• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 315477 ครั้ง)

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ missyaoi

  • INDY^^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
จริงใจควรงอนเยอะๆ ค่ะ ให้พี่เขาสำนึกบ้างว่าหนูก็สำคัญ

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 18
ผมกับตัวปัญหา





   การฝึกงานในแผนกบัญชีเป็นไปอย่างราบรื่น จากวันแรกจนตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่สี่แล้ว ผมเก็บข้อมูลไประหว่างทำงาน และนำไปรายงานท่านประธาน ผู้จัดการและคนอื่น ๆ ในแผนกไม่ได้สงสัยอะไรในตัวผม คิดว่ามาฝึกงานธรรมดา เพราะทุก ๆ ปิดเทอม ผมเองก็เข้ามาฝึกงานที่บริษัทอยู่เป็นประจำ หลาย ๆ คนก็ได้เห็นหน้าและได้พูดคุยบ้าง การที่ทำให้ผู้จัดการวางใจได้นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่นอกจากจะให้ผู้จัดการตายใจแล้ว ผมก็ยังตีสนิทกับพนักงานในแผนกไปด้วย โดยเฉพาะคนที่ดูและเรื่องบัญชีและงบประมาณ ถ้าขอดูบัญชีของปีเก่า ๆ ได้ จะดีมากเลยทีเดียว

   “คุณจริงใจเก่งมากเลยนะครับ” พนักงานชายที่ทำเรื่องงบประมาณเอ่ยขึ้น

   “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” พูดอย่างถ่อมตัว พลางพลิกหน้ากระดาษอ่านรายละเอียดที่ถูกบันทึกเอาไว้ไปด้วย

   “ขนาดนั้นเลยค่ะ พี่ขอยืนยันอีกเสียง เด็กอะไร ขยั้นขยัน”

   ขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มอ่อน ๆ และเกาท้ายทายเหมือนจะเขิน “ขอบคุณครับ”

   “อุ๊ย ได้เวลาพักแล้ว”

   “คุณจริงใจไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ?”

   มองนาฬิกาบนข้อมือ บอกเวลาเที่ยงตรงพอดี

   “ผมอยากเคลียร์งานให้เสร็จก่อนครับ พวกพี่ไปทานกันเถอะครับ”

   “ขยันแบบนี้เดี๋ยวพวกพี่จะโดนผู้จัดการด่าเอานะค้า”

   “ผมเป็นแค่เด็กฝึกงานเอง”

   “แหม เด็กฝึกงานเฉย ๆ ก็ดีสิคะ งั้นพวกพี่ไปก่อนนะคะ”

   “ครับ” ก้มลงมองบันทึกรายรับ รายจ่ายของบริษัทอีกครั้งหลังจากเหล่าพนักงานต่างเดินออกไปแล้ว

   จากที่ดูก็ค่อนข้างปกติแทบทุกอย่าง มีบ้างที่ดูน่าสงสัยแต่มันก็ยังเล็กน้อยเกินไป ผมเม้มปาก เอนศีรษะไปด้านหลังและมองไปยังเพดานสีขาว เป็นแบบนี้ต้องรีบหาทางเอาบัญชีเก่า ๆ มาดูให้ได้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะผมมีเวลาไม่มากนัก

   แกรก...

   “อ้าว... คุณจักรพรรดิไม่ไปทานข้าวหรือครับ”

   ผมลุกขึ้นไปมองเจ้าของเสียง เป็นผู้จัดการที่เพิ่งออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว

   “ผมอยากทำงานให้เสร็จก่อนน่ะครับ ยากมากเลย”

   “โธ่ เดี๋ยวค่อยกลับมาทำก็ได้ เด็กเก่ง ๆ อย่างคุณจักรพรรดิทำได้สบายอยู่แล้วล่ะ”

   “งั้นเหรอครับ”

   “ผมขอตัวก่อนนะครับ”

   “ครับ” มองตามหลังผู้จัดการไป จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาพอดี เขาหยุดเพื่อเอามันออกมาก่อนกดรับสาย ผมหันกลับมามองแฟ้มบนโต๊ะและทำเป็นไม่สนใจ จากเงาสะท้อนในพาติชั่นคือผู้จัดการหันหลับมามองผมแวบหนึ่ง

   “ครับ คุณสรัช ผมกำลังไปครับ...” ระดับเสียงลดลงตามระยะทางที่ห่างออกไปเรื่อย ๆ ผมกัดริมฝีปาก เคาะปากกากับขอบโต๊ะ ก่อนค้นเอาสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาจด

   xx Oct xxxx
   12:07 คุณสรัชโทรศัพท์หาผู้จัดการ และออกไปพบกัน


   ปิดสมุดลงเมื่อเขียนเสร็จ เก็บใส่กระเป๋าสะพายเอาไว้ ปิดแฟ้มเอกสาร จากนั้นจึงออกไปจากแผนกบัญชี ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ก็กดโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาท่านประธาน ไม่รู้ว่าพ่อจะไปทานข้าวหรือยัง บางทีก็อาจจะไปพบลูกค้า ก้าวออกจากลิฟต์เมื่อมาถึงที่หมาย ยืนเซ็งอยู่หน้าบริษัทก่อนไปที่รถของตัวเอง จะทานอะไรเป็นมื้อเที่ยงวันนี้ดี...



   เลือกทานอาหารจานเดียวแบบง่าย ๆ หลังจากจัดการกับมื้อเที่ยงไปแล้ว ยังเหลือเวลาพักอีกมาก จึงเดินไปยังคาเฟ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก สั่งช็อกโกแลตปั่นกับขนมปังสังขยามาทาน เนื่องจากแถวนี้เป็นย่านธุรกิจ มีบริษัทอยู่เยอะมากมาย ลูกค้าส่วนใหญ่แล้วจึงเป็นพนักงาน เหมือนจะมีผมที่แปลกแยกอยู่คนเดียว รื้อหาหูฟังอินเอียร์ไร้สายออกมา เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเพลงก่อนจะเลือกเพลงจากเพลย์ลิสต์ และเล่นโทรศัพท์ไปพลางทานของหวานไปด้วย

   คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นตัวเลขแจ้งเตือนที่แสดงขึ้น แตะนิ้วเข้าไปดูก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที จ๋าจ้าพาความเดือดร้อนมาให้ผมแล้ว

   Jirapinya Jj mention you in Cuteboys are mine’s post.
   Jirapinya Jj หน้าเขาเหมือนพี่เลยนะคะ Jakkrapat Assawayothin

   ไม่เหมือนได้ยังไง นั่นมันผม! ไอ้เปี๊ยก! ไม่ต้องทำอะไรมากมาย ผมลบคอมเมนต์ที่จ๋าจ้าแท็กมาทิ้งไปโดยไม่สนใจจำนวนคนถูกใจหลักพันจนขึ้นท็อป และไม่ลืมที่จะแจ้งรีพอร์ตรูปภาพตัวเองที่ถูกคนดูแลเพจบันทึกมาจากโซเชียลของน้องสาวไปด้วย

   กลับไปที่หน้าโฮม มองตัวเลขที่ถูกแอดเฟรนด์แล้วถอดหายใจ จ๋าจ้านะจ๋าจ้า เพราะรูปไซบีเรียนั่นรูปเดียว ทำให้ผมไปโผล่บนเพจที่มีคนกดถูกใจเป็นแสนแบบนั้น โคตรเหี้ย รู้สึกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะคืบคลานเข้ามา หรือผมจะปิดบัญชีไปเลยดี มีก็เหมือนไม่มีอยู่แล้ว แต่... ถ้าปิดไปแล้วจะเอาอะไรส่องตัวหอม

   ช่างแม่ง...

   จิ้มขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก เคี้ยวกร้วม ๆ แล้วกลืนลงคอ ยกแก้วน้ำปั่นขึ้นมาดื่ม นั่งอยู่สักพักแล้วจึงกลับบริษัท แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ถึงเวลางานอยู่ดี ชักจะเริ่มเบื่อแล้วแฮะ... เล่นเกมฆ่าเวลา ระหว่างที่กำลังเล่นอยู่นั้นสมาร์ทโฟนในมือก็สั่นครืดเพราะมีแจ้งเตือนเข้ามา

    [feb.no.9]: phaknp just posted a photo.

   รูปภาพที่ถูกอัพโหลดคือรูปเจ้าของแอคเคานต์คล้ายกำลังฟุบหน้ากับโต๊ะหรืออะไรสักอย่าง ตาเรียวหลุบต่ำมองกล้อง ริมฝีปากสีสดเป็นเส้นตรงไม่แสดงอารมณ์ ทำให้ใบหน้าดูเหยอหยิ่ง ...ผมเดาะลิ้นหลังจากกดออกจากแอพพลิเคชั่นนั้น ไม่ได้ถูกใจหรือรีพอร์ต แค่ปล่อยไว้เฉย ๆ

   เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วกับเรื่องที่โดนเหวี่ยงหลายวันก่อน มันนานจนอารมณ์ความโกรธหรือหัวร้อนมันหายไปหมดแล้ว

   ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเขาสอบหรือยัง เพราะตั้งแต่วันนั้นที่โดยเขาเหวี่ยงใส่ผมก็ไม่ได้เข้าไปวอแว ข้อความไม่ได้ส่ง โทรศัพท์ไม่ได้โทรหา หรือเจอหน้าก็ไม่ได้ไป ด้วยความที่ผมก็ยุ่งกับงานที่บริษัท มีเรื่องให้คิดเยอะแยะมากมายจนบางทีก็ลืมตัวหอมไป และอีกอย่างที่ไม่วอแวคือรู้ว่าเขารำคาญ ผมจึงถอยออกมาหนึ่งก้าว วางเรื่องของตัวหอมเอาไว้ก่อน มุ่งมั่นกับงาน หลังจากนั้นจะทำยังไงค่อยคิดอีกที

   ต่อให้ไม่มีผม เขาก็ยังใช้ชีวิตได้ เผลอ ๆ ดีกว่าตอนมีผมอยู่ด้วยด้วยซ้ำ ตัวผมมันก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขา หากผมเป็นเขา ก็คงดีใจและยินดีอย่างมากที่ความน่ารำคาญออกไปจากชีวิต



   “พี่บีครับ”

   “ขา? ว่ายังไงคะ?” พี่บี หรือ คุณเมลดา หมุนเก้าอี้มาหาผม เธอเป็นคนที่ช่วยสอนงานให้ผม

   “คือ...” ผมเม้มปากคล้ายลำบากใจ “ผมอยากดูบัญชีเก่า ๆ ของบริษัทครับ”

   “เอ๋?”

   “อยากทราบว่าการทำงานต่างกันกับปัจจุบันหรือเปล่าน่ะครับ จะได้เอามาปรับใช้” ผมสบตาคนฟังระหว่างพูด และขยับริมฝีปากเป็นยิ้มละมุนที่ปกติไม่เคยจะทำ คุณเมลดากะพริบตาถี่ ๆ ติดต่อกันก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก

   “เอ่อ... เดี๋ยวพี่จัดการให้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”

   “ขอบคุณครับ” ส่งยิ้มส่งท้ายไปอีกครั้ง มุมปากของผมยกขึ้นเป็นยิ้มแสยะก่อนแววตาจะเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งเช่นเคยเมื่อคุณเมลดาลุกออกไป

   “นี่ค่ะ ถ้าอยากได้หรืออยากทราบอะไรถามพี่ได้นะคะ”

   “ขอบคุณครับ รบกวนแย่เลย”

   “อูยยย ไม่เป็นไรค่ะ พี่เต็มใจ”

   “ขอบคุณอีกครั้งครับ”

   ไม่คิดว่าจะได้มาง่ายขนาดนี้ ผมเป่าลมออกจากปากก่อนจะเปิดแฟ้มบัญชีรายรับรายจ่ายต่าง ๆ ขึ้นอ่าน โดยเริ่มจากเล่มที่เก่าที่สุดก่อน... ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เมื่อมุ่งมั่นกับอะไรสักอย่างแล้วผมจะลืมทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น เสียงทุกอย่างจะหายไป รวมทั้งสิ่งที่อยู่รอบข้าง ราวกับผมจมอยู่ในโลกที่มีผมคนเดียวและงานตรงหน้าเท่านั้น



   กึก...

   หลุดจากห้วงภวังค์เมื่อปากกาหลุดร่วงจากมือ ผมก้มลงไปเก็บมันขึ้นมา ยกมือขึ้นบีบสันจมูกสามสี่ครั้งก่อนเลื่อนไปนวดขมับพลางหลับตาลง ความเมื่อยล้าเข้าจู่โจมเมื่อหยุดพัก เวลากว่าสามชั่วโมงที่ผมเอาแต่เพ่งอ่านเอกสารที่มีตัวเลขมากมายทำเอาปวดเมื่อยไปหมด หากปากกาไม่ตก ก็คงไม่รู้สึกตัว และคงจะอ่านไปเรื่อย ๆ จนหมดเวลางานหรือมีใครสักคนสะกิดเรียก

   ช่วงเวลาสามชั่วโมงที่ผ่านมานั้น ผมตรวจบัญชีได้มากพอสมควร แม้จะยังดูไม่ครบทุกเล่ม แต่ก็พอจะทราบว่าเรื่องเวร ๆ นี่มันเริ่มขึ้นเมื่อปีสองปีที่แล้ว... เอาสมุดบันทึกออกมาจดข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนจะควงปากกาในมือแล้ววางมันบนโต๊ะ ผมลุกขึ้นยืน ขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อรู้สึกว่ามีคนจ้อง กลอกตาไปมองกระจก จึงเห็นเงาที่สะท้อนมา เดาะลิ้นจนเกิดเสียงเบา ๆ คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วออกไปที่ห้องพักพนังงาน ยืนอยู่ในนั้นสักพักจึงวนไปอีกด้านเพื่อไปที่ห้องน้ำ เมื่อทำธุระและล้างมือเสร็จ ขณะที่กำลังจะออกไปนั้น ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ผมเปลี่ยนทางจากประตูห้องน้ำ ไปผลักประตูสักบานเข้าไป ปิดฝาชักโครกลงก่อนนั่ง

   มาทำอะไรในห้องน้ำวะ...

   ในขณะที่ความคิดกำลังตีกันนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคนเดินเข้ามา ผมขมวดคิ้ว ยกเท้าขึ้นไม่ให้เห็นได้จากช่องด้านล่าง ได้ยินเสียงของคนคุยกันด้านนอก

    “ไม่มีใครอยู่ครับ คุณสรัชมีธุระอะไรจะคุยกับผมหรือครับ?”

   ชื่อที่ออกมาทำให้ม่านตาของผมขยายขึ้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน ปลายนิ้วรีบกดใส่รหัสปลดล็อกโทรศัพท์ ปิดเสียงและปิดระบบสั่นเอาไว้ ก่อนเข้าไปที่โปรแกรมอัดเสียง

   “งานที่ฉันสั่งเมื่อตอนกลางวันหยุดไว้ก่อน”

   “ว่าไงนะครับ!”

   “ฉันบอกให้หยุดไว้ก่อน!”

   “ทะ ทำไมครับ...”
   “เหมือนพวกมันจะรู้ตัวแล้วน่ะสิ”

   “ทะ ท่านประธานหรือครับ!? แล้ว แล้วเราจะทำยังไงกันดีครับ?”

   ผมเม้มปากแน่นยิ่งกว่าเดิม เพราะกลัวจะเผลอสบถอะไรออกไป เป็นอย่างที่พ่อคิดไว้จริง ๆ ด้วยสินะ ผู้จัดการทำแบบนั้นได้เพราะมีคนคนบงการและหนุนหลัง

   “ฉันจะไปต่างประเทศ ส่วนแกจะทำยังไงก็เรื่องของแก”

   “ได้ยังไงกันครับ! ที่ผมทำก็เพราะคุณสรัชสั่ง”

   “อย่ามาโบ้ยฉันนะโว้ย! แกทำเพราะแกเห็นแก่เงินต่างหาก”

   “ก็เอาสิครับ ถ้าท่านประธานจะเอาเรื่องจริง ๆ ผมสาวถึงท่านแน่นอน ว่าท่านยักยอกเงินบริษัท!”

   “ถ้าแกทำอย่างนั้น ครอบครัวแกแย่แน่!”

   คุณสรัชขู่ทิ้งท้าย ก่อนที่เสียงประตูจะดังขึ้น จากนั้นเสียงสบถจากผู้จัดการก็ตามมาหลายต่อหลายคำ ผมกดบันทึกเสียงเอาไว้ ส่งไฟล์เข้าอีเมล์ตัวเองไว้สำรอง ก่อนจะส่งมันไปให้กับคุณพ่อ สงบสติอารมณ์อยู่สักพัก กลับเข้าไปในแผนกเหมือนเดิมเมื่อใจเย็นลงบ้างแล้ว รู้สึกโมโหจนไม่อยากทำงาน เมื่อมองไปยังห้องทำงานของผู้จัดการความร้อนก็วิ่งมารวมกันอยู่ที่ใบหูทั้งสองข้าง

   เมื่อเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลขห้า และเข็มยาวชี้ที่เลขสิบสอง ผมก็รีบกวาดของของตัวเองใส่กระเป๋าและลุกขึ้นทันที ส่วนบัญชีพวกนั้น... ผมคืนคุณเมลดาไปแล้ว วันพรุ่งนี้ค่อยตรวจอีกทีก็ยังทัน และอีกอย่างผมก็ได้หลักฐานชิ้นใหญ่มาแล้ว เรื่องตัวเลขในบัญชีนั้นก็แค่เอาไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม การหาหลักฐานว่ายากแล้ว แต่การทำให้คนทำนั้นยอมรับยากกว่าครับ



   ผมกลับบ้านทันทีหลังจากเก็บของเสร็จ ลุกออกมาก่อนพนักงานคนอื่นจนเขามองตาม นี่ก็อีกเรื่องที่ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ในเมื่อถึงเวลาเลิกงานทำไมถึงไม่กลับบ้านกันเลย ทำไมต้องนั่งอยู่สักพัก ให้เวลามันผ่านไป เพื่ออะไรวะ?

   “สวัสดีครับคุณยาย พ่อมาหรือยังครับ?”

   “ยังนะลูก มีเรื่องอะไรหรือเปล่า หน้าเครียดเชียว”

   “มีนิดหน่อยครับ ถ้าพ่อกลับมาแล้วให้คนไปตามผมด้วยนะครับ” หอมแก้มคุณยายหนึ่งทีก่อนขอตัวขึ้นไปบนห้อง

   รูดเนกไทออกจากคอแล้วเหวี่ยงมันทิ้ง ดึงเสื้อออกจากกางเกง ปลดกระดุมจากเม็ดแรกมาจนถึงเม็ดสุดท้าย ถอดออกแล้วโยนลงตะกร้า ตามด้วยกางเกง จากนั้นจึงเข้าไปที่โซนอาบน้ำ เปิดให้สายตาจากฝักบัวไหลกระทบกับศีรษะและผิวกาย ให้มันชำระความร้อนและอารมณ์ความรู้สึกที่ได้มาจากบริษัทลงท่อระบายน้ำไป หลักการบ้า ๆ ที่มโนขึ้นมาใช้เพื่อหลอกตัวเองให้สบายใจ

   มือหนาลูบบริเวณอกของตัวเองขณะยืนอยู่หน้ากระจก จู่ ๆ ก็รู้สึกอยากสักขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไว้ค่อยคุยกับแม่ ไม่ก็พี่ฟ้า อาจจะโดนตบกะโหลกสักที หรือไม่ก็ได้คำแนะนำดี ๆ ผมทิ้งตัวนอนบนเตียงหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เมื่อไม่ได้ทำอะไร หนังตาก็คล้ายจะหนักอึ้งและค่อย ๆ ปิดลง จนในที่สุดก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูดังมาทำให้คิ้วขมวดเข้าหากัน พยุงตัวเองไปเปิดประตูด้วยใบหน้าแสนง่วงงุน

   “ครับ?”

   “คุณโจกลับมาแล้วค่ะ”

   “ขอบคุณครับ” บอกกับแม่บ้านแล้วกลับเข้าห้องมาล้างหน้า จากนั้นจึงลงไปที่ชั้นล่าง

   “ท่านประธาน!”

   “ทานข้าวเสร็จค่อยคุยกันครับ”

   ตอบรับอย่างจำยอม พ่อส่งมือมาขยี้ผมผมแล้วเดินจากไป ส่วนตัวเองก็อ้าปากหาว ทิ้งตัวนั่งลงโซฟา ล้มไปนอนหนุนตักคุณยายที่กำลังเมาท์กับแม่บ้าน

   “อะไรกันลูก ทำไมดูเหนื่อยขนาดนี้ หือ” คุณยายลูบหัวผมไปด้วยอย่างแผ่วเบา ผมไม่ตอบอะไร เอื้อมมือไปคว้ามือคนแก่มาจับทั้งที่ยังหลับตา ก่อนจะจูบที่หลังมือท่านแล้ววางไว้บนอก

   “อ้อนจริงเชียว” เสียงคุณตาดังเข้ามา มุมปากผมขยับขึ้นเป็นรอยยิ้มรับคำแซว

   “คุณพ่อใช้งานหนักหรอคะ?” สุดท้ายนี้เป็นเสียงน้องสาว ผมไม่ได้พูดตอบ ขี้เกียจแม้แต่จะขยับปาก อยากนอนโง่ ๆ แล้วยิ่งมีมือคุณยายคอยลูบผม ลูบหัวให้ด้วย ตาสว่างมาจากไหนก็หลับได้ง่าย ๆ และผมก็คงจะหลับไปจริง ๆ หากไม่มีเสียงเรียกให้ไปทานมื้อเย็นเสียก่อน



   ในที่สุดผมก็ได้นอนโง่ ๆ อย่างที่ต้องการสักที หลังทานข้าวเสร็จผมก็ถูกพ่อเรียกไปคุยด้วย ทั้งเรื่องไฟล์เสียงและข้อมูลบัญชีในปีเก่า ๆ รวมทั้งเรื่องที่คุณสรัชนัดเจอกับผู้จัดการแผนกบัญชีตอนกลางวัน เราคุยกันถึงเรื่องแผนและวิธีการอยู่ไม่นาน เพราะพ่อเองก็มีวิธีที่จะจัดการคนพวกนั้นอยู่แล้ว

   จากนี้ผมก็แค่ทำหน้าเป็นเด็กฝึกงานปกติ เพราะภารกิจผมมัน complete แล้ว พ่อจะเก็บหลักฐานเพิ่มก่อนจะเรียกประชุมครั้งใหญ่ก่อนคุณสรัชจะได้เดินทางออกนอกประเทศด้วย และท่านประธานจะสั่งตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียดโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรแล้ว แค่รอดูความฉิบหายของคนโกงก็พอ

   ครืด ครืด ครืด

   สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วจึงควานหาต้นเหตุของแรงสั่นสะเทือน ผมลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์มือถือที่นอนทับมาดู ลูบหน้าตัวเองไปพลาง ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน ไฟยังไม่ได้ปิดเลยด้วยซ้ำ สี่ทุ่มเกือบห้าทุ่มแล้วด้วยแฮะ หลับไปเกือบสองชั่วโมง

   “หืม?”

   Incoming call...
   Np.

   “....” รับสายไปแบบงง ๆ งงเพราะเพิ่งตื่นนอน และงงเพราะคนคนนี้โทรมา มหัศจรรย์ยิ่งกว่าสนามกีฬาโคลอสเซียมที่กรุงโรมเสียอีก

   (“.....”)

   “.......” เมื่อปลายสายเงียบ ผมเองก็เงียบ ทว่าได้ยินเสียงเพลงแว่วมา เม้มริมฝีปากเข้าหากัน หัวใจผมยังเต้นตึกตัก ตัวหอมเนี่ยนะจะโทรหาผมก่อน แล้วยิ่งห่างกันไปตั้งหลายวันแบบนี้ เหตุการณ์สุดท้ายก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไรเลยสักนิด เมาหรือเปล่าวะ

   “เฮ้ คุณครับ”

   (“.......มารับหน่อย”) เสียงอ้อแอ้เชียว

   “เมาหรอครับ?”

   (“อื้อ!”)

   “คุณอยู่ที่ไหน?” ตัวหอมไม่ได้ตอบกลับมา ผมสลับแอพพลิเคชั่นไปอีกแอพ ดูรูปภาพที่เขาโพสต์ล่าสุด โชคดีหรือเปล่าไม่รู้ที่เจ้าตัวเช็กอินไว้ด้วย “รออยู่นั่นอย่าไปไหน”

   กดวางสายแล้วลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจยัดใส่กระเป๋า

   “ไปไหนครับ?” ชะงักฝีเท้าทันทีที่เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากข้างหลัง ผมหันกลับไปมอง เจอพ่อยืนกอดอกมองอยู่

   “ข้างนอกครับ?” พ่อเลิกคิ้ว “พรุ่งผมลานะครับ ไปก่อนนะ”

   “จะไม่กลับบ้านใช่ไหม?”

   “ครับ”

   “อืม ขับรถดี ๆ ล่ะ”



   ใช้เวลาไม่นานผมก็มาถึงที่หมาย เนื่องจากค่อนข้างดึกแล้ว รถจึงไม่ค่อยมี ค่อนข้างหัวเสียในระดับหนึ่ง ผ่านการ์ดด้านหน้ามาได้ก็มาเจอปัญหา ข้างในคนเยอะพอสมควร แล้วผมจะไปหาตัวหอมได้ที่ไหนกันวะ ผมกดโทรศัพท์หาเขา แต่ไม่มีคนรับ จึงกวาดตามองรอบ ๆ ร้าน ร้านนี้ไม่ใช่ผับแต่เป็นร้านเหล้า ทำนองนั่งชิล ฟังดนตรีสดมากกว่า คนส่วนใหญ่ก็มากันเป็นกลุ่มหลาย ๆ คน แต่การที่ตัวหอมโทรหาผมและให้มารับ แสดงว่าเขามาคนเดียว...

   “ลูกพี่น้องจริงใจ!!” หยุดการค้นหาคนตัวเล็กไว้ชั่วคราวแล้วหันไปตามเสียงเรียก เห็นพี่เก่งกำลังโบกมือให้ ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินเข้าไปหา อยู่นี่นี่เอง...

   “ลูกพี่น้องจริงใจมารับน้องภัคหรอครับ?”

   “ครับ” ผมตอบ สายตามองไปยังคนที่นั่งฟุบกับโต๊ะ ท่าทางเหมือนหลับแต่ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ “เฮ้ คุณ”

   “อื้อ!!” ส่งเสียงหงุดหงิดออกมาแล้วผลักผมออก คนเมาปรือตาขึ้น เมื่อสบตากันมือเล็กก็ทุบเข้าที่หน้าท้องทันทีพร้อมกับสบถออกมาหลายคำจนฟังไม่รู้เรื่อง

   “ทะเลาะกันเหรอครับ?”

   “ไม่รู้สิ ขอบคุณมากครับที่ดูให้”

   พี่เก่งพยักหน้าหงึกหงัก “พี่เก่งมาหาเพื่อน แต่เห็นน้องภัคนั่งอยู่คนเดียวก็เลยเข้ามาหา ท่าทางเมา ๆ เลยไม่กล้าให้อยู่คนเดียว”

   “ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

   “อย่าตีน้องภัคของพี่เก่งนะลูกพี่น้องจริงใจ”

   “น้องภัคของพี่จะตีผมมากกว่า” พี่เก่งหัวเราะขำก่อนจะขอตัวไปหาเพื่อน

   “คุณครับ” คนถูกเรียกหน้าบึ้ง ไม่ได้สนใจมากนัก เก็บโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของเขาใส่กระเป๋าตัวเอง ก่อนจะพยุงอีกคนออกมาข้างนอก

   “อย่ามายุ่ง!” ผมถูกผลักออกอีกครั้ง แต่แรงของเขาสู้ผมไม่ได้หรอก เวลาปกติก็สู้ไม่ได้ แล้วคิดว่าเมาแบบนี้จะสู้ได้หรือเปล่าล่ะ?

   “ใครโทรหาผมกันล่ะ”

   “.....”

   “กลับกัน”

   “.....ไม่”

   “อย่าดื้อ” ดึงคนเมาเข้ามาใกล้พร้อมบอกเสียงนิ่ง เป็นบ้าอะไร เรียกให้มา พอผมมาแล้วก็มางี่เง่าใส่แบบนี้เหรอ ตัวหอมดิ้นขลุกขลักขัดขืน เพียงไม่นานก็สงบลง ได้ยินเสียงเล็กบ่นงุบงิบออกมาเบา ๆ แต่ผมฟังไม่รู้เรื่อง จะรู้ก็แต่กำปั้นที่ทุบหลังผมอยู่

   “กลับเถอะ”

   “อึก...” ก้มลงมองหน้า ตัวหอมเองก็แหงนหน้าขึ้นมา เราจึงได้สบตากัน เรียวคิ้วของเขากำลังมุ่น นัยน์ตาเรียวเป็นประกายสั่นระริกราวกับสับสนหรือกังวลกับอะไรสักอย่าง


   
   กว่าจะมาถึงที่พักก็ทุลักทุเลพอสมควร ผมเลือกมาที่คอนโดตัวเองแทนที่จะไปส่งตัวหอมที่ห้องเขาเพราะมันใกล้กว่า การพาคนเมาซ้อนมอเตอร์ไซค์มันไม่สนุกเลยครับ โคตรกลัวว่าเขาจะตกลงไป ถึงแม้แขนเรียวจะกอดเอวผมไว้อยู่ก็ตาม ... โยนคนเมาลงบนเตียง ก่อนจะมายืนหอบอยู่ข้างเตียง เหนื่อยฉิบหาย เมาแล้วโคตรดื้อ พูดอะไรก็ไม่ทำตาม บอกให้เดินก็หยุด บอกให้ไปข้างหน้าก็จะวิ่งไปข้างหลัง เพราะขี้เกียจพูดมากจึงแบกขึ้นไหล่ตัดปัญหา

   “อาบน้ำไหม?” คนเมาหันมามอง คิ้วยังคงขมวดมุ่น ก่อนจะพยักหน้า พูดเรื่องแบบนี้สติคงกลับมาบ้างแล้วล่ะ ส่งมือไปให้จับ กลายเป็นผมเองที่งงเมื่อจู่ ๆ เขาก็ยื่นมาจับแต่โดยดี พยุงเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาหาชุดและเอาไปให้ ดีที่มีชุดที่เขาพอจะใส่ได้อยู่ เป็นชุดของจ๋าจ้าที่ทิ้งไว้

   “อาบให้หน่อย”

   “ไม่ครับ!” คนถูกปฏิเสธชักสีหน้า ผมยิ้มขำหน่อย ๆ ยื่นมือไปขยี้ผมของเขาแล้วเดินออกมา

   นั่งลงที่ปลายเตียง มองไปยังประตูห้องน้ำ และคิดเรื่องคนที่อยู่ด้านในไปด้วย

   เพราะอะไรเขาถึงไปอยู่ที่นั่น และทำไมถึงได้ไปคนเดียว มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าระหว่างที่เราไม่ได้คุยกัน และ... ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะผม สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา ออกจากห้องนอนไปยังครัว ชงโกโก้ให้ตัวเองหนึ่งแก้ว ส่วนคนเมา... เวลาเที่ยงคืนแบบนี้คงไม่กินอะไรแล้วล่ะ...มั้ง

   เหลือบสายตาไปมองคนที่เดินเข้ามา ยกโกโก้อึกสุดท้ายขึ้นดื่มก่อนเดินเอาแก้วไปล้าง ตัวหอมมาหยุดยืนอยู่ไม่ไกล เมื่อคว่ำแก้วแล้วจึงหันหลัง ทิ้งสะโพกพิงกับขอบซิงค์ เท้าแขนทั้งสองค้ำเอาไว้

   “หายเมายัง?” คงหายแล้วล่ะ จิกตาใส่ผมแบบนี้แล้ว “ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า” ผมถามต่อ เพราะเขาสวมชุดคลุมอาบน้ำคลุมร่างกาย

   “ชุดผู้หญิง” คิ้วเขาขมวด สีหน้าไม่สบอารมณ์ และมองตาขวางเต็มที่

   “ของน้องสาว”

   “ใครถาม”

   “หน้าคุณอ่ะ” ตัวหอมจิปาก “แล้วจะใส่ชุดคลุมแบบนี้เหรอ ไม่เข้าท่ามั้ง”

   “ไม่เอาชุดผู้หญิง”

   “ใส่ชุดผมไหมล่ะ?” เขาเงียบ ผมจึงเดินกลับไปที่ห้องนอน ไม่นานเขาก็เดินตามมา “เลือกเอาเลยครับ”

   ขยับออกมาเพื่อให้ตัวหอมได้เลือกชุดในตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าผมมีอยู่ไม่เยอะมาก แต่ก็มีพอสมควร ตัวหอมหยิบเสื้อยืดกับกางเกงอย่างละตัว เขาเปิดลิ้นชักออกแล้วเม้มปาก ผมไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เปิดชั้นนู้น ดูชั้นนี้ตามสบาย อยากหัวเราะ แต่ดูท่าจะไม่ใช่เวลา อยากได้อะไรทำไมไม่ถามเล่า หยิ่งไม่เข้าเรื่องจริง ๆ ท่าทางแบบนี้หายเมาแล้วแน่

   ปัง!

   “หึ” หลุดหัวเราะออกมาให้คนปิดลิ้นชักเสียงดังหันมาค้อน เดินเข้าไปเปิดเลื่อนชั้นนั้นออกมา ค้นอยู่พักหนึ่งแล้วจึงหยิบชั้นในที่ยังไม่ได้ใช้ออกมาส่งให้เขา มันเป็นของจันทร์เจ้าที่ซื้อมาทิ้งไว้แล้วไม่ได้ใช้ เพราะเจ้าหมูยังไม่มีเหตุให้มาค้างที่นี่ ตัวหอมไม่พูดอะไร เพียงแค่หมุนตัวไปยังห้องน้ำ ไม่นานเขาก็ออกมาพร้อมกับชุดที่เพิ่งเข้าไปเปลี่ยน

   ค่อนข้างทุลักทุเลแฮะ...

   “หิวไหมครับ?” เขานิ่ง กลอกตามองรอบ ๆ เหมือนอะไรสักอย่าง แต่ก็กลับมาพยักหน้าเป็นคำตอบให้ผม “ไม่รู้ว่ามีอะไรกินหรือเปล่านะ”

   ในตู้เก็บของมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองและแบบคัพอยู่ ส่วนในตู้เย็นนั้นมีไข่ไก่สามฟอง นมกล่องและขวด โยเกิร์ตสองถ้วย ขนมปังที่หมดอายุไปเมื่อสามสี่วันก่อน ผักบุ้งเหี่ยว ๆ แห้ง ๆ และเนื้อสัตว์ที่อยู่ในช่องฟรีซ

   “โยเกิร์ตไหม?”

   “จะไปอิ่มอะไร”

   “มีบะหมี่กึ่ง หรือจะออกไปหาอะไรกินข้างนอก”

   เขาทำหน้าคิด “กี่โมงแล้ว?”

   “เที่ยงคืนครึ่งเจ็ดนาที เที่ยงคืนสามสิบเจ็ด” พอผมบอกเวลาไป เขาก็ส่ายหน้า ในเมื่อโยเกิร์ตไม่อิ่ม ก็ต้มบะหมี่แล้วกัน เปิดตู้หยิบบะหมี่มาหนึ่งซอง ตัวหอมไม่ท้วงแสดงว่าเขากิน ผมจึงไปเอาไข่ไก่กับกุ้งในช่องแข็งออกมา ระหว่างรอน้ำเดือดก็ละลายน้ำแข็งไปพลาง จากนั้นผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก จนกระทั่งต้มบะหมี่เสร็จและยกไปให้เขา

   “ทำไมถึงไปดื่มคนเดียวล่ะครับ? สอบเสร็จแล้วหรอ?”

   “ยัง” ผมเลิกคิ้ว “แค่อยากดื่ม”

   “เครียดหรอ แล้วพรุ่งนี้มีสอบหรือเปล่า?”

   “ไม่” เขาตอบแล้วคีบเส้นบะหมี่เข้าปาก “โทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ฉันอยู่ไหน?”

   ผมลุกไปหยิบมาให้เขา เลยเปิดตู้เย็นเอาโยเกิร์ตออกมาด้วย นั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แลบลิ้นเลียส่วนที่ติดอยู่บนฝาแล้ววางเอาไว้ เคาะ ๆ ขอบถ้วยและแกว่ง ๆ พวกมันนิดหน่อยแล้วจึงยกขึ้นกิน

   “กินดี ๆ ไม่เป็นหรือไง”

   เหลือบตามองคนพูด เลียริมฝีปากพร้อมกับใช้นิ้วปาดโยเกิร์ตที่ติดแก้มเข้าปาก

   “ใจสั่นเหรอ?”

   “ไร้สาระ”

   “บอกได้ยัง ทำไมไปนั่งดื่มคนเดียว” ตัวหอมเม้มปาก เมื่อมองตาก็เห็นความสับสนในแววตาของเขา “พูดเถอะ ผมจะฟัง”

   “.....นาย” ร้องฮะอยู่ในใจ คนตรงข้ามก้มหน้าลง ใช้ตะเกียบคนอาหารในชามไปมา “หายไปไหนมา...”










--------------------------------------
มาแล้วววววววววววววววววววววว
ผิดพลาดอะไรขอโทษไว้ตรงนี้เด้อ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ♥

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หวายยยยย
มีอาการน้องจริงใจหายเหรอพี่ภัค
 :mew3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นาย...หายไปไหนมา
อัยๆๆ มีความถามหานะจ้า
พี่ภัคแอบมีใจแล้วใช่ป่ะ อิอิ
 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
พี่ภัคคิดถึงน้องเหรอคะ
แหม่ๆ โทรตามแบบนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
คราวนี้คงเคลียร์กันได้แล้วเนอะ น้องจริงใจก็จะได้เกาะแกะแบบได้รับใบอนุญาต 5555

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
มีความกังวลใจของภัคค่ะ ฮึ!!! คิดถึงน้องจริงใจใช่ไหมล่ะ กลัวไปหมดสินะ เลยแอบไปดื่มคนเดียวแล้วใจมันกล้าเลยโทรหาให้มารับ .อยากเห็นหน้าก็บอกกันตรงๆ


..อย่าปากแข็งอีกเลยน่า

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ขออ่านตอนภัคบ้างนะคับ อยากรู้ความรู้สึกนาง  :hao3:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
 :hao3: พบคนขี้น้อยใจสุดๆอีกหนึ่ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
รู้สึกสะใจแบบ แยสสสส
ในที่สุดก็ทนไม่ไหวช้ะ สนน.นภัคข่ะ
นางควรจะดีใจที่น้องจจ.ตามตื๊อ
นี่ลูกประธานบริษัทนะคะ หล่อรวยเก่ง

ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
กรีดร้องแทนเด็กปีศาจ 55555 (ในที่สุด )

ออฟไลน์ ArcanaPM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ในที่สุดจริงใจก็มา อ๊ายยยย :-[

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ว้าย อุทานร้องเสียงดังลั่น น้องจริงใจเรื่องมีลุ้นแล้วนะ อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายจะยอมเปิดใจเมื่อไร

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หวายยย คิดถึงก็บอกไปเลย ดอกพิกุลไม่ร่วงนะรู้ยัง  :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเลิกปากแข็งได้หรือยัง

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อ่าาาาาา   พี่ภัคเขานอยที่น้องจริงใจหายไป  อิอิ

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ง่าาาาาาาา  :katai1:

รอตอนต่อไปง้าบบบบบ :really2: :กอด1:

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
น่าจะปล่อยให้ภัคงุนงงสงสัยต่ออีกนิดดดดดด
อยากให้น้องจริงใจเบื่อๆ เซ็งๆ แล้วหนีไปพักใจเงียบๆ ซักพัก
อยากเห็นภัคมีความร้อนรน


ปล. รอดูคู่นี้หวานกันนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คิดถึงน้องจริงใจก็บอกมานร้า
กังวลที่น้องหายไปล่ะซิ

จจ มีหวังแล้วลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
กรี๊ดดดดดดด...

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อิคุณพี่เก่งคะ เรียกน้องจริงใจทีไร เรางงทุกที ต้องค่อยๆ อ่าน 55555555555

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ภัคคะจริงใจไปรับใช้ท่านประธานมาค่ะ เป็นสายสืบเลยไม่มีเวลาว่าง จริงใจความเป็นผู้ใหญ่นางเยอะกว่าณภัคอีกค่ะ นางไม่เด๋อนะตอนนี้

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินอ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ hoshichi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ว้ายยยยยยยยยย
หวั่นไหวๆๆๆๆ

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ดีใจแทนเด็กปีศาจ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
คิดถึงจริงใจสินะภัค

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด