มาแว้วววววววววว
ตอนจบ“ปาก หรือ มือ”
“จะปากหรือมือหรืออะไรก็ทำๆ ให้มันเสร็จไปเถอะ!” ผมกัดฟันพูดใส่คนที่ยังมีอารมณ์มาต่อรอง
“ปาก หรือ มือ”ตอนนี้คนถามเริ่มมีลูกเล่นมากขึ้นเมื่อจัดการใช้นิ้วโอบรัดมันไว้ยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่
“มือ!” ผมตอบไปแบบส่งๆ ให้มันจบๆ ไป แต่มือที่สัมผัสผมอยู่นั้นกลับเปลี่ยนตำแหน่งใช้นิ้วกดเข้าไปในช่องทางเข้าแทนที่จะ ปลดปล่อยผม
“ไหนว่ามือ หรือ ปาก ทำไมกลายเป็นนิ้วได้ล่ะ!”ผม ที่กำลังจะหมดความอดทนโวย
“ก็เลือกผิดไง...เพราะ...ฉันเดาว่าปากและ....นิ้ว” คนที่แกล้งผมนั้นปล่อยมือแล้วใช้ปากตัวเองดูดสิ่งนั้นเข้าไปแทน แล้วเริ่มขยับเข้าออก พร้อมกับนิ้วที่อยู่ในยังวนคว้านในตัวผมเรื่อยๆ
“อ่ะ...อ้ะ อื้ม...อื้อ..อึก+++”ผมรู้สึกได้ถึงการปลดปล่อย น้ำสีขาวขุ่นที่ไหลล้นออกมาจากปากคนด้านล่างนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าใบหน้านั้นมันช่างเซ็กซี่เหลือจนแทบจะทนไม่ไหว...
และเป็นอีกครั้งที่ผมไม่รู้ตัวว่าตัวเองก้มลงไปหาใบหน้านั้นเองตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จูบรสคาวนั้นคลุ้งไปทั่วปากเสียแล้ว...
“ตรงพื้นก็ดีนะ เปลี่ยนบรรยากาศ แต่ฉันไม่ชอบเลยมันแข็ง”คนที่ถูกผมจูบนั้นเอ่ยมาอย่างขำๆ
“งั้นลุกไปที่เตียงกัน...”ผมฉุดร่างคนที่ผมกำลังทับอยู่ขึ้นมา แต่แล้วผมก็เป็นฝ่ายถูกผลักลงบนโต๊ะทำงานในห้องแทน ดีนะที่เก็บของไปหมดแล้ว
“ถ้าคิดจะอยู่ข้างบนยังเร็วไปอีกสิบปีนะไอ้หนู” คนที่อายุมากกว่าผมนั้น แต่ร่างกายยังแข็งแรงดีอยู่เนื่องจากทำงานไร่เองทุกวันเอ่ยขึ้น แล้วก็ถอดเสื้อเชิ้ตที่ตัวเองใส่ทำงานออกโชว์กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แม้แต่ของผมยังเทียบไม่ติด พร้อมจะกดผมหลังแนบลงกับโต๊ะ
“ห้ามฉีกเสื้อ!”ผมพูดดักคนที่เริ่มเอามือมาจับคอเสื้อผม
“ทำไมล่ะ? คิดว่าเธอชอบเสียอีก” คนที่คิดจะฉีกเสื้อผมเอ่ยขึ้นอย่างเสียดาย
“ใครมันจะไปชอบกัน! บ้ารึเปล่า? อีกอย่างผมเก็บเสื้อผ้าไปเกือบหมดแล้วถ้าคุณฉีกเสื้ออีก แล้วผมจะเอาอะไรใส่”ผมถามอย่างหงุดหงิด
“งั้นเดี๋ยวฉันซื้อใหม่ให้ อยากได้อีกกี่ตัว ฉันก็จะซื้อให้” นั้นไงมีการต่อรองอีกแล้ว
“ไม่ ยังไงก็ไม่ ถ้าคุณอยากให้ผมถอดด้านบนคุณก็ต้องปลดกระดุมเสื้อผมดีๆ แต่ถ้าจะทำแค่ด้านล่างให้มันเสร็จๆ ไม่ต้องถอดก็ได้นะ” ผมยื่นคำขาด
“ก็ได้ ก็ได้ฉันจะ‘ปลดกระดุม’ให้แบบดีๆ เลยก็ได้” แล้วคนที่อยากฉีกเสื้อนั้นก็ต้องมาเป็นฝ่ายปลดกระดุมเสื้อผมให้แบบดีๆ ? พอกระดุมสองเม็ดหมดผมถูกปลดออกนิ้วนั้นเลื่อนผ่านผิวอย่างเย้ายวนไปยังเม็ดที่สาม พอเม็ดที่สามถูกปลด คนแกะกระดุมก็ใช้ริมฝีปากจูบลงหน้าอกผมพร้อมกับใช้ฟันขบเบาๆ จนเป็นรอยแดง
“อ่ะ...ไหนว่าจะถอดดีๆ” ผมกัดฟันพูด
“ก็นี่ไงถอดดีๆ ปลดกระดุมให้ชนิดเม็ดต่อเม็ดเลยนะ เห็นไหมไม่เห็นมีกระดุมหลุดเสื้อผ้าขาดเลย”จอมแกล้งตัวดีนั้นปลดกระดุมเม็ดที่สี่ออกจากเชื่องช้า แล้วแหวกเสื้อผมออกจนเห็นมัดกล้ามตรงหน้าอกผม แล้วก็เริ่มแผนการยั่ว(โมโห) ผมโดยการใช้ลิ้นวนรอบๆ ตรงหัวนมผม ส่วนมือที่เพิ่งปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายของเสร็จ ก็มาลูบอีกข้างที่ยังว่างอยู่
“อ่ะ...”ผมที่โดนทั้งนิ้วบีบ และฟันกัดพร้อมกันนั้นสะดุ้งตื่นจากการเคลื้อม
“ไม่ได้พกเจลมาด้วยสิ...”คนที่บ่นหาของที่ไม่ได้เอามาอย่างหัวเสีย นั้นเอาลิ้นตัวเองสอดเข้ามาในปากให้ผมเลีย แล้วนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของผมนั้นก็บดคลึงตรงส่วนทางเข้าให้พร้อมที่จะต้อนรับการรุกรานที่พยายามเลี่ยงมานาน
“เอามือของเธอช่วยปลุกของฉันด้วยสิ” คนที่ยืนให้ผมที่กำลังนั่งจ้องอยู่ออกคำสั่งที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ตามเคย มือของผมเลยต้องล้วงเอาสิ่งที่อยู่กางเกงนั้นออกมาพร้อมกับใช้มือเร่งเร้าให้ของที่ยังไม่ตื่นนั้นลุกขึ้นสู้
“ได้แล้ว”คนที่โดนผมปลุกอารมณ์ใช้มือดันอกผมให้ลงไปนอนกับโต๊ะแล้วก็ดันขาผมให้ถ่างออก เพื่อเปิดทางเป็นการต้อนรับการกลับมาอีกครั้ง
“อ้ะ อัก...เจ็บ”ผมอดบ่นไม่ได้เมื่อเจ้าสิ่งนั้นเข้ามาในตัวผมได้ครึ่งทางแล้ว
“ก็เพราะไม่ยอมทำบ่อยๆ ไงมันถึงเจ็บ”พูดจบคนที่ตำหนิผมก็ดันเข้ามาจนสุด
“ยะ...หยุดทำไม...ต่อสิ”ผมนั้นกัดฟันพูด เมื่อคนที่เข้ามากลับหยุดเฉยๆ เสียอย่างนั้น
“ก็ข้างในเอกที่ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน...คิดถึงจริงๆ”พอรำลึกความหลังเสร็จสะโพกของผมก็เริ่มถูกกระตุกเมื่อจังหวะรักนั้นเริ่มต้นขึ้นอย่างรุณแรง
“อ่ะ อ้ะ อ่ะ อัก”ผมนั้นที่กำลังโดนดนตรีรักโหมกระหน่ำ ต้องกัดแขนตัวเองเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงเดี๋ยวถ้ามีใครเดินผ่านมาแถวนี้จะได้ยินกันหมด แล้วจะให้ผมเอาหน้าไปทำงานได้ที่ไหน และยิ่งคนเจ้าเล่ห์นั้นไม่ยอมปล่อยให้ผลาญโอกาส ยิ่งผมพยายามกลั้นเสียง แรงกระแทกนั้นก็ยิ่งมากขึ้นจนผมแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่จะให้เอาแขนออกน่ะเหรอฝันไปเหอะ!
“เป็นอะไรเอก...ทำไมถะ...ถึงกัดแขนตัวเองล่ะ หรือว่า..ฉันแรงไม่พอ...”คนที่บอกว่าตัวเองแรงไม่พอที่จัดการกับผมจนโต๊ะแถบจะล้มลงอยู่แล้วพูดกวนประสาท แต่ใครจะไปยอมตอบ!
“งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ...”คนที่เล่นแรงๆ ตลอดอยู่ๆ ก็หยุดลงแล้วดึงตัวผมขึ้นมารับจุตพิตรักร้อนๆ ที่ราวกับไฟกำลังโหมกระหน่ำเราทั้งคู่
“อ่า อ้า อัก ...อื้อ”แล้วคนชอบแกล้งก็เล่นทีเผลอเมื่ออยู่ก็ดันเข้าออกรัวๆ สะอย่างนั้น ผมที่เผลอหลุดปากต้องกัดฟันแน่น เมื่อรู้ว่าจุดนั้นกำลังจะมาถึง
“อ้ะ อ่า!!!...แฮกๆ”เราสองคนหอบหายใจพร้อมกันด้วยความเหนื่อย เมื่อของเหลวสีขาวของผมกระฉูดออกมาใส่คนที่ผมกอดอยู่เป็นที่ยึด พร้อมกับความรู้สึกแฉะๆ จากข้างในที่ออกมาถึงข้างนอก ให้ตายสิเสร็จแล้วผมต้องมาทำความสะอาดโต๊ะนี่เองใช่ไหม?
“ขออยู่แบบนี้อีกแปปนึงนะ”คนที่ยังอยู่ข้างในตัวผมกระซิบอ้อน จนผมไม่กล้าขัดใจ
“ตอนนี้ก็ทั้งยืน ทั้งนั่ง ทั้งนอน ‘เล่น’ ในห้องผมแล้วพอใจรึยัง”ผมถามขึ้นเมื่อคนชอบแกล้งตอนนี้กำลังนอนเล่น(จริงๆ)อยู่บนเตียงผมโดยไม่ขออนุญาต
“ไม่รู้สิช่วยดึงหน่อย...”คนที่นอนยกแขนขึ้นขอให้ผมช่วยดึงขึ้นจากที่นอน ผมก็ยอมทำตามเพราะมันจะได้จบๆ เสียที แต่กลายเป็นว่าหลงกลโดนดึงมานอนที่เตียงด้วย
“ฉันยังไม่ได้นอน ‘เล่น’ บนเตียงเลยนะ...คนที่ทั้งนั่งนอนยืนน่ะมันเธอต่างหากเอก แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย...เธอจะเปรียบคนแก่อย่างฉันเหรอ” คนที่บอกว่าโดนเอาเปรียบนั้นกอดผมสะแน่นจนถ้าจะเรียกว่าแรงของคนแก่นี่มันก็ปิศาจชัดๆ แถมไอ้ลิ้นอุ่นๆ ที่จงใจลูบเบาๆ ที่หลังหูผมนี่มันอะไรกัน
แล้วไอ้มือซุกซนที่ลูบๆ ไล้ๆ แผนหลังผมแต่มันชักเลื่อนต่ำลงไปทุกที ทุกทีแบบนี้มันหมายความว่ายังไง แล้วไอ้ความรู้สึกที่เหมือนกับของๆตัวเองกำลังสัมผัสกับของที่เริ่มตื่นตัวจากคนที่นอนเฉยๆ นี่มันเล่นเอาผมจะบ้าอยู่แล้วนะ
“รอบสุดท้ายห้ามมีตุกติก” จนแล้วจนรอดผมก็ไม่เคยชนะเลยใช่ไหม???!!!
“ไม่เคยอยู่แล้ว”คนที่บอกว่าไม่เคยตุกติกพูดโกหกหน้าตายชัดๆ
แล้วคนๆ นั้นก็ผลักผมลงไปนอนด้านล่างพร้อมกับจับขาผมออกซึ่งตอนนี้มันก็เป็นไปอย่างง่ายดายไปเสียแล้ว...แล้วสัมผัสที่เริ่มจะคุ้นเคยนั้นเริ่มดันช่อทางเข้าที่เหมือนจะทรยศผมที่จะตอบรับกับบุกรุกอย่างดีเสียจริงๆ
และเพลงรัก?ของเราสองคนก็เริ่มบรรเลงอีกครั้ง....
“พี่เอกช่างทาสีไม่มาทำไง”
“มึงก็ไปตามช่างร้านใหม่เลยงานด่วนนะโว้ยไม่ต้องง้อ”
“อ้ายเอกก๊อกน้ำชั้นสามมันฮั่ว”
“มึงก็ไปตามพี่กลดิว่ะจะมาบอกกุทำไม”
แล้วก็สารพัดจะพี่เอก อ้ายเอก ...ตอนนี้ทุกท่านคงสงสัยใช่ไหมครับว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าคนงานก่อสร้าง ที่ตอนนี้เลื่อนขั้น? เป็นหัวหน้าพนักงานฝ่ายดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมของรีสอร์ตภูตะวันในจังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วมันก็ต้องย้อนกลับไปในเรื่องวันนั้นแหละครับ....
“อ้ะ...อื้ม...ย...อย่าแรงสิ...คนมันเจ็บนะ”ผมนั้นที่เผลอตัวยอม นอนเล่น ต่ออีกยกนั้นลืมตัวร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ก็คิดว่าชอบแรงๆ สะอีก” คนที่แกล้งผมกระซิบข้างหู
“อ้ะ...จะ..ออกแล้ว...ยะ...เพิ่งหยุดสิ” ผมเอ็ดคนที่ตอนแรกทำสะแรงแต่อยู่ๆ เบาลงตรงจังหวะสำคัญได้
“อ้า+++”เมื่อคนที่คุมเกมรู้ตัวก็ใส่เต็มแรงกระแทกแล้วค้างอยู่ตรงนั้นจนผมรู้สึกได้ถึงแรงฉีดของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างในผมจนล้นออกมา
พอเสร็จยกนี้ท้องผมก็ร้องคนที่ได้ยินก็เลยไม่เซ้าซี่ต่อแต่กลับทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแต่งตัวให้ผมแล้วบอกว่าจะออกไปซื้อข้าวมาให้ แต่พอเปิดประตูออกไปเท่านั้นแหละก็มีถุงข้าวต้มสองถุง?จากลูกน้องที่มันยังอุตส่าห์เป็นห่วงซื้อข้าวต้มมาให้ผม พร้อมกับยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อ? และโน้ตแผ่นนึงที่พับไว้
‘พอดีผมอดเป็นห่วงพี่ไม่ได้กลัวเป็นอะไรไป เลยกะว่าจะแวะมาดูอาการพี่หน่อยแล้วผมก็ยังเห็นว่ารถพ่อเลี้ยงยังไม่ออกไป แต่ผมไม่รู้ว่าพี่...อยู่ยังไงก็อย่าหักโหมมากนะครับ ถ้าโต๊ะพังพี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเพราะมันก็เก่าแล้วหายไปซักตัวนายคงไม่รู้ รับรองเรื่องนี้พวกผมไม่บอกใครเชื่อใจได้’
แล้วทำไมมันกลายเป็น พวกผม ไปได้????
“เพราะคุณคนเดียวคุณตะวัน! แล้วแบบนี้จะให้ผมเอาหน้าที่ไหนไปเจอลูกน้องห๊า! งานนี้คุณต้องรับผิดชอบ” ผมที่ตอนนี้เจ็บเอวแทบลุกไม่ขึ้นแต่สงเสียงด่าได้ แต่ไอ้คนที่อ่านจดหมายแล้วยังหัวเราะขำได้นี่มันน่าโมโหจริงๆ!
“ได้ตกลงฉันจะรับผิดชอบชีวิตเธอเองนายเอกลักษณ์”
และนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมได้กลายมาเป็นหัวหน้าพนักงานฝ่ายดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมอยู่รีสอร์ต เป็นพนักงานไปกลับจากไร่ของพ่อเลี้ยงตะวัน...
------------------------------------------------------------------
จบบริบูรณ์เถอะ
ช้าไปวันนึงแต่ก็รีบเอามาลงให้นะคะ^^
ฝากhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32445.0
รักผิดรูปที่ตอนนี้เนื้อหากำลังเข้าสู่ช่วงกลางเรื่องแว้ววววววนะคะ^^