   

“Yes. We have been talking through the chat and email. (ใช่สิ เราคุยกันผ่านแชทแล้วก็อีเมลน่ะ)” แซ็คย่นคิ้ว หันมองไอติมด้วยความหน่ายเล็กๆ
   

“What do you want? (นายต้องการอะไรอีก)” ไอติมยังคงคลี่ยิ้ม
   

“I come here to see you. (ผมมาเจอคุณฮะ)”
   

“He is a super V.I.P. member. (เขาเป็นสมาชิกสุดยอดวีไอพีของเรา)” แซ็คเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง และรู้สึกตัวเย็น ๆ เขามองหน้าเรียวเล็กของไอติมที่กำลังยิ้มเบิกบานด้วยความสับสน
   

“Are you kidding me? (ล้อฉันเล่นรึเปล่า)” แอนโทนี่ทำหน้างง งงว่าทำไมถึงคิดว่าเขาเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น
   

“Why do I have to do that? (ฉันจะล้อแกเล่นทำไมเนี่ย)” แซ็คมองหน้าไอติมอีกที คนตัวเตี้ยกว่าเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้ายังคงคลี่ยิ้มเหมือนเดิม แต่หัวใจเริ่มเต้นในระดับปกติแล้ว
   

“How? (ได้ไงเนี่ย)”
   

“He has been paying to us so much especially about you. (ก็เขาเป็นสายเปย์ โดยเฉพาะเปย์เกี่ยวกับนาย)” ไอติมไม่เข้าใจทั้งหมดหรอกว่าสองคนนี้กำลังพูดอะไรกันบ้าง แต่เขาพอจะจับได้บางคำว่าแอนโทนี่กำลังบอกว่าเขาเป็นใครมาจากไหนอะไรทำนองนั้น
   

แซ็คพ่นลมหายใจเบา ๆ มองหน้าไอติมแบบไร้อารมณ์แปบหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือขวาไปตรงหน้า
   

“Nice to meet you. What’s your name? (ยินดีที่ได้รู้จัก นายชื่ออะไร)” ไอติมยิ้มดีใจ ยื่นมือขวาไปจับมือแซ็คทันที แต่ก็ไม่ได้บีบแน่นจนเกินเหตุ
   

“I-tim! เอ่อ Ice-cream อะ” ไอติมบีบมือแซ็ค สายตาก็มองสันกรามของหน้าหล่อ ๆ ตาเยิ้ม แอนโทนี่มองแล้วก็ยิ้มขำ คุยกันผ่านตัวอักษรว่าเด็กคนนี้คลั่งไอ้ไบรอั้นแล้วนะ ตัวจริงตาฉ่ำเชียว
   

“เถ่อไม้ต้องซื้อของอะไรเพิ่มเติมถั่งนั้นนะ เดี๋ยวเอ่าบัดวีไอพีพกติดตัวไว้ก่อพอ เดี๋ยวฉั๋นไปเอ่ามาหั้ย” ไอติมพยักหน้าทั้งที่ยังจับมือแซ็คไว้ไม่ปล่อย
   

“I will leave him with you for a while. Be good to our SUPER V.I.P., okay? (ฉันจะฝากเขาไว้กับแกสักพัก ทำตัวดี ๆ กับแขกสุดยอดวีไอพีของเราล่ะ โอเค๊)” แซ็คยักคิ้วพร้อมทำหน้าเบื่อ ๆ แอนโทนี่ตบไหล่ไอติมสองที คนตัวเล็กที่สุดท่ามกลางเหล่าฝรั่งยิ้มให้แล้วหันกลับไปมองหน้าแซ็ค อีกฝ่ายยื่นคางมาที่มือไอติมที่กำลังกุมมืออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย ไอติมยิ้มเขินและค่อย ๆ ปล่อยมือออก
   

“I’m glad very much to see you again. (ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณอีก)” แซ็คผายมือไปตรงโซฟาสีดำในห้องพักหลังบูธของทีมงาน ไอติมก้าวเท้าเดินตามไปนั่งลงข้างแซ็ค
   

“It’s an easy word, but thank you for your support. (เป็นคำง่าย ๆ หน่อยนะ แต่ขอบคุณมากที่สนับสนุนกัน)” ไอติมเพิ่งได้ยินประโยคนี้ไปกับสาวบิกินีสีน้ำเงินเลยยิ้มอย่างเข้าใจและพยักหน้าหงึกๆ
   

“I’m เต็มใจ เอ่อ full of my heart อะ” แซ็คยิ้มบางกับการพยายามพูดภาษาอังกฤษของอีกฝ่าย
   

“As I asked you before—call me Bryan, okay? (อย่างที่ขอไปก่อนหน้านี้ เรียกฉันว่าไบรอั้น โอเคนะ)” อันนี้ไอติมก็เข้าใจอีกว่าเขาขอให้เรียกชื่อที่ใช้ในการแสดง เลยพยักหน้ารับคำอย่างจริงจัง
   

“Okay very much!” แซ็คยิ้มอย่างพอใจ และเขาก็เห็นว่าไอติมยังคงยิ้มกว้างอย่างสดใสเหมือนเดิมนับตั้งแต่เดินเข้ามาเจอเขา
   

“You want me to fuck you, do you? (อยากให้ฉันเอานายงั้นเหรอ)” ไอติมไม่เข้าใจทั้งหมดหรอก แต่ได้ยินคำว่า fuck ก็อ้าปากพูดต่อทันที
   

“Yes, yes, yes. Fuck. I want you. Fuck me. Yeah.” ไอติมตอบอย่างกระตือรือร้น แม้จะตอบชวนสับสนไปสักหน่อย แต่ก็พยายามสื่อความต้องการของตัวเองออกมาให้ชัดเจนที่สุด และนึกขอบคุณความทุ่มเทและความเปย์ของตัวเองที่ทำให้ตัวเองได้รับการดูแลอย่างเอ็กซ์คลูซีฟขนาดนี้
   

แซ็คมองหน้าไอติมอย่างครุ่นคิด มันมีหลายความคิดที่เกี่ยวกับเด็กคนนี้ที่เขาไม่แน่ใจว่าถ้าคิดแบบนั้นแบบนี้มันจะถูกต้องและลงตัวหรือไม่ “Wow, I can’t imagine how much you pay for me. (วาว นึกไม่ออกเลยว่านายจ่ายให้ฉันมากขนาดไหน)”


มากขนาดไหนกันถึงได้ซูเปอร์วีไอพีมาครอง ที่สำคัญยังดูเด็กอยู่เลย ไอ้เด็กคนนี้มันไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้กับเขาและค่ายเขานักหนา เขามองหน้าเรียวเล็กขาวสว่างตาอย่างข้องใจ ไอติมไม่แน่ใจว่าแซ็คสื่อถึงอะไรและต้องการสื่อยังไง และตัวเองเข้าใจที่เขาสื่อมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยิ้มไว้ก่อน
   

“I like you.” บอกชอบเขาไว้ก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร
   

แซ็คยิ้มขำ ผงกหัวหนึ่งที “Thank you. (ขอบคุณ)”
   

ไอติมยิ้ม แต่สักพักความจำที่แซ็คเคยพูดว่า ถ้าหากอยากมีอะไรกับเขาต้องจ่ายเงินเหมือนที่เขาได้รับค่าจ้างตอนแสดงหนังชายได้ชายก็พุ่งเข้ามา เลยทำให้รอยยิ้มของไอติมหดลง
   

