ความทรงจำที่ 4
‘หลง’ กำลังตื่นเต้นอย่างหาที่สุดไม่ได้ ชายหนุ่มนั่งเขย่าขาตรงตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถ มองซ้ายมองขวาไม่หยุดจนคนขับต้องเอ่ยบอก
“นั่งนิ่ง ๆ หน่อยสิ” อโณดุ “รถสั่นแล้วมันเสียสมาธินะ”
“ขอโทษครับ” คนโดนดุหงอลงไปหน่อย สองขาหยุดสั่นแล้ว แต่ลูกตายังหลุกหลิกไปมา
“ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ครับ”
“กะแค่ย้ายที่อยู่อะนะ” อโณขมวดคิ้ว เขาล่ะไม่เข้าใจเด็กนี่จริง ๆ “ตื่นเต้นทำไมกัน”
“ตอนนี้อะไรก็ดูแปลกใหม่สำหรับผมหมดแหละครับ” หลงอึกอัก “ละ...เลยตื่นเต้นนิดหน่อย ว่าจะเจออะไรบ้าง”
“ไม่ต้องลุ้นขนาดนั้นหรอก ห้องฉันก็ธรรมดา ๆ นั่นแหละ โอ๊ะ! จริงสิ” อโณดีดนิ้วเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรออก “มีสมาชิกอยู่ในบ้านอีกคนต้องแนะนำให้รู้จัก”
“ห๊ะ!?” สมาชิกใหม่สะดุ้งเฮือก “คุณอโณพาผมมาแบบนี้ เขาไม่ว่าเหรอครับ”
อโณยิ้มเจ้าเล่ห์ “ว่าไม่ว่าเดี๋ยวก็รู้เอง”
หารู้ไม่ว่าทำคนฟังหนาวไปถึงไขสันหลัง จากที่ตื่นเต้นเหมือนเด็กจะได้ของขวัญ กลายเป็นกังวลว่าจะเปิดออกมาเป็นอะไร หลงนั่งตัวแข็งจวบจนรถจอดสนิท รอจนอโณชาปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วหันมาบอก “ไปกันเถอะ”
“ถะ...ถามหน่อยได้ไหมครับ อีกข้อเดียว”
“ว่า?”
“คนที่อยู่กับคุณอโณนี่ ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”
“ฮ่า ๆ” แทนที่จะตอบดี ๆ อโณดันหัวเราะร่า “กังวลอยู่อีกเหรอ”
“ก็ถ้าคุณอโณอยู่กับแฟน ผมก็รู้สึกผิดแย่สิครับ”
หลงเห็นแววตาซุกซนของอโณชาวูบหนึ่งก่อนเจ้าตัวจะตอบเรียบ ๆ “ผู้หญิง”
ฉึก! เหมือนมีอีโต้ลอยเข้ามาปักกลางหลัง
“เอ้า! อย่ามัวแต่เหม่อ มาช่วยยกของหน่อยเร็ว”
หลงกลั้นใจปาดหยดเลือดที่มุมปากเงียบ ๆ แล้วเดินคอตกไปที่กระโปรงหลังเพื่อรับถุงพลาสติกของซุปเปอร์มาร์เก็ตมาถือ
แย่แล้ว นี่มันแย่แน่ ๆ
อโณชาพักอยู่กับแฟนสาวแต่ดันจะพาผู้ชายเข้าห้องอีก! มองอย่างไรหลงก็ว่าสถานการณ์มันโคตรจะเลวร้าย หลงกำลังมโนภาพหล่อนไม่พอใจ วิ่งไปคว้าโคมไฟมาทุ่มใส่หัว หรือจะทำเป็นดีด้วยแต่ลับหลังจิกหัวใช้สารพัด แอบเอาน้ำยาล้างส้วมใส่ให้กินในอาหารเหมือนในละครที่ดูในทีวีทุกคืน ไม่สิ! แล้วไหนจะเวลาหล่อนอยากจู๋จี๋กับคุณอโณจะทำอย่างไร!? แล้วถ้าเขามา...
“หลง” เจ้าของชื่อชั่วคราวสะดุ้งเฮือก “เหม่ออะไรน่ะ เข้ามาเร็ว”
อโณชายืนกวักมืออยู่ในลิฟต์ เร่งให้สมาชิกใหม่วิ่งปรี่ตามเข้ามาในทันที นิ้วเรียวยาวกดลงที่เลข 11 ส่งกล่องสี่เหลี่ยมพุ่งทะยานสู่ด้านบน
คอนโดของอโณชาจัดว่ามีสไตล์ไม่น้อย เป็นแท่งสี่เหลี่ยมความสูงสิบห้าชั้น คุมธีมด้วยสีเทาตัดด้วยน้ำตาล ทันสมัยแต่ก็ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป อุดมไปด้วยสาธารณูปโภคครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด และสวนบริเวณดาดฟ้าที่สร้างให้คนขึ้นไปเผาตัวเองตาย
ติ๊ง!
