d o u b l e M
e i g h t e e n
รามินทร์กำลังอารมณ์ไม่ดี.. นัยน์ตากลมจับจ้องไปที่ร่างบางไม่วางตา ทว่าคนถูกมองกลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด หึ ระวังตัวหน่อยได้ไหมมีนา! จะทำให้เขาเป็นบ้าจริง ๆ หรือไง ปล่อยให้ไอ้เด็กหน้าจืดนั่นเอาหน้าเข้าไปใกล้อยู่ได้ ไอ้เด็กนี่ก็กวนตีนเหลือเกิน คิดว่าอยู่ใกล้ลูกแมวของเขาแค่นั้นแล้วจะเหนือกว่างั้นเหรอ ไม่จำเป็นต้องแสยะยิ้มให้เขาเลยสักนิด คิดจะก่อสงครามกับเขาหรือไง
คราวนี้เป็นเขาบ้างที่ต้องแสยะยิ้ม จันทร์เจ้าสอดมือเข้าไปรองศีรษะทุยให้เอนไปซบไหล่แคบของตน เหมือนเพื่อนตัวเล็กจะพูดอะไรสักอย่างกับมีน แมวน้อยจึงได้ขยับเข้าไปชิดจันทร์เจ้า นึกขอบคุณอยู่ในใจ เอาไว้จะบอกคุณนาวินซื้อช็อกโกแลตมาให้
แล้วนี่คุยบ้าอะไรกัน ทำไมมันยังไม่เสร็จสักที! แล้วไอ้เด็กหน้าจืดนั่นมันจะอะไรนักหนา มองลูกแมวของเขาอยู่ได้ สัดเอ๊ย!! มองเฉย ๆ มืออย่าต้องมึงจะตายหรือไง! รามินทร์สบถในใจอย่างหงุดหงิด เขาพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ลุกออกไปยืนระงับอารมณ์ตัวเองอยู่ที่หน้าห้องสมุด ถ้าหากเขายังอยู่ในนั้น ดีไม่ดีอาจจะได้เข้าไปถีบไอ้เด็กผีนั่นให้หงาย โทษฐานที่เข้าวอแวกับแมวน้อยของเขาเกินเหตุจำเป็น
“อุ้ย!”
ตากลมปรายมองต้นเสียงตามสัญชาตญาณ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อเด็กสาวเจ้าของเสียงมองหน้าเขาอยู่ เมื่อเขามองกลับ เจ้าตัวก็ก้มหน้าพร้อมแก้มแดงปลั่ง เด็กคนนี้... ที่มีนาช่วยเอาของขวัญมาให้เขา และเป็นคนที่ทำให้เขาโดนมีดหั่นไส้กรอกกาก ๆ นั่นบาดนิ้ว
“เธอชื่ออะไร?” รามินทร์ถามเสียงเรียบ
“คะ?” เด็กสาวมองหน้าเพื่อนด้วยความงุนงง
“ชื่ออะไร?”
“พลอย พลอยค่ะ”
“อือ”
“มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอพยายามข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่มันสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น มือเล็กบีบมือเพื่อนด้วยความดีใจ หัวใจของเธอพองโตราวกับลูกโป่งถูกอัดลม ถ้าไม่รู้สึกเจ็บเพราะเพื่อนทั้งสองคนจิกมือเธออยู่ล่ะก็.. เธอต้องคิดว่าตัวเองฝันอยู่ ไม่ก็เป็นเรื่องที่เธอคิดไปเองแน่นอน
“เปล่า” ตอบกลับเสียงนิ่งก่อนยกยิ้มมุมปาก เขาผลักประตูห้องสมุดเข้าไปด้านในอีกครั้งโดยไม่ได้มองกลับไปที่ด้านหลังอีก...
“แก... พวกแก... เมื่อกี้...”
“พี่รามินทร์ถามชื่อแก!! กรี๊ดดดดด ฉันฟินแทน!”
“โอ๊ยยยย จะยอมกบฏต่อ double M ห้านาทีเพื่อฟินกับแก! แม่ช้อยยยยย พี่รามินทร์ผู้ไม่รู้จักใครน้องจากมีนณนนท์คนเดียว เขาถามชื่อไอ้พลอยยยย แกกกกก ทำใจดี ๆ ไว้นะ!!”
“ฉันอยากกรี๊ด!” พลอยบอกเพื่อนเสียงสั่น “พวกแกดูมือฉันสิ มันสั่นมาก”
“ฉันสั่นไปถึงมดลูกยังไม่พูดเลยย่ะ! แต่เมื่อกี้พี่รามินทร์อย่างเท่ แกเห็นที่พี่เขายิ้มมุมปากไหม หล่อฉิบหายยยยย หล่อวัวตายควายล้ม หล่อจนต้องร้องขอชีวิต กรี๊ด!”
พลอยอยากจะบอกเพื่อนให้ใจเย็น แต่เธอก็รู้สึกแบบเดี๋ยวกันกับเพื่อน
“น้ำเดินอ่ะบอกเลย รีบเข้าห้องสมุดเถอะ จะได้ไปมองหน้าหล่อ ๆ ของพี่รามินทร์”
“ไอ้พวกบ้า! พูดอะไรกันแบบนั้น”
“มันเป็นฟีลลิ่งเว้ย! ไป เข้าห้องสมุดกันได้แล้ว!”
“หน้าบึ้งจังเยยยยยย” จิ๊ปาก ปัดมือจันทร์เจ้าที่ยื่นมาจิ้มแก้มทิ้ง “รามินทร์เป็นไรเนี่ยยยยยย เมากลิ่นหนังสือเหรอ พี่มีนก็อีก หน้ามึนอยู่ได้”
“อ้าว” มีนร้อง เมื่อเผลอสบตากับรามินทร์ก็เม้มปากก่อนจะเสมองไปทางอื่น
“หนูจันทร์” รามินทร์เรียกพร้อมกับโอบแขนกอดคอจันทร์เจ้า เจ้าของชื่อเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนตัวสูงเรียก หนะ.. หนูจันทร์?
“มะ มีไร?”
“ไอ้เด็กที่มันนั่งข้างมีนามันเป็นใคร?” รามินทร์กระซิบถามเสียงเบา เพื่อระวังไม่ให้แมวน้อยที่เดินนำหน้าพวกเขาอยู่ได้ยิน
จันทร์เจ้าฟังแล้วหัวเราะราวกับคนอารมณ์ดี ผิดกับคนถามที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ชื่ออาร์ม อยู่ม.4 วอแวกับพี่มีนบ่อยมาก ได้ยินพี่หวานพูดว่าน้องเข้าชมรมห้องสมุดเพราะพี่มีนด้วย”
“เชี่ย!”
“ตัวต้องทำอะไรแล้วนะ ไม่งั้นพี่มีนโดนคาบไปแดกแน่ ตัวจะเสียหมาเลยนะ” จันทร์เจ้าทำหน้าจริงจัง รามินทร์ขมวดคิ้ว เห็นตากลม ๆ ของมันแล้วอยากจิ้มสักที รู้สึกทะแม่ง ๆ กับประโยคที่มันพูดออกมา
“จิ๊!”
“เรารู้ว่าตัวรู้สึกยังไงกับพี่มีน”
“แล้วยังไง?”
“เราว่าตัวต้องชัดเจนกว่านี้นะ พี่มีนน่ะ ถ้าไม่บอกตรง ๆ ก็ไม่มีทางยอมรับหรอก เชื่อเรา เราเรียนมา”
ถุย!
“นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอวะ?”
“หูยยยย ยังไงดีล่ะ งืม... เหลือแค่บอก”
“....”
“ตัวดูสิ มีแค่คนมองพี่มีนกันทั้งนั้น ดูสายตาสิ ระยิบระยับมาก คงอยากจะขยำพี่มีนเป็นก้อนแล้วยัดลงท้อง หรือไม่ก็ม้วนใส่กระเป๋าเอาไปเล่นที่บ้าน”
“มันเสี่ยง ตัวก็รู้ป่ะวะ” เฮ้ออออ คุณชายรามินทร์กลัวนี่หาดูยากนะ
“พี่มีนรักตัวมากนะ”
“รักแบบเพื่อนหรือแบบไหนล่ะ?”
“อันนี้ก็ต้องถามพี่มีนเอง ถ้าตัวมัวแต่ชักช้าแบบนี้ระวังจะโดนแย่งไปนะ ทั้งน้องอาร์ม พี่เจ็นเนอร์อีก”
“รู้ด้วย?”
“เราสังเกตหมดแหละ แค่ไม่พูด”
“เอาไงดีวะหนูจันทร์”
“ถามใจตัวดูสิ”
“ปล่อยไว้ก่อนสักพักดีไหม?”
“ก็แล้วแต่นะ ถ้าอยากมองดูคนแย่งพี่มีนไป”
ราวกับโดนแทงเข้าที่กลางอก...
“มีนานุชชชชช!!” รามินทร์และจันทร์เจ้าหยุดคุยกัน ป่าน เพื่อนร่วมห้องสุดแก่นวิ่งโร่เข้าไปกอดมีนาของเขา
“เชี่ยป่าน!”
“โอ๊ะ โทษ ๆ”
“ตัวไม่ต้องเครียด ป่านไม่เบี้ยน”
“เหอ ๆ”
“แต่พี่มีนฮอตเนอะ ทั้งผู้หญิงผู้ชายมาชอบ ถ้าไม่ติดว่าตัวคอยกันท่า ป่านนี้พี่มีนโดนจีบไม่เว้นวัน”
“นั่นสินะ..”
“ตัวแย่แน่ถ้ายังเฉยอยู่แบบนี้ อ๊า!! น้องเจนิซนี่ยังไง อย่าสนิทกันมากดิ ตอนกลางวันน่ะ พี่มีนซึมไปเลย”
“อืม” เขาก็พอจะรู้ เพราะมองอยู่แทบตลอดเวลา.. เขารู้ว่าใบหน้าน่ารักไม่สบอารมณ์แม้จะมีผ้าปิดปากคาดอยู่
ที่ทำเป็นไม่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจเสียหน่อย...
“ตัวมีซัมติงอะไรกับเจนิซหรือเปล่า? ทำไมพักนี้วอแวกันบ่อย”
“ไม่มี”
“อ้าว... คนอื่นเขาคิดว่าตัวกับน้องคบกัน”
“ประสาท”
“เอ๊า ยังไงอ่ะ?”
“เจนิซไม่ได้ชอบเรา แล้วเราก็ไม่ได้ชอบเจนิซ”
“แล้วน้องมาตีสนิทกับตัวทำ....ไม เฮ้ย!!!” จันทร์เจ้าที่เบิกตากว้าง มือขาวลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด ใช่เหรอ? ใช่จริงเหรอวะ? เท่าที่เขาสังเกตเมื่อตอนกลางวันนอกจากรามินทร์ที่เจนิซวอแวด้วยแล้วก็ยังมี....
ไต้ฝุ่น!!!
“หึหึ”
“ป่าน!!!” รามินทร์ตะโกนเรียกเด็กสาวที่ซุบซิบกับลูกแมวของเขา ชักจะใกล้กันเกินไปละ!
“ว้ายยยยยยยย รามินทร์เรียกชื่อฉานนนนนน!!” ป่านแสร้งร้องเหมือนคนตื่นเต้นดีใจ รามินทร์กลอกตากับท่าทางแบบนั้น “มีอะไรจ๊ะสุดหล่อ?”
เด็กหนุ่มไม่พูด แต่ส่งสายตาไปที่มือเรียวที่เกาะแขนของมีนาอยู่ ป่านจิ๊จ๊ะในลำคอและยอมปล่อยแขนออกแต่โดยดี แหม ไอ้พวกนี้ มีอะไรก็ไม่พูดกัน อย่าให้เจ๊ต้องออกโรงนะ! หมั่นไส้จริ๊ง คนสวยไม่เข้าใจ ถ้าจะหวงขนาดนี้ทำไม่ได้บอกความรู้สึกไม่เลย ฮึ่ย!! ขัดใจเจ้!
เฮ้ออออออออ ทำไมวันนี้ถึงได้น่าเบื่อแบบนี้นะ.. ทั้งฝนที่ตก ทั้งเขาที่ไอเป็นระยะ และทั้งเสียงของอาจารย์ไอยราที่กำลังอธิบายโจทย์เลขอยู่ เมื่อกวาดตามองรอบห้อง คงไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่คิดว่ามันน่าเบื่อ เพราะหลาย ๆ คนก็อ้าปากหาว บางคนก็นั่งหลับ แต่คนที่โจ้งแจ้งที่สุดก็คือคนที่นั่งอยู่ข้างเขานี่แหละ... เล่นฟุบหลับกับโต๊ะโดยไม่เกรงใจอาจารย์เลยสักนิด และมันน่าหมั่นไส้ตรงที่พออาจารย์จี้ถามก็ดันตอบได้ทั้งที่ไม่ตั้งใจเรียน...
“ฮ้าว..”
“ง่วงก็นอนสิครับ” หันไปมองคนพูด รามินทร์ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับยิ้มบางที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อ
“นอนได้ที่ไหนล่ะ เรียนอยู่”
“นั่งหาวเนี่ยนะ หึหึ” มีนถลึงตาใส่ “ยังปวดหัวอยู่ไหมครับ?”
“อือ นิดหน่อย ตอนนี้เจ็บคอ”
“แอร์ตกใส่น่ะสิ ไปนอนห้องพยาบาลไหม?”
“ไม่เอา...”
“ขอนุญาตครับ” รามินทร์พูดพร้อมกับยกมือขึ้น อาจารย์ที่กำลังคุยกับกระดานหันมามอง
“มีอะไรรามินทร์?”
“มีนณนนท์ปวดหัวน่ะครับ ผมขอพาเขาไปห้องพยาบาลนะครับ” อาจารย์ไอยราหรี่ตามอง แต่สภาพเด็กทั้งสองคือป่วยจริง ๆ เธอจึงยอม
“แล้วเธอจะนอนด้วยไหมล่ะ?”
“อ่า... นอนครับ ผมเองก็รู้สึกปวดหัวเหมือนกัน”
“งั้นก็รีบไปซะ ดีขึ้นแล้วค่อยขึ้นมาเรียน”
“ครับผม”
“รามินทร์..”
“หืม?”
“ทำแบบนี้จะดีเหรอ?”
“ดีแล้ว นี่ขี้เกียจเรียน”
“โห นี่ไม่ได้เก่งเหมือนมินทร์นะ ถ้านี่เรียนไม่ทันก็แย่ดิ”
“ไม่แย่น่า เดี๋ยวติวให้เลย ไม่งอแงเนาะ” รามินทร์บอกพร้อมระบายยิ้ม ก่อนดันไหล่ร่างบางให้มาอยู่ข้างหน้าเขาภายใต้ร่มคันเดียวกัน เพื่อที่เจ้าตัวเล็กจะได้ไม่ต้องโดนฝน
งอแงจะไม่ยอมมา แต่ก็เดินมาจนจะถึงห้องพยาบาลแล้ว หึหึ
“สวัสดีครับ” รามินทร์เอ่ยกับอาจารย์ประจำห้องประพยาบาล
“อ้าว วันนี้เป็นอะไรล่ะ? เมื่อวานก็เพิ่งมา”
“ปวดหัวน่ะครับ อยากนอนพัก”
“งั้นไปเขียนชื่อก่อนแล้วก็นอนพักนะ”
“ครับ”
“ตัวร้อน” แตะหลังมือบนหน้าผากมน มีนขมวดคิ้ว ยกมือจะดันมือใหญ่ของรามินทร์ออก แต่อีกฝ่ายดันรวบไปจับ ซ้ำยังยื่นมือมาปลดแมสเขาออกอีก จะต่อต้านก็ไม่ได้ ทันทีที่ล้มตัวนอนก็เหมือนเรี่ยวแรงถูกเตียงสูบไปหมด จึงปล่อยให้เพื่อนตัวสูงทำอะไรตามใจ มีนเผยอริมฝีปากเพราะหายใจทานจมูกไม่ค่อยสะดวก ตัวร้อนเพราะพิษไข้แล้วยังจะต้องมาร้อนเพราะแววตาของรามินทร์อีก
แย่จริง ๆ
“มินทร์ก็ร้อน ไปนอนไป”
“วันนี้น่าจะนอนอยู่บ้านนะ”
“พูดตอนนี้แล้วทันไหมล่ะ”
“อ้าว”
“ฮึ!” มีนส่งเสียงขึ้นจมูก ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมแล้วพลิกตัวหันหลังให้รามินทร์ ไม่อยากมองหน้า เขิน! เฮ้ย ไม่ใช่ ไม่อยากมองเพราะเบื่อหน้าหรอก จิ๊! “ไปนอนอีกเตียงดิ นี่จะนอนแล้ว”
“ไล่เหรอ?”
“อือ”
“มีนครับ” เด็กหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ เขาลุกขึ้นไปเลื่อนม่านให้ปิด แล้วเดินไปนั่งเตียงที่มีลูกแมวนอนอยู่ “โกรธอะไรนี่หรือเปล่า?”
โกรธอะไร? เปล่า! แต่ไหน ๆ ก็ถามแล้วจะโกรธก็ได้
“....”
“คุยกันหน่อยสิครับ”
“....”
“โกรธนี่เรื่องเมื่อกลางวันเหรอ?”
เรื่องเมื่อกลางวัน? อ่า.. ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าหงุดหงิดในใจ แต่ถามอย่างนี้รามินทร์รู้เหรอ? ก็เห็นสนใจแต่เจนิซ ฮึ!
“ขอโทษครับ ไม่อยากให้กินไอศกรีมเพราะเห็นว่าป่วยอยู่ บอกแล้วไงว่าถ้าหายจะพาไปกิน”
ฮะ? ไอศกรีม..? เดี๋ยวสิ รามินทร์เข้าใจว่าเขาไม่พอใจเรื่องไอศกรีมเหรอ โธ่ ไอ้หมีบ้า!!
“ไม่ได้โกรธ” เรื่องนั้นสักหน่อย “คิดไปเอง”
“ไม่โกรธจริงงะ? มาเกี่ยวก้อยกันก่อน” รามินทร์ยิ้มกว้างพร้อมยื่นนิ้วก้อยให้ร่างบาง มีนกระพริบตาปริบ ๆ ดึงผ้าห่มขึ้นปิดแก้มที่ร้อนผ่าน รีบยื่นนิ้วไปเกี่ยวด้วยแล้วดึงออกก่อนจะนอนตามเดิม
เข้าแพ้ตายิ้มของรามินทร์อีกแล้ว...
และหัวใจก็ทำงานหนักอีกแล้วด้วย...
“ง่วง..”
“โอเคครับ เลิกเรียนเดี๋ยวปลุกนะ”
“เหลืออีกตั้งวิชาหนึ่งต่อจากคาบครูไอ”
“ไม่ต้องเข้าแล้ว เดี๋ยวนี่ให้อาจารย์โทรขึ้นไปบอกที่ห้อง นอนสักหน่อย เผื่อดีขึ้น จันทร์เจ้าบอกว่ามีนบ่นปวดหัว”
“ฮื่อ.. ไปคุยอะไรกัน”
“หึหึ นอนเถอะครับ”
“อือ..” ตอบรับเสียงแผ่วแล้วจึงปิดเปลือกตาลง
รามินทร์ปัดผมด้านหน้าของมีนขึ้นและลูบผมนุ่มเบา ๆ เพียงไม่นานร่างเล็กก็ผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ เด็กหนุ่มแย้มยิ้ม ก่อนเดินออกไปขอเจลลดไข้เพื่อให้ร่างบาง และยาแก้ไอสำหรับตนเอง เมื่อกินยาเสร็จเขาก็กลับเข้ามาติดเจลลงที่หน้าผากเกลี้ยง
โน้มลงไปหอมขมับของคนหลับเบา ๆ ไล่สายตามองไปทั่วเครื่องหน้าน่ารักและยกยิ้มขึ้น ก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่ริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่ที่เผยอเล็กน้อย เพราะพิษไข้ยิ่งทำให้ปากอิ่มสีสดยิ่งกว่าเดิม หลับอยู่ก็ยังยั่วเขาได้นะตัวแสบ!
รามินทร์แลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนเองอย่างพยายามห้ามใจ เขารู้ว่าเขาไม่ควรจะทำอย่างที่ใจคิดตอนนี้ เขายังไม่มีสิทธิ... ทว่าตอนนี้เขาห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว...
รามินทร์ถดตัวนั่งคุกเข่าข้างเตียง ค่อย ๆ กดปลายจมูกโด่งฝังลงบนแก้มนุ่มก่อนจะเลื่อนลงมาแนบริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มของลูกแมวตัวน้อย.. เขากดย้ำแผ่วเบาเพราะกลัวคนตัวเล็กจะตื่น แตะแนบไว้ร่วมนาทีโดยไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปภายในโพรงปากเล็ก หากทำมากกว่านี้เขากลัวว่ามีนจะตื่นจริง ๆ รามินทร์ผละออก กดริมฝีปากจูบแก้มใสอีกครั้งแล้วจึงลุกไปนั่งที่เตียงข้าง ๆ
เด็กหนุ่มระบายยิ้มกับตัวเองขณะที่ไล้ปลายนิ้วลูบริมฝีปากของตัวเอง ความอุ่นที่ยังคงอยู่ทำให้หัวใจของเขาพองโตและเต้นระรัว สงสัยเขาต้องทำอะไรสักอย่างอย่างที่จันทร์เจ้าบอกแล้วล่ะมั้ง เพราะว่า.. เขาชักอยากจะมีสิทธิในตัวลูกแมวน้อยตัวนี้มากกว่านี้แล้วน่ะสิ
----------------------------
ขอบคุณทุกคนค่ะ