Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)  (อ่าน 12579 ครั้ง)

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 25หน้า2 (08/06/60)
«ตอบ #60 เมื่อ08-06-2017 13:47:16 »

โรคจิต25 รอยรัก

Part รัน

ตื่นขึ้นมาหลังจากผ่านสงครามรักครั้งแรกระหว่างผมกับพี่ใหญ่ ทำไมถึงได้เรียกว่าสงครามรู้ไหม ก็ผมโดนจัดหนักจัดเต็มเลยน่ะสิ ถึงจะมีความรุนแรงอยู่ในทุกจังหวะ แต่โชคดีที่พี่เขาเตรียมความพร้อมให้ผมได้ดีมากทำให้sexครั้งแรกถึงจะมีความเจ็บ แต่ก็ประทับใจมากเช่นกันแต่ตอนนี้ ผมระบมไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลยโดยเฉพาะที่ก้น ไม่ต้องสืบเดี้ยงไปเรียบร้อยแล้ว หันไปมองข้างตัวไม่มีพี่ใหญ่นอนอยู่หายไปไหนนะ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมา อยากจะเข้าไปอาบน้ำเต็มแก่

'แกร๊ก'

ผมมองไปตามเสียงประตูที่เปิดขึ้น พี่ใหญ่เดินยิ้มแฉ่งเข้ามาในห้อง อื้อหือ ออร่าความหล่อฟุ้งกระจาย หน้าใสเด้งขึ้นมาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ผิดกับผมลิบลับ

"ตื่นแล้วเหรอที่รักเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม"

" -///////- "

หุ้ย เขินจังทำอะไรไม่ถูกมือไม้เกะกะ ลิ้นพันกันวุ่นไปหมด มองหน้าสามีหมาดๆ แล้วใจสั่น (อ๊ากกกก สามี แหมช่างคิดได้ไม่อายสมองตัวเองเลย) ก้มหน้าก้มตานั่งเฉยๆไปนี่แหละ

"รัน โอเครึเปล่า เจ็บมากเหรอมีไข้ไหมขอพี่ดูหน่อย"

แล้วพี่ใหญ่ก็นั่งลงข้างๆ พร้อมใช้หลังมือขึ้นมาสัมผัสหน้าผากวัดอุณหภูมิร่างกายของผม

"...ไม่ได้เป็นอะไรครับ เจ็บนิดหน่อยไม่มีไข้หรอก"

พยายามเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าไม่สบายอะไรหรอก แต่เขินตัวจะแตกอยู่แล้วพ่อคู้ณ

"อืม พี่สั่งข้าวต้มมาเดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้นะ"

แล้วพี่ใหญ่ก็หอมแก้ม ฟอดใหญ่ๆ แล้วส่งยิ้มหล่อกระชากวิญญาณ ลุกเดินออกจากห้องไป โอ้ยวันนี้สายตาเป็นอะไรไปนะ มองพี่ใหญ่หล่อเซ็กซี่กว่าทุกวันเป็นเท่าตัวเลย ความคิดเริ่มฟุ้งซ่าน ภาพร่วมรักที่พึ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงประดังเข้ามาในหัว  แล้วพี่ใหญ่ก็กลับเข้ามาพร้อมถาดข้าวต้มหอมๆ น่ากินชะมัด (คนถือข้าวต้มนะ)  แค่กๆ

"มันอุ่นพอทานได้แล้ว เดี๋ยวพี่ป้อนนะครับ"

"ไม่เป็นไรเดี๋ยวรันทานเอง"

"ไม่เอาพี่อยากป้อนข้าวเมียตัวเองหน่อย ทำเขาลุกแทบไม่ไหวต้องดูแล"

" -//////-  พูดอะไรของพี่เนี่ย"

ด้วยความเขินระดับแม็ก  จึงส่งฝ่ามือฟาดเข้าไปที่ไหล่พี่ใหญ่หนึ่งป๊าบ

"โอ้ย คนดีตีพี่ทำไมเนี่ย เดี๋ยวข้าวต้มหกนะ"

"ก็พี่อย่าพูดแบบนี้สิ"

"แบบไหนเหรอครับ หืม"

"ก็แบบที่กำลังพูดอยู่เนี่ยแหละ ไม่ต้องมาทำหน้ายิ้มใส่เลย เจ้าเล่ห์"

"โอเคๆ พี่ไม่ยิ้มก็ได้ แต่ให้พี่ป้อนนะพี่อยากป้อน"

ผมนั่งทานข้าวต้มที่พี่ใหญ่ป้อน โดยไม่อิดออด ยังกะราชา พี่ใหญ่น่ารักรู้งานดีที่สุดทำเราเจ็บก็ต้องดูแลสิใช่มะ เมื่อทานข้าวต้มหมด พี่ใหญ่ก็เอายาแก้ปวด และแก้อักเสบมาให้ผมทาน ของไอ้คิงทั้งนั้น

"รันลุกไปอาบน้ำไหวไหม ให้พี่ช่วงพยุงรึเปล่า"

"ไหวครับไหว"

ผมค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง มีอาการเจ็บเสียดปานกลาง ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ไหว แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช้สบู่ล้างก้นชัวร์ๆ กลัวแสบไปอีก

"รัน เอาน้ำยานี้ไปล้างก้นนะ อย่าใช้สบู่"

หืมมมม พี่ใหญ่ยืนขวดน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นมาให้ผม เป็นงานขนาดนี้เชียวแสดงว่าเมื่อก่อนโชคโชนไม่ใช่เล่น อดไม่ไหวที่จะจิกกัดเบาๆ

"รู้ดีจังเลยนะครับ สงสัยเคยทำบ่อย"

"เอ่อ.....คือเมื่อก่อนก็มีบ้าง แต่พอมาหลงรันเนี่ย ไม่ได้ทำกับใครเลย"

"จริงเหรอ แอบชอบเค้ามาตั้งนานเป็นปีๆ ไม่เคยวอกแว๊กไปจิจ๊ะกับใครเลยเหรอ"

"ไม่เคยครับ อยากก็...ช่วยตัวเองแล้วคิดถึงหน้ารันอย่างเดียว"

ฉ่าาาาาาา

"ไปอาบน้ำละ เข้าตัวตลอด"

"ให้พี่ไปช่วยอาบไหม"

"ม่ายยยยยย"

"หึหึ"

เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ ผมก็เจอเดจาวูอีกครั้ง รอบก่อนที่ไปเที่ยวทะเล ก็ตกใจกับรอยดูดที่คอไปแล้วครั้งนึง แต่วันนี้ มันต่างจากครั้งก่อนเอามากๆ ทั้งตัวผมแทบไม่มีที่ว่างเหลือเลย มีแต่รอยที่พี่ใหญ่ทำไว คอนี่ไม่ต้องพูดถึง เป็นสิบๆรอย ไล่ลงมาหัวไหล่ หน้าอกแขน หน้าท้อง แม้แต่ขาข้างซ้ายของผมก็มีแต่รอยดูด รอยฟันลายพร้อยเต็มไปหมด โอ้ยอยากจะบ้าพี่แม่งบ้าสุดๆ ผมมองตัวเองในกระจกเหมือนคนเป็นโรคอะไรสักอย่างเลย ทั้งตัวมีแต่รอยสีแดงๆ มิน่าเล่าผมถึงได้รู้สึกเจ็บๆตามเนื้อตามตัวไปหมด ก็ห้อเลือดซะขนาดนี้

ผมอาบน้ำชำระร่างกาย รู้สึกกระชุ่มกระช่วยขึ้นเล็กน้อย ตามเนื้อตัวรวมถึงก้น ก็คลายปวดลงไปบ้าง คงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ที่ทานเข้าไป เมื่ออาบน้ำเสร็จผมจึงเดินออกมา เห็นพี่ใหญ่นั่งรอผมอยู่บนเตียงพร้อมกับหลอดครีมอะไรสักอย่าง

"รันยังไม่ต้องใส่เสื้อผ้านะ มาทาครีมก่อน"

"ครีมอะไรเหรอครับ?"

"ครีมทาแผล"

"แผลที่ไหนตามตัวน่ะเหรอ ดูๆ ดูผลงานตัวเอง พี่ดูดอะไรมากมายขนาดนี้ ตัวรันไม่มีที่ว่างเหลืออยู่เลย ดูคอสิครับ พรุ่งนี้จะเอาอะไรปิดบังได้บ้างเนี่ย ไปทำงานมีหวังโดนเพื่อนล้อแน่ๆเลย แขนก็ด้วย ขาก็ด้วย ทำรอยขนาดนี้ตุ๊กแกเจอรันยังอายอ่ะ"

"ฮ่าฮ่า โอเคๆ พี่ขอโทษครับ พี่อดใจไม่ไหวทั้งขาวทั้งหอม ดูดีไปหมดทั้งตัวขนาดนี้ ไม่ให้ทิ้งรอยทำไม่ได้จริงๆ คราวหน้าพี่จะระวัง ให้น้อยลงโอเคไหม แต่ตอนนี้เดินมาหาพี่เร็วทายาก่อน"

ผมเดินส่งค้อนตาเหลือกไปให้เขา ลงนั่งข้างๆแบบตะแคงก้นเล็กน้อย

"นอนคว่ำลงไปเลย"

"นอนคว่ำ คว่ำทำไมครับ ไม่ได้จะทายาตามตัวเหรอ"

"ป่าว พี่จะทาที่ก้นให้ต่างหาก"

"ห๊ะทาที่ก้น โนววววววว ไม่เอาๆ ไม่ทาที่ก้น"

"ทาสิต้องทา ครั้งแรกๆ ร่างกายยังไม่คุ้นเคย มีบาดแผลต้องทายานะรู้ไหม ไว้ชินเมื่อไหร่ ค่อยเลิกทา"

"งั้น....งั้นก็เอายามา เดี๋ยวรันทาเอง"

"ถนัดเหรอ มองก็ไม่เห็น"

"ไม่เอาๆ จะทาเอง"

"ไม่ได้ นอนลงไปเดี๋ยวพี่ทาให้ อย่าดื้อ ไม่ต้องอายหรอกพี่เห็นหมดทั้งตัวแล้ว"

" -//////-  พี่ใหญ่อ่า ให้รันทาเองไม่ได้เหรอ เห็นหมดแล้วไง ก็อายอยู่ดีนั่นแหละ"

"ให้พี่ทาให้เถอะนะ แป๊บเดียว จะได้หายไวไว"

พี่ใหญ่พูดเสร็จ พลิกตัวผมลงไปนอนคว่ำ เอาวะอยากทานักก็ทาไปเลย ไม่ทำให้ชินตอนนี้ จะไปชินเอาตอนไหน อยากทาอยากถูอยากทำไรตามสบายเลย ไอ้รัน อายจนหน้าหมดความรู้สึกไปแล้ว

พี่ใหญ่เอาเนื้อครีมมาป้ายที่ร่องก้นของผม อื้ออออ การที่มือคนอื่นมาแตะโดนจุดอ่อนไหวของเราเนี่ย มันขนลุกบอกไม่ถูกจริงๆนะ ถึงจะแค่ทายาก็เถอะ จั๊กกะเดี่ยมเป็นบ้า

"คนดี อย่าทำหน้าแบบนั้น"

"หือออ แบบไหนครับ"

"ก็แบบที่กำลังทำอยู่ตอนนี้นี่ไง จะยั่วพี่เหรอ"

"อื้อ ไม่ได้ยั่วสักหน่อย พี่ก็รีบๆทาสิวนๆอยู่ได้จั๊กจี๋ รันง่วงด้วยอยากจะนอนแล้ว"

"เสร็จแล้วครับ ทำหน้ายั่วๆใส่พี่แบบนี้ฝากไว้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะมาเอาคืนแน่นอน"

"โห่ยยยย หื่นเองอย่ามาโทษรันนะ เสร็จแล้วก็ลุกเลย จะใส่เสื้อผ้านอนแล้ว"

ผมต้องทนเจอลูกอ้อน ลูกหื่นของพี่ใหญ่ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ ทุกวันนี้หัวใจผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ตลอดเลยเมื่อได้อยู่กับเขา

ผมตื่นมาทำงานในวันใหม่ ด้วยสภาพที่ไม่เต็มร้อยนัก อาการเจ็บปวดยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง ถึงจะไม่มากก็เถอะ วันนี้ผมติดกระดุมเสื้อทุกเม็ด ปกคอเสื้อตั้งตรงชิดติดคอมาก รอยจูบที่ส่วนอื่นไม่มีปัญหาอะไรเพราะอยู่ในรมผ้าทั้งสิ้น แต่ไอ้ที่โชว์เด่นหลาที่คอนี่สิ คิดหนักส่วนไหนที่แพมออกมาก็ใช้พลาสเตอร์แบบใสแปะไป

"ไอ้รัน แฟนขาโหดมึงเป็นไงบ้างวะ"

"อือ ก็ดีพักรักษาแผลอยุ่ที่ห้อง ยังทำงานไม่ได้"

"เดี๋ยวทุกคน หยุดเดิน หยู๊ดดด"

"อะไรของมึงไอ้คิง"

"มึงสองตัวกรุณาโฟกัสที่ต้นคอไอ้รัน"

"เออรันคอมึงไปโดนไรมาแปะพลาสเตอร์เต็มเลย"

"โถ่ไอ้อิฐ ไอ้ควายแดกถามโง่ๆ แปะพลาสเตอร์ที่คอจะมีอะไร๊ นอกจากปิดร่องรอยบางอย่างไว้อ่ะดิ ไหนๆมานี่ ขอกูดูหน่อยเยอะขนาดไหนกันเชียว"

"อะไรเล่ามึงเนี่ยอย่าดึงเสื้อกูเดี๋ยวยับ"

"จะแกะกระดุมให้กูดูดีๆ หรือจะให้กระชากบอกมา กูรู้ถ้าที่คอมึงมี ในตัวมึงต้องมี"

"โว้ ไม่เอาไม่ให้ดู ไม่มีไรทั้งนั้นแหละ"

"สะตอ อมพระมาทั้งวัดกูก็ไม่เชื่อ"

ไอ้คิงเพื่อนเลว พูดจบก็จัดการล็อคคอของผมแล้วแกะกระดุมสองเม็ดแรกออกอย่างว่องไว

"โอ้ โห.....มึงๆสองตัวมาดูๆ กูพูดไม่ออก เร็วๆ"

แล้วความลับในตัวผมก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป

"ไหนบอกว่าไปดูแลคนเจ็บไง ไหงโดนคนเจ็บฟาดเรียบมาแบบนี้ล่ะคร๊าบคุณรัน"

"พี่ใหญ่ของมึงแม่งsexจัดแน่นอนกูฟันธง"

"เฮ้ยเพื่อนเราออกเรือนจริงๆแล้วโว้ย"

และคำแซวอีกบลาๆๆที่พวกเพื่อนตัวดีทั้งสามของผม กระหน่ำส่งกันไปมาสนุกปากเลย อืม!เอาที่สบายใจพวกมึงเลยแล้วกันเพื่อน อายกว่านี้ก็เจอมาแล้วคำล้อของพวกมึงคนอย่างไอ้รัน สิวๆโว้ย


ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 26หน้า3 (08/06/60)
«ตอบ #61 เมื่อ08-06-2017 13:50:58 »

โรคจิต26 Special (แมนxคิง)ไม่อยากเป็นเพื่อน

Part แมน

หลังจากที่ผมปล่อยระเบิดลูกใหญ่ใส่คิงไปเมื่อหลายวันที่แล้ว  จนถึงตอนนี้ผมก็ตามเทียวเฝ้าเทียวจิกไม่ให้มันออกไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน

อย่างที่คุณรู้ ผมแอบชอบคิงมานานเป็นปี จากที่เคยไม่ชอบที่มันเป็นเกย์ ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนม ทำให้ผมเห็นมุมมองชีวิตของคิงเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อยจากไม่ชอบก็เริ่มคุย เริ่มทำความรู้จักเริ่มสนิทกันมากขึ้น ทำให้ผมเริ่มรู้ใจตัวเองว่ากำลังคิดกับคิงเกินเพื่อน แต่ผมมันคนปอดแหกไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำว่าชอบออกไปด้วยซ้ำ ทำได้แค่หาเรื่องทาเลาะกับคิงมันไปทุกวัน เพื่อให้ได้ยินเสียงพูดเสียงหัวเราะ ได้อยู่ข้างๆกันแบบนี้ผมก็พอใจ แต่พักหลังๆมานี้คิงดูห่างออกไป พักเที่ยงก็เอาแต่คุยโทรศัพท์ บางเย็นหลังเลิกงาน ก็มีผู้ชายแปลกหน้ามารับบ้าง ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเหมือนเมื่อก่อน ผมรู้คิงมันคงกำลังจะศึกษาใครสักคนอยู่และไม่ชอบเลย กับการที่มันกำลังจะห่างเหินผมออกไปที่ละนิด วันที่ผมรับโทรศัพท์แล้วไล่ผู้ชายของคิงออกจากคอนโด ภายนอกผมดูสนุกกับสิ่งที่ทำ แต่จริงๆแล้วข้างในหัวใจผมมันกำลังร้อนลุ่ม คิดมาเสมอว่าแค่ได้เป็นเพื่อนรักที่อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงผมกำลังหลอกตัวเอง ความโลภผมมีมากเกินกว่าที่จะอยากเป็นแค่เพื่อนกับคิง ผมคิดว่าตัวเองเก็บความรู้สึกมานานเกินไปแล้วและมันไม่มีอะไรดีขึ้น ในเมื่อใจมันไม่รักดี ความใกล้ชิดแค่นี่มันไม่เพียงพอ ผมคงต้องเดินหน้าหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองจริงจังสักที

หลังมื้อเที่ยงของวันศุกร์ที่แสนจะธรรมดา พวกผมทั้งสี่คน พึ่งอิ่มจากการทานกลางวันแล้วมานั่งตบกาแฟกินทิ้งท้ายก่อนกลับเข้าไปทำงาน พวกผมสามคนนั่งดูดกาแฟไปมองหน้ารันไปแบบลุ้นๆว่าการขอไปเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าแผนกคืนนี้ สามีสุดหล่อดีกรีรองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งภาคตะวันออก จะยอมให้ไปไหมไม่ต้องบอกพวกผมก็ทราบดีเรื่องความหวงของพี่ใหญ่ ที่เลี้ยงเพื่อนรันของผมยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมกันเลยทีเดียว

"เฮ้ยยยย"

"ไงมึงสามีสุดหล่อมึงอนุมัติไหม"

"ยังไม่ตกลงเลยว่ะ"

"โอ้ยไอ้ห่า นี่มึงคุยกับพี่เขามาจะครึ่งชั่วโมงได้ละ ยังตกลงกันไม่ได้อีกเหรอ พวกกูแดกกาแฟรอจนน้ำแข็งละลายหมดแก้วแล้วเนี่ย"

"คิงมึงอย่าทับถมกูดิ ก็คืนนี้พี่ใหญ่ติดงานต้องไปดูโรงแรมส่วนที่ขยายเพิ่มที่บางแสน เขาไม่อยากให้กูไปเพราะเขาไม่ว่างไปด้วย"

"เวรเอ้ย มึงก็บอกไปดิว่าไม่ต้องห่วงมีพวกกูสามคนเดี๋ยวดูแลเมียแสนรักของเขาให้"

"ก็บอกแล้ว แต่...วุ้ย ช่างเถอะยังไงกูก็จะไปเรื่องไรจะให้พวกมึงสามตัวไปเที่ยวกันหนุกหนานแล้วตัวเองต้องอยู่เป็นผีเฝ้าคอนโดฝันไปเถอะ"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกว่ะมึง อุส่าห์ได้ผัวหล่ออลังการล้านแปดขนาดนี้ แทนที่มึงจะตามเกาะเขาเป็นตุ๊กแก กลายเป็นพี่ใหญ่เกาะนี่แบบแทบจะสิงร่างมึงอยู่แล้ว"

"เชื่อสิเดี๋ยวอีกหน่อยกูว่าพี่ใหญ่ต้องให้มึงลาออกแล้วไปทำงานเป็นเลขาเอาโต๊ะตั้งไว้ในห้องนั่งจ้องตากับพี่ใหญ่เหมือนในละครแน่เลย ฮ่าฮ่า"

"สนตีนสิครับคุณแมน ผมไม่มีทางลาออกจากที่นี่เด็ดขาด ผมจะอยู่กับพวกคุณตลอดไปเย้~"

"เย้พ่องดิ ไปจัดการเรื่องขอผัวให้เรียบร้อยก่อนเถอะค่อยมาร้องเย้เย้"

"อิฐมึงมารับกูทีดิ เดี๋ยวถ้าพี่ใหญ่ไม่ให้กูไปเขาต้องยึดกุญแจรถ กูจะหนีตามมึงไปเที่ยว"

"เหอ เหอ ไปไกลๆตีน อย่าลากกูไปลงเหวกับมึงเลยคร๊าบ เดี๋ยวพี่ใหญ่สืบรู้ว่ากูเป็นคนพามึงหนีเที่ยว กูจะโดนปาดคอเอา"

"ชิส์ ถ้าไม่มารับ กูนี่แหละจะปาดคอมึงอิฐ"

"กูไม่กลัวมึงไม่กล้าแต่ผัวมึงอ่ะของจริงแน่นอน"

"โว๊ะ คบเพื่อนปอดแหกทั้งนั้นต้องทำใจ ไปทำงานดีกว่า"

"ฮ่าฮ่าฮ่า"

แล้วบทสนทนาที่ร้านกาแฟก็จบลง ในระหว่างที่กำลังเดินกลับเข้าออฟฟิต รันกับอิฐเดินทาเลาะกันนำไปก่อนแล้ว ผมจึงเดินเขาไปกระซิบบอกคิง

"มึงเย็นนี้เดี๋ยวกูไปรับนะ"

"อะไรจะมารับกูทำไมกูมีรถขับไปเองได้"

"เออน่าไปคันเดียวกันเนี่ยแหละจะขับไปทำไมหลายคัน ทางผ่านกูด้วยคอนโดมึงอ่ะเอาตามนี้นะ"

"เออๆก็ได้ดีเหมือนกันคืนนี้จะได้เมาเต็มที่ซะหน่อย ไม่ได้กินมาหลายวันละเปรี้ยวปาก"

"น้อยๆหน่อย อย่าแดกเยอะเมาแล้วเรื้อนจะตายมึงอ่ะ"

"สัดมึงดีตายเมาเรื้อนเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ต้องกลัว คืนนี้กูจะออกไปล่าเหยื่อ กินพอกรึ่มๆเว้ย"

ผมเอามือล็อคต้นคอคิงให้หันกลับมาหาทันที

"โอ้ยไอ้แมนส้นตีนนี่ปล่อยคอกูเจ็บนะเหี้ย"

"กูบอกแล้วไงให้เลิกมั่ว อยากมากมายไรขนาดนั้นวะ"

"อะไรของมึงเล่า ก็กูโสด กูจะไปกับใครก็เรื่องของกู มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่า กูป้องกันตัวเองตลอด โรคไม่ถามหาแน่นอนเพื่อน"

"กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าถ้าอยากให้บอกกูเดี๋ยวกูช่วยมึงเอง ไม่ต้องออกไปหาใคร"

"ไอ้เหี้ยยังไม่เลิกพูดเล่นแบบนี้อีก มึงคิดว่าเพื่อนกับเพื่อนจะมานั่งช่วยเหลือกันได้ด้วยเรื่องแบบนี้หรือไง มึงคิดให้เยอะๆก่อนพูดไอ้แมน กูไม่ตลกแล้วก็ไม่ชอบที่มึงพูดแบบนี้ด้วย ไม่ต้องเสนอตัวอยากจะช่วยกู"

"แต่กูไม่ได้พูกเล่น กู..."

