เป็นเช่นรัก ตอนที่ 19.2ถ้าหาคิดเช่นไม่เจอที่ร้านอาหาร ก็แสดงว่าคิดเช่นอยู่ที่ค่ายมวย คิดเช่นไม่เคยกำหนดวันที่แน่นอนว่าในหนึ่งอาทิตย์ จะเข้าร้านวันไหน เข้าค่ายวันไหน
เพื่อไม่ให้ทุกอย่างเป็นระบบ คาดการณ์ไม่ได้ ดักเจอไม่ได้
เพราะค่ายมวยที่คิดเช่นดูแลอยู่กำลังจะเปลี่ยนไปช้าๆ หลายครั้งแล้วที่คิดเช่นทำให้การขึ้นชกมวยพลิกไปจากที่บางคนวางไว้
คนกลุ่มนั้นสูญเสียรายได้ คิดเช่นถูกเขม่นเสียแล้ว
ดังนั้นต้องระวังตัว
คุณหยกไม่ชอบใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่
“คุณคิดกำลังจะทำปัญหาหรือเปล่า” วันหนึ่งคุณหยกเข้ามาเตือน
“คุณหยกดูบัญชีอยู่นี่นา คุณหยกก็น่าจะเห็นว่าคุณคิดไม่ได้ทำรายได้หายไปเลยสักบาท”
คุณหยกถอนหายใจ “แต่คนพวกนั้นอยู่กับมวยมานาน คุณคิดไปขัดรายได้เขา”
“เปล่าสักหน่อย ใครจะเล่นอะไร คุณคิดไม่ได้ขวาง คุณคิดก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อพิทักษ์โลก ขนาดนั้นหรอก แต่มันต้องไม่ตุกติกไง”
“บางกลุ่ม เป็นกลุ่มที่เราใช้งานอยู่”
“ก็ถึงเวลาที่เราต้องคัดคนที่เราทำงานด้วยแล้วล่ะคุณหยก คนที่พร้อมจะโกงได้ตลอดนี่ ก็ตัดๆทิ้งไปเถอะ คุณหยกเคยได้ยินไหม คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปกินแมคโดนัลด์”
คุณหยกทำหน้าเหมือนอยากจะตีคิดเช่นแรงๆสักป้าบ “ยังจะมาทำเป็นเล่นมุก คุณหยกไม่เล่นด้วยหรอกนะ”
“อ้าว ไม่แก้สำนวนนี้ให้คุณคิดหน่อยเหรอ”
คุณหยกไม่สนใจ
“มันไม่ได้ง่ายๆเหมือนกับการยื่นซองขาว ให้คนออกจากงานหรอกนะ เราพึ่งพากันมานาน ไม่มีธุรกิจพวกนี้ คนพวกนี้ ใครจะอยากดูมวย”
“มีสิคุณหยก ดูมวยเพียวๆให้มันเป็นกีฬา สนุกจะตาย”
“ไหนคุณคิดบอกว่า ยอมไม่ได้แค่เรื่องล้มมวย” ฟังดูแล้วเหมือนจะล้างบางมากกว่า
หยกเริ่มไม่แน่ใจว่า คิดถูกหรือเปล่าที่ให้คิดเช่นมาคุมค่ายมวย
เหมือนคิดเช่นทำเป็นไม่อยากจะยุ่งกับวงการนี้ แต่พอสบโอกาสก็เข้ามาเปลี่ยนมัน ในทิศทางที่อยากให้เป็น
การกระทำหลายอย่างสัมผัสได้ว่า นี่เป็นสิ่งที่คิดไว้นานแล้ว
คุณหยกมองดูผู้ชายที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย
ซ่อนอะไรไว้เยอะแยะเชียวคุณหยกหรี่ตามองคิดเช่น
“คุณคิดหลอกคุณหยก”
“อารายกัน ไม่เห็นรู้เรื่อง” คิดเช่นยิ้มเผล่
“คุณคิด คุณหยกเริ่มเป็นห่วงจริงๆแล้วนะ”
“คุณคิดไม่เป็นอะไรหรอก คุณหยก”
ขอให้เป็นอย่างนั้นคิดเช่นเอนตัวพิงกับเก้าอี้หนานุ่มในห้องทำงาน หลับตาเพื่อผ่อนคลายอย่างเหนื่อยล้า
การดูแลกิจการสองอย่างพร้อมกันทำเอาหมดแรง
