น้องหมอ กะ พี่วิศวะ [2]พี่ยู หรือยูกิ ชื่อจริง ชินดนัย นามสกุล ทวีศักดิ์ทินโชติ
เรียนคณะวิศวะ ปี สอง
หลายคนคงงงว่า ไหนว่าลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่ทำไมชื่อไทยทั้งดุ้น
ก็บังเอิญว่า พ่อเป็นไทย แม่เป็นยุ่นน่ะนะ
เลยตกลงตั้งแต่พี่แกอยู่ในท้องว่าชื่อและนามสกุลของยูจะเป็นภาษาไทย ส่วนชื่อเล่นให้แม่จัดการ
รูปไม่ค่อยหล่อ ค่อนไปทางน่ารักซะมากกว่า
ที่บ้านขายเพชรขายพลอย ขายกันจนรวยน่ะแหละ มีส่งไปขายต่างประเทศด้วยนะ
พ่อป็นคนดังในวงการเพชรพลอย ไปออกงานวงสังคมไฮโซ ไฮซ้อบ่อยๆ
ฉายาเซเลปของรุ่นพี่หน้าเด็กคนนี้ก็มาจากพ่อนี่แหละ
แต่จริงๆแล้ว ยูก็ไฮโซจริงๆน่ะแหละนะ
ทั้งแบรน์เนมเอย ทั้งรถเอย ยกเว้นปากเนี่ยแหละ
เห็นหน้าตาน่ารักๆแบบนี้ ใครจะไปเชื่อว่าปากจัด ปากหมา
ตอนแรกที่ยูได้เจอกับเพื่อนๆทุกคน พอดีว่าตอนนั้นเพิ่งจะย้ายกลับมาจากญี่ปุ่น
เพราะถูกพ่อส่งไปเรียนที่นั่นตั้งแต่เด็กๆ ภาษาไทยเลยง่อนๆแง่นๆ
พูดอะไรไม่ได้ก็ยิ้มอย่างเดียว ไอ้วิชกระซิบบอกมาว่า “กูโดนรอยยิ้มนั่นหลอกเอา”
หมายความว่าไงรู้มั้ย เพราะหลังจากนั้นหนึ่งปี ยูพัฒนาสกิลการฝอยภาษาไทยให้อยู่ในระดับที่น่าตกใจมาก
“งานรับน้อง แม่งร้องเพลงดันมะดันดองได้จังไรมาก!” คำให้การจากดิศ
“เดี๋ยวนี้มันด่าเป็นไฟ ปากนี่ยิ่งกว่าแม่ค้าแผงผักซะอีก” เนศก็เป็นอีกหนึ่งเสียง
“กูว่าให้มันอยู่เฉยๆ อย่าได้เปิดปากน่ะ เลิศที่สุด” กานพูด และทุกคนก็พยักหน้าในเชิงเห็นด้วย
ยูเป็นคนที่ทำอะไรช้ามาก เอื่อยที่สุด
เดินทอดน่อง มองโน่นมองนี่ เด๊าะแด๊ะที่สุด
อาบน้ำก็ช้ามากกกกก ครึ่งชั่วโมงนี่คือเร็วที่สุดแล้ว
กินข้าวแต่ละคำ กว่าจะหมดได้ เพื่อนๆทุกคนกินข้าวไปสองจานแล้ว ในขณะที่ยูเพิ่งหมดไปครึ่งจาน
ที่เร็วก็คนจะมีแต่ด่า และกดบีบีได้เร็วมว่ากกกก
เวลาพิมพ์คุยกันในกลุ่ม แล้วทะเลาะกัน ไม่มีใครด่าทัน
จนต้องหันมาด่าด้วยปากแทนการพิมพ์ด่าในบีบี
แล้วยูก็จะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากสะใจทุกครั้งไป
………………………………………..
เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่จะเห็นผู้ชายทั้งในและนอกมหาลัย เข้ามาขายขนมจีบให้ยู
ซึ่งถ้าถามว่ามันสนใจมั้ย ก็ตอบได้เลยว่าไม่
เป็นเพื่อนกันมาไม่นาน ก็เห็นมันมีแฟนอยู่แค่คนเดียว
แต่มันก็เจ็บกับรักครั้งนั้นสุดๆเหมือนกัน
ยูมันเข็ดจากความรักครั้งนั้น จนมันไม่เปิดใจให้กับใครง่ายๆอีก
แล้วอยู่ๆวันนึง ก็มีไอ้เด็กแว่นหน้าหล่อ นั่งจ้องหน้าไอ้ยูที่กำลังแดกข้วผัดกุ้งแบบไม่วางตา เปิดเผยสุดๆ ใครมองไม่เห็นไอ้สายตานั่น แม่งก็ตาบอดแล้ว
ยูเคี้ยวข้าวผัดกุ้งไป ใจก็คิดไป
..... หน้ากูเหมือนแม่มึงรึไง มองจนตาแทบจะถลนออกมาแล้วมึง
..... แดกไปมองหน้ากูไป แล้วอร่อยมั้ยห๊ะด่าในใจไปเรื่อย จน...
..... แม่งเอ๊ย!!! มองอะไรนักวะ มันจะรู้มั้ยว่ากูเขินจนไอ้ดิช และคนอื่นๆ มันคงเริ่มคันปาก มันคงสังเกตมาได้พักนึงแล้วแหละ อยากจะเม้ามอยเรื่องไอ้แว่นนั่นเต็มแก่ แต่ต้องใช้เวลาเพื่อความแน่ใจว่ามันมองไอ้ยูผู้น่ารักจริงๆ จนไอ้เนศพูดออกมาเป็นคนแรก
“เห้ย กูว่านะไอ้ยู ไอ้เด็กแว่นหน้าหล่อนั่น มันมองมึงมาสองชั่วยามละ”
และคนอื่นๆก็เริ่มสุมหัวเม้าเรื่องไอ้เด็กแว่น
จนอภิวิชญ์คงเริ่มคันตามเนื้อตัวอยากรู้ใจจะขาด เลยแสดงความหวังดี โดยการอาสาไปเสือกให้
“น้องชื่ออะไร?”
“เอ่อ...คินครับ”
“ปีอะไร??”
“ปี 1”
“คณะ?”
“แพทย์”
“แล้วมานั่งทำด๋อยอะไรที่วิศวะว่ะ ประเด็นคือมึงจ้องเพิ่อนพี่ทำไม?”
“ผมชอบพี่เค้าครับ” กูว่าแล้วววว
“เห้ย!!! ไอ้ยูน้องหมอปี 1 มันจะจีบมึงว่ะ!!!” จบประโยคนี้ของไอ้วิช ห่าเหี้ยในโรงอาหารก็โห่ร้องแซวกันยังกับพวกมันถูกหวย
พรุ่งนี้ กูว่ารู้ทั้งคณะแน่ๆ เผลอๆแม่งรู้กันทั้งมหาลัยยูไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เคี้ยวข้าวผัดในปากเสร็จ ปากก็โพล่งออกไปตามใจคิด
“ขาอ่อนกูก็ไม่ได้เห็นหรอกมึงน่ะ!!”
พอพูดไปแบบนี้ เสียงเหี้ยห่าในโรงอาหาร ยิ่งโห่ดังเข้าไปอีก
ยูหันไปจิกตาใส่ไอ้พวกบ้าในโรงอาหาร
พวกเหี้ยนี่ พ่อมึงเป็นนกหวีดรึไง!!!หันไปอีกที ก็เห็นไอ้วิชกอดคอตบไหล่ไอ้น้องหมอป้าบๆ
แล้วก็ยืนคุยกระซิบกระซาบอะไรกันไม่รู้
ยูมองสองคนที่ยืนคุยกัน แล้วก็ได้เห็นว่า ไอ้หมอนี่สูงพอๆกับไอ้วิชที่สูงมาก
กะด้วยตาเปล่า มันน่าจะสูงมากกว่า 185
หน้าตาก็คมคาย คิ้วเข้ม ตากลมๆ จมูกโด่ง ผิวไม่ขาวมาก แต่ก็ไม่คล้ำ ค่อนๆไปทางขาวมากกว่า
แหม..สูงชะลูดตูดปอดขนาดนี้ หน้าตามึงก็น่าจะไปเป็นดารานายแบบมากกว่ามาเป็นหมอนะ…………………………….
ถามว่าน้องหมอโดนตอกหน้าไปแบบนั้นแล้วยังกล้าจีบพี่ยูอีกมั้ย
ตอบได้เลยว่า “กะ กะ กะ กลัวที่ไหน”
ถึงพี่ยูจะดุเหมือนร็อตไวเลอร์ผมก็ไม่สนหรอกค้าบ ผมจะเอาความดีเข้าสู้นะ อิอิ ^ ^
ณ.หอพักนักเรียนในมหาวิทยาลัย
คินกำลังต่อคิวซื้ออาหารใต้หอพัก สายตามองไปเรื่อย แล้วก็ไปสะดุดกับมนุษย์เรื่องแสงที่ห่างไปในระยะร้อยเมตร กำลังเดินตรงเข้ามาที่โรงอาหารกับกลุมเพื่อนๆ
มืดๆแบบนี้พี่ยูโอโม่ชิบหาย ขาวเว่อร์ๆ เย็นนี้พี่ยูแต่งตัวน่ารักมาก ผมหน้าม้าโดนมัดเป็นจุกอยู่บนหัว เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเท่าเข่า ลากรองเท้าเตะที่ใครรู้ราคาคงต้องร้องโอ้วววววว
คินไม่สนร้านก๋วยเตี๋ยวที่กำลังต่อคิวซื้อร่วมๆสิบนาที เดินออกจากแถว ตรงเข้าไปหายูที่เดินทอดน่องมองโน่นมองนี่ตามนิสัย
เดินเข้าไปดักหน้าไว้จนยูที่ไม่ทันได้มองข้างหน้า เลยชนเข้ากับอกน้องคิน
“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยขวางทางทำไมวะ!!” แหมะ ตัวเท่าลูกหมา ปากเก่งจริ๊งงง
เพื่อนๆในกลุ่มหัวเราะกันคิกๆคักๆ แต่ก็คอยดูสถาณการณ์อย่างใกล้ชิด ก็ข้างๆนั่นแหละ ก้ากกกก
ยูเงยหน้ามองไอ้เปรตที่มาขวางการเดินชิลๆของตัวเอง ก็เจอไอ้น้องหมอหน้าด้าน ยืนยิ้มๆมองหน้าตนอยู่
“มองทำไม หน้ากูเหมือนพ่อมึงเหรอ!!” เขินนะเว้ยยยย
“หน้าพ่อผมไม่น่ารักเท่าพี่หรอก แต่พี่น่ะ..หน้าเหมือนคนที่ผมรัก” ^ ^ ยิ้มๆ
อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เสียงจากสัมพเวสีใกล้ๆทั้งหลาย
ยูถึงกับเหวอไปเลย ตาโตๆจ้องคินแบบ........... ช่างกล้าเนอะมึง
“เสี่ยวแดกว่ะหมอ!”
“ผมไม่เคยเสี่ยว”
“แล้วที่มึงพูดเมื่อกี้ละ”
“ผมพูดความจริงตะหากล่ะ”
กูว่าเลือดบ้ามึงมันเยอะนะหมอนะ เอาออกจากหัวซะหน่อยมั้ย?!TBC,,,,,
ขอโทษที่จั่วหัวไว้แล้วไม่โพสค่ะ
พอดีว่าจั่วทิ้งไว้แล้วก็ไปออกกำลังกาย ทำงาน และหลั่นล้ามา ก้ากกกกกกก
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกคอมเม้นค่ะ (กราบ) แนบตักเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
แบบว่า อยากจะขึ้นคำเตือนอยู่เหมือนกันนะว่า
นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายตามใจฉัน(คนเขียน) และอย่าไปคาดหวังกับมันมาก
เพราะว่าบางทีเราก็ไปติดนิยายของคนอื่นค่ะ
จริงๆตอนนี้กว่าจะเข็นออกมาได้ ก็ยากเย็น เพราะดันไปติดวีอาร์อยู่ ฮ่าๆๆๆ
และเราไม่มีสต๊อกนิยายอยู่ในมือเลย มันก็เลยช้านะคะ
และยังมีหลายคนที่สับสนอยู่ คือน้องหมอเป็นเมะนะค้า และพี่วิดวะของเราเคะจ้า คิกๆๆ
เจอกันตอนต่อไปฮับ