++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เหยด! ใครบอกว่าบ้านนอกวะ ดูบ้านแต่ละหลัง”
เสียงพี่พอลร้องขึ้น ตอนนี้พวกเรามาถึงที่หมายแล้ว ผมยืนมองบ้านของคุณลุงคู่แฝดซึ่งเป็นบ้าน2ชั้นหลังใหญ่ ผมมองดูรอบๆบริเวณ บ้านท่านติดถนนใหญ่ ละแวกนี้เหมือนโครงการบ้านเดี่ยวที่กรุงเทพฯ เสียงเพลงดังมาจากบ้านฝั่งตรงข้าม หน้าบ้านมีถังน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่
“เข้าบ้านเว้ย นอนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ค่อยลุยกัน”
พี่ท็อปบอกพลางกวักมือให้พวกเราเข้าบ้าน แม่บ้านออกมาต้อนรับ เธอบอกว่าเตรียมอาหารไว้ให้ แต่พี่เท็นบอกว่าพวกเราทานข้าวมาแล้ว เธอเลยพาขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอน
“พวกกูจะนอนข้างล่าง พวกมึงก็แบ่งกันคนละห้อง”
พี่ท็อปบอก
“นอนรวมกันข้างล้างก็ได้นี่วะ”
พี่พีทพูดขึ้น แต่พี่เท็นส่ายหน้าหวือ
“เพื่อพวกมึงอยากเอากันขึ้นมา เสียงครางดัง ไอ้เหี้ย กูนอนไม่หลับ”
“ไอ้สัดเท็น”
พี่อาร์ตด่า ยกเท้าจะถีบ แต่พี่เท็นวิ่งหนีลงบันไดไปชั้นล่าง
“พวกกูเอาห้องนั้น”
พี่ควินบอกอย่างตัดรำคาญแล้วจูงมือผมเดินตามไป พี่แซทเดินตามเข้ามา ปิดล็อคประตูแล้วโยนกระเป๋าไว้บนเตียง
“ไปอาบน้ำ”
ผมพยักหน้าตามคำสั่งพี่แซท รูดซิปเปิดกระเป๋าแล้วเอาของใช้ส่วนตัว ผ้าขนหนูกับชุดนอนออกมา หอบของเดินเข้าห้องน้ำทางด้านขวามือ พอผมอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในห้อง
“โห! เบียร์เป็นลังเลย”
ผมร้องเสียงดังเมื่อเดินลงบันไดมาชั้นล่าง พวกพี่ๆตั้งวงเหล้ากันหน้าบ้าน ปูเสื่อพร้อมนั่งกันเรียบร้อยเลย แถมแต่ละคนยังพร้อมใจกันถอดเสื้อเปลือยท่อนบนเหลือแต่กางเกงยีน
“ไหนใครบอกว่าจะนอนเอาแรงก่อนฮะ”
ผมถาม พี่ท็อปหัวเราะ โบกมือปัด
“พี่ไม่ได้พูด ไอ้เท็นมันพูด”
โบ้ยให้แฝดตัวเองซะงั้น ผมยิ้มแล้วเข้าไปนั่งข้างๆพี่ควิน
“ขึ้นไปนอนไป”
นั่งปุ๊บพี่ควินก็ไล่ให้ผมกลับขึ้นไปนอน ผมส่ายหน้าก่อนบอก
“ผมนอนมาตลอดทางแล้ว”
“หวงอะไรนักหนาวะ ให้น้องมันนั่งด้วยดีแล้ว อ่ะต้าร์ เป็ปซี่”
พี่พอลบอกพลางยื่นแก้วเป็ปซี่ให้ ผมยิ้มกว้าง รับมาดื่ม
“โต้รุ่งเว้ย เมาแล้วก็นอนตรงนี้แหละ ยุงกัดช่างแม่ง ฮ่าๆๆ”
พี่ท็อปบอก เทเบียร์ใส่แก้วยื่นให้เพื่อนๆ กับแกล้มตามมาเสิร์ฟโดยแม่บ้าน
