คุณน่ะเมียผมครับ ตอนที่ 43ผมลืมตาตื่นขึ้นเห็นหัวทุยๆหนุนอยู่บนแขนซ้าย
แขนชาไปหมดเลยครับ ดูเวลา 10 โมงกว่าแล้ว
ผมค่อยๆก้มลงหอมหัวมันหนึ่งทีก่อนดึงแขนออกจากหัว
“อื้อ...” มันเหมือนจะรู้สึกตัวแต่คงยังไม่เต็มที่
เพราะพอผมจะขยับตัวเอาแขนออก
มันก็ขยับเข้ามาอีกแล้วกระชับอ้อมแขนที่มันกอดผมอยู่
ถ้าผมจำไม่ผิดก่อนนอนผมกอดมันไว้
แต่ทำไมตอนนี้มันถึงมากอดผมวะแถมมาหนุนแขนผมด้วยนะ
เมื่อวานมันแสดงอิทธิฤทธิ์ใส่ผมซะเละเลย
ผมอยากจะโกรธมันนานๆ แต่พอไม่เจอมันก็คิดถึงครับ
ไม่รู้ว่ามันโมโหผมจากเรื่องอะไรตอนเช้ายังคุยกันดีๆ
จนอยู่ๆองค์ลงก่อนกลับบ้านขึ้นมาเฉยๆซะงั้น
แถมดื้อจะกลับเองทั้งๆที่เรื่องขึ้นแท็กซี่นี่น้อยครั้งมากครับที่มันจะทำ
เพราะมันเมากลิ่นแอร์รถแท็กซี่
ผมรู้ข้อนี้ดีถ้าไม่จำเป็นหรือโมโหจนลืมตายมันไม่มีทางขึ้นแน่นอน
ผมพยายามชวนคุยมันก็ไม่คุย
ถามก็ไม่ตอบมันเป็นเหมือนช่วงที่ผมกับมันยังไม่คบกันเลยครับ
ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่ามันเป็นเรื่องอะไร
ถ้ารู้ก็ง้อมันได้แต่พอไม่รู้นี่ผมเหมือนคนโง่เลยครับ
ทำอะไรก็ผิดไปหมดจะง้อก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องง้อเรื่องอะไร
จนมารู้ที่หลังว่าคงเป็นเรื่องที่ผมคุยกับน้องวีแล้วไม่ได้คุยกับมันที่โต๊ะหน้าคณะเมื่อวาน
ผมดีใจนะที่มันหึงผม แต่ก็อยากให้มันมีเหตุผมมากกว่านี้
ถามผมซักหน่อย หรือไม่ก็บอกว่างอนเรื่องอะไร
ไม่ใช่งอนแล้วไม่พูดแบบนี้ผมก็ตายดิครับ
ถ้าไม่รู้เองแล้วง้อไม่ถูกนี่มีหวังผมต้องเจ็บตัว
เมื่อวานมันปาโทรศัพท์ผมทิ้ง
ตอนแรกก็งงนะแต่พอมีเวลาคิดทบทวนผมก็ผิดที่ไม่สนใจมัน
แถมรู้แล้วว่ามันกำลังโมโหเรื่องน้องวียังไปรับโทรศัพท์ต่อหน้ามันอีก
น้องวีแค่โทรมาถามว่าผมตามไอ้พรตทันรึเปล่า
ผมยังไม่ทันตอบ โทรศัพท์ก็ไส้แตกไปแล้วครับ
ผมว่าผมโชคดีแล้วที่มันไม่เอาอะไรมาเขวี้ยงหัวผมแทน หึหึ
แต่ยอมรับเลยว่าเมื่อวานถ้าคุยกันต่อต้องทะเลาะกันไม่จบแน่ๆครับ
ผมเลยลงมาข้างล่างไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน
เดินไปซื้อบุหรี่ที่เซเว่นแล้วกลับขึ้นห้อง
เห็นห้องเงียบก็นึกว่ามันจะเข้าไปอยู่ในห้องนอน
ผมก็ไม่ได้เข้าไปดูนั่งอยู่แต่ที่โซฟาจนตีหนึ่ง
ไม่เห็นมันออกมากินข้าวเลยเข้าไปดูมันปรากฏว่าไม่มีครับ
มันคงหายไปตั้งแต่ผมออกจากห้อง แม่งเวลาโมโหชอบหนี
ผมก็โทรตามดิครับทั้งที่รู้ว่ามันไม่รับ
แล้วก็เป็นดังคาดครับมันไม่รับสายจริงๆโทรเท่าไหร่ก็ไม่รับ
จนมาเห็นว่าโทรศัพท์มันวางอยู่ในห้องไม่ได้เอาไป
แถมปิดเสียงไว้ผมเลยไม่ได้ยินตอนตัวเองโทรเข้า
ตอนแรกว่าจะไปตามมันที่คอนโดไอ้นาวแต่คิดแล้วว่าไอ้คิมอยู่ด้วยมันคงไม่ไป
ส่วนไอ้มายด์กับไอ้ฟิกซ์มันคงไม่ไปเหมือนกันครับ
เพราะถ้าไปมันต้องเล่าว่าทำไมถึงไม่นอนห้องผม
ผมก็ขับรถไปตามมันที่บ้านคิดว่าต้องอยู่บ้านแน่ๆ
แต่คราวนี้ผมคิดผิดครับ
มันไม่ได้อยู่ที่บ้านแถมไม่รู้ว่าพ่อแม่มันจะว่ายังไงที่ผมบุกไปหาลูกชายตอนดึกดื่น
เพราะผมไม่ได้เจอท่าน คนที่ออกมารับผมเป็นพี่พีชครับ
ผมเลยโดนบ่นมา1ชุดใหญ่ที่ทำน้องชายแกหายไป
ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหนเลยกลับมาที่ห้องก่อน
เผื่อว่ามันจะแค่ออกไปกินเหล้าแล้วกลับมาที่ห้องแล้ว
แต่พอผมถึงห้องก็ไม่มีวี่แววไอ้พรตครับ
ผมก็คอยต่อไปจนมานึกได้ถึงคอนโดมันที่ให้น้องแพรอยู่
เลยค้นเบอร์น้องแพรจากโทรศัพท์มันแล้วโทรหา
ปรากฏว่าน้องแพรบอกไอ้พรตอยู่ที่คอนโดผมก็รีบบึ่งไปหาทันที
มาถึงผมก็คุยกับแพรเรื่องเมื่อวานก่อนจะเข้ามาหามันในห้อง
มันนอนขดตัวเหมือนเด็กเล็กๆ ดูไม่มีพิษมีภัยนะครับแต่เวลาตื่นนี้ดื้อชิบหาย
“กี่โมงแล้ว”เสียงมันถามผมเบาๆยังไม่ยอมลืมตา
“10 โมงกว่าแล้วครับ”
“หิว”
“หิวก็ลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวหาอะไรให้กิน”
“อื้อไม่เอา กูหนาว”
“มึงมีเรียนไม่ใช่เหรอวันนี้”ผมถามมันหลังจากนึกขึ้นมาได้ครับ
“ไม่ไป สายขนาดนี้ใครจะรอสอนกู”
มันว่าก็จริงครับเพราะมันมีเรียนตอน 9 โมงถ้าไปตอนนี้กว่าจะถึงคงเที่ยงพอดี
“มึงลืมอะไรรึเปล่า” อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาเล่นเอาผมงงเลยครับ
“ลืมอะไรวะ” ผมถามกลับงงๆ
“จิ๊...กูรออยู่ เร็วๆเลยง้อกูซะ เรื่องจะได้จบๆ”
อ๋อมันรอให้ผมง้อมันนี่เองครับนึกว่าเรื่องอะไร
ผมไม่ได้ลืมนะแต่ไม่คิดว่ามันจะรีบขนาดนี้
“ครับๆกูขอโทษ เลิกโกรธกูนะ กูกับวีเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้นเอง”
“มึงรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมีอะไรมากกว่าพี่น้องรึเปล่า”
มันพลิกตัวขึ้นมาชะโงกหน้ามองจ้องตาผมเลยครับ
สงสัยอยากรู้ว่าผมจะโกหกรึเปล่า
“กูกับวีรู้จักกันมาตั้งแต่เทอมที่แล้วตอนรับน้อง
วีเป็นน้องคณะกูแล้วกูเป็นพี่ว๊ากรู้ใช่ไหม”ผมเริ่มเล่าแล้วถามมันบ้างครับ
“อืม”มันตอบก่อนเงียบ
“น้องเขาเข้าทำกิจกรรมแล้วโดนทำโทษทุกวัน
กูว่าน้องเขาก็แปลกดีถ้าเป็นกูโดนทุกวันอย่างนั้นกูคงไม่มาแล้ว
แต่น้องก็มีความอดทนมาทุกวัน
แล้ววันหนึ่งกูก็ขับรถอยู่ดีๆน้องมันก็วิ่งตัดหน้ารถกู
แล้วเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น”
“อย่าเรา”
“อะไรนะ” อยู่ๆมันก็พูดอะไร ผมฟังไม่ทัน
“กูบอกว่าอย่าเรา มึงกับวีอย่าใช้คำว่าเรา”
โห! เมียกูขี้หึงขึ้นสมองมากครับ
“ครับๆ
กูกับวีเริ่มคุยกันมากขึ้นเวลาเจอก็ทัก
แล้วน้องเขาดันมาเป็นหลานรหัสไอ้นัท
กูเลยนัดไปเลี้ยงสายเทคพร้อมกันทั้งกลุ่ม
น้องมันกินเหล้าไม่เป็นแค่แก้วเดียวก็เมาไม่รู้เรื่อง
ก่อนแยกย้ายกันกลับน้องมันดันมาบอกว่าชอบกู”
“นั่นไงกูว่าแล้ว”มันรีบเลยครับกลัวผมข้ามประเด็นนี้ไงวะ
“เออจะฟังต่อไหม”
“ก็เล่าไปดิ”
“ปกติกูก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมาบอกรักเป็นปกติของคนหน้าตาดีอยู่แล้ว
กูบอกน้องไปว่ากูไม่ได้คิดอะไรด้วยแค่เป็นพี่น้องกัน
แต่น้องดันเมาจะเข้ามาจูบกู
แล้ววิวมาเห็นพอดีเลยเป็นเรื่องกระชากน้องไปตบ
จนกูกับไอ้คิมต้องเข้าไปช่วยกันแยกให้วุ่นวาย
หลังจากวันนั้นน้องก็เข้ามาขอโทษกู
กูก็บอกว่าไม่โกรธแต่ก็พยายามเลี่ยงไม่อยากมีปัญหา
จากนั้นไม่นานกูก็ได้มึงเป็นเมีย
แล้วช่วงที่กำลังสบสนว่ากูจะเป็นเกย์หรือจะไม่เป็นดี
กูคิดแต่เรื่องของมึงในหัว
จนไม่รู้ว่าเดินข้ามถนนหน้าคณะโดยไม่ได้มองแล้วรถก็แล่นมาไว
กูรู้ตัวตอนที่คิดว่าหลบไม่ทันแล้วแต่อยู่ๆ
ตัวกูก็โดนผลักอย่างแรงกระเด็นไปข้างทางตามด้วยร่างของน้องวีไม่ไกลนัก
กูไม่เจ็บเท่าไหร่แต่น้องโดดเข้าไปหัวกระแทกฟุตบาตแตก
กูรีบพาน้องไปโรงพยาบาลหลังจากทำแผล
น้องก็บอกว่าเห็นกูเดินผ่านก็มองตามเหมือนปกติ
แต่พอเห็นรถพุ่งมาใส่กูขาก็พาตัวเองวิ่งมาช่วยกูโดยไม่ทันคิด
หลังเหตุการณ์วันนั้นกูก็กลับมาคุยกับน้องเหมือนเดิม
น้องก็เหมือนคนที่เคยช่วยชีวิตกูจะให้กูทำเมินเวลาเจอกันกูก็ทำไม่ได้
แต่น้องก็บอกกูแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับกูแล้วหลังจากรู้ว่ามึงเป็นแฟนกับกู
เพราะน้องแพรเป็นคนบอก
แถมจริงๆแล้วมันไม่ใช่ความรักแต่เป็นแค่การหลงใหลใครซักคน
เหมือนการชอบดาราและคิดไปว่าเป็นความรัก
ตอนนี้น้องวีก็มีแฟนแล้วด้วย แต่กูแปลกใจว่าทำไมเป็นไอ้นาวไม่ใช่อีกคน”
ผมเล่ายาวเลยครับเสียพลังงานมากที่จะเก็บไว้ทำอย่างอื่น
ไอ้พรตนี่ฟังเงียบเลยครับมันลงมานอนเอาหน้าแนบอกแล้วฟังผมเล่า
ผมก็เอามือลูบหัวมันเล่นไปด้วย
“ที่นี้มึงเข้าใจรึยัง ไม่ต้องหึงกูอีกนะ”
“ใครหึงมึง หลงตัวเอง” มันว่าพร้อมลุกขึ้นนั่ง
“เหรอครับ โทรศัพท์กูที่ไส้แตกนั้นเพราะอะไรไม่ใช่เพราะหึงเหรอ”
ผมถามมันล้อๆก่อนดึงมือไม่ให้มันลุกเดิน
“มึงลืมอะไรรึเปล่า”ผมถามมันบ้างครับ
“เออๆทำเป็นทวง กูขอโทษเหมือนกัน
กูใจร้อนไปหน่อยไม่ยอมฟังมึงอธิบายก่อน
ก็มึงนั่นแหละชอบทำให้กูคิดมากเสือกเล่นหูเล่นตาใส่กันทำไม”
“กูไม่ได้เล่นเถอะ ก็พอกูถามเรื่องแฟนแม่งก็มาขยิบตา
ไม่ให้กูพูดเรื่องแฟนมัน รึว่ามันไม่ได้เป็นแฟนกันใช่ไหม”
ผมถามมันบ้างสงสัยตั้งแต่ที่โต๊ะแล้วแต่ยังไม่ได้ถาม
“ไม่รู้เว้ย ไปถามกันเอง” มีพิรุธสุดๆครับ
แต่ถ้าหลักฐานไม่พร้อมอย่าได้คาดคั้น
ไม่เจอความจริงหรอกครับ ไหลไปได้เลื่อยๆ
“เออ เดี๋ยวกูถามมันเอง แต่ที่กูทวงไม่ใช่เรื่องนี้”
ผมบอกมันถึงเรื่องที่ทวงตอนแรก
“มึงจะเอาอะไรก็ว่ามาเลยอย่าลีลา”
พอไม่รู้แล้วทำเป็นเสียงดังข่มกูตลอดนะที่รัก
“มึงลืมปลอบใจกูที่ทำให้กูเสียขวัญ แล้วก็ต้องตามหาตัวมึงให้วุ่นวาย”
“ปลอบใจเชี้ยไรของมึง เสียขวัญอะไรอย่ามาทำเป็นเด็ก”
มันว่าหน้าดุเชียวครับ แต่ผมรู้ว่ามันทำไปแบบนั้นเองเพื่อจะหลีกเลี่ยงการปลอบขวัญผม
“อย่ามาทำดุ กูไม่เด็กก็ได้งั้นมาทำเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน”ผมรีบพูดเลยครับ
“มึงอย่ามาหื่นตอนนี้กูหิว แถมน้องแพรอยู่ห้องข้างๆ”มันหาข้ออ้างไปเรื่อยครับ
“กูได้ยินน้องแพรออกไปเรียนตั้งแต่เช้าแล้ว
และกูก็หิวเหมือนกัน แต่หิวมึงนะ
ถ้าไม่ได้กินกูก็ไม่มีแรงทำกับข้าวให้มึงกิน”
“เชี้ย หาเรื่องจะเอาแต่กู”มันว่าเสียงดัง
แต่ผมไม่สนครับ ดึงมันล้มตัวลงนอนแล้วจัดการทันที
---To be Con.---
จบอีกหนึ่งตอนจร้า เจอกันตอนหน้านะคะ