"เห้ย มึงสองตัวผัวเมีย กระซิบกระซากไรกัน จะเข้างานไหมครับ หรือจะลาครึ่งวันไปหาที่นอนคุยกันให้เรียบร้อย กูสองคนจะได้เข้าออฟฟิต กันเลยไม่ต้องรอ"

"ไอ้อิฐตอนเด็กๆแม่ไม่รักหรือไงไอ้กวนตีน ผัวเมียพ่องดิ ทะลึ่งใหญ่โตแล้วเดี๋ยวกูเตะก้านคอแม่ง"

"โว้ โว้ ทำมาเป็นโหด ทีเมื่อก่อนหมาตัวไหนพูดว่ะ ว่าไอ้แมนผัวกู โถ่โถ่ ทำเป็นลืม"

"เชี่ยมึงอย่าให้กูจับได้นะไอ้อิฐ ไอ้หน้าปลาไหล"

"ฮ่าฮ่า"

คิงวิ่งไล่เตะอิฐเข้าไปในออฟฟิต เหลือแต่ผมกับรันที่เดินเข้าไปพร้อมกัน

จริงสินะ เมื่อก่อนยังเห็นยัดเยียดความเป็นผัวให้ผมอยู่เลย ที่พอจะเอาจริงบ้างเสือกหนี ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะไอ้คิง

21.00น. ณ ผับแห่งหนึ่ง

ตอนนี้พวกผมรวมกับเพื่อนในแผนก สิบกว่าชีวิต เข้ามานั่งจิบเหล้าเคล้าเบียร์ กันเรียบร้อย ไอ้รันจนแล้วจนรอดก็สามารถกล่อมแฟนมันจนเขาให้มา ส่วนไอ้คิงวันนี้เสื้อผ้าหน้าผม มาเต็ม มันเป็นผู้ชายที่เรียกว่าหล่อมากคนนึงได้แบบไม่ต้องอายปาก ความสูงที่ไม่เป็นรองใคร หน้าตาที่ออกไปทางขาวตี๋ หุ้นไม่ผอมและไม่หนาจนเกินพอดี เรียกได้ว่า ดูดีไปทั้งตัวไม่แปลกใจที่ทั้งหนุ่มน้อยสาวน้อย คอยวิ่งแจ้นเข้ามาหามันอยู่เสมอๆ ขนาดเมื่อก่อนตอนที่ผมรู้จักคิงกับรันใหม่ๆ ยังนึกว่ามันเป็นผัวเมียกันซะอีก ที่แท้ก็เป็นขุ่นแม่ทั้งคู่ กินกันเองไม่ได้ วันนี้ผมเลยนั่งประกบไอ้คิงเต็มที่ ถึงมันจะออกปากไล่ บ้างไรบ้างผมก็หน้ามึนทำเป็นไม่สนใจ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีกินเหล้าคุยเต้นกันตามประสา จนเวลาล่วงเลยไปเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เพื่อนในแผนกหลายคนขอตัวกลับกันไปบ้าง จึงเหลืออยู่ที่โต๊ะแค่6-7 คนไม่นานสวรรค์ของรันมันก็จบลงเมื่อพี่ใหญ่มารับกลับถึงที่ แถมหวิดจะมีเรื่องกับหัวหน้าแผนกอีกต่างหากดีที่รันลากคนของมันออกไปก่อน หลังจากที่รันกลับไปแล้ว งานเลี้ยงก็เหมือนจะจบลงโดนปริยาย ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับส่วนผมน่ะเหรอ ก็ต้องลากไอ้ตัวดีกลับเหมือนกัน

"แล้วบอกว่าจะไม่เมานี่อะไร แทบจะเลื้อยกลับขึ้นรถอยู่แล้ว"

"อ้ายแม๊นนนน กูม่ายเมานะเว้ยฟังรู้เรื่องนะเมิง กูไม่ช่ายงูจะได้เลื้อยกลับนะสาด"

"เออไอ้คนไม่เมา ขึ้นรถไปเลยไม่ต้องพูดมาก"

กว่าจะพามันขึ้นมาถึงเตียงได้เนี่ย เหนื่อยแทบลาก

"ไอ้คิง มึง ไปอาบน้ำก่อนจะได้สร่างเมาเร็ว"

"อื้อ ไม่อาวกูจะนอน"

"ลุกสัดไปอาบน้ำอย่ามาหมกเหม็นเหล้าสกปรก"

"ม่ายยยย"

ด้วยความรำคาญ ผมจึงจับมันแก้ผ้าให้เรียบ ถึงจะใจเต้นตึกตักมากแค่ไหน ก็ต้องสะกดกลั้นเอาไว้ แบกมันขึ้นมาจากที่นอน ลากไปอาบน้ำ

ซ่าาาาาา

"โอ้ยไอ้เวร กูหนาวเล่นเหี้ยไรเนี่ย ปล่อยกู๊จาไปนอน"

"อาบน้ำล้างหน้าหน่อยมึง จะได้สร่างนอนหลับสบาย"

ผมไม่สนใจอาการต่อต้านพร้อมคำด่าสารพัดที่มันส่งมา รีบอาบน้ำแบบลวกๆให้เสร็จ จึงพามันลุกออกไปแต่งตัว คิงมันนั่งรอผมหยิบเสื้อผ้าให้อยู่ปลายเตียงพร้อมผ้าขนหนูพันรอบเอวเพียงผืนเดียว แม่งเอ้ยเซ็กซี่เข้าไปอีก ผมควรรีบหยิบให้มันใส่แล้ว กลับบ้านไปนอนสักที อยู่ใกล้มันทีไรเหนื่อยหัวใจชิบ

"เอ้ามึงใส่ซะจะได้นอนพักกูจะกลับบ้านแล้วเหมือนกันง่วงนอน"

"จะกลับทำไม....นอนนี่แหละ"

"สร่างเมาขึ้นหน่อยแล้วใช่มะ พูดจาภาษาคนพอรู้เรื่องละ มึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนพักเถอะ กูกลับไปนอนบ้านตัวเองดีกว่า"

"แต่กูยังไม่ง่วง อยู่เป็นเพื่อนกูก่อนได้ไหม"

"อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย"

"มึงกูถามอะไรมึงหน่อยดิ"

คิงหันหน้ากลับมามองผมพร้อมคำถาม

"มึงอยากถามอะไร ก็ถามมา"

"ทำไมมึงถึงไม่อยากให้กูไปยุ่งกับคนอื่น"

"กูเป็นห่วง"

ผมตอบส่งๆไป

"เหรอ แล้วที่มึงพูดว่าถ้ากูอยากให้บอกมึงล่ะ"

"มึงอยาก?"

"ถ้ากูตอบว่าใช่มึงจะ...ทำกับกูหรือเปล่า"

"กูว่ามึงไปนอนพักเถอะคิง มึงกำลังเมาสติไม่ครบถ้วนกูจะถือซะว่ามึงพูดเพราะว่าเมา"

"..."

"..."

ความเงียบปลกคุมเราสองคนชั่วขณะ แล้วจู่ๆไอ้ขี้เมาตรงหน้าก็ก้มลงไปหยิบกางเกงของตัวเองที่ผมถอดทิ้งไว้ข้างๆเตียง

"มึงจะทำอะไรคิง"

"กูหาโทรศัพท์ มึงกลับไปได้ละ"

"มึงจะเอาโทรศัพท์โทรหาใคร?"

"กูจะโทรหาใครก็เรื่องของกู มึงกลับไปซะ แล้วต่อไปนี้มึงไม่ต้องมาพูดกรอกหูกูว่าห้ามกูไปยุ่งกับใคร มึงเลิกพูดว่าอยากจะช่วยกู...กูไม่อยากได้ยินอีก ถ้ามึงไม่รู้สึกอะไรมากกว่าคำว่าเพื่อนมึงอย่า..."

ผมปัดโทรซัพท์ในมือมันทิ้ง ออกจากหูขณะที่มันกำลังโทรหาใครอีกคน

"กูพูดตามที่ใจกูคิด ถ้ากูไม่อยากให้มึงยุ่งกับใครนั่นมาจากใจกู จากความรู้สึกของกูมึงเข้าใจไหม"

"งั้นคืนนี้มึงนอนค้างกับกูสิ กูอยากมีคนนอนกอด กูอยากทำกับมึงได้ไหม"

"คิงมึงรู้รึเปล่าว่ามึงพูดอะไรออกมา ถ้ากูนอนกับมึงแล้วพรุ่งนี้มึงตื่นมา มึงลืมคำพูดตัวเอง แล้วสรุปว่ามีอะไรกับกูเพราะว่าเมาผลมันจะเป็นไงมึงกับกูจะมองหน้ากันติดไหม"

"กูจะไม่ลืม"

"มึงแน่ใจนะ เพราะพรุ่งนี้ระหว่างมึงกับกูมันจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก ไม่มีแม้แต่ความเป็นเพื่อน"

"กูเบื่อจะเป็นเพื่อนกับมึงแล้วแมน"

(-//////-) ,, (-//////-)

"มึงชอบกู"

"..."

"ใช่ไหมคิง"

"..."

"กูถามเพราะต้องการคำตอบอย่าเงียบ"

"เอ่อ...แล้วๆมึงล่ะ ชอบกูใช่ป่าวที่สั่งให้กูห้ามไปนอนกับคนอื่น ชอบกูใช่ไหม...ต้องใช่ดิไม่งั้นมึงจะห้ามกูทำไม...ถ้ามึง"

"เออกูชอบมึง ชอบมากนานแล้วด้วยมึงจบป่ะ"

"อ่ะ...อะไรมึงพูดจริงเหรอชอบมานานแค่ไหนแล้ว"

"กูไม่รู้ เป็นปีแล้วมั้งกูไม่ได้ว่างมานั่งนับ ตกลงมึงยังไง ชอบกูด้วยไหมจะได้ใจตรงกัน ตอบมาอย่ามาทำเป็นสาวน้อยติดอ่าง"

"มึงนี่แม่งหยาบจริงๆบอกชอบกูได้ถ่อยมาก"

"กูก็เป็นของกูแบบนี้นานละ"

"เออกูรู้ แต่ก็เสือกชอบเข้าไปได้"

"^__^"  "-///-"

.

.

.

.

.

"หึหึ ไอ้เวรเดี๋ยวคืนนี้กูจะเลื่อนสถานะให้นะเพื่อน"

" ^_____^"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2017 13:54:05 โดย แอ๊บบี้ »

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 24-25-26(08/06/60)
«ตอบ #62 เมื่อ12-06-2017 20:50:26 »

ฮือออ คนเขียนหายอีกแล้วว T-T

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 24-25-26(08/06/60)
«ตอบ #63 เมื่อ12-06-2017 21:28:27 »

 :pig4:

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 27(13/06/60)
«ตอบ #64 เมื่อ13-06-2017 07:50:08 »

โรคจิต27 หึง

Part ใหญ่


วันนี้เด็กดื้อโทรมาอ้อนขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ผมจะไม่อะไรมากเลยถ้าไม่ใช่งานเลี้ยงต้อนรับไอ้หัวหน้าแผนกจอมกวนตีนนั่น แค่ได้ยินชื่อนิ้วเท้าก็กระตุกแล้ว ชวนดูงานด้วยกันก็ไม่ไปดูทรงแล้วถ้าไม่ให้ยังไงก็คงแอบไปอยู่ดี จนแล้วจนรอดก็ปล่อยให้ไปแต่อย่าหวังว่าจะให้ไปโดยไม่มีใครคุม ผมไม่เสี่ยงให้โยไปเฝ้าเพราะถ้ารันเกิดเห็นขึ้นมาเรื่องใหญ่แน่นอน แต่กลัวอะไรไม่มีโยลูกน้องของน้องชายผมยังมีให้ใช้งานอีกไม่อับจนหนทางง่ายๆหรอก

ผมมาดูงานส่วนต่อเติมของโรงแรมหนึ่งในธุรกิจของครอบครัว ด้วยความที่ช่วงนี้ผมยุ่งกับ โปรเจคโรงแรมใหม่ที่พัทยา จึงเจียดเวลาช่วงค่ำ ไปดูงานที่บางแสนระหว่างคุยงานผมก็คอยเช็คโทรศัพท์ไปเรื่อย เอ็มลูกน้องของโยที่เคยตามรันแบบนี้ให้ผมบ่อยจนรู้งาน เขาคอยรายงานผมตลอดระหว่างที่รันสนุกอยู่กับเพื่อนๆ

ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง

เสียงข้อความจากโปรแกรมไลน์ในโทรศัพท์ของผมดังขึ้นในขณะที่ผมเดินสำรวจงานในส่วนที่จะต่อเติม ผมหยุดการพูดคุยทุกอย่างไว้พร้อมโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันคือภาพสามภาพที่ถ่ายจากมุมด้านหลังของคนสองคนในผับ แผ่นหลังทางซ้ายคือคนที่ผมคุ้นเคยดีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเมียตัวเอง แต่อีกคนนั่นแค่เห็นหลังลางๆผมจำได้ทันที่ว่าเป็นไอ้หัวหน้าแผนกนั่น นั่งอยู่ติดกับรันท่าทางในการนั่งดูเหมือนมันจะเข้าใกล้รันมากเกินไปท่าทางที่มันนั่งพร้อมวางมือไว้ทางที่นั่งด้านหลังของรันหันหน้าเข้าหารันเหมือน....

"เหี้ยเอ้ย"

ผมสบทออกมาโดนไม่สนใครหน้าไหนแม้แต่พนักงานและลูกน้องที่กำลังยืนรอผมสั่งงานต่างๆอยู่ไม่ไกล ผมสูดหายใจเข้าออกลึกๆ  หันหน้ากลับไปยังกลุ่มคนที่กำลังรอผมอยู่

"ขอโทษที วันนี้พอแค่นี้ก่อนพอดีผมมีธุระด่วนต้องรีบไป งานส่วนที่เหลือส่งต่อให้คุณสิทธิ์เลขาผมได้เลย สิทธิ์ฝากด้วยนะ"

"ได้ครับคุณใหญ่"

ผมขับรถออกมาทันทีโดยไม่รั้งรอ เผลอไม่ได้เชียวไอ้แมวขโมย ผมขับรถไปได้เพียงครึ่งทาง ข้างหน้ารถติดแทบไม่ขยับเขยื้อน ตำรวจและมูลนิธิ ช่วยส่งสัญญาณบอกว่าข้างหน้ามีอุบัติเหต ผมหัวเสียมาก แทนที่อีกไม่ถึง20นาทีผมก็จะไปถึงผับที่พวกรันเที่ยวกันอยู่แล้วแท้ๆ แต่นี่ดูท่าทางกว่าจะผ่านไปได้คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมง ระหว่างที่ผมต้องรอพวกมูลนิธิเคลียร์คนเจ็บและตำรวจเคลียร์เส้นทางผมจึงไลน์บอกกับเอ็มลูกน้องที่โยเคยเอามาฝากฝังผมเมื่อหลายเดือนก่อน ให้เฝ้าดูอย่าให้คลาดสายตา

เมื่อมาถึงที่ผับก็กินเวลามากใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ผมเดินเข้าไปข้างในหันไปเจอเอ็มนั่งมองผมอยู่ก่อนและพยักหน้าให้ผมมองเข้าไปยังโต๊ะของรันผมถึงกับหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธไอ้เวรนั่นเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้วมันยังไม่เลิกนั่งประกบเมียของผมอีกหนำซ้ำภาพที่ผมเห็น มันก้มหน้าลงมาพูดกับหูของรัน นั่นมันใกล้เกินไป พวกเขามองไม่เห็นผมเพราะนั่งหันหลังให้ผมอยู่ ผมตรงดิ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อมันให้หน้าออกห่างจากรันทันที

"เฮ้ยอะไรวะ...มึงอีกแล้วเหรอ"

"พี่ใหญ่ผลักพี่โชคทำไมครับ"

"รันพี่มารับกลับบ้าน"

ผมดึงมือรันให้ลุกออกจากโต๊ะทันที

"โอ้ย เดี๋ยวครับผมขอบอกเพื่อนก่อน พี่โชคผมขอโทษแทนพี่ใหญ่ด้วยนะครับ"

"ขอโทษแทนทำไมรันคนทำยังไม่คิดจะขอโทษเลย เสียมารยาทชิบหาย ทำไมมีแฟนนิสัยแบบนี้ได้"

"ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดกูจะเตะปากให้พูดไม่ได้ไปอีกหลายวันเลย"

"พี่ใหญ่...ทำไมพูดแบบนี้"

"กลับ"

"ไอ้หมาบ้า"

ผมหันกลับไปกระชากคอเสื้อมันกำลังจะสาวหมัดงามๆส่งใส่ปากสักทีให้มันหลับสบาย

"หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ใหญ่ ถ้าไม่หยุดผมจะไม่คุยด้วยอีกต่อไป"

ผมชะงักทันทีกับคำพูดของรัน

"กลับ"

รันดันผมให้ออกจากผับนั้นทันทีระหว่างทางที่อยู่ในรถไม่มีเสียงพูดคุยของเราทั้งสองคนมีแต่ความเงียบมที่ปลกคลุม ไม่มีแม้แต่เสียงเพลง เมื่อกลับถึงห้อง ผมจึงจับแขนรันให้หันกลับมาพูดคุยให้รู้เรื่อง

"รันโกรธพี่เหรอ"

"...."

"รันคุยกับพี่สิอย่าเงียบ"

"ผมไม่มีอะไรจะพูด"

"ผมอีกแล้ว พูดแบบนี้แสดงว่าโกรธ"

"รู้ตัวก็ดี"

รันสะบัดแขนออกหลังจากพูดจบ ผมเอื้อมมือไปดึงอีกครั้งหวังจะพูดกันให้เข้าใจ

"รันอย่าทำแบบนี้คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน พี่ขอโทษที่อารมณ์ร้อน แต่พี่โกรธที่มันมาใกล้ชิดกับรันพี่ไม่ชอบ"

"เหอะ พี่ก็ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ผมสักคนนั่นแหละ"

"รันอย่าประชด พูดกับพี่ดีๆได้ไหม"

"แล้วพี่ทำตัวดีให้ผมอยากจะพูดด้วยไหมล่ะ พี่ทำแบบนั้นทำไม ไปกระชากคอเสื้อพี่โชคทำไม หาเรื่องเขาเพื่ออะไร ผมกับเขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันสักหน่อย เขาเป็นหัวหน้าผมนะ ถ้าพี่ต่อยเขาผมจะมองหน้าเขาติดได้ไง"

"แล้วรันไม่รู้ตัวบ้างเหรอว่ามันชอบรัน รันไม่รู้ตัวเลยว่าที่มันนั่งใกล้ชิดสนิทสนมกันที่ผับเพราะอะไร หัวหน้ากับลูกน้องจำเป็นต้องก้มหน้าคุยกันแนบเนื้อขนาดนั้นด้วย แทบจะนั่งเกยตักกันอยู่แล้วจะให้พี่ทำเฉยๆเหมือนไม่รู้สึกอะไรงั้นเหรอ"

"แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขา"

"รันไม่คิดแต่มันคิด รันอย่าบอกนะว่ารันดูไม่ออกว่ามันคิดกับรันแบบไหนแล้วการที่รัน ทำตัวไม่คิดอะไรปล่อยให้มันเข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัว แบบนั้นมันใช่รึเปล่า"

"พี่ใหญ่คิดมากเกินไป พี่กำลังทำให้ผมเข้าหน้าพี่โชคไม่ติด"

"คำก็พี่โชคสองคำก็พี่โชคถ้ายุ่งยากมากนักก็ลาออกมาทำงานกับพี่สิทุกอย่างจะได้จบ"

"เหอะ คิดก่อนพูดแล้วใช่ไหมคำนี้"

"รัน"

"ถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่รู้สึกว่าพี่ทำอะไรผิดบ้างใช่ไหม ความหึงของพี่มันมากเกินไปพี่รู้รึเปล่า ความรักของพี่มันกำลังทำให้ชีวิตผมอยู่ยากขึ้น ไม่ว่าผมจะทำอะไร จะออกไปไหนพี่ก็ห้ามตลอด ใครเข้ามาใกล้นิดหน่อยพี่ก็พาลหาเรื่องไปหมด"

"..."

"พี่กลับไปนอนที่ห้องก่อนเถอะ คืนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว"

"รันไม่..."

"ผมอยากอยู่คนเดียว"

แล้วคนดีของผมก็เดินกลับเข้าห้องนอนไปทิ้งผมไว้ให้อยู่ตรงนี้คนเดียว

"โถ่เว้ย"

ผมเดินกลับออกมาจากห้องของรัน ขับรถออกมาตามถนนอย่างไม่มีจุดหมายผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอยากจะโทรหาพ่อใจจะขาด แต่นี่ไม่ใช่เวลาเอาเรื่องไปรบกวนท่านผมทราบดี ผมจึงกดโทรหาโยน้องชายคนเดียวที่สามารถรับฟังปัญหาทุกอย่างของผมได้

"โยเปิดบ้านให้พี่หน่อย อีก 15 นาทีพี่ไปหา"

'ครับ'

เมื่อผมขับรถมาถึงหน้าบ้านของโยเวลาก็ล่วงเลยมาตีสองครึ่งแล้ว ผมเดินเข้าไปเจอกับโยและก้อยที่นั่งรออยู่

"สวัสดีครับพี่ใหญ่" "สวัสดีค่ะคุณใหญ่"

"อืม...ก้อยทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ กลับไปนอนพักผ่อนเถอะพี่ไม่ได้มีเรื่องอะไรจะให้โยออกไปทำแค่อยากนั่งคุยเฉยๆ"

"ก้อยไม่ง่วงแล้วค่ะคุณใหญ่ ก้อยนอนตั้งแต่หัวค่ำเต็มอิ่มแล้ว อันที่จริงก้อยตื่นก่อนคุณใหญ่จะโทรหาพี่โยซะอีก กำลังนอนเล่นรอเวลาอยู่พอดี ก็เลยขอลงมาด้วย ว่าแต่มีธุระอะไรสำคัญต้องคุยกันสองคนไหม ก้อยไปอ่านหนังสือรอที่ห้องก็ได้นะคะ"

"ไม่เป็นไรอยู่เถอะพี่ไม่มีความลับอะไร"

"พี่ใหญ่มีปัญหากับคุณรันเหรอครับ เอ็มโทรมาบอกผมว่า พี่จะมีเรื่องกับผู้ชายที่โต๊ะ"

"ก็ไอ้หัวหน้าตัวดีนั่นแหละ เอ็มได้เล่าให้ฟังรึเปล่าว่ามันนั่งเกาะเมียพี่เป็นปลิงตลอดเวลา"

"ทราบครับ"

แล้วผมก็เล่าเรื่องราวต่างๆในค่ำคืนที่พึ่งผ่านมา

"พี่ควรทำยังไงดีวะโย"

"ผมจัดการหัวหน้าแผนกของคุณรันให้จะได้จบๆ พี่ใหญ่อยู่เฉยๆก็พอครับ"

"แต่ก้อยว่าไม่เวิร์ค"

"..."

"..."

"...เอ่อ ขอโทษค่ะคือก้อยว่าแผนพี่โยไม่โอเค ขอก้อยออกความเห็นได้ไหมคะ"

"อืม...เอาสิ"

"ถ้าพี่โยไปทำกับหัวหน้าของคุณรันเหมือนกับทุกคนที่ผ่านๆมา หัวหน้าคนนั้นต้องรู้ตัวว่าใครเป็นคนสั่งและก้อยว่าเรื่องต้องถึงหูคุณรันแน่นอน ในเมื่อคุณรันรู้เรื่องทั้งหมดที่คุณใหญ่เคยทำคราวนี้แหละเรื่องมันจะยิ่งแย่ คุณใหญ่จะดูแย่ในสายตาคุณรันเพิ่มขึ้นไปอีก ก้อยว่าคุณรันกำลังรู้สึกเหมือนถูกบังคับจิตใจมากเกินไป คุณใหญ่ทำให้เขารู้ว่ารักเขามากมายแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่คุณรันคิดว่าตัวเองเหนือกว่า เรื่องนี้ก้อยว่าผิดทั้งคู่ คุณใหญ่ก็ผิดที่ไม่ระงับอารมณ์ คุณรันก็ผิดที่ไม่แสดงตัวชัดเจนปล่อยให้คนอื่นเข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัวเกินไป ในเมื่อเขาทำให้คุณใหญ่หึง ก้อยคิดว่า เขาต้องรู้ว่ายังไงคุณใหญ่ก็กลับมาตายรังหาเขาอยู่ดี แทนที่จะไปไล่ตามกระทืบตามขู่คนนั้นคนนี้ ลองเปลี่ยนวิธีดูบ้างสิคะ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ทำให้เราหึง เราก็ทำคืนบ้างแบบเนียนๆ เหมือนที่เขาทำ ถ้าเขาหึงเขาจะได้รู้สึกตัวว่า สิ่งที่เขาทำเราก็เคยไม่โอเคเหมือนกัน"

"อืม ก็ดีนะ แต่พี่ไม่อยากไปยุ่งกับใคร"

"ก็อย่าไปยุ่งกับคนอื่นสิคะ เอาคนของเรารู้กันไม่ลำบากใจ"

"ก้อยหมายถึงพี่เหรอ"

โยชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยสีหน้าตกใจ

"ไม่ พี่โยของก้อยคนเดียว ก้อยแนะนำเอ็มพี่โยเอาเอ็มเลย รับลองได้ผล เอ็มหน้าตาดี จับแต่งตัวเป็นเกย์เก้เจ้าสำอางค์หน่อยรับรองคุณรันหึงแน่นอน"

"ไอ้เอ็มเนี่ยนะ จะไหวเหรอ"

"พี่โยเชื่อก้อยสิ ไม่รู้อะไรซะแล้ว เอ็มเนี่ยแหละตัวร้ายเลยรับรองงานนี้ลื่นไหล คุณใหญ่คิดว่าไงคะ"

"เอ่อ....คือ พี่ไม่รู้สิ ถ้าใช้เอ็มจะต้องทำไง"

"เรื่องเอ็มไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก้อยจัดการเอง ขอเวลาไปเตี๊ยมเอ็มก่อน คุณใหญ่ตกลงใช่ไหมคะวิธีของก้อย"

"โยว่าไง"

"น่าลองครับพี่ เมียผมอุบายร้อยเล่มเกวียนอันนี้ผมรับลองได้"

"^____^อันนี้ชมใช่ไหมคะ"

"ชมจ๊ะคุณแม่"

"แล้วพี่ต้องทำยังไง"

"ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ คุณรันให้คุณใหญ่กลับมานอนที่ห้องตัวเองก็ตามนั้น"

"แต่พี่คิดถึงรัน"

"คุณใหญ่ต้องยอมแลกนะ เชื่อก้อยสิมันต้องเวิร์ค ถอยออกมาก่อน ไม่งั้นก็กลับไปนอนที่บ้านก็ได้ค่ะไกลหน่อยจะได้อดใจไหว ก้อยขอเวลาวันเดียวพรุ่งนี้จะขุดเอ็มให้พร้อม"

"อืม เอาก็เอา เดี๋ยวพี่กลับไปนอนบ้านใหญ่แทนแล้วกัน หางานทำกับพ่อพี่จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ฝากด้วยนะก้อย ถ้าทำสำเร็จ สปาชุดใหญ่สำหรับคนท้อง พี่จะจัดให้งามๆ

"จบดีลค่ะ^_^"

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 28(13/06/60)
«ตอบ #65 เมื่อ13-06-2017 07:53:57 »

โรคจิต28 หวง

Part รัน


ผมโกรธพี่ใหญ่มากเรื่องเมื่อคืน ผู้ใหญ่ไม่มีเหตุผล พูดเหมือนกับว่าผมไปอ่อยให้ท่าพี่โชคหัวหน้าแผนก คิดได้เน๊อะ ไม่รู้ว่าพี่เขาจะจำได้ไหม ว่าตัวเขาเองหล่อใส้แตกขนาดไหน ให้ผมเทียบกันตรงๆนะ พี่โชคเนี่ยไม่มีอะไรเทียบพี่ใหญ่ได้สักอย่างความหล่อความรวยทิ้งกับแบบไม่เห็นฝุ่น ผมคงจะโง่เต็มทีถ้ามีของพรีเมียมขนาดนี้อยู่กับตัวแล้วยังไม่พอ เฮ้ย คิดแล้วเครียดเมื่อคืนก็ไล่เขากลับไปนอนที่ห้อง จนป่านนี้เย็นย่ำแล้วก็ไม่มีวี่แววจะโผล่มาง้อเลย

มีแค่ข้อความที่ส่งมาสั้นๆ ว่าจะไปช่วยคุณพ่อทำงานแล้วก็จะนอนที่บ้านใหญ่ อ่านะ ไม่ง้อกันสักนิด เอหรือว่าเรื่องนี้ผมเป็นคนผิด ก็ไม่นะพี่ใหญ่ต่างหากที่ผิด หรือเขาจะให้ผมอยู่คนเดียวจริงๆอยากที่ผมขอ คิดแล้วอยากตบปากตัวเองสักสามที พออารมณ์โกรธจางหายไป ก็พึ่งจะคิดได้ว่าทาเลาะกันขนาดไหนก็ไม่ควรจะไล่เขาไปนอนที่อื่น

"เฮ้ย เครียด เครียด เครียดโว้ยยยย"

Rrrrrrrrrrrrrr

ผมรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีที่เสียงดังขึ้น

'อิฐ'

"โถ่นึกว่าพี่ใหญ่"

"ฮัลโหลว่าไง"

'ว่าไงมึงนั่นแหละเป็นไงบ้างกูเห็นพี่ใหญ่จะมวยใส่พี่โชคเมื่อคืน สรุปแล้วยังไงวะ'

"เออทาเลาะกันไปดิ พี่เขาว่ากูไปทำตัวสนิทชิดเชื้อพี่โชคเกินไป เขาหึง"

'เออก็น่าอยู่หรอก ถ้าเป็นเมียกูกูก็หึงเหอะ ส้นตีนนั่งประกบมึงยังกับผัวมาคุมเมียเที่ยว'

"ห๊ะ ขนาดนั้นเลยเหรอมึง กูไม่ได้อะไรเลยนะเว้ย"

'มึงไม่อะไรเพราะ มัวแต่นั่งแดกอย่างเดียวสิ พี่โชคนั่งซะติดแทบจะสิงร่างมึงอยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัว'

"ก็...ก็โต๊ะมันแคบอ่ะมึงก็เห็น กูนั่งริมในสุดคนอื่นมันก็เบียดๆกันมาป่ะวะ"

'ตอนแรกใช่ แต่หลังจากกระจายกันไปคนละทิศละทาง เขาก็ยังนั่งเบียดมึงไม่เลิก มึงสังเกตมั่งป่าว ไอ้กร๊วก'

"เอ่อ...นี่กูผิดใช่ไหมวะ เมื่อคืนพี่ใหญ่ก็ว่ากูแบบนี้ หาว่ากูไปนั่งให้เขาเบียดอยู่ได้"

'เออ ก็น่าดูชมอยู่ เป็นกูโดดเตะก้านคอแม่งละ คนเหี้ยไรรู้ว่าเขามีแฟนแล้วยังม่อใส่ กูมองจนกูรำคาญ นั่งบริการโน่นนี่นั่นให้มึงไม่ขาดสาย เบียดซะยังกะผับคนแน่นซะเต็มประดามึงก็เหมือนกันนั่งบื้อเป็นกระบือขาดน้ำมัวแต่นั่งเมาระวังนะ วันไหนพวกกูไม่อยู่มันจะหิ้วมึงไปแดกไม่รู้ตัว'

"ไอ้อิฐมึงอย่าตอกย้ำสิ มึงพูดซะกูดูเป็นคนผิดมากมายเลย เมื่อคืนกูก็ทาเลาะกับพี่ใหญ่ ว่าเขาไปซะเยอะด้วยแถมไล่ไปนอนที่อื่นอีก ฮืออออออ ตายๆ"

'ระวังนะมึงไล่เขาเดี๋ยวเขาไปนอนที่อื่นสมใจมึงแล้วจะหนาว'

"หยุดเลยเดี๋ยวกูต่อยปากแตก"

'แล้วนี่มึงทำไรอยู่ กูจะชวนไปลากไอ้คิงออกจากเตียงโทรไปไม่รับตั้งแต่ตอนสายๆละ แม่งสงสัยเมาหลับหรือไหลตายก็ไม่รู้ ไอ้แมนอีกคน โทรไม่รับทั้งคู่ ไปกับกูไหมจะชวนไปหาข้าวกิน'

"เออๆไป เดี๋ยวเจอกันหน้าคอนโดไอ้คิง"

'อืม'

กำลังเบื่อเซ็งได้ที่ แถมเครียดเรื่องพี่ใหญ่อีกต่างหาก สรุปรอบนี้ผมคงผิดจริงใช่มะต้องเป็นฝ่ายไปง้อแน่แล้วสินะแต่ก่อนจะง้อไปหาเพื่อนขอความคิดดีๆในการง้อสามีสุดหล่อขี้น้อยใจก่อนละกันครับ

ผมมาถึงคอนโดคิงไล่ๆกับอิฐจึงขึ้นลิฟท์ไปพร้อมๆกัน ผมกะว่าจะมาลากสังขารไอ้คิงเรียบร้อยแล้วเลยไปลากไอ้แมนต่อที่บ้านแล้วไปหาอะไรกินกันกองทัพต้องเดินด้วยท้อง

ติ๊งต่อง...ติ๊งต่อง..........ติ๊งต่อง

ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง

'เออมาแล้วเหี้ยกดไรรัวนักวะ'

เสียงไอ้คิงแว่วขึ้นมาจากข้างในห้อง

แกร๊ก

"...เชี่ยพวกมึงมาได้ไง"

ไอ้คิงทำท่าจะปิดประตูใส่พวกผมดีที่ผมกับอิฐยืนติดประตูจึงเอามือดันเอาไว้ทัน

"อะไรของมึงไอ้คิง พวกกูไม่ใช่เจ้าหนี้มึงนะ ทำเป็นลนลานปิดประตูหนี"

อิฐพูดจบผมก็แหวกตัวเข้าห้องคิงได้สำเร็จ

"เอ่อ...พวกมึงทำไมไม่โทรบอกกูก่อนว่าจะมาวะ"

"พวกกูโทรจนสายจะไหม้แล้วติดต่อไม่ได้ทั้งมึงทั้งไอ้....เหี้ยไอ้คิงมึงไปโดนใครดูดมาวะเต็มตัวเลยสัด"

ผมหันขวับกลับไปมองคิงทันที คิงมันใส่กางเกงวอร์มขายาวตัวเดียวเสื้อไม่ใส่ ก็อยากที่อิฐร้องออกมาแหละครับ รอยตามตัวเป็บสิบ

"โหหหหหห พระเจ้าจ๊อด แล้วว่าแต่กูตัวลายเป็นตุ๊กแก ดูตัวมึงดิอื้อหือใช่ย่อยว่ะ"

ไอ้คิงเหมือนจะรู้สึกตัวตอนที่พวกผมแซวมันเรียบร้อยแล้ว มันรีบเอาหมอนอิงที่โซฟามาปิดรอยตามตัวทันที

"เอ่อ...พวกมึงมีอะไรรึเปล่าวะมาหากูเนี่ย"

"กูจะมาชวนมึงไปกินข้าว โทรหาไม่ติดไอ้แมนด้วย กูจะชวนมึงไปลากมันที่บ้านเนี่ย ว่าแต่เมื่อคืนโดนจัดหนักมาเหรอวะ ฮ่าฮ่าฮ่า ไปเกี่ยวใครมา หล่อป่ะ"

"เออหล่อไม่หล่อเรื่องของกู พวกมึงออกไปรอกูร้านกาแฟหน้าคอนโดก่อนดิคือเขายังอยู่ในห้องคนที่กูพามา เดี๋ยวเขาจะตกใจ"

"อ่าวยังอยู่เหรอ โห ตั้งแต่เมื่อคืนอยู่ยันเย็นวันนี้เลย ไม่ธรรมดา"

"เออ ไอ้รันหุบปากไปเลยลากไอ้อิฐไปรอกูข้างล่างก่อน 15 นาทีเดี๋ยวกูตามลงไป ปิดประตูห้องให้กูด้วยนะกูไปอาบน้ำก่อน"

"เออๆอย่าช้านะกูหิวข้าว"

แล้วผมกับอิฐก็กำลังจะเดินออกจากห้องแต่สายตาผมดันหันไปเจอกับรองเท้าคุ้นเคยคู่หนึ่งเข้า

"อิฐนี่ใช่รองเท้าไอ้แมนป่าววะ"

"เออใช่คู่เมื่อคืนที่มันใส่ไป"

"..."

"..."

ผมกับอิฐหันมาสบตากันโดนไม่ได้นัดหมาย

"รันมึงคิดแบบที่กูคิดป่าว"

"เอ่อ คิดนิดๆวะ แต่คงไม่หรอกมั้ง"

"เดี๋ยวมึงก็รู้ หึหึ ตามกูมาเงียบๆเร็ว"

ผมกับอิฐเดินวกกลับไปที่กน้าห้องนอนของคิง แล้วอิฐก็กระซิบกลับมา

"เดี๋ยวกูนับ หนึ่ง สอง สาม แล้วเปิดประตู มึงผลักเข้าไปแรงๆ แล้วยืนจังก้าในห้องเลยนะ"

"อือๆ มึงนับช้าๆกูตื่นเต้น"

"หนึ่ง......สอง......สาม"

แกร๊ก

"เหี้ยยยยยยยยย"

คำอุทานสีเหี้ยประสานเสีย

เหมือนเวลาในห้องจะหยุดเดิน มีมนุษย์ตัวแข็งสี่ตัวอยู่มุมห้องฝั่งละสอง

"อะ อะ ไอ้แมน ไอ้คิง พวกมึงๆไม่จริงใช่มะกูตาฝาดใช่ป่าววะรัน"

"เออ ถ้ามึงฝาดกูก็ฝาดเหมือนกัน"

"เออไอ้พวกตัวเหี้ยไม่ฝาดทั้งคู่นั่นแหละกูบอกให้ไปรอข้างล่างเสือกทะลึ่งวิ่งเข้ามาในห้องอีก หมดกันแม่งรู้หมด"

"เดี๋ยวๆๆมึงสองคนนี่แอบลักลอบได้เสียเป็นเมียผัวกันเหรอวะ นานหรือยังทำไมกูสองคนไม่รู้"

"มึงจะรู้กันได้ไง กูพึ่งเอากันเมื่อคืน"

"เฮ้ยไอ้แมนมึงพูดจริงอ่ะ กูไม่อยากจะเชื่อหู เป็นไงล่ะกูบอกแล้วว่าอย่าเล่นกันให้มากระวังผีผลัก ดูๆโดนผลักไปกระแทกกันซะรอยดูดรอยข่วนเต็มตัวเลยห่า sexกันหรือไล่กระทืบกันวะสภาพดูไม่ได้ทั้งคู่เลย โอ้ยรันพยุงกูไปข้างนอกทีกูจะเป็นลม เพื่อนแอบกินกันเอง อิฐรับบ่ได้"

แล้วคิงก็ปาหมอนใส่หน้าอิฐที่กำลังแสร้งจะเป็นลมทันที

"ไอ้ควายอย่าสำออย พวกมึงเลิกล้อสักที ออกไปรอข้างนอกเลย กูสองคนจะอาบน้ำ เดี๋ยวค่อยคุย เหนียวตัวเหี้ยๆแล้ว" คิงด่าอิฐ

"กรรมศึกหนักอ่ะสิ"

"ไอ้ควายยังไม่เลิกแซวเดี๋ยวกูถองให้ไส้แตกเลย"

"โหดดดดดดด ได้เพือนเป็นผัวฟอร์มโหดเชียว กูไปรอข้างนอกก็ได้แว๊ฟฟฟ"

"แม่งกวนตีน"

"เออรีบๆไปอาบน้ำไวไว พวกกูรอซักฟอกมึงสองคนอยู่"

"อือ"

ต่อ

"หุหุ เดินกันมาโน่นละ"

อิฐพยักหน้าให้ผมหันกลับไปมอง แมนกับคิง ที่เดินมาพร้อมกัน

"เอ่อ...คือ"

"เดี๋ยวๆยังไม่ต้องเล่า ไปหาร้านนั่งกินข้าวให้เรียบร้อยก่อนกูถามหมดเปลือกแน่"

"เออ จะกินไรก็ไป กูหิวแล้วเหมือนกัน"

"กูเสนอบุฟเฟ่เลยเป็นไง ดูท่าทางมึงสองคนคงจะหิวโซ ได้ออกมาหาอะไรแดกกันบ้างป่าว"

"ไอ้รันปากดี จะไปแดกไหนก็ไปอย่าพูดเยอะ"

"อ่ะ โอเคครับๆเพื่อนคิง ใจร่มๆ เดี๋ยวผมพาไปหาอะไรกินอย่าพึ่งพ่นไฟใส่กันดิกลัวนะเว้ย"

"เอออย่ามัวแพ่ม ไปรถไอ้อิฐคันเดียวกันนี่แหละ"

แล้วพวกผมสี่คนก็พากันเดินไปยังรถของอิฐ ระหว่างเดิน อิฐกับผมก็กระซิบคุยกันไปมา

"ไอ้คิงแม่งฟอร์มเสียงดังกลบเกลื่อนว่ะ"

"ฮ่าฮ่า มึงก็ให้เวลามันปรับตัวหน่อยดิอิฐ แล้วนี่ยังไม่รู้เลยว่าจะยังไงต่อ"

"เออกูว่างั้นห่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแถมเป็นคู่กัดกันมาตลอดแล้วอยู่ดีๆ"

"พวกมึงจะกระซิบกระซากกันอีกนานไหมกูสองคนจะได้ไปหาแดกกันเอง"

"ไปแล้วค๊าบบบ~~"

สรุปพวกผมสี่คนก็มาทานบุฟเฟ่ภายในห้างแห่งหนึ่งไม่ไกลจากคอนโดของคิงมากนักหลังจากนั่งประจำที่กันเรียบร้อยผมสองคนกับอิฐก็ทำการซักฟอกคิงกับแมนครั้งใหญ่ ผลสรุปออกมาคือ แมนมันแอบชอบคิงมานานแล้ว (ง้อออ) ส่วนคิงก็แอบมีใจให้เช่นกัน คุยกันรู้เรื่องก็ซ่ำกันเลยไม่ต้องมีพิธีรีตองกันมากมาย แต่คือผมก็ยังนึกสภาพมันสองคนคบกันเป็นแฟนไม่ออกเลย แต่บางทีมันอาจจะเป็นคู่ที่สมกันก็ได้นะ เป็นเพื่อนสนิทรู้ใจกันทุกอย่าง แทบไม่ต้องบอกเลยว่าอีกฝ่ายชอบอะไรไม่ชอบอะไรบ้าง รู้ใส้รู้พุงกันหมด  ไม่เหมือนผมกับพี่ใหญ่ คิดเรื่องตัวเองขึ้นมาได้ ผมก็เปลี่ยนหัวข้อในวงสนทนามาเป็นเรื่องของตัวเองบ้าง ทั้งสามคนออกเสียงตรงกันว่า ผมผิดควรไปขอโทษพี่ใหญ่ ก่อนจบมื้ออาหารผมเลยกดโทรศัพท์หาพี่เขาเพื่อจะบอกให้กลับมานอนที่ห้องคืนนี้

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr

'สวัสดีฮะ'

หืมมมม เสียงใคร?ผมหยิบโทรสัพท์ออกจากหูเพื่อดูเบอร์ให้แน่ใจว่าผมไม่ได้กดผิด ก็เป็นเบอร์พี่ใหญ่นี่นาแล้วใครรับ

'ฮัลโหลๆยังอยู่ไหมฮะ'

"ค...ครับ ขอสายพี่ใหญ่หน่อยครับ"

'อ่อรบกวนรอแป๊บนนะฮะพี่ใหญ่เข้าห้องน้ำอยู่ เดี๋ยวผมเรียกให้'

'พี่ใหญ่~~~~พี่ค๊าบโทรศัพท์ เร็วๆเขารอสายอยู่'

"......"