จับปลาสองมือมันเหนื่อยจริงๆด้วย ดีที่ รักแท้กับเป็นหลัก ไม่ได้กลายเป็นปลาที่ดิ้นขลุกขลักจนจับตัวยากไปด้วย
ไม่อย่างนั้นคิดเช่น อาจไม่มีแรงจะทำอะไรพวกนี้
‘อะไรพวกนี้’ ที่คิดเช่นไม่ยอมรับกับคุณหยก
บางทีคุณคิดก็อยากเล่นบทผู้พิทักษ์บ้างนะคุณหยกประตูเปิด แต่คิดเช่นไม่แปลกใจอะไรกับการถือวิสาสะนี้
ยังคงพักสายตาอยู่แบบนั้น
พอใกล้ ก็รู้ได้เอง ว่านี่คือ รักแท้
คนที่เดินอ้อมมาหยุดหน้าเก้าอี้ทำงาน โน้มตัวเข้าหา เคาะเบาๆที่หน้าผากของคิดเช่น แล้วปล่อยให้คนผมยาวซุกหน้าลงบนตัวของเขา
“เรียนเหนื่อยไหม” เสียงคำถามอู้อี้ เพราะคิดเช่นซุกหน้าอยู่อย่างนั้น เพื่อสูดดมกลิ่นของรักแท้
ตัวของรักแท้ตอนนี้ไม่มีกลิ่นไอแดด
“พาไปขี่รถเล่นหน่อย” คิดถึงกลิ่นแบบนั้นจัง กลิ่นของความอุ่นร้อนที่เคล้ากับกลิ่นเหงื่อของรักแท้
หนีไปเที่ยวเล่นสักสองสามชั่วโมงน่าจะดีรักแท้โอบคนที่ยังคลุกหน้าไปมากับพุงของเขาให้แนบชิดมากขึ้นอีกนิด
ช่วงหลังมานี้รักแท้ได้ข้อสรุปว่า เวลาคิดเช่นเหนื่อย จะอ้อนมากเป็นพิเศษ
ซึ่งมันน่ารักดีเขาจับปลายผมของคิดเช่นเล่น สะบัดมันไปมา
ที่จริงก็คิดถึงมอเตอร์ไซค์ของตัวเองเหมือนกัน แต่…“นั่งรถเล่นแทนแล้วกัน”
มันเป็นรถนำเข้าที่คุณดิษย์หาให้เขาสามวันหลังจากที่ยกหูไปขอ
รักแท้ไม่เคยขอของอะไรจากคุณดิษย์เลย แทบจะเพิกเฉย ไม่ยินดีกับทุกอย่างที่คุณดิษย์ซื้อให้
แต่ครั้งนี้
“พอขอทีก็เล่นของหายากเลยนะเจ้าลูกชาย” คุณดิษย์ทำเหมือนจะบ่น แต่น้ำเสียงกลบความปลื้มใจไว้ไม่มิดเพราะในที่สุดก็สามารถจะเป็นพ่อที่ลูกชายพึ่งพาได้
BMW X5 คันนี้เทอะทะไปสักหน่อยสำหรับรักแท้ แต่พอรู้ว่าคุณดิษย์ตั้งใจอย่างมากที่จะหามาให้
รักแท้จึงไม่คิดจะเปลี่ยน
“ปกติมันใช้เวลาติดตั้งกันเป็นเดือน แต่พอรักโทรมาเท่านั้น คุณดิษย์ โทรไปเร่งลูกน้องทันทีเลย ถามแค่ว่า ‘ที่สั่งไว้ได้หรือยัง’ ป๊าเดาว่า พ่อเขาคงเตรียมการณ์ไว้ให้รัก มาสักพักแล้วล่ะ” ป๊าจิณณ์โทรมาเล่าให้ฟัง
ตอนนี้รักแท้จึงกลายเป็นหนุ่มหล่อน่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในมหาวิยาลัย
“โอโห ไอ้รัก แม่ง ปกติก็หล่อแบบสาวยอมให้ฟันไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอนนี้เปิดตัวว่าทั้งรวยทั้งดัง มึงเหลือที่ให้พวกกูยืนบ้าง”
“เออ ทำไมมึงไม่เคยบอกเลยวะ ว่าพ่อมึงรวยขนาดซื้อรถคันหลายล้านให้มึงขับ แถมยังเป็นคนใหญ่คนโตซะด้วย”
รักแท้แทบไม่ตอบอะไร ได้แต่โบกมือไล่ไอ้เพื่อนทั้งหลาย ที่บ่นอะไรห่ามๆไปตามเรื่อง พวกมันก็พูดมากอย่างนี้เป็นปกติอยู่แล้ว แค่เขาขับรถอีกแบบ คงไม่ได้ทำให้ความเป็นเพื่อนเปลี่ยนไปมากนัก
รักแท้ไม่ชอบถูกจับตามอง การเป็นนักศึกษามอซอแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว แต่ที่เขายอมตกเป็นเป้าความสนใจขนาดนี้
ก็เพราะมอเตอร์ไซค์มันติดตั้งอุปกรณ์กันกระสุนไม่ได้
และเพื่อให้คนที่อ้อนกอดเขาอยู่ตรงนี้ปลอดภัย
“ช่วงนี้ฝนตกทุกเย็น ขับมอเตอร์ไซค์ไม่สนุกหรอก” รักแท้กล่อม
คิดเช่นที่รู้เหตุผลดีว่าทำไมรักแท้จึงเลิกขับมอเตอร์ไซค์ เงยขึ้นจากหน้าท้องแน่นๆของรักแท้แล้วปากยู่ๆ
เป็นห่วงใช่ไหมล่ะ“ก็ได้” เขาไม่ดื้อหรอก ก็รู้อยู่ว่า มันเสี่ยงไป เกิดโดนดักตีหัวล่ะก็ เสียโฉมแย่เลย อีกอย่าง ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ เป็นหลักจะไปด้วยไม่ได้
เอาไว้หลังจากนี้อีกสักพักก็แล้วกัน เขาคงได้ชีวิตชิลๆแบบของเขาคืนมา
“ลักกี้ไปไหน”
ก็รักแท้ไปรับเป็นหลักจากโรงเรียน แต่ทำไมเข้ามาคนเดียว
“ชวนแล้ว แต่ไม่เข้ามา”
“ทำอะไร” คิดเช่นสงสัย เป็นหลักที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับที่นี่สักเท่าไหร่ ไม่น่าจะคุยกับใครข้างนอกจนติดลมไม่ยอมมาหาเขา
ข้างนอกนี่มีเสียงครึกโครม เพราะนักมวยหลายคู่กำลังลงนวม
เป็นหลักยืนอยู่ข้างเวทีมวยดูนักมวยเด็กสองคนกำลังซ้อม
คิดเช่นเดินไปข้างๆ พาดมือบนไหล่
เป็นหลักหันมายิ้มให้นิดหนึ่ง แล้วกลับไปตั้งใจดูคู่ชกบนเวที
เด็กชายคนหนึ่งเพิ่งจะตัวสูงเลยขอบเชือกมานิดเดียว
“เด็กพวกนี้อายุเท่าไหร่” เป็นหลักถาม
“อืมมม โก้ อายุสิบสองมั้ง อีกคนชื่อ เหม่ง อายุสิบสี่”
เป็นหลักหันมามองหน้าของเขา “มันเจ็บไม่ใช่เหรอ ทำไมให้เด็กชก”
“ลักกี้ เป็นห่วง เจ้าเปี๊ยกสองตัวนี้เหรอ เด็กพวกนี้ตามญาติ ตามพี่ มาอยู่ที่ค่ายนี้ คนไหนมีแวว ก็ถูกจับมาปั้นมาฝึกฝีมือ เผื่อเป็นมวยเอกได้ในอนาคตน่ะ”
“แต่มันผิดกฎหมาย” ลักกี้ท้วง
“ลักกี้รู้เรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ”
เป็นหลักล้วงเอามือถือขึ้นมา เปิดให้คิดเช่นเห็นหน้าเว็บหนึ่งที่อ่านค้างไว้
“พระราชบัญญัติกีฬามวย”
คิดเช่นอึ้งไปนิดหน่อย โอโหเขามีแฟนเป็นเด็กมัธยมที่สนใจอ่านพระราชบัญญัติด้วยอ่ะ เท่ห์สุดๆ
“ยังไม่ได้ให้ขึ้นชกสังเวียนจริงเลยลักกี้ ต้องรออายุสิบห้าก่อน”
เป็นหลักเม้มปากนิดหนึ่ง “แต่ผมว่า เด็กพวกนี้ควรสวมเฮดการ์ด อีกอย่าง ควรถามความสมัครใจของเขาด้วย อย่าเอาเงินไปล่อ”
คิดเช่นมองดูเป็นหลักให้ถ้วนถี่อีกครั้ง แล้วยิ้มออกมา
ในขณะที่เขามัวแต่ตะลุยไปข้างหน้า โดยไม่สนใจรอบข้าง เป็นหลักกลับช่วยเก็บรายละเอียดในส่วนนั้นให้
คิดเช่นอยากจะคว้าคอของเป็นหลักเข้าใกล้แล้วจูบขอบคุณเสียตรงนี้เลย
แต่ดูเหมือนเป็นหลักจะรู้ทัน และอีกคนที่ยืนด้านหลังก็รู้ทัน
รักแท้ส่งเสียงกระแอม แล้วกระตุกทรงผมหางม้าของคิดเช่น แทนการเตือนสติ
“เช่น ไว้ค่อยไปรักกันในห้อง”
เป็นหลักหน้าแดง ลามไปตลอดลำคอและคาดว่าใต้คอเสื้อนักเรียนนั่นก็คงจะแดงไปด้วย
ก็เป็นเสียแบบนี้ น่าขย้ำที่สุดรักแท้แอบดึงหางม้าของเป็นหลักให้แรงขึ้น จนหน้าหงาย ด้วยความหมั่นไส้ กับสายตาแบบนั้นของคิดเช่น
ก่อนผละไปหาครูมวยที่ยืนพิงอยู่มุมเวทีแล้วกระซิบอะไรกันนิดหน่อย
ครูมวยก็ตะโกนสั่งว่า “ไอ้โก้ ไอ้เหม่ง วันนี้พอแค่นี้”
นักมวยเด็กหยุดตามคำสั่งด้วยความงง แต่หลังจากนั้นถอดนวมเก็บของเสร็จ ก็กระดี๊กระด๊า เข้ามาหาเป็นหลัก
“พี่เป็นหลัก ไปกินติมกัน”
เห็นไหมล่ะ เด็กก็ยังเป็นเด็ก
“ไอติมไร ไหน ไม่เห็นรู้เรื่อง” คิดเช่นถามเสียงเข้ม
ทำเอาเจ้าโก้กับเหม่ง หดหัวกลับไป ลดความร่าเริงลงนิดหน่อยแล้วตอบเสียงอ่อย
“พวกผมชวนพี่เป็นหลักเอาไว้ ว่าปากซอยมีไอติมตักเจ้าอร่อย”
“ลักกี้ไม่เห็นขอเค้าเลย” คิดเช่นหันกลับมาทำเสียงง้องแง้งใส่เป็นหลัก
เป็นหลักหัวเราะเบาๆ คิดเช่นไม่เคยปกปิดอะไรเลย คนในค่ายมองกันใหญ่แล้ว
จะมองด้วยสายตาแบบไหนก็ตาม การเปิดเผยนี้ก็เท่ากับการยกย่อง
คนที่นี่ยอมรับรักแท้ได้ไม่ยาก เพราะเป็นลูกของคุณดิษย์ แต่กับเป็นหลักนั้นเป็นอีกแบบหนึ่ง
สายตาหลายคู่ เคลือบแคลง ทิ่มแทง บางคู่ดูหมิ่น
ตอนนี้ ลูกค่ายน่าจะเข้าใจชัดขึ้นแล้วว่า เป็นหลักคนนี้สำคัญระดับไหน
เป็นหลักเอียงตัวเข้าใกล้ พูดเบาๆว่า
“พอแล้วครับ ได้ผลแล้ว”
“คราวหน้าถ้ามีใครมองลักกี้ของเค้าแบบนี้อีก คุณคิดเช่นจะประกาศออกโทรโข่ง ว่านี่แฟนผม”
เป็นหลัก กระเด้งตัวออกห่าง ใบหน้าที่เริ่มเป็นปกติ กลับมาร้อนวูบวาบ
เป็นหลักรู้ว่า คิดเช่นจะทำจริงๆ
“และเป็นแฟนของรักด้วย”
เพราะมัวแต่เขินคิดเช่นจึงโดนรักแท้ที่ปกติปากแข็งยิ่งกว่าใครกระซิบข้างหูแบบนั้น
เดินหนีเลยก็แล้วกันท้ายสุดคณะที่เดินมากินไอติมก็พ่วงเอาคิดเช่นกันรักแท้มาด้วย
เจ้าโก้กับเหม่งดูจะเข้ากันดีกับเป็นหลัก
พูดให้ถูกคือ โก้กับเหม่ง มาวอแวล้อมหน้าล้อมหลังเป็นหลัก
“พี่เรียนโรงเรียนนั้นจริงอ่ะ มันโคตรไกลเลยนะ”
“จริง”
“สาวสวยป่ะ”
“ก็ธรรมดา”
“แล้วเรียนยากป่ะ แล้วพี่จะเรียนต่อที่ไหนอ่ะ”
“พี่เล่น rov ป่ะ”
.
.
.
และอีกหลายคำถามตลอดทาง จนไปถึงร้านไอติม
“อยากกลับบ้านไหม” เป็นหลักถามเด็กสองคนที่กำลังจ้วงไอติม
“หึ” เพราะคาบช้อนไอติมอยู่ โก้เลยส่งเสียงปฏิเสธ
“ไม่อยากหรอกพี่ ที่นี่สบายกว่ากันเยอะ อยู่บ้านผมต้องหาขุดของกินในป่า ลำบาก บางทีก็หิว”
“แล้วพ่อแม่ไม่ได้ทำงานเหรอ”
“มันไม่พอกินหรอกพี่ ลูกตั้งเจ็ดคน ผมนี่คนที่ห้า”
“คล้ายกันพี่ อยู่นี่ดีกว่า” เหม่งเสริม
อยู่ค่ายมวย อย่างน้อยก็ได้เรียน มีข้าวกิน แต่ก็ต้องซ้อมมวย ถึงจะเจ็บและต้องฝึกหนัก
“ชอบชกมวยเหรอ”
“ไม่รู้อ่ะพี่”
“อ้าว ทำไมไม่รู้”
“มันดีที่สุดตอนนี้แล้วอ่ะพี่ ผมก็ต้องทำ มันเลือกไม่ได้ว่า ชอบหรือไม่ชอบ”
เป็นหลักมองเด็กชายทั้งสอง แล้วได้คิดว่า คนเราเติบโตมาต่างกัน มีความทุกข์ติดตัวมาต่างกัน
บ้างขาดรัก บ้างขาดสิ่งดำรงชีวิตคิดเช่นกับรักแท้ นั่งมองเด็กมัธยมคุยกัน และสังเกตเห็นว่า เป็นหลักกำลังดำดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง
รักแท้แตะไหล่ของเป็นหลักและลูบมันไปมา
เป็นหลักยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ แค่คิดอะไรนิดหน่อย แต่ว่า พรุ่งนี้ พี่เช่นซื้อเฮดการ์ด ให้เจ้าโก้กับเหม่งใส่ซ้อมได้ไหมครับ”
“ย่อมได้”
มีงานวิจัยว่า นักมวยเด็กได้รับความกระเทือนที่สมองอยู่จำนวนหนึ่ง เป็นหลักเป็นห่วง
เลิกหมกมุ่นกับความทุกข์ของตนเอง เพื่อออกมามองเห็นหัวใจของคนอื่นได้แล้ว
เก่งมากเป็นหลัก
นี่เป็นการมากินไอติมด้วยกันครั้งแรกของ เป็นหลัก รักแท้ และคิดเช่น
ถึงแม้จะมีก้างมาด้วยถึงสอง ถึงแม้จะไม่ได้คุยอะไรกันเป็นการส่วนตัว
แต่วันนี้ ก็ได้รู้ว่า คนที่กินไอติมเก่งที่สุดคือคิดเช่น
ที่บอกว่าตามมาคุมเป็นหลัก นั่นน่ะมันข้ออ้างชัดๆ
การบอกว่า ตัวเองชอบกินของหวาน มันไม่เสียฟอร์มหรอกนะ
ระยะทางจากปากซอยกลับมาค่ายไม่ไกลมาก คิดเช่นกำลังคิดจะชวน รักแท้กับเป็นหลักค้างที่นี่สักคืน แต่ว่า
“คิด”
“แทน”
นักมวยสากลคนเดียวของค่ายที่เพิ่งกลับจากการป้องกันเข็มขัดรุ่นมิดเดิ้ลเวท
“ดีใจที่ได้เจอคิดอีก”
—โปรดติดตามตอนต่อไป—
ข้อมูลเรื่องมวย ค่ายมวย หรือศัพทเทคนิคบางคำ หากผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ ชี้แนะได้ค่ะ
#เป็นเช่นรัก
ขอบคุณเช่นเดิมค่ะ
ตอนนี้มาเร็ว
@tonswind