พวกเรานั่งดื่มโดยอาศัยเพลงจากบ้านฝั่งตรงข้ามเคล้าบรรยากาศ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาถังน้ำขึ้นรถกระบะแล้วขับตระเวนเล่นรอบเมือง”
พี่เท็นว่า ผมตาลุกวาว อยากเล่นสงกรานต์แบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที
“ฮั่นแน่ เด็กน้อยตาใสยิ้มแป้นเลย อยากเล่นน้ำแล้วล่ะสิ”
พี่พอลถาม ผมพยักหน้า ยิ้มกว้าง
“แล้วใครจะขับรถวะ กูไม่ขับนะเว้ย กูจะเล่นน้ำ”
พี่อาร์ตถามพลางบอกปัดหน้าที่ขับรถให้เพื่อนคนอื่น
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูโทรหาลุงให้หาเด็กมาขับรถให้”
พี่ท็อปบอก ยกแก้วเบียร์ดื่มรวดเดียวหมด
ผมเอนตัวพิงไหล่พี่ควิน เขาโอบตัวผมไว้พลางยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม พวกเรานั่งฟังพี่ท็อปเล่าเรื่องไปเที่ยวสงกรานต์ที่สีลมปีก่อน ฟังไปก็หัวเราะไปเพราะพี่เขาเล่าตลกมาก ผมหัวเราะจนน้ำตาไหลตอนที่พี่เขาบอกว่า ‘ยืนอัดกันจนเหยี่ยวเหนียวก็ยังออกจากสีลมไม่ได้’ พอพี่ท็อปเล่าจบ พี่อาร์ตก็ถามหาไมค์กับเครื่องเล่นเพลงเพราะอยากร้องคาราโอเกะ พี่แกขนแผ่นเพลงมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ คู่แฝดเจ้าบ้านลุกออกไปจัดการให้ พอได้ของที่ต้องการพร้อมต่อสายไฟออกมานอกบ้านเสร็จเรียบร้อย พี่อาร์ตก็ลุยก่อนใครเพื่อน เพลงแรกที่พี่แกร้องทำเอาผมนั่งอึ้งก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา
“ลอยกระทงวันสงกรานต์ ไอ้เหี้ยอาร์ต! กลับไปลอยกระทงที่บ้านมึงเลยไป”
พี่พอลไล่เพื่อน เขาล้มตัวลงนอนกับเสื่อแล้วหัวเราะเสียงดัง ขนาดพี่พีทยังส่ายหน้าหนีแฟนตัวเองเลย ประมาณว่ารับไม่ได้ ผมหันไปมองพี่ควินกับพี่แซท เขานั่งดื่มเบียร์ด้วยใบหน้านิ่งๆ ต่างจากคู่แฝดที่ลุกขึ้นเต้นทั้งๆที่เป็นเพลงช้า สงสัยว่าพวกเขาจะเมาแล้ว เพราะเบียร์พร่องไปครึ่งลัง
“เพลงต่อไป พีทซี่ที่รัก อยากฟังเพลงอะไรคร้าบ”
พี่อาร์ตหันมาถามแฟนแถมยังเติมชื่อใหม่เพิ่มให้ด้วย
“พีทซี่บ้านพ่อมึงสิ เอาแผ่นเพลงเหี้ยไรมา เก่าฉิบ”
พี่พีทด่า ตบหัวแฟนไปทีนึง
“เพลงใหม่ก็มี กี่เพ้าอ่ะ รู้จักป่ะ กี่เพ้านี่มีความลับใช่ไหม”
“หยุดเถอะอาร์ต กูขอล่ะ”
พี่พอลบอกทั้งน้ำตา เขาหัวเราะจนผมยุ่งเพราะนอนกลิ้งกับเสื่อ
“เหี้ยพอลไม่เข้าใจกู มึงไม่รู้จักกี่เพ้าใช่มั้ย ไอ้โง่”
พี่อาร์ตด่ากลับ เขาขยับตัวนอนลงบนตักพี่พีทแล้วเริ่มร้องเพลงกี่เพ้าด้วยโทนเสียงทำลายประสาทหูคนฟังมาก
“ถ้ามีครก สาก รองเท้า ลอยมา มึงอยากไปด่าเขานะ เหี้ยอาร์ต มึงทำตัวเอง ฮ่าๆๆๆ”
พี่ท็อปว่า เขานั่งลงแล้วหยิบแก้วของเพื่อนๆไปรินเบียร์ส่งให้
ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า มันมืดสนิทบอกเวลากลางคืน
“ดูสิฮะ ดาวสวยจัง อยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้เห็นชัดอย่างนี้เลย”
ผมชี้ให้พี่ควินดู เขามองตามแล้วก้มลงจูบหน้าผากผมเบาๆ
“ง่วงหรือยัง”
“นิดหน่อยฮะ ฟังพี่อาร์ตร้องเพลงแล้วหนังตามันกระตุก ฮ่าๆๆ”
ผมตอบกลั้วหัวเราะ
“ขึ้นไปนอน”
พี่แซทหันมาบอก เขาลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมข้างหลังมาจับมือผมดึงให้ลุกขึ้น
“ผมเดินไปเองได้ครับ พี่แซทนั่งดื่มต่อเถอะ”
ผมบอก แต่พี่แซทไม่ว่าอะไร เขาจับมือผมจูงให้เดินเข้าบ้าน ผมมองหน้าเขา ดูตาเขาปรือเหมือนคนง่วงนอน
“พี่แซทง่วงเหรอฮะ”
พอผมถาม เขาเลยพยักหน้า ผมยิ้ม จับกระชับมือเขา เดินขึ้นบันไดไปพร้อมกัน
“งั้นเราเข้านอนกันดีกว่าเนอะ”
เข้าห้องมา พี่แซทก็ปล่อยมือผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมเตรียมชุดนอนเขาออกมาเตรียมไว้ พอเขาอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา ท่อนล่างเขาพันด้วยผ้าขนหนูของผมที่แขวนทิ้งไว้ในห้องน้ำ ให้พวกเขาใช้ต่อ ผมส่งชุดให้เขาเปลี่ยนแล้วขึ้นเตียง นอนรอเขา
“พรุ่งนี้พี่จะไปเล่นน้ำกับผมมั้ยฮะ”
ผมถามเมื่อเขาเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วขึ้นเตียงมานอนข้างๆผม
“อืม จะปล่อยให้มึงเล่นคนเดียวได้ไง”
เขาตอบ ดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ แล้ววางแขนบนเอว ซุกหน้ากับซอกคอ แล้วกอดผมไว้
“ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะครับ”
ผมยิ้มบอก หลับตา ได้ยินเสียงเขาพึมพำตอบกลับมาว่าฝันดี
บรรยากาศยามเช้าของวันใหม่คึกคักไปด้วยเสียงเพลง และเสียงโห่ร้อง ผมตื่นขึ้นมาก็เห็นพี่ควินกับพี่แซทยังนอนหลับสบายอยู่ ผมปล่อยให้พวกเขานอนต่อ ส่วนตัวเองลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วลงมาข้างล่าง ช่วยแม่บ้านล้างผักทำอาหารในห้องครัว พี่พอลกับคู่แฝดยังนอนหลับอุตุอยู่กลางบ้าน พอทำอาหารเสร็จเดินออกมาก็เห็นพี่พอลลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจด้วยสภาพงัวเงีย เขาใช้เท้าเตะปลุกคู่แฝดให้ตื่น พอพวกเขาลืมตาตื่นขึ้นก็หาววอด
“ตื่นโว้ย วันสงกรานต์ เล่นน้ำๆ”
พี่พอลว่าแล้วเดินไปทางห้องน้ำหลังบ้าน
“อ้าวน้องต้าร์ ตื่นนอนแล้วเหรอ”
พี่ท็อปหันมาถาม ผมยิ้มตอบ
“สักพักแล้วครับ”
“เดี๋ยวพี่โทรหาคนมาขับรถพาพวกเราเที่ยววันนี้”
เขาบอกแล้วลุกขึ้นเดินหาโทรศัพท์
“ต้าร์”
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก พี่ควินกับพี่แซทเดินลงบันไดมาด้วยชุดใหม่ ผมยิ้มดีใจที่พวกเขาตื่นอาบน้ำเตรียมพร้อมจะออกไปเล่นสงกรานต์กับผม
“พี่อาร์ตกับพี่พีทล่ะครับ ยังไม่ตื่นเหรอ”
ผมถาม พี่ควินส่ายหน้าแทนคำตอบว่าไม่รู้
“อย่าไปถามถึง ป่านนี้พวกมันคงนอนกกกันอยู่”
พี่ท็อปบอก เขายิ้มให้ผมแล้วเดินไปทางห้องน้ำสวนทางกับพี่พอลที่เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอพวกมึง ดีดี เท็น ไหนถังน้ำวะ มึงจัดการดิ กูพร้อมลุยแล้ว”
“เออ รู้แล้ว”
พี่เท็นตอบแล้วเดินออกนอกบ้าน ได้ยินเสียงลากถัง ลากสายยาง
“อาหารเสร็จแล้ว ให้ตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ”
แม่บ้านเดินออกมาบอก ผมหันไปมองพวกพี่ๆ
“จัดการเลยครับ ขอบคุณนะคร้าบพี่สาวคนสวย”
พี่พอลตอบพลางยอแม่บ้านจนเธออายหน้าแดง
ผมเข้าไปช่วยแม่บ้านตั้งโต๊ะในห้องอาหาร พี่ควินกับพี่แซทเดินเข้ามานั่งรอ ตามด้วยพวกเพื่อนๆ พอเริ่มตักข้าว คู่รักด้วยลำแข็งก็เดินกอดคอกันเข้ามา
“กูนึกว่าพวกมึงนอนเอากันอยู่”
พี่พอลพูดขึ้นกลางวงข้าว
“เอาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วสัด”
“พี่อาร์ตตอบกลับเสียงเรียบ”
ผมที่นั่งฟังรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว พวกเขาพูดเรื่องบนเตียงกันราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาเลย
“กินสิวะ น้องต้าร์หน้าแดงแล้ว พูดเหี้ยไรกัน”
พี่พีทบอก เขายิ้มใจดีให้ผม
พอทานข้าวเช้าเสร็จ คนขับรถพาพวกเราเที่ยววันนี้ก็มาถึง เป็นหนุ่มอาชีวะหน้าตาซื่อๆ เขาถอยรถกระบะไปจอดรอหน้าบ้าน พี่พอลกับคู่แฝดขึ้นกระบะหลังไปก่อนเพื่อน ตามด้วยพี่ควินพี่แซท พอผมจะขึ้นพวกเขาก็ยื่นมือมาให้จับ ผมยิ้ม ยื่นมือออกไป พวกเขาช่วยดึงผมขึ้น มีถังน้ำสีฟ้า2ถังบรรจุน้ำเต็มอยู่บนกระบะ ขันซึ่งใช้เป็นอาวุธสำหรับการตักน้ำสาดมีครบจำนวนคน แถมมีขวดแป้งเป็นแพคยังไม่ได้แกะวางอยู่ด้วย เตรียมพร้อมดีจริงๆ
“ไปเลยไอ้น้อง พี่พร้อมลุย”
พี่ท็อปตบข้างรถบอกคนขับ พอรถเคลื่อนตัวออกนอกถนนใหญ่ ผมก็เบิกตากว้างเพราะมีรถกระบะบรรจุคนเต็มถนนไปหมด แถมแต่ละคันยังเปิดเพลงแดนซ์มันๆแข่งกันด้วย
“โห!”
ผมร้อง เตรียมตักน้ำขึ้นสาด แต่ช้าไปเพราะน้ำคลื่นใหญ่ถูกสาดมาจากรถคันไหนก็ไม่รู้ทิศทาง ผมหลับตาเตรียมตัวรับน้ำ แต่ปรากฏว่าไม่ค่อยถูกสาดเท่าไหร่ พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าร่างสูง2คนยืนขนาบข้างผมอยู่ทั้งซ้ายขวา ผมมองพวกเขาอย่างงุนงง เพราะสภาพของพวกเขาเปียกโชกไปทั้งตัว
“อะไรเนี่ย ยืนบังผมแบบนี้ แล้วผมจะเล่นยังไงล่ะ”
ผมว่าเสียงอ่อน พวกเขาหน้านิ่ง ขยับออกห่างผมแต่ก็ไม่มากนัก ผมเข้าใจว่าเขาเป็นห่วง แต่ผมอยากเล่นน้ำนี่นา
“ถอยออกไปอีก”
ผมบอกเสียงเข้มแล้วตักน้ำเต็มขันสาดใส่รถคันข้างๆ
“แป้งๆ! แกะแป้งมาเร็ว สาวสวยอยู่รถคันนั้น”
พี่พอลร้อง ผมรีบก้มลงแกะพลาสติกยื่นขวดแป้งส่งให้เขา พอดีรถติดไฟแดง พี่พอลเลยกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไปทาแป้งสาวๆรถคันหลัง พวกเธอร้องกรี๊ดอย่างถูกใจ ผมยิ้มตาม พี่พอลวิ่งกลับขึ้นรถ หน้าเขาเต็มไปด้วยแป้ง
“เด็กสมัยนี้โตเร็ววะ ฮ่าๆๆ”
พี่พอลหัวเราะ พอรถเคลื่อนตัว ผมก็เริ่มเปียกไปเกือบทั้งตัวเพราะน้ำที่สาดมา ผมสาดกลับไปทุกทิศทาง พี่ควินกับพี่แซทก็จ้วงกันตักน้ำสาดกลับไป ผมหัวเราะมองคู่แฝดที่เต้นตามเสียงเพลงของรถคันอื่นอย่างเมามัน ส่วนพี่อาร์ตกับพี่พีทก็ปะแป้งกันเอง
“พี่คะ น่ารักจังเลย ขอทาแป้งหน่อยได้มั้ย”
เสียงใสของเด็กสาวจากรถกระบะที่ขับขึ้นมาเทียบถามผม เธอยิ้มกว้างอย่างมีความหวัง ผมพยักหน้าขยับไปใกล้เธอที่ยื่นมือมา แต่พี่แซทมาขวางไว้ ผมมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ
“พี่แซท ขอล่ะ วันนี้วันเดียว นะฮะ”
ผมบอกเสียงเรียบ เขาไม่ว่าอะไร ถอยห่างออกไป ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้น้องผู้หญิง เธอยื่นมือมาทาแป้งให้ผมทั้งสองข้างแก้ม
“ขอบคุณนะครับ”
ผมยิ้มบอก เธอยิ้มกว้างตอบ
รถค่อยๆเคลื่อนตัว ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในคอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งเสียงเพลงที่เปิดแข่งกันดังกระหึ่มถนน ทั้งเสียงโห่ร้อง จะต่างจากในคอนเสิร์ตก็คือน้ำที่สาดกันไปมา
“สาดมาเลยน้อง! พี่กางแขนรออยู่!”
พี่พอลตะโกนบอกพลางยืดอกกางแขนออก ผมหัวเราะมองเขาถูกสาดน้ำจนตัวซีดปากสั่น
“เหยดเขร้! เอาน้ำใส่น้ำแข็งมาสาดกู หนาวฉิบหาย”
พี่พอลหันมาบอก เขากอดตัวเองแล้วนั่งสั่นหัวหงึกๆ พวกผมหัวเราะเขา เสียงกรี๊ดๆของสาวๆดังมาใกล้ ผมหันไปมองก็เห็นรถกระบะป้ายแดงขับมาเทียบรถของพวกเรา
“พี่คะ ขอทาแป้งหน่อย”
“หล่อว่ะแก หล่ออ่ะ”
“ทาแป้งหน่อยได้มั้ยคะ”
เสียงพูดแข่งกันดัง พี่ควินกับพี่แซทถูกสาวๆทาแป้งเต็มหน้า ผมเองก็ถูกทาแป้งเหมือนกัน
“อ้าก! แป้งเข้าปากกู!”
พี่ท็อปร้องขึ้น เขารีบตักน้ำบ้วนปาก ราดหน้า ราดหัว เทอาบมันทั้งตัว
รถเริ่มเคลื่อนตัวได้คล่องขึ้น ลมแรง พี่ควินดึงให้ผมนั่งลง ผมตัวสั่นเพราะเริ่มหนาว พี่ควินกอดผมไว้แน่น
“เล่นพอหรือยัง”
เขาถาม ผมส่ายหน้า ยังเล่นไม่หน่ำใจเลย
“ปากสั่นแล้ว เดี๋ยวก็เป็นหวัด”
พี่แซทว่าต่อ เขานั่งลงข้างๆมองผมที่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดพี่ควิน
“น้ำหมดถังก็กลับบ้าน อยู่เล่นทั้งวันกูได้กินแป้งแทนข้าวแน่”
พี่ท็อปบอก ผมหัวเราะ พี่ควินก้มหน้าลงเบาลมใส่หน้าผากผม ผมรู้ว่าเขาพยายามทำให้ผมรู้สึกอุ่น แต่ทั้งตัวเขาและผมต่างก็เปียกโชกด้วยกันทั้งคู่ รถแล่นไป น้ำก็สาดมาที่รถ พวกพี่พอลลุกขึ้นสาดกลับ แถมโยนกระป๋องแป้งแถมให้อีก ผมจะลุกสาดน้ำบ้างแต่พี่ควินไม่ยอมปล่อย เขากอดผมไว้แน่น
“พอแล้ว”
เขาบอกเสียงนุ่มคล้ายจะขอร้อง ผมนิ่งไป มองหน้าเขาแล้วยิ้มให้
“พอก็พอครับ ยังไงผมก็ได้เล่นน้ำแล้ว”
ผมบอกเขา เข้าใจว่าเขาเป็นห่วงกลัวว่าผมจะป่วย
“หันมานี่”
พี่แซทสั่ง ผมหันไปมอง เขาแกะถุงพลาสติกแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาสะบัดแล้วเช็ดหน้าเช็ดผมให้
“ขอบคุณครับ”
ผมยิ้มบอก ปลื้มกับความใส่ใจและความห่วงใยที่พวกเขามีให้
รถแล่นไปได้พักใหญ่ พวกพี่ๆเล่นสาดน้ำจนหมดถัง พี่ท็อปก็ตบข้างรถเสียงดัง
“เฮ้ย! กลับบ้านเลย น้ำหมดแล้ว”
เขาร้องบอกคนขับ
“พรุ่งนี้กูจะนอนอืดอยู่บ้าน ใครอยากเล่นน้ำก็เล่นไป กูขอบาย”
พี่พอลว่า โบกมือหยอยๆ
“เหมือนกัน นอนกอดกันอุ่นๆอยู่บนเตียงดีกว่าเนอะที่รัก”
พี่อาร์ตบอกพลางกดหัวพี่พีทให้ซุกอก
“ตกลงพรุ่งนี้หยุดอยู่บ้าน แดกเหล้าชิวๆ โอเคนะ”
พี่ท็อปบอกสรุป เขาหาว ตาปรือคล้ายจะหลับได้ทุกเมื่อ
ผมซุกตัวเข้าหาพี่ควิน เขากอดผมแน่น พี่แซทก็เอาผ้าขนหนูมาคลุมหัวผมไว้ ผมยิ้มอย่างมีความสุข สุขที่รู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงผมมากแค่ไหน รู้ว่าพวกเขาไม่อยากให้ผมเล่นน้ำ แต่เพราะผมอยากเล่น พวกเขาก็ยอมตามใจ พวกเขาสลับกันขับรถเดินทางมาหลายชั่วโมง ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย ผมรู้ว่าพวกเขาต้องการพักผ่อน แต่พวกเขาก็ยังเป็นห่วง ยอมตื่นมาเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์กับผม
“สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ผมมีความสุขจัง”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
ขอมีความสุขกับเทศกาลวันหยุดยาวนี้กันถ้วนหน้านะคะ
เล่นน้ำอย่างปลอดภัย ท่านใดเดินทางกลับต่างจังหวัดก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
เอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟ หวังว่าคงชอบกัน
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และการติดตามค่ะ