'ครับรัน'

"...พี่ใหญ่ทำอะไรอยู่เหรอครับ"

'ทานข้าวอยู่ครับ'

"...ทานที่ไหนครับแล้วใครรับโทรศัพท์พี่"

'พี่มาทานที่ห้างxxxพอดีเจอรุ่น้องก็เลยชวนมานั่งทานด้วยกัน'

หืมมมอยู่ห้างเดียวกันนี่

"เหรอครับพี่ทานที่ร้านไหน"

'อยู่ซานตาเฟ่ชั้นสองครับ รันทำอะไรอยู่เหรอทานข้าวหรือยัง'

"อ่อผมเอ้ยรันออกมาทานข้าวกับพวกคิงครับ เอ่อ...คือ วันนี้พี่จะกลับมานอนที่ห้องรันไหม"

'...รันคืนนี้พี่จะไปพักโรงแรมที่บางแสนนัดกับทีมช่างไว้คงจะค้างสองคืนกลับวันจันทร์รันหายโกรธพี่แล้วเหรอ'

"ครับ งั้นพี่รอรันอยู่ที่ร้านได้ไหมเดี๋ยวรันไปหา"

ผมวางโทรศัพท์ทันทีโดยไม่รอคำตอบ ผมบอกกับเพื่อนทุกคนให้ทานต่อกันไปเลย ผมจะลงไปหาพี่ใหญ่ที่ชั้นสอง ผมเดินมาถึงหน้าร้านซานตาเฟ่ ชะเง้อคอมองหาพี่ใหญ่แล้วผมก็เจอ พี่ใหญ่นั่งหันหน้าออกนอกร้านพอดีและเขาไม่เห็นผม ผมเห็นพี่เขานั่งยิ้มคุยอยู่กับผู้ชายอีกคน เห็นแค่ส่วนหัวถึงช่วงไหล่ คงเป็นคนที่รับโทรศัพท์พี่ใหญ่เมื่อสักครู่ ผมเดินเข้าไปหาเขาที่โต๊ะทันที

"อ่าวรันทำไมมาเร็วจัง"

"อ่อ พอดีรันกำลังหาไรกินกับเพื่อนที่ชั้นสามอยู่พอดีก่อนจะโทรหาพี่"

"มานั่งลงก่อน กินอะไรหรือยัง ถ้ายังก็สั่งเลยเพราะพวกพี่พึ่งจะสั่งไปเมื่อครู่ อ่อพี่เกือบลืมแนะนำ รันนี่เอ็มรุ่นน้องพี่ เอ็มนี่รันแฟนพี่เอง"

"สวัสดีฮะ" "สวัสดีครับ"

เมื่อทักทายทำความรู้จักผมก็นั่งลงข้างพี่ใหญ่สั่งอาหารมาทานพร้อมกัน

"พี่ใหญ่แล้วตกลงพี่จะไปบางแสนกี่โมง"

"เดี๋ยวกินเสร็จพี่ไปส่งรันที่คอนโด แวะเอาเสื้อผ้าที่ห้องพี่แล้วไปเลย"

"โอเคๆ เอ็มจะได้แยกไปเก็บเสื้ออผ้าบ้าง"

"อืม"

"แล้วนี่แฟนพี่ใหญ่ไปด้วยรึเปล่าครับ"

คนชื่อเอ็มหันมาถามผม

"เอ่อ..."

"รันเขาไม่ได้ไป วันจันทร์ต้องทำงาน"

"เหรอว้า อดเที่ยวเลย งั้นเอ็มไปคันเดียวกับพี่ใหญ่นะ ขี้เกียจขับรถเดี๋ยวเอ็มเอารถไปจอดที่บ้านพี่โยนะฮะ"

"เดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้านก็ได้ บ้านเราทางผ่านไปบ้านโยอยู่แล้ว"

"งั้นโอเคเลย วู้ ตื่นเต้นไม่ได้ไปเล่นน้ำทะเลนานเป็นปีละ แวะไปไหว้เจ้าแม่สามมุขกันด้วยนะ เอ็มอยากย้อนอดีต ตอนที่พวกเราไปเที่ยวด้วยกัน ต้องสนุกแน่ๆเลย"

ผมนั่งฟังนานเข้าเริ่มไม่ชอบขี้หน้าเอ็มเอิมไรนี่เท่าไหร่เลย หูตาแพรวพราวยังไงชอบกล

แล้วคุยส้นteen อะไรกันก็ไม่รู้ย้อนอดีตกันอยู่ได้ ตกลงอยู่สองคนเหรอครับผมอยากถาม

แล้วผมนั่งหัวโด่เป็นวิญญาณเร่ร่อนเนี่ยสัมผัสกันได้ไหม หงุดหงิดใจ ผมเก็บคำถามทุกอย่างเอาไว้ ได้แต่นั่งฟังพี่ใหญ่กับรุ่นน้องคุยกันสนุกปาก หลังจากมื้ออาหารที่แสนฝืดคอจบลง พวกเราก็แยกย้ายกัน โดยผมกลับกับพี่ใหญ่ พอขึ้นรถได้คำถามก็พร่างพรูออกมาจากปากของตัวเอง

"พี่ใหญ่ไปเที่ยวกันเหรอ"

"เปล่าพี่ไปทำงาน แต่พวกโยก้อยแล้วก็เอ็ม ติดสอยห้อยตามพี่ไปเที่ยวพักผ่อน"

"แล้วพักที่ไหนกันเหรอครับ"

"ก็โรงแรมของพี่ไง"

"รันตกลงหายโกรธพี่แล้วเหรอ"

"ครับพี่รันขอโทษ รันผิดเองที่อารมณ์เสียใส่พี่ ขอโทษที่พูดแรงๆแล้วก็ไล่พี่ไปนอนที่อื่น"

"พี่ก็ต้องขอโทษ ที่ใจร้อน ทำตัวไม่ดี บีบบังคับรันทุกอย่าง หึงหวงมากเกินไป ต่อไปนี้พี่จะทำตัวใหม่ พี่จะไม่เอาแต่ใจตัวเอง จะให้อิสระรันทุกอย่างที่อยากทำ"

ผมเอนหัวซบลงกับไหล่ของพี่ใหญ่ ทำไมผมถึงรู้สึกใจหวิวแปลกๆนะ ทั้งๆที่ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี ตรงที่เราเข้าใจกัน พี่ใหญ่คลายอ้อมกอดที่รัดแน่นให้เบาลง ผมควรยินดีสิ

ติ้ง เสียข้อความไลน์ของพี่ใหญ่ดังขึ้น ผมมองไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ในช่องวางของข้างๆมือผมจึงหยิบขึ้นมาดู

"ใครส่งไลน์มา เดี๋ยรันดูให้นะ"

ฟอร์มเป็นคนดีที่แท้อยากเผือกว่าใครส่ง

'พี่ใหญ่อย่ามาช้านะเอ็มรออยู่'

'อยากไปเที่ยวทะเลกับพี่ไวๆทริปในฝัน อิอิ'

และแถมมาด้วยสติ๊กเกอร์ เขิลอาย

เหอะๆ เหอะๆ ตลกเน๊อะ นี่มันไม่ได้คิดว่าพี่ใหญ่เป็นรุ่นพี่มันแน่นอน อยากจะอัพเลเวลจับพี่ใหญ่ผมทำผัวชัวร์เลย มาสไตล์นี้ ผมไม่ยอมเด็ดขาดพูดเลย คิดแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองพิมพ์บอกคิงลางานวันจันทร์ให้ทันที

หึหึ ทริปในฝัน กูนี่แหละจะทำให้มึงฝันสลายร้องไห้กลับบ้านแทบไม่ทันเลยคอยดู

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 27-28(13/06/60)
«ตอบ #66 เมื่อ13-06-2017 11:25:58 »

แผนเจ๊ก้อยน่าจะได้ผลดีเลยทีเดียว  :katai2-1:

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 27-28(13/06/60)
«ตอบ #67 เมื่อ18-06-2017 11:57:26 »

คนแต่งจ๋าา เรารอคนแต่งมาต่ออยู่น้าา

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่29
«ตอบ #68 เมื่อ18-06-2017 12:40:05 »

โรคจิต29 แผนลวง

Part ใหญ่


ทุกอย่างเป็นไปตามแผน พวกผมเอ็มและโยตามกลุ่มของรันมายังห้าง ผมกับโยนั่งรออยู่ที่สตาร์บัค ส่งแค่เอ็มคอยเดินตาม ผมกับโยเปิดเผยตัวตนไปแล้วเป็นการเสี่ยงถูกจับได้ถ้าหากแอบตามไปด้วย แผนของก้อยวันนี้คือความบังเอิญ พวกผมกำลังรอจังหวะที่จะทำให้พวกเขาเห็นผมกับเอ็ม จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เริ่ม เมื่อพวกเขาเข้าไปยัง

ร้านบุฟเฟ่แห่งหนึ่ง ก็ดันเข้าไปนั่งข้างใน อย่างนี้เดินผ่านหน้าร้านไม่เห็นแน่ จะแสร้งเข้าไปทานร้านเดียวกันก็ดูบังเอิญเกินไป  ในขณะที่พวกผมนั่งรอเวลาอยู่นั้น โอกาสดีๆก็เข้ามา รันโทรเข้ามา ผมจึงแอ๊บไปว่ากำลังทานอาหารอยู่กับรุ่นน้อง เมื่อถามว่าร้านไหน จึงตอบส่งๆไปยังซานตาเฟ่ร้านข้างๆกับสตาร์บัคที่ผมนั่งอยู่กับโย พอรันบอกจะมาหาผมเท่านั้นแหละ แผนการจึงเริ่มต้น ผมเด้งตัวเข้าร้านซานตาเฟ่ทันที และให้โยโทรตามเอ็มเข้าไปที่ร้าน เอ็มวิ่งหน้าตั้งมาเลยครับ เพราะตอนที่เขากำลังลงบันไดเลื่อนมาเห็นรันเดินออกนอกร้านตามมาไม่ไกล เป็นมิชชั่นที่ไฟรนก้นมาก มีเวลาปรับสีหน้าท่าทางเพียงไม่กี่นาที แต่ทุกอย่างก็ผ่านได้ด้วยดี เอ็มไม่หลุด และรันไม่สงสัย ผมไม่รู้ว่าแผนของก้อยต่อไปเป็นยังไงแล้วอยู่ดีๆไลน์ในโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น คนข้างๆตะครุบอย่างไว พร้อมฟอร์มว่าจะเปิดดูให้ อันนี้คือการมีปฏิกิริยาโต้ตอบของแผนนะผมรู้ดี

ปล่อยเลยตามน้ำไป รันบอกแค่ว่า เอ็มไลน์มา แล้วก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดแล้วก็หันมามองหน้าผมพร้อมส่งยิ้มร้ายๆที่มุมปาก

รันอาสาจะจัดกระเป๋า ให้ผมไปอาบน้ำจะได้ไม่เสียเวลา ผมเดินเข้าไปอาบน้ำด้วยความหงุดหงิด แผนทุกอย่างก็ดี แต่ทำไมเมียผมไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย แถมยังจะช่วยจัดกระเป๋าให้อีกเหมือนอยากจะให้ไปเต็มแก่ หรือว่าคิดจะแอบหนีเที่ยวตอนที่ผมไม่อยู่ ถ้ากับไอ้หัวหน้านั่นรับรองรอบนี้ผมเอาตายแน่

คิดแล้วพาลมีอารมณ์ หรือผมควรยกเลิก แล้วเฝ้าเมียอยู่บ้านวันหยุดไหนๆก็ดีกันแล้ว

และเมื่อผมอาบน้ำเสร็จ ออกมาเจอรันยิ้มแป้นเตรียมเสื้อผ้าให้ผมใส่ รวมทั้งกระเป๋าเดินทางใบย่อม เสร็จเรียบร้อย

"ทำไมอาบน้ำชาจังครับ รีบแต่งตัวเลยเดี๋ยวน้องๆพี่จะรอนานนะ"

"..."

หงุดหงิด ผมแต่งตัวไปเงียบๆ ก้อยนะก้อยไหนว่าเวิร์คอย่างนั้นเวิร์คอย่างนี้ ดูสิ แทบจะใส่พานถวายให้เลย

"พี่ใหญ่ มานี่รันพับแขนเสื้อให้ครับ"

"รันพี่ไปทำงานอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม อย่าออกไปเที่ยวไหนตอนกลางคืนนะ พี่เป็นห่วง"

"^___^"

Rrrrrrrrrrrrrrr

"อ๊ะโทรศัพท์พี่ดัง เดี๋ยวรันรับให้เอง"

"สวัสดีครับ...อ่อพี่ใหญ่พึ่งจะแต่งตัวเสร็จกำลังจะออกไปแล้วครับ...ได้ครับเดี๋ยวรันบอกพี่ใหญ่ให้..ครับสวัสดีครับ"

"เอ็มโทรมาเหรอ"

"รู้ดีจังนะ"

"...."

"เอ็มโทรมาบอกว่า ไม่ต้องมารับที่บ้านเดี๋ยวเอ็มจะขับรถไปเองต้องแวะซื้อของก่อน เดี๋ยวไปเจอกันที่บ้านพี่โยเลย"

"อืม"

"เสร็จแล้วใช่มะ ปะ"

รันพูดจบพร้อมสะพานกระเป๋าเป้สีแดงขึ้นบ่า และถือกระเป๋าเดินทางใบย่อมของผมออกไป

"เอ้าไปเร็วสิครับยืนงงอยู่ได้เดี๋ยวพวกเขาก็รอนาน"

"รันจะไปด้วยเหรอ"

"อ่าฮะ เรื่องอะไรจะให้พี่ได้ไปเที่ยวคนเดียวแล้วรันต้องทำงานล่ะ"

"พี่ไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย แล้วพี่กลับวันจันทร์นะ"

"อ่าฮะ เค้าลางานแล้วไม่ต้องห่วง น๊าขอไปด้วยได้ป่าว อยากเที่ยวทะเลกินปูตัวใหญ่ๆนะครับ"

โอ้ยผมจะบ้า ปรับอารมณ์ไม่ถูกอยู่ดีๆเมียก็มากอดมาอ้อนพูดจาน่ารักใส่ แทบอยากจะกดให้จมเตียงตอนนี้เลย ผมก้มลงไปจูบปากเมียขี้อ้อนให้หายคิดถึง ส่งลิ้นเข้าไปทักทายอย่างหยอกเย้า นานจนคนตัวเล็กร้องประท้วง

"อื้อ...พอแล้วมัวแต่จูบเดี๋ยวก็ไม่ได้ไปกันพอดี"

"ไม่ต้องไปสิพี่...ไม่อยากไปแล้ว"

ผมก้มลงไปเพื่อจะจูบรันอีกรอบแต่เขาเบี่ยงหน้าหนี พร้อมดันตัวผมออก

"อื้อ ไม่เอาครับพอก่อน ไม่ไปได้ไงต้องไปสิ  จะเกงานเหรอ แก่แล้วนะทำแบบนี้ไม่ได้ห้ามเบี้ยวงานนะคนแก่"

"หึ ว่าพี่แก่เหรอ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะกดเด็กจนต้องร้องขอชีวิตเลยคอยดู"

"ลุง บ้ากาม พอเลยไม่คุยด้วยแล้ว ดูหน้าตัวเองดิ หื่นมาก"

"ก็หื่นกับเมียคนเดียวเนี่ยแหละ"

-//////-

"ดูสิดูดปากรันเจ่อเหมือนเป็ดเลย ดูดแร๊งแรง"

"ก็มันเขี้ยว อยากทำมากกว่าดูดด้วยซ้ำ"

จบประโยค รันก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นมาคล้องคอผมไว้

"เด็กดี อดทนหน่อยนะครับ ไม่ดื้อไม่ซนนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่รันจะตามใจทุกอย่างเลย"

ฟอดดดดดด จับแก้มผมไปหอมแรงๆหนึ่งที แล้วเดินสะบัดก้นออกนอกห้อง ทิ้งให้ผมยิ้มค้างอยู่คนเดียว

"ร้ายนักนะ คอยดูเถอะพ่อจะจัดให้ยันสว่างเลย"

ผมออกรถไปยังบ้านของโย ทุกคนเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว เหลือก้อยที่เชคร้านตัวเองนิดหน่อยรันจึงอาสาไปช่วยทำ ระหว่างนั้นพวกผมสามคนจึงนึ่งรอกันอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน ที่เป็นส่วนร้านอาหารของโย

"ไอ้เอ็มไปทำอีท่าไหน คุณรันถึงได้ตามมาคุมพี่ใหญ่เนี่ย"

"ฮ่าฮ่า ผมทำไรเฮีย ก็ทำอย่างที่เจ๊ก้อยสอนทุกอย่างเลย ผมว่าคุณรันปี๊ดแตกตรงข้อความไลน์แหง ฝีมือเจ๊ก้อยนะเฮียใหญ่ เจ๊แม่งร้าย"

"หึหึ แผนก้อยเวิร์คจริง สงสัยต้องจัดครอสพิเศษให้ซะแล้ว"

"แล้วผมล่ะเฮีย ผมก็งานดีนะครับ"

"ไอ้เอ็มมึงได้ค่าจ้างรอบนี้เอาไปจ่ายค่าแต่งรถซิ่งของมึงสบายๆยังไม่พออีกหรอไง"

"โหเฮียโย งานหินราคาก็ต้องโหดเป็นธรรมดาดิครับ เฮียคิดดูถ้าลูกน้องผมมาเห็นสภาพผมตอนนี้มันต้องเอาไปล้อยันลูกบวชแน่ ดูเจ๊จับผมแต่งตัวดิ เกาหลงเกาหลีอ่ะไร แต๋วแตกมากเลย"

"ฮ่าฮ่าฮ่า เออหล่อไปอีกแบบน่า"

"เห้อ ผมไม่เข้าใจอีกอย่างทำไมเจ๊ต้องให้ผมพูดฮะฮะ แทนครับก็ไม่รู้ ผมฟังผมยังแสลงหูน้ำเสียงตัวเองเลย พี่ใหญ่ฮะ พี่ใหญ่ฮะ ตลอดเวลา ผมไม่ใช่ทัดดาวนะเฮีย ที่พูดว่าเจ้าฮะเจ้าฮะ แล้วจะดูน่ารัก"

"เออบ่นไรมากวะ ก็คำพูดมึงมันกระด้างไง ไอ้ฮะๆไรเนี่ยช่วยให้มึง ดูสาวขึ้น"

"นี่ถ้าไม่ใช่เฮียใหญ่กับเฮียโย ผมไม่มีทางทำให้เด็ดขาดเลย จริงๆ"

"หึหึ ช่วยเฮียถ้าสำเร็จ เฮียตอบแทนให้งามๆ"

"จริงน๊าเฮีย เฮียใจดีผมร๊ากเฮียที่สุดเลย ถ้าเป็นเฮียให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนบอกมาได้เลย ไอ้เอ็มคนนี้พร้อมพลีชีพ"

"โถ่ไอ้เอ็ม มึงรักเฮียหรือรักเงินเฮียกันแน่ฮะ"

"รักเฮียสิครับ รักเฮียทั้งคู่เลย อ่ะมากันแล้วเฮีย ผมทำสมาธิก่อนนะฮะ  ฮ่าฮ่าฮ่า"

"อย่าให้หลุดนะมึง"

"หายห่วงน่า"

เมื่อของทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เราจึงเริ่มออกเดินทาง รถสองคัน คือคันของโยและก้อย กับอีกคันคือของผม รัน และเอ็ม ในระหว่างทาง เอ็มนั่งทางด้านหลังฝั่งเดียวกับผม ผมพูดตรงๆเลยนะ เอ็มเป็นอะไรที่รู้งานสุดๆ อยู่ต่อหน้าพวกผมเอ็มเป็นเด็กห้าวติดพูดจากวนๆไปเรื่อย แต่เวลาต้องแสดงเป็นหนุ่มน้อยแบบเนี้ย เขาทำได้ดีเลยเชียวล่ะ ชวนผมคุยจ้อไม่หยุดไปตลอดทาง แถมนั่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีก และตอนนี้ผมว่าเอ็มสะกิดโดนต่อมหึงเมียผมบ้างแล้วล่ะ ดูจากสีหน้าที่ยิ้มฝืนๆของรันแล้ว แทบจะรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหว ก้อยบอกว่ามีแผนต่อไป แต่ไม่พูดว่าคืออะไร แค่บอกให้ผมไหลไปตามน้ำที่เอ็มทำก็พอ


ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 30(18/06/60)
«ตอบ #69 เมื่อ18-06-2017 12:42:42 »

โรคจิต30 คนในอดีต

Part รัน


ผมล่ะหมันไส้รุ่นน้องของพี่ใหญ่คนนี้จริงๆ ผีเจาะปากมาพูดหรือไงก็ไม่รู้ พล่ามมาตลอดทางเลย ทำท่ากระแซะพี่ใหญ่ตลอด แหมนั่นแฟนผมนะแฟนผม เก็บอาการคันไว้หน่อย ผมนี่ทำหน้าเหม็นเบื่อแกล้งหลับแม่งเลยรำคาญ ใช้เวลาเดินทางไม่นานพวกเราก็เดินทางถึงโรงแรมของพี่ใหญ่ ผมพึ่งมาโรงแรมนี่ครั้งแรก อยากบอกว่ามันสวยและอลังการมากครับ โรงแรมอยู่ติดทะเลมากเลย มีแค่ถนนกั้นข้ามฝั่งไปก็เป็นผืนทรายและทะเลแล้ว เท่าที่ผมมองผ่านๆมา โรงแรมพี่ใหญ่เนี่ย อลังการสุด แถวเรียบชายหาดส่วนมากจะเป็นโรงแรมเล็กๆชั่วคราวหรือไม่ก็บังกะโลหลังน้อยเรียงรายอยู่รอบๆ โรงแรมใหญ่ๆหน่อยก็มีสองสามโรงแรมที่ผ่านตามา ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าได้แล้ว พวกเราทุกคนแยกย้ายกันเอาของไปเก็บในห้องของตัวเอง ห้องที่ผมกับพี่ใหญพักคือสวยมากครับ เปิดเข้าไปก็เห็นฝั่งของทะเล กระจกบานใหญ่ เห็นสุดลูกหูลูกตาเลย

"ว้าวววว เห็นทะเลด้วย บรรยากาศดีจัง"

"ชอบไหม"

"ชอบสิครับ ห้องสวยบรรยากาศก็ดี ดูๆไฟตรงโน้นสิครับ ยาวเป็นทางเลยตรงนั้นคืออะไร"

"นั่นสะพานปลา ส่วนแสงไฟที่อยู่ไกลๆโน่น พัทยา"

"โห มองจากตรงนี้เห็นไกลไปถึงพัทยาเลยเหรอ พี่ใหญ่มาที่นี่บ่อยไหม รันไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเลย นานทีปีหน แถวนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้างครับ"

"ก็มีทุกอย่างผับ บาร์ ร้านอาหาร คืนนี้มีถนนคนเดินด้วยนะ ตรงแหลมแท่น อยากไปเดินไหมพี่จะพาไป"

"ไปครับไป"

"งั้นเดี๋ยวพี่โทรบอกพวกโยก่อน"

หลังจากเอากระเป๋าไปเก็บกันเรียบร้อย พวกเราทั้งห้าคน ก็ตกลงจะไปถนนคนเดินพร้อมกัน แต่เดี๋ยวนะ ไอ้รุ่นน้องขี้แพ่มของพี่ใหญ่ เหมือนตำแหน่งที่เดินอยู่นะมันของกู๊

แม่งเดินประกบพี่ใหญ่ตั้งแต่ลงจากรถยันข้ามถนนมาถึงที่แล้วดูสามีผม หน้ามึนได้อีก คุยมันเข้าไป ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ รู้ว่าไม่เจอกันนาน แต่แบบสนใจแฟนบ้างดิโว้ย รมเสีย ถนนคนเดิน ทางไม่กว้างมากนักคนเดินสวนกันไปมา พี่ใหญ่กับเอ็ม อยู่ข้างหน้า ผมอยู่ด้านหลัง ตบท้ายด้วยคู่ผัวเมีย พี่โยพี่ก้อย ห้าคนเนี่ย ไอ้รุ่นน้องควรเป็นชิ้นเนื้อส่วนเกินที่เดินฉายเดียวสิ ไม่ใช่ผม หงุดหงิดๆ ไม่มีใครสนใจก็ช่าง ไม่สนใจบ้างละ เดินดูของคนเดียวก็ได้ คอยดูเถอะคืนนี้อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเลย ชิส์ ด้วยความเซ็งบวกหมันไส้ ผมจึงแยกเดินไปอีกทางซะเลย เดินดูของโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ขณะที่ผมกำลังแวะยืนซื้อไอศครีมโคนอยู่นั้นสายตาผม หันไปเจอผู้ชายคนนึง คนที่หายไปจากความทรงจำของผมเมื่อนานมาแล้ว ผมรีบเดินไปหาเขาทันที ด้วยคนที่ค่อนข้างเยอะ สายตาของผมจึงคลาดจากเขาไป เมื่อหลุดออกจากทางที่คนพลุกพล่านได้ ผมจึงยืนมองหาไปรอบๆแล้วก็เห็นเขากำลังเดินออกจากถนนคนเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ผมวิ่งตามไปจนทันเห็นหลังเขาอยู่ข้างหน้าผมนี้

"พี่อาร์ท"

พี่เขาหันมาตามเสียงเรียก

"รัน"

ผมโผเข้าไปกอดพี่อาร์ทแน่น ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอและมันกำลังทำให้ผมหายใจไม่ออก

"รันมาที่นี่ได้ยังไง"

"ผม...ผม"

"พี่โอมคะ นี่ใครเหรอ"

ผมหันไปมองตามเสียงเห็นผู้หญิง อายุน่าจะไล่เลี่ยกับผมข้างๆยังมีเด็กสาวตัวน้อยอยู่ด้วย ผมคลายกอดจากพี่อาร์ท ทำไมผู้หญิงคนนี้เรียกพี่เขาว่าพี่โอมล่ะ

"แก้ว พาน้องออยไปรอพี่ที่รถก่อน พี่ขอคุยธุระกับน้องเดี๋ยวนึง"

"ค่ะ"

"รันมากับใคร"

ผมเอื้อมมือไปจับมือพี่อาร์ทไว้แน่น

"พี่อาร์ท พี่...ฮึก หายไปไหนมาครับ"

"รัน คือพี่"

"ทำไมพี่ถึงทิ้งรัน เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ นั่นเมียกับลูกพี่อาร์ทใช่ไหม"

"ใช่ แต่ ไม่ใช่ลูกของพี่ คือรันตั้งสติแล้วฟังพี่ก่อนนะ"

"รัน"

ผมหันหน้าไปตามเสียงเรียกทันที เห็นพี่โยวิ่งมาข้ามถนนมาโดยมีพี่ก้อยรออยู่อีกฝั่ง

"รันมีอะไรกันรึเปล่าปล่อยมือผู้ชายคนนี้ก่อน ถ้าพี่ใหญ่มาเห็นเดี๋ยวเป็นเรื่อง ปล่อยมือก่อนครับ"

ผมค่อยๆปล่อยมือพี่อาร์ทออก

"รันกลับไปกับพี่เถอะพี่ใหญ่ตามหารันให้ทั่วเลย"

"แต่ผม"

"เชื่อพี่นะ ไปก่อนเถอะ พี่ไม่อยากให้พี่ใหญ่มาเห็น"

"รันพี่ขอเบอร์ ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรไป เรื่องทุกอย่างพี่อธิบายได้นะ"

"...088xxxxxxx"

"ครับ แล้วเดี๋ยวพี่จะโทรหานะ พี่ต้องไปแล้ว"

พี่อาร์ทเดินหันกลับไป พร้อมกับที่พี่โย จูงมือผมให้เดินข้ามถนน กลับมายังถนนคนเดินอีกครั้ง

"ก้อยดูรันก่อนพี่ไปซื้อน้ำให้รันล้างหน้าแป๊บนึง"

"ค่ะ"

แล้วพี่โยก็กลับมาพร้อมขวดน้ำเปล่าหนึ่งขวด พี่เขาให้ผมล้างหน้าล้างคราบน้ำตา

"ก้อยดู หน้ารันโอเคยัง ยังเหมือนคนร้องไห้อยู่ไหม"

"ดีขึ้นแล้วพี่โย"

"รันเดี๋ยวพี่โทรตามพี่ใหญ่มานะ ตอนนี้คงร้อนใจมากแล้ว ตามหารันไม่เจอ พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างรันกับผู้ชายคนนั้น แต่อย่าให้พี่ใหญ่รู้ว่าร้องไห้นะ เดี๋ยวจะเป็นเรื่อง"

"ครับ"

ผมนั่งรออยู่ไม่นานนัก พี่ใหญ่ก็วิ่งมาจากทางไหนสักทาง ผมก้มหน้าอยู่และไม่ได้มองเพราะคนเยอะ

"รันหายไปไหนมาพี่ตามหาซะทั่วเลย เดินไปไหนทำไมไม่บอกพี่ล่ะ"

"..."

"คนเยอะจะเดินไปไหนบอกพี่สักคำสิ"

"..."

"รันได้ยินไหมที่พี่พูดฮะ"

"ผมได้ยิน ได้ยินทุกคำนั่นแหละ ผมขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง พอดีว่าผมไม่เห็นพี่จะสนใจผมสักนิด ผมเลยไม่นึกว่าพี่จะตามหา ผมขอโทษ ขอโทษ พอใจรึยัง"

"รัน เป็นอะไร ไม่ต้องขอโทษพี่ไม่ได้โกรธ พี่แค่เป็นห่วง"

เสียงพี่ใหญ่แผ่วลงทันที

"เป็นหวงแต่ไม่หันมามองผมสักนิดเลย ใครๆก็ชอบพูดแต่ว่าคำว่าเป็นห่วงผม แต่ไม่มีใครสนใจผมจริงๆซักคน ทิ้งผมกันไปหมดพี่ก็ด้วย พี่ทิ้งผม ไม่สนใจผมเลย ผมมันคนไม่ดีใช่ไหม ทำไมใครๆก็เอาแต่ทิ้งผมไปหมด"

ผมรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ผมไม่คงที่ ผมกำลังพาลใส่พี่ใหญ่และทุกคน แต่ผมไม่รู้จะหยุดความรู้สึกบ้าๆนี้ได้ยังไง

"ชูววว ชูว คนดี ไม่ต้องพูดแล้วครับ ไม่เป็นไร พี่ขอโทษที่ละเลยรันนะ พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกพี่สัญญา ไปกลับห้องกับพี่ดีกว่า ไปอยู่กับพี่สองคนนะ โอเคไหม พี่จะไม่ทิ้งรันไปไหนไม่มีวัน"

"พี่ใหญ่...อย่าทิ้งผมนะ"

"ไม่ทิ้งครับ ไม่เคยคิดเลยสักนิด"

ผมกอดพี่ใหญ่เอาไว้แน่น ความรู้สึกแน่นอกคลายลง พี่ใหญ่พาผมกลับไปที่ห้อง รวบผมไปกอดที่โซฟา ให้ผมซุกหน้าอยู่กับเขาแบบนั้น ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากเราทั้งสองคน ไม่รู้พวกเรานั่งกันอยู่แบบนี้นานแค่ไหน ไม่มีแสงไฟ มีแต่แสงสลัวจากภายนอก ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมีแต่เสียงลมหายใจของเราทั้งคู่

ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ใหญ่เราสบตากัน ผมมีผู้ชายที่แสนดีอยู่ตรงหน้านี้แล้ว เรื่องพี่อาร์ทผมควรจะปล่อยเขาให้เป็นอดีตเหมือนที่ผ่านมา ในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งผมไปเมื่อครั้งก่อน ผมควรตัดเขาออกจากใจให้หมดสิ้น ผู้ชายตรงหน้าผมคนนี้ต่างหาก ที่ผมจะเหนี่ยวรั้งเขาไว้ตลอดกาล ผมใช้มือทั้งสองข้างจับแก้มเขาก้มลงมารับจูบจากผม เรามีเซ็กส์กันตรงโซฟา ลามไปแทบทุกส่วนของห้อง ค่ำคืนนี้เราทั้งสอง คงไม่มีใครยอมหยุดไฟรักนี้ลงง่ายๆ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 30(18/06/60)
« ตอบ #69 เมื่อ: 18-06-2017 12:42:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #70 เมื่อ18-06-2017 18:51:47 »

ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องเข้านี่ อาร์ทคงจะเจ็บหนัก 5555

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #71 เมื่อ18-06-2017 23:46:30 »

อาร์ทนี่ไม่ใช่โดนฆ่าไปแล้วหรอ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #72 เมื่อ19-06-2017 09:21:53 »

คิดว่าอาร์ทตายแล้วซะอีก

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #73 เมื่อ19-06-2017 11:08:07 »

ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องเข้ามีหวัง  ...   เละ  ...   :sad3: :sad3: :sad3:

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #74 เมื่อ19-06-2017 12:35:02 »

โรคจิต31 ความจริงที่ไม่เคยรู้

Part รัน


อดีตที่ผ่านมา

"เปี๊ยก ตื่นได้แล้ววันนี้มีสอบนะเดี๋ยวก็ไปไม่ทัน"

เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหู ขณะที่ผมกำลังลุกจากที่นอนเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวายนี้

ปัง ปัง ปัง

"ตื่นรึยัง เปิดประตู ไอ้เปี๊ยกถ้าไม่ตื่นทิ้งจริงๆนะ"

"ตื่นแล้วครับ ตื่นแล้ว"

แกร๊ก

"รีบไปอาบน้ำเลย วันนี้มีสอบปลายภาคนะ จะทันไหม ตั้งนาฬิกาปลุกรึเปล่าเนี่ย"

"ครับๆพี่อาร์ทรอแป๊บนึง ห้านาทีนะเดี๋ยวรันรีบอาบ เมื่อคืนทบทวนแนวข้อสอบจนดึก ลืมตั้งนาฬิกาปลุกซะสนิทเลย"

"เร็วๆเข้า วันนี้พี่มีเรียนเช้าด้วยเดี๋ยวไปไม่ทัน"

ผมไปถึงทันก่อนเวลาสอบ ส่วนพี่อาร์ทหลังจากส่งผมลงหน้าโรงเรียนเขาก็ขี่ฟีโน่คู่ใจออกไปทันที หลังสอบเสร็จ ก็นั่งรอพี่อาร์ทมารับอยู่ในโรงเรียน นี่คือกิจวัตรประจำวันในชีวิตผม หลังจากที่เสียแม่ไป ผมขายทาวน์เฮ้าที่อยู่กับแม่สองคน มันใหญ่เกินไปสำหรับเด็กผู้ชายตัวคนเดียวอย่างผม ได้เงินหนึ่งล้านสองแสนบาทจากการขายบ้าน เงินก้อนนี้บวกกับเงินในบัญชีที่แม่สะสมเอาไว้สองแสนกว่าบาท จะเป็นทุนในการเรียนและการใช้ชีวิตของผมต่อไปในอนาคต เพียงลำพัง ผมย้ายมาเช่าห้องเช่าหลังเล็กๆ เดือนละพันกว่าบาท และการย้ายมาอยู่ห้องเช่านี้ทำให้ผมได้รู้จัก พี่อาร์ท

เขาเป็นรุ่นพี่ผมสี่ปีพี่อาร์ทเรียนอยู่หมาลัยปีหนึ่ง เราเช่าห้องเช่าอยู่ห่างกันเพียงสองหลัง พี่อาร์ทคอยช่วยเหลือผมมาตลอดไม่ว่าผมจะทำอะไรในชีวิตต่อจากนี้มักจะมีพี่อาร์ทคอยอยู่ข้างๆช่วยเหลือเสมอ

เขาช่วยผมทุกอย่างจริงนะ สอนผมทำอาหารง่ายๆ สอนซักผ้า สอนการบ้าน ช่วยติวข้อสอบ เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเล่น ผมติดพี่อาร์ทมาก เหมือนกับได้ที่พึ่งพิงได้ที่พักใจหลังจากที่เสียแม่ไป เมื่อเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนในที่สุด ผมก็สามารถสอบเข้ามหาลัยเดียวกับพี่อาร์ทได้ ผมเข้าบริหาร ส่วนพี่อาร์ทเรียนแพทย์ เราจึงได้มีโอกาศได้เจอกันที่มหาลัยบ้างบางครั้ง เวลาว่างของเราสองคนคือการได้อยู่ด้วยกัน ความผูกพันตลอดสี่ปีที่ผ่านมา มันหล่อหลอมผมกับพี่อาร์ท ให้เป็นเหมือนจิ๊กซอร์ส่วนที่ขาดหายของกันและกัน

ในวันเกิดผมเมื่อตอนอายุครบ19 ปี เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุด เราฉลองวันเกิดด้วยกันสองคนในห้องเช่าหลังเล็กของผม พี่อาร์ทเอาเค๊กแอบมาเซอร์ไพรส์ เมื่อเป่าเทียนอธิฐาน ผมพูดออกมาว่าขอให้พี่อาร์ทอยู่กับผมตลอดไป แล้วคืนนั้นพี่อาร์ทก็ขอคบกับผมเป็นแฟน ผมตอบตกลงทันทีแบบไม่ลังเล ผมรักพี่อาร์ทมาก ผมมีความสุขทุกวินาทีที่เราสองคนได้ใช้ร่วมกัน เมื่อผมเข้าปีหนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัย ผมเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ หาเงินส่งตัวเองเรียน ผมยังมีเงินเหลืออยู่ จากการขายบ้าน แต่ตอนนี้ผมโตพอที่จะทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนได้แล้ว เราสองคนคบกันในฐานะแฟนได้ปีกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุข พี่อาร์ททำให้ผมไม่ต้องทนทุกข์ จากการที่ต้องเสียแม่และเหลือตัวคนเดียว

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่เคยถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง มีเขาอยู่คียงข้างเสมอ แล้ววันนึงก็เหมือนกับฟ้าผ่าเข้ามาตรงกลางหัวผมอีกครั้ง พี่อาร์ทหายไป อยู่ดีๆเขาก็หายออกไปจากชีวิตของผม ไม่มีแม้การเอ่ยลาใดๆ มีเพียงรูปถ่ายสี่ห้าใบ ที่ในรูปมีพี่อาร์ทอุ้มเด็กอยู่ในอ้อมแขน รูปพี่อาร์ทเดินประครองผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอุ้มทารกอยู่ และรูปคล้ายๆกันอีกสองสามรูป มันคืออะไร ทำไมถึงมีรูปพวกนี้

พี่อาร์ท....ผมพยายามตามหาเขาทุกที่ ทั้งมหาลัย บ้านเพื่อน ตามร้านประจำที่พี่เขาเคยไป แต่ก็หาไม่เจอ ผมไม่รู้จักบ้านของพี่อาร์ทเลยไม่รู้จะตามที่ไหนอันที่จริงผมแทบไม่รู้เรื่องครอบครัวเขาเลยสัดนิดทุกๆวันผมทำได้แค่ รอ รอว่าสักวันพี่อาร์ทจะกลับมาหาผม แต่รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เคยเลยที่พี่อาร์ทจะกลับมาหา ผมต้องกลับมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง ไม่มีใครให้พึ่งพิง ไร้ที่พักใจ นอนกอดตัวเองร้องไห้ทุกคืน ทำไมชีวิตผมต้องเจอแต่การสูญเสีย คนที่ผมรักทำไมต้องจากผมไปหมด ผมไม่เหลือใครเลย ผมเหนื่อย เหนื่อยจริงๆ

ปัจจุบัน

ติ้ง ติ้ง

เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นปลุกสติของผมให้ตื่นจากการนอนหลับ พอเริ่มรู้สึกตัว ความปวดระบบตามร่างกายก็แผ่ซ่านตามมา เมื่อคืนผมกับพี่ใหญ่ เรามีเซ็กส์กันแทบทั้งคืน มันเป็นคืนที่เยี่ยมที่สุดทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหว ผมรู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงหาที่พี่ใหญ่ส่งมาให้ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นพี่ใหญ่ยังนอนหลับอยู่ข้างๆ ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

'รันพี่เองนะ พี่อยากคุยกับรัน'

'เรานัดเจอกันได้ไหม พี่มีเรื่องอยากบอกรันมากมายเลย'

ข้อความไลน์จากพี่อาร์ท ผมกำโทรศัพท์แน่น บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง รักเหรอ คงไม่ใช่มันเลือนลาง จนจางหายไปนานแล้ว ความผูกพันธ์ล่ะมั้งที่ยังเหลืออยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ

ผมควรจะทำไง? ควรไปเจอพี่อาร์ทอีกครั้งไหม  หรือควรปล่อยให้เขาเป็นเพียงแค่ความทรงจำ ผมลุกเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านร่างกายไปเรื่อยๆ แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีมือเข้ามากอดรัดจากด้านหลัง

"ตกใจหมดเลย ตื่นแล้วเหรอครับ"

พี่ใหญ่ กอดแล้วหอมซอกคอ หัวไหล่ของผมไปทั่ว

"อย่าเล่นสิ รันไม่ไหวแล้วนะ เมื่อคืนก็เยอะแล้ว ขอพักก่อนได้ไหม"

"แค่หอมเฉยๆก็ไม่ได้เหรอ เมียพี่ตัวหอมนี่นา"

"แค่หอมอ่ะได้ แต่มากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว"

"ครับ"

"พี่ครับ เมื่อคืนรันขอโทษนะ ที่วีนใส่พี่ วีนใส่ทุกคนเลย ไม่รู้ว่าพวกพี่โย จะโกรธรันไหม รันทำตัวแย่ๆลงไปตั้งเยอะ"

"ไม่ต้องคิดมากนะ ไม่มีใครโกรธรันหรอกเชื่อพี่สิ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเมื่อคืนพี่ทำให้รันรู้สึกแย่"

"รู้สึกแย่ที่ไหน รู้สึกดีมากต่างหาก พี่ใหญ่ดีกับรันทั้งคืนเลย ^__^"

"ก็ง้อไง ง้อเมียทำเมียเสียใจ"

"พี่ใหญ่ ต่อไปพี่ต้องไม่ทำแบบนี้อีกได้ไหม อย่าทำเหมือนไม่สนใจรัน รันรู้สึกเหมือน...ถูกทิ้ง รันไม่ชอบเลย"

"คนดี พี่จะไม่ทำให้รันรู้สึกแบบนี้อีก พี่รักกันมากนะ อาจจะมากกว่าที่รันรู้ก็ได้ พี่จะไม่มีวันทิ้งรันไปไหน พี่จะไม่มีวันนอกใจรัน จะรักรันคนเดียวตลอดไป รันก็ห้ามทิ้งพี่นะ ห้ามนอกใจ อย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น เข้าใจรึเปล่า"

"...พี่ใหญ่ เมื่อคืน"

ผมอยากบอกพี่ใหญ่ว่าเมื่อคืนผมเจอใคร แต่คิดไปคิดมา ไม่พูดจะดีกว่า

"หืม"

"ไม่มีอะไรครับ อาบน้ำกันเถอะหันหลังมาเดี๋ยวรันถูหลังให้ รีบอาบรีบออกไปหาอะไรกินกัน รันหิวม๊ากกเลย"

"^___^ จ้า"

