ตอนแรกกะว่าจะโพสวันพรุ่งนี้ แต่มันก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว ก็โพสเลยละกันเนอะ เป็นตอนที่ผมไปเที่ยวเขาดินเพื่อเก็บข้อมูลทำโปรเจคกัน ฮ่าๆ เหนื่อยได้อีก
ขอบอกว่าไอ้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ตอนที่มันเกิดจริงๆอ่ะใจหายวาบเลยนะครับ เหอะๆ
ก็ลองอ่านดูละกันนะครับ เป็นยังไงก็บอกกันด้วยละกันนะ
อาจจะงงๆหน่อยนะเพราะผมเขียนให้เล่าในสองมุมมอง ไอ้พามันอยากเสนอหน้าด้วย หึหึ...
ก็ถ้าตอนไหนผมเป็นคนเล่า จะขึ้นหัวว่า Tan's POV
ถ้าเป็นไอ้พาก็จะเป็น Pa's POV นะครับ
ตอนที่ 6 ไปสวนสัตว์
PA's POV
หวัดดี นี่พานะครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่สวนสัตว์ มารีเสิร์ชข้อมูลทำโปรเจคออกแบบบ้านกับกลุ่มเพื่อนผมนั่นแหละ ถือโอกาสเที่ยวไปในตัว เพราะผมไม่ได้มาเขาดินนานแล้ว ตั้งแต่ป.ห้าแล้วละมั้งน่ะ ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะพอสมควรทีเดียว มีสัตว์มีอะไรเพิ่มใหม่มากมาย บรรยากาศก็ใช้ได้ต้นไม้เยอะดี นานๆทีเปลี่ยนจากห้าง ผับบาร์ มาเดินอะไรแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน
"เห้ยมึงดู ลิงเผือก แม่งหน้าเหมือนไอ้วิทเลย ห้าๆๆ"
"ควาย ไอ้หมู มึงก็เหมือนฮิปโปเลยวะ"
เสียงเพื่อนผมมันทะเลาะกันโหวกเหวก หนวกหูแถมรบกวนประชาชีเป็นที่สุด
"ไอ้สัตว์ พวกมึงจะเสียงดังไปถึงไหนวะ แม่งสัตว์ตัวอื่นแตกตื่นกันหมด"ผมบอกพวกมันพลางหัวเราะ
แล้วก็คว้ากล้องขึ้นมาถ่ายนกฟลามิงโก้ข้างๆกรงลิง ถ่ายเสร็จก็เหลือบไปมองไอ้เพื่อนสนิทผมที่กำลังสเกตช์รูปนกกระตั้วอยู่
"เขียนสวยดีว่ะไอ้ธัณ มึงว่างๆวาดรูปกูมั่งดิ"
"ไม่ว่ะ เสียมือ ไม่อยากวาดแมว ฮ่าๆ"
"ไอ้เชรี่ยยยย" ผมด่ามัน มันก็ไม่สนใจผมหันไปดูนกกระตั้วต่อ
ไอ้เพื่อนผมคนนี้มันก็กวนตีนเหลือเกิน ตั้งแต่เจอมันครั้งแรกละ ตอนนี้ดีกรีการจิกกัดมันก็ยังไม่ลดลงซักกะนิด
"มึงถ่ายรูปอะไรมั่งวะ"มันถามผม
"นี่ กูจะอวดๆ"
ผมยื่นกล้องไปให้มันดู
"ถ่ายลิงทำต้อยไรวะ"
"เห้ย กูถ่ายฟลามิงโก้มึงบอกลิง เวรกรรม"
"ก้อมึงถ่ายลิงจริงๆนี่หว่า เนี่ย" มันชี้ไปตรงมุมขวา
"เวร กูให้ดูกลางรูปไอ้เชี่ย มึงไปดูอะไรลิง ติดใจลิงเรอะ"
"ป่าว ก็มึงถ่ายมาซะฟลามิงโก้เป็นกลุ่มก้อนขาวๆชมพูๆ ใครจะไปนึกว่าเป็นนกวะ ฮ่าๆ"
"เออแม่งไม่ต้องดูละ พูดซะเสียเลย"ผมชักกล้องกลับ
"เอ้ย เดี๋ยวดี๊ เอามาดูก่อน"ไอ้ธัณมันลุกขึ้นพยายามคว้ากล้องจากผม จนมันพลาดทำดินสอตกลงไปในบ่อข้างหน้า
"กรรม เวรเอ้ยยย"มันโวยวาย แล้วพยายามเอื้อมไปเก็บ แต่นกกระตั้วที่มันวาดอยู่ก็ร้องแกว๊กแล้วกระพือปีก
"โว้ย ไอ้นกบ้า"มันด่านกครับ...
"มึงไม่ต้องเก็บหรอก เอาของกูไปก่อนปะ"ผมยื่นแท่งถ่านให้มัน
"มึงทำไมใช้แท่งถ่านวะ มือเปื้อนหมดดิงี้"
"ภาพที่ได้มันติสดี"
"ฟาย"
"แล้วจะเอาไม่เอา"
"เอา"
มันคว้าแท่งถ่านวาดรูปไปจากมือผม แล้วก็เริ่มวาดนกกระตั้วต่อ
"มึงไปเดินกะกูปะไอ้ธัณ"
"ไม่"
"ไปกะกูหน่อยดี๊ นะๆ"ผมลองอ้อนมันดู
"มึงอยากไปก็เชิญ กูไม่ว่าง โอปะ"
"ควาย มึงอ่ะ แค่นี้ก็ไม่ได้"
"กูยังทำงานกูไม่เสร็จดี กูขอไว้ก่อนละกานนะ"
แล้วมันก็หันกลับไป แม่งงี้ประจำเลยชวนไปไหนก็ไม่ไป เอาตัวมันว่าก่อนทุกที เหอะๆ
ผมก็หันกลับไปถ่ายรูปสัตว์ตัวอื่นๆต่อ มีทั้งกวาง จระเข้ งู ช้าง ฯลฯ เยอะแยะเต็มไปหมด พวกนี้ผมจะเอาไปทำอินทีเรียนะครับ แล้วก็อาจจะใช้ตกแต่งอะไรด้วย ผมเดินตามทางไปเรื่อยจนรู้ตัวว่า ไอ้คนอื่นมันไม่ได้ตามผมมา...
Tan's POV
"ไอ้ห่าพามันหายหัวไปไหนวะ"ผมถามขึ้น
"ไม่รู้ว่ะ เห็นมันเดินๆอยู่แปบๆก็หายไปละ"ไอ้วิทตอบ ตอนนี้ไอ้อู้ดกับไอ้เคนไปหาอะไรกินที่ร้านขายอาหารของสวนสัตว์
"เวรกรรม ตะลอนไปเรื่อยแล้วก็หายไปประจำไอ้นี่"
"เดี๋ยวมันกลับมาแหละน่ามือถือก็มี"
Pa's POV
ผมหยิบมือถือขึ้นมาจะกดเบอร์โทรหาไอ้ธัณแต่......
แบตหมด...
Tan's POV
"ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อหมายเลขที่คุณเรียกได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง..."
"วะ มือถือก็ไม่เปิดไอ้เวรนี่"
"บ้าเรอะ แบตมันหมดป่าว มันจะปิดมือถือไปทำไมล่ะ"ไอ้วิทแย้ง
"มันอาจเบื่อดูสัตว์เลยแอบดอดไปดูสาวก็ได้นะ ฮ่าๆ"ไอ้เคนพูด
"เออ ไม่แน่ว่ะๆ ไอ้นี่ยิ่งขี้หลีอยู่"ไอ้อู้ดเสริม
ความจริงผมก็ไม่ได้ห่วงอะไรมันมากหรอกนะ โตเป็นควายแล้วแค่นี้ก็น่าจะดูแลตัวเองกับเขาได้ เพียงแต่ว่า...
กุญแจรถผมอยู่ที่มัน...
Pa's POV
ป่านนี้ไอ้ธัณแม่งโกรธผมตายแน่ๆแล้ว ปกติยิ่งฟิวส์ขาดง่ายๆอยู่ด้วย เห้อ ผมคิดขณะเดินลากขาตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย?...
ผมเดินไปจนเจอกับสวนพฤกษาในสวนสัตว์ ไหนๆตอนนี้ก็หลงอยู่แล้ว แอบแว๊บดูหน่อยจะเป็นไรไป
ผมเดินเข้าไปข้างใน แล้วก็ต้องตะลึงกับภาพตรงหน้า สวนดอกไม้ต้นไม้นานาพันธุ์เรียงรายเกาะกลุ่มกันเต็มไปหมด มันช่างเหมือนกับป่าในเทพนิยายเสียจริง ว่าแล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมา...
Tan's POV
ผมเดินไปตามทางที่คิดว่าไอ้ห่าพามันจะไป พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อมันเป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่เห็นเงาไอ้แมวยักษ์ตัวปัญหาเลยซักนิด
"พา! ไอ้พามึงอยู่ไหนวะ ตอบกูด้วยดิ!!!" คนแถวนั้นบางคนก็หันมามองหน้าผมแบบงงๆ อายชิบหาย คอยดูเหอะถ้าเจอตัวมึงเละแน่สัด
ผมยังคงตามหามันอยู่นานหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เจอมันซักกะที แล้วอยู่ดีๆโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"ไอ้ธัณ มึงเจอไอ้พายังวะ"เสียงไอ้วิทดังขึ้น
"ยัง เดินจะทั่วแล้วเนี่ย ยังไม่เจอมันเลย"
"มึงไม่ให้ประชาสัมพันธ์เค้าประกาศวะ"
"เออ กูลืมไป"
"โหยไอ้ง่าว แค่นี้มึงทำไมนึกไม่ออกวะ ปกติมึงออกจะไม่ลงแรงอะไร ทำไมงวดนี้ลงทุนเดินตามวะ"
"เพราะถ้ากูหามันไม่เจอกูก็ไม่ได้กลับสิวะ กุญแจรถกูอยู่ที่มัน สาดดดด" แล้วผมก็วางสายไป
"พา มึงอยู่ไหนวะ พา!!! ไอ้พา!!!"
คนรอบตัวเริ่มหายไปเรื่อยๆ นี่ก็เริ่มจะเย็นมากแล้ว แต่ผมก็ยังหามันไม่เจอเลย
ความกังวลมันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว ผมเริ่มจะลนลาน จากเดินก็กลายเป็นวิ่งหาแทน แต่ไม่ว่าจะที่ไหนก็ไม่เจอมันเลย
ผมเริ่มหอบหนักๆและถี่ขึ้น ใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ปกติร่างกายผมก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่แล้ว นี่ต้องมาเดินรอบเขาดิน จะบ้าตาย ผมหยุดพักตรงป้ายโชว์เส้นทางแล้วมองไปอีกฟาก ข้างหน้านั่นเป็นสวนพฤกษา ที่เดียวที่ผมยังไม่ได้เดินเข้าไป
ผมรีบตรงดิ่งไปที่นั่น แหวกม่านลูกปัดตรงประตูหน้าเข้าไปข้างใน ภาพพันธุ์ไม้นานาชนิดเรียงรายอยู่เต็มไปหมดเลย เยอะจนผมมองไม่ค่อยเห็นว่าอะไรเป็นอะไรเท่าไหร่ ผมฝ่าดงป่าเข้าไปข้างใน
"แฮ่กๆ.. พา มึง...อยู่นี่ป่าววะ"ผมหอบแต่ก็พยายามตะโกนเรียก
ไม่มีเสียงอะไรตอบรับ ผมยังเดินเข้าไปต่อ ลึกเข้าไปเรื่อยๆ
"พา?"
ผมเดินไปจนถึงทางแยก มีประตูบานหนึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ อีกทางเป็นทางเดินเข้าไปต่อ
ผมลังเลว่าจะไปทางไหน แต่สุดท้ายก็เดินไปทางด้านขวาที่เป็นทางเชื่อม
ทันใดนั้นที่ผมผ่านประตู อยู่ดีๆประตูมันก็เปิดเอง ผมสะดุ้งสุดตัวแล้วหันไปมอง...
แต่ก็ไม่มีอะไร
ผมถอนหายใจ ตกใจหมดนึกว่ามีใครอยู่นอกจากผมอีก ผมเดินไปทางด้านขวาต่อ โดยที่ไม่รู้ว่ามีใครบางคนเดินตามมา
พอพ้นทางเดินยาวนั่นแล้ว เข้ามาปรากฎว่าเป็นเรือนกระจกครับ แสงแดดจากข้างนอกส่องลอดลงมาจากข้างบนกระทบกับยอดไม้ต่างๆ บรรยากาศนี่สวยงามมากจนน่าเก็บภาพไว้แต่
"เสียดายไม่ได้เอากล้องมา เห้อ"ผมพึมพำกับตัวเอง แม่งกล้องก็อยู่ที่ไอ้พา กุญแจรถก็อยู่ที่มัน ประเสริฐจริงผ่าดิ
"เอ้า"
กล้องถ่ายรูปยื่นมาอยู่ตรงหน้าผม ผมเหลียวกลับไปมอง
"มึงอยากได้กล้องไม่ใช่?"
"ไอ้ฟายยยยยยย"
ผมอึ้งไปนิดนึงก่อนจะอุทานลั่น
"มึงหายหัวไปไหนมาไอ้ห่า รู้มั้ยกูเดินจะทั่วเขาดินแล้วแม่ง ไอ้เลว เมื่อยก็เมื่อย เหนื่อยก็เหนื่อย สาดดดดดดด"
"ก็กูเดินหาแรงบันดาลใจไปเรื่อย รู้ตัวอีกทีก็นะ"
"ไอ้ห่าพา ไอ้สัด ไอ้เชี่ยเวร โอ๊ยยยยย แค่จำทางที่เดินมานี่มึงจะทำไม่ได้เชียวเหรอวะ แม่งตัวโตอย่างควายยังจะมารุงรัง ไม่ใช่เด็กประถมนะเว้ยหายไปต้องให้คนมาตามหาเนี่ย"
"แล้วทำไมมึงต้องมาเดินตามกูด้วยละวะ?"
"ก็แม่ง มึงรู้มั้ยของกูอยู่ที่มึงอะ"
"อะไรอยู่? หัวใจมึงเหรอ"แน่ะยังมีอารมณ์มากวนตีน
"กุญแจรถเฟ้ยไอ้สาด ถ้าไม่ติดว่ามันอยู่ที่มึงป่านนี้กูชิ่งกลับปล่อยมึงเฝ้าสวนสัตว์ไปแล้ว เชรี่ยยยเอ้ย"
"เออๆๆๆ กูขอโทษอะ แม่งก็ตอนแรกกูจะโทรหามึงแล้ว แต่แบตกูหมดอ่ะ ทำไงได้ ตู้โทรศัพท์แถวนี้ก็ไม่มี"
"ฟาย กูถึงได้บอกมึงไง ว่าให้หัดชาร์จแบตเตรียมไว้เวลาจะไปไหน ไม่งั้นก็ซื้อแบตสำรองมาเตรียมไว้สิฟระ โอยย กูละปวดหัว"
"เออออออ"มันลากเสียง เอามือล้วงกระเป๋าควานหาอะไรซักอย่าง
"เห้ย ชิบหายละ"มันร้อง
"อะไรวะ"
"มึง คือ..."
"กุญแจ แม่งไม่อยู่ที่กูว่ะ"
"ห๊า!!!!อะไรน๊าา!!!"ผมอุทานลั่น
"ไอ้บ้า กุญแจไม่มีแล้วจะกลับยังไงละวะ"
"กูไม่รู้ ไม่ใช่ว่ากูเอากุญแจให้มึงแล้วหรอ"มันแย้ง
"ไม่ ไม่ได้มีที่กู เวร ชิบหายละกู งี้จะทำไงละเนี่ย เพราะมึงแท้ๆไอ้ห่าพา" ผมจับคอเสื้อมันเขย่าๆแรงๆ
"เอ้ยยยย อะไรวะ แม่งมาโทษอะไรกูหาาาาาาาา"เสียงมันสั่นเพราะแรงเขย่าผม แล้วมันก็ผลักผมออกไปด้วยแรงโมโห
แกร๊ก...
เสียงอะไรบางอย่างกระทบพื้น
กุญแจรถ...
"ไอ้เชี่ยธัณ..."ไอ้พาคำรามเสียงต่ำ
"เอ้ย กุญแจกู!"ผมรีบกูลีกูจอไปเก็บกุญแจรถ เอ่อ รู้สึกเหมือนว่า...มันจะเด้งออกมาจากกระเป๋าของผมเอง...
