รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน แมวกับปลาย่าง
สำหรับโยธินแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเพิ่งเริ่มต้นจริง ๆ อย่างที่วิเชียรพูดเอาไว้
อาการนอนไม่หลับกำลังคุกคามโยธินมามากกว่าสามวันแล้ว
นอนไม่หลับ ทำยังไงก็นอนไม่หลับ เผลอหลับตาลงไปที่ไรก็คอยแต่จะนึก คอยแต่จะคิด
ที่ผ่านมาทำเรื่องผิดพลาดไปหลายเรื่อง ในช่วงเวลาที่มีสติก็ยังพอรับได้กับสิ่งที่ตัวเองทำ
แต่ช่วงที่ไร้สติ โยธินไม่อยากยอมรับผลที่ตามมาเลย
ลุกขึ้นมานั่งในเวลากลางดึก เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอนและไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้
พี่อ้น บางทีถ้าโทรหาพี่อ้นอาจจะมีทางให้ติดต่อกับทางนั้นได้
ทางนั้นที่ว่าไม่ใช่ใคร..............น้องบัวแผนกขนส่งที่ทำให้โยธินกลายเป็นคนนอนไม่หลับมาสามคืนแล้ว
“พี่อ้นครับ ผมมีเรื่องจะรบกวน”
กรอกเสียงพูดไปตามสายแล้วก็รับรู้ได้ว่าหัวหน้าแผนกขายเหมือนกำลังทำบางอย่างอยู่
“ยุ่งอยู่ อึก แค่ แค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยคุย อืมมม คุยกัน”
ยุ่งอยู่อะไรวะ นี่มันห้าทุ่มแล้ว ยังจะยุ่งอะไรอีก
ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่อ้นพูด และโยธินก็กดโทรเข้าไปหาอีกครั้ง และคราวนี้คนที่รับสายไม่ใช่พี่อ้นอย่างที่ควรจะเป็น แต่เป็นคนที่โยธินพอรู้จักอยู่บ้าง
ผู้ชายหน้านิ่ง และไม่ค่อยสนใจจะพูดกับใครที่พี่อ้นลงไปหาที่แผนกขนส่งอยู่บ่อย ๆ
“นี่มันนอกเวลางาน อย่าโทรมารบกวนคนของผมนอกเวลางานอีก”
แล้วปลายสายก็ตัดไปเรียบร้อย แล้วโยธินก็เพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง
เคยแต่สงสัยแต่ไม่เคยคิดอยากจะวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของพี่อ้น
พี่อ้นไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่เคยแสดงตัว แต่ตอนนี้โยธินรู้แล้วว่าใช่ เป็นอย่างที่เคยคิดเอาไว้แน่ ๆ
พี่อ้นเนี่ยนะ พี่อ้นโหดกับไอ้หน้านิ่งแผนกขนส่งเนี่ยนะ เหลือเชื่อว่ะ แต่มันก็เป็นไปแล้ว และคงเป็นมานานแล้วด้วย
ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และโยธินก็เดินไปหิ้วตะกร้าผ้าที่มีเสื้อผ้าอยู่สองสามชุดในนั้น
เสื้อผ้าของตัวเอง และเสื้อเชิตที่ไอ้เด็กเกรียนนั่นยืมไปใส่
และยังมีเสื้ออีกตัวที่ไอ้เด็กนั่นถอดทิ้งเอาไว้และโยธินก็เอามาซักตากจนแห้งเรียบร้อยและก็ไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว
สามวันเลยเชียวนะ นี่มันสามวันแล้ว ที่ต้องอยู่อย่างทรมานแบบนี้ ไม่ต้องคิดว่าจะก้าวเข้าไปในแผนกขนส่ง แค่จะทำใจไปเหยียบโรงงานยังไม่กล้า ไม่ใช่ว่ากลัวจะถูกดัก ไม่ใช่กลัวว่าจะถูกทำร้าย แต่กลัวไอ้น้องบัวมันเห็นหน้าแล้วมันจะทนไม่ได้
ท่าทางที่ได้เห็นวันนั้น มันชัดยิ่งกว่าชัด ว่าโอกาสที่จะเข้าหาอีกครั้งคงเป็นไปได้ยาก
ยากมากและอย่าได้หวังว่าจะได้เข้าใกล้อีก เพราะน้องบัวมันทั้งด่า ทั้งโกรธ ทั้งคลั่งขนาดนั้น
โยเอ้ยยยยย โย
เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้อันนั้นก็รู้ แต่จะให้แก้ยังไงในเมื่อมันยุ่งเหยิงขนาดนี้ แถมเวลาจะแก้ คนที่ควรจะแก้ด้วยยังไม่คิดจะยอมให้เข้าไปแก้ซะอีก