ผมกับพี่ใหญ่ลงมาทานอาหารเช้าที่ล๊อบบี้ของโรงแรม เสร็จแล้วพี่ใหญ่ก็พาผมไปอยู่กับพวกพี่โย ส่วนพี่ใหญ่เขาก็แยกตัวออกไปทำงาน ผมขอโทษขอโพยเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานที่ผมทำตัวงี่เง่า ขอโทษทุกคนรวมทั้งรุ่นน้องขี้แพ่มคนนั้นด้วย ไม่รู้ว้าเขาจะเคืองผมไหม เพราะเช้านี้ที่เจอหน้ากัน เอ็มดูเปลี่ยนไป การแต่งตัวก็ต่างไปจากที่เคยเห็นคือจะว่ายังไงดี ดูแมนขึ้นว่าง่ายๆ คำพูดคำจาท่าทางก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย ดูไม่ค่อยอ้อน หรือว่าเขาจะทำกับพี่ใหญ่แค่คนเดียว

เขาจะคิดยังไงไม่รู้แหละ เอาเป็นว่าผมจะพยายามเปลี่ยนตัวเอง ลดความระแวงหึงหวงให้น้อยลง ผมควรมั่นใจในคนรักของผมให้มากกว่านี้ ช่วงบ่าย พวกผมสี่คน รวมตัวกันลงมาเดินเล่นบริเวณริมหาด อากาศวันนี้แดดไม่จัดมากนัก เราเดินเล่นซื้อขอที่ระลึกกันแล้วก็แวะนั่งเก้าอี้ชายหาดโต๊ะเหมาสำหรับสี่คน และก็บรรเลงสั่งของกินมานั่งโซ้ยกัน ทั้งหมึก กุ้ง ตัวโตๆ ส้มตำ ต้มยำทะเล ข้าวผัด ยำต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ ไก่ย่างข้าวเหนียว ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น บรรยากาศดี อาหารสดอร่อย พูดคุยกันสนุกสนานออกรส ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกดีกับเอ็มขึ้นมานิดๆแล้วนะ เอ็มเป็นคนตลกโปกฮา นิสัยกวนๆดี แต่ที่เหมือนเดิมคือ ขี้แพ่มมากๆครับ กินไปจ้อไปไม่หยุด ผมล่ะนับถือจริงๆ

Rrrrrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดูมองไปยังตัวเลขบนมือถือที่ยังไม่ได้บันทึก  เบอร์เดียวกับที่ส่งไลน์มาเมื่อเช้า

"เดี๋ยวผมรับโทรศัพท์คุยธุระแป็บนึงนะครับ"

"ช้ากินหมดไม่รอนะ"

เอ็มแซวขึ้นมา หลังจากที่เราเริ่มสนิทกันเล็กน้อย  ผมเดินเลี่ยงเดินตรงไปยังทะเล

"ฮัลโหล"

"ฮัลโหล รันนี่พี่อะ....พี่เองนะรันทำอะไรอยู่ครับ"

"รันนั่งเล่นที่ชายหาดอยู่"

"เหรออยู่ตรงล็อกไหน พี่ไปหาได้ไหม มีเรื่องอยากจะคุยกับรันเยอะเลย"

"...คือตอนนี้ผมอยู่กับเพื่อนๆ ไม่สะดวกเลยครับ"

"เหรอ แล้วรันพอมีเวลาช่วงไหนให้พี่ได้บ้างไหม พี่อยากคุยจริงๆนะ มีบางอย่างที่รันควรได้รู้"

"เรื่องอะไรครับ เรื่องลูกกับเมียพี่ใช่หรือเปล่า"

"พวกเขาไม่ใช่ลูกกับเมียพี่นั่นเมียน้องชายพี่ เด็กก็คือหลาน มีหลายเรื่องที่รันควรได้รู้ มาเจอกับพี่ได้ไหม แล้วพี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง"

ผมตัดสินใจนัดกับพี่อาร์ทอีกสองชั่วโมงข้างหน้า หลังจากวางโทรศัพท์ผมก็ขอตัวกลับขึ้นห้องอ้างว่าจะไปพักผ่อน ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ และขับรถไปยังร้านเค๊กไม่ไกลจากโรงแรมที่ผมพักมากนัก ร้านเค๊กแห่งนี้เป็นร้านใหญ่พอสมควร โต๊ะที่นั่งทานจัดไว้เป็นมุมตามสวน  ค่อนข้างเป็นส่วนตัว พี่อาร์ทโบกมือให้ผม ตรงโต๊ะหัวมุมติดกับบ่อน้ำเล็กๆ

"รัน ทางนี้"

"มานานรึยังครับ"

"มาก่อนรันสิบนาทีได้ เป็นยังไงบ้างไม่ได้ข่าวตั้งหลายปีแล้ว"

เหอะ!! นี่เป็นคำถามที่ผมควรจะถามเขามากกว่าไหม

"คำถามนี้ของผมมากกว่า พี่ต่างหากที่อยู่ๆก็หายไป เป็นยังไงบ้างครับ ครอบครัวสุขสบายดีพี่ดูมีความสุขดีนะ"

"คือ...รันจริงๆแล้วพี่ไม่ใช่อาร์ทน่ะ"

"ไม่ตลกนะครับไม่ใช่พี่อาร์ทแล้วจะใคร ฝาแฝดหรือไง"

"ใช่พี่เป็นแฝดกับอาร์ทชื่อโอม"

"มุกใช่ไหมผมไม่ขำนะ"

"แล้วเห็นพี่หัวเราะเหรอ งั้นดูนี่"

พี่อาร์ทหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาพร้อมกับควักรูปใบนึกออกจากกระเป๋ายื่นมาให้ผมเห็นพี่อาร์ท วัยเด็กน่าจะไม่เกิน 10 ปีและที่สำคัญข้างๆยังมีเด็กอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ

"นี่...พี่อาร์ทมีฝาแฝดจริงๆเหรอ ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย"

"ก็ไม่แปลกที่รันจะไม่รู้ อาร์ทน่ะ หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 15แล้ว มีปัญหากับที่บ้าน อาร์ททำผู้หญิงท้อง คนเมื่อวานที่รันเห็นนั่นแหละ ชื่อแก้ว แต่อาร์ทไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงบังคับให้รับผิดชอบ จะให้แต่งงาน อาร์ทเลยหนีออกจากบ้านไป พี่ไม่รู้ว่าอาร์ทหายไปอยู่ไหน จนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ อาร์ทแค่ติดต่อกับพี่ ทางโทรศัพท์ เราคุยกันตลอด อาร์ทเล่าเรื่องของรันให้พี่ฟังบ่อยๆ ส่งรูปมาให้พี่ดูด้วยนะ พี่ถึงได้จำรันได้ตอนที่เข้ามาทักพี่เมื่อคืน พี่ไม่กล้าพูดถึงอาร์ทต่อหน้าแก้ว พี่อยากถามหาอาร์ท น้องชายพี่ขาดการติดต่อไปสามปีกว่า พี่ไม่รู้ว่าเราสองคนเลิกคบกันไปแล้ว"

"ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าพี่อาร์ทหายไปไหน อยู่ๆเขาก็หายไป คงช่วงเดียวกับที่ไม่ได้ติดต่อกับพี่โอมนั่นแหละ ผมตามหาเขาตลอดทุกๆที่ แต่ผมไม่รู้จักบ้านของพี่อาร์ท จริงแล้ว ผมไม่รู้อะไรสักอย่างเลยเกี่ยวกับพี่อาร์ท เขาให้ผมรู้เท่าที่เขาอยากให้รู้"

"รันยังรักอาร์ทอยู่ไหม"

"ไม่รู้สิครับ มันนานมากแล้วผมไม่อยากขุดคุ้ยหาคำตอบ"

"มีแฟนแล้วใช่ไหม"

"ครับ พึ่งจะคบกันไม่ถึงปี ชีวิตผมตอนนี้โอเคทุกอย่างแล้ว ขอบคุณนะที่พี่ความจริงผม ผมไม่รู้ว่าพี่อาร์ทหายไปไหน แต่ผมหวังว่าสักวันพี่เขาจะกลับไปหาพี่หาครอบครัวนะครับ"

"แล้วนี่รัน อยู่แถวนี้เหรอ"

"ป่าวครับผมมาเที่ยวน่ะ ผมอยู่ตัวเมือง ย้ายจากกรุงเทพฯหลังเรียนจบ ย้ายตามเพื่อนมาน่ะครับ"

"แล้วพี่โอมล่ะมาเที่ยวเหรอ"

"ป่าวบ้านพี่อยู่ที่นี่ พี่มีห้องพักรายวันกับรายเดือน อยู่ซอยตรงเซเว่นที่รันผ่านมา กิจการของที่บ้านพี่รับช่วงต่อจากพ่อ"

ที่นี่เองเหรอ บางแสนบ้านของพี่อาร์ท บ้านที่เมื่อก่อนผมแทบพลิกแผ่นดินหาแต่ก็ไม่อาจเจอได้

"รันรีบไปไหนไหม ไปเที่ยวดูที่บ้านพี่รึเปล่า"

"เอ่อ...เดี๋ยวผมคงต้องกลับแล้วครับ คือออกมาไม่ได้บอกใครเลย เดี๋ยวจะเป็นห่วงกัน ผมขอบคุณพี่มากนะครับ"

ผมกล่าวลาพร้อมยกมือไหว้พี่โอมไป พี่เขาแก่กว่าผมและไม่ใช่แฟนเก่าเหมือนที่ผมเข้าใจ ไปลามาไหว้ถูกแล้ว ขณะที่ผมกำลังลุดขึ้น พี่โอมก็จับมือผมเอาไว้

"เดี๋ยวรัน พี่...ยังโทรหารันได้ไหม หลังจากวันนี้ได้หรือเปล่า"

"ปล่อยมือจากเมียกูเดี๋ยวนี้"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ลมหายใจแทบจะหยุดลงตรงวินาทีนี้ พี่ใหญ่ที่กำลังยืนกำหมัดแน่นอยู่ไม่ไกล พร้อมเอ็มและพี่โย พวกเขาตามผมมาใช่ไหม แล้วผมจะทำยังไงดี แอบมานัดเจอกับผู้ชายคนอื่น ถึงจะไม่ใช่แฟนเก่า แต่ก็มาเรื่องเขาอยู่ดี ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ แทบไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #75 เมื่อ20-06-2017 15:53:17 »

โอยยย ลุ้นๆ ก็ว่าอยู่ว่ามีอยู่ตอนหนึ่งเล่าว่าอาร์ทถูกฆ่าตาย แล้วอยู่ๆก็โผล่มา 555

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #76 เมื่อ28-06-2017 06:56:19 »

คนแต่งงงง อย่าหายไปไหนสิค้าา กำลังสนุกเลยย

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #77 เมื่อ28-06-2017 07:30:46 »

งานจะงอก?

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 32
«ตอบ #78 เมื่อ28-06-2017 08:14:43 »

โรคจิต32 ไม่อาจทนไหว

Part ใหญ่


ผมตื่นก่อนรันนานเป็นชั่วโมงแล้ว ได้แต่นอนมองหน้าเมียตัวเองอย่างรักใคร่ เมื่อคืน หลังจากที่รันเพลียหลับไป ผมโทรคุยกับโยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โยบอกผมว่ารันคุยอยู่กับผู้ชายคนนึง เหมือนรู้จักกันมาก่อน มันเป็นใคร? บรรดาผู้ชายที่เคยมาจีบรันเหรอ แต่ลึกๆผมรู้สึกว่ามันมากกว่านั้น เมื่อคืนผมไม่ถามรันสักคำถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนเสียงข้อความไลน์จากโทรศัพท์รันดัง ปลุกให้คนในอ้อมแขนตื่น ผมแสร้งทำเป็นหลับ เมื่อเห็นว่ารันลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมจึงหยิบโทรศัพท์รันมาเปิดข้อความดู

'รันพี่เองนะ พี่อยากคุยกับรัน'

'เรานัดเจอกันได้ไหม พี่มีเรื่องอยากบอกรันมากมายเลย'

ผมกำโทรศัพท์ไว้แน่น ใครวะที่ทำให้รันเสียสูญแบบเมื่อคืนได้ ผมข่มอารมณ์ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง เดินเข้าห้องน้ำไปหาคนรัก ผมกกกอดเข้าไว้แน่น รู้สึกกลัวบางอย่างกลัวว่าคนรักของผมจะหายจากผมไป

ผมต้องไปสะสางงานเล็กน้อย ในโรงแรมได้แต่สั่งให้โยและเอ็มคอยดูรัน ผมไม่รู้ว่าเขาจะตอบไอ้นั่นว่ายังไง จนบ่ายแก่ๆ โยโทรมารายงานผมว่า รันรับโทรศัพท์สายนึงแล้วก็ขอตัวกลับห้องพักไป ผมสั่งให้โย ดักรอทันทีด้วยความไม่ไว้ใจ ผมสั่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนั่งรอเคลียร์งานอยู่ในห้องประชุมเล็กของโรงแรม ผ่านไปราวชั่วโมงเศษในขณะที่ผมกำลังเดินออกจากห้องประชุมเพื่อเตรียมกลับเข้าห้องพัก ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองคงจะหวาดระแวงมากเกินไป รันอาจจะอยากขึ้นไปพักผ่อนจริงๆก็ได้ แต่แล้วโยก็โทรกลับมาบอกว่ารันกำลังออกไปนอกโรงแรม หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมาทันที ผมรู้ว่าเขาจะออกไปไหน ที่ไม่รู้คือคนที่รันจะออกไปพบเป็นใคร

ผมขับรถตามไปยังร้านที่โยบอก เดินเข้าไปยังส่วนของสวน แล้วก็เห็นรัน ผมหลบทันทีพร้อมดันมือไปขวางเอ็มกับโยที่เดินตามมา ด้วยความที่ว่าตรงนี้เป็นสวน และที่นั่งจัดไว้ตามมุมต่างๆค่อนข้างเป็นสัดส่วน รันจึงไม่ทันสังเกตุเห็นพวกผม  ผมนั่งลง มองรันผ่านม่านต้นไม่และดอกไม้ ผมอยากรู้ว่าผู้ชายที่นั่งหันหลังให้มันเป็นใคร ทำไมรันต้องแอบผมมานัดคุยกับมัน ทำไมต้องปิดบังผม

ผมเกลียด เกลียดความรู้สึกแบบนี้เป็นบ้า ผมกำลังระแวง และกำลังจะทนไม่ไหว

"พี่ใหญ่อย่าพึ่งวู่วามนะครับ ไม่งั้นทุกอย่างที่เราทำมามันจะพังไม่เป็นท่า ผมสืบได้ว่ามันเป็นใคร อย่าลุกออกไป"

"ใจเย็นๆนะเฮีย เราจัดการทีหลังได้"

น้องสองคนพยายามปลุกปลอบผม เขาทั้งสองคงเห็นอาการผมไม่สู้ดีนัก คงกลัวว่าผมจะพุ่งไปเอาเรื่องอีก ผมไม่ทำหรอก ผมอดทนมาขนาดนี้แล้วจะไม่ยอมเสียแผนเด็ดขาดถ้าบังเอิญสายตาของผมไม่เห็นเข้ากับภาพที่ไอ้เวรนั่นกำลังจับมือรันอยู่ความอดทนผมขาดสะบั้นในวินาทีนั้น สมองอื้ออึงไปหมด ทั้งโกรธทั้งกลัวจนไม่รู้จะบรรยายออกมาได้ยังไง  'มันเป็นใครบังอาจแตะต้องคนรักของกูได้ยังไง ใครก็อย่าหวังมาสัมผัสแม้แต่ปลายเล็บถ้ากูไม่อนุญาติ'

"ปล่อยมือจากเมียกูเดี๋ยวนี้"

ผมพุ่งเข้าไปอย่างเร็ว พร้อมกับตวาดเสียดังลั่น รันตกใจมากที่เห็นผมเขารีบสะบัดมือออกทันที แล้วผู้ชายคนนั้นก็หันหน้ากลับมา วินาทีต่อจากนี้ทำให้ผมช็อค 'เป็นไปไม่ได้ มันจะยืนอยู่ตรงหน้าผมอีกได้ยังไงในเมื่อ'

"มึง ไม่จริงเป็นไปไม่ได้ มึงๆตายไปแล้วนี่"

"พี่ใหญ่หยุด"

ผมถูกโยเอามือปิดปากและล็อคตัวผมจากด้านหลัง

"รันกลับเถอะก่อนจะมีเรื่อง"

เป็นเอ็มที่เดินไปบอกรัน

"พี่ใหญ่ รู้จักพี่อาร์ทด้วยเหรอ ไหนพี่บอกรันว่า"

"พี่บอกให้หยุดออกไปคุยกันที่อื่นนะรันพี่ขอร้อง"

ผมถูกโยลากกลับขึ้นรถ ผมนั่งก้มหน้ากุมมือตัวเอง ตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก ไอ้อาร์ท คนที่ผมแทงมันจนยับนอนจมกองเลือดเมื่อสามปีก่อน มันมายืนอยู่ต่อหน้าผมได้ยังไง

"รันรันล่ะรันอยู่ไหน โยเมียกูอยู่ไหน"

"อยู่คันเอ็ม พี่ใหญ่ตั้งสติก่อน อย่าทำแบบนี้  พี่กำลังคุมตัวเองไม่ได้ เจอกับรันไม่ได้"

"พ่อ กดโทรหาพ่อให้กูหน่อย กูจะคุยกับพ่อกู"

"ครับ"

โยต่อสายคุยกับพ่อผมสักพักก็ยื่นโทรศัพท์มาให้

"พ่อครับ มันกลับมา มันกลับมาทวงรันคืนจากผมพ่อ"

'ไม่มีทางเป็นไปได้ใหญ่ตั้งสติมันไม่ใช่แน่นอน'

"พ่อลูกน้องพ่อได้จัดการมันรึเปล่า ลูกน้องพ่อโกหกพ่อแน่ๆเลย มันยังไม่ตายมันกลับมา กลับมาแย่งรันผมจะฆ่ามันอีกฆ่าอีกรอบให้มันตายคามือผม ผมไม่ยอมให้มันเอารันไป"

'ไอ้ใหญ่พ่อบอกให้ตั้งสติมันเป็นไปไม่ได้ เพราะพ่อเป็นคนมองลูกน้องตัวเองโยนศพมันลงไปในบ่อจระเข้ที่ละชิ้น พ่อเห็นเต็มสองตาจะเชื่อพ่อไหม'

"จริงเหรอครับพ่อ แต่ๆที่ผมเห็นวันนี้"

'พี่น้องมันหรือเปล่าหรือมันอาจจะมีแฝด ทำไมมึงไม่ตั้งสติฮะ หลุดปากพูดอะไรไปบ้างไอ้ลูกโง่ กลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้'

"ไม่พ่อ ผมจะหารันจะเอารันไปด้วย"

'หยุดบ้าเดี๋ยวนี้นะใหญ่ไม่งั้นอย่าหวังจะได้เจอกับน้องมันอีก'

"..."

'ดูสภาพตัวเองตอนนี้รึเปล่า สติแบบนี้คุยกับเขารู้เรื่องเหรอ กลับมาบ้าน พ่อจะเอาน้องกลับมาด้วย แต่ใหญ่ต้องมาคุยกับพ่อก่อน เข้าใจไหม'

"..."

'เชื่อใจพ่อหรือเปล่า พ่อเคยทำให้แกผิดหวังด้วยเหรอ'

"ครับพ่อ ผมจะกลับไปพ่อต้องอย่าให้รันหนีไปได้นะผมขอแค่นี้ ผมขอโทษ"

'อืม ส่งโทรศัพท์ให้โย แล้วแกนั่งสงบสติอารมณ์ซะ'

เมื่อรถเคลื่อนมาถึงบ้านใหญ่ ผมลงจากรถและกำลังเดินเข้าบ้านผมเห็นรถของตัวเองที่เอ็มขับเข้ามา ผมจึงหันหลังกลับกำลังจะวิ่งไปที่รถ แต่โยก็มาดักหน้าเอาไว้

"หลบโย กูจะไปหาเมียกู"

"ผมให้ไปไม่ได้ คุณลุงสั่งให้พี่เข้าไปหาท่าน พี่อยากให้เรื่องมันแย่ลงไปอีกใช่ไหม"

ผมจำต้องหันกลับเข้าไปข้างในบ้านเปิดประตูห้องทำงาน ก็เจอกับพ่อยืนหันหลังมองออกไปยังหน้าต่างบานใหญ่เบื้องหน้า

"นั่งลง"

ผมนั่งลงตามที่พ่อสั่งอย่างสำนึกผิด

"ทำไมถึงชอบปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล พ่อไม่เคยเห็นแกทำตัวโง่เท่านี้มาก่อน หมดแล้วใช่ไหมสติปัญญาปล่อยให้แรงอารมณ์ครอบงำ สุดท้ายมีแต่เสียกับเสีย"

"..."

"แกจะทำยังไงต่อ"

"ผมอยากคุยกับรัน"

"หาคำตอบดีๆให้เขาได้แล้วรึไง"

"..."

"ถามก็ตอบ"

"ผม...ผมอยากคุย อยากอธิบายให้รันเข้าใจ พ่อให้ผมเจอรันหน่อยนะ ผมขอร้อง"

"ถ้าแกแน่ใจ?"

"ครับพ่อผมควบคุมตัวเองได้"

"งั้นก็ไปสิแกเลือกทางเดินของแกเองนะใหญ่"

"ขอบคุณครับ"

ผมรีบเดินออกจากห้องทำงานของพ่อ ตรงมายังส่วนของห้องรับแขก ผมเจอเอ็มกับโยนั่งอยู่

"เอ็มโยรันล่ะรันไปไหน"

"ขึ้นไปบนห้องนอนของพี่ครับ"

ผมวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้านเปิดเข้าไปในห้องนอน ผมเห็นรันกำลังรื้อค้นข้าวของต่างๆภายในห้อง เราหันมาสบตากัน

"รันหาอะไร"

"อะไรก็ได้ที่พี่ซ่อนไว้"

"พี่ไม่ได้ซ่อนอะไร"

"เหรอ คนขี้โกหกอย่างพี่เชื่อได้ด้วย"

"รัน"

"ไหนบอกว่าไม่รู้จักพี่อาร์ทไง พูดว่าพี่อาร์ทตายไปแล้วหมายความว่าไง"

"..."

"พูดดิเงียบทำไมพูดออกมาดิ หรือคิดคำโกหกไม่ออก"

รันพูดพร้อมเข้ามาผลักหน้าอกของผม

"รันฟังพี่ก่อนได้ไหม"

"จะพูดอะไรก็พูดมารอฟังอยู่ มองตาผมนี่อย่าหลบตามีอะไรพูดออกมาเลยลูกผู้ชายหรือเปล่า กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ อย่าตอแหลนะว่าไม่รู้จัก"

"ทำไมต้องกดดันพี่ด้วย ทำไมต้องอยากรู้เรื่องอดีตทำไมฮะรัน แค่ทุกวันนี้อยู่กับพี่พี่ให้ความสุข ให้ความรักกับรันไม่พอเหรอ ทำไมต้องอยากถามหามันด้วย"

"ผมอยากรู้ พี่ทำอะไรพี่อาร์ทพี่ทำอะไรเขาตอบผมมาสิวะ ตอบผมมา เอาพี่อาร์ทของผมไปไว้ไหน"

"...พี่อาร์ทของผมอย่างนั้นเหรอ? มันไม่ใช่ของรัน ไม่เคยใช่ของรันตั้งแต่แรกแล้ว รู้เอาไว้ด้วย มันมีลูกมีเมียที่มันทิ้งขว้างมาแอบคบกันรันไอ้คนที่รันคิดว่าดีเลิศนักน่ะ มันหลอกรันทำไมไม่เข้าใจอะไรเลย โง่ให้มันหลอกได้ตั้งหลายปีอย่าได้พูกคำว่าของรันให้พี่ได้ยินอีก ชีวิตรันห้ามมีใครนอกจากพี่ที่เป็นของรันแค่คนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์"

"ฮึก...แล้วเอาพี่อาร์ทไปไว้ไหน บอกมาสิวะ แล้วผมจะเลิกพูดถึงเขา ถ้าไม่บอก ผมจะพูดถึงเขาทุกวันผมจะบอกรักเขาทุกวัน ทนฟังได้ไหมฮะ"

"หยุดๆ โถ่เว้ย มันตายไปแล้วชัดไหมตายไปแล้ว กูนี่แหละแทงมันเองกูแทงมันเพราะมันไม่ยอมเลิกกับมึงไง พอใจรึยังรันมึงพอใจรึยัง ศพมันไม่ต้องไปหากูโยนให้ไอ้เข้แดกไปแล้ว ชัดไหมมึงอย่าพูดว่ารักคนอื่นต่อหน้ากูอีก กูทนไม่ไหวอย่าบังคับกูนะรัน"

"..."

"..."

ภายในห้องเงียบกริบ มีแค่เสียงลมหายใจของผมและรัน อยู่ใกล้แค่นี้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ารันกำลังห่างจากผมไปทุกที

"ทำไมวะรัน ความรักของพี่มันยังไม่พอใช่ไหม พี่ต้องทำยังไงบอกพี่มา พี่ทำทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับรัน ทำทุกอย่างแล้วนะเว้ยยังขาดอะไรอีกบอกมาสิ อยากให้ทำอะไรบอกมาเลย ยอมทุกอย่างแล้ว ขอเหอะลืมมันไปได้ไหม มีแค่พี่ได้รึเปล่า"

"ผม...อยากขอเลิก"

"..."

"เพราะคนที่เจอวันนี้ใช่ไหม ถึงได้พูดคำนี้ออกมา เพราะมันหน้าเหมือนไอ้เหี้ยนั่นใช่ไหม ถึงได้คิดจะไปจากพี่ จะเลิกกับพี่งั้นเหรอ ได้...ก็ต่อเมื่อเราตายจากกัน เลือกเอาถ้ารันไม่ฆ่าพี่ พี่นี่แหละจะฆ่ารันถ้าพี่ไม่ได้รักรันก็อย่าหวังว่าชาตินี้ใครจะมีสิทธิ์"

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
«ตอบ #79 เมื่อ28-06-2017 08:17:43 »

โรคจิต33 หนีไปให้ไกล

Part รัน


ผมพูดว่าขอเลิกกับพี่ใหญ่ออกไปแล้ว ตอนนี้ความคิดในหัวสับสนเอามากๆ ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ยิ่งตอนที่พี่ใหญ่บอกให้ผมเลือกทางเดินต่อไปข้างหน้าว่าจะให้ผมฆ่าเขาหรือเขาฆ่าผม นี่มันไม่ควรเป็นคำพูดที่ออกมาจากคนปรกติแน่ๆ ความกลัวจับขั้วหัวใจทันที ที่คำพูดนี้จบลง ผมมองใบหน้าคนรักของผม เขาเป็นคนเดี๋ยวกันกับคนเมื่อวานหรือเปล่า ผมยืนนิ่งบอกตรงๆเลยว่าขาแข็ง จ้องมองใบหน้า ที่ขึงตึงไปด้วยโทสะของพี่ใหญ่ น่ากลัวมากจริงๆ ผมอยากออกไปจากห้องนี้ ผมกลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว

และเมื่อความอดทนของผมถึงขีดสุด สมองสั่งให้หนีออกจากที่นี่ ตรงที่ผมยืนขวามืออยู่ริมหน้าต่างซ้ายคือที่นอนข้างหลังคือกำแพงข้างหน้าหน้าคือพี่ใหญ่ รู้สึกยิ่งกว่าหมาจนตรอกก็วันนี้ ไม่รู้จะทำไงแต่ก็ต้องหนีผมจึงใช้จังหวะตอนที่พี่ใหญ่เผลอ วิ่งพรวดขึ้นไปยังที่นอนหวังจะข้ามเพื่อไปยังประตู แต่ก็ได้เท่านั้น ยังไม่ทันจะพ้นจากขอบเตียงเลยด้วยซ้ำ ตัวผมก็โดนรวมให้ล้มลงโชคดีที่พี่ใหญ่รวบผมไว้ตั้งแต่ช่วงเอว ผมจึงล้มลงกับที่นอน ถ้ารวบแค่ขาผมล่ะก็ หัวผมฟาดพื้น ตายของจริงแน่

"ปล่อยนะ ปล่อยยยยย"

"จะหนีพี่ไปไหน"

"ปล่อยผมสิวะ ปล่อย"

"ไม่"

พี่ใหญ่โถมตัวเข้ามาทับผม  ผมพยายามดิ้นรนทุกทาง ทั้งต่อยทั้งถีบ แถมกัดที่หัวไหล่ของเขาจนจมเขี้ยว ได้กลิ่นคาวเลือดจนผมอยากจะอวก พี่เขาก็ยังนิ่ง ไม่ร้องออกมาสักคำ ผมดิ้นอยู่นาน จนรู้สึกหมดแรง จึงเลิกต่อต้าน เหนื่อยมาก สู้แรงเขาไม่ไหวจริงๆ เหนื่อยไปหมดเลยทั้งกายทั้งใจ เมื่อพี่ใหญ่เห็นผมนิ่งไป เขาจึงปล่อยมือของผมที่ล็อคไว้ไม่ต่างจากคีมเหล็ก ทันทีที่ถูกปล่อยมือ มือผมชาทันทีทั้งสองข้าง เพราะโดนกดจนมือซีด ผมค่อยๆยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ไม่รู้จะต้องทำไงแล้วตอนนี้

"ฮือออออ ฮือออออ ฮึก"

"คนดี พี่...พี่ขอโทษ ไม่เอาไม่ร้องนะครับ ไม่ไม่ทำอะไรแล้ว อย่าหนีพี่นะ ไม่เอาไม่ร้อง ชูวว"

"ฮืออออ ฮึก ฮึก พี่...ครับปล่อย ฮึก ปล่อยผมไปเถอะ ผมกลัวแล้ว ปล่อยผมเถอะ ผมอยากกลับบ้าน ฮืออออ"

"กลับสิกลับ กลับไปที่บ้านของเรานะโอเคไหม ไปอยู่บ้านพี่นะ อยู่กับพี่สองคน ลืมคนอื่นไปซะ มีพี่คนเดียวก็พอ นะคนดี อยากได้อะไรบอก พี่จะหาให้ทุกอย่างเลย ขออย่างเดียว อย่าทิ้งพี่ นะครับ พี่อยู่ไม่ไหวถ้าไม่มีรันอยู่ข้างๆ"

พี่ใหญ่พูดพร้อมทั้งก้มลงซบไปกับอกของผม ตัวของเขาสั่นเทา เขากำลังร้องไห้ ผมรู้สึกได้  ผมสงสารเขานะ แต่จะให้ผมใช้ชีวิตอยู่กับคนที่อารมณ์และจิตไม่ปรกติแบบนี้ ผมจะทนอยู่ได้เหรอ ถึงผมจะรักเขามาก แต่ผมก็รักตัวเองเหมือนกัน กลัวจริงๆ กลัวว่าสักวัน ความรักที่มากเกินไปของพี่เขามันจะแว้งกลับมาทำร้ายเราทั้งคู่

ในเมื่อ ณ เวลานี้ไม่เหลือทางเลือกอะไรให้เดิน ผมจึงจำใจยอมรับ โอนอ่อนผ่อนตามพี่ใหญ่ไปก่อน เพราะขืนผมดื้อดึงไม่ยอมก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักจะพูดขึ้นมา

"ลุกเถอะครับ ไปล้างหน้าแล้วกลับบ้านกันเถอะ"

พี่ใหญ่เงยหน้าขึ้นมา ในตาแดงก่ำพร้อมคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

"จะกลับไปอยู่กับพี่ใช่ไหม กลับไปบ้านของพี่ ไม่ใช่สิบ้านของเราใช่ไหม ไม่โกรธพี่แล้วใช่ไหม"

"โกรธครับ พี่กับผมควรสงบสติอารมณ์ ขืนเป็นอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ผมจะกลับไปที่คอนโด ไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น"

"แต่"

"หยุด...แล้วฟัง"

"..."

"ผมจะไม่ย้าย แต่จะไม่ห้ามถ้าพี่จะกลับเข้ามา ผมขอเวลาคิดสักหน่อย พี่หยุดเร่งเร้าหยุดสั่งให้ผมทำตามอย่างที่พี่อยากให้ผมเป็นสักที พี่คิดว่ามันง่ายมากหรือไงสำหรับผม ที่จะต้องมารับรู้ว่าคนรักของตัวเอง ฆ่าคนรักเก่าตายต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากตัวผม พี่รู้ไหม พี่อาร์ท เขาไม่ใช่แค่แฟนตลอดหลายปี เขาเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งพี่ และเพื่อนให้ผมมาตลอด  พี่อาร์ทคือรักแรกของผม แต่พี่คือผู้ชายคนสุดท้ายที่ผมอยากใช้ชีวิตด้วย แต่ผมอยู่กับพี่แบบนี้ไม่ได้พี่เข้าใจรึเปล่า ถ้าเราจะยังคบกัน ผมมีเรื่องอยากจะขอ ได้ไหม"

"จะขออะไรให้ได้ทุกอย่างเลย ถ้าไม่ใช่ขอเลิก ขอห่าง พี่ทำให้ได้หมด"

"พี่สัญญาสิ"

"พี่สัญญา"

"ผมจะขอให้พี่เข้าบำบัด ผมจะพาพี่ไปหาจิตแพทย์ อยาก..."

"พี่ไม่ได้เป็นบ้านะรัน"

"คนที่พบจิตแพทย์ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนบ้าเสมอไปนะครับ"

"มันก็ไม่ต่างกันอยู่ดี"

"สรุปคือจะไม่ไป...งั้น"

"โอเคๆ หยุดไม่ต้องพูด พี่รู้ว่ารันจะพูดอะไร ไปก็ไป ตามใจรันมีแค่นี้ใช่ไหมที่จะขอ งั้นกลับคอนโดของเรากันเถอะ"

"พี่ผมมีเรื่องอีกอย่างที่อยากจะขอ"

"อะไรอีก"

"พาผมไปที่ฝังศพพี่อาร์ทหน่อยได้ไหม"

"จะไปทำไม"

"ผมแค่อยากเอาดอกไม้สักช่อไปวาง แค่อยากไปลาครั้งสุดท้าย"

"คือ  ศพคงไม่เหลือโยนลงบ่อไปแล้ว"

"ห๊ะ โยนลงบ่อจระเข้จริงๆน่ะเหรอครับ"

"อืม"

" T_T เพราะผม"

"มันทำตัวมันเอง พี่ไม่เคยคิดจะฆ่ามัน"

"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังได้ไหม"

พี่ใหญ่นิ่งอยู่นานกว่าจะเปิดปากพูดออกมา

"...พี่สืบรู้ว่ามันมีลูกเมียอยู่แล้ว พี่บอกให้มันเลิกกับรัน ขู่มันว่าจะบอกเรื่องนี้กับรัน มันคงจะแอบตามพี่ไปที่บ้าน รุ่งอีกวันมันเข้ามาหาพี่ เรามีปากเสียงกัน มันไม่ยอมเลิกแล้วมันก็พกความมั่นใจมาเต็มร้อยด้วย ว่าถึงรันจะรู้เรื่อง รันก็ไม่มีวันจะเลิกกับมัน มันพูดสารพัดเหมือนว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตของรัน พี่ทนไม่ไหวเลยชกหน้ามันจนล้ม แล้วเราก็แลกหมัดกัน  มันสู้พี่ไม่ได้ แล้วก็นอนจมตีนพี่ พี่บอกกับมันครั้งสุดท้ายว่าพี่จะบอกรัน

พี่หยุดแล้วนะรัน แต่มันไม่มันพกมีด ลุกมาจะแทงพี่ แต่แรงมันก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว พี่หลบได้มันตั้งใจแทงพี่จริงๆมีดที่มือมันแทงถากมาโดนสีข้างพี่ รันเคยสังเกตุรึเปล่าว่าสีข้างด้านขวาพี่มีรอยแผลเป็น พี่พยายามแย่งมีดคืนจากมัน มันเจ็บหนักอยู่แล้วพี่ล็อคตัวเอาไว้พอพี่แย่งมาได้ มันก็ตะโกนใส่หน้าพี่ว่าพี่ไม่มีวันจะได้รัน ไม่มีวันที่คนอย่างรันจะมารักพี่ มันจะบอกให้รันเกลียดพี่ พี่ก็เลย...แทงมันจนล้มลง แล้วมันก็ตาย ถ้ามันไม่พูดคำนั้นออกมา คำว่าจะบอกให้รันเกลียดพี่ ป่านนี้มันอาจจะยังมีชีวิตรอดอยู่ รู้ไหมเพราะคำๆนั้น ทำให้ลมหายใจของมันมีค่าเป็นศูนย์"

หลังจากวันที่พี่ใหญ่เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมตกลงกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับพี่เขาเหมือนเดิม ที่สัญญากันไว้ว่าจะไปพบจิตแพทย์ด้วยกัน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น พี่ใหญ่ให้เหตุผลว่างานยุ่ง แต่เอาจริงๆตัวพี่เขาแทบจะติดกับผมตลอดเวลา เอาเถอะผมไม่อยากจะสนใจแล้วว่าเขาอยากจะทำอะไร ทุกวันนี้ผมเหมือน ถูกโซ่ที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ตีตรวจชีวิตเอาไว้ 'รัก' แต่ไม่มีความสุขเลยสักนิด ผมอดทนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ไหว ผมขอให้คิงช่วยหาที่พักชั่วคราวให้ คิงเสนอให้ผมไปอยู่กับแม่ออย แม่ของคิงที่อำเภอบ้านบึงก่อน ผมลางานไว้ล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ รอดูว่าถ้าพี่ใหญ่คลั่งหรืออาละวาดหนัก ผมจะลาออกจากบริษัททันทีแล้วย้ายที่อยู่หางานใหม่ หนีออกไปจากชีวิตพี่ใหญ่อย่างถาวร ผมขอให้คิงซื้อยานอนหลับมาให้ วันนี้วันเสาร์ ผมใช้ชีวิตคู่รักไม่รู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายรึเปล่า ของผมกับพี่ใหญ่ร่วมกัน ผมพยายามกอบโกยความรักช่วงเวลาที่ดีให้มากที่สุด ตกเย็นผมเตรียมทำอาหารมื้อคำของโปรดของพี่ใหญ่หลายอย่าง เราทานไปคุยกันไป พี่ใหญ่ดูมีความสุขมากๆ จนจบมื้ออาหาร ผมถือแก้วไวน์ออกมาสองแก้ว ผมยื่นให้พี่ใหญ่หนึ่งแก้ว และทานเองอีกแก้ว ต่างคนต่างจิบ ค่อยๆลิ้มชิมรสที่หอมหวาน พี่ใหญ่ที่ดื่มหมดแล้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้ขอชิมไวน์จากปากของผม เราจูบกันเนินนาน พี่ใหญ่แย่งไวน์จากในโพรงปากของผมไปจนหมดทุกหยาดหยด ตัวผมสั่นระรัวไปหมด ใจนึงก็อยากจะอยู่ข้างๆไม่จากไปไหน แต่อีกใจก็สั่งให้หนี เพราะความรักของผู้ชายตรงหน้านี้มันช่างอันตราย พี่ใหญ่นอนหลับแน่นิ่งไปแล้ว หลังจากยาออกฤทธิ์ิ์ ผมเดินไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า ก่อนจะจากไป ผมก้มลงไปจูบซับที่หน้าผากของพี่ใหญ่

"ลาก่อนนะครับหัวใจของผม ผมรักพี่นะ แต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ชีวิตของเราจะดิ่งลงเหวด้วยกันทั้งคู่ พี่เข้าใจผมใช่ไหม ผมหวังว่าพี่จะเข้าใจนะ ผมรักพี่ และจะรักตลอดไป"

ผมเดินลากกระเป๋าออกมาพาร่างที่แทบไร้ความรู้สึก เข้าไปในลิฟท์กดลงมายังชั้นล่างเดินไปที่ลานจอดรถ เอากระเป๋าเก็บหลังรถเรียบร้อย ขณะกำลังจะเปิดประตูฝั่งคนขับเข้าไปนั้น ผมรู้สึกถึงกลิ่นอะไรฉุนๆทำให้ผมหายใจไม่ออก แล้วสติผมก็ดับวูบไป

"อุ้มขึ้นไปรอที่รถ  แกมีเวลาแค่สองเดือนเข้าใจใช่ไหม"

"ครับ"


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
« ตอบ #79 เมื่อ: 28-06-2017 08:17:43 »





ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
«ตอบ #80 เมื่อ28-06-2017 11:57:13 »

เรื่องเริ่มจะเข้มข้นแล้วสินะๆๆ :katai1:

ไม่มาม่าหนักน้าาาาา เดี๋ยวปวดท้อง  :katai5:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
«ตอบ #81 เมื่อ28-06-2017 14:36:37 »

แผนซ้อนแผนไปอีก

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
«ตอบ #82 เมื่อ29-06-2017 12:34:45 »

สงสารพี่ใหญ่เลยค่ะ ณ จุดๆนี้

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
«ตอบ #83 เมื่อ03-07-2017 18:41:41 »

คนแต่งเมื่อไหร่จะมาต่อออ เรารอนานแล้วน้าาา คิดถึงง

ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34
«ตอบ #84 เมื่อ06-07-2017 09:32:08 »

โรคจิต34 ใกล้เหมือนไกล

Part ใหญ่


เมื่อผมตกลงกันรู้เรื่องแล้วว่าทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม ผมพารันมานั่งรออยู่กับโยและเอ็ม ส่วนตัวเองเข้าไปคุยกับพ่ออีกครั้ง

"นั่งลงสิ"

ผมนั่งลงตามที่พ่อบอก

"..."

"ไงไม่ราบลื่น?"

"ดีกันแล้วครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป"

ผมค่อยๆเล่าเรื่องทุกอย่างที่อยู่ภายในห้องให้พ่อฟัง

"อืม"

"ผมควรทำไงต่อครับพ่อ"

"ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น น้องมันระวังตัวแจแน่นอนต่อจากนี้ ใช้ชีวิตไปเหมือนปรกติ ไม่ต้องคิดมากให้ฟุ้งซ่าน แล้วเดี๋ยวจะพาลเป็นเรื่องขึ้นมาอีก แค่คอยสังเกตุ ตาไม่มองแต่หูต้องฟัง เข้าใจที่พ่อพูดไหม"

"ครับพ่อ"

"แล้วเรื่องที่น้องบอกให้ไปพบจิตย์แพทย์ล่ะว่าไง"

ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ นี่พ่อก็คิดว่าผมบ้างั้นเหรอ ทำไมต้องไปหาจิตแพทย์ด้วย ใครจะมารักษาเรื่องความรักของผมที่มีให้รันได้ ไม่มีหรอก จะมารักษายังไง ทำให้ผมรักรันน้อยลงงั้นเหรอ หึ ฝันไปเถอะอย่าหวังว่าไอ้ใหญ่จะยอม

"ผ่านไปสักพักค่อยดูว่าจะเอาไงต่อไปครับ"

"ถ้าจะหา ไม่ต้องไปหาที่ใคร อาหมอที่พ่อรู้จักรักษาได้ดีลองคุยดู"

"ครับ แล้วพ่อให้ผมอยู่เฉยๆอย่าไปวอแวกับน้องมาก แล้วถ้าเกิดน้องหนีไปล่ะพ่อ"

"ไม่ต้องกลัว คนของพ่อจะดูแลให้เอง กลับไปทำอย่างที่พ่อบอก อีกไม่นานก็รู้ ว่าเรื่องนี้จะจบง่ายจริง หรือง่ายไป"

"งั้นผมลากลับก่อนครับพ่อ"

ผมยกมือไหว้บอกลาพ่อ ขณะที่กำลังจะลุกออกจากห้องไปผมพึ่งนึกถึงบางคนขึ้นมาได้

"พ่อครับ แม่ไปไหนผมไม่เห็นแม่เลย"

"จินลูกของอาฟ้า กำลังจะคลอดลูก แม่เลยขอไปอยู่ที่เชียงใหม่ช่วยดูแล จนกว่าจะคลอด แล้วก็จะช่วยเลี้ยงช่วงเดือนแรกๆ ไม่ต้องห่วงแม่แกจะไม่รู้เรื่องนี้หรอก"

"ดีแล้วครับ ผมไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจเรื่องของผม"

ผมพารันกลับมายังคอนโด เรายังใช้ชีวิตคู่รักด้วยกันแต่ผมรู้ ว่ามันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก รันเปลี่ยนไปถึงจะพยายามทำว่าทุกอย่างเป็นปรกติแค่ไหน แต่ผมก็รู้ดีว่าเขากำลังแสร้งทำ ยิ้มฝืนๆที่ส่งมาให้ ในตาแห้งผากไร้ซึ่งความสุขสดใสเหมือนที่เคย ผมพยายามมองข้ามสิ่งเหล่านี้ พยายามประคับประครองให้ความรักของเรายังดำเนินไปได้ ผมควรให้เวลาเขาทำใจและปรับตัวไปอีกสักระยะ ผมรู้ว่ารันกำลังพยายามเพื่อเราอยู่ และผมรอได้ รอได้เสมอไม่ว่าจะนานแค่ไหน ขอแค่มีเขาอยู่ข้างๆแค่นั้นก็เพียงพอ

แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดฝันและกลัวมันก็เกิดขึ้น พ่อโทรมาบอกผมว่า รันกับเพื่อนแวะร้านขายยาก่อนกลับบ้าน คนของพ่อไปถามเภสัชว่าเขาสองคนเข้ามาซื้อยาอะไร คำตอบที่ได้คือ ยานอนหลับ ผมไปหาพ่อ ไปเอายาตัวที่มีลักษณะคล้ายกันกับยานอนหลับที่รันซื้อ ทั้งแบบเม็ด และผง ส่วนซองที่เป็นผงเป็นแค่คอลาเจนชนิดละลายน้ำดื่มเท่านั้น ผมรับเอามากำไว้ในมือ ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว

"วันนี้พาน้องมาทานข้าวบ้านพ่อ จะได้เหลือเวลา ให้โยเข้าไปสลับยา ถ้าน้องเอาติดตัวไว้ ก็เป็นหน้าที่ใหญ่ต้องหาทางแก้ไขเอง โอกาสสุดท้ายนะใหญ่"

"ขอบคุณมากครับพ่อ แล้วถ้าสลับยาสำเร็จมันจะเป็นยังไงต่อไปครับ"

"พ่อมีข้อเสนอให้แก แค่สองทางเลือก ถ้าเลือกข้อเสนอพ่อ พ่อจะให้เวลาแกสองเดือน พิสูจน์ตัวเองว่าแกสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องความรักของแกได้ แล้วพ่อจะไปเอาคำตอบจากปากน้องในอีกสองเดือนข้างหน้า ว่าตกลงเขายังอยากใช้ชีวิตร่วมกับแกต่อรึเปล่า ถ้าไม่แกต้องปล่อยมือน้อง ให้มาอยู่ในความดูแลของพ่อส่วนแกใหญ่  แกต้องไปเข้ารับการรักษากับอาหมอที่เยอรมัน หรือถ้าไม่รับข้อเสนอ พ่อก็จะไม่ยื่นมือมาช่วยเหลืออะไรแกอีกต่อไป แต่จำคำพ่อไว้ แกยิ่งไล่ต้อนน้องยิ่งหนี แกยิ่งหวงน้องจะยิ่งแหกกฏ ถ้าวันนึงน้องรู้สึกว่าทางเลือกหมดลง บางที่อาจจะเลือกหนีไปในทางที่เราคาดไม่ถึงก็ได้"

"พ่ออออ..."

"พ่อไม่ได้ขู่ แค่พูดตามหลักทางแยกที่มันอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหนีไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน คนเรามันไม่แน่หรอก จริงไหม"

"...ผมตกลงครับ"

"ดี"

"แล้วถ้าเกิด ครบสองเดือน รันไม่เลือกอยู่กับผม ผมจะต้องไปรักษานานแค่ไหนกี่เดือนครับ"

"บอกไม่ได้ช้าหรือเร็วมันขึ้นอยู่กับแกเอง"

"ถ้านานละ นานเกินไปรันไปคบคนใหม่ จะทำยังไง"

"ถ้าคบ นั่นก็แสดงว่าเขาหมดรักแกไปแล้ว แกคิดว่าไง จะมีใครรู้จักตัวตนของน้องไปมากกว่าแก แกหาคำตอบให้กับคำถามนี้ได้ด้วยตัวเอง"

"ครับพ่อ ผมฝากด้วย ชีวิตผมกับน้องฝากไว้ในกำมือพ่อแล้ว"

"มันจะต้องดีกว่านี้ เชื่อพ่อ"

ผมพารันมาทานอาการมื่อเย็นที่บ้านใหญ่ และเอาคีย์การ์ดของตัวเองให้โยกับเอ็มเข้าไปค้นหายาที่รันซ่อนไว้  ก่อนมื้ออาหารจะจบลง โยโทรมาบอกว่าเจอยาที่ซ่อนและสลับเรียบร้อย เช้าวันเสาร์ รันดูแปลกไปจากหลายๆวันโดยสิ้นเชิง เขากลับมาเป็นคนเดิม เหมือนที่ก่อนจะรู้เรื่องราวของผมทั้งหมด เขาน่ารัก ขี้อ้อน และอยากอยู่ใกล้ชิดผมตลอดเวลา ผมควรดีใจแต่ไม่เลย ความรู้สึกผมบอกได้เลยว่า เขาตั้งใจทำมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไป เรานั่งทานข้าวด้วยกันปรกติ อาหารทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของชอบผมทั้งสิ้น แต่ผมเกลียดอาหารมื้อนี้มาก เมื่อทานเสร็จ ผมช่วยรันยกจานไปเก็บ ช่วยกันล้างจานผมยืนอยู่ด้านหลังสอดมือทั้งสองข้างเข้าไปข้างตัวรัน หอมหัวหอมแก้ม ด้วยความรักเรามีความสุขแกล้งกันไปมา จนเมื่อเสร็จ รันจึงบอกให้ผมออกมารอที่โซฟา เขาจะเอาไวท์ที่คิงซิ้อมาฝากเอามาให้ลองชิม ผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ผมจิบไวน์กับรันสองคนเมื่อแก้วของผมหมด ผมจึงจูบรันและลิ้มชิมรสไวน์ในปากเขา เราจูบกันเนิ่นนาน นานจนผมรู้ตัวว่าสมควรจะต้อง ทำตามแผนของรัน ผมแสร้งทำเป็นง่วงนอนและฟุบหลับไป ผมได้ยินเสียงรันเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมลืมตาขึ้น นอนอยู่นิ่งๆปล่อยให้น้ำตาร่วงหล่นลงมา ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องนอนเปิด ผมค่อยๆปิดเปลือกตาลง หูก็ฟังเสียงรันล่ำลาครั้งสุดท้าย ไม่มีใครรู้ว่าผมต้องสะกดกลั้นตัวเองมากแค่ไหนไม่ให้ลุกขึ้นมาคว้าตััวรันเอาไว ลืมตามารั้งแล้วจะได้อะไร มันจริงอย่างที่รันพูดใช่ไหม ว่าเราอยู่ด้วยก็รังแต่จะดิ่งลงเหว ผมปล่อยให้เขาเดินออกไปจากห้องแล้วยืนตัวลุกขึ้น รู้สึกเหมือนใจจะขาด เอามือขึ้นมาลูบหน้าเพื่อเรียกสติ จึงเดินออกไปจากห้องลงตามรันไปยังลานจอดรถ เมื่อลิฟท์เปิดขึ้น ผมเดินออกมาตามทางเดินหันไปหาพ่อที่ยืนรออยู่แล้วและรันที่หลับอยู่ในอ้อมแขนลูกน้องของพ่อ

"อุ้มขึ้นไปรอที่รถ แกมีเวลาแค่สองเดือนเข้าใจใช่ไหม"

"ครับ"

ผมตัดสินใจแล้ว ภายในสองเดือนผมต้องทำให้รัน กลับมารักผมเหมือนเดิมให้ได้ ผมภาวนาขอให้รันคนเดิมกลับมา เพราะผมไม่อยากเลือกทางที่ต้องห่างจากเขาเลย


ออฟไลน์ แอ๊บบี้

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 35
«ตอบ #85 เมื่อ06-07-2017 09:35:42 »

โรคจิต35 ที่นี่ที่ไหน

Part รัน


ผมตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งปวดหัวและสายตาพร่ามัวไปหมด ลุกขึ้นนั่งสะบัดหัวเบาๆไล่อาการมึนนี้เสีย ที่นี่ที่ไหน ผมมองไปรอบๆยังสถานที่ๆไม่คุ้นเคย ผมอยู่ที่บ้านไม้หลังหนึ่ง บ้านหลังเล็กๆ ไม่มีห้องหับเป็นสัดส่วน ผมนั่งอยู่บนเตียงนอนที่ติดกับผนังห้องชิดกำแพงทั้งหัวเตียงและทางซ้ายมือ จากตรงเตียงนี้ไม่ไกลผมเห็นโต๊ะกลมๆพร้อมเก้าอี้สองตัว ข้างหัวนอนมีโต๊ะวางของตู้เสื้อผ้า ริมของอีกฝั่งเป็นเหมือนครัวขนาดย่อม มองปราดเดียวก็เห็นเนื้อที่ภายในบ้านทั้งหมด

"ที่นี่ที่ไหน มาอยู่ที่นี่ได้ไง"

สติสุดท้ายผมค่อยๆผุดขึ้นมา ผมกำลังหนีพี่ใหญ่ ใช่ ผมเอากระเป๋าเก็บในกระโปรงรถด้านหลัง พอจะขึ้นรถก็เหมือนสติจะดับวูบไป

"พี่ใหญ่ ต้องเป็นเขาแน่ๆ" ผมลุกพรวดขึ้นจากเตียงหวังจะเดินออกไปยังด้านนอก

"แกร๊ง"

เสียงของหนักกระทบลงบนพื้นไม้ พร้อมกับความรู้สึกหนักบริเวณข้อเท้าข้างขวา ผมก้มลงไปมองทันที แล้วสิ่งที่ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง ก็อยู่ตรงหน้า ข้อเท้าขวาผมโดนโซ่ล่ามเอาไว้

"อะไรวะเนี่ย ใครล่ามโซ่กูวะไอ้เหี้ย"

ผมรวบโซ่ขึ้นมา สาวไปยังต้นตอของโซ่ มันโยงไปทางปลายเตียงโซ่คล้องอยู่กับห่วงเหล็กที่ฝังตัวอยู่ในฝนังของบ้าน  ผมพยายามจะแกะโซ่เหล็กที่ครอบข้อเท้าออก ไม่ต่างจากการเอาไม้ซีกงัดไม้ซุง เจ็บทั้งมือเจ็บทั้งเท้าไปหมด ผมเดินวนเวียนไปมาเหมือนหนูติดจั่น มองเห็นมีดสามเล่มเสียบอยู่ในช่องใส่มีด วางอยู่บนเคาเตอร์ครัว แต่ผมไม่สามารถเดินไปหยิบได้เพราะความยาวของโซ่พาให้ผมเดินมาได้ไกลสุดเพียงโต๊ะกลมกลางตัวบ้าน ซึ่งคนเป็นโต๊ะที่เอาไว้นั่งทานข้าวนั่นแหละ

"แม่งเอ้ย"

ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย เปลี่ยนไปยังโต๊ะข้างหัวเตียงเปิดลิ้นชักดูทุกช่องว่างเปล่า เดินมาเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นกระเป๋าของผมวางอยู่ ผมรีบหยิบออกมารื้อหาอะไรที่พอจะมีประโยชน์เพื่อป้องกันตัวได้บ้าง แต่ก็มีเพียงเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวอีกนิดหน่อยเท่านั้น แทบอยากจะทึ้งหนังหัวตัวเอง ผมเปลี่ยนไปเปิดหน้าต่าง ชะโงกมองออกไปนอกตัวบ้าน หันซ้ายหันขวา ไม่เห็นสิ่งก่อสร้างใดๆเพิ่มเติมเลย นอกจากต้นไม้ใบหญ้า นี้มันป่าชัดๆ นี่ลากผมเข้ามาอยู่ในป่าเลยเหรอ เมื่อสำรวจทุกอย่างรอบตัวแล้ว ไม่เห็นทางรอดสักทาง จำต้องก้มหน้าร้องไห้ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ทำไมเขาถึงทำแบบนี้นะ นี่ยังไงคือเหตุผลที่ผมควรออกห่างจากเขา รักจนไม่สนอะไรความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวพี่ใหญ่คงไม่เหลืออีกแล้วตอนนี้ ไม่มีแล้วคนรัก มีแต่ปีศาจในคราบมนุษย์เพียงเท่านั้น

ผมร้องไห้จนเหนื่อย ล้มตัวลงไปกับที่นอนอีกครั้ง สมองเฝ้าแต่คิดหาทางหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วผมก็ได้ยินเสียงบางอย่างแว่วมาจากด้านนอก ผมหยุดร้องไห้ลุกขึ้นนั่งนิ่งแล้วฟังเสียงที่ผ่านรอดเข้าหูมา

สวบ สวบ สวบ

เสียงใบไม้ตามพื้น มีคนกำลังเดินตรงมาทางนี้ผมลุกขึ้นยืน เดินถอยหลังไปสุดกำแพง ใครกำลังเข้ามา

แอ๊ดดดดดด

ทันทีที่เสียงประตูบ้านเปิด คนที่ผมคุ้นเคยก็เดินเข้ามา เขาชะงักเล็กน้อยที่เห็นว่าผมตื่นขึ้นมาแล้ว และก็เดินเอาของบางอย่างวางไว้ที่โต๊ะกลมกลางบ้าน เพียงเท่านั้น ผมก็พุ่งตัวเข้าไปหาพร้อมสาวหมัดใส่เขาทันทีแบบไม่ยั้ง

"ไอ้เหี้ยจับกูมาทำไม ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ไอ้โรคจิต ปล่อยกู มึงมันบ้าไปแล้ว"

ผมไม่เคยหยาบคายกับพี่ใหญ่แบบนี้มาก่อนแต่เชื่อสิถ้าเป็นคุณ คุณไม่สติหลุดแบบผมก็แปลกแล้ว

ปากก็ด่าทอพ่นคำหยาบสารพัดออกมาด้วยความคับแค้นใจ มือทั้งสองข้างรัวต่อยโดยที่คนตรงหน้าได้แต่ยกมือขึ้นมาเป็นการ์ดบังใบหน้า แต่ไม่ตอบโต้ มือผมทั้งเจ็บทั้งชา ที่ต่อยไปเต็มๆแรง เหมือนกระดูกตามข้อนิ้วจะหักออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อผมเหนื่อย ผมสะบัดมือไล่ความเจ็บพี่ใหญ่ก็เข้ามากอดผมเอาไว้ ผมดิ้นจนสุดแรง ไม่ยอมอีกต่อไป ไม่แล้วผมรวบรวมแรงกำลังขัดขืนเขา จนเกือบจะหลุด แต่ผมเสียหลักถอยร่นจนล้มไปกับเตียงนอน พี่ใหญ่โถมตัวเข้ามาทับผมไว้ ขาเขาล็อคขาของผมไม่ให้ดิ้น มือทั้งสองข้างก็โดนกดจนเจ็บ แต่ผมยังไม่หยุดอาละวาด จนที่สุด พี่ใหญ่หยิบกุญแจมือออกมาจากไหนไม่รู้คล้องกุญแจกับมือข้างซ้ายผมติดกับหัวเตียง มือซ้ายโดนล็อค ขาขวาก็ถูกล่ามโซ่ มีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกไหม ผมคิดอยู่ในใจ แล้วบางสิ่งก็ทำให้ผมต้องเบิกตาค้าง เขาควักเข็มออกมาเอาปากกัดที่ครอบออก

"อ่ะ ไอ้เหี้ยปล่อยกูนะมึงจะทำอะไร จะฆ่ากูใช่ไหมปล่อยกู อย่าทำกูเลยกูกลัวแล้ว ปล่อยกู"

ผมดิ้นรนเหมือนคนบ้า แต่ก็ไม่อาจสู้แรงไหว แขนข้างซ้ายที่โดนกุญแจมือล็อค ถูกเข็มทิ่มมลงไปในเนื้อ ความเจ็บวิ่งปร๊าดเข้ามาในร่างกาย ความกลัวจับขั้วหัวใจ ไม่นานผมก็หมดแรงสู้แม้แต่จะเอ่ยปากพูดยังไม่ไหว แล้วผมก็หลับวูบไป

พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แค่ลืมตาปรับโฟกัส ทุกสิ่งทุกอย่างก่อนที่จะหลับไปหวนกลับมา ผมลุกขึ้นเอามือแตะไปยังข้อพับที่โดนเข็มจิ้ม สัมผัสได้ถึงความเจ็บ โดนฉีดจริงๆด้วยไม่ได้ฝันไป ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ บ้ามากเกินไปแล้ว ผมมองไปรอบบ้านเขาไม่อยู่ มองผ่านหน้าต่างท้องฟ้าก็มือสนิท มีแสงไฟจากตะเกียงสามใบภายในบ้าน โต๊ะตรงกลางมีชามข้าววางอยู่ ท้องผมร้องทันทีที่เห็น ไม่รู้ว่าอดข้าวมากี่ชั่วโมงแล้ว ผมลุกไปนั่งโต๊ะ ได้กลิ่นข้าวต้มหมูหอมๆ จึงรีบทานจนเกลี้ยงเมื่อทานหมด จึงลุกไปยืนเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าต่างใจก็ครุ่นคิดไปต่างๆนาๆ เพื่อนๆผมจะรู้ไหมว่าผมหายไป จะตามหากันหรือเปล่า จะถูกพี่ใหญ่หลอกอีกไหม ไม่รู้ว่าจมจ่อมกับความคิดไปนานแค่ไหน จวบจนรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำปวดฉี่อยากอาบน้ำนี่แหละถึงได้หลุดจากภวัง

ผมเดินไปนั่งอยู่ที่โต๊ะอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อ สายตาก็หันไปเห็นลูกบิดประตูอันเล็กข้างตู้เสื้อผ้า เมื่อเช้าตอนค้นตู้เสื้อผ้าพอเจอกระเป๋า ก็รีบเอามาเปิดดูไม่ได้สนใจอะไรต่อเลย ผมลุกขึ้นไปเปิดมันคือห้องน้ำจริงๆด้วย ขอบคุณสวรรค์ดีที่ยังไม่ให้ผมต้องถ่ายหนักเบาโต้งๆในบ้านหลังนี้ ผมรีบหยิบเสื้อผ้าข้าวของเข้าไปอาบน้ำทันที มืดตื๊ดตื๋อ เดินออกมาหยิบตะเกียงหนึ่งใบเข้าไปแขวนในห้องน้ำ ต้องเปิดประตูแง้มไว้เพราะติดโซ่ที่เท้าปิดไม่ได้ อากาศก็หนาว รีบอาบรีบออกไปดีกว่าไม่ชินที่อีกแล้ว ไม่ชอบเลย ขณะที่ผมอาบน้ำจนเสร็จกำลังแต่งตัวในห้องน้ำได้ยินเสียงเปิดประตูบ้าน เห็นเงาคนเดินไปเดินมา ผมรีบแต่งตัวแล้วเปิดประตูออก เห็นพี่ใหญ่ยืนหันหลังล้างจานอยู่  ผมหยุดอาละวาดเพราะกลัวจะโดนจับฉีดยาอีก แต่อย่าหวังว่าผมจะญาติดีด้วย

"ที่นี่ที่ไหน"

"..."

"ผมอยากกลับบ้าน"

"..."

"ผมอยากกลับบ้านคุณได้ยินที่ผมพูดรึเปล่า"

"..."

"จะเล่นบทเป็นคนใบ้เหรอ มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ หันหน้ามาคุยกันดิวะ"

จบประโยคพี่ใหญ่หันหน้ากลับมาทันที ผมผวาเฮือกด้วยความตกใจ

"..."

"..."

แล้วเขาก็เดินผ่านผมไปยังห้องน้ำ ได้ยินเสียงอาบน้ำอยู่สักพัก ก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันเอว ตึกตัก ตึกตัก  ใจแม่งไม่รักดีจะเต้นแรงทำไมวะ ผมเบือนหน้าหนีกับภาพที่เห็น เดินไปยืนมองภาพที่หน้าต่าง บรรยากาศวังเวงชวนขนลุก มีแต่ป่ากับป่า จะมีผีไหมนะ หรือจะมีสัตว์ร้ายรึเปล่า คิดไปสารพัด แล้วผมก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อพี่ใหญ่นั่งลงบนเตียงมีเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว กำลังก้มลงจับโซ่ค่อยๆดึงเข้าหาตัว

"ทำบ้าอะไร"

"..."

ดึงจนตึงถึงขาผม 'จะเล่นมุกโรคจิตให้กลัวใช่ไหม เออกลัวฉี่จะราดแล้ว' ตัดสินใจเดินเข้าไปหายืนอยู่ตรงหน้าคนบ้า หลับตาอย่างไม่อยากจะคิดว่าจะโดนทำเรื่องอะไรให้หลอนอีก พี่ใหญ่ดึงมือผมพร้อมรวบเอวให้ลงไปนั่งที่ตัก สองแขนโอบรัดรอบตัวผมใบหน้าซุกลงกับซอกคอ ผมลืมตาขึ้นนั่งนิ่งปล่อยให้เวลาค่อยๆเดินไป จนสักพักพี่ใหญ่จึงจับผมให้นอนลงซุกกับอกของเขา แต่ผมขัดขืน และพลิกกลับไปนอนหันหลังให้ เขาจึงนอนกอดผมจากด้านหลังไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย ดีแล้วล่ะที่ผมทำแบบนี้ จะให้ไปนอนซุกอกเขาเหมือนเมื่อก่อน ผมทำใจไม่ได้หรอก แค่โดนกอดเนี่ยก็ฝืนเต็มทน

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
«ตอบ #86 เมื่อ06-07-2017 10:25:32 »

ถ้ายอมไปรักษาแต่แรกคงไม่เป็นงี้อะ :ruready

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
«ตอบ #87 เมื่อ09-07-2017 22:30:27 »

รอคับ :3123:

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
«ตอบ #88 เมื่อ10-07-2017 11:37:55 »

โอยยย เค้าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันได้มั้ยเนี่ยย

ออฟไลน์ natchaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
«ตอบ #89 เมื่อ31-07-2017 19:51:49 »

คนแต่งอย่าหายสิ เรารออ่านอยู่น้าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด