(14)
ผมชอบพี่
"ทำไมวะพี่ทิม ทำไมฮือออ พี่แป้งไม่ยอมบอกผม ทำไมพี่แป้งต้องมาเจอโรคร้ายด้วย" เปปเปอร์ระบายความรู้สึกพร้อมร้องไห้ในขณะที่ทิมนั่งบีบมือปลอบใจ
เปปเปอร์เดินทางมาถึงคอนโดของทิมได้สองชั่วโมงแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ เปปเปอร์เอาแต่นั่งเงียบเหมือนเก็บกด แต่พอทิมเอ่ยถามว่า มีอะไรไม่สบายใจบอกกันได้ เพียงเท่านั้น เด็กหนุ่มก็ปล่อยโฮตรงหน้าจนบัดนี้ก็ร่วมชั่วโมงที่น้ำตา น้ำมูกไหล ทั้งยังสะอึกสะอื้นไม่หยุด
ทิมสงสารเปปเปอร์ที่ดูเสียใจไม่น้อย และเขาก็เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี เพราะทิมเคยเจอเหตุการณ์สูญเสียน้องชาย แม้แป้งจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ภาพจำสำหรับตัวเปปเปอร์คงเข้าใจว่าการเป็นโรคร้าย เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดก็คงน้อยเต็มที
ภาพตรงหน้าทำให้ทิมเศร้าใจ เด็กหนุ่มยังร้องไห้คล้ายคนขาดใจ
"พี่ทิม พี่แป้งจะตายไหม? แล้วผมต้องทำยังไงดีพี่ ผมบอกแม่ตอนนี้เลยได้ไหม? หรือให้พี่แป้งบอก โอ้ย ฮือออ พี่ทิม ผะผมผม...." เปปเปอร์ร้องไห้จนปากสั่น ตัวสั่น และคนที่เฝ้านั่งมองมาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ทันใดนั้น
ฟึ่บ
ทิมดึงเปปเปอร์มากอด ตอนนี้ เปปเปอร์กำลังกังวลและคิดมากเกินไป เพราะเอาหลายเรื่องมารวมกัน ทิมคิดว่า ยามนี้ การให้กำลังใจเปปเปอร์คือสิ่งสำคัญ เขากอดพลางลูบหลัง ลูบไหล่ปลอบประโลม
"ฮืออออ ทำไมเรื่องนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับครอบครัวผมด้วยพี่ ผมทำอะไรผิด" เปปเปอร์ตัดพ้อโชคชะตา
"เปปเปอร์ครับ ค่อย ๆ ตั้งสติ ใจเย็น ๆ นะ"
"...ฮืออออ...."
"พี่ถามหน่อยสิ เปปเปอร์รักพี่แป้งไหม?"
"พี่ถามมาได้ไง ผมก็ต้องรักสิ พะ...พี่แป้งเป็นพี่สาวที่น่ารักและใจดีกับผมที่สุด ฮะ... ฮือออ" เปปเปอร์ตอบพลางสะอึกสะอื้น
"เปปเปอร์ครับ พี่ไม่รู้หรอกนะว่า หลังจากนี้ แป้งจะอยู่หรือไป แต่จะดีกว่าไหม? ถ้านับตั้งแต่ตอนนี้ เปปเปอร์จะใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุด"
ทิมผละห่างมามองหน้าเปปเปอร์พลางใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาเด็กหนุ่ม ดวงตาที่เคยสดใส บัดนี้กลับช้ำและแดงก่ำ
"....."
"ใช้เวลาอยู่กับแป้ง ให้กำลังใจแป้ง เหมือนที่เปปเปอร์ก็ต้องการกำลังใจอย่างตอนนี้" ทิมพูดขณะส่งยิ้มละมุน
เปปเปอร์มองหน้าพี่ทิมด้วยสภาพตาบวมตุ่ย เขาร้องไห้อย่างหนักจนลืมตาแทบไม่ขึ้น ขณะเดียวกัน เปปเปอร์ พยายามกลั้นน้ำตาให้หยุดไหล
"พะ...พี่อยู่กับผมนะ ย่ะ...อย่าหนีผมไปไหนนะ"
"พี่ก็ไม่ได้ไปไหนนี่ครับ" ทิมตอบพร้อมวางมือลงบนศรีษะ
"วันนี้ผมขอนอนค้างที่นี่ได้ไหม พี่ทิม?"