แล้วจะให้ทำยังไงวะ จะให้ทำยังไง
เดินไปนอกระเบียง และเปิดเครื่องซักผ้า เทเสื้อผ้าสองชุดลงไปในเครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติและกดสวิทให้เครื่องซักผ้าเริ่มทำงาน
ก้าวขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้นอกระเบียงและเหม่อมองไปที่ท้องฟ้าสีดำมืดที่พอจะเห็นดวงดาวระยิบระยับได้บ้าง
เคยคิดว่าสบายใจ เคยคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะสบายใจขึ้น แต่ไม่ใช่คืนนี้ ไม่ใช่คืนนี้ที่โยธินไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยสักนิด
มีแต่ความสับสนว้าวุ่นใจ มีแต่ความกังวลใจ มีแต่ความรู้สึกผิดเต็มไปหมด และความรู้สึกที่หัวใจกำลังถูกกดทับจนหายใจแทบไม่ออกก็กำลังเล่นงานโยธินหนักขึ้นเรื่อย ๆ
จุดบุหรี่สูบ และพ่นควันสีขาวให้ลอยคลุ้งไปในอากาศอย่างช้า ๆ
สามวันแล้วที่ต้องอยู่แบบนี้ สามวันแล้ว ที่ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดแบบนี้
แล้วน้องบัวมันจะเป็นยังไงบ้าง มันจะเป็นยังไงบ้างหลังจากวันนั้นที่มันอาละวาดต่อยหน้าโยธินจนแหกยับเยินแต่มันก็ยังไม่หายโมโห ไม่หายแค้น
เป็นยังไงวะ อยู่ยังไง กินยังไง ทำอะไรอยู่
โยธินไม่เคยคิดจะตั้งคำถามแบบนี้กับใคร แต่อยู่ดีๆ ก็ตั้งคำถามนี้ขึ้นมา
คำถามที่ไม่มีโอกาสได้พูดกับเจ้าตัว คำถามโง่ ๆ ที่คงไร้คำตอบ
แล้วจะให้ทำยังไง แล้วควรจะต้องทำยังไง ถึงจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่หมายถึงไอ้น้องนั่น ทำยังไงน้องมันถึงจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ทำยังไงไอ้เด็กที่กำลังเล่นงานโยธินทางความคิดอยู่ในเวลานี้จะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
หรือต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำที่ขาดสติในครั้งนี้เลยหรือไง
ไม่ว่ายังไงก็ไม่ใช่ แบบนี้มันไม่ใช่ คนเจ็บไปแล้ว จะให้กลับไปแก้ไขมันเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อย...........ถ้าพอจะชดเชยบางอย่างที่สูญเสียไปของไอ้น้องนั่นได้ โยธินก็คิดว่าตัวเองควรจะต้องทำ
ไม่ใช่รับผิดชอบในฐานะผู้ชายที่ต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่มันเป็นสิ่งที่ควรรับผิดชอบ ในฐานะผู้ชายที่ทำลายศักดิ์ศรีของผู้ชายอีกคนได้ลงคอ จนคน ๆ นั้นแทบไม่มีที่ให้ยืนอยู่ได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกแล้ว
“กูนะกู ไอ้โยเอ้ยยยยยยยยไอ้โย”
ทึ้งผมของตัวเองด้วยความกลุ้ม และยังคงจุดบุหรี่มวนต่อไปติด ๆ กันไม่ยอมหยุด และเมื่อกำลังจะจุดบุหรี่ตัวที่สาม โยธินก็ถึงเพิ่งเห็นว่าไม่มีบุหรี่เหลืออีกแล้ว
เออ เอาเข้าไป บุหรี่ก็หมด
เหอะ เอาเลยซะให้พอ บ้าบอซะให้พอ เรื่องเหี้ยๆ พวกนี้เกิดขึ้นซะให้พอ
ไหนจะเรื่องไอ้น้องบัว ไหนจะเรื่องตัวเอง ไหนจะปัญหามากมายที่สุมอยู่ในหัว
เอาเลยสิโว้ยยยยยยยยย เอาซะให้พอ
ไหน ๆ มันจะบ้าแล้ว ก็บ้าให้มันหมดไปทุกเรื่องเลยสิจะได้จบเรื่องจบราวกันไปซักทีโว้ยยยยยยยยยย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++