ตอนพิเศษ : 4
[Shogun's Part ]
ผมเคยถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่ามันจะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่กันนะ... ความรักที่เรามีให้กัน เมื่อไหร่กันที่มันจะจืดจางจนไม่เหลืออะไรเลย
สักสิบปี... ยี่สิบปี... หรือแม้กระทั่งปีเดียวก็ไม่อาจผ่านพ้นไป
ขอโทษที่นิสัยเสียๆ มันติดตัวมานาน ถึงทำให้ลึกๆ ในใจผมยังคงหลงเหลือความกลัวแสนงี่เง่าแบบนี้อยู่อย่างไม่รู้จะแก้ยังไง แต่ผมมั่นใจว่ามันกำลังลดลง... และเชื่อเถอะว่าผมกำลังจะทำให้มันหายไป ไม่สิ... จะบอกว่าเป็นฝีมือของผมคงไม่ได้ ในเมื่อคนที่ทำให้มันหายไปจริงๆ ก็คืออีกคน... ที่ขยันเติมความเชื่อมั่นลงมาในใจ จนทำให้คำถามนั้นมันค่อยๆ หายไป จากที่เคยถามทุกวัน ก็กลับกลายเป็นอาทิตย์ละครั้ง... หนึ่งเดือน จนกระทั่งผมเลิกให้สาระกับมัน
ของแบบนั้นจะเกิดขึ้นตอนไหนใครจะรู้กัน อาจจะเป็นอนาคตแสนไกล หรือบางทีมันอาจจะจบลงพรุ่งนี้ก็ได้... ช่างปะไร
สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือการที่ทุกวันนี้ผมยังได้อยู่ข้างเขา และมีความสุขมากๆ เท่านั้นก็พอ
“จะอาบน้ำก่อนไหมครับ” ผมถามพลางวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะทำงาน มองคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านรายงานที่คนของรีสอร์ตทิ้งไว้ให้อย่างเห็นใจ
พอใกล้ช่วงไฮซีซั่นดูเหมือนจะมีหลายส่วนที่ต้องจัดการ รายงานปรับปรุง กับรายละเอียดค่าใช้จ่ายยาวเหยียดถูกส่งมาให้ซันเช็กทันทีที่เขากลับบ้าน ทั้งที่ควรจะได้พักหลังจากทำงานมาทั้งวันกลับยังต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำอีกงาน
“ขออ่านอันนี้อีกแป๊บหนึ่ง” แต่ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่สบตาผม เขาก็ยังส่งยิ้มให้ทุกครั้ง ราวกับอะไรบางอย่างในตัวผมมันทำให้เขามีพลัง
อะไรนะ... อยากรู้จัง
แต่ใครจะกล้าถาม...
“ผมช่วยไหมครับ” ผมบอกพลางหยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งขึ้นมา เป็นรายงานบัญชีที่ผมคิดว่าน่าจะพอช่วยอะไรได้พอดี ผมยืนอ่านเอกสารในมือไปทีละหน้า อ่านทีละบรรทัดอย่างรอบคอบแล้วกลับมาเช็กซ้ำอีกที ก่อนจะวางลงบนโต๊ะให้เขาแล้วสรุปให้เขาฟัง
“อันนี้เป็น...หือ?” พูดได้ไม่กี่คำก็ชะงักไป เปลี่ยนเป็นเลิกคิ้วตั้งคำถามให้คนที่กำลังนั่งเท้าคางมองกันด้วยสายตาคล้ายจะขบขันปนมันเขี้ยว ก่อนที่คนขี้แกล้งจะเอื้อมมือมาคว้าเอวผมไปนั่งตักแล้วกัดลงมาบนใบหูเบาๆ
“น่ารัก” คำชมนั่นคงจะทำให้หน้าร้อนๆ ของผมขึ้นสีจัดอย่างไม่ต้องสงสัย
ทั้งที่คิดว่าควรจะชินได้แล้ว เพราะมากกว่านี้ก็เคยทำ แต่ผมกลับยังหวั่นไหว หัวใจเต้นแรงกับสัมผัส และคำชมเล็กๆ น้อยๆ ของเขาราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกทุกคราวอย่างน่าอาย
“เดี๋ยวผมอ่านให้ฟังแล้วซันรอเซ็นแล้วกันนะครับ” แถมยังใช้มุกเดิมๆ ตีหน้าบึ้งแกล้งเฉไฉทั้งที่รู้ว่าเขาจับไต๋ได้ตั้งนาน
“ครับคุณเลขาฯ” ซันหัวเราะแซวแล้วกดจูบลงมาที่แก้มฟอดใหญ่
ผมดันหน้าเขาออกอย่างหมั่นไส้ ปล่อยให้เขาย้ายมาซุกหน้าลงกับไหล่ขณะที่ผมอ่านข้อความในเอกสารให้ฟังช้าๆ ตั้งใจว่าจะให้เขาค่อยๆ พิจารณาแต่ดูท่าว่าเจ้าตัวฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เพราะจมูกโด่งๆ เอาแต่ง่วนอยู่กับการซุกไซ้สูดดมไปทั่วไหล่และลำคอราวกับเป็นขนมที่เขาโปรดปรานแต่ต้องห้ามใจไม่ให้รับประทาน
“ตัดผมแบบนี้แล้วเซ็กซี่จัง” กระซิบพลางกดจูบลงมาตรงท้ายทอยที่โล่งขึ้นจากการตัดผมใหม่ ซ้ำยังไล้เลียจนผมสะดุ้งสุดตัว กำลังจะหันไปโวยวายใส่ แต่เมื่อเอาแฟ้มลงก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามือซุกซนกำลังวุ่นวายอยู่กับกระดุมเสื้อผมอย่างเบามือ
“ซนจังนะครับ” จัดการฟาดลงไปแรงๆ ทีหนึ่ง ตั้งใจว่าจะดุให้เข็ด แต่พอเห็นสีหน้ายิ้มกริ่มของเขาแล้วก็สู้ไม่ไหว
“รีบๆ ทำงานได้แล้ว” แล้วก็ได้แต่ตีหน้าบึ้งใส่ พลางไถหน้าผากตัวเองกับลำคอแกร่งอย่างงอแง
“โอเคๆ” ซันหัวเราะแล้วแกล้งยกมือยอมแพ้ กดจูบหนักลงมาบนกระหม่อมครั้งหนึ่งแล้วยอมปล่อยให้ผมเริ่มอ่านเอกสาร
แต่เพียงไม่นานมือไม้ที่อยู่ไม่สุขก่อนหน้านี้ก็กลับมาพยายามวนเวียนแถวกระดุมเสื้อที่ยังไม่ถูกติดให้ดีจนผมต้องหันไปส่งสายตาตำหนิ ใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือแฟ้มดึงมือเขาออก แต่เจ้าตัวก็ยังไม่วายหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเปลี่ยนมาประสานนิ้วผมไว้ หมุนแหวนแต่งงานเล่นไปมาสักพักก่อนจะยกขึ้นมาจูบซ้ำๆ ตั้งแต่ปลายนิ้วถึงข้อมือ
สุดท้ายผมก็หลุดหัวเราะกับความวอแวไม่เลิกของซัน ปล่อยให้เขาทำตามใจ แล้วหันมาโฟกัสกับเอกสารในมือใหม่... แม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากมากก็ตาม ผมให้เวลาซันพิจารณาแล้วเซ็นเอกสาร ก่อนจะหยิบเล่มต่อไปขึ้นมาอ่าน ทำแบบนั้นซ้ำๆ จนกองเอกสารลดลงในเวลาไม่นาน
“อืม... อันนี้เป็นเอกสารรายงานเรื่องพนักงานที่ซันเคยจัดการไปแล้ว ผมว่า...” ผมชะงักอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำหนักตัวและจังหวะลมหายใจของเขาที่แปลกไป
“ซัน?” พอผมเรียกแล้วเขาไม่ขานรับก็ยิ่งแน่ใจว่าคนที่ใช้ไหล่ผมต่างหมอนอยู่คงเผลอหลับไป ทั้งๆ ที่อยู่ในท่าไม่สบาย
คงจะเหนื่อยมากจริงๆ
ผมปิดเอกสารในมือพลางหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้วผมเองก็ชักจะง่วงเหมือนกัน แต่จะให้หลับไปทั้งยังไม่ได้อาบน้ำแบบนี้ก็คงไม่ไหว ยิ่งอีกคนยิ่งไม่ต้องสงสัย เห็นบ่นว่าไปออกไซต์มาทั้งอากาศร้อนๆ แบบนั้นคงจะอยากอาบน้ำกว่าผมซะอีก ว่าแล้วก็ค่อยๆ ขยับตัว ดึงมือออกจากการเกาะกุมของฝ่ามือหนาที่คลายออกแล้วลุกออกมาอย่างแผ่วเบา มองคนที่นั่งคอพับคออ่อนอยู่กับโต๊ะทำงานแล้วจัดท่านอนให้เขาได้นอนสบายขึ้นสักพัก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำมาเปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง ตั้งใจว่าอยากให้เขาได้นอนแช่สบายๆ เดินไปหยิบเทียนหอมกลิ่นที่ซันชอบมาจุดทิ้งไว้สร้างบรรยากาศผ่อนคลายเผื่อจะช่วยให้หายเหนื่อยบ้าง
ผมจัดนู่นเตรียมนี่ไปเรื่อยพลางฮัมเพลงที่ติดจากร้านกาแฟมาโดยไม่รู้ตัว พอทุกอย่างเรียบร้อยจึงตั้งท่าจะหมุนตัวกลับไปเรียกคนที่หลับคาโต๊ะทำงานมาอาบน้ำสักที
“เพลงอะไรอ่ะ”
“...!”
แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับก็ถูกกอดหมับเข้าจากด้านหลังจนเผลอสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ผมขมวดคิ้วเอียงหน้าไปมองค้อนใส่คนขี้แกล้งที่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง แต่สุดท้ายก็หลุดหัวเราะเมื่อเขาไม่สะทกสะท้านอะไร แถมยังฮัมเพลงเลียนแบบผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“โคตรคุ้นเลย เพลงอะไรนะ” ไอ้น้ำเสียงกระตือรือร้นนี่มันอะไร เมื่อกี้ยังเห็นหลับคอพับคออ่อนอยู่แท้ๆ
“ถ้าตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำครับ” ผมตีหน้ามึนไม่ตอบคำถาม ทำท่าจะแกะแขนกำยำที่กอดเอวอยู่ออกไป แต่เจ้าตัวกลับรัดแน่นกว่าเดิม ก้มหน้าลงมาแกล้งกระซิบผะแผ่วข้างหูด้วยประโยคที่ทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมาอีกจนได้
“อาบด้วยกัน”
“ไม่...อะ!” แถมยิ่งร้อนไปกันใหญ่เมื่อหมุนตัวกลับมาเพื่อผลักเขาออกแต่กลับพบว่าร่างสูงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า โดยที่ชุดทำงานถูกทิ้งเป็นซากไว้ตามทาง
หะ... ให้ตาย ทำไมถึง...
“อาบน้ำกันๆ” พอเห็นผมชะงักกระอักกระอ่วนเขาก็ยิ่งชอบใจ คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะรวบตัวผมไว้แล้วอุ้มขึ้นมาอย่างง่ายดายโดยที่ผมได้แต่ผวาร้องเสียงดัง
“ซัน! ไม่เอา!”
ผมไม่อยากโวยวายนักหรอก... ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยอาบน้ำด้วยกัน แต่ว่า... ทุกครั้งมันไม่เคยหยุดแค่อาบน้ำเลยไง... แล้ววันนี้เขาก็เหนื่อยมาทั้งวัน...
“เฮ้ย!” แต่ต่อให้ห้ามยังไงสุดท้ายผมก็แพ้จนได้ เมื่อคนขี้แกล้งจงใจปล่อยผมลงมาในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มจนเปียกไปทั้งตัว
“ต้องอาบแล้วล่ะ” พอแกล้งผมได้เจ้าตัวก็หัวเราะพอใจ ทิ้งตัวลงไปนั่งฝั่งตรงข้าม ยิ้มจนตาเป็นสระอิมองผมที่มุ่ยหน้าตาขวางกลับไป
“นิสัยไม่ดี” ผมพึมพำ แต่คนตรงหน้ากลับไม่สะทกสะท้านอะไร ยังคงเอนหลังพิงอ่างท่าทางสบายๆ ขณะที่ค่อยๆ หุบยิ้มจนเหลือแค่จุดเล็กๆ บนมุมปาก สบตานิ่งนานด้วยสายตาที่แสดงออกชัดเจนว่าต้องการอะไร
“หึ” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมหลุดหัวเราะออกมากับความเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจของเขา ที่ทำให้ผมแพ้ราบคาบทุกที โดยเฉพาะดวงตาคมที่มองตรงมาอย่างซื่อตรงคู่นี้ซึ่งดึงดูดให้ผมขยับเข้าไปใกล้ มอบสิ่งที่เขาต้องการโดยไร้ข้อโต้แย้งใดๆ
[1]“It’s the simple things you do... I just can’t get enough of you...” ผมยืดตัวขึ้นนั่งคุกเข่าให้ร่างกายท่อนบนโผล่พ้นผิวน้ำ ค่อยๆ ยกมือแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางที่เปียกแนบร่างตัวเองออกช้าๆ แกล้งร้องเพลงถ่วงเวลาหลังจากแตะริมฝีปากลงไปครั้งหนึ่งแล้วผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
“It’s that perfume that you wear and the way you do your hair… that I love so much...” เนื้อเพลงที่เขาถามก่อนหน้านี้ถูกเอ่ยออกมาแบบแทบไม่มีทำนอง... ราวกับเป็นแค่ประโยคทั่วๆ ไป แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ดวงตาคู่สวยเป็นประกายขึ้นมาด้วยความรู้สึกมากมาย
“And it’s the simple things you say… and how in bed we play…” กลับมายิ้มกว้างจนกลายเป็นหัวเราะเมื่อผมปลดกระดุมเสื้อจนถึงเม็ดสุดท้าย แล้วเปลี่ยนเป็นยกแขนขึ้นคล้องลำคอแกร่ง แกล้งคลอเคลียปลายจมูกเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาที่เงยขึ้นมารองรับการหยอกล้ออย่างเต็มใจ
“It’s the way you kiss my cheek when you think that I’m asleep... I love it so much...”
และเมื่อจบประโยคนั้นร่างของผมก็ถูกดึงเข้าไปแนบชิดอย่างหมดความอดทน ฝ่ามือหนากระชากเสื้อผมออกไป ริมฝีปากที่รั้งรอคลอเคลียอยู่พักใหญ่ถูกครอบครองจนไม่สามารถเอ่ยอะไรได้อีก... นอกจากตอบรับสัมผัสที่ทำให้ร่างกายร้อนยิ่งกว่าอุณหภูมิของน้ำที่แช่อยู่
...และร้อนขึ้นทุกที
ไม่นาน... เสื้อผ้าทั้งหมดของผมก็ถูกปลดทิ้ง กลายเป็นซากกองอยู่ที่พื้น... พร้อมๆ กับความตั้งใจเดิมที่อยากจะให้เขาพักผ่อนอย่างเต็มที่ถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย... ด้วยความปรารถนาที่ผมเองก็ไม่สามารถจะหยุดมันได้เช่นกัน
[1] The Simple Things - Michael Carreon
-----------------------------------------------------------------
ใครบอกว่าจะอัพตอนที่แล้วเป็นตอนสุดท้ายคะ ตีปาก
กลืนน้ำลายตัวเองเฉยจ้า พอดีว่าเพิ่งเขียนตอนพิเศษจบแล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้อัพพาร์ทน้องโชกุนเลย
เลยแอบเอามาหยอดไว้อีกหนึ่งตอนค่ะ หวังว่าจะถูกใจ
ไหนๆ ก็จบแล้วอัพเดตนิดนึง เรื่องนี้มีตอนพิเศษ 8 ตอนนะคะ (พาร์ทซัน 4 โชกุน 4)
เหมือนจะเยอะ แต่ไม่ได้ยาวมากค่ะ รวมๆ แล้วไม่ถึง 40 หน้าเอสี่ 5555
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะได้ออกออกต้นปีหน้าเนอะ
ถ้ามีความคืบหน้ายังไงจะมาอัพเดตอีกทีค่ะ
ฝาก #ซันโช ด้วยน้า
ขอบคุณค่า
- Martian -