"ได้สิ แล้วพรุ่งนี้ พี่จะพาไปหาแป้ง"
เปปเปอร์พยักหน้าหงึกหงัก เขารู้สึกดีที่ตัดสินใจมาหาพี่ทิม และในวันที่เปปเปอร์มีเรื่องเครียด ไม่สบายใจ ยังดีที่เปปเปอร์ได้เจอคนที่พร้อมรับฟังปัญหาและไม่รำคาญ กับการที่เปปเปอร์เอาแต่นั่งระบายความทุกข์ใจอยู่คนเดียว
การมีใครสักคนที่พร้อมเข้าใจทุกอย่าง มันช่างดีเหลือเกิน เปปเปอร์มองหน้าพี่ทิมที่ไม่มีเหนื่อยหน่ายใจตั้งแต่อยู่ด้วยกัน เขาฟังอย่างใจเย็นและไม่ได้ฟังแบบผ่าน ๆ ทุกอย่างที่พี่ทิมเป็น ทั้งความอบอุ่นบวกกับความดูแลเอาใจใส่ที่ได้รับทำให้เปปเปอร์ผ่อนคลาย สบายใจขึ้น และเพราะการกระทำทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้เปปเปอร์อยากมีพี่ทิมอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ไปตลอด
"ผมมารบกวนพี่แบบนี้ แฟนพี่จะว่าไหม?"
ทิมเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างมีคำถาม ได้ยินเสียงแผ่ว ๆ ถามออกมาก็นึกขำ ทิมจะไปมีใครได้ ในเมื่อเปปเปอร์เองก็เคยแผลงฤทธิ์ใส่คนที่เขาคุยด้วยเมื่อคราวก่อน จนตอนนี้ ทิมก็ไม่อยากหาใครให้เหนื่อยใจ นอกเสียจาก...
"ก็เปปเปอร์ไม่ใช่เหรอแฟนพี่?" ทิมแหย่
"ผมไม่ขำนะ ผมพูดจริง ๆ ผมกลัวแฟนพี่จะมาอาละวาดใส่ผม" เปปเปอร์บอกเสียงแผ่ว เพราะตั้งแต่รู้ว่าพี่ทิมไม่ใช่แฟนจริง ๆ ของพี่แป้ง ก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่า บางที พี่ทิมอาจมีตัวจริงอยู่ในใจ โดยที่แม้แต่พี่แป้งเองอาจไม่รู้ก็ได้
การฟังคำตอบจากปากพี่ทิมจึงทำให้เปปเปอร์มั่นใจได้มากที่สุด
"คนที่อาละวาดล่าสุดก็เปปเปอร์ไงครับ"
เปปเปอร์ชะงักงัน ถ้อยคำนั้นมันทำให้เขาหวนนึกถึงตอนที่ตัวเองสร้างเรื่องราวอาละวาดใหญ่โตเมื่อนานมาแล้ว
"ผม คือ...ผม ขอโทษ" ทิมยิ้มยามที่เห็นเปปเปอร์หน้าสลด แม้จะงงเล็กน้อยว่าทำไมอยู่ดี ๆ เปปเปอร์มาถาม แต่เขาก็ตอบ
"พี่โสดครับ"
"....."
"จีบพี่ได้นะ"
กึก
เปปเปอร์อึ้ง และใจสั่นหวั่นไหว ตอนที่อีกฝ่ายพูดประโยคนั้นออกมา เปปเปอร์ดูไม่ออกและไม่รู้ว่า เขาพูดทีเล่น ทีจริงหรือเปล่า เหลือบมองคนยิ้มกรุ้มกริ่มครู่หนึ่งก่อนหลุบตาลงเพราะเกิดเขินอาย
"ผมไปอาบน้ำก่อนนะพี่ทิม"
เปปเปอร์เปลี่ยนเรื่องเพราะทำตัวไม่ถูกที่อีกฝ่ายรุกแรงจนไม่รู้จะไปต่ออย่างไร ขอกลับไปตั้งหลักก่อน จึงเดินดุ่ม ๆ ไปทางประตูห้องนอนด้วยอาการใจเต้นแรงไม่หาย
กระทั่งอาบน้ำเสร็จ เปปเปอร์มานั่งบนเตียงด้วยความสบายใจจากการได้ระบายความทุกข์ใจให้ใครสักคนได้รับฟัง แม้นความเศร้าเรื่องพี่สาวจางลงไป กลับกลายมีเรื่องใหม่มากวนใจแทนที่สร้างความกังวลจนไม่กล้าทิ้งตัวลงนอน เพราะเขินที่ต้องนอนร่วมเตียงเดียวกับพี่ทิม หลังจากเขาพูดเชิงให้ความหวังจนเปปเปอร์ก็เผลอคิดไปไหนต่อไหน ยังคงครุ่นคิดอยู่ จนกระทั่ง พี่ทิมจัดการธุระตัวเองเสร็จเดินเข้ามาในห้องนอน เพียงเห็นหน้าพี่ทิมก็นึกเขินขึ้นมาอีกระลอกรีบหลุบตาลงโดยอัตโนมัติ
"ผมไปนอนโซฟาดีกว่า" เปปเปอร์ตอบขณะที่พี่ทิมทิ้งตัวลงนั่งริมเตียง
"ทำไมครับ กลัวพี่?"
"ไม่ใช่นะ แต่คือ ผมเกรงใจ"
"ไม่ต้องเกรงใจครับ อีกอย่าง โซฟามันเล็กด้วย ถ้าเปปเปอร์ไม่คิดอะไรกับพี่ก็นอนบนเตียงเดียวกันได้ สบายตัวกว่า"
เปปเปอร์กัดปากแน่น อยากตอบเหลือเกินว่าก็เพราะคิดไม่ซื่อไง ถึงไม่กล้านอนด้วย แต่สุดท้าย เปปเปอร์ก็เงียบ มองซ้าย มองขวาหาตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งตำแหน่งที่ว่า ก็แทบจะตกเตียง
เสียงร่างกายขยับตัวไปมาเสียดสีกับผ้าปูที่นอนทำให้เปปเปอร์ใจเต้นตึกตัก เมื่ออีกฝ่ายล้มตัวลงนอนจนแขนถูกัน
"พี่ไม่ปิดไฟเหรอครับ?" คนที่นอนตัวแข็งเอ่ยถาม
ทิมไม่ได้ตอบ แต่กลับยกตัวขึ้นตะแคงข้าง มือท้าวศรีษะมอง แล้วจู่ ๆ มือหนาก็ยื่นมาแตะใต้ดวงตาของเปปเปอร์
"ตาบวมเลยเรา" ทิมตอบไม่ตรงคำถาม เขากลับพูดในสิ่งที่อยากพูดด้วยความเป็นห่วง ฟากเปปเปอร์ขบริมฝีปากเข้าหากัน
ปลายนิ้วเย็น ๆ ของทิมค้างไว้ใต้ตา ก่อนเลื่อนมาแตะพวงแก้ม ไล่มายังริมฝีปากของเปปเปอร์
"แล้วหายเครียด หายเศร้ารึยังครับ?" ทิมถาม
"ก็หายแล้วพี่" เปปเปอร์พูดจบ
"ดีแล้วครับ พี่จะได้หายห่วง" ทิมอมยิ้มพลันโยกศรีษะเขาเบา ๆ
ความอบอุ่น ใจดี และเป็นห่วงอย่างจริงใจ ทำให้เปปเปอร์เงยหน้ามองอีกฝ่าย จนทั้งคู่ประสานสายตากันและไม่มีใครหลบตา จู่ ๆ เปปเปอร์ก็เผลอพูดความในใจออกมา
"ผมชอบพี่"
ดูเหมือนทิมจะไม่มีอาการตกใจที่ได้ยิน เพราะเพียงสิ้นเสียงเด็กหนุ่มไม่ทันไร ทิมประคองใบหน้าเปปเปอร์และโน้มตัวไปจูบปาก ทั้งสองบดเบียดริมฝีปากเข้าหากันเนิ่นนาน ก่อนสอดเรียวลิ้นเข้าภายในโพรงปากเก็บกวาดความหวานผสานความต้องการอันลึกซึ้ง ทั้งคู่ใช้เวลาดื่มด่ำกับรสจูบแสนหวาน และเป็นเปปเปอร์ที่ผละออกก่อน
คราวนี้ ไม่ใช่จูบเพื่อประชดใคร ไม่ใช่จูบเพื่อใช้อารมณ์ ทว่า เป็นจูบที่เผยความรู้สึกจากใจของทั้งสองฝ่าย
"เปปเปอร์คิดอะไรอยู่ครับ" ทิมถามกระตุ้น หลังจากที่จูบเสร็จ เขาเห็นสีหน้าเปปเปอร์ดูกังวลจนดูออก
"ไม่มีครับ นอนเถอะพี่"
"แน่ใจนะว่าถ้านอน เราจะไม่เก็บไปคิดมาก" ทิมย้ำอีกครั้งเพราะต้องการให้เปปเปอร์พูดสิ่งที่ติดค้างในใจออกมา
"พี่จูบผมเพราะพี่เห็นว่าผมชอบพี่เลยเล่นด้วยขำ ๆ ใช่ไหม?"
"เปปเปอร์..."
"ผมกลัวพี่มองผมเป็นของเล่น" เปปเปอร์ตอบเบาเหมือนคนไม่มั่นใจ ฟากทิมเงียบไปอย่างใช้ความคิด
"ทำไมอยู่ ๆ ก็กลัวขึ้นมา เปปเปอร์คนที่มั่นใจ อาละวาดพี่ต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นหายไปไหนนะ?" ทิมหยอกเอิน
"ก็ตอนนั้นโมโหที่พี่กล้าหลอกพี่แป้ง แล้วพี่จะแซวทำไมน่ะ?" เปปเปอร์หน้ามุ่ย
"พี่ขอโทษนะ แต่ทำไมถึงคิดว่าพี่จะต้องมองเปปเปอร์เป็นของเล่นด้วยล่ะครับ" ทิมบอก
"เพราะคนที่ผมเห็นพี่ควง ไม่มีใกล้เคียงกับผมสักนิด" เปปเปอร์บอก และอะไรไม่รู้ดลใจทำให้เขากล้าพูด กล้าเปิดเผยความรู้สึก ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าเขินอายม้วนต้วนแทบตาย
"ผมนอนแล้วนะ" เปปเปอร์ทำเสียงตึงใส่ หลังจากพี่ทิมไม่ตอบคำถามก็คงจะจริงอย่างที่เปปเปอร์คิด
เด็กหนุ่มพลิกตัวตะแคงข้างนอน ฟากทิมอมยิ้ม ก่อนโน้มตัวไปจูบแก้ม
"เฮ้ยพี่ทำอะไรน่ะ?" เปปเปอร์ถูแก้มตัวเองและพลิกตัวอย่างไวเพื่อไปหาคนต้นเหตุ
"จูบคนที่ชอบ"
กึก
"พะ ....พี่ทิม พี่หมายความว่าไง?" เปปเปอร์ถามอีกครั้ง
"ความหมายก็ตรงตัวนะครับ นอนเถอะ และไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ฝันดีครับ เปปเปอร์"
.
.
.
.
หลังจากที่เมื่อคืน เปปเปอร์ควรจะนอนหลับสนิทเมื่อได้ยินถ้อยคำดี ๆ แต่กลายเป็นว่า เปปเปอร์ดันตาสว่าง นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเพราะตื่นเต้นและพยายามหาคำตอบกับสิ่งที่ได้ยินจากปากพี่ทิมเมื่อคืน ว่าคือ ความจริงหรือแค่หมาหยอกไก่หลอกให้ดีใจเก้อหรือเปล่า?
การครุ่นคิดวนอยู่เรื่องเดิม จึงทำให้เปปเปอร์เพิ่งนอนไปเมื่อตอนตีสี่และยามนี้ที่นาฬิกาบอกเวลาว่าแปดโมงเช้าก็มีคนอายุมากกว่าลุกขึ้นมาคลอเคลียข้างแก้มเปปเปอร์ จนเจ้าตัวต้องพยายามเค้นเสียงออกไปทั้งที่งัวเงีย
"พี่ทิม ผมง่วง"
ทิมมองเด็กหนุ่มขี้เซา งอแงก็แต้มยิ้ม ก่อนหยัดกายขึ้นมานั่งมองคนที่หลับใหล อยากจะฟัดแก้มให้ช้ำ แต่ยังติดเกรงใจ ไม่กล้าบุ่มบ่ามและไม่อยากกวนจึงลุกไปอาบน้ำก่อน
และแล้วเวลาก็ผ่านไปได้ชั่วโมงกว่า เปปเปอร์ถึงตื่นเต็มตาแลซ้ายแลขวา หาพี่ทิมไม่เจอ ก็ลุกขึ้นจากเตียง เดินเปิดประตูออกนอกห้องไปหาก็ได้กลิ่นหอม ๆ จากอาหาร เดินตามกลิ่นไป เห็นแผ่นหลังกว้างยืนง่วนกับการทำอาหารเช้า เปปเปอร์ยืนเอนตัวพิงกรอบประตู
"พี่ทำอะไรน่ะ?"
"ทำอาหารเช้าครับ ไปอาบน้ำสิ พี่รอกินด้วยกัน"
ตั้งแต่ที่เปปเปอร์บอกความในใจ ดูเหมือนว่าถ้อยคำที่พี่ทิมพูดมาแต่ละที ยิ่งทำให้เปปเปอร์คิดไปไกล
"เดี๋ยวผมรีบไปอาบน้ำนะ"
"ครับ"
เปปเปอร์เดินกลับไปยังห้องน้ำด้วยใจเต้นแรง ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับสิทธิพิเศษด้วยการที่พี่ทิมลุกมาทำอาหารเช้าให้ เป็นเรื่องที่มีความหมายต่อใจเปปเปอร์มาก และนาทีนี้ เปปเปอร์รู้ตัวเองว่ากำลังถลำลึกไปมากกว่าเดิม ดังนั้น มันคงถึงเวลาที่เด็กหนุ่มต้องถามหาความจริงกับพี่ทิมเสียทีว่าเขาคิดอย่างไรกับเปปเปอร์กันแน่
จัดการธุระตัวเองเสร็จ เปปเปอร์เดินออกมานั่งตรงโต๊ะอาหารอย่างเก้ ๆ กัง ๆ สายตาจ้องมองอาหารที่ตกแต่งสวยงาม น่ากิน จนเขาลอบกลืนน้ำลาย
"พี่ยิ้มอะไร?" เปปเปอร์เหลือบมองอีกฝ่าย ถึงเห็นว่าพี่ทิมท้าวคางมองหน้าไม่หยุด
"เปล่าครับ มากินกัน เสร็จแล้วจะได้ไปหาไทม์กับแป้ง"
เปปเปอร์พยักหน้าพลางทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามพี่ทิม ใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกยัดเข้าปาก ทั้งสองยังคงนั่งกินไม่พูด ไม่จา และเป็นเปปเปอร์ที่หาจังหวะที่เหมาะสม เพื่อรอถาม
"พี่ทิมครับ เมื่อคืนที่พี่พูดกับผมแบบนั้น พี่พูดจริงหรือแค่ล้อเล่นครับ" เปปเปอร์ถามอย่างพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นเพราะแม้ใจจะกล้าถาม แต่ข้างในแอบกลัวในคำตอบ
ทิมมองเปปเปอร์ที่ดูจริงจังจนแปลกใจ ไม่เคยเห็นเปปเปอร์อยู่ในมุมที่มุ่งมั่นกับการเอาคำตอบ จนไร้แววล้อเล่นขนาดนี้
"ถ้าพี่บอกว่า พี่ล้อเล่น? จะถอดใจเลยหรือครับ?"
"แล้วผมจะเดินหน้าไปทำไม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิดหวังล่ะครับ"
ทิมมองใบหน้าเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย
"ยอมแพ้ง่ายนะเรา" ทิมแหย่
"ที่ผ่านมาผมผิดหวังตลอด ล่าสุดก็แฟนนอกใจ ผมไม่ได้มีหัวใจไว้เจ็บบ่อย ๆ นะครับพี่ทิม" เปปเปอร์ตอบเสียงจริงจัง
เป็นครั้งแรกที่ทิมได้ยินเรื่องส่วนตัวออกมาจากปากเปปเปอร์ เขารวบมีดและส้อมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
"ถ้างั้นพี่ขอวันนึงได้ไหมครับ? ลองจีบพี่ให้ดูหน่อย พี่อยากรู้ว่าเวลาเปปเปอร์จีบพี่จะเป็นยังไง?"
เปปเปอร์มองพี่ทิมที่สุดท้ายก็ไม่ยอมตอบคำถาม กลับยื่นเงื่อนไขอื่นมา
"ก็ได้ครับ"
.
.
.
.
หลังจากได้เปิดเผยความรู้สึกซึ่งกันและกัน แทนที่จะสนทนากันได้ลื่นไหล กลับกลายเป็นว่า ภายในห้องโดยสารรถยนต์กลับเงียบเชียบ เนื่องจาก เปปเปอร์ประหม่าเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นจีบอย่างไร? เพราะปกติที่ผ่านมา เปปเปอร์จีบรุ่นน้องกับรุ่นเดียวกันมาตลอด
"เป็นตัวเองแหละครับเปปเปอร์" ทิมเห็นเปปเปอร์ดูเกร็งเลยบอก
"ก็.ผม..."
"โอเคพี่ไม่กดดันเปปเปอร์แล้ว เดี๋ยวเราแวะห้าง หาซื้ออะไรให้ไทม์กับแป้งก่อนดีกว่า" ทิมเปลี่ยนเรื่อง
"อ่าฮะ"
ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงที่หมาย หาที่จอดรถได้เหมาะเจาะแล้ว ทั้งคู่ก็เดินเข้าสู่ตัวอาคาร ลงบันไดเลื่อนไปยังชั้นซูเปอร์มาร์เก็ต ตั้งใจหาซื้อพวกผลไม้ไปฝาก ตลอดการเลือกซื้อดูของ เปปเปอร์ยอมรับว่าไม่คุ้นชินที่ได้ใกล้ชิดพี่ทิมในความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เปปเปอร์พยายามกลับมาทำตัวให้เป็นธรรมชาติดังเดิม และลองเป็นฝ่ายชวนพี่ทิมคุยทั้งเรื่องทั่วไปและเรื่องส่วนตัว
แม้ว่าจะรู้จักพี่ทิมในฐานะสามี (ตัวปลอม) พี่แป้งมานานพอสมควร แต่เปปเปอร์กลับรู้สึกว่าที่ผ่านมา เปปเปอร์ยังไม่สนิทสนมกับพี่ทิมเท่าช่วงหลังมานี้ ทั้งที่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้เผยความรู้สึกและหันหน้าเข้ามาคุยกันอย่างจริงจัง แต่มันกลับทำให้เปปเปอร์ได้รู้จักตัวตนพี่ทิมอย่างละเอียดกว่าแต่ก่อน
ยิ่งได้มีโอกาสคุยก็ยิ่งหลงเสน่ห์ความคิด ความอ่าน ความอบอุ่นและความใจดี
"พี่ทิม ซื้อของเสร็จแล้ว พี่อยากกินอะไรไหม? เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" เปปเปอร์ถามหลังจากหยุดคิดประมวลผลเรื่องนิสัยอีกฝ่าย
แต่ทิมกลับอมยิ้ม
"นี่เริ่มจีบพี่แล้วใช่ไหม?"
"ใช่ พี่จะถามให้เสียความมั่นใจทำไมเล่า?" เปปเปอร์ตอบหน้างอ
"ฮ่า ๆ ครับ พาพี่ไปดื่มกาแฟหน่อยสิครับ เปปเปอร์" ทิมบอก เปปเปอร์พยักหน้ารับทราบ
ทิมขำและเอ็นดูเด็กหนุ่มที่พยายามแสดงถึงความมุ่งมั่นในการจีบจนไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ แบบนี้ก็ดูแปลกตาและน่ารักดีเหมือนกัน
"แต่ผมขอแวะซื้อชานมไข่มุกก่อนนะ" เปปเปอร์พูดอีกครั้ง
"ครับ"
ตกลงกันเรียบร้อย ก็เดินหาซื้อของอีกไม่นาน ถึงไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ หลังทำธุระเสร็จแล้วก็ถึงเวลาผ่อนคลาย โดยเป้าหมายต่อไป ก็คือ ร้านชานมไข่มุก
เปปเปอร์เดินไปต่อแถว โดยมีพี่ทิมยืนข้าง ๆ เปปเปอร์จึงชวนคุยต่อ เพื่อต้องการศึกษาดูใจพี่ทิมให้ได้มากที่สุด ขณะที่พี่ทิมเล่าเรื่องตลกของตัวเอง เปปเปอร์เผลอหัวเราะเสียงดัง จนต้องหุบปากฉับตอนที่แอบเห็นคนมองมา ขณะที่กวาดสายตาเพื่อดูว่ามีใครคนอื่นมองอีกหรือเปล่า สายตาดันเหลือบไปเห็นนิวยืนอยู่กับพวกเพื่อน ๆ ไม่ไกล เปปเปอร์เบิกตาโพลงตกใจปนเหวอที่ซวยมาเจอแฟนเก่า เขารีบถอยหลังกรูดแล้วดึงแขนพี่ทิมให้มาเป็นกำบัง
"เป็นอะไร?"
"เปล่าครับ พี่"
ทิมหรี่ตามองการกระทำเด็กหนุ่มที่ดูมีพิรุธ ทั้งสายตาหลุกหลิก
"พี่ทิม ผมไม่กินแล้ว ไปเถอะ" เปปเปอร์ตัดสินใจเอ่ย เพราะไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน
ทิมเห็นว่าเหลืออีกแค่คิวเดียวก็ถึงคิวของเปปเปอร์จึงสงสัยว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เปปเปอร์ต้องยอมล่าถอย ถ้าไม่ใช่เพราะเจอคนไม่อยากเจอ
แต่ทิมก็ไม่ขัดใจ จึงตอบรับเด็กหนุ่ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เห็นเปปเปอร์ยืนตัวแข็งส่งสายตามองไปอีกทางหนึ่งจึงหันตามไป ในขณะที่เปปเปอร์เดินออกจากคิวที่ยืนต่อเขาชะงักเมื่อสบตานิวโดยบังเอิญ และเมื่อนิวเห็นจึงส่งยิ้มให้ ปลีกตัวจากเพื่อนเพื่อเดินมาหา
ยิ่งกลัว ยิ่งเจอ
"พี่เป๊ป" นิวยิ้มกว้างพลางโบกไม้โบกมือทัก ฟากเปปเปอร์จิ๊ปาก ไม่คิดว่านิวจะเห็นและก็ไม่คิดอีกนั่นแหละว่าคนที่นอกใจไปมีคนอื่นก่อน จะยังใจกล้า หน้าด้านมาทักคนที่ตัวเองก็เพิ่งทำร้ายหัวใจกันไป
เปปเปอร์มองนิวที่เดินใกล้เข้ามา จึงเห็นรูปร่างชัดเจนว่านิวดูต่างจากเดิม โดยปกตินิวก็เป็นคนตัวเล็กอยู่แล้ว แต่คราวนี้ นิวผอมกระหร่อง และไม่สดใสเหมือนอย่างเคย
เปปเปอร์เห็นท่าไม่ดีรีบสะกิดพี่ทิมแล้วกระซิบ
"พี่ทิมช่วยเล่นละครเป็นแฟมผมหน่อยนะ"
ทิมหรี่ตามองเปปเปอร์สลับกันคนที่สวมชุดนักเรียนกำลังเดินใกล้เข้ามา
"ถ้าทำเพราะประชดคนอื่น พี่ไม่ทำนะครับ"
"โธ่พี่ทิมช่วยหน่อยนะ"
ทิมไม่ตอบ จนคนที่สามก้าวเท้ามาหยุดตรงหน้าทั้งคู่
"พี่เป๊ปเป็นไงบ้าง สบายดีไหมครับ? นิวคิด.."
"เปปเปอร์อยากกินชาเขียวปั่นไม่ใช่หรอครับ เราไปกันเถอะ" ทิมหันไปหาเปปเปอร์พลันยิ้มละมุนพร้อมสอดประสานปลายนิ้วกระชับเข้าหากัน และจูงมือเปปเปอร์ไปที่อื่น
นิวที่เพิ่งเดินมาทักแฟนเก่าไม่ทันไร ยืนหน้าชากรุ่นโกรธปนอับอายที่มีคนไม่รู้จักมาฉีกหน้ากันเห็น ๆ นิวโมโหจึงตะโกนเสียงดังใส่
"ไอ้คนชั่ว นอกใจคนอื่น เลิกกันไม่ทันไร ยังมีหน้าพาคนใหม่มาเย้ยอีก"
เปปเปอร์หยุดเท้า โมโหในสิ่งที่นิวพูดไม่เป็นความจริง ตัวนิวต่างหากที่ทำในสิ่งที่ตัวเองพูด เปปเปอร์ไม่พอใจหันหลังจะกลับไปด่าคนหน้าไม่อาย แต่พี่ทิมกระชับมือแน่นแล้วพยายามลากให้เดินไปข้างหน้า
"พี่ปล่อยผม"
"เปปเปอร์อย่าหลงกลเขาครับ ปล่อยให้เขาบ้าไป"
"พี่ทิม แต่มันว่าผม"
"เปปเปอร์ครับ อย่าไปสนคนสติไม่ดี เรามีเรื่องที่ควรสนใจมากกว่านี้ พี่สาวเปปเปอร์ไงครับ เขากำลังรอกำลังใจจากเราอยู่นะ" คราวนี้ทิมไม่ได้พูดเพียงอย่างเดียว เขากลับเอื้อมมือไปลูบแก้มและจุดรอยยิ้มอบอุ่น
ความหงุดหงิด โมโหบรรเทาลง เมื่อมือเย็น ๆ ลูบแก้มอย่างช้า ๆ เปปเปอร์ใจเต้นแรงที่พี่ทิมทำต่อหน้าคนมากมายและกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ เปปเปอร์แพ้สัมผัสและความใจเย็นของพี่ทิม เปปเปอร์ไม่ดื้อดึงดัน เขาเงียบเสียงยอมทำตามคนอายุมากกว่าด้วยอาการที่พอจะสงบลง
หลังจากที่ทิมพาเปปเปอร์มาถึงร้านกาแฟขนาดใหญ่ในห้าง ทิมให้เปปเปอร์ไปหาที่นั่งก่อน ส่วนเขาก็ยืนสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองและให้เด็กหนุ่ม จ่ายเงินเสร็จสรรพถึงกลับไปหาเด็กหนุ่มที่ยังนั่งหน้างอ
"อารมณ์ไม่ดี เพราะไม่ได้กินชานมไข่มุกใช่ไหม?" ทิมเย้า
ฟากเปปเปอร์มองคนแซวก็อดกลอกตามองบนไม่ได้
"โธ่พี่ทิม อย่าแซวผมได้ไหม? ผมเซ็งจริง ๆ นะที่ซวยมาเจอแม่ง..." เปปเปอร์บ่นพลางขยี้ผมอย่างหงุดหงิด
"แย่จัง คนที่จีบพี่อารมณ์เสียซะแล้ว"
"พี่ทิมอะ" เปปเปอร์ถลึงตาใส่พี่ทิม
"คนนั้นแฟนเก่าหรือครับ?"
"ใช่ครับพี่"
"ยังเรียนมัธยมอยู่เลย"
"พี่ไม่ถามได้ไหม? ผมไม่อยากคุยเรื่องมันอีก"
"แต่คุยเรื่องของเราได้ใช่ไหม?"
เปปเปอร์มองคนที่พูดจริงจัง หลุบตา ขณะพยักหน้า
"แล้วนึกไง รอบนี้ชอบคนแก่ล่ะครับ?" ทิมแซว
"พี่เหมือนคนในฝันของผม" เปปเปอร์ตัดสินใจพูดเรื่องจริง หากพี่ทิมจะมองว่าบ้าก็ช่างเถอะ
"หืมมม? ในฝัน? นี่เรื่องจริงหรือ?"
"จริง ถ้าผมเล่าให้ฟังพี่ก็จะหาว่าผมบ้า"
"ถ้างั้นลองเล่ามาก็ได้ครับ พี่ก็ชักอยากรู้เหมือนกันว่าแฟนในอนาคตพี่จะบ้าขั้นไหน"
"แล้วทำไมต้องอนาคตล่ะครับ เป็นตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ?"
ฟากเปปเปอร์สวนกลับ จนทำให้คนที่ได้ยินชะงักก่อนระเบิดหัวเราะออกมา
..........................................
เรื่องนี้จะจบแล้วน้าาา ขอบคุณทุกการติดตามมากเลยค่า
คนอ่านน่ารัก จุ๊บ ๆ