- ถ้าจะสูบ...มาทางนี้ - ☠ ☠ -
☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠
“ตกลงไง ตามนั้น”
“ตามไหน?” ผมถามซ้ำ ยังไม่อยากเชื่อว่าที่ได้ยินมันถูก
“ถ้ากูยอมให้มึงจูบแทน มึงจะไม่สูบบุหรี่อีกใช่ไหม”
“จะบ้าเหรอ?!” ซีลุกขึ้นยืน ก้าวพรวดๆอ้อมโต๊ะมาหาผม ผมจะถอยก็ติดโต๊ะหิน
“ไม่บ้าดิ กูตัดสินใจแล้วมาร์ค ดับบุหรี่”
“เฮ้ย มึง” บุหรี่ที่สูบไปครึ่งมวนถูกแย่งไปจากมือ ผมมองซีเดินเอาไปดับในทรายบนถังขยะ
“แต่ไม่เอาตรงนี้นะ ไป ที่ ที่อื่นกัน” เขาพูดเบามากตรงประโยคหลัง “คงต้องที่ลับตาคนหน่อย”
“นี่ พอแล้วจะบ้าเหรอ กูล้อเล่น”
“กลับคอนโดกัน มึงต้องกลับขึ้นไปเอาของบนห้องโปรเจคอีกมั้ยเนี่ย?”
“มึงจริงจังเหรอ?” เขาไม่สนใจที่ผมพยายามพูดแก้เลย
“ก็กูอยากให้มึงเลิก”
“อยากขนาดที่จะจูบกับกูก็ได้ โดยที่ถ้ากูต้องการเมื่อไหร่มึงก็ไม่มีทางปฏิเสธ ถ้ากูเรียกร้องมึงก็จะต้องยอมกูตลอดเวลาไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ งั้นเหรอ ยอมเหรอ?”
“ตะต้องตลอดเวลาเลยเหรอ... มันก็ได้อยู่หรอกนะถ้าอยู่ไม่ไกลกันมาก”
โว้ยยยยย ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ประเด็นคือถึงจะแค่จูบเดียวมึงก็ไม่ควรจะยอมกูโว้ย
แล้วนี่มันดันยอมรับเงื่อนไขบ้าๆ ที่เสนอออกไปส่งๆ ของผม แล้วยังทำท่าลังเลเหมือนกำลังตัดสินใจจะยอมให้ตอนไหนเท่าไหร่ก็ได้อีก?
มึงบ้าแล้วๆ
“มึงเลิกพูดว่า ‘ได้’ ได้ไหม”
“ก็จะให้กูทำยังไง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับกูนะเว้ย กูก็อุส่าตัดสินใจไปแล้ว แต่สุดท้ายมึงก็ยังยืนยันจะกลับไปสูบบุหรี่อ่ะ มึงคิดว่ากูควรทำยังไง”
“ซี”
“ถ้ากูยอมขนาดนี้ มึงยังยืนยันจะกลับไปสูบบุหรี่ กูบอกเลยกูคงจะไม่พูดกับมึงอีก ถ้ามึงปฏิเสธมึงไม่ใช่เพื่อนกู”
“ทำไมต้องทำขนาดนี้วะ”
“ไม่รู้ แต่กูพูดไปแล้ว กูจะไม่กลับลำกลืนน้ำลายตัวเอง”
“มึงรู้ไหมที่ตัวเองพูดมันหมายความว่าอะไร”
“อะไร? ก็หมายความว่าให้มึงเลิกบุหรี่ไง”
“ใช่ แล้วอะไรอีก”
“แลกกับ นั่นไง”
“มึงจะปฏิเสธไม่ได้เลยสักครั้ง สักเวลา ไม่ว่ากูจะต้องการเมื่อไหร่ ที่ไหน และมากแค่ไหนด้วยนะ มึงแน่ใจจริงๆ เหรอ?”
“รู้แล้วน่า มึงจะย้ำอีกทำไมว่ะเนี่ย” ซีพูดเสียงเบาอย่างกับกระซิบ
เห้อ มึงนี่นะ
“ไป กลับคอนโดกู”
“ไปไมอ่ะ ผลักทำไมเนี่ย”
“ยังจะถามอีก กลับไปเชือดมึงไง”
ผมผลักให้เขาเดินไปข้างหน้า เพราะไม่อยากให้เขาเห็นว่าผมทำหน้ายังไง
ซี กูจะให้โอกาสมึงกลับตัวกลับใจแค่ถึงจูบแรกนะ
ถ้ามึงยอมให้จูบแรกระหว่างเราเกิดขึ้น อย่าคิดว่าจะหนีกูรอด
ผมคิดในใจ แล้วก็บังเอิญลืมไปเลยว่าจริงๆผมก็ตั้งใจจะเลิกอยู่แล้ว เขาจะพูดไม่พูด ขอไม่ขอ ยอมไม่ยอม ก็ไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนใจ แค่ผมต้องเลิกเร็วขึ้นหน่อยเท่านั้นเอง
เอ้ะ! หรือว่า ทั้งหมดนี่ เป็นแผนของมัน???
ซีเป็นคนฉลาด ตอบโต้เร็ว ถ้ากับผู้ใหญ่คงเรียกเถียงคำไม่ตกฝาก แต่มันรู้กาลเทศะก็เลยไม่ใช้กับผู้ใหญ่ ส่วนผมที่เป็นเพื่อนเจอมาแล้วทั้งมุมเป็นคนดีลุคหัวหน้าห้องของมัน หรือโดนมันด่าสาดเสียเทเสียมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นมันเรื่องสมัยเรายังเด็กทั้งคู่ มาย้อนคิดตอนนี้โคตรปัญญาอ่อน มีแต่เรื่องไร้สาระที่เถียงกัน
กลับมาเจอกันอีกครึ่งปีมานี้ เราโตขึ้นวุฒิภาวะมีมากขึ้น เราเลิกขึ้นเสียงเถียงกันแล้ว กลายเป็นการกวนตีนหน้าตายแทน
ครั้งแรกที่เห็นผมสูบบุหรี่ มันทำหน้าแปลกใจสงสัย แล้วก็ถามทันทีว่าผมสูบด้วยเหรอ?
‘อื้ม แปลกเหรอ’
ตอนนั้นมันตอบแค่เปล่าคำเดียว ถึงจะทำหน้าไม่ชอบใจแต่ก็ไม่พูดอะไรอีก
หลังจากนั้นผมก็เห็นแหละ ว่ามันมีท่าทางไม่พอใจทุกครั้งที่เห็นผมสูบบุหรี่ แต่มันก็ไม่พูดไม่ท้วงอะไร เพราะคิดว่ามันคงเข้าใจว่าโตๆกันแล้ว อะไรดีอะไรไม่ดีก็คิดเองได้หมดแล้ว คงไม่ต้องพูดกัน ชีวิตใครชีวิตมัน ทำนองนั้น แต่วันนี้ไม่รู้ไปทำอะไรมาถึงได้คิดจะมาพูดเรื่องนี้กับผมขึ้นมาแถมโคตรจริงจัง จะใช้คำว่าจู่ๆ ก็คงไม่ได้อีก เพราะมันก็แสดงออกตลอดมาว่าไม่ชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว แล้วทำไมถึงมาพูดเอาป่านนี้ งงครับ
...............................................
“จะแวะเอาของไปเก็บห้องมึงก่อนมั้ย?”
“ไม่เป็นไร ไปห้องมึงเลย”
ผมกดลิฟต์ชั้นของผม มองซีที่ยืนดูเลขชั้นเลื่อนขึ้นตามลำดับ เราอยู่คอนโดเดียวกัน แต่คนละชั้น ถ้าเป็นห้องของซีอยู่สูงจากห้องผมขึ้นไปอีก 4 ชั้น
เมื่อกี้ตอนกลับมาถึงหน้าตึก ผมพยายามถ่วงเวลา แวะเข้าเซเว่นเอย ดูตู้จดหมายเอย ทำสารพัดให้ถึงห้องช้าๆ แต่ซีหน้านิ่งเดินตามผมห่างๆ ไม่พูดไม่จา เหมือนวิญญาณหลุดจากร่างไปแล้ว
ตอนที่นั่งรถกลับ ผมแอบสงสัยนะ ว่าเขาเป็นฝ่ายที่กำลังหลอกผมรึเปล่า เอ หรือเขาจะแกล้งตกลงเพื่อดูว่าผมจะทำจริงมั้ย อะไรแบบนั้นรึเปล่า ผมบอกไปแล้วนะว่าผมล้อเล่นไม่ได้จะทำจริง แต่ที่เขายังยืนยันให้ทำตามเงื่อนไขนั้นจริงๆคือจะดูว่าผมจะกล้าจริงไหม แบบนั้นรึเปล่านะ?
หรือเขาอยากให้ผมเลิกจริงๆ แบบมีปมอะไรสักอย่างจนยอมแลกกับอะไรก็ได้ เฮ้ย แต่จูบนะเว้ย ไม่ใช่เรื่องจะยอมกันง่ายๆ
หรือเขาเป็นคนไม่ได้หวงตัวขนาดที่เอิ่ม... ผมจะต้องคิดมาก
หรือที่เขาว่ากันว่าหมอนี่เป็นเกย์นั่นจริงเหรอ?
แล้วผมล่ะ เป็นไหม? เอ่อ... จริงๆผมก็อะไรก็ได้นะ ถ้าความรู้สึกดีๆมันเกิดขึ้นกับคนสองคนพร้อมกัน ผมถือว่ามันคือความรักและมันสวยงาม
มาถึงห้อง ผมก็ยังไม่เว้นจะหาเรื่องถ่วงเวลา ผมพยายามทำใจนิ่งๆ แอบดูท่าทางเขา ในขณะที่ปั้นหน้ากวนตีนเพื่อนดูท่าทีเขาต่อไปสักหน่อย
“แปรงฟันเป็บนะ”
“ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ทำไม มึงคิดว่ากูจะจูบแบบเอาปากชนๆก็จบ งั้นเหรอ?” ยัง ปากนี่ก็ยังจะไปกวนตีนมันเพิ่มอีก
ผมมองซีกลืนน้ำลายยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
เขาไม่พูดอะไรเลยระหว่างขับรถกลับคอนโดมันขับอย่างโคตรตั้งใจ นิ่งสนิท ไม่สบตาผมด้วย ไม่รู้คิดอะไรอยู่
“เปล่านิไม่ได้คิดแบบนั้นซักหน่อย”
“มึงจะแปรงป่ะล่ะ กูมีแปรงสำรอง” ผมชูกล่องแปรงให้รู้ว่ามีจริงๆ
“ไม่อ่ะ ถ้ามึงรังเกียจก็เรื่องของมึง”
ผมเห็นแววว่าเขาอาจจะอยากให้ตัวเองดูสกปรกๆผมจะได้รังเกียจมัน แล้วมันจะได้ไม่ผิดในเรื่องนี้ถ้าผมจะบอกเลิกสัญญา
แต่ผมก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขามายืนข้างหลังตอนที่ผมกำลังแปรงฟันอยู่หน้ากระจก หยิบแปรงอันใหม่ที่ผมโบกหยอกเขาเมื่อกี้ขึ้นมายืนแปรงข้างๆผม
“กูปวดฉี่ มึงแปรงเสร็จออกไปก่อนดิ๊”
ซีไล่ผมทันทีที่ผมแปรงเสร็จเรียบร้อย ผมพยักหน้ารับ ทำท่าชิลๆเดินออกมาจากห้องน้ำ
ทั้งที่ในใจยังระแวงและงง และไม่รู้จะทำยังไงต่อตอนที่มันออกมา ต้องเริ่มยังไง ต้องทำยังไง
ลุยเลย หรือบอกว่าทั้งหมดผมล้อเล่น แต่บอกยังไงให้มันไม่โกรธอ่ะ?
ไม่มีทาง ถ้าผมไม่ยอมทำ ยังไงมันก็โกรธป่ะ
ผมออกมานั่งรอตรงโซฟา พลางคิดว่ามันกำลังคิดอะไร แล้วผมควรทำยังไงต่อ
เห้อ... เอาว่ะ
“ซี นานไปแล้วนะมึงอ่ะ”
“...” เงียบกริ๊บ แม้แต่เสียงกดชักโครกก็ไม่มี
“นับถึงสิบไม่ออกมากูสูบบุหรี่ต่อนะ 1 2 3 4”
“เออๆ ออกไปแล้วๆ”
ซีเดินออกมาในที่สุด ผมตบที่ว่างข้างตัวให้เขามานั่งใกล้ๆ
เขาดูประหม่าเหลือตัวนิดเดียวและหน้าแดงจนผมรู้สึกแปลกๆ
คือ ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กหัวเกรียนกันอยู่เนี่ย ซีมันค่อนข้างป็อปในหมู่สาววาย ป็อปชนิดที่ว่าแค่ผู้ชายเดินคู่มากับมันสาวๆก็พากันจับคู่ไปจิ้น จนซีไม่สามารถสนิทกับเพื่อนผู้ชายในห้องได้ จะเรียกมันว่ายังไงดีล่ะ พวกสาวๆจัดมันไว้ในประเภทหนุ่มที่น่าให้ผู้ชายกดเบอร์ 1 ของทั้งโรงเรียนสมัยนั้นเลย แรกๆผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเวลาเรายืนเถียงกันทั้งห้องจะเงียบ แล้วแอบซุบซิบระหว่างที่เราขึ้นเสียงใส่กัน
ซีเดินมาหย่อนตัวนั่งข้างผม ผมตั้งใจมองเขาอย่างไม่ให้พลาดสักการเคลื่อนไหว จับจ้องให้เขารู้ไปเลยว่ากำลังถูกผมมองอย่างตั้งใจ
“หลับตาสิ” ซีไม่ทำตาม เขามองกลับมาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ “ของฟรีไม่มีในโลก อยากได้มึงต้องแลก”
“พูดมาก รู้แล้วน่า”
ผมจับปลายคางเขาเชิดขึ้นให้ได้ระดับ “ในเมื่อรู้ ก็หลับตา”
“อื้มๆๆ” ในที่สุดเขาก็ยอมหลับตา
ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา จงใจหายใจรดไปตามตัวเขา
ผมมองใบหน้าเชิดรั้น เอียงหน้าหายใจรดข้างลำคอมองต่ำลงไป ผิวข้างแก้มของเขาบางจนเห็นเส้นเลือด คอขาวไม่ต่างจากผิวใต้ร่มผ้า เส้นเลือดตรงคอเขาเต้นถี่เร็วจนเห็นได้ชัด ซีกำลังกลั้นหายใจไว้จนเริ่มหน้าแดงตัวสั่น
“ปึก” ผมตัดสินใจใช้สองนิ้วบีบปลายจมูกเขาแล้วโยกไปมา
“อื้อ ทะรัยอ่องอึง”
ไม่ใช่ว่ากลั้นหายใจจนจะขาดใจตายอยู่แล้วหรอกเหรอ?
“พอแล้ว กลับห้องไปเถอะ เดี๋ยวกูจะทำงานอีกหน่อยก็จะนอนแล้ว” ผมยิ้มบางๆให้ ถอยออกมาเหยียดตัวบิดขี้เกียจ ซีเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา
“หมายความว่าไง? ทำไมไม่ทำอย่างที่เราตกลงกันล่ะ”
“ทำอะไร?”
“ก็เราตกลงกันแล้ว”
“จูบเหรอ? กูแค่ล้อเล่น” ผมกำลังจะอธิบายต่อ แต่เขาก็พูดขึ้นมาทันทีอย่างใส่อารมณ์
“มึงจะไม่ยอมเลิกสูบบุหรี่จริงๆ ใช่ไหม” อ้าว ไปนั่น
“มะ” ผมจะบอกว่าเขากำลังเข้าใจผิด แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ฟังผมเลย
“หรือรังเกียจกู เรื่องแค่นี้บอกกันตรงๆก็ได้ อยากจูบกับใครล่ะ บอกมาจะไปหามาให้”
“ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นแหละ ใจเย็นก่อน”
“แล้วทำไมมึงถึงไม่ยอมเลิกมัน ทำไมต้องห่วงหาอาวรณ์ไอ้บุหรี่บ้าๆ ที่ไม่เคยทำเหี้ยอะไรให้ ไม่เคยให้อะไรมึงนั่นด้วยวะ รักชิบหาย แตะนิดต้องหน่อยไม่ได้ ถามหน่อยมันสำคัญกันมึงจนไม่สนอะไรเลยเหรอวะ? หรือเพราะแค่แม่งว่าง่ายไม่เคยบ่นไม่เคยด่า ไม่มีปากมีเสียงชอบแบบนั้นใช่มั้ย ชีวิตมึงต้องการแค่นั้น คิดได้แค่นี้เหรอ”
ผมนี่ขึ้นเลย บุหรี่กูไม่ได้ห่วงขนาดนั้น แต่ทำไมต้องมาหาว่าผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นอย่าที่มันคิดสักนิด
“เออ แล้วไง ก็รู้หมดเลยนี่ว่ากูคิดยังไง ทำไมไม่คิดแทนกูให้จบเรื่องไปเลยล่ะ”
“...” ซีไม่พูดอะไร เขาคว้ามือถือบนโต๊ะ แล้วทำท่าจะลุกขึ้น แต่ผมคว้าไว้ก่อน
แววตาเขาบอกชัดเลยว่าน้อยใจโคตรๆ ทำไมคนอย่างมันที่ถนัดตะโกนเถียงเสียงดังดันมาใช้สายตาตัดพ้อแถมไม่คิดสู้อย่างเคยวะ เล่นเอาผมไปไม่ถูก ไม่กล้ากวนตีนต่อเลย
หงุดหงิด ทำไมโคตรหงุดหงิดเลยวะแม่งกู
“ถามหน่อย แล้วทำไมมึงถึงอยากให้กูเลิกบุหรี่นัก?”
“ตอนนี้กูแค่อยากรู้ว่าคนอย่างกูมันน่ารังเกียจมากเลยใช่ไหม? แต่ช่างเถอะ เขาไล่แล้วนี่เนอะ กูก็ไม่ควรหน้าด้านอยู่” โว้ยยยย กูไม่ได้อยากให้มึงกลับๆไปซะซักหน่อย นั่นมึงคิดเองไม่ใช่ความคิดกูจริงๆ ทำไมแต่ละอย่างมันงี้เง่างี้วะ
“เฮ้ย ซี ทำไมพูดงั้น”
“กูพูดผิดตรงไหน?”
“กูไม่ได้ไม่จูบเพราะรังเกียจ แต่กูไม่อยากบังคับ มึงสั่นอย่างกับลูกนกตกรัง จะให้กูทำเหมือนกูกำลังรังแกมึงเนี่ยนะ เพื่ออะไรวะ?”
“มึงเป็นคนเสนอวิธีนี้เอง และกูเต็มใจถ้ากูไม่โอเคกูก็บอกแล้วดิ” ซีกำมือแน่น
“จูบกับกูที่เป็นผู้ชายเนี่ยนะ มึงจะเต็มใจได้ไง” ไม่จริง
ซีฟังแล้วเงียบไปนาน เหมือนกำลังคิดว่าจะตอบกลับมายังไง
“แล้วมึงเสือกพูดว่า จูบกับกูสิ ตั้งแต่แรกทำไม ถ้ามึงไม่อยากทำขนาดนี้”
“กูยอมรับว่าทีแรกกูแค่หลุดปากพูดเพราะอยากให้มึงเลิกคิดมากเรื่องบุหรี่ของกู แต่ถ้าเอาจริงๆกูก็อยากจูบใครสักคน สักคนที่เขาเต็มใจและ...” ผมไม่รู้จะพูดจะอธิบายให้เขาเข้าใจยังไงแล้ว ผมงงไปหมด คำพูดท่าทางของเขาและที่สำคัญ ทำไมกูไม่จูบมึงแล้วกูกลายเป็นคนผิด? งง งงไปหมด
“และอะไร”
“เปล่า”
“หึ แค่อยากให้เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่กู ก็แค่นั้นแหละ”
“ซี!”
“จะไปหาใครมาจูบด้วยก็เชิญ หรือมึงจะนั่งสูบบุหรี่ไปจนตายก็เรื่องของมึง”
มือเขาคว้าเป้ขึ้นหลัง ลุกพรวดขึ้นตั้งใจเดินออกจากที่นี่
“เดี๋ยว” ผมคว้าข้อมือเขาไว้ เพราะเขาเดินเร็วมาก ซีขืนข้อมือเกร็งแน่นและสะบัดแรงมาก
“ปล่อย”
“ซี” ยิ่งเขาสะบัดผมยิ่งออกแรงรั้งไว้เท่านั้น เขาเปลี่ยนเป็นหันมากระชากข้อมือตัวเองกลับอย่างตั้งใจ
“ปล่อย เชี่ยมาร์ค”
“มึงกำลังไม่พอใจอะไรเนี่ย นี่ เป็นอะไร เฮ้ยซี”
“...” เขาพูดเบามาก
“อะไรนะ”
“กู เจ็บ”
ในที่สุดผมก็ต้องยอมปล่อยข้อมือเขา มันแดงเรื่อขึ้นมาทันที เพราะแรงที่เขาพยายามบิดออกสู้กับแรงที่ผมกำยัดไว้เต็มแรง
ผมไม่ได้อยากทำให้เขาเจ็บนะ ผมแค่ไม่อยากให้เขากลับไปทั้งที่ยังไม่เข้าใจกันสาหัสขนาดนี้
ซีกำข้อมือขวาของตัวเอง ไม่ได้มองมันแต่เบือนหน้าไม่ยอมสบตาผม เขาตั้งท่าจะเดินไปที่ประตู
“ซี”
“หลบไป”
“ไม่เอาน่า คุยกันก่อน”
“ไม่ต้อง กูเข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว”
“เข้าใจอะไร กูไม่เห็นเข้าใจอะไรสักอย่าง”
“มึงก็ยังเห็นว่ากูเป็นแค่ตัวตลกเอาไว้แกล้งเล่น เอาไว้หัวเราะเยาะลับหลัง มึงคงสนุกที่แกล้งกูได้ แต่มึงรู้ไหม คนที่เป็นตัวตลกของมึงน่ะ มันก็มีหัวใจ เจ็บเป็น เข็ดเป็น แต่แม่งไม่ฉลาดไงแม่งโง่ เจ็บไม่เคยจำ ถามหน่อยมึงเห็นกูเป็นอะไร เพื่อนใหม่ เพื่อนเก่า ตัวตลก หรือตุ๊กตาล้มลุกที่อยากเตะก็เตะ อยากต่อยก็ต่อยแล้วรอดูมันว่ามันจะกลิ้งไปทางไหนก่อนมันจะลุกขึ้นมาอีก”
“กูไปทำแบบนั้นกับมึงตอนไหน ไม่เห็นรู้สึก”
“ตั้งแต่มึงเป็นไอ้เด็กปากดีหลังห้อง แล้วก็ตอนนี้”
“มึงพูดเหมือนกู...” กูทำมึงเสียใจมากมาย ซ้ำแล้วซ้ำอีก “ไม่ดิที่มึงพูดหมายความว่ายังไง?”
ซีสบตาผม สีหน้าไม่สบอารมณ์เต็มที่ แต่เขาไม่พูดอะไรอีก เขาหันไปทางประตูและทำท่าจะเดินออกไป
“เดี๋ยว เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป ซี” ซียังกำข้อมือตัวเองไว้ไม่ให้ผมคว้าได้ เดินเบี่ยงซ้ายสลับขวาพยายามหลบผมแต่ผมก็ขวางไว้ได้ทุกครั้ง
“หลบไปมาร์ค”
“ขอคุยด้วยก่อน นะ ซี กูไม่อยากให้มึงกลับไปทั้งอย่างนี้”
ผมพูดอย่างอ่อนใจ ซีกัดปากชะงักหยุดเดิน ตอนที่ผมพูดจบเขายกมือขึ้นกุมหน้า ก้มลงไม่สบตากับผม
“เพื่ออะไรวะ มึงทำแบบนี้เพื่ออะไรวะมาร์ค แค่ไหนมึงถึงจะพอใจ จะปั่นหัวกูไปถึงไหน” เขาพูดทั้งที่ยังก้มหน้ายกมือกดตาตัวเองไว้แน่น
“มึง... ร้องให้!”
“ร้องให้ป้ามึงสิ คนอย่างมึงกูไม่ร้องให้ให้หรอก เลว แม่ง ตายซะเถอะมึง”
“โอ้ย โอ๊ย เฮ้ย นั่นหนังสือกู เจ็บ พอแล้ว ซี ซี เจ็บ” เขาตีผมไม่นับ
“คนอย่างมึง คนอย่างมึง”
“นี่มึงชอบกูเหรอ?”
“ชอบก็บ้า คนอย่างมึง คนอย่างมึง...”
“งั้นมึงก็ต้องโกรธไม่ใช่เสียใจแบบนี้”
“ตอนนี้กูเหมือนคนเสียใจเหรอ” มันถามทั้งๆที่ใส่แรงทุบไม่ยั้ง “แล้วมันเรื่องของกู เหมือนที่มึงจะสูบบุหรี่จนตายก็เรื่องของมึง”
“อ้อ เรื่องบุหรี่! นึกออกแล้ว”
“อะไรของมึง?”
“เรื่องบุหรี่ กูจะเลิกอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับที่มึงขอหรือไม่ขออะไรหรอก อย่าคิดมากนะ คือที่กูไม่จูบ ไม่ใช่รังเกียจแต่เพราะมันไม่ยุติธรรมกับมึงถ้ากูใช้มาเป็นข้ออ้างฉวยโอกาสในความหวังดีของมึง ทั้งที่ยังไงๆกูก็จะเลิกอยู่แล้ว” ผมรีบพูด เพราะกลัวเขาจะปฏิเสธที่จะฟังจนจบอีก
“อะไรนะ?”
“มันไม่ดี กูรู้ แล้วกูก็ไม่ได้อยากสูบขนาดนั้น ถ้าเลิกได้กูก็อยากเลิกเองอยู่แล้ว”
“อ้อ อ้อ ดีแล้ว ใช่ ดี ดีแล้ว”
“ซี จะไปไหน”
“กูเข้าใจแล้ว เออ ดีแล้วที่มึงตั้งใจจะเลิกด้วยตัวเอง อื้ม ดีแล้ว กูกลับก่อนนะ”
เขาโบกมือเหมือนไม่อะไรมีแล้ว ซีเดินไปเปิดประตูแล้วออกจากห้องผมไปไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดอะไรอีกเลย
คือ
ทำไมผมไม่สบายใจมากกว่าเดิมนะทั้งที่พูดในสิ่งที่ตั้งใจไปทั้งหมดแล้ว
เพราะสีหน้าเขาเหรอ ท่าทางตอนที่เดินออกไปนั่นมันอะไร?
เขาเข้าใจสิ่งที่ผมกำลังบอกจริงๆ ใช่ไหม?
☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠ ☠
TBC.
ว้ายยยยยยยยยย นก
ใครนก ซี? มาร์ค? เปล๊า! คนอ่านนก 5555555
ฝากรอตอนต่อไปด้วยนะคะ อย่าเพิ่งใส่อารมณ์สะบัดบ็อบทิ้งมาร์คกับฮับไปน้าาา