ตอนที่17
"แหนะๆ!"นั่งลงปุ้ปก้มีเสียงแซวขึ้นมาทันที แต่ละคนนี้ทำหน้ายิ้มกรุมกริ่มกูเลยยักคิ้วไปให้
"แหม เดี๋ยวนี้หัดมีความลับ"
"ก็ว่าทำไมถูกทุบหัวแล้วไม่ตาย เป็นอมตะนี่หว่า555" และทั้งโต๊ะก้หัวเราะกับมุขกากของไอ้หมื่นกันเป็นแถว มีแต่ไอ้คนข้างกูเนี่ยแหละนั่งตัวเกร็ง พูดจี้ใจเต็มๆเลยอ่ะดิ เป็นคนทุบเองกับมือ
"ถามหน่อย" กูก้มลงไปพูดกับมันเบาๆ
"รู้จักกับไอ้เหี้ยนั่นได้ยังไง" ไอ้ปุ่นหันไปมองตามสายตาที่กูมองไป หมายถึงมึงนั่นแหละไอ้หมวกเอ๋อเอ้ย
"รู้จักนานรึยัง"
"...."
"หือ?!"
"...เดือนหนึ่ง"
"เหอะ" ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา กูเบือนหน้าหนีแล้วกลับมามองหน้าไอ้ปุ่นอีกรอบ เดือนหนึ่ง? ได้ข่าวว่าเดือนหนึ่งนี้ก่อนที่กูจะทะเลาะเรื่องไร้สาระกับมึงอีกนะเว้ย ไม่สบอารมณ์เป็นบ้า!
"พี่เค้าแค่มาสอนเต้น" อยู่ดีดีก็พูดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้เอ่ยถาม อย่างนี้เค้าเรื่อกว่าอะไรนะ ร้อนตัว?
"ไปรู้จักกันได้ยังไง" จำได้ว่าวันที่ไปถนนคนเดินกูเอาโทรศัพท์มันมาตรวจดูเบอร์แล้วนี่หว่า ไม่มีเบอร์แปลกอะไร
"...คุยไลน์"
"!!?" กูแทบจะถลึงตาใส่หัวมัน ไม่ได้ให้เบอร์แต่ให้ไอดีไลน์!? จะตลกหรือสมเพชตัวเองดี นี่คือแอบคุยกันตลอดหรือกูพลาดที่ไม่ได้เข้าไปตรวจในไลน์มัน ถ้าทำงั้นจริงแมร่งก็ก้าวก่ายกันเกินไปอีก แล้วจะให้ทำยังไงหละวะ
"ก็ไม่มีอะไรหนิ" นั่น พูดแบบทองไม่รู้ร้อนอีก เดี้ยะกูทำงั้นบ้างแล้วจะรู้สึก แต่อย่างที่รู้ๆ กูไม่กล้าหรอก - -"
"ฮั่นแน่ ไม่อายฟ้าอายดินกันเลยวุ้ย"
"อะไร" กูเลิกสนใจไอ้ปุ่นแล้วหันไปสนใจคนอื่นบนโต๊ะแทน ไอ้พวกนี้แมร่งแซวจริง กำลังซีเรียสอยู่เว้ย ไม่ได้มาหวานหยดย้อยอะไรกันซักหน่อย คงต้องเก็บเรื่องพวกนี้เอาไปรวบยอดกับเรื่องอื่นๆ คิดๆดูแล้วไอ้ปุ่นแมร่งงง เรื่องไม่สบอารมณ์เยอะหวะ ไอ้ที่ทำให้ไม่ชอบใจนี้เยอะจริง กูก็คุยกับพวกพี่ๆมันจนเพลินเลย รู้สึกตัวอีกที่ตอนคนข้างๆเอามือมาวางแหมะตรงหน้าขากู
"...ตอนนี้ดีกันแล้วใช่ไหม" พูดเสียงเบามากกกก แต่กูอยู่ใกล้ไงเลยพอจับใจความได้ อ่าวกูว่าที่เกี่ยวก้อยหน้าร้านก็น่าจะตอบคำถามข้อนี้ได้นะ รึที่มันไม่แน่ใจเพราะประโยคที่กูตอบเฮียไปเมื่อก่อนหน้านี้
"อยากดีไหมหละ" มันเหงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะก้มลงเหมือนเดิม
".....อืม" เขินหวะ! กูไม่พูดไรแต่เอามือไปจับมือมันใต้โต๊ะแทน นี่ก็ยอมตั้งขนาดนี้ ไม่รู้ก็โง่ล้ะ
"..จะเหมือนเดิมใช่ไหม" นี่ก็ถามมากจริ้ง กลัวกูทิ้งหรออ?
"ไม่อ่ะ" ช็อค ช็อคเลยดิมึงที่กูพูดงี้ แต่มันยังไม่จบเว้ย กูก้มลงไปกระซิบที่หูมันเบาๆ
"รักมากกว่าเดิมอีก"
เขินแปร๊ปปปป
นี่กูอายพอๆกับคนที่นั่งหน้าแดงข้างๆเลยนะเว้ยยย
ถึงมันจะทำเหี้ยกับกูแค่ไหนแต่ไม่รู้ทำไมกูไม่เคยหยุดรักมันได้เลย มีแต่เพิ่มขึ้นๆทุกวัน ไม่ได้เจอก็คิดถึง อยากได้ยินเสียง อยากเห็นหน้า อาการกูเข้าขึ้นโคม่า
"ป่วย กูกลับละนะ" ไอ้หมวกครับ ไอ้หมวกมันเดินมาบอกลาไอ้ปุ่น แหมะะะะ! ขัดจังหวะจริ้งงง คนเค้ากำลังสวิตกันอยู่เห็นป่ะ ไม่รู้เวล่ำเวลา ที่จริงกลับไปเลยก็ได้นะ ไม่มีคนว่า แบบไปไหนก็ไป ชิ่วๆ แล้วเรียกแฟนกูว่าป่วยนี้คือต้องการจะสื่ออะไร กูมองหน้ามันตาขวาง
"ทำไมกลับเร็วอ่ะพี่" เดี๋ยวๆๆๆ เดี๋ยวก่อน! สะต้อปปุ! มึงเรียกมันว่าไงนะ!?
"พรุ่งนี้มีเต้นที่...ไปซ้อมก่อน" มึงไปซ้อมเต้นตอนจะสองทุ่มจะสามทุ่มเนี่ยนะ เมื่อยมือเมื่อยแขนจริ้งงง ว่าแล้วก็ขอเหยียดหน่อยเห้อออ
"เอ้" ไอ้ปุ่นหันมามองเมื่อกูเอาแขนไปพาดบ่ามัน ไม่รู้! ก็เมื่อแขนอ่ะขอวางหน่อยดิ
"พรุ่งนี้จะมาดูป่าว"
"ไปดิ!"
"ฮึ่ม!" กูทำเสียงในลำคอดังๆเป็นเชิงขัดขึ้นมา
"อ..เอ่อ ก็ไม่รู้ดิ ดูอีกทีก่อนว่าติดธุระไหม" เหอะ ธุร้งธุระมีไม่มีก็ไม่ให้ไป อ่านปากชัดๆ ไม่ ให้ ไป โอเค้
"โอ่ย จะกลับก็กลับซักทีดิว้าา" กูพูดขึ้นมาลอยๆแบบไม่เจาะจงแต่คงจะรู้ว่าหมายถึงใครเพราะไอ้หมวกแมร่งคิ้วกระตุก เห็นหน้าแล้วรำคาญวุ้ย หล่อนักรึไงวะ โด่ว!
"ไปละญี่ป่วย หมาแมร่งหวงก้าง ระวังซักวันจะถูกแย่ง" มันพูดแสยะยิ้มแล้วเดินออกไป อ อ ไอ้สัด!!! ว่ากูเป็นหมา! แล้วเรียกแฟนกูว่าอะไรนะ!? ญี่ป่วย! ป่วยพ่อง! น่ารักตาย! เดี้ยะมึงจะได้ป่วยนอนหยอดข้าวต้มแทน เดี้ยะๆ
"ใครวะผิง" ไอ้ภีถามขึ้นมาหลังจากไอ้หมวกนั่นเดินออกนอกร้านไปแล้ว
"ก็แค่เด็กอยากลองดี!"
"เล่นเลยป่าว"อันนี้เป็นไอ้ภี กูรู้เห็นนั่งเงียบเมื่อกี้แมร่งฟังหมดอ่ะ มันไม่ค่อยชอบเด็กปากดีอย่างนี้ซักเท่าไหร
"จะทำไร"
"มึงอ่ะเงียบไปเลย"กูมองไอ้ปุ่นหนายๆ ที่หน่ายนี้ไม่ได้เบื่อมันนะแต่เบื่อนิสัยมัน ถ้ากูไม่ขัดนี้มึงคงไปกับมันพรุ่งนี้แล้วใช่ป่ะ
"ไอ้เชี่ย" แหนะ ปากเริ่มดี ถึงจะพูดแบบไม่เต็มเสียงแต่กูได้ยินเหอะ
"ทำไมมันต้องเรียกมึงว่าญี่ป่วย"
"...."
"ไอ้สัดกวนตีน ไม่ต้องเงียบละ"
"จะไปรู้หรอ"
"เหอะ อย่าให้เห็นว่าติดต่อกันอีก" ถ้าเห็นนี้มีเฮแน่ เล่นประกาศว่าจะแย่งของของกู ไม่รู้ไอ้ปุ่นแมร่งโง่หรือง่าวที่ปล่อยให้มันเกาะแกะอยู่รอบๆ
"ทำไมถึงเจอไม่ได้"
"ก็ไม่ให้เจอ"
"ไม่มีเหตุผล"
"เลือกเอาจะเจอกูรึเจอมัน" ถ้าเลือกมันก็ไม่ต้องมาเจอกู ง่ายๆ จบ
"เหอะ ตัวเองก็เหมือนกัน" นี่มันไม่ใช่เริ่มปากดีละแต่กลับมาเป็นไอ้ปุ่นคนเดิมแล้วเลยค่างหาก เร็วไปป้ะวะ
"กูทำไม"
"ไปไถผมออกนึกว่าเท่รึไง"
"แล้วมันทำไม?"
"อย่างกะจิ้งแหลน" นี่มั่วละ พูดงี้มั่วนี่หว่า มีแต่คนบอกว่าหล่อเหอะ
"แล้วเพราะใครหละ"
"..." แมร่งเงียบเลย กรรมโทษ จี้จุดเกิน ไม่ได้ตั้งใจนะเว้ยปากมันไปเอง ไม่ได้จะโทษมัน นี่ไงถือว่าเปลี่ยนทรงผมไปในตัว กูกะว่าจะตัดสกินเฮดอยู่แล้วเหอะ จริ้ง ไม่ได้ออกรับหน้าแทนเล้ย เพื่อไม่ให้บรรยากาศแย่ไปกว่านี้กูเลยเอามือข้างที่กอดคอเขี่ยๆแก้มมันเล่น
"...เจ็บมากไหม"
"ห้ะ?"
"แผลอ่ะ"
"เจ็บดิถามได้ โคตรเจ็บ พยาบาลมือโคตรหนัก จิ้มๆเนี่ยเจ็บเลย ดูดิ" ได้ที่กูขออ้อนหน่อยเห้อออ รู้ว่าคนในโต๊ะมองแต่แคร์รึ ก็ไม่
"จิ้มงี้เจ็บไหม" ไอ้ปุ่นเอานิ้วมาแตะที่รอบๆผ้าก๊อตเบาๆ เอ่อเห้ย ไอ้นี่ก็ซื่อเหมือนกันเว้ย!
"โอ้ย เจ็บดิ"
"เวอร์"
"จริง มาโดนเองไหมหละ" กูทำหน้าเคือง แกล้งไปงั้นแหละที่จริงไม่ค่อยเจ็บแล้ว แต่ถ้าไปโดนจุดจังๆก็เอาเรื่องอยู่
"....."
"......"
" ..แล้วหน้าไปโดนอะไรมา" ไอ้ปุ่นมันคงสังเกตเห็นรอยฟกช้ำจางๆตามใบหน้ากูเลยถามขึ้นเสียงเบาๆ เอ่อ.. จะให้กูตอบว่าไปก๊งเหล้าแล้วไม่มีเงินจ่ายเลยถูกเค้าซ้อมมางี้หรอ เหอะ
"..ช่างมันเหอะ" คือกูขี้เกียจเล่าขี้เกียจพูดไง ประเด็นหลักก็เพราะไอ้ปุ่นหมดแหละ พูดไปเดี๋ยวมันแมร่งนี้อีก
"...โกรธไหม"
"อะไร?"
"เรื่อง..ก่อนหน้านี้" อืมมมมอยู่ดีดีมาถามงี้ตอบยากหวะ กูว่ามันออกแนวน้อยใจมากกว่า มั้งนะ
"แล้วถ้ากูเอาอะไรซักอย่างทุบหัวมึงบ้างหละ"
"...."
" กูก็ ก็... เห้อ ก็แค่อยากรู้"
"....."
"ว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น" ไอ้ปุ่นเงียบแล้วก้มหน้าลง มือที่จับอยู่ก็พยายามจะดึงออกแต่กูบีบไว้มันเลยทำอะไรไม่ได้ นี่คือจะวกเข้ามาดราม่าอีกครั้ง? ไหนๆก็ไหนๆละ เอาให้จบเลย มาคุยวันอื่นอาจจะคิดฟิวลิ่งตอนนั้นไม่ออกและอาจทำให้เรื่องมันยืดเยื้อ
"กูก็ไม่รู้นะที่มึงทำตอนนั้นคิดอะไรอยู่ รึไม่ได้คิด แบบกูโกรธกูฟาดแมร่ง แต่พอมาคิดอีกที ถ้าเป็นกู กูจะเอาแจกันมาฟาดหัวมึงหรอวะ?"
"....."
" จนบ้างครั้งกูก็แอบคิดนะ มึงรักกูจริงรึเปล่า? มึงไม่คิดจะโทรหาไม่คิดจะมาปรับความเข้าใจ ไม่ทำเหี้ยอะไรซักอย่าง" อย่าคิดว่ากูพูดตะคอกหรือด่ามัน น้ำเสียงธรรมดาเนี่ยแหละ ที่ถามไปไม่ได้จะด่าแต่แค่อยากรู้ อยากรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมามันคิดยังไงก็แค่นั้น
"อย่างตอนนี้กูก็คิดว่าเรื่องที่ผ่านมาช่างมันเหอะ แต่เดี๋ยวซักวันกูก็กลับมาคิดอีกว่ามึงรักกูบ้างรึเปล่า"
"...ทำไม"
"กูรู้...กูรู้ หลายสิ่งมึงก็พยายามแสดงถึงจะไม่พูดก็เถอะ ที่จริงกูก็ไม่อยากมาคุยอะไรเทือกนี้หรอกนะ แต่ถ้าปล่อยไว้แมร่งคาใจอยู่เงี้ย" รู้สึกถึงสายตาคนอื่นในโต๊ะเดียวกันที่คอยลอบมองกูกับไอ้ปุ่นอยู่ แต่คงรู้ว่ากำลังคุยเรื่องที่ไม่ควรไปยุ่งเลยไม่มีใครว่าอะไร แล้วกูก็คิดว่าคงไม่ได้ยินเรื่องที่คุยกันด้วย
"..แล้ว..แล้วจะให้ทำ ทำยังไง" เสียงไอ้ปุ่นที่ตอบกลับมาดูกระตุกเล็กน้อย จนกูรู้สึกสงสาร รึจะคาดคั้นมันเกินไปวะ ตอนแรกกะจะเคลียกันวันอื่นกลับมาเคลียกันวันนี้ซะได้
"..เห้ออ" ที่ถอนหายใจนี้ไม่ใช่ไรแค่รู้สึกแบบ เห้อ กูก็ไม่รู้จะทำไงหวะ
" นึกว่าไม่คิดอะไรเลยรึไง"
"หือ?"
" คิดสิ คิดทุกวันนั่นแหละ แล้ว. แล้วจะให้ทำยังไงหละ มึงมันดูมาก จนเหมือนล้นออกมา เหมือนซักวันมันก็หายไปเพราะมันมาในตอนแรกหมดแล้ว"
"...." ถึงกูจะงงๆว่าหมายถึงเรื่องอะไรแต่ก็ยังคงเงียบฟังอยู่
"คิดว่าชอบรึไงที่เป็นแบบนี้ แล้วจะทำยังไงหละ เจอหน้าจะทำยังไง จะพูดอะไร ถ้าเจอแล้วเกลียดหละ เจอแล้วไม่คุยด้วย หละ อึก จะทำยังไงหละ ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ก็ขอ อึก ขอโทษไปแล้ว ถึงจะไม่พอแต่ก็ขอโทษไปแล้ว อึก ขอโทษไปแล้วไง ฮืออออ"
"เห้ย ร้องทำไม" กูพยายามจะดันหน้าให้เหงยขึ้นแต่มันด้านไว้ก้มลงเหมือนเดิม ปัดโธ่!
"ฮืออ รู้ได้ไงว่าคิด อึก แบบนั้นอ่ะ ไม่ได้พูดอะไร แต่ อึก อยู่ไปนานๆก็ดี ไม่ใช่หรอ หรอ"
"เห้ยน้องปุ่นร้องไห้ทำไมวะ" ไอ้หมื่นทักขึ้นเมื่อเห็นท่าทีกูสองคนแปลกๆไป
"ไม่รู้โว้ย ปุ่น เป็นไร กูไม่ถามแล้ว ช่างมันเถอะเรื่องนั้นอ่ะ" กูพยายามจะปลอบมันซึ่งไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี ถึงที่มันพูดมาทั้งหมดกูจะงงๆแต่ก็พอจะจับใจความได้ แต่มึนๆอยู่ดี มันพูดเป็นคำๆแบบตัวเองเข้าใจคนเดียว
"ผิงแมร่งทำไรน้องมันวะ"
โธ่! ทำไมต้องคิดว่ากูทำด้วย กูยังไม่ได้ทำไรเลย น้ำเสียงที่คุยกับมันตอนแรกก็ปกตินะเว้ย ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง รึกูพูดอะไรผิดไป?
ตอนนี้คนบนโต๊ะแมร่งจะรุมไอ้ปุ่นอยู่ละ เจ้าตัวก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วกำขากางเกงกูแน่น ถามอะไรไม่ยอมตอบจนเฮียหนึ่งเดินมานั่นแหละ
"ปุ่นเป็นไร" มองหน้ากูก่อนจะถามน้องตัวเอง
"ผิงมึงทำไร?" เมื่อถามเจ้าตัวแล้วไม่ได้คำตอบเลยเปลี่ยนมาถามกูแทน
"แค่คุยกัน"
"โว้ะ นึกว่าอะไร ไปๆไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ปัญหาวัยรุ่น เคลียกันเสร็จพามันไปส่งบ้านด้วย" สิ้นเสียงเฮียทุกคนแยกย้ายกันไปนั่งที่ตัวเองยกเว้นไอ้ภีกับไอ้สนที่ยืนมองกูอยู่สองคน
"อะ กุญแจ" ไอ้ภีว่ายื้นกุญแจรถยนต์มา ขามาติดรถมันมาไง ถ้าจะไปส่งไอ้ปุ่นก็ต้องยืมรถใครซักคนไปส่งเนี่ยแหละ อย่ามองง้าน หน้าอย่างกูขับรถเป็นเว้ย กูพยักหน้าเป็นเชิงขอบใจมันนิดหนึ่งก่อนจะก้มมามองไอ้ปุ่นที่ฟุบหน้าลงกับขาตัวเอง
"กลับบ้านยัง" ก้มลงไปถาม มันไม่ตอบอะไรแต่ทำท่าจะลุกขึ้นกูเลยลุกตาม
"พี่ ผมไปส่งปุ่นก่อน เดี๋ยวมา"
"เอ่อ คุยกันดีดี"
"เฮีย ผมไปส่งปุ่นละนะ" บอกพี่ไอ้ปุ่นตอนเดินผ่านโต๊ะ มืออีกข้างก็จับต้นแขนมันไว้กันเดินหนี
พอมาถึงบนรถกูสตาร์ทแต่ยังไม่ออกรถอะไรทั้งนั้นแหละ คุยกันก่อน
"ร้องทำไม หือ"
"....."
" งั้นวันอื่นกูจะไม่ถามไอ้เรื่องพรรคนี้โอเค้" พูดตามตรงคือตกใจไม่น้อยที่เห็นไอ้ปุ่นร้องไห้ ถึงจะแป๊ปเดียวแต่พอจะรู้ว่ามันพยายามกลั้นไว้นานอยู่ดีดีถึงปล่อยโฮออกมาอย่างนี้
"...ขอโทษ..ที่เป็นคนแบบนี้"
"..ไม่เป็นไร" กูว่าแล้วเอามือไปลูบหัวคนข้างๆ เหมือนมันก็คิดมากมากกว่าที่กูคิดไว้ คงประมาณว่าที่จริงก็แคร์นั่นแหละแต่ไม่รู้จะแสดงออกมายังไง ตลอดทางก็คุยกันบ้างนิดหน่อยแต่ส่วนมากจะเงียบมากกว่าเหมือนจมอยู่ในความคิดตัวเอง
"ถามหน่อย"
"?"
"มอไซค์กับรถยนต์ชอบอย่างไหนมากกว่ากัน"
"รถยนต์.." ไอ้ปุ่นตอบออกมาโดยไม่ต้องคิด
"หรอ" นั่นสินะ ยังไงรถยนต์ก็ดีกว่าอยู่แล้ว
"...แต่ ดีคนละอย่าง"
"แน่ เพราะมอไซได้ซ้อนกูใช่ป่ะหละ" ขอหลงตัวเองก่อนเถอะ555 เห็นได้ชัดว่าไอ้ปุ่นมันหงอยลงมากกกก ไม่ค่อยเถียงไม่ค่อยกวนตีน แบบตอบดีดีเป็นคำอะ เนี่ยกูว่าแปลก เอาตามตรงชอบแบบเดิมมากกว่า แบบนี้มันยังไงก็ไม่รู้ เหมือนไม่ใช่นิสัยจริงๆ
" คงงั้น. "
"ห้ะ?" เดี๋ยวๆๆๆๆๆ เมื่อกี้มึงว่าไงนะ!? เดี๋ยววววกูหูฟาดรึเปล่าว ไอ้ปุ่นมันตอบว่า คงงั้น หรอ แมร่งคำว่า คงงั้น ลอยเต็มหัวกูไปหมด
แล้วเราก็เงียบกัน ต่างคนต่างไม่พูดอะไร คือกูงง ตอนแรกในร้านเหล้าก็ดีกันแล้วคุยกันปกติตอนมันถามถึงแผลกู แล้วกูก็ดราม่า ไอ่ปุ่นปล่อยโฮ กูพามันกลับบ้าน และตอนนี้คือเงียบบรรยากาศอึดอัดนิดหน่อย ถ้ามาไล่ดูดีดีสาเหตุมันเกิดเพราะกูดราม่านี่หว่า แต่ใครจะรู้เล่า คนมันเก็บกดนี่หว่า อันที่จริงอยากระบายมากกว่านั้นอีกแต่ไอ้ปุ่นดันร้องก่อนเนี่ยดิ
" งง ต่างคนต่างเกร็งทำไมวะ" กูพูดทำลายความเงียบขึ้นมา
"ไม่รู้"
"ช่างแมร่งเรื่องก่อนหน้านี้ จะอะไรยังไงก็ช่าง เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นแต่เอาไว้เป็นบทเรียน โอเค้?"
"อือ"
"วันหลังมีไรให้ถามก่อน คิดไรก็บอกกูเลย กูก็จะบอกมึง คุยกันเยอะๆ ปัญหาอ่ะไม่ได้มีไว้คนเดียว"
"....."
" เงียบ เงียบ เพราะมันเงียบงี้หละว้า เลิกได้ป่ะนิสัยเงียบเงี้ยะ"
"อืออออ ก็รู้ละไงเลยเงียบให้พูดต่อ"
"หราาาา"
"อือหึ้"
"แล้วมีไรจะบอกกูบ้างป่ะ"
" ...... ชอบฉวยโอกาส"
"5555 ก็น้องไม่เคยยอม พี่ก็ต้องฉวยดิ"
ของงี้มันแก้ไม่หายหรอกน้อง แต่มีวิธีแก้คือยอมเลย พี่จะได้ไม่ต้องฉวยโอกาสอย่างนี้
"อยู่เฉยๆไม่ได้รึไง?"
"ไม่อ่ะ มือแมร่งไปเองตลอด" พูดไปก็จะหัวเราะ ตลกไอ้ปุ่น5555
"โรคจิตรึไง"
"โรคจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว"
"โว้ะ! ไม่คุยด้วยแล้ว"
"5555 ของกูนะก็มี..."
"ใครถาม?"
"ไม่รู้ พูดเฉยๆไม่ได้รึไง ไม่ได้คุยด้วยซักหน่อย" ไอ้ปุ่นมันทำเสียงฮึดฮัดแล้วหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง ต้องงี้ดิ บรรยากาศจะได้ไม่อึดครึ้ม
"กูนะไม่ชอบคนที่เงียบ ถามอะไรไม่ตอบ เป็นอะไรก็เงียบลูกเดียว ไอ้พูดเล่นหัวหรือไม่สุภาพกับคนอายุสูงกว่าอันที่จริงกูก็ไม่ชอบแต่เว้นให้คนหนึ่ง ว่าไง?"
"ไม่รู้ ไม่ได้คุยด้วยหนิ" ไอ้ปุ่นหันมาตอบหน้าตาย หึ ไอ้เด็กกวนตีน
"เดี้ยะมึง" หมั่นเขี้ยวโว้ยยยย อยากจับฟัดแมร่งงงง ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวมากี่วันว้ะ มือกูจะเหี่ยวเฉาตายอยู่ละ
"โอ้ยยย อย่าขับรถส่ายดิ"
"55มันไม่ชิน" กูจะบิดคันแร่งตรงพวงมาลัยรถตลอด ดีนะเป็นเกียร์ออโต้ เกียร์กระปุกนะ รถดับตลอดทางแน่55
"ขับเป็นจริงป่ะเนี่ย"
"เอ่อน่า ไม่คว่ำหรอก" ไว้ใจกูหน่อยเห้ออออ เพราะกูก็ไม่ค่อยไว้ใจตัวเองเหมือนกัน55 ขับได้กับขับเป็นนี้ไม่เหมือนกันนะ กูอ่ะแค่ขับเป็น.....เป็นรึเปล่าก็ไม่รู้ ถุ้ย วางใจได้น่าาา
ไม่นานกูขับมาจอดหน้าบ้านไอ้ปุ่นแต่เยื้องๆไปนิด ก็นะ รถคันใหญ่ เดี๋ยวบังหน้าบ้านเค้าหมด แถมยังจอดแอบๆไม่ได้อีก
"....."
"...."
แล้วต่างคนต่างเงียบกันทำไม ได้ยินแต่เสียงแอร์ดังหึ่งๆ
"...เอ่อ.."
"หือ?"
"..ขับรถดีดี"
"...เดี๋ยว!" กูเอื้อมมือไปคว้าแขนไอ้ปุ่นเมื่อมันทำท่าจะเปิดประตูรถ แมร่งงง ยังไม่อยากให้ไปเลย
"?"
"คิดถึง"
กูอยากจะดึงมันเข้ามาใกล้แต่ติดเกียร์นู้นนั่นนี้ ปัญหาเยอะถ้าเป็นมอไซค์ว่าไปอย่าง อันนี้สิ่งกีดขวาง โว้ะ กูไม่สนอ่ะดึงมันเข้ามาเลย มามะมาให้กูกอดให้ชื่นใจหน่อย
"โอ้ย ไรเนี่ย!"
"เหยิบมาดิ"
"ทำไมเล่า"
"ขอกอดหน่อย"
หลังจากกูพูดจบทั้งกูทั้งไอ้ปุ่นต่างคนต่างนิ่งเหมือนชะงัก หืม? กูพูดอะไรผิด ก็อยากกอดอ่ะ แบบแน่นๆ ถ้าจะลงไปแล้วกอดก็กะไรอยู่ใช่ป่ะ ในรถติดฟิล์มดำเนี่ยแหละ
"ไม่ได้อ่อ?"
"...กอดทำไม"
เอ้า! จะให้ตอบว่าไงวะเนี่ย ถามซะไปไม่เป็น คือคิดถึงไง อยากแตะเนื้อต้องตัว อยากกอดให้ชื่นใจแบบอยู่ตรงนี้จริงๆไม่ได้ฝันไป รึอะไรก็แล้วแต่เถอะ ความรู้สึกอ่ะมันบรรยายไม่ถูกหรอกเว้ย
"..ก็. ก็ตรงนี้ไม่ได้รึไง" มันคงเห็นกูเงียบเลยพูดขึ้นมาเบาๆ
....นี่มึงเชิญชวนกูหรอ น่ารักว่ะะะะ!!!!
"มันไกล"
"..."
"เร็วเดี๋ยวคนในบ้านก้ออกมาหรอก" ต้องขู่ครับต้องขู่ แต่ถ้าคนในบ้านออกมาดูว่ารถใครแมร่งจอดนานจริงละก็ กูอ่ะซวย
"..แปปเดียวนะ"
"ครับ" ตอบไปพร้อมกับปิดบังรอยยิ้มตรงหน้าไว้ไม่มิด มันคงอยู่ในช่วงเกรงใจกูด้วยหละว้าถึงยอมอะไรเงี้ย แต่ก็ดี กูอะได้กำไรเหนอะๆ
ไอ้ปุ่นมันทุลักทุเลนิดหน่อยที่จะย้ายตัวเองมาอยู่ฝั่งคนขับ กูนี่ก็พยายามเนอะ ตลกตัวเองหวะ จะมีใครบ้าเท่านี้อีกไหมแต่บ้ากว่าก็ไอ้ปุ่นที่ยอมทำตามนั่นแหละ น่ารักดี
ฟุบ!
พอมันข้ามมาปุ้ปกูดึงมานั่งตรงขวางขาเลยโดยที่มันไม่ได้ตั้งตัวหลังเลยชนกับแผ่นอกกูเต็มๆ จัดการกอดหมับจากด้านหลังเข้าให้
คิดถึงโว้ยยยยยยย!!!
"โอ้ยย กระดูกจะหัก"
"คิดถึงมึง" ว่าแล้วหอมหัวมันแรงๆ
โอ้ยยยโคตรรักเลยเนี่ย ไอ้ปุ่นเอ้ย!
"เสร็จแล้วก็ปล่อย"
"ไรว้ายังไม่ชื่นใจเลย"
ไอ้ปุ่นมันเหงยหน้ามาเบะปากใส่กูเลยหัวเราะเข้าให้ หน้าอย่างกะปลา55
"คิดถึงกูบ้างป่ะ"
"ไม่"
"คิดถึงหน่อยเหอะ"
"ไม่"
"นิดหนึ่งน่า"
"......"
กูไล่สูดดมตั้งแต่ผมลงมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอแล้ววนเวียนอยู่ตรงนั้นไปมา หอมหวะ
" คึ จักจี้" แหนะๆหลุดหัวเราะแล้วทำฟอร์มจัดนะมึง
"หันมาดิ้"
"ทำไม"
"หันมาก่อน"
" อะไรละ.." ยังไม่ทันที่มันจะพูดจบกูจัดการเอามือล็อกคางแล้วก้มหน้าเอาริมฝีปากแตะปากมันเบาๆก่อนที่จะเขยิบนิดหน่อยเพื่อให้มันอ้าปากแล้วสอดลิ้นเข้าไป เสร็จโจร55 ไอ้ปุ่นท่าจะปวดคอมันเลยขยับตัวหันตะแคงข้างแทน ลำบากนิดหน่อยแต่ตื่นเต้นดี แปลกสถานที่ก็งี้แหละ รู้สึกเหมือนเสียจูบแรก555 นี่ก็ว่าไป กูปล่อยปากให้มันพักหายใจ แมร่งเอาหัวมาพิงไหล่แล้วหอบแฮกๆ กูเลยก้มหน้าไปไซร้ๆตรงคอมันแทน โอ้ยให้ตายดิ อะไรจะรักจะหลงขนาดนี้วะ อย่างที่ไอ้ภีว่า รึกูจะโดนเล่นของ?
' เหมือนโดนเล่นของใส่กันชั้นจึงหลงและชั้นจึงบ้า ทั้งเธอมีแต่น้ำตาตอบแทนกัน'
55ไม่ใช่ละ
กูเริ่มลุกมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่มือเริ่มอยู่ไม่สุขเริ่มล้วง ทั้งขากางเกงและใต้สาบเสื้อ ไม่ต้องห่วงก่อนหน้านั้นกูปิดไฟหน้ารถเรียบร้อย พรางตัวในความมืด ทีเรื่องงี้ฉลาดจริง
ไอ้ปุ่นแมร่งเคลิ้ม เคลิ้มหนักเลยไม่ต่อต้านอะไรซักอย่างมีแค่เอามือมาดันตรงอกเนี่ยแหละ เข้าทางกูดิ ถกเสื้อขึ้นมองไม่เห็นอะไรซักอย่างแมร่งมืด ไอ้สาดด
"...ปุ่น"
"...."
"ไปบ้านกูป่..."
ปี้นนนนนนนนนนนน!!!!!
ผลัก!
ปึก!
"โอ้ย!"
เหตุการณ์แมร่งเกิดขึ้นเร็วมาก ขณะที่กูกำลังเล้าโลมและชวนมันไปบ้านคิดว่าไอ้ปุ่นคงเอาอะไรซักอย่างเนี่ยแหละโดนพวงมาลัยรถแตรเลยดัง ไม่ใช่ดังธรรมดานะ แต่ดังโคตรๆแถมยังลากเสียงยาววววอีก ทำให้มันได้สติตามด้วยผลักกูออกแล้วตัวเองตกใจไง ถลาหัวทิ่มเบาะอีกฝั่ง ไม่สิ ไม่ใช่โดนเบาะแต่โดนขอบหน้าต่างต่างหากหละ
"เห้ย! เจ็บป่าว!?"
ไอปุ่นไม่ตอบอะไรแต่หันไปมองในบ้านที่เพิ่งเปิดไฟแล้วหันกลับมามองหน้ากูส่ายหน้ารัวๆ
"เจ็บดิถามได้" เอ้า! แล้วตอนแรกส่ายหน้าทำไมวะ คนตรงหน้ากูรีบจัดเสื้อผ้าหน้าผมใหญ่ปัดไปมา
"...แมร่ง ฉวยโอกาส" แหนะ มีการบ่น เคลิ้มเองนี่หว่า ถ้าน้องไม่พร้อมพี่ก็ไม่ฝืน แต่ถ้าเคลิ้มเมื่อไหร่พี่ก็ไม่หยุดเหมือนกัน555 ฟังดูเลวเนอะ
"ไปแล้ว! ต้องไปตอบคำถามแม่อีก" ประโยคหลังมันบนเบาๆก่อนจะเปิดประตูแต่กูตะโกนบอกไปว่า "คืนนี้โทรหา" ได้ทันอยู่ ไอ้ปุ่นหันมาพยักหน้านิดหนึ่งก่อนจะวิ่งเหยาะๆไปเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน มองลอดเข้าไปเห็นแม่มันยืนกอดอกอยู่หน้าประตูด้านใน
กรรม
จะเป็นไรไหมนั่น ตอนแรกกะจะรอจนมันเดินขึ้นไปเปิดไฟในห้องเหมือนทุกทีแต่ครั้งนี้ไอ้ปุ่นดันหันมาปัดมือไล้แอบๆแม่มันทำให้กูต้องจำใจขับออกมา จะเป็นไรไหมนะ คงไม่ม้างงง กูมาบางครั้งก็เห็นรถแม่มันจอดอยู่แต่ไม่เห็นจะมีอะไร ครั้งนี้แม่มันอาจจะคิดว่าเพื่อนมาส่งก็ได้ เคยบอกแล้วที่จริงกูก็ไม่ทำไมหรอกแต่ถ้าแม่ไอ้ปุ่นเสือกทำไมขึ้นมากูอ่ะยุ่ง อาจจะห้ามไม่ให้เจอกันก็ได้ใครจะรู้
#
"แน่~~~"
ว่าละเดินเข้ามาต้องถูกไอ้พวกนี้แซว ไม่รู้เป็นเชี่ยไรกูตีหน้านิ่งแต่ก็ต้องหลุดยิ้มเมื่อมีคนพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา
" เสื้อยับเว้ยเห้ยยยย"
สัด ยังจะสังเกต5555 เฮียจ้องกูเขม็งมองตั้งแต่หัวจรดเท้า อุ่ย กูเปล๊าาา กูเปล่าทำอะไรจีจีนะ
นั่งลงตรงที่เดิมปุ๊ปทุกคนก้รุมคำถามใส่ปั๊ป โอ่ยยยยย
"เป็นแฟนกันไง"
"โห่วววววว"
"แมร่งดูมันทำหน้าๆ"
"กูว่าละสัด555"
555กูยกเหล้ากระดกเข้าปากก่อนจะยักคิ้วไปให้ เจ๋งละสิ
"เป็นไง ท่าทางจะดื้อ"
"อือ" ก็ดื้อจริงอ่ะ แต่ไม่คณามือกูหรอก 555ปากดีแท้ เอาน่า บางครั้งมันก็เกรงใจกูนิดนึง ก้บางครั้งไง นานๆครั้งงี้
"ไอ้นี่ ท่าทางจะหลงเมีย"
"ยังพี่ ไอ้ผิงไม่มีน้ำยา" ไอ้สนที่นั่งอยู่โต๊ะหลังกูตะโกนขึ้นมา สาดดดนี้ก็ย้ำจริงว่ากูยังไม่ได้มัน คบกันแบบจริงใจเว้ย ใสใสอ่ะรู้จักป่าว เรื่องแบบนั้นกูไม่เคยคิ้ด ทุกวันนี้ก็ถือศีลกินเจ ถุ้ย! แค่ของในมือก็ผิดศีลละ
"555 ทุกวันนี้เมื่อยมือเลยดิมึง"
"ทำไงได้ พี่มันไม่ยอม"
"เฮียอ่ะนะ"
"อือ"
"555ตกลงจะเอาคนน้องรึคนพี่วะเนี่ย"
"คิดอยู่เหมือนกัน"
"555555"
ยิ่งดึกยิ่งเมา สติเริ่มหดหาย มีแต่ไอ้ภีที่ยังพอมีสติเพราะต้องเป็นคนขับรถ อืมมม โทรบอกไอ้ปุ่นก่อนดีกว่าว่ากลับดึกอาจไม่ได้โทรหา
"โหลลลปุ่นน"
(ยอดเงินคงเหลือ 0บาท 00สตางค์ กรุณาเติมเงินค่ะ)
หืมม? กูเพิ่งเติมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปสิบบาทนี่หว่า หมดอีกละ! ไรว้าา
" เชี่ยภี ยืมมือถือหน่อยดิ้"
"เอาไปไม สภาพนี้ยังจะคุยกับใครอีก"
"โทรหาเมีย"
"เมียพ่อง เมาอย่างหมา"
"เอามาๆ"
"เอ่อๆ คุยเร็วๆจะกลับแล้ว" ทุดท้ายก็ยอม มันหยิบไอโฟนเครื่องเก่ายื่นให้ คือมันมีสองเครื่องไง เครื่องเก่ากับเครื่องใหม่ รวยก็เงี้ยะ
แป้ก
"ไอ้เหี้ยผิงงงง!!"
" อ่าว โทษ" กูทำไอโฟนมันตก มือไม้อ่อนปวกเปียก กรรม กูไม่ได้ตั้งใจครับเพื่อน
"เชี่ย สำนึกผิดป่ะเนี่ย"
"อือๆ" กูหยิบมากดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจถึงจะเมาโคตรพ่อโคตรแม่ยังไงกูก็จำได้ รอนานนิดนึงกว่าไอ้ปุ่นจะรับ สงสัยเป็นเบอร์แปลก รับปุ๊ปแมร่งเงียบกูเลยต้องบอกก่อนว่ากูเอง คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง กูมึนๆ จำได้แค่มันบอกให้วางหูแล้วกูก็คืนให้ไอ้ภีเป็นอันจบ สลบที่บ้านใครซักคนเนี่ยแหละ
--------------------------------------------------
แปลกจริงหรอ
มันแปลกจริงๆสินะ
อาจเป็นเพราะนานๆทีแล้วมาแต่งต่อ ขออภับในความแปลกกกกกก
ทุกคนต้องเข้าใจพี่ผิงน้าาาาา
ต่างคนต้องต่างพยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ
ปล. ตอนหลังทุกคนอาจจะรู้สึกว่ามันแปลกกว่านี้ก็ได้