“I don’t have much money อะ”
   

“But you are SUPER V.I.P. (แต่นายเป็นสุดยอดวีไอพีเลยนะ)” แซ็คขมวดคิ้ว มองหน้าไอ้ตัวผอมอย่างงง ๆ ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ และกำลังคิดว่าแซ็คกำลังจะสื่อว่าเขาเป็นวีไอพีแต่ไม่มีตังค์งี้เปล่าหว่า แปลถูกมั้ยเนี่ย
   

“How much เหรอที่ you will fuck me อะ” แซ็คตั้งแขนซ้ายกับข้อเข่า ยกมือซ้ายขึ้นมาลูบคาง มองหน้าไอติมด้วยสายตาเรียบนิ่ง ในหัวกำลังใช้ความคิด
   

มันคือเมมเบอร์การ์ดทองคำ แล้วไอ้การ์ดนี้ก็อย่างกับมีเวทมนตร์ในมือ…
   

“You don’t have to pay for me but I will fuck you only one time, and after that don’t ask me to fuck you again. Is that okay? (ไม่ต้องจ่ายเงินให้ฉัน แต่ฉันจะเอานายแค่ครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้นไม่ต้องขอให้ฉันเอานายอีก แบบนั้นโอเคมั้ย)” อะไรโอเควะ เขาพูดว่าอะไร ไอติมกำลังนั่งหน้าเอ๋อ กะพริบตาปริบ ๆ ยอมรับแบบโง่ ๆ เลยว่าประมวลที่แซ็คพูดไม่ทัน รู้แต่ว่าพูดเรื่องเอากันนี่แหละ แต่เขาพูดว่าอะไรล่ะ
   

“ไอติม การ์ดของเธอ” ไอติมหันไปมองแอนโทนี่ทั้งที่ยังคงงงอยู่ แอนโทนี่ยื่นการ์ดสี่เหลี่ยมสีทองพร้อมกับซองใส่การ์ดและสายคล้องคอสีดำมาตรงหน้าไอติม หนุ่มเอเชียยื่นมือออกไปรับ ก้มลงดูบนป้ายก็เห็นชื่อตัวเองเป็นภาษาอังกฤษติดอยู่บนนั้น พร้อมกับตัวเลขรหัสอีกสองแถว และมีคำว่า SUPER V.I.P. เด่นเหนือบนชื่อของเขา
   

แซ็คมองการ์ดใบนั้นในมือของไอติมด้วยความข้องใจและกังวลใจในเวลาเดียวกัน เขานั่งมองหน้าของหนุ่มไทยอย่างครุ่นคิด และคิดว่าที่คิดไว้น่าจะลงตัวที่สุดแล้ว “You should go to prepare yourself. I will take him to see the show. (แกไปเตรียมตัวได้แล้วมั้ง เดี๋ยวฉันพาไอติมไปดูแกโชว์ด้วย)” แซ็คเลื่อนสายตาไปมองหน้าแอนโทนี่และยักคิ้วแบบเนือยๆ
   

“I really realized so much now about SUPER V.I.P. (ฉันเข้าใจคำว่าสุดยอดวีไอพีอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว)” แซ็คยิ้มไม่เต็มปากนัก หน้าตาก็ดูเหนื่อยใจ แอนโทนี่ไหวไหล่ทั้งสองข้าง
   

“So are you okay what we just said? (เอาล่ะ นายโอเคกับสิ่งที่เราเพิ่งคุยกันไปมั้ย)” แซ็คหันไปถามไอติมอีกที เจ้าของการ์ดสีทองมองหน้าคนถามอย่างงงๆ
   

ประเด็นคือไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งพูดกันไปก่อนหน้านี้น่ะสิ
   

“เอ่อ say again please.” แซ็คบิดหน้าไปมองแอนโทนี่ อีกฝ่ายยักคิ้วแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรู้งาน แซ็คหันกลับมามองไอติมอีกที และพูดช้า ๆ พูดด้วยประโยคที่เข้าใจไม่ยาก
   

“I will fuck you tonight. After we finish this event. (ฉันจะเอานายคืนนี้ หลังเราจบงานนี้)” แซ็คหยุดมองหน้าไอติมที่กำลังทำความเข้าใจ ใช้เวลาเกือบนาที หนุ่มเอเชียตัวผอมก็อ้าปากค้าง หน้าตาตื่นตะลึง แซ็คตีความว่าหมอนั่นเข้าใจแล้ว
   

“I will sleep with you but only one time. (ฉันจะเอากับนาย แต่แค่ครั้งเดียว)” แซ็คเน้นเสียงเพื่อความชัดเจน ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพยักหน้า ทั้งที่ยังไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมากน้อยแค่ไหน หรือถ้าที่ตัวเองเข้าใจและตอบรับไปนั้น เป็นการตอบรับที่ตัดสินใจถูกต้องหรือไม่
   

“After this time. No more sex between us. Understand? (หลังจากครั้งนี้ไป ไม่มีเซ็กซ์ระหว่างเราอีก เข้าใจมั้ย)” แซ็คเลิกคิ้วขึ้น มองไอติมอย่างรอคอยคำตอบ นอกจากคาดหวังให้ไอ้เด็กเอเชียคนนี้ตอบรับกับข้อเสนอนี้แล้ว ยังคาดหวังให้มันฟังรู้เรื่องกับสิ่งที่เขาบอก
   

ไอติมกำลังครุ่นคิด เขาเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อ และตอนนี้กำลังทบทวนกับตัวเองว่าอยากได้มากกว่าหนึ่งครั้งหรือเปล่า…


แต่ก็กลัวว่าถ้าโลภมากไปจะชวดหมด ไม่เหลือให้ได้เลยสักครั้ง และเป้าหมายที่ตั้งใจมาพุ่งชนและให้เป้าเขาชนตูดเราก็จะไม่ได้ไม่โดน โดนครั้งเดียวก็ดีกว่าไม่โดนเลย อย่างน้อยมาแล้วก็ไม่สูญเปล่า มาแล้วก็ได้เสียตัวสมใจ จะเอาอะไรมากมายหลายรอบล่ะ รอบเดียวก็คือได้เสียตัวให้เขาแล้ว ก็ถือว่าเกินความคาดหมาย แต่ก็ไม่ได้เกินมากมาย เพราะก็พร้อมจะเสียตัวให้แซ็คทุกวันอยู่แล้วตั้งแต่มาที่นี่


กำขี้ดีกว่ากำตดละวะ
   

“Okay!”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2019 14:42:49 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องติมคืนนี้หนูจะได้เสียตัว อย่างที่เคยตั้งใจไว้แล้วลูก ขอให้ภารกิจพิชิตพี่แซคของน้องติมสำเร็จนะจ๊ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องไอติม ช่างใสขนาดดด ฮืออ ได้กลิ่นมาม่าโชยมา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เสียตัวเสร็จ ก็ต้องมาเสียใจต่อชิมิ  :m15:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
5555 น้องงง

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
มุ่งมั่นมาก5555

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
สารภาพว่าพึ่งได้อ่านเรื่องนี้  :hao7: แต่มอบเสียงกรี๊ดให้กับน้องติม เอาล่ะเหวยรอคืนนี้ของน้องกัน จะแซ่บได้ใจแม่ๆขนาดไหน

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust, Chapter 5 :: Finally...? (ในที่สุด... เหรอ) [50%]



 “ไอ๊ติม จะปัยดูไบร่อั้นขึ้นเวทีมั้ย รึจะอยู่รอถี่นี่” ไอติมมองหน้าแอนโทนี่งงๆ
   

“เขาขึ้นเต้นเหรอ” ภาพที่ไปเจอแซ็คในคลับเต้นเปลือยที่ซานฟรานฯ เมื่อหลายวันก่อนพุ่งแวบเข้ามาในหัวเลยถาม คนถูกถามยิ้มขำและส่ายหน้า
   

“ไหม่ชั่ย เข๋าขึ้นโชว์มีเซ็กซ์บนเวที” ไอติมเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มแบบไม่แน่ใจนัก
   

“หมายถึงมีอะไรกัน…” แอนโทนี่พยักหน้า
   

“…ฉั่ยแล้ว เธอเคยเห็นเข๋าในหนังยังไง ขึ้นเวทีก็อย่างนั้นหละ แค่หว่าขรั่งนี้ ไม่มีตัดต่อ ไม่มีเทค เอากันแบบยาว ๆ จนกว่าจะแตกกั่นไป่ข้าง” หนุ่มฝรั่งใส่แว่นหัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของคนอื่น ๆ ในห้องพักหลังบูธ
   

“คนดูเยอะมั้ยฮะ” แอนโทนี่ทำหน้านึกก่อนจะตอบแบบไม่มั่นใจนัก
   

“ขิดว่าเยอะหยู่” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ พลางครุ่นคิด แต่ก็ไม่ใช่คิดชวนเครียดหนักใจ แค่กำลังชั่งใจว่ายังไงดี ในขณะที่กำลังจะให้คำตอบกับแอนโทนี่ ความคิดอีกอันหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว
   

“โอ๊ะ…” ไอติมหันไปมองแซ็คที่กำลังยิ้มแย้ม ยืนคุยกับผู้หญิงฝรั่งผิวขาวผมดำหน้าสวย ๆ ในชุดชั้นในสีแดง ก่อนหันกลับมามองแอนโทนี่อีกที
   

“…เขาเอากี่รอบอ่า”
   

“รอบเดียวก่อพอแล๊ว เป็นแค่โชว์ ๆ นึง นั่นน่ะ เขาจะมีเซ็กซ์กับคนที้กำลังยืนคุยด้วยนั่นหละ” ไอติมยื่นปากทำหน้ามุ่ยหน่อยๆ
   

“ให้คนอื่นเอาแทนไม่ได้เหรอ” แอนโทนี่ยิ้ม
   

“หวงเข่าหลอ” ไอติมส่ายหัวรัวๆ
   

“ผมกลัวเขาหมดแรงอะ” แอนโทนี่ย่นคิ้วไม่เข้าใจ ไอติมยกมือกวักเรียกแซ็คยิ่งกว่านางกวักเรียกเงินเรียกทองอยู่สักพักจนกระทั่งเจ้าตัวหันมาเห็นหน้ามุ่ย ๆ ของไอ้เด็กเอเชียตัวป่วน หนุ่มฝรั่งผมทองถอนหายใจเซ็งหน่อย ๆ แต่ก็ยอมผละออกมาจากผู้หญิงอีกคน
   

“What’s up? (มีอะไร)” แซ็คถามตอนที่เดินมาถึงตรงหน้าไอติม
   

“You will fuck she คนนั้นบน stage เหรอ” ไอติมชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้น แซ็คเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงกับประโยคของอีกฝ่ายนิดหน่อย แต่พอแอนโทนี่แปลให้เลยเข้าใจ ฝรั่งผมทองพยักหน้าหนึ่งที ไอติมย่นคิ้ว ริมฝีปากสีแดงยู่เป็นเด็กน้อย
   

“แล้ว You will fuck me okay แบบว่าไหวหรอ If you ฟัค she ไปแล้วอะ” แซ็คเบิกตากว้าง พอ ๆ กับแอนโทนี่ที่เปลือกตาขยับกว้างด้วยความตกใจ ไอติมยังคงขมวดคิ้ว แต่ก็มีสีหน้างง ๆ กับอาการตกใจของทั้งสองคน
   

“Shhh!” แซ็คส่งเสียงชู่วเป็นการบอกให้เงียบ ก่อนจะรีบหันไปมองรอบตัวอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าไม่มีใครได้สังเกตตรงนี้เป็นพิเศษก็รีบหันกลับมา สีหน้าชะงักไปนิด ก่อนที่ริมฝีปากจะบิดเซ็ง ๆ ที่เห็นแอนโทนี่ แต่ก็ยังดีกว่าเป็นคนอื่น


“Don’t tell anybody about what I have told you. (อย่าบอกใครเรื่องที่ฉันคุยกับนาย)” แซ็คกระซิบกับไอติมเสียงเข้ม คนตัวเล็กที่สุดในบรรดาสามคนกะพริบตาปริ๊บ ๆ สีหน้างุนงง งงว่าเขาพูดอะไร และกำลังอยู่ในช่วงประมวลคำแปล


“And don’t make a slip of the tongue about that, okay? (แล้วก็อย่าเผลอหลุดปากพูดเรื่องนี้ไป เข้าใจมั้ย)” หะ ฮะ? ประโยคแรกยังไม่ทันแปลจบเลย ประโยคใหม่มาต่อแล้ว ฟังออกคำสุดท้ายคือ โอเค๊ แล้วโอเคอะไรล่ะ


ไอติมหันไปมองแอนโทนี่โดยอัตโนมัต ถ้าแซ็คพูดแบบเว้นช่วงให้แปลสักหน่อย เขาก็ยังพอจะถูไถจับใจความได้ แต่พอพูดต่อเนื่องกันมันเลยรวนไปหมด แอนโทนี่ที่มีสีหน้าประหลาดใจกึ่งเครียดช่วยแปลให้ไอติมเข้าใจตามประโยคที่แซ็คพูดมา


“ทำไมอะ Why?”


“Just remember that don’t say about this to other people if you want what you want. (แค่จำเอาไว้ว่าอย่าพูดเรื่องนี้กับใครถ้านายอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ)” ไอติมอ้าปากหวอ เปลือกตากะพริบเอื่อย ๆ กำลังแปลในหัวตัวเอง แต่ก็ไม่เร็วเท่าแอนโทนที่ก้มลงมากระซิบให้เสร็จสรรพ


อะไรอะ แค่จะเอากันมันต้องความลับขนาดนี้เลยเหรอ


“You shy เหรอที่ต้อง to fuck me” ไอติมไม่ได้ถามด้วยความน้อยใจหรือคิดมาก แค่ถามด้วยความสงสัยทั่วไปของมนุษย์คนหนึ่ง


“It’s not about shame or shy. It’s about unappropriated. (มันไม่เกี่ยวกับความอับอายหรือว่าขายหน้า มันเกี่ยวกับการไม่ควรพูด)” ไอติมทำปากจู๋ ยกมือเกาหัวงง ๆ ทั้งงงที่โดนห้ามพูดและงงภาษาอังกฤษ


“And don’t worry if I can’t fuck you. I’m the best fucker. (แล้วไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่ฉันจะเอานายไม่ได้ ฉันเป็นนักเย็xที่เก่ง)” แซ็คขยิบตาหนึ่งที ไอติมที่กำลังงง ๆ ถึงกับคลี่ยิ้มเคลิ้มอัตโนมัติกับท่าทางอันเซ็กซี่นั้น


แต่ประโยคที่เขาพูดมาไม่รู้นะว่าแปลว่าอะไร ฟังออกฟัคยู ๆ นั่นแหละชัดสุด


“Go to prepare yourself. I will be with him all the time. (ไปเตรียมตัวเถอะ เดี๋ยวฉันจะอยู่กับเขาตลอดเวลาเอง)” แซ็คกับแอนโทนี่มองตากัน มองแบบเป็นอันรู้กัน ก่อนที่แซ็คจะพยักหน้าขึ้นหนึ่งที แล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม มีการหันมาคลี่ยิ้มมุมปากให้ไอติมเคลิ้มอีกทีด้วย


“ฮู้ยยยๆ” ไอติมครางเคลิ้มตาเยิ้มอยู่คนเดียวกับท่าทางชะม้อยชายตานั้น แซ็คเป็นผู้ชายที่ไม่ได้หล่อเว่อหรือหล่อเป๊ะ แต่เขาดึงดูดทางเพศและน่าดึงมาดูดอย่างมหาศาล แบบนี้น่ะอันตรายกว่าผู้ชายหล่ออย่างเดียวเพียว ๆ ซะอีก


“ฮิๆ” ไอติมหัวเราะห่อไหล่ ขนลุกซู่ซ่ากับภาพบนเตียงของตัวเองกับแซ็คที่กำลังแล่นอยู่ในหัว


“สรุป เธอไม๊ไปใฉ่มั้ย” แอนโทนี่ถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ ไอติมหันกลับมามองฝรั่งพูดไทยได้ กำลังจะทำท่าพยักหน้าแต่ก็เปลี่ยนเป็นตั้งคำถาม


“แล้วถ้าผมไม่ไปดู ในนี้จะมีอะไรให้ผมเที่ยวมั้ย” แอนโทนี่ยิ้มแบบไม่มั่นใจนัก


“หมั่นก้อมีแต่พวกค่ายหนังโป๊มาออกบูธนั้นแหล่ะ หรือท่าอยากลองไป่ดูผลงานค่ายอื่น ๆ บั่งไหมหละ” ไอติมคลี่ยิ้ม แววตาและสีหน้ามีความสนใจ


“ก็ดีนะครับ เดินฆ่าเวลาก็ได้” แอนโทนี่พยักหน้ายิ้ม ๆ มองไอติมที่กำลังยิ้มแย้มสดใสด้วยสายตาเป็นกังวล ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา


“เฮ้ เอาเปนว้า เธอย้าเผลอพูดเรื่องนั้นกับใครก่อแล้วกั๋นนะ…” ฝรั่งพูดไทยว่าพลางกวักมือเรียกไอติมเดินตามออกไป แซ็คที่กำลังยืนคุยงานอยู่เลื่อนสายตามองตามทั้งสองคนนิ่งครู่หนึ่งแล้วสันกรามก็ขึ้นสันชัด
 


ไอติมกับแอนโทนี่เดินออกมาด้านหน้าบูธที่ยังคงมีคนมายืนคุยกับสามสาวไม่ขาดสาย ไอติมยิ้มทักทายกับทีมงานคนอื่นในระหว่างที่เดินตามหลังแอนโทนี่ แม้ว่าบางคนจะมองเลยผ่านไป แต่ไอติมก็ไม่ได้ติดใจอะไร คิดแค่ว่าตัวเองยิ้มให้เป็นมิตรไว้ก่อนแล้วกัน


“…อั่นที่จริงฉั๋นปะหลาดจัยมาก” แอนโทนี่หันมาคุยกับไอติมในตอนที่ทั้งสองคนเดินห่างออกจากบูธตัวเองมาแล้ว


“ประหลาดใจอะไรเหรอ” แอนโทนี่กำลังจะอ้าปากพูด แต่สายตาก็เหลือบเห็นบัตรสีทองของไอติมที่ห้อยคล้องคอเจ้าตัวอยู่ เปลือกตาภายใต้กรอบแว่นดำหรี่ลงพร้อมกับนึกคิด แม้จะไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองคิดนั้นใช่หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้


“ไบร่อั้น หม่อนั่นไม่นอนกับ เอ่อ ผู่ชาย…” ปลายเสียงของคนพูดแผ่วลงจนคนฟังทำหน้างงไม่เข้าใจ คำว่าผู้ชายเบาซะจนคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูด นี่ถ้าแก้วหูไม่สมประกอบคงไม่ได้ยินคำนั้น ร่างสูงยักไหล่ ทำหน้าประมาณว่าช่างมัน


“…แต่ก็ใฉ่ว้าไหม่เค้ย ใน้หนังก่อนอนมาด้วยหลายคนแหลว”


“เขาเคยบอกผมว่า ถ้าผมอยากนอนกับเขา ผมต้องเสียตังค์ เพราะที่เขานอนกับผู้ชายในหนัง เขาได้ค่าจ้าง” แอนโทนี่พยักหน้าในระหว่างเดินผ่านบูธหนึ่งที่มีผู้หญิงสองคนกำลังเปลือยกายอาบน้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำสีขาว ผลัดกันลูบไล้ไปมา โดยมีสายตาของชายหนุ่มนับสิบคนยืนมองราวกับโดนสะกดจิต


“แต่ผมไม่ต้องเสียแหละ แต่ก็ได้แค่ครั้งเดียวเองอ่า” แอนโทนี่ยิ้มขำกับใบหน้าเสียดายของอีกฝ่าย


“ขั่งเดียวก่อพอแล้วละ” ไอติมบุ้ยปากไปซ้ายทีขวาที แววตากำลังคิดว้าวุ่น


“ที่จริง ครั้งเดียวผมก็โอเคแหละ แต่ผมแค่กลัวตัวเองติดใจ” แอนโทนี่หัวเราะ ไอติมยิ้มกว้างและหัวเราะตาม หนุ่มฝรั่งลดรอยยิ้มลง และมองไอติมด้วยสีหน้าอึกอักและติดจะอึดอัดด้วยซ้ำ จนอีกคนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ


“มีอะไรเหรอแอนโทนี่” คนถูกถามกระตุกยิ้ม ผายมือไปทางโซนโซฟาที่มีไว้ให้คนที่มาเที่ยวงานนี้ได้นั่งพักผ่อน


“นั่งคุยกันดีกว่า” ไอติมพยักหน้า เดินตามแอนโทนี่ไปนั่งโซฟาตัวยาวสีดำ มีคนนั่งพักผ่อนอยู่ตรงนั้นเกือบสิบคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย


“ฉั๋นรู้ ว่าเถ่อชอบไบรอั้นมันมาก เราคุยกั่นมาตาหลอด ฉั๋นรู้” แต่หนุ่มเอเชียตัวบางก็ไม่เคยเอ่ยถึงขั้นว่าอยากได้เสียกับพระเอกหนุ่มให้ฟังเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ มีพูดแซว ๆ กันบ้าง แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นความต้องการแบบซีเรียสของอีกฝ่าย และที่ไม่คาดคิดคือพระเอกหนังโป๊ดันตอบรับ


“โคตรดีเลยอะที่ได้รู้จักคุณ ผมง่อยคาที่แน่ ถ้าให้พูดภาษาอังกฤษเองทั้งหมด…” ไอติมนึกขอบคุณอย่างใจจริงที่ได้รู้จักกับแอนโทนี่ ฝรั่งพูดไทยได้ ทั้งสองคนคุยกันผ่านเว็บไซต์ของค่ายหนังที่แอนโทนี่ทำงาน กระเถิบมาเป็นอีเมล และสุดท้ายพอคุยกันบ่อยขึ้น (ด้วยภาษาไทยแบบผิด ๆ ถูก ๆ) แอนโทนี่ก็ให้เฟซบุ๊คส่วนตัวมา แล้วทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกันในโลกออนไลน์ ก่อนที่จะได้มาเจอหน้ากันจริง ๆ ก็วันนี้


“…ผมดีใจนะที่คุณไปอยู่ไทยเป็นปี ขอบคุณคนสอนภาษาไทยคุณด้วย” ไอติมยิ้มกว้าง แอนโทนี่ยิ้มบาง


“งั้นต่องขอบคูณหลายคนเล่ย หลายจังหวัดด่วยนะ” ช่วงหนึ่งของชีวิต แอนโทนี่แบ็คแพคไปเที่ยวเมืองไทยอยู่เป็นปีกับเพื่อนสนิทอีกสองคน เพื่อนสนิทกลับก่อน แต่ตัวเขานั้นติดใจไทยแลนด์เลยอยู่เที่ยวต่อ จนกระทั่งอยู่ยาวเป็นปีเกือบสองปีด้วยซ้ำ แต่ก็ทำเรื่องราวต่าง ๆ ถูกต้อง ไม่ใช่หลบหนีเข้าเมือง การใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยนานขนาดนั้น เลยทำให้แอนโทนี่ได้เรียนรู้ภาษาไทย สื่อสารภาษาไทยได้ในระดับที่ดี แต่การเขียนเข้าขั้นแย่


“ขอบคุณสำหรับบัตรวีไอพีอันนี้ฮะ รู้สึกเท่มากเลยยย” ไอติมหยิบบัตรสีทองที่ใส่ไว้ในแบดจ์ใส่บัตรสีใสขึ้นมาโบกไปมา


“ถ่าเธอหยู่กับเรา บัตรนี้จะทำให้เธอเหมือนมีเดอะเมจิคเลยหละ” ไอติมยิ้มกว้าง ปล่อยบัตรลงให้ห้อยตามเดิม แอนโทนี่มองไอติมอย่างเป็นกังวล แต่ก็บอกกับตัวเองว่า อาจจะกำลังกังวลเว่อไปอยู่ก็เป็นได้


“มารอบนี้ขุ่มเลยสินะ มีทติ้ง แถมยังได้เมคเอ้าท์ด้วย”


“เมคเอ้าท์แปลว่าไรเหรอ”


“แปล่ว่า จู๋จี๋ อะไรหยั่งเงี้ย”


“อ๋อ หมายถึงผมได้จู๋จี่กับซะ… เอ้ย…” แอนโทนี่ทำตาโตและสั่นหัวรัว ๆ ไอติมยิ้มแห้งและหุบปากประสานกันช้าๆ


“ย้าเผลอหลุดปากล่ะ ได้กั่นแล้วก่อฟินคนเดียวพอ” ไอติมขมวดคิ้ว หน้าตาไม่เข้าใจกลับมาอีกครั้ง


“ทำไมอะ ผมไม่ได้จะไปบอกใครนะ แต่ผมแค่สงสัยว่าทำไมถึงต้องย้ำจัง” แอนโทนี่นึกหาคำพูดสักแปบก่อนจะว่าเสียงนุ่ม


“เพื่อตัวเถ่อเอง” ไอติมนิ่งไปแปบหนึ่ง ก่อนจะคิดได้ว่า ไม่ต้องไปรับรู้อะไรเยอะแยะหรอก แค่ได้ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาก็เพียงพอแล้ว เพราะไอติมก็ไม่ได้มาด้วยจุดประสงค์ที่เยอะแยะอะไรนักหนา มาเพื่อเสียบริสุทธิ์ล้วนๆ


“แหล่วเธอจะมาอยู่นี่กี่เดือนกันหละ”


“เดือนเดียวเองแอนโทนี่”


“อืมมม มีแพลนหยั่งไงบ้าง” ไอติมยิ้มเขินหน่อย ๆ แล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม


“ก็มาหาไบรอั้นแหละ แหะ ๆ ตอนแรกผมกะว่าคงจะนานกว่าจะได้ เอ่อ อย่างนั้นกะเขา แต่ตอนนี้ไม่นานแล้ว” แอนโทนี่ยิ้มขำด้วยความเข้าใจ


“แล้วหยั่งงี้ก็กลับไทยก่อนน่ะสิ” ไอติมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะส่ายหัวช้าๆ


“ผมก็อยากอยู่เที่ยวก่อน มาทั้งที” แอนโทนี่ยกมือขวาลูบคางพลางครุ่นคิด คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร ในฐานะที่ไอติมเป็นเมมเบอร์ระดับวีไอพีบัตรทองขนาดนี้ เขามีสิทธิ์อย่างเต็มที่อยู่แล้ว


“หยั่กไปดูเบื้องหลังถ่ายหนั่งโป๊ไหม” ไอติมตาโตพรึ่บ หัวใจเต้นกระหน่ำรัว


“อู้วววว…” แอนโทนี่หัวเราะตาหยีกับการร้องเสียงหลงเพราะตื่นเต้นของไอติม


“…ผมอยากไปมานานแล้ว อยากเห็นว่าเขาทำกันยังไง ไป ๆ ผมไป”


“แต่วันถี่ไป๊ อาจไม่ใช่คิวของไบรอั้นน้ะ” ไอติมทำบู้น้อย ๆ แล้วพูดเสียงอ่อยเสียงอ้อน


“ขอวันที่มีเขาด้วยไม่ได้เหรอ” แอนโทนี่ทำหน้าหนักใจ เหลือบมองบัตรสีทองแล้วก็ถอนหายใจอย่างจำยอม


“ก่อดั้ย จะพยายามนะ” หน้าบู้ ๆ เมื่อกี้เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มดีใจ แอนโทนี่มองไอติมแล้วยิ้มบาง


เด็กคนนี้เป็นคนน่าเอ็นดู คุยกันในแชท เขายังไม่คิดอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่พอเจอตัวจริง เห็นเลยว่าเด็กคนนี้อารมณ์ดี มีพลังในชีวิตเยอะมาก “อ้อ มีข่นไทยที่เป็นเพื่อน ๆ เราด่วยนะ เดี๋ยวอาจจะได่ลู้จั่กกั่น”


“อ๋า มีคนไทยด้วย”


“อั่นที่จริง เธอควรฝึกพูดพ้าสาอั่งกริดไว้นะ จะได้ซื้อสานกับคนอื่นหง่ายง่าย เผื่อเวลาเธอไป๊ไหนม้าไหนข่นเดียว”


“ผมก็อยากพูดได้ครับ อยากคุยกับแซ็ค เอ้ย…” ไอติมตาโตตกใจกับการหลุดชื่อจริงของแซ็คออกมาเต็มปาก แต่แอนโทนี่ไม่ได้มีทีท่าอะไรเป็นพิเศษ


“เรียกไบรอั้นให่ติ๊ดปากจะดีกว่านะ” ไอติมพยักหน้าหงึกๆ


“ผมขอโทษครับ มันชิน” แอนโทนี่ยิ้มอย่างไม่ถือสา


“ดีเมื๊อนกัน พาเมมเบอร์วีไอพีไปให้ทีมงานรู้จัก เรามีเมมเบอร์แบบเธอหมั่ยมากนักหร่อก” ไอติมยิ้มด้วยความรู้สึกพราวด์เล็ก ๆ ตอนเปย์ไปไม่คิดอะไร แต่พอรู้ว่าที่ตัวเองเปย์ ๆ ไปนั้นจะทำให้ได้รับสิทธิพิเศษดี ๆ แบบนี้ มันก็พองโตในหัวใจ เงินที่ทุ่มให้ความหงี่ก็ถือว่าคุ้มอยู่


“ป่ะ เดินเถี่ยวกัน เปิดหูเปิดตา” ทั้งสองคนลุกขึ้นและพากันกลับไปทางบูธอีกครั้ง ชวนกันคุยสัพเพเหระ ทั้งเรื่องส่วนตัวที่ยังไม่เคยคุยกันมาก่อน และเรื่องการทำงานของเบื้องหลังที่ไอติมสนใจ


แอนโทนี่พาไอติมเดินทัวร์งานออกบูธของค่ายหนังโป๊แต่ละค่ายที่มาร่วมงานจนครบทุกบูธ จากที่ไอติมสนใจอยู่ไม่กี่ค่าย และเน้นค่ายของแซ็คเป็นหลัก มางานนี้ก็ทำให้เขาได้เปิดตากว้างขึ้น มีอีกหลายค่ายที่น่าสนใจแต่ไอติมไม่เคยไปเยือน หรือไม่เคยตามไปดูผลงานของค่ายนั้น ๆ ที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ ก็คือการได้พบนักแสดงบางคนนอกเหนือจากแซ็คที่ไอติมจำได้จากทางเว็บโป๊ต่าง ๆ และไอติมก็ค้นพบว่าไม่ได้มีแซ็คคนเดียวที่แซ่บและชวนมีเซ็กซ์ด้วย


“ของเราก็จะผ่านการออดิชั่นนั้นและ”


“แล้วเลือกคนมาออดิชั่นยังไงเหรอ”


“ก่อมีทั้งมาเอง กับเราไปเจอแหล่วชวนม้า” ไอติมทำปากว่าอ๋อ ตอนนั้นเองที่สายตาเหลือบไปมองผู้ชายหัวโล้นคนหนึ่งที่กำลังยืนมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยภายในงาน ไอติมมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนั้นตาแป๋ว


“ข่นรู้จักเหรอ” ไอติมส่ายหัว


“ไม่ลองชวนคนนั้นเหรอ” แอนโทนี่ขมวดคิ้ว มองตามสายตาของไอติมไปที่ผู้ชายหัวโล้นตัวสูง ตึวบึ้ก กล้ามใหญ่แต่ดูจะมีพุงหน่อย ๆ คนนั้น


“ทำไมคนนี้ล่ะ” ไอติมย่นคิ้วนิดหนึ่ง และส่ายหัวงง ๆ กับตัวเอง


“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่าเขาต้องแซ่บแน่ ๆ แบบว่าฮ็อต ๆ อะ ผมรู้สึกว่าเขาต้องดีมาก ๆ บนเตียงงี้อะ” แอนโทนี่ขำด้วยความประหลาดใจกับความรู้สึกของไอติม


“แต่หน้าตาเค้าไม๊หล่อเท่าไหร่นะ ใช้ได้ แต่ก็ยังไม๊ดีม้าก ไหนจะพุงนั้นอี่ก”


“ผมว่าถ้าลีลาเขาเด็ด หน้าตาก็จะเป็นรองเองเปล่าฮะ พุงอันนั้นผมว่าก็ยังไม่น่าเกลียดนะ อาจทำให้ดูเซ็กซี่ด้วย” แอนโทนี่ขมวดคิ้ว มองไอติมอย่างแปลกใจและคาใจ จนเขารู้สึกว่าต้องทำให้ตัวเองหายคาใจ


“ก่อด้าย งั้นเราเข้าไปชวนเข๋ากัน” ไอติมยิ้มและพยักหน้า ก้าวเท้าเดินตามแอนโทนี่เข้าไปหาผู้ชายคนนั้น


“Hey, nice to meet you. I’m Anthony. I come from Eagle eyes. (เฮ้ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันแอนโทนี่ มาจากค่ายหนังอีเกิ้ลอายส์)” แอนโทนี่ยื่นมือไปหาอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายยื่นมือตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร


แอนโทนี่ไม่เสียเวลาอ้อมค้อม เขาพูดเข้าเรื่องเลยว่าอยากจะชวนอีกฝ่ายไปออดิชั่นที่ค่ายหนัง ผู้ชายคนนั้นทั้งตกใจและประหลาดใจในคราวเดียวกัน ไอติมยืนมองทั้งสองคนคุยกันแบบรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ใจความสำคัญที่แอนโทนี่เข้ามาชวนไปออดิชั่นเป็นนักแสดงหนังโป๊ที่ค่ายอันนั้นน่ะรู้เรื่องอยู่


“Call me if you want to join us. (โทรหาฉันก็แล้วกันถ้านายสนใจ)”


“Thank you.” หนุ่มหัวโล้นหน้าไม่แย่แต่ก็ไม่หล่อยิ้มงง ๆ และแปลกใจกับตัวเองหน่อย ๆ ก่อนจะเดินจากไป ไอติมหันไปยิ้มให้แอนโทนี่แล้วยกนิ้วโป้งสองมือให้


“เดี๋ยวมาดูกั่นว่า สายตาของเธอจะเป็นไง” ไอติมยิ้มแหย


“ผมรู้สึกดีที่คุณลองเชื่อผม แต่ถ้าผมมองผิดไป อย่าโกรธผมนะ” เขาทำหน้ารู้สึกผิด ทำแบบล่วงหน้าไว้ก่อน ไม่รู้ว่าที่ตัวเองบอกเขาไปจะเป็นยังไง คือก็พูดตามที่ใจและเซ้นส์ตัวเองรู้สึก


“ก่อไม่เสียหายอะไร ออดิ่ชั่นผ่าน ก้อเซ้นสัญญา ไม๊ผ่านก็กลับบ้าน แข่น้านแหละ” ไอติมยิ้มด้วยความสบายใจ


“ไบรอั้นน่าเส็ดแล้ว ไปรอมีทติ้งเค้ากัน” ร่างผอมพยักหน้ากระตือรือร้น เดินตามฝรั่งตัวสูงโปร่งกลับไปทางบูธ C11





งานมีทติ้งของแซ็คไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษมาก ไม่มีโชว์จ้ำบ๊ะ หรือโชว์หนังสดให้ได้ดู ก็แค่พบปะ ขอลายเซ็น พูดคุย ถ่ายรูป เหมือนงานมีทติ้งนักแสดงปกติทั่วไปแบบที่ไอติมเคยเห็น ที่แตกต่างหน่อยก็คือแซ็คเปลือยท่อนบน โชว์หุ่นล่ำแซ่บ ให้แฟนคลับได้กอดได้สัมผัสเนื้อแน่นหนาของตัวเอง ซึ่งมีทั้งหญิงทั้งชาย โดยที่ไอติมไม่แน่ใจว่าผู้ชายเหล่านั้นเป็นชายแท้ทุกคนหรือไม่ หรือเป็นแค่แฟนบอยทั่ว ๆ ไป