ประตูค่อย ๆ เปิดออก เผยให้เห็นทางเดินปูพรมสีเทาทอดยาวไปด้านหน้า อโณชาเดินถือถุงกระดาษนำลิ่ว ๆ ไปที่ห้องที่อยู่มุมสุดของปีกซ้าย เขาเสียบกุญแจเข้าไปแล้วไขมันในทันที
หลงกลืนน้ำลายอึกใหญ่มองบานประตูที่ค่อย ๆ ผลักเข้าไปจนลับตา ความมืดสนิทยืนรออยู่ตรงหน้า เรียกให้ก้าวเท้าเข้าไปหาช้า ๆ
ผลุบ! วัตถุบางอย่างพุ่งออกมาจากความมืดอย่างรวดเร็ว จนสมาชิกใหม่สะดุ้งเฮือกล้มไปก้นจ้ำเบ้าบนพื้นเป็นที่เรียบร้อย หรือแฟนคุณอโณจะปาอะไรออกมา ละ...แล้วจู่ ๆ เขาก็ตกใจจนแน่นหน้าอกไปหมด นี่มันอะไร หรืออาการกำเริบ!? ไอ้หนุ่มเผลอครางเรียกด้วยความตระหนก “หวาาาาา คุณอโณ้!!!”
ราวสามวินาทีแต่ประหนึ่งชั่วกัปชั่วกัลป์ในความคิดของหลง แสงไฟในห้องก็สว่างจ้าขึ้น เผยให้เห็นวัตถุที่ว่า ก้อนขนสีดำขนาดใหญ่บนอกคือสาเหตุของอาการแน่นหน้าอกที่ว่า ไอ้ก้อนขนขยับยุกยิก ๆ สองสามทีแล้วส่งเสียงร้อง
“เมี้ยวววววว~”
“เก๋ากี้ อย่าซนสิ” อโณเดินกลับมาช้อนตัวก้อนขนนั่นขึ้นจากอก และหลงก็ค้นพบว่าหายใจคล่องคอมันเป็นอย่างไร นี่มันหนักขนาดไหนถึงทับจนหายใจไม่ออกได้น่ะ!
หลงนั่งหน้าเหวออยู่บนพื้น มองไอ้ฆาตกรขนดำกำลังซุก ๆ ไซ้ ๆ อยู่บนอกเจ้าของห้อง ดวงตาโศกของอโณฉายแววอ่อนโยน “โอ๋ ๆ หายไปนาน เหงาล่ะสิ”
มะ...แมวเรอะ!?
“ต้องแนะนำให้รู้จักสิเนอะ เก๋ากี้ นี่หลงนะสมาชิกใหม่ของเรา” อโณจับคอแมวหมุนไปทางคนที่นอนบนพื้น “หลง นี่เก๋ากี้นะ”
“เอ่อ...” หลงลังเลเล็กน้อยว่าต้องตอบรับอะไรไหม สุดท้ายก็เลยได้แค่ “หวัดดี”
“ม้าว~” เก๋ากี้ส่งเสียงตอบรับเล็กน้อย แล้วก็เมินกลับไปสนใจอโณชาต่อ ไอ้เหมียวส่งเสียงในลำคอขณะถูหัวลงบนเสื้อของอโณอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ขี้อ้อนเนอะ” อโณชายิ้มภูมิใจ
“เดี๋ยวก่อน แล้วแฟนคุณอโณล่ะครับ”
“แฟน?” อโณหัวเราะ “ฮะ ๆ อยู่กับผู้หญิงก็เก๋ากี้ไง”
มันเรียกตัวเมีย ไม่ใช่ผู้หญิงคร้าบบบ คุณอโณ้!
“หลงจะนั่งบนพื้นอีกนานไหม ลุกขึ้นมาเร็ว” เจ้าของว่าก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องไป แบบไม่มีการช่วยเหลือดึงขึ้นจากพื้นแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่ไอ้สาเหตุที่ต้องมานั่งก้นจ้ำเบ้าก็เพราะแมวสุดที่รักของคุณไม่ใช่หรือไง
เก๋ากี้ซบอยู่บนบ่าอโณมองเขาด้วยตาใสแป๋ว มันเป็นแมวโกญจาขนสีดำเงางาม ดวงตาสีเหลืองจ้องมาที่เขาราวกับสาดไฟฉายใส่ ชวนให้ขนลุกเหมือนโดนคุณครูจับผิดอยู่ไม่น้อย
ห้องของอโณชาเป็นห้องแบ่งสัดส่วนค่อนข้างชัดเจน หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ มีโซนครัวและที่ขาดไม่ได้คือโซนแมว! มันเหมือนอาณาจักรเลยทีเดียว น้ำพุแมว เครื่องให้อาหาร คอนโดแมว ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าอโณชาเสียเงินค่าเลี้ยงดูแมวไปเท่าไร
เจ้าของห้องก้มลงวางแมวดำไว้ข้าง ๆ คอนโดสีน้ำตาลเข้มสูงร่วมเมตรครึ่ง อโณชาลูบหัวมันสองสามทีก่อนจะหันกลับมาบอกคนที่ยืนหัวเน่าอยู่ “เอาของวางไว้ที่โซฟาก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันเอานมใส่ตู้เย็น”
หลงพยักหน้าหงึก ๆ วางของบนโต๊ะหน้าโซฟาเงียบ ๆ แล้วยืนประสานมือไว้ตรงเอวอย่างสงบเรียบร้อยประหนึ่งนักเรียนมารยาทดีเด่น ยืนอยู่อย่างนั้นรอจนอโณหันกลับมา
“โธ่! หลง จะยืนทำไม นั่งสิ” พอเจ้าของห้องอนุญาตหลงถึงจะยอมหย่อนก้นลงบนโซฟาสีขาวด้านหลัง อโณชาหัวเราะเล็กน้อย “เกร็งเกินไปแล้วนะ ไม่ได้ให้มาฝึกทหารสักหน่อย”
“ก็ผมเกรงใจคุณอโณนี่นา” คนสูงกว่างึมงำตอบขณะทิ้งตัวนั่งลง เป็นบุญล้นพ้นที่ไม่ได้นั่งพับเพียบ
“อย่าเครียดขนาดนั้นสิ อาจจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนะ...” อโณกลืนคำว่า ‘นาน’ ลงคอไป แล้วแทนด้วยคำบอกระยะเวลาที่สั้นกว่า “สักพัก”
หลงคงจะไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก อโณคาดว่าเจ้าตัวก็คงคิดถึงบ้านที่ไม่รู้ฝังตัวอยู่ส่วนไหนของโลก คุณหมอบอกว่าเคสแบบนี้ใช้เวลาไม่นาน แถมมีโอกาสความทรงจำกลับคืนได้หมดอีก ต้องอยู่แบบมีความหวังและกำลังใจกันเสียหน่อย
“วันนี้คงเหนื่อยมากแล้ว เดี๋ยวหลงไปอาบน้ำก่อนเลยนะ ฉันจะจัดที่นอนให้” เจ้าบ้านเริ่มทำงาน “นอนโซฟาได้หรือเปล่า?”
“ได้ครับได้” ไอ้หนุ่มนี่ไม่เคยมีคำว่าเรื่องมากอยู่แล้ว ให้นอนพื้นยังนอนได้เลยมั้ง
อโณชาเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อรื้อหาผ้าเช็ดตัว ระหว่างนั้นหลงก็ลอบมองสังเกตการณ์ไปทั่วห้อง ของใช้มีไม่มากนักแถมยังมีชุดเดียว เป็นข้อยืนยันได้อย่างดีกว่าอโณชาอาศัยอยู่คนเดียวจริง ๆ นั่งรอไม่ถึงนาทีเจ้าบ้านก็เดินกลับมาพร้อมผ้าเช็ดตัวสีขาวและแปรงสีฟันใหม่แกะกล่อง
หลงใช้เวลาอาบน้ำแปรงฟันประมาณสิบนาทีก็เดินตัวหอมฉุยออกมาในชุดเสื้อผ้าของอโณ เพราะของใหม่ยังไม่ได้ซักเลยต้องใส่แบบนี้ไปก่อน เขาชะโงกหน้ามาดูที่ซุกหัวนอนก็พบว่า อโณจัดการปูผ้ารองให้บนโซฟาแถมด้วยหมอนและผ้าห่มครบครัน
คุณพ่อบ้านเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมด้วยขวดน้ำและแก้วหนึ่งใบ ทันทีที่อโณชาเห็นหน้าหลงเขาก็รีบบอก “กินยาด้วยนะ ฉันจัดไว้ให้แล้ว”
หลงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาราวกับรอรับโทษทัณฑ์ ท่าทางจริงจังจนอโณอดหัวเราะไม่ได้ “ไม่ต้องเครียดขนาดนั้น ไม่ชอบกินยาเหรอ?”
“มันขม...” ใบหน้าเหยเกอย่างเห็นได้ชัด “ผมว่าไม่น่าจะมีคนชอบนะครับ”
“เอ...ก็จริง” นี่ก็คล้อยตามคนง่ายเหลือเกิน “แต่ว่ายังไงก็ต้องกินนะ”
อโณยื่นถ้วยที่ใส่ยาสารพัดสีราว 7-8 เม็ดเข้ามาให้ ด้วยสีหน้าเหมือนยื่นขนมหวานให้เด็ก “รีบกินจะได้หายไว ๆ นะ”
หลงมองเม็ดยาในถ้วยด้วยสายตาว่างเปล่า รสขมติดคอตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ทั้งที่คิดว่าพอออกมาจะไม่ต้องเจอมันแล้ว ที่ไหนได้มาเยอะกว่าเดิมอีก!
ฝ่ายอโณชาเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเสนอหน้าเข้าไปหลอกเด็ก “ถ้ากินหมดนี่ พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวนะ”
“ผมไม่ได้อยากเที่ยวอะครับ” หลงตอบเสียงหงอย
“งั้นจะทำอาหารที่ชอบให้ หลงอยากกินอะไร”
“ผมกินได้หมดครับ”
โอ๊ะ! การรับมือกับมนุษย์ ‘อะไรก็ได้’ นี่มันยากจริง ๆ
อโณขมวดคิ้วหน้าดำคร่ำเครียด ไม่รู้จะหาอะไรมาต่อรองหลอกเด็กดี แต่จะว่าไปก็ไม่ใช่เด็กแล้วนี่เนอะ ทำไมเขาต้องมานั่งตะล่อมให้กินยาด้วยเนี่ย
“ยังไงก็ต้องกินยานะ”
“ครับ ผมทราบ” ปากว่างั้นแต่ตัวนี่หดเหลือนิดเดียว ใจเสาะสุด ๆ “แต่ขอเวลาทำใจก่อน”
โห นี่กินยามันถึงกับต้องทำใจเชียวหรือ อโณได้แต่คิดแล้วก็สงสัย แต่พอเห็นไอ้หนุ่มหน้าตกกระนั่งจ้องเม็ดยาด้วยสีหน้าจริงจังราวกับจะเข้าไปสิงสู่ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร และเพื่อไม่ให้เป็นการกดดันเกิดไป อโณชาจึงขอถอยออกมา
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” แต่ก็ยังไม่วายขู่ “ถ้าออกมาแล้ว ต้องกินยาให้หมดนะ”
“ครับ” หลงตอบรับด้วยสีหน้าเหมือนถูกผู้บังคับบัญชาไล่ไปกินโคลน
เห็นแล้วอโณก็แอบไปหัวเราะคิกคักตอนที่อาบน้ำ ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ แถมอายุก็ไม่น่าน้อยแล้ว ทำไมถึงได้แบ๊ว ๆ เป็นนางเอกไม่ชอบกินยาแบบนี้น้า~
คงเพราะเหนื่อยล้ากับการลุ้นระทึกมาทั้งวัน หลงจึงฟุบหลับไปก่อนที่อโณจะออกมาจากห้องน้ำเสียอีก เสียงกรนคร่อก ๆ ดังเข้าหูอโณในทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำ
ร่างสูง ๆ ของชายหนุ่มค่อย ๆ ย่องเข้าไปที่โซฟาอย่างแผ่วเบาโดยอัตโนมัติ ราวกับกลัวว่าจะทำคนบนนั้นตื่น หนุ่มหน้ากระสลบเหมือดอ้าปากพะงาบ ๆ เหมือนปลาดุกรอขนมปังชวนขันไม่น้อย
“ม้าววววววว~”
“ชู่ววววววว” อโณรีบหันไปเป่าปาก “อย่าเสียงดังสิเก๋ากี้”
เหมือนว่ามันฟังภาษาคนรู้เรื่อง แมวเหมียวส่ายหางนวยนาดอยู่สองสามทีแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนบนเบาะ เก๋ากี้ของเขาเชื่องและเลี้ยงง่ายดีจริง ๆ อโณชาเดินไปหา ก้มลงลูบหัวมันสองสามทีก่อนจะเหยียดตัวยืนขึ้น เขาหันไปมองที่โซฟาชั่วครู่แล้วดับไฟในห้องลง
คืนแรกของหลงในห้องอโณชาจึงจบลงด้วยประการฉะนี้
.............................................................
..........................................
........
.....
ฟุดฟิด ฟุดฟิด
รูจมูกบิดซ้ายทีขวาทีทั้งที่เปลือกตายังหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น ความปวดหนึบที่ศีรษะแล่นเข้ามาบอกอรุณสวัสดิ์เหมือนเช่นทุกวัน หลงส่งเสียงครางขี้เซาในลำคอแล้วพลิกตัวไปอีกทาง
เครื่องปรับอากาศยังทำงานอยู่ส่งผลให้อุณหภูมิในห้องรับแขกเย็นฉ่ำได้ใจ เช้าวันอาทิตย์ใครจะมีแก่ใจตื่นมาตอนนี้กัน ไอ้หนุ่มหน้ากระซุกใบหน้าลงกับหมอนอย่างมีความสุข มีขยับปากส่งเสียงแจ๊บ ๆ ไล่น้ำลายเล็กน้อยแต่พองาม
ตุบ
แต่อยู่ ๆ อากาศที่ไหลเข้ารูจมูกก็หายไป ชายหนุ่มเห็นเพียงความมืดมิดอยู่ตรงหน้า หายใจไม่ออก อ้าปากไม่ได้ สองมือพยายามไขว่คว้าเพื่อจะหนีออกไปจากที่นี่... เขารู้สึกเหมือนจมอยู่ในหลุมดำไร้ก้น...
“เก๋ากี้! อย่าไปนอนตรงนั้น”
ก้นแมว...
“ม้าววววววว~” เสียงขานรับอยู่ใกล้คมชัดระดับ Full HD สามมิติทะลุจอ สัมผัสได้ยันรูป รส กลิ่น เสียง เมื่อสิ่งอุดรูจมูกขยับตัวขึ้นก็ส่งผลให้ออกซิเจนไหลไปเลี้ยงสมองหลงทันที สติสัมปชัญญะค่อย ๆ ฟื้นคืนมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า” หลงส่ายหน้าตอบทั้งที่ยังไม่ทันลืมตาด้วยซ้ำ เขายกมือขึ้นขยี้ใต้จมูกสองสามทีไล่เส้นขนแมวที่ร่วงบนนั้น “โทษทีนะ มันชอบไปนอนทับหน้าตอนเช้า คิดเสียว่าเป็นนาฬิกาปลุกนะ”
คงเป็นนาฬิกาปลุกที่ทรมานที่สุดในโลกหล้าเป็นแน่! หลงยันตัวเองขึ้นมาจากโซฟาด้วยสภาพพังยับเยิน หัวเหอกระเซอะกระเซิงชี้ไปทุกทิศทาง ขี้ตาเกรอะกรังเป็นแผ่น ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามอย่างมากที่จะแกะมันออกโดยไม่ให้ขนตาหลุด ช่วงคางก็ไม่น้อยหน้า มีตอหนวดขึ้นครึ้มลามไปถึงเหนือริมฝีปาก
“หลงจะตื่นหรือยัง?”
คำถามง่าย ๆ แท้ ๆ แต่คนป่วยกลับใช้เวลาร่วมสิบวินาทีในการเปล่งเสียงตอบรับ “...ครับ”
“ดีเลย อาหารเช้าเสร็จพอดี จะได้กินข้าวตรงตามเวลา”
มาถึงตรงนี้ หลงเพิ่งค้นพบว่ากลิ่นหอม ๆ ที่เขาสูดฟุดฟิดตอนนอนมันลอยออกมาจากโซนครัวนี่เอง อโณชาใช้เท้าเลื่อนบานประตูกระจกเพราะสองมือถูกยึดครองด้วยจานสีขาวใบโต
American Breakfast แบบง่าย ๆ อันประกอบไปด้วยออมเล็ตไส้ชีส แซนวิชเบคอน ไส้กรอก นมสดหนึ่งแก้วและกาแฟอีกหนึ่งแก้ว ทั้งหมดเรียงอยู่บนโต๊ะชวนน้ำลายสอ อโณชาจัดวางเรียบร้อยแล้วก็อดยิ้มอย่างพอใจในฝีมือตัวเองไม่ได้
“หลงไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ จะได้กินข้าวเช้ากัน” แน่นอนว่าไอ้หลงไม่ต่างจากหุ่นบังคับ สั่งซ้ายไปซ้าย สั่งขวาไปขวา มันลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปแต่โดยดี
ไม่กี่นาทีต่อมาอาหารมื้อเช้ามื้อแรกในห้องของอโณชาก็เริ่มขึ้น อโณชาชอบใช้เวลาในช่วงเช้าสูดดมกลิ่นกาแฟแล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เวลาทำงานเขาจริงจัง แต่เวลาพักผ่อนเขาก็ถอดเรื่องงานทิ้งออกจากหัวไปหมดเหมือนกัน อโณเหม่อ หลงก็นั่งเหม่อตาม ต่างคนต่างเหม่ออยู่พักหนึ่งจนเก๋ากี้เข้ามาออเซาะที่ขาเจ้าของ
พอรุ้สึกตัวเจ้าของห้องก็เริ่มถาม “กินได้หรือเปล่า?”
“ได้ครับ” คนมาอาศัยพยักหน้า เอาจริง ๆ มันรสชาติดีกว่าราเมนเมื่อวานเสียอีก อย่างออมเล็ตที่กำลังอยู่ในปากนี่ก็เยิ้มกำลังดี เข้ากับชีสยืด ๆ ที่หลงเห็นแล้วยังอดคิดถึงขี้มูกตัวเองไม่ได้ “อร่อยมากครับ”
“ไม่หรอก แค่ทอดไข่เอง” ถึงปากจะพูดแบบนั้นเจ้าตัวก็อดจะยิ้มภูมิใจไมได้ “ถ้าอร่อย หลงก็กินเยอะ ๆ นะ จะได้แข็งแรงเร็ว ๆ” อโณว่าพลางยกกาแฟขึ้นจิบ “แล้วนี่ยังปวดหัวตอนตื่นนอนอยู่หรือเปล่า”
“ปวดครับ” หลงตอบไปตามตรง แม้จะคิดต่อว่า ‘ถ้าไม่นับที่เก๋ากี้ปีนขึ้นมาทับหน้านะ’ “แต่ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ดีขึ้นครับ”
“งั้นเหรอ” คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “คงต้องนอนพักอีกสองสามวันมั้ง หลงอย่าเครียดนะ”
“ผมไม่เครียดหรอกครับ คุณอโณเองก็อย่าเครียดเรื่องของผมเลย” หลงว่าซื่อ ๆ “ถ้านานไปผมยังจำอะไรไม่ได้สักที ผมก็จะออกไปเอง”
“หลง” อโณเริ่มเสียงเข้ม “เลิกพูดแบบนั้นเสียที ฉันแค่ไม่อยากให้ปวดหัวบ่อย ๆ เท่านั้นแหละ”
พอหลงรู้สึกว่าเหมือนถูกดุก็หงอลงนิดหนึ่ง เขาอยากจะโขกหัวลงกับโต๊ะที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป จากนั้นมื้อเช้าเลยค่อนข้างจืดชืดไปสักหน่อย เพราะต่างฝ่ายต่างจมอยู่ในความคิดของตนเอง
หลังจากที่หลงดื่มนมหมดแก้ว อโณชาก็เก็บจานทั้งหมดไปล้างในทันทีโดยไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้น ร้อนถึงไอ้หลงนั่งสั่นขาลนลานอยู่บนเก้าอี้โดยมีเก๋ากี้นอนมองอย่างสังเวชใจ แมวเหมียวไม่เพียงแต่จ้องหน้าเขาเท่านั้น มันยังถากถางด้วยการเดินไปออเซาะแข้งขาคุณอโณโชว์อีกต่างหาก
หลงยังสมองไม่ค่อยดีทั้งในแง่กายภาพและความคิดเลยทีเดียว เขาใช้เวลาที่อโณชาล้างจานนั่งทบทวนสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป หลงไม่เข้าใจนักว่าทำไมอโณต้องโกรธด้วย ตัวเขาเองก็กังวลว่าจะเป็นภาระให้อโณชา มาอยู่บ้านเขาฟรี ๆ ค่านู่นนี่ก็ไม่ได้ช่วยเหลือ ให้อยู่นาน ๆ ไม่ได้หรอก อยากจะออกไปวันนี้พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ
“หลง” เสียงเรียกทำให้ไอ้หนุ่มหน้าตกกระเงยหน้าขึ้นมาทันที
“ครับ!” มันตอบรับประหนึ่งฝึกทหาร และนาทีนี้จะสั่งให้หมอบคลานหลบระเบิดเพื่อให้อโณหายโกรธ หลงทำได้ทั้งนั้น
“ในฐานะเจ้าของห้อง ฉันจะพาทัวร์ให้นะ” ไม่รู้มาอารมณ์ไหนล่ะ แต่อโณเดินไปรุนหลังคนสูงกว่าให้ลุกขึ้นมา “ห้องไม่ค่อยกว้าง แต่ก็ควรจะรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง”
สองแขนดันจนอีกฝ่ายเดินไปที่บริเวณหน้าห้อง “นี่ตู้เก็บรองเท้านะ”
หลงเกาหัวงง ๆ ลังเลว่าเขาควรตอบว่า ‘สวัสดีครับตู้เก็บรองเท้า’ ตามมารยาทไหม
“รองเท้าฉันเยอะมากเลย เสียดายหลงใส่ไม่ได้” ว่าแล้วเจ้าตัวก็เปิดตู้ให้ดูคร่าว ๆ ก่อนจะลุกขึ้นก้าวฉับ ๆ กลับเข้าไปในโซนห้องรับแขก “เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่า”
“สบายครับ”
“รีโมททีวีฉันจะใส่กล่องนี้ไว้ประจำนะ กันหาไม่เจอ” อโณมองซ้ายมองขวาหาสิ่งที่ต้องอธิบายต่อไป “แล้วก็มีแมกกาซีน การ์ตูนอยู่ในตู้ชั้นล่าง ถ้าหลงเบื่อ ไม่มีอะไรทำก็รื้ออกมาอ่านได้เลยนะ”
“ครับ”
“เอาล่ะ ไปดูห้องครัวกันดีกว่า”
หลงเห็นเก๋ากี้จ้องมาทางเขาตาแป๋วขณะที่เดินตัดไปทางโซนครัว คงคิดว่าอโณชาจะให้ขนมเพิ่มล่ะมั้ง
อโณชาเดินไปเปิดตู้เย็นเป็นอย่างแรก “ถ้าเนื้อสัตว์เอาใส่ชั้นนี้ พวกน้ำกับขนมแยกไว้ชั้นบน กลิ่นจะได้ไม่ปนกัน” แม้สมองจะโหลดช้าไปบ้าง แต่หลงก็ดูจะรู้เรื่องอยู่ “อาหารแช่แข็งมีอยู่สองสามกล่อง เผื่อฉุกเฉินจริง ๆ หลงก็เอามาอุ่นกินได้นะ”
“ครับ”
“พูดถึงก็นี่เลย ไมโครเวฟอยู่ตรงนี้นะ” อโณหันไปทางซ้ายบริเวณที่มีเครื่องครัววางอยู่ “ใช้เป็นหรือเปล่า?”
คำถามง่าย ๆ ที่ดูจะยากราวกับคณิตศาสตร์โอลิมปิคสำหรับหลง เขาจด ๆ จ้อง ๆ ไอ้ตู้สี่เหลี่ยมนั่นอยู่นานราวกับวิเคราะห์ธาตุและสารประกอบ “เอ่อ...ไม่แน่ใจครับ คงแล้วแต่รุ่น”
“แค่เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มเลือกเวลาเอง ถ้าอาหารพิเศษหน่อยก็เลือกอาหารตรงนี้” นิ้วยาวชี้ ๆ ตรงปุ่มที่เป็นรูปเนื้อสัตว์ “ดูจากรูปน่าจะเข้าใจง่ายเนอะ”
“ครับ”
อโณมือซนกดปุ่มเล่นให้มันดังติ้ง ๆ “ฉันจะทำอาหารใส่ตู้เย็นไว้ ถ้ายังไงมาอุ่นกินก็แล้วกัน”
ไกด์ไม่ลงลึกไปถึงอุปกรณ์ครัวให้เสียเวลา เขาไม่คิดว่าคนความจำเสื่อมจะมีปัญญาทำอาหารอะไรหรอก ชายหนุ่มเดินนำไปที่ห้องน้ำแล้วสอนหลงให้รู้จักนวัตกรรมที่เรียกว่า ‘เครื่องทำน้ำอุ่น’ โชว์วิธีการเปิดกด ๆ หมุน ๆ สองสามทีก็เสร็จภารกิจเดินกลับออกมายังโลกภายนอก
หลงก้มหน้าถามอ้อมแอ้ม “ละ...แล้วอีกห้องล่ะครับ?”
“อีกห้องก็ห้องนอนฉันไง ไม่มีอะไรต้องแนะนำหรอก” หลงเกือบหลุดว่า ‘อ้าว’ แต่คิดอีกทีห้องนอนก็ไม่มีอะไรให้แนะนำจริง ๆ นั่นแหละ “เอาเป็นว่า ถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามฉันได้เลย ไม่ต้องเกรงใจนะ”
หลงพยักหน้าอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง บางทีความจำเขาอาจจะกลับมาเพราะผงกหัวมากไปก็เป็นได้
“โอเค มีอะไรจะถามไหม?”
หลงยกมือ “มีครับ”
อโณชาเลิกคิ้วด้วยไม่คิดว่าจะได้รับคำถาม “ถามว่า?”
“เมื่อกี้คุณอโณโกรธผมหรือเปล่าครับ”
อโณชาชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าไอ้เด็กนี่จะกล้าถามออกมาตรง ๆ ด้วยใบหน้าซื่อ ๆ ช่างเป็นคนที่ไร้ความซับซ้อนเสียจริง อโณนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะตัดสินใจตอบ “ก็นิดหน่อย”
เท่านั้นล่ะ! ไอ้หลงตัวหดเหลือสองนิ้ว มันยืนหนีบ ๆ ก้มหน้าเจี๋ยมเจี้ยม “ขะ...ขอโทษครับ แต่ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าคุณอโณโกรธเรื่องอะไร”
คนแก่กว่าถอนหายใจออกมายาว ๆ นึกเกลียดตัวเองที่งี่เง่ามาเคืองอะไรไอ้เด็กเอ๋อนี่ “ฉันต่างหากที่ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เลย ขอโทษด้วยนะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอถามอะไรอีกสักอย่างได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”
“คุณอโณโกรธผมเรื่องอะไรครับ?”
“หลงถามเสียจนตอนนี้ฉันเปลี่ยนมาโกรธตัวเองแล้วล่ะ” คนตอบคลี่ยิ้มบาง “ในเมื่อถามกันตรง ๆ ฉันก็จะบอกตรง ๆ นะ ฉันไม่ชอบเวลาที่หลงรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ”
“แต่ผมเป็นจริง ๆ นี่ครับ” หลงก้มหน้ามองพื้น “รู้จักก็ไม่รู้จัก ยังจะต้องมาเสียเงินซื้อนู่นนี่ให้ จนตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าคุณอโณช่วยผมทำไม”
ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็อยากจะบอกว่า ‘แล้วมันใครล่ะ ที่ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังว่าถูกทอดทิ้งคนเดียว’
แต่นั่นมันก็แค่เหตุผลแรกเท่านั้นแหละ ยังมีอีกหนึ่งเหตุผล
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าฉันมีส่วนกับเรื่องนี้ ถึงจะไม่ได้เป็นคนฟาดหัวหลง แต่ก็เหมือนกระชากหัวไปวางให้เขาฟาดอยู่ดี” คนพูดถอนหายใจ “บอกตรง ๆ ช่วงแรก ๆ ฉันก็ไม่คิดจะรับมาเหมือนกัน แต่ฉันทำเพื่อตัวฉันเองแหละ มันเครียด มันกังวล เหมือนคนทำความผิดแล้ววิ่งหนี”
“แต่คุณอโณก็ไม่ได้ทำผิดจริง ๆ นี่ครับ”
“ฉันมันพวกคิดมากน่ะ เอาเป็นว่าอย่ากังวล ถ้าหลงต้องออกไปดิ้นรนตัวเปล่าแบบนั้น ฉันยิ่งจะไม่สบายใจเสียกว่า” อโณชาตบปุ ๆ ลงบนถุงกระดาษบนโต๊ะ “อย่างเสื้อผ้านี่ มันก็แบบที่ฉันชอบทั้งนั้นแหละ ถ้าหลงความจำกลับมาแล้วลำบากใจ คิดเสียว่ายืมฉันใส่ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณนะครับ”
“รอบที่ร้อยแล้วมั้ง ตั้งแต่เจอกันเนี่ย” ถึงปากจะบ่นแต่เจ้าตัวก็เริ่มยิ้มออก “เอาเป็นว่าอย่าพูดว่าตัวเองเป็นภาระอีกนะ ฉันไม่สบายใจ”
“ขอโทษครับ”
อโณชาไม่มั่นใจนักว่าพจนานุกรมของหลงมันมีแต่คำว่า ‘ขอบคุณ’ และ ‘ขอโทษ’ หรือไร มันถึงได้พูดเป็นอยู่แค่สองคำนี้
หลงยังคงอยู่ในอารมณ์ตื้นตันใจ คุณอโณช่างดีกับเขาเหลือเกิน ไอ้หลงจะไม่มีวันลืมบุญคุณเด็ดขาด! ระหว่างที่มันกำลังซาบซึ้งอยู่นั้น ร่างของอโณชาก็เดินเข้ามาประชิด
“จะว่าไปแล้ว เหลืออีกอย่างที่ต้องแนะนำให้รู้จัก”
หลงเอียงคอสงสัย “ครับ?”
นิ้วชี้จิ้มเบา ๆ ที่บ่ากว้าง
“นี่หลงนะ”
อโณยิ้ม
“เป็นสมาชิกใหม่ของห้อง”
ความอบอุ่นค่อย ๆ ไหลเขามาในหัวใจคนฟังช้า ๆ เขาซึมซับมันอยู่สักพักก่อนจะค้นพบว่าควรจะตอบอะไรสักอย่างออกไป
ฮึก...
“หวา~ อย่าร้องไห้สิ หลง!”
หลงขอไม่ตอบแต่กลืนก้อนสะอื้นลงคอก็แล้วกัน...
TBC
มาช้าไปวันหนึ่งขออภัยค่ะ ฮือออออออออ
ใครที่เป็นห่วงว่าพระเอกจะจนหรือไม่ ตอนนี้หลงพัฒนามาถึงขั้นเกาะเขากินแล้วค่ะ เหนือกว่าคินกับพี่ภาพไปมากโข //ปาดน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง
ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ฝากคุณอโณกับไอ้หลงด้วยค่า 55555
ป.ล.อาทิตย์หน้าไม่รู้ว่าจะเลทหรือเปล่านะคะ แว้บไปสวมวิญญาณติ่งก่อน ก๊ากกกกกกกกก