"เอ่อ แหะๆ"ผมหัวเราะเจื่อนๆ แต่ตอนแรกมันไม่มีจริงๆนะ ผมหาแล้วนี่นา
"ไอ้เวร แล้วแม่งมาด่ากู มาหาว่ากูผิดลูกเดียว มึงมันก็เปนงี้ประจำ ไอ้ห่าเอ้ย ทีหลังหัดหาของให้ดีๆก่อนดิวะ แม่ง"
"กูหาแล้วนะเว้ย ก็มันไม่มีจริงๆนี่นา"
"ไม่ต้องมาเถียงง่าวๆเลยไอ้สัด มึงนี่มันงี้ประจำ อะไรแม่งก็คิดว่าตัวเองถูกอย่างเดียว เคยหัดมองดูเงาตัวเองในกะละมะหา ไอ้โง่เอ้ย"
"เห้ย แต่ยังไงมึงก็ผิดอยู่แหละดีวะ แม่งจู่ๆก็เดินออกมาคนเดียวแบบนี้รู้มั้ยว่าคนอื่นเขาเป็นห่วงกันอะไอ้พา"
"เอ้อ เรื่องประหลาดนะเนี่ย ปกติ มึงเคยห่วงกูด้วยหรอวะ เคยสนใจ คนอื่นๆรอบตัวมึงด้วยหรอไงกัน"มันประชดประชัน เสียงเยาะเย้ย
"เอ้อ! กูห่วงมึง รู้มั้ยวะ กูห่วงมึง!!!"ผมตะโกนใส่หน้ามันไปโดยไม่รู้ตัว
...มันเงียบ มองผมงงๆ
"อะไรวะ?"ผมถามมัน
"อะ...ก๊ากกกๆๆๆๆ"มันหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วชี้หน้าผม ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนแปลกๆ ยังไงชอบกล
"แม่งแค่นี้ไม่เห็นจะต้องโวยขนาดนั้นเลยก็ได้นี่หว่า จริงจังไปได้ ฮ๋าๆๆ"มันพูดไปหัวเราะไป"พูดซะอย่างกะเด็กผู้หญิงเลย คุณ รู้มั้ยชั้นเป็นห่วงคุณ ฮ่าๆๆๆๆ"มันยังจะมีหน้ามาล้อผมต่ออีก
"ไอ้บ้า มึงรู้มั้ยกูเครียดแค่ไหนเนี่ย ไอ้เวร ไอ้ห่าเอ้ย"ผมโวย หน้านี่ร้อนผ่าวไปหมด แม่งดันไปโชว์ให้มันเห็นว่าผมกังวลเกี่ยวกับมันไม่น้อย...
"เออๆๆ ขอบคุณที่ห่วงกู อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามีคนสนใจ"มันยิ้มให้ผม
ผมเงียบแล้วมองหน้ามัน แม่งเวลาไอ้นี่ยิ้มทีไรผมก็ใจอ่อนเป็นประจำ ผมถอนหายใจเบาๆ รู้สึกผ่อนคลายลงนิดนึง
"แหน่ะดูทำหน้าๆ เขินใหญ่แล้วๆ"มันแซว
"ไอ้เวรรรรร "ผมด่ามันลากเสียงยาวแล้วหัวเราะแห้งๆ
"เอ้า ยังจะถ่ายมั้ยรูปอะ"
"เอากล้องมาดิ"
ผมคว้ากล้องมาจากมันอย่างรีบร้อน แล้วหันกลับไปถ่ายวิวสวยๆที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่แรก
"ไหนดูหน่อย"ไอ้พาแย่งกล้องไปจากมือผมแล้วกดดู
"สวยดีว่ะ มึง กูขอนะ เอาไปทำงาน"
"เห้ยได้ไง กูเป็นคนถ่ายนะว้อยยย"
"แต่นี่มันกล้องกูนี่นา งั้นภาพนี้ก็ของกูดิ"
"ไอ้ห่าาาา เอามาเลยมึง"ผมเข้าไปแย่งกล้องกะมัน มันหลบผมไปหัวเราะไป
"ประกาศๆ เด็กชายพาเด็กชายธัณ กรุณามาพบคุณวิท ผู้ปกครองที่หน้าประตูเขาดินด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ" เสียงประกาศดังขึ้น แม่งเพิ่งจะมาประกาศตอนนี้...
"ไอ้วิทมันเป็นพ่อกูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"หรือแม่ก็ไม่รู้สิ ฮ่าๆ"
แล้วเราสองคนก็รีบออกไป ก่อนที่จะได้อยู่เฝ้าเขาดินจริงๆ...
to be continue
..........................................................................................
ปวดหัวจริงๆนะครับตอนนั้น แต่ไอ้ตอนที่เจอกุญแจนี่ หน้าแตกเลยแหละครับ แหะๆ
จากคราวที่แล้วที่ใครๆอยากดูรูปไอ้พา...
วันนี้ผมก็เอามาให้ดูนะครับ
นี่ไง
[deleted]
เล็กไปนิด นี่ตอนมันเป็นป. ปกครับ โหดมั้ยล่ะ ฮ่าๆ
ไปล่ะครับไว้เจอกัน