“ผมเอาแบบที่คุณทำในหนังไปใช้กับเมียตัวเอง เธอชอบมาก คุณเปรียบเหมือนครูออนไลน์ผมเลยแหละ” ผู้ชายร่างท้วมคนหนึ่งกล่าวกับแซ็คด้วยความชื่นชมและปลื้มปิติกับการได้เจอครูสอนเซ็กศ์ออนไลน์ของตัวเอง แซ็คยิ้มกว้างขำขัน


“ฉันถึงจุดสุดยอดกับคุณบ่อยมากเลยละค่ะ” ไอติมอ้าปากหวอ ก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มอ้าปากกว้างด้วยความขำและเขินในเวลาเดียวกันเมื่อแอนโทนี่บอกว่าผู้หญิงผิวสีผมหยิกคนหนึ่งที่มามีทติ้งพูดอะไรกับแซ็ค จนตัวพระเอกเองยังหัวเราะร่วน


มีคนมามีทติ้งกับแซ็คเป็นครึ่งร้อยคน ถือว่าเยอะมากสำหรับนักแสดงหนังโป๊ แอนโทนี่บอกกับไอติมว่าอันที่จริงอยากจะให้มีเยอะกว่านี้ แต่ทางค่ายหนังกำหนดโควต้ามาเท่านี้ ก็ต้องเอาตามที่ทางค่ายว่า เนื่องจากแซ็คเองก็ไม่ได้มีแค่งานมีทติ้งอย่างเดียว เยอะเกินไปตัวนักแสดงจะเหนื่อยเอาได้


ไอติมยืนมองคนอื่น ๆ เข้าไปหาแซ็ค ทั้งพูดคุย ถ่ายรูป และขอลายเซ็นด้วยความปลื้มใจ ที่จริงไอติมจะเป็นคิวแรกสุด แต่เจ้าตัวก็ยินดีให้คนอื่นเข้าหาพ่อพระเอกดุ้นทองก่อนตัวเอง เพราะตัวเองมีเวลาทั้งวี่วันและไม่รีบร้อน แถมหลังจบงานก็ยังได้สิทธิพิเศษมากกว่าใครอีก เลยให้คนอื่นที่มาไกล ๆ เข้าไปหาก่อน


“เฮ้…” แซ็คทักไอติมเสียงนุ่มพร้อมกับยิ้มให้ตอนที่หนุ่มไทยกำลังยืนมองเขาด้วยรอยยิ้ม แซ็คกระดิกมือเรียกไอติม หนุ่มไทยมีสีหน้างง ๆ แต่ก็เดินถือดิลโด้ที่เพิ่งซื้ออันใหม่เพื่อเอามาให้แซ็คเซ็นโดยเฉพาะติดมือไปด้วย


“Hi.” ไอติมทักเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มสดใส แซ็คยิ้มมุมปากตอบ ไอติมยื่นแท่งเนื้อสีน้ำตาลขุ่นไปให้เจ้าของต้นแบบเซ็น ระหว่างที่รอแซ็คเซ็นให้ ไอติมก็เผลอยกมือจิ้มเนื้อบนอกอูม ๆ แน่น ๆ ของแซ็คเบา ๆ ด้วยความลืมตัว


“…Are you trying to assault me? (ลวนลามฉันเหรอ)” แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมได้สติก็ทำหน้าเหวอเหลอหลา


“It’s big very much เลยอะ” แซ็คยื่นดิลโด้คืนให้ไอติม ร่างผอมรับไปใส่ลงกล่องที่มีรูปแซ็คติดอยู่บนนั้น ในขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากโต๊ะมีทติ้งเพื่อให้คนอื่นเข้ามา แซ็คก็ก้มลงมากระซิบข้างหูของไอติมแบบที่ให้ได้ยินกันแค่สองคน


“Wait me around here, okay?. (รอฉันแถวนี้ โอเค้)” ไอติมกะพริบตาปริบ ยิ้มให้แซ็คแบบงง ๆ เพราะแปลไม่ได้ทันท่วงที แต่พอแปลได้แบบคร่าว ๆ แบบที่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ก็พยักหน้า ก่อนเดินออกไปโดยมีรอยยิ้มของแซ็คติดอยู่ในดวงตา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2019 16:29:08 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอดูไอติมขึ้นสังเวียน  :laugh:

ออฟไลน์ mxb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หลังจากได้พี่แซ็คแล้วหนูก็ไปเรียนรู้วิชาจากแม่นางเรียวจันทร์ด้วยนะลูก
คนนั้นเค้าใช้ชีวิตคุ้มเหลือเกิน แถมไม่ต้องเป็นซุปเปอร์วีไอพีด้วยนาา
:hao7:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
ขอบคุณค่ะ  รอไอติมตอนหน้า หนูจะได้กินไอติมของอิพี่แซ็ค แล้ว :haun4:

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมชอบทอล์คของขุ่นเจ้นะครับ (นามปากกาอ่านแล้วรู้เลยว่าน่าจะเป็นคนตลก (หัวเราะ)) ดูค่อนข้างชัดเจน มีลูกเล่นกับคนอ่าน อ่านแล้วรู้สึกว่านักเขียนมาเมาท์มอยคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกับนักอ่านด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

เอาจริงๆ ผมว่าคุณเจ้เขียนนวนิยายได้ดีนะครับ ภาษาค่อนข้างใช้ได้ (แต่เรื่องนี้มีสะกดผิดหลายคำแล้วนะครับ เยอะอยู่นะ ถ้ามีเวลาก็รบกวนตรวจสอบอักษรหน่อยนะครับ) การใช้ภาษาต่างประเทศก็ถูกต้องตามพฤติกรรมการพูด (ไม่จำเป็นต้องถูกแกรมม่าเป๊ะ แต่ให้ตาม idioms หรือแนวการสนทนาของสังคมปัจจุบันก็พอครับ) มีวงเล็บคำแปลซึ่งก็ใจความไม่ต่างจากเนื้อความของตัวภาษาต่างประเทศเท่าไหร่ ถือว่าทำได้ดีครับ แนวการเขียนก็ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ผมคิดว่าคุณเจ้เขียนมาหลายแนวแล้วนะครับ ซึ่งก็ถือว่าแหวกจากกันค่อนข้างเยอะ (รักไร้ขอบเขต กับร่ายกับดัก) ซึ่งข้อดีของมันคือทำให้ผมมองว่าคุณเจ้เขียนได้ทุกแนว และทำให้คนอ่านอินกับเรื่องได้ดี จุดเด่นมากๆเลยของคุณเจ้คือตัวละครแทบจะทุกตัวมีความโดดเด่นในตัวของมันเอง โดดเด่นในที่นี้คือการกระทำมีมิติและมีพื้นหลังรองรับ พื้นตัวละครแน่นและเรื่องราวเบื้องหลัง ที่มาที่ไปสมเหตุสมผล ประกอบกับการบรรยายที่เหมาะสมกับโทนเรื่องนั้นๆ (อย่างร่ายกับดัก โทนบรรยายจะออกแนวสาว รักไร้ขอบเขตจะออกแนวเรื่อยๆ ส่วนเรื่องนี้จะออกแนวใสๆมุ้งมิ้งดูน่าเอ็นดูน้องไอติม) ก็ไม่ยากที่จะทำให้คนอ่านอินไปกับเรื่องได้ครับ จุดนี้เป็นข้อดีที่ต้องชมหนักๆเลย

แต่ข้อเสียคือ ผมรู้สึกว่าพล็อตของคุณเจ้ไม่ลึก คือแม้การกระทำทุกอย่างของตัวละครมันจะสมเหตุสมผล แต่เนื่องด้วยปมมันไม่ซับซ้อนน่าสนใจมากพอ อารมณ์ของคนอ่านต่อนวนิยายจะออกแนวนิยายซิตคอม คืออ่านจบแล้วก็จบครับ ผมคิดว่าถ้าคุณเจ้พัฒนาเรื่องการวางพล็อตให้ลึกมากขึ้น แล้วเชื่อมมันเข้าไปกับปมของตัวละครต่างๆ นวนิยายคุณเจ้จะสร้างเป็นจักรวาลย่อมๆได้เลยนะครับ ข้อดีอีกอย่างนึงของนวนิยายคุณเจ้คือระดับอายุของตัวละครมันสูง มันไม่ใช่แนวพล็อตเด็กมหาวิทยาลัยปีหนึ่งหรือเด็กมัธยมมอหก ทีนี้พอช่วงอายุของตัวละครมันสูงขึ้น ประกอบกับการกระทำที่สมเหตุสมผล มีพื้นหลังรองรับ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นนวนิยายระดับเยาวชนอ่านที่ถือว่าอยู๋ในระดับดีแล้ว ถ้าเกิดมีพล็อตที่ซับซ้อนและลึกซึ้งจนเกี่ยวรัดหลายๆปมเข้ามาด้วยกัน มันจะทำให้เส้นความสัมพันธ์ของหลายๆตัวละครสามารถมาเชื่อมกันได้ เส้นเรื่องก็จะสามารถเอามารวมกันแล้วสร้างเป็นจักรวาลย่อมๆที่เราจะค่อยๆปรับแต่งรายละเอียดแล้วทิ้ง Easter Egg เอาไว้ในบางเรื่องเพื่อให้ตามต่อได้ มันจะทำให้นวนิยายของเรามีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นครับ

ผมคิดว่านวนิยายคุณเจ้เป็นอะไรที่อ่านสบายนะ อ่านแล้วก็ค่อนข้างมีมุมขำๆแล้วก็เออ ตัวละครนี้มันก็ใช้ได้แฮะ มีหลายๆมุม มีมุมน่ารัก มีมุมน่าหมั่นไส้ (อย่างตัวเอกเรื่องร่ายกับดักฯ) คือไม่หนักมากด้วยการบรรยาย ผมชอบนะครับ แต่ข้อเสียก็อย่างที่บอกครับ ถ้าพล็อตไม่ลึก มันจะกลายเป็นนิยายเบาสมองไปเลย

ทีนี้มาคอมเมนท์เรื่องนี้ น้องไอติมนี่เป็นอะไรที่น่าเอ็นดูจริงๆครับ! (หัวเราะ) คือภาษาต่างประเทศไม่แข็งแรง พอถึงช่วงที่น้องกระอักกระอ่วน เราอ่านแล้วก็ เอ้อ รีแอคชันกับคำพูดคำจาก็ช่างคิดดี น่ารักดีครับ แถมที่ทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูจริงๆก็คือความใสซื่อแต่มีจิตใจมุ่งมั่นนี่แหละ คืออยากจะเสียตัว กูต้องได้เสีย! โอย อะไรจะมุ่งมั่นปานนั้นครับ (หัวเราะ) แถมถ้าจะไม่สนใจก็คือไม่สนใจจริงๆ (อย่างที่เห็นใน Prologue) ผมค่อนข้างชอบนิสัยแล้วก็คาแรกเตอร์ของน้องนะครับ ถ้ามีน้องอย่างนี้นี่รักตาย (หัวเราะ)

ว่าแต่ไอติมมีเซนส์มองความแซ่บ (เอ้อ พูดเองก็กระดากปากแฮะ ฮะๆ) ของหนุ่มๆเหรอครับ? แหม๊ ถ้าแค่มองแล้วรู้เลยว่าแซ่บไม่แซ่บ น้องเดนนี่ข้างตัวนี่ไม่ใช่ระดับคู่แข่งแซ็คเลยเรอะครับ (หัวเราะ) ผมชอบตัวละครเดนนี่นะครับ ดูน่าสนใจดี (ผมมาช่วยคุณเจ้เป็น Pro-supporter ตัวละครนี้ทันไหม? (หัวเราะ)) ตอนแรกก็ว่าอยากให้คู๋กับไอติมให้แซ็คหึงเล่นๆเหมือนกัน เพราะหมอนี่ดูท่าทางไม่แพ้พระเอกเราเลยเหอะ! ลูกครึ่งซะอย่าง จะพี่นิกกี้ค่ายไหน น้องเดนเราก็ต้องสู้สิครับ! ถ้าแพ้แซ็คขึ้นมานี่ผมไม่ยอมนะเว้ย (หัวเราะ) ซึ่งที่ประทับใจตัวละครนี้มากๆ เพราะพอเห็นหลายๆบทสนทนาแล้วก็รู้สึกว่า เดนนี่นี่เป็นคนที่รักไอติมอย่างใจจริง เป็นเพื่อนแท้ที่ดี หวังดีและคอยช่วยเหลือโดยที่ทุ่มสุดตัวไม่คิดอะไร (ถึงขนาดยอมจะเปิดซิงให้ด้วย! (หัวเราะ)) แถมมีมุมมุ้งมิ้งกันแบบสองคนแนวๆจิ้มหน้าผากให้หน้าหงายเพื่อให้เลิกเพ้อเจ้อด้วย ดูเค้ารักเพื่อนจริงๆ ซึ่งไอ้โมเมนต์มุมมุ้งมิ้งแบบนี้ ไม่ควรจะมีกับเพื่อนหลายๆคน มันควรจะพิเศษกับเฉพาะใครบางคนเท่านั้น ซึ่งพอผมเห็นโมเมนต์เดนนี่กับไอติมที่น้องมักโดนดุบ้าง บ่นอย่างเอือมๆบ้าง ก็รู้สึกว่าเออ มันเป็นอะไรที่น่าเอ็นดูดีครับ

แนะนำเพิ่มนิดนึง พยายามอย่าตัดเป็นเปอร์เซนต์แล้วทยอยลงครับผม อารมณ์นวนิยายของคุณเจ้ต่อเนื่องดีมาก เพราะฉะนั้น ลงทีเดียวเป็นตอนๆเลยดีกว่าครับ นานหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะมันจะได้มีจังหวะได้พักหายใจ ให้คนอ่านได้ตกผลึกสิ่งที่อ่านไปในตอนนั้นๆ แล้วก็ได้มีเวลาให้ได้เชียร์หรือจะด่าใครอะไรก็ว่าไป เป็นการคุมโทนเรื่องไปในตัวด้วย

ปล. อ่านแล้วก็รู้สึกว่า เอ้อ น้องไอติมนี่มีหลายคนรอบตัวที่ดูเข้าตากรรมการเหมือนกันนะครับ (i.e. Robert aka Robot สำหรับไอติม) ถ้ามีฉากพิเศษที่น้องจะโดนบรรดาหนุ่มๆที่น่าสนใจนั้นแซ่บ ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันนะ (หัวเราะ)

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ค้างมากก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด