ตอนพิเศษ 1
‘ความรักก็คงเป็นสิ่งสวยงามตามคอนเซปที่ทุกคนเข้าใจ แต่ระยะทางของความรักมันก็มักจะมีอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ว่าจะจับมือกันแน่นพอจะฝ่าฟันไปด้วยกันหรือเปล่า’
ประโยคแสนสวยจากหนังไทยวัยรุ่นเรียกเสียงหาววอดจากคนว่าง เนื้อเรื่องที่ได้รับรู้ไม่ค่อยจะประติดประต่อนักเพราะสัปหงกเป็นพักๆ
พระเอกเรื่องนี้ก็หล่อดี คุ้นๆว่าชื่อ ‘เป็นเอก’ เคยเห็นบ้างเพราะเป็นคนแวดวงสังคมเดียวกัน แต่เล่นแข็งไปหน่อยไม่น่าได้คะแนนแปดเต็มสิบจากสื่อหลายสำนักขนาดนั้น…หรือจุดขายอาจจะเป็นความแข็งเหมือนไม่ได้ผ่านคลาสเรียนการแสดงเช่นนี้ก็เป็นได้
ฌามาหยิบรีโมทกดปิดทีวีก่อนจะแหงนดูนาฬิกาสีซีดบนกำแพงบ้านไม้ ทันทีที่เสียงทีวีดับลงเสียงจิ้งหรีดแมลงที่คงไม่ได้ยินในกรุงเทพก็เข้ามาแทนที่ อากาศเย็นไม่ได้ทำให้คนเคยชินกับการใช้ชีวิตเมืองนอกรู้สึกหนาวเท่าไหร่นัก ยังสามารถใส่เสื้อบางๆกางเกงขาสั้นได้ปกติ ออกจะชอบด้วยซ้ำ…ทำให้คิดถึงซาน ฟรานซิสโก
เสียงรถเครื่องที่หมายถึงมอเตอร์ไซต์ดังฝ่าเสียงแมลงมาแต่ไกล ตาที่ปรือแล้วปรืออีกเบิกกว้างกว่าเดิมเล็กน้อยรีบออกไปยืนหน้าระเบียงบ้าน
แสงไฟลางๆชัดขึ้นทุกทีพร้อมกับเสียงที่ดังมากขึ้นก่อนภาพคุณหมอผมกระเซิงจะปรากฏท่ามกลางความสลัวของหลอดตะเกียบที่ติดบ้างดับบ้างตามอารมณ์
เจ้ารถเครื่องเก่าๆนี่ก็รุ่นฮอนด้าชาลีมือสองจากตัวเมือง อายุมันก็คงมากพอตัวกับสภาพที่เกือบจะแงะเศษเหล็กขายได้ แต่ดันถูกใจคุณหมอเขานักหนาเลยต้องยอม บางวันมันก็ถึงบ้าน บางวันก็ต้องเข็น ค่าซ่อมแพงแซงหน้าค่าตัวมันไปไกลแล้ว แถมท่าทางเฌอแตมยามขย่ม…ก็ขย่มนั้นแหละ ขย่มสตาร์ทรถจนผมกระเจิงก็ดูน่ารักดีถึงแม่เขาจะบอกว่าแมนมากตอนอัดคลิปส่งไปให้ดู
เฌอแตมมาใช้ทุนในโรงพยาบาลถิ่นทุรกันดารแบบที่เคยบอกไว้และตั้งใจจะมาขนาดทะเลาะกันยกใหญ่ก็ไม่ยอม เจ้าตัวบอกว่ามันเป็นความฝันที่อยากจะทำให้สำเร็จ ถ้าไม่ยอมให้มา…จากแค่ใช้ทุนไม่กี่ปีจะเปลี่ยนเป็นปักหลักทำงานตามแผนเดิม
ก็เลยต้องยอม…
หลายปีมานี้เฌอแตมร้ายกาจขึ้นทุกวันจนยากจะรับมือ…ชอบใช้ความรักมาเป็นเครื่องต่อรองและบีบบังคับให้จำยอม เห็นยิ้มน้อยๆ หน้าใสๆแบบนี้…
“หนาวจัง กอดหน่อย”
นั่นไง…รู้ว่ากลับดึกผิดเวลาจะต้องโดนดุก็รีบกอดทำให้ใจอ่อนลงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทันที แถมเสียงงุ้งงิ้งๆอะไรก็ไม่รู้นี่อีก…ฟังก็ไม่รู้เรื่อง แต่ได้คะแนนความน่ารักไปเต็มๆ
จากห้าสิบเลยเป็นแปดสิบ…
“เดี๋ยวเจียวไข่ให้กินนะ ซอสเยอะๆเนอะ?”
ตบท้ายด้วยอาหารจานโปรดแถมซอสฟูลๆ…หายโกรธก็ได้
เผลอหลุดยิ้ม…คุณหมอก็เลยรู้ว่าตัวเองชนะแล้วเดินตัวปลิวเข้าไปบ้านหน้าตาเฉย… นับวันยิ่งร้าย ร้ายแต่ก็น่ารัก รักมากทุกวัน ไม่งั้นจะยอมมาอยู่นี่หรอ
มองไปในระยะสายตาก็เห็นประเทศเพื่อนบ้านแล้วเนี่ย…
เฌอแตมมาใช้ทุนในโรงพยาบาลประจำจังหวัดแถวนี้ แต่ก็โดนส่งมาอยู่อนามัยในพื้นที่นี้ มีบ้างที่เข้าโรงพยาบาล แต่ก็สลับไปมากับทางนี้ การเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะมันเป็นภูเขาที่ไม่ได้เป็นที่นิยมนักในหมู่นักท่องเที่ยว อาทิตย์หนึ่งจะมีรถเข้าเมืองแค่สองรอบ ถ้าด่วนก็ต้องอาศัยรถชาวบ้านไป
บ้านพักขนาดเล็ก มีส่วนโซฟาแคบๆ หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ และครัวเล็กๆแยกมาอยู่หน้าบ้านติดบันไดทางขึ้น ใต้ถุนยกสูง มีสวนดอกไม้เมืองหนาวเป็นฉากหลัง ฟังดูเหมือนใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ถ้าบวกกับความห่างไกล แถมรอบๆนี้บ้านที่ใกล้ที่สุดก็ห่างไปห้าร้อยเมตร ถนนลูกรังฝุ่นตลบ… มันชักจะเหมือนบ้านผีสิงมากกว่า
แต่คุณหมอเขาชอบ… เวลาคนที่เรารักชอบอะไรเราก็ต้องชอบด้วย…แต่มันก็จะฝืนๆหน่อยนะ โดยเฉพาะการตักน้ำโอ่งอาบ
“แล้วจะมาอยู่กี่วันล่ะคราวนี้?”
“ห้าวัน”
ช้อนกินข้าวชะงักเล็กน้อย ดวงตาเรียวฉายความรู้สึกที่ค่อนข้างไปทางผิดหวังอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนจะพยักหน้าแสดงความเข้าใจ
“รู้ใช่ไหมว่าคิดถึงเหมือนกัน”
คุณหมอพยักหน้าก่อนเราจะกินข้าวกันต่อเงียบๆ
การใช้ชีวิตของเขากับหมอก็ยังเหมือนเดิม ต่างมีสเปซเป็นของตัวเอง ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ตลอดเวลา เขาให้หมอทำในสิ่งที่รัก หมอก็เลยต้องปล่อยเขาไปทำงานที่อเมริกา
ตอนนี้ไม่ได้สอนที่มหาลัยแล้วหลังจากไปสอนได้ครบปี การสอนมันก็สนุกดีแต่โปรเจคใหญ่ที่อเมริกากับท้าทายจนเลือดมันพลุ่งพล่าน…ก็ไอ้พิพิธภัณฑ์ที่โดนระเบิดนั่นล่ะ ทำใหม่ งบประมาณมากกว่าเดิมเพื่อตอกกลับผู้ก่อการร้าย แถมยังขยายสาขาไปยังรัฐอื่นๆ เรียกว่าเมกะโปรเจค
ช่วงเฌอแตมเรียนปีห้าปีหกเลยได้เจอกันสามเดือนครั้ง…เพราะเขาก็ติดแหงกกับงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต หมอก็ได้มีเวลาฝึกวิชาอย่างเต็มที่
คงเพราะต่างคนต่างยุ่งจนไม่มีเวลาให้เหงา ความรักเลยยังประคองกันอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ ก็เคยมีความคิดหวาดระแวงบ้างเหมือนกัน แต่เวลาวิดิโอคอลแล้วเห็นสภาพหมออิดโรยกับกองหนังสือและคำบ่นถึงความหนักหนาสาหัสก็เบาใจ หมอก็เคยยอมรับว่าแอบระแวง แต่บางทีตอนคอลเขาก็ยังวาดกำแพงอยู่ทั้งๆที่มันเที่ยงคืนแล้วก็เลยกลายเป็นให้กำลังใจกันแทน
แต่พอโปรเจคเขาจบหมอก็แพคกระเป๋ามาอยู่ซะยอดดอย…แพลนที่จะรับงานน้อยลงเลยยังไม่ได้ทำสักที หมอก็โอเคกับการที่เขาบินเทียวไปเทียวมา แค่มีทำหน้าคิดถึงกันบ้าง…เพราะสัญญาณอินเตอร์เน็ตแถวนี้แทบจะมาไม่ถึง
เคยคุยกันทุกวันมันก็กลายเป็นอาทิตย์ละครั้งที่หมอไปโรงพยาบาลในตัวเมือง…แถมบางวันอาจจะมีเหตุให้คุยกันไม่ได้อีก ช่วงแรกก็แทบจะทนไม่ไหวแต่เพราะไม่ได้ตัวติดกันมาแต่ไหนแต่ไร บางทีไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์ก็ยังโอเค หรือความรักมันกำลังจืดจางลงก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่พยายามคิดอีกแง่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะก็ยังอยากมาหาเท่าที่จะมาได้ หมอก็เข้าใจว่าถ้าบางครั้งมาไทยแต่ไม่ได้ขึ้นมาหาก็เพราะติดงาน
ส่วนหมอไม่ได้ไปกรุงเทพเลยตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา…หมอมาอยู่ที่นี่หนึ่งปีแล้ว ยังเหลืออีกสองปี หมอไม่ได้สอบไปใช้ทุนแบบอื่น แต่ยอมสมัครมาไกลๆที่คนไม่แย่งกัน อุดมการณ์แรงกล้าเหลือเกิน
หมอตัวหนาขึ้นนิดหน่อยคงเพราะใช้ชีวิตที่นี่ไม่ได้สบายเหมือนที่กรุงเทพ หลายๆอย่างหมอต้องทำเอง เขาอยู่ฟังหมอบ่นตั้งแต่ช่วงแรกที่มาที่นี่ ยิ่งคุยกันได้อาทิตย์ละครั้งสองครั้งจากคุณหมอพูดน้อยกลายเป็นพูดเยอะเป็นชั่วโมง
แต่ตอนนี้หมอแข็งแกร่ง…แกร่งกว่าเขาอีก ผีก็ไม่กลัว น้ำไม่ไหลก็ไปอาบน้ำที่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นเหมือนธารน้ำเล็กๆไหลลงมาจากภูเขาที่เดินไปหนึ่งกิโล แถมยังหอบผ้าเต็มตะกร้าไปซักได้
ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบหมอจะปรับตัวเข้ากับทุกคนได้ง่ายดายจนเป็นขวัญใจคนในชุมชน หมอแตม หมอคนเดียวของอนามัยเลยกลายเป็นที่รักของชาวบ้าน
ซึ่งมันก็ดีที่เป็นเช่นนั้น แสดงว่าหมอของเขาจะมีแต่คนหวังดีด้วยอยู่รอบตัว เขาไม่หึงสักนิดที่บางทีก็มีคนพยายามจะมาขายขนมจีบ จะลูกสาวนายอำเภอ หลานสาวเจ้าของไร่องุ่น หรือนักศึกษาอาสาที่มาออกค่าย…เพราะทุกความหวังดีจะช่วยดูแลคุณหมอของเขา
หมอไม่ได้ชอบผู้หญิง…และไม่ได้มีผู้ชายแถวนี้มาจีบ เขาจึงไม่กังวล พวกเธอก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรเพราะหมอก็ชัดเจนในการแสดงออก
เขามาที่นี่ในฐานะเพื่อนสนิทของหมอ เราไม่ได้เปิดตัวกันชัดเจนเพราะชาวบ้านที่ใช้ชีวิตไม่ซับซ้อนอาจจะเกิดความสับสน คุณชา ที่ชาวบ้านเข้าใจว่ามากจาก ใบชา หรือ น้ำชา เลยได้รับการต้อนรับไปด้วย
จริงๆการมาอยู่ห่างไกลชุมชนและผู้คนก็มีข้อดีอีกอย่าง…คือเขากับหมอไม่ต้องระวังในยามทำ ‘เรื่องส่วนตัว’ แถมยังพลิกแพลงสถานที่ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็น
มุมโปรดของเขาคือการกอดหมอที่ระเบียงด้านหลัง…มีไร่ดอกไม้สุดลูกหูลูกตาเท่านั้นที่มีสิทธิ์รับรู้…และเสียงหมอยังไม่ต้องกลั้นเอาไว้ในลำคอ
หมอจะคราง…จะร้อง…จะคราง…ก็ได้ทุกโทนเสียง
และเขาจะฟาด…จะขยับ…จะกระแทก…ก็ไม่ต้องผ่อนแรง…แต่บ้านมันก็จะสั่นหน่อยๆนะ
การสัมผัสแสนจะอิ่มเอมจบลงแล้วยังซึมซับบรรยากาศการกอดกันทั้งๆที่ร่างกายเปลือยเปล่าหรือยังเชื่อมกันไว้ในแสงแรกของดวงตะวัน…มันรู้สึกดี
เขาชอบที่จะเห็นผิวขาวๆของหมอชัดๆ… ผิวขาวๆที่มีร่องรอยรักถ้วนทั่ว
เหมือนที่หมอก็ชอบสำรวจร่างกายเขาหลังผ่านคลื่นอารมณ์…
รสนิยมของเราเริ่มชัดเจนขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ยิ่งเวลาอยู่ด้วยกันน้อย ยิ่งไม่มีใครอยากจะเหนียมอาย… หมอชอบการร่วมรักที่รุนแรง…
ชอบมองดูร่างกายที่ถูกสอดประสาน…ยิ่งเอาท์ดอร์ยิ่งรู้สึกได้มากกว่า…แล้วถ้ายิ่งมีคำพูดที่สื่อไปทางด้านเพศสัมพันธ์ปลุกเร้า…หมอที่มักจะเยือกเย็นกลายเป็นแมวยั่วสวาททันที
ซึ่งเขาก็ชอบ…หมอรับได้ทุกท่า…ทุกความเอาแต่ใจ…จะยากแค่ไหนหมอก็ไหว… ขนาดเคยเดินไปอาบน้ำด้วยกันเขาขอหมอริมน้ำ หมอก็ยอมแม้จะแอบบ่นว่าพื้นหินบาดหลัง ก็จริงของหมอ…ตอนเปลี่ยนให้หมอเป็น ’ฝ่ายขย่ม’ เขาก็แสบๆหลังเหมือนกัน
บ้านของหมอห่างไกลผู้คนมีข้อดีอีกอย่างคือหมอไม่ต้องเก็บ ‘ของเล่น’ ของเรามิดชิดมากนัก จะเอามาล้างมาทำความสะอาดก็ง่าย อยู่ไกลกันก็ต้องมีบ้างที่จะวิดิโอคอลแล้วช่วยตัวเอง แต่หมอเล่นมาอยู่ยอดดอยเลยต้องเปลี่ยนเป็นอัดวิดิโอหากัน อาทิตย์หนึ่งเข้ามองก็
ส่งมาทีเป็นโหล...
แรกๆหมอก็เขินๆ เขาก็เขินเพราะต้องส่งกลับไป… หลังๆก็เริ่มหน้าหายบางมีการอัดคลิปที่แอดวานซ์ขึ้น อันนั้นก็ขอเซ็นเซอร์ไม่พูดถึง…
อ่ะอยากรู้ใช่ไหม? เอาเป็นว่าจะใบ้นิดๆแล้วกัน
คลิปหมอมักจะมีชุดคอสเพล…จำพวก…จีสตริงผู้ชายที่ตรงนั้นจะเป็นรูทำเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แถมยังสีแดงมีผูกโบว์อย่างกับบิกินี่ผู้หญิง เสื้อกราวสั้นตัวเดียวไม่ติดกระดุมก็ช่างเข้ากับจีสตริงสีแดงนั่น…และยิ่งมีเจ้าแท่งสั่นได้กำลังทำงานอยู่ด้วย พร้อมเสียงครางเรียก…ฌาม์ อ้ะ ฌาม์…
แต่หมอซื้อเองไม่ได้หรอก…หมอหน้าบางกว่าเขาอยู่สักหน่อย เขาเลยหอบไปให้หมอเอง ที่อเมริกาของเล่นพวกนี้ก็ดูจะเยอะและเสรีในการขายมากกว่าไทย
ชาร์ล กับ เชอมาหาหมอนานๆครั้ง แต่หมอให้ไปเจอแค่ในเมือง บ้านหลังน้อยริมดอยเลยเป็นรังรักในความลับชองเขากับหมออยู่ ชาวบ้านรักหมอ ทำให้หมอใช้ชีวิตแถวอนามัยที่เป็นบริเวณหลักๆของชุมชนซะส่วนมาก กินข้าวกับชาวบ้าน มีกิจกรรมหมู่บ้านก็แถวนั้น ดึกๆถึงแยกตัวออกมา
ไม่มีใครอยากรบกวนหมอเท่าไหร่ ไกลด้วย… มีแต่เขาที่มา
ห้าวันเท่านั้นที่ได้อยู่กับหมอ ก่อนเขาจะบินไปดูงานที่รัสเซีย มีงานก่อสร้างคฤหาสน์ของไฮโซตระกูลหนึ่งในรัสเซียจ้างเขาออกแบบ ถึงจะออกแบบและส่งให้ช่างที่ทางนั้นประสานงานไว้แล้วก็ตาม แต่การไปเช็คหน้างานด้วยตัวเองลูกค้าก็จะพอใจมากกว่า เป็นการสร้างเครดิตที่ดี
เขาเริ่มคิดว่าจะทำยังไงให้อาชีพนี้มั่นคง มีการเติบโตโดยที่ตอนแก่หยุดทำก็ยังได้เงิน…คงไม่สามารถฝืนสังขารออกแบบนั่นนี่โน่นได้ตลอดชีวิต
เลยคิดจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์… ทำเกตเฮ้าส์ที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ในอาร์ตแกลอรี่มากกว่าแค่เข้ามาซุกหัวนอน ไหนๆก็ได้สัญชาติอเมริกาแล้ว และกำลังทำเรื่องสละสัญชาติไทย… คนเราถือสองสัญชาติไม่ได้นะ ลองไปศึกษาดู ก็เลยเลือกของอเมริกาเพราะปัจจัยหลายๆอย่าง
เช่น…การอุ้มบุญ
เป็นแพลนในอนาคตของการสร้างครอบครัว ช่วงนี้ก็หาที่สวยๆหรืออาคารที่ทำเลเหมาะสมมารีโนเวทสร้างเกตเฮ้าส์สำหรับแบคแพคเกอร์หรือคนงบไม่สูงมาก ราคาไม่แพงแต่ดึงดูด
แพลนยาวๆก็มีหมอเป็นส่วนประกอบ…ธุรกิจที่บ้านถ้าต่อไปพ่อแม่เลิกทำก็ต้องขายหุ้นให้คนสัญชาติไทยถือเยอะกว่า พ่อเป็นห่วงเรื่องนี้ แม่ก็ด้วย แกงกกัน สร้างเองก็เสียดายเลยจะยกให้หลาน…ที่จะอุ้มบุญ
หรือไม่ก็แตม…
อายุยังไม่เท่าไหร่เลยยังไม่ได้คิดจะมีลูก แม่ก็ไม่ได้เร่งรัดให้ไปมี กับแตมก็ยังไม่ได้คุยกัน
ก็เลยพักเรื่องนี้ไว้ก่อน
“ฌาม์นอนกัน”
เฌอแตมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมากอดเอวคนที่ยืนเหม่ออยู่ระเบียงหน้าบ้าน ในปากมีบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่งจะกลับมาติดอีกครั้ง ควันไอน้ำลอยละล่องหายไปในความมืด ทิ้งเพียงกลิ่นหอมจางๆไว้รอบตัว
ก่อนความหอมนั้นจะประทับลงบนเรียวปากเย็นชืดของคุณหมอทันทีที่ฌามาหันตัวกลับมา ร่างกายแข็งขืนอยู่ชั่วครู่สองแขนก็ยกขึ้นโอบลำคอแกร่ง มือสอดไล้ไปตามกลุ่มผมนิ่มที่แสนคิดถึง
ไล้มือมาตามกรอบหน้าคมสัมผัสใบหน้าที่ดูกร้านขึ้นกว่าเดิม…ฌามาในตอนนี้เป็นคนละคนกับวันแรกที่เจอกัน ฌามาในวันนั้นเป็นเหมือนวัยรุ่นติดแฟชั่นทั่วไป…ไม่ใช่สถาปนิกมาดสุขุม รอยยิ้มกว้างๆแววตาพราวระยับค่อยๆเลือนลางลงถูกแทนที่ด้วยคนที่มีสายตากรุ้มกริ่มและรอยยิ้มเย้ายวน
ทรงผมจากสไตล์ลิสต์ชื่อดังระดับโลก เรือนกายสีแทนสวยจากงานอดิเรกชนิดใหม่…เซิร์ฟบอร์ด ที่เจ้าตัวขยันบินไปเล่นที่ฮาวายเหลือเกิน หนุ่มนายแบบแบรนด์ดังระดับโลกกลายเป็นนักกีฬามาดเท่
ฌาม์ได้ไปถ่ายแบบให้เพื่อนคนเดิมอีกครั้งในคอลเลคชั่นนักกีฬาเพราะแพ้พนันอะไรสักอย่างในปาร์ตี้สุดสัปดาห์ รูปเซ็ตนั้นฮือฮาอยู่เป็นเดือนขนาดดังมาถึงไทยอีกครั้ง
นายแบบคนดังหายตัวไปอยู่ในภูเขาหิมะของการตามล่าแสงเหนือพอดีเพราะคิดไว้แล้วว่าชีวิตจะวุ่นวาย ฌามาชอบการเดินทางแม้จะไปมาแล้วแทบจะรอบโลกแต่ก็ไม่ได้ความว่าไปทั่ว
เขาอิจฉา…ฌามาแปลว่า นกบินหลา…และเจ้าตัวก็มีอิสระเช่นนกจริงๆ
การที่บีบบังคับให้ฌามาอยู่ด้วยตลอดเวลามันเป็นไปไม่ได้เลย การจะอยู่กับฌามาได้คือต้องปล่อยเขาไป…แล้วเขาจะกลับมาเอง การคอนโทรลคนที่รักอิสระเหมือนนกคือการทำให้เขาเต็มใจจะมาอยู่ด้วยเอง
ยากเหมือนกันที่ต้องพยายามลดความน้อยใจ การมาอยู่บนดอยแบบนี้อันที่จริงก็คล้ายการประชดอย่างหนึ่ง อยากรู้ว่าจะดั้นด้นมา
หาไหม…มานี่มันไม่เหมือนบินกลับมาไทยที่กลับบ้านมาเจอพ่อแม่ แต่ตั้งใจมาหาเขา…
เขาที่กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่งนกจะไม่กลับมา…
โชคดีที่ยังไม่เป็นเช่นนั้น
ฌามามั่นคง…และชัดเจน
ความชัดเจนเป็นจุดเด่นของฌามาเสมอ คนเราทุกคนก็ต้องการความชัดเจนจากคนรัก… แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเชื่อใจ
ฌามาเคยบอกว่าเดินทางเจอผู้คนมาทั้งโลกยังหยุดอยู่ที่เขา…ชนะคนทั้งโลกมาแล้วจะกลัวอะไร?
ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะดีขนาดนั้นแต่ก็แอบภูมิใจเหมือนกัน…
“แตม…”
“อื้อ…”
“ทำท่าเหมือนในคลิปดูได้ไหม…”
คลิปที่ผลัดกันอัดส่งให้กัน…แต่เยอะนะ…อันไหนล่ะ
“ไม่เอา…”
เขินจนต้องรีบปฏิเสธ ซุกหน้าลงกับไหล่กว้างไม่กล้าสบตา
“อันนั้นไง…ที่…”
“อา…”
อันที่จริงท่าที่ฌามาอยากเห็นไม่ใช่ท่ายากอะไรนักหนา แต่ออพชั่นเสริมของมันต่างหาก… นั่นก็คือตุ๊กตาหมีขนาดเกือบเท่าตัวคนที่ซื้อให้เป็นตัวแทนของฌามาถูกเฌอแตมนั่งคร่อมขย่ม
ทั้งตัวคุณหมอมีเสื้อกล้ามตัวบางที่ปกปิดอะไรไม่ได้เลย นิ้วซีดสอดเข้าไปในปากตวัดเล่นกับลิ้นสีชมพูจนน้ำใสไหลเยิ้มเต็มนิ้ว…และใช้มันแทนสารหล่อลื่นให้ตัวเอง…
ฌามาขบฟันแน่นกับภาพที่โคตรเร้าอารมณ์… ขาขาวเผือดพับไปกับพื้นเตียง เท้าหยัดขึ้นทรงตัว สะโพกมนยกขึ้นลงตามจังหวะขย่มเจ้าหมีสีน้ำตาล แถมอกแอ่นขึ่นจนยอดอกดันทะลุเสื้อตัวบางชัดแจ๋ว…
ใบหน้าแดงระเรื่อหอบน้อยๆมีนิ้วซนกำลังพยายามจะสอดเข้าไปในร่าง…
“ฌาม์…ฌาม์จ๋า…”
ชาวดอยคนไหนมันสั่งมันสอนให้คุณหมอของเขากลายเป็นคนออดอ้อนแบบนี้!...
ให้ตายเหอะ…
เฌอแตมคนร้ายกาจ…แล้วแบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ…
==============================================
คุณฌาม์ในเวอร์ชั่นโตขึ้นอีกหนึ่งสเตป กับคุณแตมที่ดูจะอ้อนเก่งขึ้น -...- รักระยะไกลก็ต้องทำอะไรที่ดีต่อใจกันหน่อยนะ คึคึ
===============================================
ช่วงโฆษณาจ้าาาา <3
ตอนนี้เปิดขาย E-book จำนวน 1 เรื่อง แหะๆ สำหรับคนที่อยากได้เวอร์ชั่นหนังสือ แต่ซื้อไม่ทัน
เป็นการร่วมซีรีส์เรื่อง ... แตก!!! โดยมีห้าเรื่องหลักที่ลงในเว็บ อีกสี่เรื่องเฉพาะในเล่มและตอนพิเศษอีก 1 ตอน ค่ะ
ทดลองอ่านได้ที่นี่เลยจ้า
ฟองแตกเขื่อนแตกน้ำแตกพลุแตกกลองแตกสนใจสั่งซื้อ ลิงค์นี้นะคะ <3
คลิกฮะ