d o u b l e M
t w e n t y – s i x
“จันทร์เจ้าไปไหนเหรอ?” มีนถามระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปโรงอาหาร
“ห้องน้ำกับไอ้เวฟ ไต้ฝุ่นอยู่ห้องซ้อม”
ยังไม่ได้ถามถึงไต้ฝุ่นเลย บู้วววว
“เฮ้ย!!”
“หวัดดี” มีนยกมือทั้งรุ่นพี่กัปตันทีมบาสที่เดินเข้ามาทัก เจ็นเนอร์มองมีนด้วยความตกตะลึง
น่ารัก... น่ารักสัด ๆ
“ทำไมแต่งงี้...” มีนไหวไหล่กับคำถาม
“เชี่ยเจ็น... เหยดโด้โอริโอ้ปั่น! นี่ไอ้มีนหรอ มีนานุชหรอ เฮ้ยยยย สวยยยย!”
“พี่เนย์อย่าแซว”
“เอ้า ก็สวยจริง ๆ สเปกเลยว่ะ มีแฟนยัง ไปเดตกับพี่ไหมน้องสาว”
มีนทำหน้ามู่ แอบเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามกัน รามินทร์แสยะยิ้ม ทำหน้านิ่งจนร่างเล็กนึกหวั่นในใจ
“ถ่ายรูปได้ป่ะ?” เป็นเจ็นเนอร์ที่เอ่ยขึ้น จากนั้นอาคเนย์ก็รีบเสริมอย่างเห็นด้วย มีนถูกรุ่นพี่ทั้งสองคนดึงเข้าไปถ่ายรูปอยู่ร่วมสิบนาที ทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ และรูปหมู่ เล่นเอาเหนื่อยไปเลย
“พอได้แล้ว มีนยังกินไม่อิ่ม” รามินทร์บอกพร้อมคว้าข้อมือเล็กให้นั่งลงที่เดิม เมื่อคนตัวเล็กอ้าปากจะพูดเขาก็ตักข้าวผัดไข่ป้อนให้แมวเหมียว (เรียกให้ถูกคือยัด) รุ่นพี่ทั้งสองมองหน้ากัน แล้วจึงบอกมีนกับรามินทร์ว่าขอตัวก่อน และยังไม่ลืมชวนทั้งคู่ไปเล่นเกมที่ซุ้มของพวกเขาอีกด้วย
“หน้าบึ้งจังเลยยยย” มีนยื่นมือไปดึงแก้มของรามินทร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“อ่อยจังเลยยยยย”
“ไม่ได้อ่อย เขามาเอง”
“เหอะ ชอบทำให้หวงว่ะมีนา นิสัย”
“อ้าว...” มีนหน้าเอ๋อ “ทีตัวเองมีสาวมาวอแวเค้ายังไม่ว่าอะไรเลย”
รามินทร์มองคนน่ารักก่อนแสยะยิ้มพอใจ “แอบมองนี่ไม่ใช่ไหม?” เขายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้เมื่อเห็นอีกคนอึกอัก
“เปล่าสักหน่อย! ร้านก็เล็กนิดเดียว ไม่มองก็เห็นเถอะ!!”
“อ๋อ... แล้วเห็นหรือเปล่าว่ามีคนให้ไอดีไลน์นี่มาด้วย”
“ได้ไง!!!!”
“หึหึ”
และระหว่างทานข้าวพวกเขาก็เถียงกันไปด้วย จนกระทั่งทานเสร็จก็ยังไม่หยุดเลยด้วยซ้ำ งงอยู่เหมือนกัน ไปหาเรื่องอะไรมากมายมาเถียงกันได้ยังไง แต่มันก็... สนุกดีนะ
“อยากกินโรตีสายไหม...” มีนพูดขึ้นขณะเดินออกจากโรงอาหาร จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่จัดทำบูธต่าง ๆ บรรยากาศงานโรงเรียนปีนี้คึกคักมากเลย อาจเป็นเพราะทางโรงเรียนเปิดให้โรงเรียนอื่นเข้ามาได้ด้วย คนก็เลยยั้วเยี๊ยะเหมือนหนอนตัวน้อย ๆ ชอนไชผลไม้เน่า
เอ่อ...
“ไม่มีหรอก”
“งืม...”
“ไปเล่นเกมกัน”
“หือ เกมไรงะ?”
“ไม่รู้สิ เจนิซไม่ได้บอกไว้” เมื่อได้ยินชื่อของรุ่นน้องมีนก็หน้าตึงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ได้แต่เดินตามหลังรามินทร์อย่างค้านไม่ได้... ไม่อยากให้รามินทร์กับเจนิซสนิทกันเลย ไม่ได้ไม่ชอบน้อง แต่ไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองตอนเห็นทั้งคู่อยู่ใกล้กัน เพราะเจนิซน่ารักมาก ๆ ไง ถ้าเกิดรามินทร์ไปชอบเจนิซจริง ๆ พี่ก็แย่ดิ...
อ๋อ รู้แล้วว่าทำไมหน้าตึงตอนรามินทร์พูดถึงเจนิซ ก็เพราะหวงไงจะอะไรล่ะ ฮืออออออ
“เร่เข้ามาครับ เร่เข้ามา มาเล่นเกมกับเรานะคร้าบบบบ เพียงแค่เกมง่าย ๆ เท่านั้น หากคุณชนะก็รับของรางวัลไปเลย~” เสียงพิธีกรเชิญชวนดังแว่วมา รามินทร์พาพี่ไปหยุดอยู่หน้าบูธนั้น
พี่มองของรางวัลที่จัดไว้อย่างสนใจ อ๊า!!! มีตุ๊กตาเป็ดเหลืองแบบนี้บ้านพี่ด้วยง่ะ แต่นี่มันตัวใหญ่กว่ามาก ๆ เลย อยากได้... เงยหน้ามองรามินทร์ (นี่ก็สูงจังเลย ชิชะ!) คนตัวสูงกว่าทำหน้าดุสลับกับทำหน้าบึ้ง เป็นไรงะ...
จึ้ก จึ้ก
รามินทร์ก้มมองวัถตุนุ่มนิ่มสีขาวที่จิ้มเข้าที่แขนของเขา มีนากำลังมองเขาด้วยสายตาสงสัยพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อย เด็กตัวสูงปรับเปลี่ยนแววตาดุดันและฉุนเฉียวจากการจ้องเขม็งเหล่าบรรดาผู้ชายที่มองแมวน้อยของเขาตาเยิ้มเป็นอ่อนโยนเมื่อใช้มองสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่า... มีนณนนท์
“ครับ?”
“ทำหน้าดุ” มีนย่นจมูก ทำเอาอีกคนหมั่นเขี้ยว ส่งมือไปบีบปลายจมูกเชิดรั้นของคนตัวเล็ก
การกระทำของทั้งคู่ถูกสายตาของหลาย ๆ คนจ้องมอง และดังมาพร้อมกับเสียงพูดคุยนินทา เอาเถอะ แล้วแต่จะพูดกัน เขาเลือกที่จะไม่สนใจดีกว่า และดูเหมือนแมวน้อยของเขาก็ดูจะไม่ได้สนใจคำพูดของคนพวกนั้นเช่นกัน.. นัยน์ตาสวยเป็นประกายวิบวับยามจ้องมองสิ่งของที่อยู่ไม่ไกล รอยยิ้มหวานปรากฏพร้อมกับเสียงหัวเราะเพราะมุกตลกของพิธีกรประจำบูธ ความสดใสของร่างเล็กทำให้หลายคนยิ้มตาม
ขยันทำตัวน่ารักแบบนี้เขาก็เหนื่อยกับแมลงพวกนี้สิมีนา... รามินทร์คิดในใจ ส่งมือไปคว้ามือเล็กมาจับไว้ แสดงความเป็นเจ้าของกลาย ๆ
“พี่รามินทร์มากับใครน่ะ!!?”
เรามองคนที่เข้ามาใหม่ เจนิซกอดอกทำหน้ายักษ์ มองคนข้าง ๆ รุ่นพี่ตัวสูงเขม็ง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าพี่รามินทร์จับมือแม่สาวชุดเมดนั่นอยู่!!! ฮึ่ม!!! ยัยนี่เป็นใคร ทำไมพี่รามินทร์จะต้องจับมือด้วย! จะฟ้อง เจนซ์จะฟ้องพี่มีน!!
มีนขมวดคิ้ว เจนิซจำพี่ไม่ได้งั้นเหรอ แล้วคำพูดที่ออกมาพร้อมกับน้ำเสียงที่เจือความโทสะทำเอามีนคิดว่ารุ่นน้องลูกครึ่งคนนี้หวงไอ้หมีของเขา (ขีดเส้นใต้ของเขา)
“เจนซ์จะฟ้องพี่มีน!”
อะ อ้าว... น้องมันหวงแทนเขาหรอกเหรอ...
“นี่ไงมีน” มีนพูดเสียงไม่ดังและชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ฮะ!!!?” เจนิซเบิกตากว้าง มองหน้ารามินทร์เพื่อขอความเห็น รามินทร์จึงพยักหน้า “น่ารักมาก!!!”
“หล่อบ้างเถอะ”
“พูดอะไรเกรงใจชุดที่ใส่ด้วยนะครับ” เจนิซยิ้มล้อ ก่อนโยกตัวหลบฝ่ามือพี่
“เดี๋ยวเถอะ!”
“น่ารักโคตร ๆ อย่างกับตุ๊กตา ขอเอาไปใส่ตู้โชว์ที่บ้านได้ป่ะครับ”
“ไม่”
“ใจร้าย!” น้องเชิดหน้างอนไม่จริงจัง “มา ๆ มาเล่นเกมกัน”
จะร้องห้ามก็ไม่ทันเสียแล้ว...
“วู้ ๆๆ ในที่สุดเราก็ได้คู่สุดท้ายมาแล้วนะ เป็นหนุ่มฮอตซะด้วย พี่รามินทร์ของเรานั่นเองคร้าบบบบ!!” และจากนั้นทั้งเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือของสาว ๆ (รวมทั้งสาวเทียม) ก็ดังขึ้นจนพี่กลัวว่าหูจะดับ
“อร๊ายยยย ผัวววว ความผัวแผ่กระจายแรงมากค่า บอกเค้าไปว่าชั้นชอบเค้า!”
รามินทร์หน้าเบ้กับเสียงของเด็กผู้ชายท่าทางตุ้งติ้ง จากชุดที่ใส่ เด็กคนนั้นอยู่โรงเรียนเดียวกันกับเขา และนั่นคือชุดมัธยมต้น
“พี่รามินทร์! มองกล้องหน่อยค่า” และนั่น... จ๋าจ้า... มาตั้งแต่เหมือนไหร่วะ
“น่ากลัว” มีนพูดขึ้นเบา ๆ เด็กชายตุ้งติ้งคนนั้นก็เพื่อนจ๋าจ้านั่นแหละ...
“เอาล่ะครับ คงจะมีคนสงสัยกันนะว่าคู่ของรุ่นพี่รามินทร์คนฮอตนั่นเป็นใคร... สวัสดีครับ แนะนำตัวหน่อย”
เชี่ยเจนิซ... มีนด่าในใจ ส่งสายตาให้รุ่นน้องเป็นเชิงคาดโทษ เจนิซยังคงจ่อไมค์ที่ปากของเขา (ไปแย่งไมค์จากพิธีกรตัวจริงเมื่อสักครู่)
“....”
“คนสวยหยิ่งจังเลยคร้าบบ”
“หึหึ” คาดโทษรามินทร์อีกคน ชอบแกล้งเขานักพวกนี้ พวกคนใจบาป!!!
“มีน มีน SM-5C”
เจนิซยิ้มพอใจกับเสียงตอบรับ โธ่ คิดว่าพี่รามินทร์ควงสาวคนอื่นมาหรือไง เอาล่ะ จะพูดอะไรมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าต้อง เพราะเขาดันจำพี่มีนไม่ได้...
“นั่นพี่มีนจริงหรอแก”
“มีนณนนท์หรอวะ?”
“น่ารัก”
“น่ารักมาก”
“สวยฉิบหาย..”
และอีกมากมาย....
“แก!!! เขาจับมือกัน!!!” มีนแทบจะดึงมือออกทันทีหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของจ๋าจ้าพร้อมกับเสียงรัวชัตเตอร์
“เมียหลวงทวงสิทธิ์แล้วค่า เมียอุปโลกน์อย่างพวกหล่อนก็หยุดมโนนะคะ!!!”
“หล่อนด้วยชาติชาย!” จ๋าจ้าบอกเพื่อนแล้วหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ถูกชาติชายผลักศีรษะจนหน้าแทบขมำ
น่าอาย น่าอายเป็นบ้าเลย หน้าพี่ร้อนมาก ๆ แล้วมันก็ต้องแดงมากแน่ ไม่เอาแล้ว พี่ไม่เล่นเกมแล้ว พี่จะกลับบ้าน ฮืออออออ
“จ๋าจ้า” รามินทร์เรียกน้องสาว เมื่อจ๋าจ้าหันมองเด็กตัวสูงก็จรดก้านนิ้วยาวชิดริมฝีปากบางของตนเป็นเชิงว่าให้เงียบ...
โอเคค่ะ! เรามันแค่ลูกเรือตัวน้อย ๆ เราต้องทำตามคำสั่งของกัปตันอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติ!!!
“เสียเวลากันมากแล้ว เราจะบอกกติกานะครับผม เกมนี้มีชื่อว่า ใจตรงกัน..หรือเปล่า กติกามีอยู่ว่า ให้แต่ละคู่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกัน และสต๊าฟจะอ่านคำถามให้ จากนั้นก็ตอบให้เหมือนนะครับ ถ้าคู่ไหนชนะก็รับรางวัลจากเราไปเลยครับผม! อ๊ะ ๆ ผมลืมไป จะต้องเลือกคนใดคนหนึ่งเพื่อเป็นไลน์นะครับ เช่น คำถามที่จะตอบนั้นจะตอบเกี่ยวกับใคร สมมติ A กับ B นะครับ A เลือกว่าเป็น B ก็จะหมายความว่าคำตอบที่เขียนต้องเกี่ยวกับ B อย่างเช่น อาหารที่ชอบคืออะไร? A ก็ต้องเขียนชื่ออาหารที่ B ชอบ เท่านี้เองครับ หากใครงงก็อ่านซ้ำนะครับ แหะ ๆ อ๋อ! B ก็ต้องเขียนคำตอบของตัวเองด้วยนะครับ แล้วสุดท้ายเราจะเอาคำตอบมาเทียบกันว่าคู่ไหนตอบถูกเยอะที่สุด งานนี้อาศัยความรู้ใจล้วน ๆ เลยครับโผมมม”
พี่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับรามินทร์ และรามินทร์เลือกจะเป็นคนตอบ กดดันกันนี่หว่า... แต่คำถามก็คงไม่ยากหรอกมั้ง
“นั่งดี ๆ”
หือ? ก้มมองท่านั่งตัวเอง อ้าว ลืมว่าใส่กระโปรง นั่งขาชิดไม่ใช่วิถีคนชิคเลย... แต่ทว่ากระโปรงสั้นแบบนี้พอนั่งแล้วมันกลับสั้นกว่าเดิมเสียอีก มีนเบะปาก รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย และไม่นานก็มีบางอย่างลอยมาตกบนหน้าขาของเขา อ่า... เสื้อแจ็คเก็ตของรามินทร์นี่เอง งื่อออออ
อ่า... คนพวกนั้นเขากรี๊ดอะไรกันหรอ?
“ข้อแรกนะคะ... คิดว่าอะไรคือความประทับใจแรกของคู่คุณที่มีให้คุณ?”
อื้อหือออออ แค่คำถามแรกก็สร้างความแตกหักซะแล้ว อะไรอ่ะ... ประทับใจเรื่องอะไรเหรอ.. เง่อออ เขียนไปแบบนี้เลยแล้วกัน
“ข้อสอง ระหว่างแตงโมกับสับปะรด คิดว่าคู่ของคุณจะเลือกอะไร?”
อ่า... ข้อนี้ง่ายมาก
“ข้อสามครับ! คู่ของคุณชอบเครื่องประดับชนิดใด!?”
“ข้อที่สี่ครับ... ในกระเป๋าของคู่คุณมีอะไรบ้าง?”
รามินทร์แอบเหลือบมองคนตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นมุมปากอิ่มยกเป็นเส้นโค้งเล็กน้อย เขาจึงก้มลงเขียนคำตอบลงในกระดาน ข้อนี้มันไม่ได้ยากสำหรับเขาเลย กระเป๋าของมีนามันก็เหมือนกระเป๋าของเขา....
“ข้อที่ห้า ข้อสุดท้ายแล้วนะครับ! คำถามมีอยู่ว่า... อ่า... สักครู่นะครับ” มีนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ อยู่ ๆ เจนิซก็เดินเข้าไปกระซิบเด็กผู้ชายที่เป็นพิธีกร พิธีกรพยักหน้ารับ เจนิซก็เดินออกไป แถมเจ้าเด็กลูกครึ่งนั่นยังมองหน้าเขาแล้วยักคิ้วให้อีก ไม่น่าไว้ใจเลย ไม่น่าไว้ใจ....
“ขออภัยครับผม มีเหตุขัดข้องนิดหน่อย เรามาต่อกันเลยดีกว่านะครับ” พิธีกรกลับมาพูด
“คำถามข้อสุดท้ายนะครับ... แฟนคนแรกของคู่คุณชื่ออะไร!?”
แม่งเอ๊ยยยยยยยยย!!!
เจนิซเล่นพี่แล้ววววววว มีนขมุบขมิบปากด่ารุ่นน้อง เงยหน้ามองคนที่นั่งตรงข้ามพร้อมกับหน้างอ รามินทร์เลิกคิ้ว ก่อนตวัดข้อมือเขียนคำตอบไปอย่างไม่ลังเล ในขณะที่มีนคิดแล้วคิดอีก จะเขียนลงไปดีหรือเปล่า จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้ด้วยหรอ แต่ถ้าเขาไม่เขียนคำตอบไป รามินทร์จะคิดยังไง... งื่อออ
“ตอบคำถามกันเรียบร้อยทุกคนแล้วนะครับ เรามาเช็กคำตอบกันดีกว่า~” และจากนั้นก็มีสต๊าฟมาช่วยกันตรวจดูคำตอบของแต่ละคนและยึดปากกาไวท์บอร์ดไปเพื่อกันการแก้ภายหลัง เรื่องนั้นพี่ไม่ข้องหรอก แต่ที่ข้องเพราะทำไมเจนิซถึงเป็นคนตรวจของพี่กับรามินทร์!! ไอ้เด็กรุ่นน้องยิ้มพอใจอะไรของมันก็ไม่รู้ ฮึ่ย! ยังจะส่งสายตาล้อเขาอีก
การเช็กคำตอบนั้นจะให้สต๊าฟอ่านคำถามอีกครั้งแล้วให้แค่ละคู่ตอบพร้อมกัน โดยเริ่มทีละคู่ คู่แรกแล้วไปคู่สองงี้ แล้วจะมีสต๊าฟอีกกลุ่มคอยจดคะแนนให้
“ข้อหนึ่ง คิดว่าอะไรคือความประทับใจแรกของคู่คุณที่มีให้คุณ?”
“ไม่มี / ไม่มี” ก็รู้จักกันครั้งแรกก็ตอนอนุบาลไง รามินทร์ก็ร้องไห้แง ๆ จะหาหม่าม้า จะให้ประทับใจอะไรล่ะ มันไม่มีเลย ฮืออออ
“ข้อที่สอง ระหว่างแตงโมปั่นกับสับปะรด คู่ของคุณจะเลือกอะไร?”
“ไม่เลือก / Nothing” แมวน้อยแพ้สับปะรด กินแตงโมได้แต่ไม่กินเพราะตอนเด็กเคยเจอแตงโมเน่ามีหนอนเต็มไปหมดจึงฝังใจ...
“ข้อสาม คู่ของคุณชอบเครื่องประดับชนิดใด?”
“นาฬิกา / นาฬิกา”
อ่า... เราตอบถูกสามข้อแล้วแฮะ ตื่นเต้นนนนน ทีมเราจะชนะหรือเปล่านะ!
“ข้อที่สี่นะครับ ในกระเป๋าของคู่คุณมีอะไรบ้าง?”
“กระเป๋าสตางค์ ยา ทิชชู่ หนังสือ เพาเวอร์แบง หูฟัง ดินสอ สมุดบันทึก ผ้าเช็ดหน้า ลิปมัน...”
“พี่รามินทร์ครับ! โชว์คำตอบให้เราดูด้วยครับ” รามินทร์พลิกกระดาษตามที่น้องเขาบอก แต่ก่อนจะพลิกนั้น เจนิซก็รีบวิ่งเอาอะไรบางอย่างไปปิดคำตอบข้อสุดท้ายเอาไว้
น้องพิธีกรเริ่มอ่านคำตอบของรามินทร์
“ยา กระเป๋าสตางค์ ลิปมัน ผ้าเช็ดหน้า กระดาษทิชชู่ แบตสำรอง ดินสอ หนังสือ สมุดบันทึก หูฟัง ....โอ้โหหหหห ถึงจะเรียงลำดับไม่ตรงกัน แต่ตอบตรงกันทุกอย่างเลยนะครับเนี่ย”
“เอาล่ะครับ มาถึงข้อสุดท้ายกันแล้ว วู้ว ๆๆ”
ขอรอยแยกให้พี่แทรกหนีด้วย...
“แฟนคนแรกของคู่คุณชื่ออะไรครับ?”
“ถึงคิวคู่สุดท้ายแล้วครับ แหม ดูเหมือนคนจะรอลุ้นเยอะนะครับเนี่ย”
“ลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้วค่า”
เพื่อนของจ๋าจ้าตะโกนขึ้นมา เรียกเสียงฮาให้กับทุกคน
“พักเสียงหัวเราะมาฟังคำตอบจากทั้งสองคนเลยดีกว่าครับ เอ้า!”
เนื่องจากเป็นข้อสุดท้ายแล้ว จึงต้องพลิกกระดานให้คนอื่นเห็นด้วย
“รามินทร์ / ระ รามินทร์...” “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”
ฮืออออออออออออออ ไม่เอาแล้ววววว จะกลับบ้านแล้ววววววววววว
“โอ๊ะโอ... เพราะแบบนี้เองสินะครับ ถึงได้รู้ใจกันแบบนี้” พิธีกรเอ่ยแซว “คู่ที่ชนะเกมนี้ได้แก่คู่ที่ห้านะครับผม!! ส่วนคู่อื่น ๆ ไม่ต้องน้อยใจไปนะครับ เพราะเรามีรางวัลปลอบใจให้”
“เอาตัวไหน?” รามินทร์ถามแมวน้อยที่เอาแต่ก้มหน้างุด มือเล็กจับเสื้อนักเรียนของเขาไม่ปล่อย ตั้งแต่เล่นเกมจบ ก็เหมือนคนตัวบางจะเอ๋อไป
“เป็ด..” พูดเสียงเบาคล้ายกระซิบ
“หมีดีกว่า”
“จะเอาเป็ด! เป็ดเหลืองด้วย...”
“แต่นี่ว่าไอรอนแมนก็ดีนะ”
“ก็บอกว่าเป็ดไง!!”
“โอเค” สุดท้ายก็ต้องยอมอยู่ดีสิน่า ไม่รู้ว่ามันมีดีอะไรนักหนามีนถึงได้ชอบมันมากขนาดนั้น
ไอ้เป็ดเหี้ย... “พี่รามินทร์กับพี่มีนเป็นแฟนกันจริง ๆ ใช่ไหมคะ!?”
งื่อ... พี่ก้มหน้าซุกน้องเป็ด อุตส่าห์เดินหลบออกมาเนียน ๆ แล้วแท้ ๆ ยังจะเจออีก จ๋าจ้านะจ๋าจ้า!!
รามินทร์ไม่ตอบ แต่ยกมือข้างที่กุมมือเล็กไว้ขึ้นให้น้องสาวดู ส่งผลให้เหล่าชิปเปอร์ที่เห็นเหตุการณ์ต่างกรีดร้องด้วยความฟิน ส่วนเฮตเตอร์ก็เบ้ปากจนเป็นพาราโบลาแบบคว่ำ และกลอกตาจนแทบตาเข...
กว่าจะหลุดพ้นจากลูกเรือของรามินทร์ก็เล่นเอาเหงื่อตก กลับไปช่วยงานที่บูธจนเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้า เปลี่ยนชุด กลับไปใส่ชุดนักเรียกเหมือนตอนเช้าที่มา ตอนนี้เวลาบ่ายสองครึ่ง อีกประมาณครึ่งชั่วโมงการแสดงดนตรีของแต่ละวงก็จะเริ่มขึ้น โดยที่วงของไต้ฝุ่นจะแสดงเป็นวงสุดท้ายนู่นแหนะ ระหว่างนั้นพี่เลยคิดว่าจะไปหาที่นอนสักหน่อย ง่วงมากเลยง่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ร่างจะพังแล้ว...
เมื่อถึงเวลา รามินทร์ก็จูงมือคนตัวเล็กเดินลัดเลาะผู้คนเข้าไปภายในอาคารอเนกประสงค์ คนเยอะมาก ๆ เลย แต่ว่ารามินทร์ก็พาพี่เข้าไปถึงด้านหน้าเวทีได้ เวฟกับจันทร์เจ้ายืนรออยู่แล้ว เต้นกันสนุกเลยสองคนนั้น เหมือนจะสงบศึกกันชั่วคราวด้วยแฮะ ฮ่าฮ่า
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!” เสียงกรีดร้องของสาว ๆ ดังขึ้นเมื่อนักดนตรีทยอยกันขึ้นเวที ไต้ฝุ่นของพวกเราเดินขึ้นเวทีคนสุดท้ายพวกกับกีต้าร์คู่ใจ ใบหน้าหล่อเรียบนิ่งทว่ากลับทรงเสน่ห์สุด ๆ ผมสีดำสนิทถูกเซ็ตเป็นทรงเปิดหน้าผาก แต่งหน้าเล็กน้อยด้วยการใช้อายไลน์เนอร์เขียนขอบตาให้ตาที่คมอยู่แล้วคมขึ้นไปอีก ระหว่างที่นักดนตรีกำลังจูนเครื่องดนตรีอยู่นั้น นักร้องนำก็คอยพูดเอนเตอร์เทนคนดู
“เฮ้ย! เจนิซเป็นนักร้องนำหรอ!?”
“อือฮึ”
“ทำไมนี่ไม่รู้อ่ะ โห แล้วก็ปิดเงียบ ไม่ยอมบอกเลย” มีนพูด ตัดพ้อคล้ายน้อยใจ จริง ๆ ก็แอบน้อยใจนิด ๆ แหละ ไม่ยอมบอกกันเลย ไอ้เด็กบ้า!
“หึหึ” รามินทร์หัวเราะเบา ๆ วางมือบนศีรษะทุยแล้วโยกไปมา
“โอ๊ย!”
“น้องจิ๋วเป็นไรอะ?!!” มีนรีบเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กที่จู่ ๆ ก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง
“มดกัด... แถวนี้มันหวานไปมดเลยมาแน่เลยง่ะพี่มีน”
ใช้มือข้างที่ว่าง ผลักหัวน้องจิ๋วไปหนึ่งที
“งุยยยยย เขินรุนแรงอ่ะ คึคึ”
ไม่เคยจะสำนึกหรอก...
การแสดงดนตรีเริ่มขึ้น และเริ่มด้วยเพลงจังหวะเร็วที่ทำเอาคุณผู้ชมทั้งหลายต่างออกสเต็ปกันสุดฤทธิ์ ไม่คิดว่าเจนิซจะร้องเพลงได้เพราะมาก ๆ เห็นก่งก๊งแบบนั้นพอจับไมค์ร้องเพลงแล้วคาริสม่ากระจายมาก ๆ คงได้แฟนคลับเพิ่มอีกโข
“น่าเสียดายมากนะครับที่ตอนนี้มาถึงเพลงสุดท้ายแล้ว...”
เมื่อเจนิซพูดจบ เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น เด็กลูกครึ่งยิ้มทะเล้น ก่อนเอ่ยประโยคต่อไป
“เพลงนี้ เป็นเพลงช้า... จริง ๆ แล้วเพลงนี้ไม่ใช่เพลงที่จะใช้แสดง หัวหน้าวงของเราบอกว่า มีคนขอมา ซึ่ง special มาก ๆ และเราจะไม่บอกนะครับว่าคนนั้นเป็นใคร ไปฟังกันเลยดีกว่า~”
เมื่อเจนิซพูดจบ เสียงเครื่องดนตรีก็ถูกบรรเลงขึ้นมาในทำนองเนิบช้า ก่อนที่เสียงหวานของนักร้องนำจะเอื้อนเอ่ยคำร้อง ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงได้รู้สึกอินกับเพลงมันนักจนน้ำตาไหลออกมาแบบนี้ เพราะรู้สึกเหมือนกับเนื้อเพลง เพราะรู้ว่าคนที่ขอเพลงนั้นคือใครจากความหมายของเพลง หรือเพราะเสียงที่เอื้อนเอ่ยคำร้องสุดท้ายเพลงที่ข้างหูจากคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างกันและจับมือเขาเอาไว้ตลอดเวลา...
วันหนึ่งถ้าฉันเปลี่ยนไป ฉันขอแค่เพียงเวลา
วันเก่าไม่คืนย้อนมา ฉันก็พอเข้าใจ
ไม่เปลี่ยนไปได้ไหม เหมือนเดิมได้ไหม
อยากให้เรามีกันไม่ห่าง
ถ้าฉันได้บอกความลับที่แสนนาน
เก็บซ่อนไว้ในใจ
เธอจะยิ้ม ให้ฉันเดินเคียงข้างฉัน
เหมือนวันที่ฉันและเธอชิดใกล้
อยู่ในหัวใจแม้เธอจะรู้ความลับว่าฉันรักเธอ
แม้ฉันเพิ่งบอกเธอไป... “ว่าฉันรักเธอ”------------------------------
/หย่อง ๆ
- สวัสดีครับผม มาอัพแย้ว อัพช้าขออภัยด้วยนะค้า /โค้ง
- อาจจะงง ๆ กับการบรรยายสักหน่อย น้อมรับผิดค่า....
- จันทร์เจ้าจะมีคู่ไหม? น่าจะมีนะคะ คือเราอยากจะแต่งเรื่องของยัยลูกหมูไปอีกเรื่องเลยง่ะ
แบบ... ภาคมหา'ลัย รับน้อง รับรัก ไรงี้ แต่ก็แค่คิดนะคะ ไม่รู้จะได้แต่งหรือเปล่า 55555555555555555555555555555555555
- ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ
- ไว้เจอกันตอนหน้างับ
.โป้งชี้ก้อย